ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 25, 2006 12:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
น้องรอยยาครับ คุณมุหัมหมัด แกหลงในที่แจ้ง(ที่ที่มีแสงสว่าง) นี้มันยากที่จะแก้ไข หากหลงในที่มืด เมื่อได้รับแสงสว่างจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ เขาคงจะตาสว่าง ใจสว่าง พบทางนำ จะไม่ให้เรียกว่า หลงในที่แจ้ง ได้อย่างไร ขนาดเป็นระดับนิสิต มหาลัยอัลอัซฮัรแล้ว ยังแยกไม่ถูกเลยว่าอะไรผิด อะไรถูก แบบนี้อัลกุรอ่านระบุว่า
فَإِنَّهَا لَا تَعْمَى الْأَبْصَارُ وَلَكِن تَعْمَى الْقُلُوبُ الَّتِي فِي الصُّدُورِเพราะแท้จริงการมองของนัยตานั้นมิได้บอดหรอก แต่ว่าหัวใจที่อยู่ในทรวงอกต่างหากที่บอด อัลหัจญ/46
................
คือ ถ้าใจมืดบอด ก็ยากที่จะทำให้เขาเข้าใจได้ อย่าลืมตอบคำถามของน้องรอยยาด้วยนะครับท่านมุหัมหมัด ให้ตอบด้วยหลักฐานแบบเนื้อๆ ห้ามเล่นสำนวนออกทะเล
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Wed Jan 25, 2006 12:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณไออาเอฟกล่าวว่า
ผมถึงได้ย้ำว่า เอาหลักฐานมานะ และถามจี้ไป เรื่องซิฟาต ซอฮาบะฮฺคนไหนเขาบอก ว่ามือ(ในกุรอาน)คืออำนาจ หรือสลัฟคนไหนบอก?
ผมขอวิจารณ์สักนิด
เท่าที่ผมอ่านคำพูดต่างๆของไออาเอฟนั้น สรุปง่ายๆ คือ เขานั้น สนทนามามากพอสมควร และภูมิความรู้สูงพอใช้ได้ครับ ออกมาคุฏบะฮ์เรื่องวะฮาบีย์นี้สุดยอด ขจรไปทั่วไป เพื่ออย่างน้อย จะบอกคนอื่นที่เป็นวะฮาบีย์ว่า เออ.. แนวทางเราเนี่ย มันกำลังไปไกล คือให้เรายึดแนวทางนี้แหละดีแล้ว อย่าไปยึดแนวทางอื่น พูดง่ายๆ เหมือนกับว่าเขาเหมือนเป็นนักสำรวจมัซฮับวะฮาบีย์ในหลายๆประเทศ หรือว่าสำรวจแค่ทางเวปไซท์เท่านั้น โอ้โห.... เวปไซท์สะละฟีย์เยอะจัง เหมือนกับว่าสะละฟีย์มีการเจริญเติบโตขจรไปทั่วโลก อุลามาอ์ที่มีอุดมการณ์อิสลามระดับโลก นั้น คุณไออาเอฟก็พามาโฆษณาแนวทางของวะฮาบีย์เสียหมด เพื่อให้รู้ว่าพวกเขาให้การยอมรับ ทั้งที่ความจริงนั้น บรรดาอุลามาอ์ระดับโลกนั้น พวกเขาพยายามที่จะให้อุมมะฮ์อิสลามเป็นหนึ่ง ประณีประนอมในเรื่องความขัดแย้ง และร่วมกันในประเด็นที่สอดคล้องกัน แต่ในขณะเดียวกันนั้น วะฮาบีย์เองก็ยังรุกด้วยการหุกุ่มแนวทางอื่น และแนวทางอื่นก็ต้องทำการปกป้องและตอบโต้ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติวิสัย แต่ก็เอาเถอะครับ คุณจะประกาศว่าวะฮาบีย์ขจรไปทั่วไปโลกหรือดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ก็ตามสบายเถิด คำพูดแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่พูดออกมาได้ไม่ลำบาก เพียงพิมพ์แป้นภาษาไทยไม่กี่คำ ก็สามารถเรียบเรียงถ้อยคำโฆษณาแนวทางวะฮาบีย์ได้แล้วละครับ จะให้ผมไปคัดค้านการโฆษณาของคุณก็คงไม่ได้ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของคุณนะ แต่ในขณะเดียวกันที่คุณไออาเอฟเขามาโฆษณาแนวทางวะฮาบีย์ เขาก็จะทำการวิจารณ์เรื่องภูมิความรู้ของคู่สนทนาไปในตัวด้วย นี่คือวิธีการของคุณไออาเอฟ ไม่ว่าจะเป็นเวปมุรีด หรือเวปมรดกฯ นี้ เขาก็ยังพยายามพูดให้ท่านผู้อ่านรู้ว่า
- น้องอัล-อัซฮะรีย์ ไม่ใช่ผู้รู้หรอกครับ (อันนี้ น้องเขาบอกว่าไออาเอฟเพิ่งพูดความจริงก็คำพูดนี้แหละ)
- ผมจะใช้คำว่า คุณมุหัมมัด คุณอัซฮารีไม่มีความสามารถในการทำความเข้าใจมากนัก
- หรือสมองหรือปัญญาส่วนที่จะใช้วิเคราะห์ทำความเข้าใจอย่างมีเหตุผลนั้นมีไม่มาก
- แล้วมิหนำ ตัวเองไม่เข้าใจเขา ก็เลยไปกล่าวให้ร้ายว่าเขาแก้ตัวมั่ง โกหกมั่ง ตบตามั่ง (แต่จริงๆตัวเองนั่นแหละที่ไม่เข้าใจเขา) (ดูซิครับท่านผู้อ่าน สิ่งที่เราบอกว่า พวกวะฮาบีย์กล่าวโกหก ตบตา มันล้วนแต่เป็นคำพูดที่วะฮาบีย์กล่าวโกหกมาก่อนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่น้องอัล-อัซฮะรีย์บอกว่า ชัยค์ริฏอ โกหกในเรื่องที่ว่า หลักฐานเรื่อง การอยู่เบื้องบนของอัลเลาะฮ์ ในหนังสือ อิจญฺมาอฺอัลญูยูช มีเป็นพัน!! ซึ่งเมื่อน้องเขาไปตรวจสอบดูแล้ว ก็ไม่เป็นความจริง แต่คุณไออาเอฟมาบอกว่าเราใส่ร้าย และท่านอิบนุกอยยิมก็เพิ่มเติมหะดิษ อันนี้น้องเขาก็มีหลักฐานยืนยัน แต่ยังไม่ถึงเวลาที่น้องเขาจะนำเปิดเผย ก็ได้ทางคุณไออาเอฟ มากล่าวหาเราว่าใส่ร้าย!!! ซึ่งคำพูดของไออาเอฟที่ออกมาอย่างนี้ เขาเคยพูดแล้วครับ คือพูดแล้วพูดอีก เพราะให้ท่านผู้อ่านที่เพิ่งเข้ามารู้ว่า "ไอ้พวกมีมัซฮับเนี่ย มันชอบโกหก ตบตา ใส่ร้ายนี่หว่า" ทั้งที่ความจริงแล้ว เราก็พยายามบอกคุณไออาเอฟและคณะว่า "เรื่องที่พวกเรากล่าวหาว่าพวกคุณโกหกนั้น ลองยกมาทีละประเด็นซิ ว่าอันใดที่เรากล่าวให้ร้ายหรือโกหกพวกคุณ" แต่ก็เงียบฉี่ ไม่กล้ายกประเด็นที่เรากล่าวว่ากลุ่มวะฮาบีย์โกหก เนื่องจากว่า หากไออาเอฟเขายกประเด็นเรากล่าวว่ากลุ่มวะฮาบีย์โกหกนั้น ก็จะเป็นการตอกย้ำความโกหกของวะฮาบีย์เข้าไปอีกสองเท่า ไอ้คนโกหกดันไม่รู้ตัวเองและไม่ยอมรับตัวเองว่าโกหก แต่คนที่พูดจริงดันถูกกล่าวหาว่าโกหก ซุบหานัลเลาะฮฺ !!!
คุณไออาเอฟกล่าวอีกว่า"แล้วสิ่งที่น่าเศร้าสลดหดหู่และสมเพชอีกอย่างหนึ่งก็คือคุณอัซฮารีไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาคุยกันมาแล้ว(แม้แต่กระทุ้ mureed เก่าๆก็อธิบายไปนานแล้วครับ แล้วคุณก็ไปขุดเรื่องเก่าเล่าใหม่) กลุ่มซุนนะฮฺเขามีคำตอบที่ชัดเจนแล้ว" ดูซิครับท่านผู้อ่าน คุณไออาเอฟเขามักชอบว่าผู้อื่น โดยไม่มองกลับไปยังตัวเอง เช่นคำถามต่างๆเรื่องอากิดะฮ์ที่เขาเคยถามน้องอัล-อัซฮะรีย์ ซึ่งความจริง น้องเขาคุยกันมานานหลายเดือนแล้ว แต่ผมก็สมเพสหดหู่คุณไออาเอฟที่ดันมาถามอีก จนน้องเขาต้องไปขุดมาเล่าใหม่ แล้วก็จะเอามาเล่าใหม่อีก
เราลองมาดูคำถามของคุณไออาเอฟกันซิครับ เขาบอกว่า
ผมถึงได้ย้ำว่า เอาหลักฐานมานะ และถามจี้ไป เรื่องซิฟาต ซอฮาบะฮฺคนไหนเขาบอก ว่ามือ(ในกุรอาน)คืออำนาจ หรือสลัฟคนไหนบอก?
ผมขอกล่าวว่า
คุณไออาเอฟครับ คุณจะมาถามย้ำถามจี้อะไรนักหนาในเรื่องนี้ ทั้งที่น้องอัล-อัซฮะรีย์เขาตอบกับคุณอะสันไปนานแล้ว แล้วผิดหรือ?ที่เราบอกว่าคุณ"งมโข่ง" มาจี้ถามในสิ่งที่เขาตอบไปชัดเจนชัดถ่อยชัดคำ นี่แหละเขาเรียกว่าจุดด้อยของคนชอบทำรู้ และมันเป็นจุดด้อยของคุณครับ
และที่ผมเสียใจอย่างยิ่งก็คือ คุณพยายามโพสต์ในสิ่งที่ไม่อยู่ในเชิงวิชาการเกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังคุยกัน คุณเขามาระบายและโฆษณาแนวทางของคุณในกระทู้ที่คุยกันเรื่องบิดอะฮ์ ทำให้อะไรๆมันไม่เป็นระเบียบ คราวหลังน่ะ เข้ามาก็รักษาระเบียบไว้สักหน่อย ก็จะเป็นการดียิ่งสำหรับผู้ที่มีสติปัญญา
วกกับมาพูดเรื่องบิดอะฮ์ คุณไออาเอฟมาบอกว่า เราบอกไม่เข้าใจแนวทางวะฮาบีย์ ซุบฮานั้นและฮ์!!! เราคุยกันแค่คำนิยาม ยังไม่ไปถึงใหน ก็โดนหุกุ่มว่าเราไม่เข้าใจแนวทางของวะฮาบีย์ ไอ้ที่ผ่านมานะ น้องอัล-อัซฮะรีย์ เขาอุตสาห์ไปอ่านตำราต่างๆ ไม่ว่าจะมาจากหนังสือ หรือเวปไซท์ ในเรื่องบิดอะฮ์ของแนวทางวะฮาบีย์จนไม่มีเวลาเข้ามา แต่ยังคุยไม่ทันไร เราถูกหุกุ่มว่า เราไม่เข้าใจแนวทางวะฮาบีย์ไปเสียแล้ว
เราต้องการคุยแบบมีระเบียบมีขั้นตอน คุยกันทีละประเด็น ให้เป็นระเบียบ ไม่อยากให้เป็นปลาไหล แต่พวกคุณก็ทำกันไม่ได้ นี่แหละคือจุดอ่อนของพวกคุณ ในเรื่องบิดอะฮ์นั้น ผมคิดว่าไออาเอฟ จะยกอ้างอิงของที่เป็นหลักฐานไหม่ๆให้แก่เรา แต่บทสรุปที่เขาพอจะสนทนาเข้าเรื่องจริงๆ ก็เอาข้อมูลมาอุลามาอ์วะฮาบีย์ มุนัจญิด (อูลามาอ์ในดวงใจของไออาเอฟที่ชอบอ้างอิง) ซึ่งคำตอบของมุนัจญิด ที่ไออาเอฟยกมานั้น มันไม่มีอะไรใหม่เลยครับ ผมอ่านแล้วยังขำ ว่าคุณไออาเอฟที่ว่าเจ๋ง ที่ได้สนทนาเรื่องนี้มาแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรไหม่ และสิ่งที่คุณยกอ้างอิงมานั้น มีเพิ่มอีกไหมครับ โปรดยกมาอีกและให้อยู่ในประเด็น แต่ประเด็นเรื่องคำนิยามนั้น คุณไม่ได้พูดมาเลย ยังไงก็โปรดรักษาระเบียบหน่อยครับหากคุณเข้ามาตอบอีก จะอ้างคำพูดของมุนัจญิดล่ะก็ ก็โปรดแปลมาเป็นไทยด้วย เพราะเราสนทนาเป็นภาษาไทย แล้วเรื่องดุนยามันมีความหมายเป็นบิดอะฮ์จากคำกล่าวของท่านนบี(ซ.ล.)ไปได้อย่างไร???
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 25, 2006 9:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณมุหัมหมัด ครับ กลับไปเรียนหาความรู้เพิ่มเติมให้มากกว่านี้เถอะครับ อย่าพยายามดิ้นเลยครับ เพราะแค่คุณปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านนบี ศอลฯสอนไว้ โดยไม่ต้องเพิ่มเติม ก็สามารถนำพาคุณไปสู่สวรรค์ได้แล้ว การโต้เถียงกันเรื่องศาสนา เพื่อเอาชนะทั้งๆไม่มีหลักฐานเลย พวกคุณเตรียมตัวเป็นเดือนเพื่อจะมานอ็คพวกผม ในเว็บมุรีดและเว็บมรดก หยุดเถอะ ครับ บิดอะฮไม่สามารถจะเอาชนะสุนนะฮได้หรอก ขอฝ่ากคำพูดของอิหม่ามอะหมัดนิดหนึ่ง
حدثنا الشيخ أبو عبدالله يحيى بن أبي الحسن بن البنا ، قال : أخبرنا والدي أبو علي الحسن بن احمد بن البنا ، قال أخبرنا أبو الحسين علي بن محمد بن عبدالله بن بشران المعدل ، قال : أخبرنا عثمان بن أحمد بن السماك ، قال : حدثنا أبو محمد الحسن بن عبدالوهاب أبو العنبرقراءة عليه من كتابه في شهر ربيع الأول من سنة ثلاث وتسعين ومائتين ، قال : حدثنا أبو جعفر محمد بن سليمان المنقري البصري بتنيس - قال : حدثني عبدوس بن مالك العطار ، قال : سمعت أبا عبد الله أحمد بن محمد بن حنبل رضي الله عنه يقول
أصول السنة عندنا :
التمسك بما كان عليه أصحاب رسول الله صلى الله عليه وسلم ، والإقتداء بهم ، وترك البدع ، وكل بدعة فهي ضلالة ، وترك الخصومات ، والجلوس مع أصحاب الأهواء ، وترك المراء والجدال والخصومات في الدين
อับดุส บุตร มาลิกอัลอะฏอร กล่าวว่า ข้าพเจ้าได้ยินอบูอับดุลลอฮ อะหมัด บุตร หัมบัล (ร.ฏ)กล่าวว่า รากฐานสุนนะฮในทัศนะของเรา คือ การยึดถือ สิ่งที่บรรดาสาวกของท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอลฯ ยืนหยัดอยู่บนมัน , ปฏิบัติตามพวกเขา และการละทิ้งบิดอะฮ ,ทุกบิดอะฮนั้น เป็นการหลงผิด ,การละทิ้งการโต้เถียง และนั่งร่วมกับนักตามอารมณ์(หมายถึงพวกบิดอะฮ) ,ละทิ้งการทะเลาวิวาท , การพิพาทกันและการโต้เถียงในเรื่องของศาสนา -ดู
السنن والمبتدعات ص 5-6
.......................
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 26, 2006 9:54 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เพิ่มเติม
وسأل المرُّوذِيُّ الإمامَ أحمد بن حنبل: من مات على الإسلام والسنة مات على خير؟! فقال له أحمد : اسكت، من مات على الإسلام والسنة مات على الخير كله . فاللهم لك الحمد على هذه النعمة العظيمة ؛ أن هدَيتنا للإسلام ، ثم زدتنا من فضلك بأن جعلتنا من أهل السنة لا من أهل البدعة.
อัลมัรวะซีย์ ได้ถามท่านอิหม่ามอะหมัด บุตร หัมบัล ว่า ผู้ใดตายบน(การยืนหยัดใน)อิสลามและอัสสุนนะฮ เขาตายในความดีงามใช่ไหม? อิหม่ามอะหมัด กล่าวแก่เขาว่า จงเงียบเถิด ผู้ใดตายบน(การยืนหยัดใน)อิสลามและอัสสุนนะฮ แน่นอนเขาได้ตายบนความดีงามทั้งหมัด ดังนั้น โอ้อัลลอฮ การสรรเสริญเป็นของพระองค์ท่าน ต่อเนียะมัต(ความกรุณา)ที่ยิ่งใหญ่นี้ ต่อการที่พระองค์ได้ทรงชี้นำเราให้ได้รับอิสลาม หลังจากนั้นพระองค์ท่านได้เพิ่มความโปรดปราณของพระองค์ท่านให้แก่เรา โดยการบันดาลให้เราเป็นชาวสุนนะฮ ไม่ใช่ชาวบิดอะฮ
- مناقب الإمام أحمد لابن الجوزي :180 .
อบูกอเส็มอัล-อัศบะฮานีย์ กล่าวไว้ในหนังสือของท่านชื่อ
(الحجة في بيان المحجة وشرح عقيدة أهل السنة) เล่ม 2 หน้า 509
ว่า
((وترك مجالسة أهل البدعة ومعاشرتهم سنة ؛ لئلا تعلق بقلوب ضعفاء المسلمين بعضُ بدعتهم ، وحتى يعلم الناس أنهم أهل بدعة ، ولئلا يكون في مجالستهم ذريعة إلى بدعتهم)) .
และการละทิ้งการนั่งร่วมกับชาวบิดอะฮและการเป็นมิตรที่คุ้นเคยกันและกันกับพวกเขานั้น เพื่อจะได้ไม่ให้บิดอะฮของพวกเขาบางส่วน มาเกี่ยวข้องกับหัวใจของบรรดามุสลิมที่อ่อนแอ และจนกระทั่งผู้คนรู้ว่า พวกเขาคือ ชาวบิดอะฮ และเพื่อไม่ให้การนั่งร่วมกับพวกเขานั้น นำไปสู่บิดอะฮของพวกเขา
...................................................................
ที่ยกคำพูดของนักวิชาการมาข้างต้น มิได้เพื่อการดูแคลนคุณ มุหัมหมัดและสหายแต่อย่างใด แต่ เพื่อให้รู้ว่า อย่าพยายามสนับสนุนเรื่องบิดอะฮในศาสนาอีกเลย และอย่ามาโต้เถียงในเรื่องนี้เลย เพราะจะเจ็บตัวเปล่า
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 26, 2006 9:59 am ชื่อกระทู้: |
|
|
แก้ไข
เพิ่มเติม
وسأل المرُّوذِيُّ الإمامَ أحمد بن حنبل: من مات على الإسلام والسنة مات على خير؟! فقال له أحمد : اسكت، من مات على الإسلام والسنة مات على الخير كله . فاللهم لك الحمد على هذه النعمة العظيمة ؛ أن هدَيتنا للإسلام ، ثم زدتنا من فضلك بأن جعلتنا من أهل السنة لا من أهل البدعة.
อัลมัรวะซีย์ ได้ถามท่านอิหม่ามอะหมัด บุตร หัมบัล ว่า ผู้ใดตายบน(การยืนหยัดใน)อิสลามและอัสสุนนะฮ เขาตายในความดีงามใช่ไหม? อิหม่ามอะหมัด กล่าวแก่เขาว่า จงเงียบเถิด ผู้ใดตายบน(การยืนหยัดใน)อิสลามและอัสสุนนะฮ แน่นอนเขาได้ตายบนความดีงามทั้งหมด ดังนั้น โอ้อัลลอฮ การสรรเสริญเป็นของพระองค์ท่าน ต่อเนียะมัต(ความกรุณา)ที่ยิ่งใหญ่นี้ ต่อการที่พระองค์ได้ทรงชี้นำเราให้ได้รับอิสลาม หลังจากนั้นพระองค์ท่านได้เพิ่มความโปรดปราณของพระองค์ท่านให้แก่เรา โดยการบันดาลให้เราเป็นชาวสุนนะฮ ไม่ใช่ชาวบิดอะฮ
- مناقب الإمام أحمد لابن الجوزي :180 .
อบูกอเส็มอัล-อัศบะฮานีย์ กล่าวไว้ในหนังสือของท่านชื่อ
(الحجة في بيان المحجة وشرح عقيدة أهل السنة) เล่ม 2 หน้า 509
ว่า
((وترك مجالسة أهل البدعة ومعاشرتهم سنة ؛ لئلا تعلق بقلوب ضعفاء المسلمين بعضُ بدعتهم ، وحتى يعلم الناس أنهم أهل بدعة ، ولئلا يكون في مجالستهم ذريعة إلى بدعتهم)) .
และการละทิ้งการนั่งร่วมกับชาวบิดอะฮและการเป็นมิตรที่คุ้นเคยกันและกันกับพวกเขานั้น เพื่อจะได้ไม่ให้บิดอะฮของพวกเขาบางส่วน มาเกี่ยวข้องกับหัวใจของบรรดามุสลิมที่อ่อนแอ และจนกระทั่งผู้คนรู้ว่า พวกเขาคือ ชาวบิดอะฮ และเพื่อไม่ให้การนั่งร่วมกับพวกเขานั้น นำไปสู่บิดอะฮของพวกเขา
...................................................................
ที่ยกคำพูดของนักวิชาการมาข้างต้น มิได้เพื่อการดูแคลนคุณ มุหัมหมัดและสหายแต่อย่างใด แต่ เพื่อให้รู้ว่า อย่าพยายามสนับสนุนเรื่องบิดอะฮในศาสนาอีกเลย และอย่ามาโต้เถียงในเรื่องนี้เลย เพราะจะเจ็บตัวเปล่า
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Fri Jan 27, 2006 5:25 pm ชื่อกระทู้: มัสหับสาลาฟียะ |
|
|
พี่น้องวาฮาบีย์ทั้งหญิงและชายครับ
กรุณาอย่าเล่นรุมสกรัมคุณมูฮำมัดแบบ4รุมหนึ่งซิครับแหมได้ทีก็อัดแบบไม่ให้ตั้งตัวเลยนะ ทีละคนซิครับจะได้น่าดูชม ผมขอติบังฮะซันนะที่ทำตัวเหมือนเด็ก แหมพอออาเอฟจับมือมัดหลังได้บังกระโดเข่าลอยเลยนะ ยังไม่พอคุณฟาอิส ดันไปจัขาล็อกไว้อีก ที่น่ากลัวคุณสุรอยาทั้งหยิกทั้งข่วนทั้งทุบ ไม่ให้คุณมูฮำมัดตั้งตัวเลย...
ไม่เอานะครับนิสัยแบบนี้
ทีละคนซิท่านจะได้จับใจความถูก ว่าใครถามอะไรก็จะได้ตอบ
คุณมูฮำมัดครับ ซอบซร์ให้มากๆนะครับผมก็ทำใจเหมือนคูณนั้นแหละ
จริงๆแล้วเรานำเสนอเรื่องบิดอะในทัศนะของเรา คุณก็น่าจะนำเสนอในทัศนะของคุณ แล้วค่อยเข้ามาวิจารณ์ไม่ดีกว่าหรือครับ
ตกลงทุกคนต้องมีกติกามารยามที่แบบสลัฟรุ่นก่อนนะให้เกียติริต่อกันนะครับ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Jan 27, 2006 8:38 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ konyakroo กล่าวว่า
กรุณาอย่าเล่นรุมสกรัมคุณมูฮำมัดแบบ4รุมหนึ่งซิครับแหมได้ทีก็อัดแบบไม่ให้ตั้งตัวเลยนะ
.....................
ตอบ
ฮิ อิ ฮิ อย่าสีเรียสครับน้อง เราแค่นำเสนอวิชาการ ครับ แต่เราไม่ถึงกับให้สลบค่าตีน หรอก
เอาไว้เป็นเป้าซ้อมเล่นยามว่างดีกว่า รักทุกคนครับน้อง
คำจำกัดความ: |
|
ขนาดไฟล์: |
6.4 กิโลไบต์ |
เข้าชม: |
13372 ครั้ง |
|
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
รอยยา มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/02/2004 ตอบ: 78
|
ตอบ: Fri Jan 27, 2006 9:45 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ตอนที่ท่าน asan ตอบอยู่คนเดียว พวกท่านก็บอกว่า ไปเลี้ยงหลานเถอะ อายุมากแล้ว
พอฉันเข้ามาถาม ท่านก็ว่ารุมสะกรัม อะไรกันนี่ ไม่เข้าใจจริงๆ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sat Jan 28, 2006 6:38 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้าอิงจากไออาเอฟ
ไอ้ความหมายด้านภาษาน่ะถูกต้องครับ ใครๆเขาก็สอนแบบนั้น แล้วความหมายทางชะรีอะฮฺล่ะ ...(เฮ่อ..เหนื่อยตรงที่ต้องมานั่งสอนซ้ำ) ความเข้าใจแบบคุณน่ะไม่ไม่ตรงกับสลัฟ ไม่ตรงกับซอฮาบะฮฺ ผมถึงได้ขอหลักฐานมาไง? (จริงๆน่ะทราบดีครับว่าไม่มี)
ตอบ
อ้างอิงจากไออาเอฟ
มันไม่มีหลักฐานจากสลัฟไงครับที่มาบอกว่ามีบิดอะฮฺหะสะนะฮฺ ผมถึงกล้าท้าให้ไปหาหลักฐาน...
แล้วปรากฏว่าได้หลักฐานอะไรมาครับ? คุณไปเอาหลักฐานจากไหนมาครับ?
เอ้ามาดูกัน...ว่าใช่สลัฟหรือเปล่า? (ดู ปี ฮ.ศ.)
ท่านอิบนุ หัซมิน (ร.ห.) เสียชีวิตปี 456 ฮ.ศ.
อิมาม อัลอิซฺซุดดีน บิน อับดุสลาม เสียชีวิตปี 660 ฮ.ศ.
หุจญฺตุลอิสลาม อิมาม อัลฆ่อซาลีย์ (505 ฮ.ศ.)
อิมาม อัล-มุหัดดิษ อิบนุ อัล-เญาซีย์ อัลหัมบาลีย์ (598 ฮ.ศ.)
อิมาม อบู ชามะฮ์ อับดุรเราะห์มาน บิน อิสมาอีล อัลมุก๊อดดิซีย์ อัชขาฟิอีย์ (665 ฮ.ศ.)
แต่กระนั้นก็ตาม จะด้วยศตวรรษที่พวกท่านถือกำเนิด แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้อธิบายคำว่าบิดอะฮฺผิดแผลกต่างต่าง หรือผิดเพี้ยนออกไป (ถ้าเราอ่านดูแล้ว)
นอกจากจะมีอยู่คนเดียวคือ อิมาม อัลอิซฺซุดดีน บิน อับดุสลาม ที่ว่า
ตอบ
ไออาเอฟเนี่ย มันเข้าขั้น ยกอ้างบรรดาอุลามาอ์ที่ไม่ใช่สะลัฟ ที่ทำการแบ่งเรื่องบิดอะฮ์ แล้วไม่ยอมกล่าว รายงานอิมามชาฟิอีย์มาด้วย ซึ่งอิมามชาฟิอีย์ เป็นอุลามาอ์สะลัฟ ที่ทำการแบ่งบิดอะฮ์ เป็นบิดอะฮ์ที่ได้รับการสรรญและบิดอะฮ์ที่ถูกตำหนิ บิดอะฮ์หะสะนะฮ์นั้น คือบิดอะฮ์ที่ไม่ขัดกับอัลกุรอาน ซุนนะฮ์ และอิจญฺมาอ์ แต่ถ้าหากขัดนั้น ก็เป็นบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง แต่ชื่อเรียกนั้น อาจจะแตกต่างกันไป ก็ไม่ใช่เรื่องแปลแต่ประการใด ต่างตรงชื่อเรียก แต่ความหมายเดียวกัน อิมามชาฟิอีย์บอกว่า บิดอะฮ์ที่ไม่ขัดกับอัลกุรอาน หะดิษ อิจญฺมาอ์ เป็นสิ่งที่ได้รับการสรรญเสริญ แล้วอ้างคำกล่าวของท่านอุมัร บรรดาอุลามาอ์ผู้ทรงธรรม ก็เข้าใจดีว่า อิมามชาฟิอีย์ทำการแบ่งแยกบิดอะฮ์ แต่วะฮาบีย์ พยายามอธิบายแบบเชไช เบี่ยงเบน เท่าที่ผมศึกษาตำราของวะฮาบีย์นั้น พวกเขาวิจารณ์คำกล่าวของอิมามชาฟิอีย์ได้อย่างน่าขำ ผมเองก็รอให้วาฮาบีย์ อย่างไออาเอฟ นำเสนอวิจารณ์ดู ว่าเขาจะมารูปแบบใด และผมไม่ทราบว่า คำกล่าวของอิมามชาฟิอีย์นั้น ได้ให้คำนิยามเกี่ยวกับบิดอะฮ์ในเชิงภาษาหรือว่าในเชิงศาสนา ตามคำอธิบายของวะฮาบีย์
อ้างอิงจากไออาเอฟ
ส่วนการอธิบายบิดอะฮฺหะสะนะฮฺในแบบที่ว่าประดิษฐ์ขึ้นมาแล้วทำได้(ขอให้ดี) อันนั้นเป็นการสอนสอนนักวิชาการยุคหลัง
ตอบ
เห็นทำตัวอวดฉลาด ว่าคนอื่นไม่เข้าใจเรื่องบิดอะฮ์ของแนววะฮาบีย์ ที่แท้ ไออาเอฟ เขาไม่เข้าใจประเด็นการแบ่งบิดอะฮ์ ของแนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ วัล ญะมาอะฮ์ ดูซิสิ่งที่เขาพูดมาซิครับ น่าขำชมัด ผมนะชอบนักเล ก็พวกทำตัวอวดรู้นะครับ
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sat Jan 28, 2006 6:40 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากไออาเอฟ
คือกลุ่มซุนนะฮฺน่ะรู้ว่าชาวบิดอะฮฺเขาเข้าใจศาสนาอย่างไร เข้าใจว่าเขาเข้าใจหลักฐานนั้นนี้อย่างไร เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำบิดอะฮฺ เขาเข้าใจผิดตรงไหน...ตรงนี้กลุ่มซุนนะฮฺทราบดี
แต่กลุ่มบิดอะฮฺไม่เคยเข้าใจว่ากลุ่มซุนนะฮฺเข้าใจศาสนาแบบไหน ไม่เคยเข้าใจหลักฐานที่เขายกมา (สักแต่ว่ารู้แล้ว ผ่านตาแล้ว หรือฟังบ่อยแล้ว)
ตอบ
ก่อนที่คุณจะพูดคำนี้ออกมานั้น คุณไปตอบคำถามที่ผมดักแมวเอาไว้ดีกว่า ยกอ้างอิงมาแบบบิดอะฮ์คำพูดของอุลามาอ์ และคำตอบก็ไม่ยอมตอบ กลัวติดคอซิครับ ถามมาได้ ว่าสะลัฟคนใหน ตะวีล คำว่า มือ เป็น พลังอำนาจ ไอ้ผมเองนึกไออาเอฟมันจะ รู้เรื่องศาสนา และรู้เรื่องในสิ่งที่ผมเคยตอบไปแล้ว ดันมาถามแบบคนอวดรู้ ทั้งที่คุนอื่นเขารู้คำถามคุณถามมาแล้ว กรุณาเปิดหูเปิดตาดูโลกที่กว้างใหญ่บ้าง ไม่ใช่จะหมกมุ่นแต่แนวทางของวะฮาบีย์ คนไม่รู้ว่า แนวทางส่วนมากนั้น เขาได้กล่าวอะไรไปแล้วบ้าง นี่แหละเขาเรียกจุดด้อย ที่เกิดมาจากความอวดรู้
อ้างอิงจากไปไออาเอฟ
เพราะฉะนั้นคำพูดท่านนี้ของท่านอุมัรฺไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนา ไม่ใช่ประดิษฐ์พิธีขึ้นใหม่ แต่หมายถึงภาพแบบนี้มันไม่เคยปรากฏมาก่อน
ตอบ
สิ่งที่ท่านอุมัรกล่าวนั้น มันเป็นเรื่องดุนยาหรืออย่งไรครับ คุณไออาเอฟ!! แล้วใครบอกคุณว่า คำกล่าวของท่านอุมัร ที่ว่าเป็นบิดอะฮ์ที่ดีนั้น คือ ภาพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ?? อิมามชาฟิอีย์ ได้ให้คำนิยาม บิดอะฮ์ สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยอ้างหลักฐานคำกล่าวของท่านอุมัร และคำนิยามของท่านอิมามชาฟิอีย์นั้น เป็นคำนิยามตามหลักภาษา หรือว่าหลักการของศาสนาครับ??
ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีย์กล่าวว่าอธิบายคำกล่าวของท่านอุมัรว่า " และ(คำกล่าว)ที่ประณีตแน่นแฟ้นนั้น คือ แท้จริง บิดอะฮ์นั้น หากมันมีมา จากสิ่งที่อยู่ภายใต้สิ่งที่นับว่าดี ในหลักศาสนา มัน(บิดอะฮ์)ก็คือ (บิดอะฮ์)หะสะนะฮ์(บิดอะฮ์ที่ดี) และหากว่ามันมีมา จากสิ่งที่อยู่ภายใต้สิ่งที่ถือว่าน่ารังเกียจ มันก็คือ(บิดอะฮ์)ที่น่ารังเกียจ และถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น(จากบิดอะฮ์ทั้งสอง) มันก็มาจาก ประเภทที่มุบาห์" ( ดู ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 4 หน้า 253)
ดังนั้น บิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ที่อยู่ภายใต้หลักศาสนา ไม่ใช่เป็นเรื่องศาสนาหรือครับ??
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sat Jan 28, 2006 6:41 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากไออาเอฟ
เรื่องดุนยาไม่ต้องตามนบีหรือ?
"เรื่องดุนยาท่านรู้ดีกว่าฉัน"
คำพูดนี้เกิดจากชาวบ้านซึ่งรถน้ำต้นไม้ตามวิธีที่นบีแนะนำ แล้วต้นไม้ก็ตาย
ตอบ
วะฮาบีย์ บอกว่า บิดอะฮ์ แบ่งออกเป็น 2 คือ บิดอะฮ์ศาสนา กับ บิดอะฮ์ดุนยา ผมขอถามสักหน่อยซิครับว่า ใครหน้าใหนเป็นคนแบ่งเรื่องบิดอะฮ์นี้ มีสะลัฟคนใหนบ้างเป็นคนแบ่งบิดอะฮ์นี้ ผมว่าไปค้นหาให้ถึงยันกิยามะฮ์ก็ไม่มีทางพบ พอนบีพูดว่า "เรื่องดุนยา ท่านรู้ดีกว่าฉัน" วะฮาบีย์เคยอธิบายโดยไปเอาคำพูดมา มาเป็นแบ่งเป็นบิดอะฮ์ดุนยา นบีมีจุดหมายอย่างนั้นหรือครับ ? สลัฟท่านใดบ้างที่อธิบายอย่างนี้? เรื่องดุนยาก็คือเรื่องดุนยา ที่เป็นเรื่องอาดัตปกติวิสัย แต่เอามาประดิษฐ์มาเรียกกันแบ่งกันเป็นบิดอะฮ์ดุนยา ได้อย่างไร?
และการแบ่งเรื่องดุนยา กับศาสนา นั้น เป็นสิ่งที่อิสลามให้การปฏิเสธ และเป็นเรื่องที่แปลก ตามหลักการศาสนา เนื่องจากทุกสิ่งที่ศาสนาใช้นั้น ล้วนแต่เป็นอิบาดะฮ์ แม้กระทั้งสิ่งนั้น จะเป็นเรื่องของดุนยา การตกลงค้าขาย การเช่า การจำนำ และอื่นๆ ล้วนแต่เป็นเรื่องของดุนยา ที่ต้องการหลักเกนฑ์ และหลักการของศาสนามาควบคุม แม้เรื่องมุบาหฺ อาดัตธรรมดาๆ ก็สามารถเป็นเรื่องศาสนาได้ หากเขาได้มีเหนียตที่ดี ดังนั้น การแบ่งระหว่างดุนยาและศาสนา นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งการแบ่งบิดอะฮ์ออกเป็นดุนยา และศาสนาด้วย นั้น ยิ่งแล้ว และไม่มี สะลัฟ ท่านได้ทำได้การแบ่งอย่างนี้ อย่างชัดเจน ผมก็ขอให้ไอเอฟไปหามาให้หน่อยครับ แต่หากคุณหามาไม่ได้ แต่ไปอ้างหลักฐานโน้นหลักฐานนี้ มาประกอบละก็ คุณก็ไม่ต่างอะไรกับผมหรอก แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราก็มีหลักฐานอัลกุรอานและหะดิษ และการแบ่งของอิมามชาฟิอีย์ เกี่ยวกับเรื่องบิดอะฮ์ แม้ว่าพวกคุณจะตีความเป็นหลักภาษาก็ตาม
สำหรับคำอ้างอิงของคุณ จากคำกล่าวของ มุนัจญิด นั้น ผมว่าคุณน่าจะแปลมาด้วย แต่ผมอ่านแล้วยังขำเลยครับ คือว่า มุนัจญิดนะ เขาไม่เข้าใจ แนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ วัล ญะมาอะฮ์ ฮ่าๆ แต่คำกล่าวของมุนัจญิดนั้น มันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะมาวิจารณ์ครับ เพราะว่ามันยังไม่ถึง خطة ที่ผมได้วางไว้ในการสนทนา เป้นขั้นเป็นตอน แต่สิ่งที่ มุนัจญิด กล่าวมานั้น ผมจะจัดการในภายหลัง คุณไม่ต้องกลัวหรอก ฮ่าๆ
สำหรับคำกล่าวของท่าน อิบนุมัสอูดก็ดี ของท่านอิบนุอุมัรก็ดี หรือของท่าน อุมาเราะฮ์ ก็ดี ตอนนี้ผมยังไม่ขอตอบก่อน เพราะยังไม่ถึง خطة ที่ผมวางไว้ ซึ่งประเด็นบรรดาคำกล่าวของซอฮาบะฮ์นี้ ผมจะนำมาสนทนาชี้แจง หลักจากสนทนาหลักฐานจากบรรดาหะดิษก่อน แล้วก็หลักฐานของบรรดาซอฮาบะฮ์ ซึ่งมันมากมายครับ มากกว่าที่คุณยกมาอีก ก็ขอให้คุณใจเย็นๆ
ผมต้องการจะสนทนาอย่างมีระเบียบและมีระบบ เพื่อที่จะทำให้ความเข้าใจเรื่องบิดอะฮ์นี้ อย่างมีขั้นตอน และมีประสิทธิ์ภาพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ไปตอบคำถามของซอฮาบะฮ์โน้น ทั้งที่ผู้อ่านบางคนยังไม่เข้าใจคำว่าบิดอะฮ์ดีพอ หวังผมคุณไออาเอฟ และคุณวะฮาบีย์ทั้งหลายคงเข้าใจนะครับ ฮ่าๆ และในช่วงท้ายๆนั้น ผมจะยกบรรดาตัวอย่างบิดอะฮ์ของวะฮาบีย์ที่ วะฮาบีย์บางไม่รู้ตัวบ้าง อินชาอัลเลาะฮ์ แต่มันยังไม่ถึงเวลานะครับ และผมพูดไปนั้น ผมเคยทำให้วะฮาบีย์ผิดหวังหรือครับ?
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sat Jan 28, 2006 6:43 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากบังอะสัน
อิหม่ามมาลิก บุตร อะนัสกล่าวว่า
من ابتدع في الإسلام بدعة يراها حسنة فقد زعم أن محمدا صلى الله عليه وسلم خان الرسالة، لأن الله يقول: (اليَومَ أكْمَلْتُ لَكُم دِينَكُمْ) فما لم يكن يومئذ دينا فلا يكون اليوم ديناผู้ใดอุตริบิดอะฮขึ้นมาในอิสลาม โดยเห็นว่ามันดี (เห็นว่าเป็นบิดอะฮหะสะนะฮ) แน่นอนเขาเข้าใจผิดว่า แท้จริงมุหัมหมัด ศอลฯ นั้น ไม่ซื่อสัตย์ต่อสาส์นแห่งพระเจ้า เพราะว่าอัลลอฮทรงกล่าวว่า (วันนี้เราได้ให้ศาสนาของพวกเจ้าสมบูรณ์สำหรับพวกเจ้าแล้ว) แล้ว สิ่งใดในวันนั้นไม่เป็นศาสนา ดังนั้นในปัจจุบันนี้ก็ไม่เป็นศาสนา - โปรดดูอัลเอียะติศอม เล่ม 1/49الاعتصام (1/49).
ตอบ
ผมไม่ทราบว่า ท่านอัช-ชาฏิบีย์ ได้ถ่ายทอดคำกล่าวของอิมามมาลิกนี้ มาจากหนังสือเล่มใหน ? แต่แน่ๆนั้น ในบรรดาหนังสือหะดิษ ทั้งหลาย ไม่มีกล่าวไว้
และหากว่าเป็นคำกล่าวของท่านอิมามมาลิกจริง ดังนั้น บิดอะฮ์ในที่นี้ หมายถึงบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง บิดอะฮ์ที่ไม่มีรากฐานและที่มาจากศาสนา แล้วคนทำนั้นเห็นว่ามันดี ก็ถือว่าเป็นการอุตริและเพิ่มเติมศาสนา
เพราะบิดอะฮ์หะสะนะฮ์นั้น คือสิ่งที่ทำขึ้นมาโดยที่รากฐานที่มาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ จึงไม่ใช่เป็นเพิ่มเติม ตัดทอน หรือตามอารมณ์ และวางศาสนาขึ้นมาเอง เนื่องจากมันมีที่มา อันอยู่ในกรอบและกฏเกนฑ์ของหลักการของศาสนา ซึ่งประเด็นนี้นั้น หากจะพูดให้ละเอียด ก็ต้องสนทนาหลักฐานของซุนนะฮ์เกี่ยวกับบิดอะฮ์หะสะนะฮ์เสียก่อน หากเราเข้าใจเรื่องบิดอะฮ์ดีแล้ว เราก็สามารถเข้าใจคำกล่าวของบรรดาอุลามาอ์ได้อย่างชัดเจน
และ หากคำพูดอิมามมาลิก เป็นคำกล่าวที่มาจากท่านจริงและซอเฮี๊ยะหฺ ผมเชื่อว่า อิมามมาลิกนั้นได้พูด ขณะที่อยู่นครมะดีนะฮ์ เนื่องจากท่านไม่เคยเดินทางของจากแค้วนหิญาซฺเลย ดังนั้น การที่ท่านอิมามมาลิกมีความเข้มงวดอย่างมากในเรื่องบิดอะฮ์นี้ เนื่องจากท่านไม่ต้องการให้ชาวมะดีนะฮ์ทำสิ่งที่ใหม่ๆขึ้นมา เนื่องจากว่า "การปฏิบัติของชาวมะดีนะฮ์นั้น เป็นรากฐานหนึ่งในการนำมาเป็นหลักฐานทางวิชาฟิกห์ของอิมามมาลิก" และนี้อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญ ครับ แต่อย่างไรก็ตาม เราสมควรที่จะต้องเปรียบเทียบและพิจารณาหลักฐานให้ได้ทั้งหมด ไม่ใช่เลือกเอาคนนั้น แต่ละทิ้งคนนี้ เราต้องทำการวิเคราะห์ในเชิงวิชาการนะครับ
ส่วนคำกล่าวของท่านอิมามอะหฺมัด และท่านอื่นๆที่บังอะสันยกอ้างอิงมานั้น มันไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการแบ่งบิดอะฮ์ แต่พูดเกี่ยวกับคนที่อยู่ในแนวทางบิดอะฮ์ ที่ลุ่มหลง และน่าตำหนิ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาหมายถึง กลุ่มบิดอะฮ์ในเรื่องอากิดะฮ์ ซึ่งแนวทางวะฮาบีย์รวมอยู่ในคำกล่าวพวกเขาเหล่านั้นหรือเปล่าน่า...
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sat Jan 28, 2006 6:46 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากบังอะสัน
เลยขอนำเสนอเรื่อง บิดอะฮ เพื่อให้น้องบ่าวได้นำไปทบทวนดู ดังนี้
البدعة: ما أحدث ممّا لا أصل له في الشريعة يدلّ عليه. أمّا ما كان له اصل من الشرع يدلّ عليه فليس ببدعة شرعاً، وإن كان بدعة لغة
บิดอะฮ คือ สิ่งที่ถูกประดิษฐขึ้นใหม่ จากสิ่งที่ไม่มีที่มาในศาสนบัญญัติ ได้แสดงบอกไว้ สำหรับสิ่งที่มีที่มาจากบทบัญญัติได้แสดงบอกเอาไว้นั้น ก็ไม่เรียกว่าเป็นบิดอะฮในทางศาสนา ถึงแม้จะเป็นบิดอะฮในทางภาษาก็ตาม
- โปรดดู جامع العلوم الحكم: ص160 ط الهند
ตอบ
คำนิยามนี้ ไม่ได้ปฏิเสธในเรื่องบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ เนื่องจากบิดอะฮ์หะสะนะฮ์นั้น คือสิ่งที่มีรากฐานที่มาจากหลักการของศาสนา
อิหม่ามอัชชาฏิบีย์กล่าวว่า
البدعة: طريقة في الدين مخترعة، تضاهي الشرعية، يقصد بالسلوك عليها ما يقصد بالطريقة الشرعية
บิดอะฮคือ แนวทางในเรื่อง ศาสนา ซึ่งถูกอุตริขึ้นมาใหม่ เลียนแบบศาสนบัญญัติ โดยมีจุดมุ่งหมายในการปฏิบัติ เหมือนกับจุดมุ่งหมายตามแนวทางศาสนบัญญัติ ดูอัลเอียะติศอม เล่ม 1 หน้า 37
ตอบ
คำนิยามของ ท่านอิมาม อัช-ชาฏิบีย์นี้ อุลามาอ์ส่วนมากไม่ให้การยอมรับ เนื่องจากอุลามาอ์ส่วนมาก ทำการแบ่งบิดอะฮ์เป็นหะสะนะฮ์ และก่อบีฮะฮ์ (น่ารังเกียจ) นอกจากอุลามาอ์ที่แวกแนวออกไป ที่ไม่ทำการแบ่งบิดอะฮ์ ตามนัยนี้ คือ อิบนุตัยมียะฮ์ ที่เอนเองไปยังการปฏิเสธเรื่องการแบ่งบิดอะฮ์ และท่านอิมาม อัช-ชาฏิบีย์ (ร.ห.) ที่ปฏิเสธอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งสองท่านนี้ ก็ไม่ใช่สะลัฟ!!! และผมขอเลือกแนวทางส่วนใหญ่ และจะทำการสนทนาชี้แจงกลุ่มวะฮาบีย์เป็นขั้นเป็นตอนต่อไป อินชาอัลเลาะฮ์
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sat Jan 28, 2006 6:47 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากบังอะสัน
อัศศอนอานีย์ กล่าวไว้ว่า
وأماقوله عمر نعم البدعة فليس في البدعة مايمدح بل كل بدعة ضلالة
สำหรับ คำที่ท่านอุมัร กล่าวว่า เนียะมุนบิดอะฮนั้น(ไม่ใช่บิดอะฮในทางศาสนา) เพราะในบิดอะฮนั้น ไม่มีคำว่า สรรเสริญ แต่ทว่า ทุกบิดอะฮนั้น เป็นการหลงผิด ดู สุบุลุสสลาม เล่ม 2 หน้า 10
ตอบ
บังอะสันจะยกอ้างอิงอะไรมานั้น ผมแนะนำว่า ให้คิดให้ถี่ถ้วนก่อน ไม่ใช่เจอสิ่งที่ตนเองจะเอาแล้วยกอ้างอิงมาหมด โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังเสียมารยาทตำหนิท่านอุมัรอยู่
ท่านอัศศอนอานีย์กล่าวว่า "สำหรับคำกล่าวของท่านอุมัร ที่ว่า "(มัน)เป็นบิดอะฮ์ที่ดี" ดังนั้น ในบิดอะฮ์ ย่อมไม่มีสิ่งที่ถูกสรรเสริญ แต่ทุกบิดอะฮ์นั้น หลงผิด" ดู ซุบุลุสสลาม เล่ม 2 หน้า 344
จากคำกล่าวของท่านอัศศอลอานีย์นี้ ถือว่า เป็นการตำหนิท่านอุมัร พูดเหมือนกับจะบอกว่า ท่านอุมัรบอกว่าเป็นบิดอะฮ์ที่ดี แต่ท่านอัศศอนอานีย์กล่าววิจารร์คำพูดของท่านอุมัรว่า บิดอะฮ์นั้นไม่มีอะไรดี แต่ล้วนเป็นสิ่งที่ลุ่มหลง คือการกระทำของท่านอุมัรที่รวมผู้คนให้ละหมาดตะรอวิหฺ โดยตามอิมาม เพียงคนเดียว (คือท่านอุบัย) นั้น เป็นบิดอะฮ์(ที่ดี ตามทัศนะของท่านอุมัร) แต่ท่านอัศศอนอานีย์กลับกล่าวว่า ในบิดอะฮ์นั้นไม่มีสิ่งใดดี แต่มันกลับหลง!!!
แล้วบังอะสันจะเลือกคำกล่าวของท่านอุมัร (ร.ฏ.) หรือว่า ตามคำวิจารณ์ของท่านอัศศอนอานีย์ที่มีต่อคำกล่าวของท่านอุมัร ? โปรดเลือกเอาครับ
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|