ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Thu Feb 16, 2006 3:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากไออาเอฟ
อิม่ามอบูหะนีฟะฮฺ กล่าวว่า
ไม่เป็นการบังควรที่บุคคลหนึ่งจะพูดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกี่ยวกับอาตมัน(ซาต)ของอัลลอฮฺ ทว่าเขาจงให้ลักษณะพระองค์ตามที่พระองค์ให้ลักษณะตัวของพระองค์เอง และเขาอย่าได้กล่าวสิ่งหนึ่งสิ่งใดในเรื่องนั้นด้วยความคิดเห็นของตนเอง ความจำเริญยิ่งเป็นของอัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงเป็นผู้อภิบาลแห่งโลกทั้งหลาย (หนังสือ ชัรหุล อะกีดะดิฏ-เฏาะฮะวียะฮฺ)
และเมื่อถูกถามถึง การเสด็จลงมาของอัลลอฮฺเป็นอย่างไร? ท่านก็ตอบว่า พระองค์ทรงเสด็จลงมาโดยไม่มีวิธีการ (อ้างแล้วข้างต้น)
ตอบ
คำกล่าวของอิมามอบูหะนีฟะฮ์นี้ ผมหาไม่เจอว่าท่านอบูหะนีฟะฮฺได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มใหน? คุณอ้างมาแบบไม่มีการอ้างอิง ก็ต้องหน้าที่ของคุณแล้วที่ต้องหาหนังสืออ้างอิงคำพูดของอบูหะนีฟะฮ์นี้ ?? หรือว่าคุณตักลีดแบบตาบอดตามเขามาอีกที ?? อันนี้คุณต้องพิสูจตัวเอง
แต่ผมอ่านเจอคำพูดของอบูหะนีฟะฮ์ที่ว่า
ท่านอิมามอบูหะนีฟะฮฺ กล่าวว่า
ونقر بأن الله سبحانه وتعالى على العرش استوى من غير أن يكون له حاجة إليه واستقرار عليه، وهو حافظ العرش وغير العرش من غير احتياج، فلو كان محتاجا لما قدر على إيجاد العالم وتدبيره كالمخلوقين، ولو كان محتاجا إلى الجلوس والقرار فقبل خلق العرش أين كان الله، تعالى الله عن ذلك علوا كبيرا
ความว่า "เรายอมรับว่า แท้จริง อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ทรงอยู่เหนืออะรัช โดยที่พระองค์ไม่ต้องการไปยังมัน และไม่ได้สถิตอยู่บนมัน พระองค์ทรงปกปรักรักษาอะรัชโดยที่ไม่ต้องการมัน ดังนั้น หากพระองค์มีความต้องการ แน่นอนพระองค์ก็ไม่มีความสามารถสร้างโลกและบริหารมันได้ โดยที่เหมือนกับบรรดามัคโลค และถ้าหากพระองค์ทรงต้องการไปยังการนั่งและสถิต(อยู่บนอะรัช) ดังนั้นก่อนที่พระองค์ทรงสร้างอะรัช พระองค์อยู่ใหน ? ? อัลเลาะฮฺทรงปราศจากจากสิ่งดังกล่าวอย่างยิ่งใหญ่ ดู กิตาบ วาซียะฮ์ ของอบูหะนีฟะฮ์ หน้า 2
งั้นผมถามคุณไออาเอฟ ซึ่งเป็นคำถามที่ 6 ว่า "คำกล่าวของอบูหะนีฟะฮ์ที่คุณอ้างมานั้น อยู่ในหนังสือใดของท่านอบูหะนีฟะฮ์ ??
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Thu Feb 16, 2006 3:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากไออาเอฟ
อิม่ามนะอีม บินหัมมาด อัล-คุซาอีย์กล่าวว่า
"ผู้ใดที่ปฏิเสธสิ่งที่พระองค์ได้ให้ลักษณะต่อตัวของพระองค์เอง เขาผู้นั้นก็ตกเป็นกาฟิรฺ ส่วนสิ่งที่พระองค์หรือเราะซูลของพระองค์ได้ให้ลักษณะต่อตัวของพระองค์นั้นย่อมไม่ถือเป็นการเปรียบเหมือน"...และใครที่เชื่อตามนั้นก็คือคนที่อยู่ในแนวสลัฟ!
ถึงตรงนี้คุณอัซฮารีก็โต้แย้งว่า
อ้างอิงจากไออาเอฟ
...
ตอบ
.... คุณอัซฮารีจะโต้ผมทำนองว่า หุหุหุ มุขเก่าครับ หลักฐานพวกนี้เขารู้หมดแล้วแหละ แต่ต้องดูหลักฐานอื่นด้วย มันยังมีบทอื่นอีกที่ไม่ได้พูดอย่างนี้ ..อะไรทำนองนี้เป็นต้น
หรือคุณอัซฮารีอาจจะบอกว่าหลักฐานพวกนี้ฎออีฟเชื่อถือไม่ได้!
-------------------------
อัล-อัซฮะรีย์ ตอบว่า
คุณนั้นมั่ว ตั้งคำถามมาเอง แล้วตอบเอง แบบนี้มันมีที่ใหน? สงสัยคงอยากจะสนทนาในเรื่องนี้กับผมอย่างแรง พอผมไม่เข้า ก็ดันมาแอบอ้างกุโกหกคำพูดของคนอื่น เนี่ย ถ้าเป็นวิชาหลักพิจารณาหะดิษน่ะ ไออาเอฟ "ถูกกล่าวว่า กุโกหกคำพูดต่อผู้อื่น" เหมือนกับ นุอัยม์(ไม่ใช่นะอีม) บินหัมมาด อุลามาอ์ของไออาเอฟเขา ที่โกหกกุเท็จต่อร่อซูล และท่านอบูหะนีฟะฮ์ ฮ่าๆ
จากคำพูดของ ท่านนุอัยม์ บิน หัมมาด นั้น ทำไมไออาเอฟของเราถึง ไม่ยอมยกส่วนข้างหน้ามาให้หมด ปกปิดหมกเม็ดไว้ทำไม หรือว่าจะกระทบกระทั้งกับอะกีดะฮ์วะฮาบีย์ที่กำลังยึดกันอยู่ ฮ๋าๆ
ท่านนุอัยม์ บิน หัมมาด นั้น ฏออีฟ นำมาเป็นหลักฐานกับอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ไม่ได้หรอกครับ เรามาดูสถานะภาพของเขากันครับ
นุอัยม์ บิน หัมมาด ( نُعَيْم بن حماد ) (เกิด ปี ฮ.ศ. 146 เสียชีวิต ปี ฮ.ศ. 228)
ซึ่งท่านอัซฺซฺะฮะบีย์ ได้เคยกล่าวไว้ตอนยังหนุ่ม เกี่ยวกับ นุอัยม์ บิน หัมมาด นี้ว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งจากแหล่งความรู้ (ดู หนังสือ อัลอุลู้ว์ ตัวบทลำดับที่ 427) ทั้งที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ นุอัยม์ บิน หัมมาด นี้ ท่าน อัลหาฟิซฺ อิบนุ อะดีย์ ได้กล่าวเกี่ยวกับตัวเขา ไว้ใน (หนังสือ อัลกามิล ฟี อัฏฏุอะฟาอ์ เล่ม 7 หน้า 2482) ว่า
كان يضع الحديث فى تقوية السنة وحكايات عن العلماء فى ثلب أبى حنيفة
" นุอัยม์ บิน หัมมาด นั้นได้กุหะดิษ ในการสนับสนุนเกี่ยวกับซุนนะฮ์(หมายถึงเรื่องอากิดะฮ์แบบตัจญฺซีมและตัชบีฮฺ) และกุเรื่องเล่าต่างๆในการตำหนิท่านอบูหะนีฟะฮ์(ร.ฏ.) "
ท่านอิมาม อัสสะยูฏีย์ ได้กล่าวนำเสนอหะดิษ บทหนึ่งไว้ใน )หนังสือ "ซัยลุเมาฏูอาต" หน้า 5 ) ที่ว่า
إذا أراد الله أن ينزل إلى السماء الدنيا نزل عن عرشه بذاته
" เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ ที่จะลงไปยังฟากฟ้าชั้นดุนยา พระองค์ก็ทรงลงมาจากบัลลังก์ ด้วยซาตฺของพระองค์เอง"
อิมามสะยูฏีย์กล่าววิจารณ์ว่า
أقول : أتبعنا نعيم بن حماد من كثرة ما يأتى بهذه الطامات ، وكم ندرأ عنه وعن الطرسوسى الراوى عنه...
ً" ฉันขอกล่าวว่า(คืออิมามสะยูฏีย์) นุอัยม์ บิน หัมมาด ทำให้เราเหนื่อย (จากการต้องตรวจสอบความถูกต้องของหะดิษ) เนื่องจากความวิบัติอันมากมายที่เขาได้นำมานี้ และเท่าไหร่แล้ว ที่เราได้ปฏิเสธ(สิ่งที่มา)จากเขา และจากอัฏฏุรซูซีย์ที่เป็นผู้ที่รายงานจากเขา..."
ท่าน อัล-มิซฺซีย์ ได้กล่าววิจารณ์เกี่ยวกับ นุอัยม์ บิน หัมมาด ไว้ในหนังสือของท่าน คือ (อัตตะฮ์ซีบ อัลกะมาล เล่ม 19 หน้า 466) ว่า
أنه يضع قصص وأحاديث فى ثلب الإمام أبى حنيفة
"แท้จริง นุอัยม์ บิน หัมมาด นั้น ได้กุโกหก เกี่ยวกับเรื่องเล่าต่างๆ และคำบอกเล่าต่างๆ เกี่ยวกับการตำหนิท่านอบูหะนีฟะฮ์ (ร.ฏ.) "
และ นุอัยม์ บิน หัมมาด ท่านนี้ ก็เป็นคนหนึ่งที่ท่าน อัลบุคอรีย์ได้รายงานจากเขา แต่! อิมามบุคอรีย์จะไม่รายงานจากเขา นอกจากจะมีรายงานของคนอื่นมาสมทบด้วย
และสำนวนการรายงานของ นุอัยม์ บิน หัมมาด ที่ว่า
ينزل عن العرش بذاته
"พระองค์ก็ทรงลงมาจากบัลลังก์ ด้วยซาตฺของพระองค์เอง"
ซึ่งท่าน อัลหาฟิซฺ บิน อับดุลบัรริ ได้ปฏิเสธไว้ในหนังสือ อัตตัมฮีด ของท่าน (ในเล่ม 7 หน้า 144) ว่า
وقال نعيم : ينزل بذاته وهو على كرسيه . قال أبوعمر : هذا ليس بشيء عند أهل الفهم من أهل السنة.
" นุอัยม์(บินหัมมาด) กล่าวว่า "อัลเลาะฮ์ทรงลงมาด้วยซาตฺของพระองค์เอง โดยที่พระองอค์อยู่บนกุรซีย์นั้น อบู อุมัร (คือท่านอิบนุอับดุลบัรริ) ขอกล่าวว่า (คำพูดของนุอัยม์) นี้ ไม่มีสิ่งใด(ที่ถูกต้อง) ตามทัศนะของอุลามาอ์ที่มีความเข้าใจ จากอะฮ์ลิสซุนนะฮ์"
คุณไออาเอฟครับ เมื่อ ท่านนุอัยม์ บิน หัมมาด เป็นคนที่กุหะดิษนั้น คุณจะเอามาเป็นหลักฐานได้หรือ?
แต่หากเรายอมรับว่าคำกล่าวของ ท่านนุอัยม์ บิน หัมมาดนี้ ซอเฮี๊ยะห์ เราก็ขอพิจารณาตัวบทที่กล่าวไว้ ดังนี้
นุอัยม์ บิน หัมมาด กล่าวอย่างสมบูรณ์ว่า
" ผู้ใดที่ทำให้อัลเลาะฮ์เปรียบคล้ายคลึงกับมัคโลคนั้น เขาย่อมเป็นกาเฟร ผู้ใดที่ปฏิเสธสิ่งที่พระองค์ได้ให้ลักษณะต่อตัวของพระองค์เอง เขาผู้นั้นก็ตกเป็นกาฟิรฺ ส่วนสิ่งที่พระองค์หรือเราะซูลของพระองค์ได้ให้ลักษณะต่อตัวของพระองค์นั้นย่อมไม่ถือเป็นการเปรียบคล้ายคลึง"...(ดู หนังสือ อัล-อุลู้ว์ ของท่าน อัซซะฮะบีย์ ลำดับที่ 427 และหนังสือ มุคตะซ๊อร อัลอุลู้ว์ ของอัลบานีย์ หน้า 184)
วิจารณ์คำพูดของ นุอัยม์ บิน หัมมาด
ท่านนุอัยม์ กล่าวว่า "ผู้ใดที่ทำให้อัลเลาะฮ์เปรียบคล้ายคลึงกับมัคโลคนั้น เขาย่อมเป็นกาเฟร" เป็นคำพูดที่ถูกต้อง
งั้นผมถาม คุณไออาเอฟ เป็นคำถามที่ 7 ว่า "ผู้ทีกล่าวว่าอัลเลาะฮ์มีนิ้ว เพราะนิ้วเป็นส่วน(อวัยวะ)จากมือของอัลเลาะฮ์ นั้น เขาเป็นกาเฟรหรือไม่??"
นุอัยม์บินหัมมาด กล่าวว่า "ผู้ใดที่ปฏิเสธสิ่งที่พระองค์ได้ให้ลักษณะต่อตัวของพระองค์เอง เขาผู้นั้นก็ตกเป็นกาฟิรฺ" คำพูดนี้ไม่ใช่จะถูกต้องเสมอไป เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า
فاليوم ننساهم
และทรงตรัสอีกว่า
نسوا الله نسيهم
อันนี้ เราไม่ขอศรัทธาว่า คำว่าลักษณะ نسيان (ลืม) นี้ เป็นคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสไว้ว่า
وما كان ربك نسيا
ความว่า" และพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น ไม่ทรงลืม"
เนื่องจากว่า ลักษณะการลืมนั้น เป็นคุณลักษณะที่บกพร่อง ไม่ใช่คุณลักษณะที่สมบูรณ์
นุอัยม์บินหัมมาด กล่าวว่า"ส่วนสิ่งที่พระองค์หรือเราะซูลของพระองค์ได้ให้ลักษณะต่อตัวของพระองค์นั้นย่อมไม่ถือเป็นการเปรียบคล้ายคลึง"
วิจารณ์
ซึ่งหากเขาหมายถึงถ้อยคำต่างๆเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ที่ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอานนั้น คำพูดของเขาซอเฮี๊ยะหฺ แต่หากหมายถึงความหมายที่ว่า อัลเลาะฮ์ทรงนำท่านนบี(ซ.ล.) นั่งบนอะรัชอยู่ข้างๆพระองค์บนอะรัชในวันกิยามะฮ์ล่ะก็ แบบนี้ถือว่าโกหกใส่ท่านนบี(ซ.ล.)
มีคำถามเป็นกับดักเบื่อหนู อีกครับ คือว่า "ผู้ใดที่กล่าวว่าอัลเลาะฮ์ทรงนำท่านนบี(ซ.ล.)นั่งข้างๆบนอะรัชนั้น หุกุ่มกุฟุรหรือไม่???
ทวนคำถามเด็ด!! (ที่คุณไออาเอฟหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบไม่ได้)
1. คุณแปลอีกว่า "โดยมิต้องตัดทอนใดๆ" ไปเอาสายรายงานที่มีความหมายจากคำพูดของบรรดาอุลามาอ์ทั้ง 3 ท่านมาจากใหน??
2. แล้วมีสะลัฟท่านใหนบ้างหรือที่บอกว่า "อัลอิสติวาอ์" ที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณาไว้ให้กับพระองค์นั้น คือการนั่ง
3. แล้วคำว่า พระองค์หนักอึ้งนั้น มันเป็นสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณาเอาไว้ให้กับพระองค์เองหรือไม่? และผู้ที่กล่าวว่าพระองค์ทรงหนักอึ้งนั้น หุกุ่มว่าอย่างไร?
4. งั้นผมขอถามไออาเอฟเป็นกับดักหนูข้อที่อีก คือ" คำว่า""การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้" นี้ เป็นคำของอิมามมาลิกหรือไม่?
5. งั้นผมถามคุณไออาเอฟ ซึ่งเป็นคำถามที่ 6 ว่า "คำกล่าวของอบูหะนีฟะฮ์ที่คุณอ้างมานั้น อยู่ในหนังสือใดของท่านอบูหะนีฟะฮ์ ??
6. งั้นผมถาม คุณไออาเอฟ เป็นคำถามที่ 7 ว่า "ผู้ทีกล่าวว่าอัลเลาะฮ์มีนิ้ว เพราะนิ้วเป็นส่วน(อวัยวะ)จากมือของอัลเลาะฮ์ นั้น เขาเป็นกาเฟรหรือไม่??"
7. มีคำถามเป็นกับดักเบื่อหนู อีกครับ คือว่า "ผู้ใดที่กล่าวว่าอัลเลาะฮ์ทรงนำท่านนบี(ซ.ล.)นั่งข้างๆบนอะรัชนั้น หุกุ่มกุฟุรหรือไม่???
คำถาม 7 ข้อนี้เป็นกับดักแมวครับ และให้เบื่อหนู ที่คุณไออาเอฟและวะฮาบีย์จำเป็นต้องตอบโดยหลีกเลี่ยงไม่พ้น (เหมือนกับที่เขาเคยพูดกับผมเอาไว้)
ส่วนประเด็นเรื่องการตะวีลนั้น คุณไออาเอฟโปรดรอผมนำเสนอในโอกาสต่อไปน่ะครับ อินชาอัลเลาะฮ์
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Thu Feb 16, 2006 3:58 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากไออาเอฟ
เมื่อมีคนมาถามอิม่ามมาลิกถึงเรื่องการขึ้นสถิตย์บนบัลลังก์ของอัลลอฮฺว่าขึ้นอย่างไร
อิม่ามมาลิกตอบว่า การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้ และวิธีการ(ของการขึ้นอยู่นั้น)ก็มิอาจจินตนาการได้ ขณะที่การอีหม่านต่อมันนั้นเป็นสิ่งวาญิบ ส่วนการถามไถ่ถึงมันนั้นเป็นบิดอะฮฺ และฉันไม่เห็นว่าเจ้าเป็นสิ่งอื่นใดเลยนอกจากเป็นผู้หลงผิดไปแล้ว
ตอบ
ก่อนอื่น ผมต้องเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า คำกล่าวของอิมามมาลิกนี้ คำที่วะฮาบีย์(โดยเฉพาะบังอะสัน)ชอบนำมาใช้อ้าง แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้ระบุอย่างซอเฮีญะหฺเอาไว้จากอิมามมาลิก คือคำกล่าวสำนวนที่ว่า
سئل رجل الأمام مالك قال ياإمام تقول الأيه : الرحمن على العرش أستوى
كيف أستوى ، فرد عليه الإمام مالك قائلا : الأستواء معلوم والكيف مجهول والسؤال عنه بدعه
มีชายคนหนึ่ง ถามอิม่ามมาลิกว่า "โอ้ท่านผู้นำ ท่านกล่าวถึงโองการที่ว่า(ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์) คำว่า" อัลอิสติวาอ์" นั้นเป็นอย่างไร ? ท่านอิหม่ามมาลิกกล่าวตอบว่า " อัลอิสติวาอ์ นั้น เป็นสิ่งที่รู้กัน และรูปแบบนั้น ไม่ทราบ และการถามเกี่ยวกับมันนั้น เป็นบิดอะฮ์"
ดังนั้น คำๆนี้ไม่ได้รับการยืนยันความถูกต้องจากอิมามมาลิก(ร.ฏ.) ท่านผู้อ่านโปรดตระหนักด้วยครับ
เรากลับมาพิจารณาในสิ่งที่ไออาเอฟอ้างอิงมา เขานำเสนอว่า
อิม่ามมาลิกตอบว่า การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้ และวิธีการ(ของการขึ้นอยู่นั้น)ก็มิอาจจินตนาการได้ ขณะที่การอีหม่านต่อมันนั้นเป็นสิ่งวาญิบ ส่วนการถามไถ่ถึงมันนั้นเป็นบิดอะฮฺ และฉันไม่เห็นว่าเจ้าเป็นสิ่งอื่นใดเลยนอกจากเป็นผู้หลงผิดไปแล้ว"
คำกล่าวของอิมามมาลิกตามสำนวนนี้นั้น ซอเฮียะหฺ จากท่านอิมาม มาลิก (ร.ฏ) ครับ โดยท่านอิมาม อัล-บัยฮะกีย์ ได้กล่าวรายงานไว้ ใน หนังสือ อัล-อัสมาอ์ วะ อัศศิฟาต หน้า 379 ท่านอัซซะฮะบีย์ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลอุลูว์ จากคำกล่าวของอิมามมาลิก ลำดับที่ 342 อัลบานีย์ได้กล่าวไว้ใน มุคตะซ๊อร อัลอุลู้ว์ หน้า 141 ผมจะยกสำนวนที่อยู่ในหนังสือ ของท่านอัล-บัยฮะกีย์ เพราะมันตรงกับสิ่งที่ ไออาเอฟนำเสนอมา
ท่านอิมาม มาลิกกล่าวว่า
الاستواء غير مجهول ، والكيف غير معقول ، والإيمان به واجب ، والسوأل عنه بدعة ، وما أراك إلا مبتدعا
" อัลอิตวาอ์ นั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่รู้ และวิธีการนั้น ไม่ถูกคิดขึ้นมาได้ และการอีมานต่อมันนั้นเป็นสิ่งที่วายิบ ส่วนการถามถึงมันันั้นเป็นบิดอะฮ์ และฉันไม่เห็นว่าเจ้าแต่อย่างใดเลย นอกจากเป็นผู้ที่หลงทาง"
แต่ไออาเอฟเขาแปลว่าคำว่า " الاستواء غير مجهول" ว่า " การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้" วะฮาบีย์แปลมาได้อย่างไง? ไม่ทราบว่าเคยเรียนภาษาอาหรับมาหรือเปล่า? เที่ยวบิดเบือนโดยแปลทำเป็นหนังสือ ให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อ่าน แบบนี้ไม่ทำให้คนอื่นหลงทางกันหมดหรือย่างไรครับ ซึ่งถ้าหากแปลว่าจากคำอิมามมาลิกที่ว่า"การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้" นั้น ภาษาอาหรับเขาจะอ่านว่า " الاستواء غيرمعلوم " แล้วคำอิมามมาลิกแบบนี้มันเคยมีซะที่ใหนล่ะครับ
งั้นผมขอถามไออาเอฟเป็นกับดักหนูข้อที่อีก คือ" คำว่า""การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้" นี้ เป็นคำของอิมามมาลิกหรือไม่? หากไม่ตอบ คุณไออาเอฟก็จะถูกข้อหาบิดเบือนโกหกคำพูดใส่อิมามมาลิกเป็นกระทงต่อไป และคำว่า "การขึ้นอยู่" นั้น หากจะแปลคำพูดของอิมามมาลิกล่ะก็ ให้ใช้คำว่า"อิสติวาอ์" ทับศัพท์เลย เพราะอิมามมาลิกบอกว่า "อิสติวาอ์" ตามที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และตามที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงพรรณาคุณลักษณะกับพระองค์เอง
ท่านผู้อ่านครับ เรามาฟังคำอธิบายคำกล่าวของอิมามมาลิกกันสักนิด อิมามมาลิกกล่าวว่า
الاستواء غير مجهول
"อัลอิตวาอ์ นั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่รู้"
คือ "อัลอิสติวาอ์นั้น เป็นสิ่งที่ทราบดีว่ามันได้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และเราก็เชื่อว่ามันได้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอานอย่างนั้นตามที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงพรรณาเอาไว้กับพระองค์เอง" แต่วะฮาบีย์บอกว่าเป็นที่ทราบดีในเชิงภาษา"คือการนั่งสถิต" ทั้งที่คำว่าอัลอิสติวาอ์ในเชิงภาษานั้น มีความหมายเป็นสิบความหมาย ตามที่ท่านอัลกุรตุบีย์ ได้กล่าวอธิบายไว้ในเชิงภาษา แล้วอัลกุรอานอายะฮ์ใด หรือหะดิษที่ซอเฮี๊ยะห์ใดหรือ ที่มาบอกและมาจำกัดว่า อัลอิสติวาอ์ คือการนั่ง!! แบบที่วะฮาบีย์จะเอา แต่วะฮาบีย์จะแอบอ้างว่าอิมามอัล-กุรตุบีย์ บอกว่าเป็นที่ทราบดีกันไปเชิงภาษา แต่ก็ไม่ตรงกับที่วะฮาบีย์ต้องการตามเจตนารมณ์ของท่านอัล-กุรตุบีย์ในเชิงภาษา
والكيف غير معقول
"และวิธีการนั้น ไม่สามารถคิด(จินตนาการ)ได้"
หมายความว่า วิธีการของ อัลอิสติวาอ์ นั้น ไม่สามารถจิตนาการได้ว่าเป็นอย่างไร? และไม่สามารถจิตนาการไปว่า คืออัลเลาะฮ์นั่งอยู่บนอะรัช ใดยสัมผัสหนักอึ้งอยู่บนอะรัช ตามเจตนารมณ์ที่อิมามมาลิกต้องการ
งั้นผมมีคำถามดักหนู คือ ผู้ที่เชื่อและกล่าวว่า อัลเลาะฮ์นั่งสัมผัสหนักอึ้งอยู่บนอะรัชนั้น หุกุ่มว่าอย่างไร?
ดังนั้น เรื่องซิฟาตของอัลเลาะฮ์ที่มีความหมายคลุมเครือ ( المشتبهات)ตามความเข้าใจของมนุษย์นั้น อิมามมาลิก ได้ปฏิเสธและคัดค้านในการนำมาพูดกล่าว
ท่านอัซซะฮะบีย์ได้กล่าวไว้ใน ซิยัร อะลาม อันนุบะลาอ์ ว่า" อิบนุ อัลกอซิม กล่าวว่า ฉันได้ถามอิมามมาลิก ถึงผู้ที่ได้รายงานหะดิษ ซึ่งพวกเขากล่าวว่า
إن الله خلق أدم على صورته
และหะดิษที่ว่า
إن الله يكشف عن ساقه
และหะดิษ
وأنه يدخل يده فى جهنم حتى يخرج من أراد
ดังนั้น อิมามมาลิกให้การปฏิเสธดังกล่าวอย่างมากและห้ามให้คนหนึ่งคนทำการเล่ารายงานหะดิษเหล่านั้น จึงกล่าวแก่อิมามมาลิกว่า "ส่วนหนึ่งจากผู้มีความรู้นั้นได้ทำการพูดรายงานมัน" อิมามมาลิกกล่าวว่า "แล้วเขาผู้นั้นเป็นใคร?" จึงได้รับคำตอบว่า "เขาคือ อิบนุ อิจญฺลาน (กล่าว)จาก อบี อัซฺซินาด" อิมามมาลิกกล่าวว่า "อิบนุอิจญฺลานนั้นไม่รู้สิ่งต่างๆเหล่านี้ และเขาไม่ใช่เป็นคนที่มีความรู้" แล้วอิมามมาลิกก็กล่าวถึง อบี อัซซินาดว่า "เขาก็ยังคงเป็นผู้รับใช้(พวกบนีอุมัยยะฮ์และตามพวกเขา) จนกระทั้งตาย" (ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าในสมัยของราชวงค์บนีอุมัยยะฮ์นั้น ได้เป็นที่แพร่หลายของกลุ่มอัลมุญัสสิมะฮ์) (ดู ซิยัร อะลาม อันนุบะลาอ์ เล่ม 8 หน้า 103
หากวะฮาบีย์เอาคำพูดของอิมามมาลิกมาสนองอะกิดะฮ์ตนเอง โดยที่อิมามมาลิกไม่มีเจตนารมณ์อย่างที่วะฮาบีย์จะเอา อย่างนี้ไม่ถือเป็นการอธรรมต่ออิมามมาลิกหรือครับ?
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Thu Feb 16, 2006 4:09 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ทวนคำถามเด็ด!! (ที่คุณไออาเอฟหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบไม่ได้)
1. คุณแปลอีกว่า "โดยมิต้องตัดทอนใดๆ" ไปเอาสายรายงานที่มีความหมายจากคำพูดของบรรดาอุลามาอ์ทั้ง 3 ท่านมาจากใหน??
2. แล้วมีสะลัฟท่านใหนบ้างหรือที่บอกว่า "อัลอิสติวาอ์" ที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณาไว้ให้กับพระองค์นั้น คือการนั่ง
3. แล้วคำว่า พระองค์หนักอึ้งนั้น มันเป็นสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณาเอาไว้ให้กับพระองค์เองหรือไม่? และผู้ที่กล่าวว่าพระองค์ทรงหนักอึ้งนั้น หุกุ่มว่าอย่างไร?
4. งั้นผมขอถามไออาเอฟเป็นกับดักหนูข้อที่อีก คือ" คำว่า""การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้" นี้ เป็นคำของอิมามมาลิกหรือไม่?
5. งั้นผมถามคุณไออาเอฟ ซึ่งเป็นคำถามที่ 6 ว่า "คำกล่าวของอบูหะนีฟะฮ์ที่คุณอ้างมานั้น อยู่ในหนังสือใดของท่านอบูหะนีฟะฮ์ ??
6. งั้นผมถาม คุณไออาเอฟ เป็นคำถามที่ 7 ว่า "ผู้ทีกล่าวว่าอัลเลาะฮ์มีนิ้ว เพราะนิ้วเป็นส่วน(อวัยวะ)จากมือของอัลเลาะฮ์ นั้น เขาเป็นกาเฟรหรือไม่??"
7. มีคำถามเป็นกับดักเบื่อหนู อีกครับ คือว่า "ผู้ใดที่กล่าวว่าอัลเลาะฮ์ทรงนำท่านนบี(ซ.ล.)นั่งข้างๆบนอะรัชนั้น หุกุ่มกุฟุรหรือไม่??? และเพิ่มมาอีกข้อหนึ่งครับ
8. งั้นผมขอถามไออาเอฟเป็นกับดักหนูข้อที่อีก คือ" คำว่า""การขึ้นอยู่นั้นมิอาจล่วงรู้ได้" นี้ เป็นคำของอิมามมาลิกหรือไม่? หากไม่ตอบ คุณไออาเอฟก็จะถูกข้อหาบิดเบือนโกหกคำพูดใส่อิมามมาลิกเป็นกระทงต่อไป
(ก๊อบทบทวนโดย มุหัมมัด...) เอ.. ไออาเอฟเขาหายหัวไปใหนน้า....
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
fais มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005 ตอบ: 84
|
ตอบ: Thu Feb 16, 2006 6:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
พวกมุตาซีเลลาะห์เนียะ ช่างพูดจริงๆ นะ ยังจะกวนไม่เลิก คงเป็นอย่างนี้มังที่อีหม่ามมาลิกเขาไล่พวกนี้ออกจากวง
สมองขี้เลื่อยของคุณจะมาคิดถึ่งเรื่องของสีฟัตพระเจ้าอัลเลาะห์ ซบ.นั้นไม่ถึ่งหรอก
แต่ถ้าคุณจะสร้างพระเจ้าองค์อื่นนั้นอาจจะได้
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
IRF มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005 ตอบ: 155
|
ตอบ: Fri Feb 17, 2006 3:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เดี่ยวให้มีเวลาก่อน
ให้หมดช่วงสถานการณ์วุ่นๆตอนนี้ก่อน
เดี๋ยวจะมาตามเช็ดให้หมดเลย ไอ้พวกตะแบ็งไปน้ำขุ่นๆ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Fri Feb 17, 2006 6:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจาก คุณไออาเอฟ
จากหนังสือ หลักการยึดมั่นของอัสสะละฟุศศอและห์ (อะฮฺลุซซุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺ)
โดย อับดุลลอฮฺ บินอับดิลหะมีด อัล-อะษะรีย์ เรียบเรียง
นัศรุลลอฮฺ ต็อยยิบ แปล
คำนำของผู้แปลในการจัดพิมพ์ครั้งที่สอง
ตอบ
ดีครับ คุณไออาเอฟ คุณว่างเมื่อไหร่ คุณก็ตามมาล้างได้เลยนะครับ แต่ที่แน่ๆ การอ้างอิงจากหนังสือดังกล่าว ที่คุณพิมพ์นำมาเสนอนั้น ผมก็จะตามเช็ดตามล้างให้หมดสิ้นไปเลยเช่นกันครับ เนื่องจากหนังสือเล่มดังกล่าว มีการบิดเบือน
และอีกเล่มหนึ่งคือ หนังสือ เกี่ยวกับสังกัดมัซฮับ ของ อัล-มะซูมีย์ ที่วะฮาบีย์ แปลเป็นไทยมานั้น เราก็จะทำการเช็ด ล้าง และตามด้วยน้ำดิน ให้สะอาด และบอกถึงการบิดเบือน ของผู้แต่ง ที่ทำให้วะฮาบีย์ตาดำๆ ต้องลุ่มหลงไปตามๆกัน อินชาอัลเลาะฮ์
บังมุหัมมัดนั้น แม้วะฮาบีย์แรงมา แล้วบังเขาก็แรงตอบ ก็ดีในอีกแง่หนึ่ง คือทำให้ (นาม)ไออาเอฟ โผล่มาได้ อัลหัมดุลิลลาห์
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Feb 17, 2006 9:42 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
และอีกเล่มหนึ่งคือ หนังสือ เกี่ยวกับสังกัดมัซฮับ ของ อัล-มะซูมีย์ ที่วะฮาบีย์ แปลเป็นไทยมานั้น เราก็จะทำการเช็ด ล้าง และตามด้วยน้ำดิน ให้สะอาด และบอกถึงการบิดเบือน ของผู้แต่ง ที่ทำให้วะฮาบีย์ตาดำๆ ต้องลุ่มหลงไปตามๆกัน อินชาอัลเลาะฮ์
al-azhary ตอบ: Fri Feb 17, 2006 9:56 pm
....................
ตอบ
เอากันขนาดนี้เลยหรือ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Feb 17, 2006 9:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
:o
น้อง webmaster หากมีการคุยกันเรื่อง การตีความ สิฟาตอัลลอฮ อีก ก็กรุณลบเถอะครับ เพราะไม่เป็นผลดีเลย อย่าให้เรื่องที่ได้ยุติแล้ว โผล่มาอีกเลย ผมเองก็รู้สึกผิดที่เถียงกันเรื่องอัลลอฮ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ถ้ามีอีกลบได้เลยครับผม
คำจำกัดความ: |
|
ขนาดไฟล์: |
3.07 กิโลไบต์ |
เข้าชม: |
15393 ครั้ง |
|
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sat Feb 18, 2006 12:41 am ชื่อกระทู้: |
|
|
บังอะสันครับ
คำว่า "พูดเรื่องอัลเลาะฮ์" นั้นกินความหมายกว้างนะครับ บังอะสันโปรดเข้าใจว่า สิ่งที่เราสนทนาไปนั้น เราไม่ได้พูดถึงเรื่อง ซฺาตของอัลเลาะฮ์ แต่เราสนทนาในเรื่อง "ซีฟัต" ของอัลเลาะฮ์ การที่อิสลาม ให้เราพิจารณาบรรดามัคโลคที่อัลเลาะฮ์ทรงสร้างนั้น เพื่อให้เราเข้าใจถึง"คุณลักษณะของอัลเลาะฮ์" ไม่ใช่ "ซาตฺของอัลเลาะฮ์" ดังนั้น อ.ฟาริด จะนำกล่าวของ ท่านนบีมุหัมมัด(ซ.ล.) มาอ้างยุติในการสนทนาของเราไม่ได้ หะดิษนั้นคือ
พวกเจ้าทั้งหลายจงพิจารณาในการสร้างของอัลลอฮ์ แต่อย่าได้พิจารณาในตัวผู้สร้าง
ซึ่งความจริงแล้ว ไม่มีมัซฮับใด ลัทธิใด ที่พูดถึง ซาตฺของอัลเลาะฮ์ แต่พวกเขาพูดถึงซีฟัต เนื่องจากการวิจารณ์กันในเรื่องซาตฺของอัลเลาะฮ์นั้น สติปัญญาของคนเรา ไม่สามารถเข้าถึงได้เลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อมีกลุ่มหนึ่ง เชื่อว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีอวัยวะ หรือทรงมีคุณลักษณะที่คล้ายคลึงกับมนุษย์นั้น เราจึงจำต้องชี้แจง สติปัญญาที่เรานำมาใช้นั้น คือปัญญาที่วางอยู่บนหลักฐานอันเด็ดขาดและแน่นอน และปัญญาที่เด็ดขาดนี้แหละ ที่สามารถมาสนับสนุนและมายืนยันความมั่นคงและเด็ดขาดของหลักฐานอัลกุรอานและซุนนะฮ์ และสามารถโต้ตอบลัทธิที่ใช้ปัญญาแบบสุดโต่ง เบี่ยงเบนออกนอกลู่ โดยให้พวกเขากลับยึดมั่นและศรัทธาอย่างมุสลิมที่ยึดมั่นอัลกุรอานและซุนนะฮ์อย่างผู้มีภูมิปัญญา และนั่นไง คือสิ่งที่อัลกุรอานหลายอายะฮ์ที่เรียกร้องให้เราใช้สติปัญญา และนั่นก็คือแนวทางของบรรดาศาสนทูตของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.)
อ.ฟาริด ยกหะดิษในเรื่อง ประชาชาตินี้ แตกออกเป็น 73 พวก พวกยิวและนะซอรอ แตกแยกน้อยกว่า ประชาชาติอิสลาม ใหนละครับ ที่อัลกุรอานบอกนักบอกหนาว่า ประชาชาติของอิสลามนั้น คือประชาชาติที่ประเสริฐสุด แต่ดันไปแตกแยกแบ่งกันเป็น 73 ซึ่งดูเหมือนว่าจะเลวร้ายมากกว่ายิวและนะซอรอเสียอีก แล้วอัลกุรอานกับหะดิษที่ดูเหมือนจะฏออีฟนี้ มันสอดคล้องกันหรือเปล่า? แล้วเราจะเลือกอะไร เราจะเลือก ยึดหะดิษ นำมาโปรโมทแนวทางของตนเองหรืออย่างไร? แนวทางอื่นตกนรก เหลือเพียงแต่แนวทางของฉัน วะฮาบีย์ก็เอาหะดิษนี้มาอ้างเพื่อสนับสนุนแนวทางของตน ชีอะฮ์ก็เอาหะดิษนี้มาอ้าง เพื่อสนับสนุนแนวทางของตน แต่ปัจจุบันนี้ ผมไม่เห็น แนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นำหะดิษนี้มาใช้เพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างอุมมะฮ์อิสลามเลย แล้วเราพร้อมหรือยังที่จะมีพิจารณาเนื้อหาหะดิษเหล่านี้อย่างถูกต้อง
บังอะสันบอกว่า เขารู้สึกผิดที่พูดถึงเรื่องของอัลเลาะฮ์ มันเป็นเพราะอะไรหรือครับ? หรือว่า ผิดที่มัวไปปกป้องแนวทางที่บิดอะฮ์ ที่เป็นแนวทางส่วนน้อยในปัจจุบันกระนั้นหรือ? สนทนากันมาตั้งนาน พึ่งรู้สึกหรือ? หรือว่า จะเจอทางตัน แล้วพึ่งมาเรียกร้องให้ลบ หากเราสนทนาและผลออกมาว่า ฝ่ายเรา อะฮ์ลิสซุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ อัลอะชาอิเราะฮ์ไร้น้ำหนัก และเพี้ยงพล้ำนั้น จะยุติในการสนทนาในเรื่องซีฟัตของอัลเลาะฮ์หรือไม่?
และการสั่งลบนี้แหละ คือไม้ตาย ที่เราต่างหวั่นกลัวนักหนา
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
วิทยากร อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004 ตอบ: 158
|
ตอบ: Sat Feb 18, 2006 2:35 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ก่อนหน้านี้ผมได้แสดงจุดยืนของผม ให้ทราบแล้วว่า ไม่ต้องการให้สถานที่นี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของอัลลอฮ์ ท่านก็แย้งมาว่า ท่านไม่ได้วิพากษ์ในซาตของอัลลอฮ์ แต่ท่านวิพากษ์ในเรื่องซิฟัต
มีพี่น้องบางท่านที่ร่วมสนทนาที่นี้ (ผมจำชื่อไม่ได้ว่าท่านใด ไม่มีเวลาย้อนไปอ่าน) ได้เสนอคำของท่านอิหม่ามมาลิกีที่ว่า อิสติวาอ์ เป็นคำที่รู้กันดี แต่วิธการนั้นคิดไม่ออก ส่วนคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นอุตริ ผมยืนอยู่ในจุดนี้ครับ
คุณ al-azhary บอกว่า ที่อัลกุรอานบอกนักบอกหนาว่า ประชาชาติของอิสลามนั้น คือประชาชาติที่ประเสริฐสุด แต่ดันไปแตกแยกแบ่งกันเป็น 73 ซึ่งดูเหมือนว่าจะเลวร้ายมากกว่ายิวและนะซอรอเสียอีก แล้วอัลกุรอานกับหะดิษที่ดูเหมือนจะฏออีฟนี้ มันสอดคล้องกันหรือเปล่า?
คำว่า หะดิษที่ดูเหมือนจะฏออีฟ นั้นถ้าคุณได้เรียนวิชาฮะดีษ จะพบว่า นักฮะดีษเขาไม่มักง่ายในการตัดสินนะครับ ที่จริงแล้วฮะดีษเรื่องนี้หลายสำนวน หลายรายงาน ตรวจสอบดูก่อนนะครับ ไม่ต้องรีบปฏิเสธก็ได้
แม้ว่าคุณจะเรียนจนจบด๊อกเตอร์ ผมก็ยังอยากให้คุณได้ยืนบนหลักอะกีดะห์ที่เหล่าศอฮาบะห์เขาได้ยึดถือ เพราะนั่นเป็นทางที่รอดและปลอดภัย ซึ่งได้รับการรับรองจากท่านรอซูล
ความจริงแล้ว พวกคุณทั้งหมดที่ได้สนทนากันในกระดานเสวนานี้ ผมก็รู้จักพวกคุณแต่ชื่อแฝงเท่านั้น ไม่ได้รู้จักใครเป็นการเฉพาะ ไม่ทราบชื่อจริงและตัวตนของพวกคุณด้วยซ้ำ หรือท่านใดจะบอกชื่อจริง-นามสกุลจริงของพวกคุณให้ผมทราบบ้าง ฉะนั้นอย่าใส่ความกันเลยครับ ไม่มีผู้ใดใช้สิทธิพิเศษในที่นี้เพื่อสั่งหรือขอร้องให้ผมลบกระทู้หรอกครับ
และการกล่าวว่า ผมลบกระทู้นั้นเป็นความเข้าใจผิด เพราะกระทู้เดิมยังอยู่ครบ ไม่ได้ลบออกไปไหนเลย คุณเข้าไปดูในหมวดหมู่ซิครับ และถ้ากระทู้นี้ไม่ขึ้นที่ด้านหน้าเวบ ก็อย่าตีโพยตีพายว่าถูกลบอีก ลองเข้าไปดูในหมวดหมู่ที่จัดไว้ให้แล้วเช่นกัน
ผมเข้ามาครั้งนี้เพื่อเตือนสติทุกคน และแจ้งจุดยืนของผมให้ทราบอีกครั้ง
ขออัลลอฮ์นำทางแก่ผู้ใฝ่หาสัจธรรมทุกท่าน
อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้
_________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Mar 16, 2012 11:22 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เข้ามาอับเดทข้อมูลในอดีตครับ
_________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|