ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 4:01 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมแค่นำเสนอทัศนะครับ มาดูอีกทัศนะ
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
การละหมาดอัตตัสบีห์
ฮะดิษที่กล่าวถึงการละหมาดตัสบีห์นั้น ผู้ที่ได้รายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็คือท่านอิบนุอับบาส , ท่านอัลฟัฏล์ บิน อัลอับบาส , ท่านอับบาส บิน อับดุลมุฏฏอลิบ , ท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ , ท่านญะฟัร บิน อะบีฏอลิบ , ท่านอัลอับบาส บิน ญะฟัร , ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์ , ชาวอัลอันซอรีย์คนหนึ่ง ขออัลเลาะฮ์ทรงพึงพอพระทัยต่อพวกเขาด้วยเถิด . และได้รายงานฮะดิษแบบมัรซัล โดยท่านมุฮัมมัด บิน กะอับอัลกุรซีย์ , อะบูเญาซาอฺ , มุญาฮิด , อิสมาอีล บิน ร่อฟิอฺ , อุรวะฮ์ บิน รุวัยม์ และที่ดีที่สุดจากบรรดาสายรายงานเหล่านี้ คือฮะดิษที่รายงานโดยท่านอิบนุอับบาส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา
และให้กับฮะดิษของท่านอิบนุอับบาสนั้น มีบรรดาสายรายงานมากมาย ซึ่งสายรายงานที่ดีที่สุดก็คือ ฮะดิษที่รายงานโดยท่านอะบูดาวูด (สุนันอะบูดาวูด : 2/40) , ท่านอิบนุมาญะฮ์ (สุนันอิบนุมาญะฮ์ : 1/443) , ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ (ซอฮิห์อิบนุคุซัยมะฮ์ : 2/223) , ท่านอัลฮากิม (อัลมุสตัดร็อก : 1/318) , ท่านอัลบัยฮะกีย์ (อัสสุนันอัลกุบรอ : 3/51) , และผู้อื่นจากพวกเขา ได้รายงานตัวบทฮะดิษความว่า :
حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّحْمَنِ بْنُ بِشْرِ بْنِ الْحَكَمِ النَّيْسَابُورِيُّ حَدَّثَنَا مُوسَى بْنُ عَبْدِ الْعَزِيزِ حَدَّثَنَا الْحَكَمُ بْنُ أَبَانَ عَنْ عِكْرِمَةَ عَنْ ابْنِ عَبَّاس ٍأَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ لِلْعَبَّاسِ بْنِ عَبْدِ الْمُطَّلِبِ يَا عَبَّاسُ يَا عَمَّاهُ أَلَا أُعْطِيكَ أَلَا أَمْنَحُكَ أَلَا أَحْبُوكَ أَلَا أَفْعَلُ بِكَ عَشْرَ خِصَالٍ إِذَا أَنْتَ فَعَلْتَ ذَلِكَ غَفَرَ اللَّهُ لَكَ ذَنْبَكَ أَوَّلَهُ وَآخِرَهُ قَدِيمَهُ وَحَدِيثَهُ خَطَأَهُ وَعَمْدَهُ صَغِيرَهُ وَكَبِيرَهُ سِرَّهُ وَعَلَانِيَتَهُ عَشْرَ خِصَالٍ أَنْ تُصَلِّيَ أَرْبَعَ رَكَعَاتٍ تَقْرَأُ فِي كُلِّ رَكْعَةٍ فَاتِحَةَ الْكِتَابِ وَسُورَةً فَإِذَا فَرَغْتَ مِنْ الْقِرَاءَةِ فِي أَوَّلِ رَكْعَةٍ وَأَنْتَ قَائِمٌ قُلْتَ سُبْحَانَ اللَّهِ وَالْحَمْدُ لِلَّهِ وَلَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَاللَّهُ أَكْبَرُ خَمْسَ عَشْرَةَ مَرَّةً ثُمَّ تَرْكَعُ فَتَقُولُهَا وَأَنْتَ رَاكِعٌ عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ مِنْ الرُّكُوعِ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَهْوِي سَاجِدًا فَتَقُولُهَا وَأَنْتَ سَاجِدٌ عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ مِنْ السُّجُودِ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَسْجُدُ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ فَتَقُولُهَا عَشْرًا فَذَلِكَ خَمْسٌ وَسَبْعُونَ فِي كُلِّ رَكْعَةٍ تَفْعَلُ ذَلِكَ فِي أَرْبَعِ رَكَعَاتٍ إِنْ اسْتَطَعْتَ أَنْ تُصَلِّيَهَا فِي كُلِّ يَوْمٍ مَرَّةً فَافْعَلْ فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ جُمُعَةٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ شَهْرٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ سَنَةٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي عُمُرِكَ مَرَّةً
"ได้เล่าให้เราทราบโดย อับดุรเราะห์มาน บิน บิชร์ บิน อัลฮะกัม อันนัยซาบูรีย์ ได้เล่าให้ทราบโดย มูซา บิน อับดุลอะซีซ ได้เล่าให้ทราบโดย อัลฮะกัม บิน อะบาน จาก อิกริมะฮ์ จากท่านอิบนุอับบาส ว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่ท่านอัลอับบาส บิน อับดิลมุฏฏอลิบ ว่า โอ้ ท่านอับบาส โอ้ น้าชายของฉัน จะให้ฉันมอบให้กับท่านหรือไม่? จะให้ฉันทำให้กับท่านหรือไม่? กับ 10 ประการ เมื่อท่านได้กระทำสิ่งดังกล่าว อัลเลาะฮ์ก็จะอภัยโทษแก่ท่านซึ่ง(1)บาปในช่วงแรกและ(2)ช่วงสุดท้าย (3)บาปที่ล่วงผ่านมาแล้วและ(4)บาปที่เพิ่งเกิดขึ้น (5)บาปที่ผิดพลาดและ(6)บาปที่เจตนา (7)เป็นบาปเล็กและ(8.)บาปใหญ่ (9)เป็นบาปซ่อนเร้นและ(10)บาปที่เปิดเผย คือให้ท่านทำการละหมาดสี่ร่อกะอัต ซึ่งในร่อกะอัตแรกให้ท่านอ่านอัลฟาติฮะฮ์และหนึ่งซูเราะฮ์ เมื่อเสร็จจากการอ่านในร่อกะอัตแรกในสภาพที่ท่านยืนอยู่นั้น ก็ให้ท่านกล่าว ซุบฮานัลลอฮ์วัลฮัมดุลิลลาฮ์วะลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์วัลลอฮุอักบัร ให้กล่าวมัน 15 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่านทำการร่อกั๊วะแล้วทำการกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากร่อกั๊วะ ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านก้มสุยูด ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากสุยูด ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่านทำการสุยูดแล้วกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากสุยูด ก็ให้กล่าวมัน 10 ครั้ง ดังกล่าวก็เป็น 75 ครั้งในทุก ๆ ร่อกะอัต โดยให้ท่านกระทำสิ่งดังกล่าวใน 4 ร่อกะอัต ดังนั้นหากท่านมีความสามารถที่จะละหมาดมันทุกวัน ก็จงกระทำเถิด และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้ท่านกระทำในทุก ๆ วันศุกร์สักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้กระทำทุก ๆ หนึ่งเดือนสักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้กระทำทุก ๆ หนึ่งปีสักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่มีความสามารถ ก็ให้กระทำสักครั้งหนึ่งในชีวิตของท่าน
วิเคราะห์สายรายงานฮะดิษ
1. ท่านอิกริมะฮ์ : เขานั้น เชื่อถือได้ และ เป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งกลุ่มหนึ่งของปราชญ์ฮะดิษได้นำเขามาเป็นหลักฐานอ้างอิง ส่วนที่ผู้ที่ทำการวิจารณ์เขานั้นเป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น
2. ท่านอัลฮะกัม บิน อะบาน : เขาเป็นผู้ที่ เชื่อถือได้ ตามทัศนะของท่านอิบนุมะอีน , ท่านอิบนุอัลมะดีนีย์ , ท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล , อันนะซาอีย์ , ท่านอัลอิจญ์ลีย์ , ท่านอิบนุ นุมัยร์ , และท่านอิบนุฮิบบานได้กล่าวเขาไว้ในหนังสืออัษษิก็อตของท่าน , และท่านอบูอัซซุรอะฮ์กล่าวว่า เขานั้นฮะดิษดี , ท่านซุฟยาน บิน อุยัยนะฮ์ กล่าวว่า : ฉันได้ไปที่เมืองอัดน์ ซึ่งฉันไม่เคยพบผู้ใดเลยที่จะเหมือนกับอัลฮะกัม บิน อะบาน
ทั้งที่นักปราชญ์ฮะดิษส่วนมากได้มีความเห็นพร้องถึงการให้ความเชื่อถือต่ออัลฮะกัม บิน อะบาน และเขาถูกให้อยู่ในแนวหน้าเหนือชาวอัดน์ ท่านอิบนุลมุบาร็อกได้กล่าวว่า : อัลฮะกัม บิน อะบาน , ฮิชาม บิน มัศก์ , และอัยยูบ บิน สุวัยด์นั้น ท่านจงอย่าสนใจพวกเขา และท่านอิบนุคุซัยมะฮ์กล่าวว่า : นักฮะดิษได้ทำการวิจารณ์เกี่ยวการนำฮะดิษของเขามาเป็นหลักฐาน (ดู หนังสือ อัษษะก็อต : 6/175 , หนังสืออัตตะฮ์ซีบ : 2/423 , หนังสือมีซานุลเอี๊ยะติดาล : 1/569)
สำหรับคำกล่าวของท่านอิบนุลมุบาร็อก ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ นั้น บางครั้งเขาไม่รู้จักสถานะภาพของอัลฮะกัม บิน อะบาน และคิดว่าเขานั้นเป็นส่วนหนึ่งจากนักรายงานที่ไม่ถูกรู้จัก(มัจญฺฮูล) หรือท่านอิบนุลมุบาร็อกมีความคลุมเครือสับสนต่อสถานะภาพของเขา ท่านจึงได้กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา ส่วนคำกล่าวของท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ นั้น เราไม่รู้ว่าผู้ใดกันคือนักฮะดิษที่ทำการวิจารณ์เกี่ยวกับการนำฮะดิษของอัลฮะกัม บิน อะบาน มาเป็นหลักฐานหลังจากที่เราได้ถ่ายทอดการรับรองความเชื่อถือ (ษิเกาะฮ์) ให้กับเขาจากบรรดานักปราชญ์ฮะดิษที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
อย่างไรก็ตาม ท่านอิบนุลมุบาร็อกและท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ก็มิได้ทำการอธิบายถึงสาเหตุการตำหนิอัลฮะกัม บิน อะบาน ดังนั้นการตำหนินักรายงานของทั้งสองจึงมิได้ถูชี้แจงอธิบาย ดังนั้นการวิจารณ์ตำหนินักรายงานของท่านทั้งสองจึงถูกปฏิเสธต่อเบื้องหน้าการให้ความชมเชยของบรรดานักปราชญ์ฮะดิษข้างต้น และการให้ความชมเชยย่อมอยู่ก่อนการตำหนิที่ไม่ถูกชี้แจงอธิบายด้วยมติของนักปราชญ์ฮะดิษ
3. ท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ : ท่านอิบนุมะอีนกล่าวว่า : ฉันเห็นว่าเขานั้นไม่เป็นไร(หมายถึงเขานั้นเชื่อถือได้) , ท่านอันนะซาอีย์กล่าวว่า : เขานั้นไม่เป็นไร , ท่านอิบนุอัลมะดีนีย์กล่าวว่า : เขานั้นฎออีฟ , ท่านอบุลฟัฎล์ อัสสุไลมานีย์กล่าวว่า : เขานั้นมุงกัรฮะดิษ , ท่านอิบนุชาฮีนได้นำเขากล่าวไว้ในหนังสืออัษษิก็อต(บรรดานักรายงานที่เชื่อถือได้) , และท่านอิบนุฮิบบานก็นำเขากล่าวไว้ในหนังสืออัษษิก็อตเช่นเดียวกัน แต่ท่านอิบนุฮิบบานกล่าวว่า : บางทีเขาผิดพลาด (ดู หนังสืออัลญัรห์ วัตตะดีล : ภาค 4 ยุซที่ 1 หน้า 151 , หนังสืออัตตะฮ์ซีบ : 10/356 , หนังสืออัตตักรีบ : 2/286 , หนังสือมีซานุลเอี๊ยะติดาล : 4/212)
สำหรับคำกล่าวของท่านอิบนุมะอีนที่ว่า เขานั้นไม่เป็นไร หมายถึง เขานั้นเชื่อถือได้ ท่านอิบนุอะบีค็อยษะมะฮ์กล่าวว่า : ฉันได้กล่าวกับท่านยะห์ยา บิน มะอีน ว่า : ท่านได้กล่าวว่าคนนั้นคนนี้ไม่เป็นไร คือชายคนนั้นฎออีฟกระนั้นหรือ? ท่านอิบนุมะอีนกล่าวว่า : เมื่อฉันกล่าวว่า เขานั้นไม่เป็นไร หมายถึงว่าเขานั้น เชื่อถือได้ (ดู หนังสือมุก็อดดิมะฮ์อิบนุศศ่อลาห์ หน้า 158)
ส่วนคำกล่าวของท่านอิบนุอัลมะดีนีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ที่ว่า มูซา บิน อับดุลอะซีซ ฎออีฟนั้น เป็นการกล่าวตัดสินโดยมิได้อธิบายถึงสาเหตุการฎออีฟ ซึ่งถือว่าเป็นการตำหนิวิจารณ์ที่ยังคลุมเครือและถูกปฏิเสธในขณะที่มีการชมเชยมารับรองอยู่ และหลักการนี้ก็เหมือนกับคำกล่าวของท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร ในการกล่าวประวัติของมุฮัมมัด บิน บัชชาร ว่า : ท่านอัมร์ บิน อะลี อัลฟัลลาสได้กล่าวว่า มุฮัมมัด บิน บัชชาร นั้นฎออีฟโดยที่ไม่กล่าวถึงสาเหตุการฎออีฟเลย ดังนั้นนักปราชญ์ฮะดิษจึงไม่ให้ความสนใจการตำหนิวิจารณ์ของเขา (ดู หนั้งสือฮัดยุซซารีย์ หน้า 437)
สำหรับคำกล่าวของท่านอะบีลฟัฎล์ อัสสุไลมานีย์ที่ว่า เขานั้นมุงกัรฮะดิษ ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ไม่สามารถนำมาสนับสนุนในการตัดสินฎออีฟต่อท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ ได้เลย ทั้งที่มีการรับรองความเชื่อถือจากท่านอิบนุมะอีนและการชมเชยของท่านอันนะซาอีย์ , ท่านอิบนุฮิบบาน , และท่านอิบนุชาฮีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำกล่าวของท่านอิบนุมะอีนและท่านอันนะซาอีย์นั้นเป็นที่ทราบดีกว่าท่านทั้งสองมีความเข้มงวดในการวิจารณ์นักรายงาน เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ จึงอยู่ในกลุ่มที่พูดจริง(ไม่ถูกกล่าวหาว่าโกหก)และเป็นผู้ที่มีคุณธรรม(อะดาละฮ์)
ดังนั้นเมื่อท่านได้รู้สถานะของท่านอัลฮะกัม บิน อะบาน และท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซแล้ว คำกล่าวของท่านอัซซะฮะบีย์ในหนังสือมีซานุลเอี๊ยะติดาล (4/213) ที่ว่า ฮะดิษของเขา (คือของมูซา บิน อับดุลอะซีซ) นั้นส่วนหนึ่งมาจากบรรดาฮะดิษมุงกัร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัลฮะกัม บิน อะบาน ไม่ใช่เป็นผู้ที่มั่นคงแน่นแฟ้นเช่นกัน นั้นเป็นคำวิจารณ์ที่ต้องการไปยังการชี้แจงอธิบาย(แต่ไม่มี)
ฉะนั้นอะไรคือเป้าหมายของคำว่า บรรดาฮะดิษมุงกัร ? เป้าหมายของมันคือการรายงานเพียงลำพังคนเดียว หรือว่าเป้าหมายคือผู้ที่ฎออีฟได้ทำการรายงานขัดแย้งกับผู้ที่เชื่อถือได้?
สำหรับประการแรกนั้น ฮะดิษของท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ ที่เกี่ยวกับเรื่องละหมาดตัสบีห์นั้น มีนักรายงานกลุ่มหนึ่งได้ทำการรายงานฮะดิษนี้ไว้ ไม่ใช่ท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ เป็นผู้รายงานเพียงลำพังคนเดียวเลยแม้แต่น้อย
ส่วนประการที่สองนั้น ไม่ได้มีรายงานมาเลยว่าเขาได้รายงานฮะดิษมุงกัรที่ไปขัดกับผู้ที่เชื่อถือได้ เพราะท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ ไม่ใช่เป็นผู้ที่ฎออีฟดังที่เราได้นำเสนอผ่านมาแล้ว และตัวท่านอัซซะฮะบีย์เองก็ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลมุฮัซซับ ฟี อิคติซ็อร อัซซุนัน อัลกุบรอ (3/23) ว่า เขานั้นไม่ฎออีฟ
และฮะดิษของท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ นั้น ไม่ได้รายงานขัดกับนักฮะดิษคนใดเลย ยิ่งกว่านั้น กลับรายงานสอดคล้องกับกลุ่มหนึ่งจากนักรายงานฮะดิษ
สำหรับคำกล่าวของท่านอัซซะฮะบีย์ที่ว่า อัลฮะกัม บิน อะบาน ไม่มั่นคงแน่นแฟ้นนั้น แต่ทว่าการที่นักปราชญ์ฮะดิษกลุ่มหนึ่งได้รับรองความเชื่อถือ (ษิเกาะฮ์) ต่อท่านอัลฮะกัม บิน อะบาน ถือว่าเขามีความมั่นคงแน่นแฟ้นตามทัศนะของพวกเขา ดังนั้นผู้ที่มีทัศนะเหมือนกับท่านซุฟยาน บิน อุยัยนะฮ์นั้น ก็จะกล่าวถึง อัลฮะกัม บิน อะบาน ว่า : ฉันได้ไปที่เมืองอัดน์ ดังนั้นฉันไม่เคยเห็นผู้ใดที่จะเหมือนกับอัลฮะกัม บิน อะบานเลย เพราะฉะนั้นคำกล่าวของท่านอัซซะฮะบีย์ ผู้อยู่ในศตวรรษที่ 8 ที่ว่าเขานั้นไม่มั่นคงย่อมไม่มีผลกระทบกับท่านอัลฮะกัม บิน อะบานแต่อย่างใด วัลลอฮุตะอาลาอะลัม
4. ท่านอับดุรเราะห์มาน บิน บิชร์ บิน อัลฮะกัม : เขาเป็นผู้เชื่อถือได้ ท่านบุคอรีย์และมุสลิมได้นำฮะดิษของเขามาเป็นหลักฐาน
หลังจากที่เราได้ทราบสถานะภาพของนักรายงานฮะดิษแล้ว ก็สามารถกล่าวได้ว่า ฮะดิษละหมาดตัสบีห์นี้ อยู่ในเงื่อนไขของฮะดิษฮะซันเหมือนที่ท่านอัลฮาฟิซฺอิบนุญัรและผู้อื่นจากท่านได้กล่าวเอาไว้ ยิ่งกว่านั้นท่านอะบีดาวูดได้กล่าวว่าสายรายงานของฮะดิษนี้ซอฮิห์ และท่านอัลบุคอรีย์ได้นำเสนอสายงานของฮะดิษนี้อย่างสมบูรณ์ไว้ในหนังสือ อัลอะดับอัลมุฟรัด บทที่ว่าด้วยเรื่อง การได้ยินเสียงฟ้าผ่า , และความประเสริฐของ อัลลอฮุศศ่อมัด (ซูเราะฮ์กุลฮุวัลลอฮ์) (ดู 2/184)
และยังมีบรรดาสายรายงานที่มาสนับสนุนสายรายงานของมูซา บิน อับดุลอะซีซ ซึ่งสายรายงานที่สำคัญ ๆ มีดังนี้ :
1. ฮะดิษที่รายงานโดย มุสลิม บิน อิบรอฮีม จาก อัลมุสตะมิร บิน อัรร็อยยาน จาก อะบีอัลเญาซาอฺ จาก อับดุลลอฮ์ บิน อัมร์...ซึ่งเป็นสายรายงานที่ท่านอิมามอะห์มัดประทับใจ คือไม่น้อยไปจากระดับฮะดิษฮะซัน ท่านอะบูบักร อัลค็อลลาล ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอิลัล ว่า อะลี บิน สะอีด ได้กล่าวว่า ฉันได้ถามท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล จากเรื่องละหมาดอัตตัสบีห์ ท่านตอบว่า ไม่มีสิ่งใด ณ ที่ฉันซอฮิห์เกี่ยวกับมันเลย ฉันกล่าวว่า มันเป็นฮะดิษของอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ ท่านอะห์มัดกล่าวว่า ทุกคนที่รายงานฮะดิษของอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ จาก อัมร์ บิน มาลิก นั้นได้มีคำกล่าววิจารณ์ ดังนั้นฉันจึงกล่าวว่า ได้รายงานฮะดิษของอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ โดยอัลมุสตะมิร บิน อัรร็อยยาน จาก อะบี อัลเญาซาอฺ ท่านอะห์มัดจึงกล่าวถามว่า ผู้ใดที่บอกเล่าให้แก่ท่าน? ฉันตอบว่า มุสลิม บิน อิบรอฮีม ท่านอะห์มัดจึงกล่าวว่า อัลมุสตะมิรเป็นอาจารย์ที่เชื่อถือได้ ประหนึ่งว่าท่านอะห์มัดมีความประทับใจกับฮะดิษที่รายงานโดยอัลมุสตะมิร (ดู หนังสืออัจญ์วิบะฮ์ อัลฮาฟิซฺ อะลัลอะฮาดีษ อัลมุนตะเกาะดะฮ์ อะลัลมิชกาฮ์ : 3/179)
2. ฮะดิษที่รายงานโดยอะบูดาวูด (สุนันอะบีดาวูด 2/41) ว่า ได้เล่าให้เราทราบกับเราโดย อะบูเตาบะฮ์ อัรร่อบีอฺ บิน นาฟิอฺ เขากล่าวว่าได้เล่าให้เราทราบโดย มุฮัมมัด บิน มุฮาญิร จาก อุรวะฮ์ บิน รุวัยม์ เขากล่าวว่าได้บอกเล่ากับฉันโดย ชาวอันซอรีย์คนหนึ่งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวให้กับท่านญะอฺฟัรว่า (อะลา อะห์บูก้า...) จนจบฮะดิษ
อะบูเตาบะฮ์ อัรร่อบีอฺ : เขาคือนักจำฮะดิษ ผู้เชื่อถือได้
มุฮัมมัด บิน มุฮาญิร : เขาเชื่อถือได้
อุรวะฮ์ บิน รุวัยม์ : เขาเชื่อถือได้ หรือ เขาศ่อดูก(ไม่เคยถูกกล่าวหาว่าโกหก)
สำหรับ ชาวอัลอันซอรีย์นั้น เขาคือซอฮาบะฮ์ที่ถูกขัดแย้งกันในเรื่องการเจาะจงตัวตนว่าเป็นใคร ดังนั้นท่านอัลฮาฟิซฺ อัลมิซฺซีย์ได้กล่าวว่า เขาคือญาบิร (ดู หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลอัชร็อฟ : 2/219) ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร กล่าวไว้ในหนังสืออัลอะมาลีย์ความว่า เขาคืออบูกับชะฮ์ อัลอันมารีย์ (ดู ชัรห์อัลอัซการ : 4/310)
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การไม่รู้ว่าเป็นซอฮาบะฮ์ท่านใดนั้น ถือว่าไม่มีผลกระทบแต่ประการใด ด้วยเหตุนี้ ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร ได้กล่าวในหนังสืออัลอะมาลีย์ของท่านว่า หากเราได้ดำเนินตามสองสมมุติฐานนี้ สายรายงานของฮะดิษก็ไม่ต่ำจากระดับฮะดิษฮะซัน
ดังนั้น เหล่านี้ก็คือสามสายรายงานที่มีน้ำหนักและสะอาด เมื่อสายรายงานเหล่านี้ได้นำมาร่วมสนับสนุนซึ่งกันและกัน ก็จะถูกตัดสินว่าฮะดิษละหมาดตัสบีฮฺนี้ เป็นฮะดิษซอฮิห์ ตามนัยยะของหลักพิจารณาอัลฮะดิษ วัลลอฮุซุบฮานะฮูวะตะอาลาอะลัม _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 6:03 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมได้ตรวจสอบแล้วว่า มีเพียงเชคอัลบานีท่านเดี่ยวที่บอกว่า หะซัน[quote]
......................................................................
ท่านอัลฮาฟิซอิบนุหะญัร อัลอัสกอลานีย์ กล่าวว่า
والحق انه فى درجة الحسن لكثرة طرقه التى يقوى بها الطريق الأو الى والله اعلم
(تحقيق مشكاة المصا بيح 2/1782)
ท่านมุบาร็อกปูีรีย์ กล่าวว่า
وقد وقع اختلاف اهل العلم فى ان حدث صلاة التسبيح هل هو صحح ام حسن ام ضعيف ام مو ضوع؟ والظهر عندى انه لا ينحط عن درجة الحسن
(تحفة الأحوذى 2/601)
ท่านอะห์มัดมุหัมมัดชากิร กล่าวว่า
وقدبينا حال الرواة فى اسناد هذاالديث ومنه يظهر انه حديث حسن
(2/352الجا مع الصحيح)
ฝากบังคอลิดท้องติงด้วยครับ _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 6:59 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
_________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 2:40 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | ท่านอัลฮาฟิซอิบนุหะญัร อัลอัสกอลานีย์ กล่าวว่า
والحق انه فى درجة الحسن لكثرة طرقه التى يقوى بها الطريق الأو الى والله اعلم
(تحقيق مشكاة المصا بيح 2/1782)
ท่านมุบาร็อกปูีรีย์ กล่าวว่า
وقد وقع اختلاف اهل العلم فى ان حدث صلاة التسبيح هل هو صحح ام حسن ام ضعيف ام مو ضوع؟ والظهر عندى انه لا ينحط عن درجة الحسن
(تحفة الأحوذى 2/601)
ท่านอะห์มัดมุหัมมัดชากิร กล่าวว่า
وقدبينا حال الرواة فى اسناد هذاالديث ومنه يظهر انه حديث حسن
(2/352الجا مع الصحيح)
ฝากบังคอลิดท้องติงด้วยครับ |
ขอบคุณในการนำเสนอ ของนักวิชาการ
อินชาอัลลอฺฮ ขอเวลาค้นคว้า เรื่องนี้อีก อาทิตย์ หรือ สอง อาทิตย์
เพราะตอนนี้ ผมกำลังค้นคว้า ขอเท็จจริงเรื่องนี้
والله أعلم |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 2:42 am ชื่อกระทู้: |
|
|
น้อง f1 บังขอถามน้องหน่อย ว่าน้องเอาคำตอบเรืองนี้มาจากไหน
ช่วยนำมาลงไว้ให้หน่อยคับ ใครเป็นคนตอบ ก๊อบมาจากไหน อินชาอัลลอฮ เราจะได้ชี้แจ้งเร็วๆนี้
والله أعلم |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 3:34 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ถามทำไมครับ คนเก่ง _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 10:44 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ในประเด็นละหมาดตัสเบียะ ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ ซึ่งเป็นนักวิชาการสายชาฟิอีกล่าวไว้ว่า
يستحب صلاة التسبيح ؛ للحديث الوارد فيها ، وفي هذا الاستحباب نظر ; لأن حديثها ضعيف , وفيها تغيير لنظم الصلاة المعروف , فينبغي ألا يفعل بغير حديث , وليس حديثها بثابت , وهو ما رواه ابن عباس رضي الله عنهما
(เจ้าของหนังสือ อัลมุหัซซับกล่าวว่า) "ชอบให้ละหมาดตัสเบียะ เพราะมีหะดิษราย
ในมัน
ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวว่า " และในกรณีบอกว่าชอบให้ทำ(มุสตะหับบะฮ)นี้ ต้องพิจารณา เพราะแท้จริงมันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ และในมัน(การละหมาดตัสเบียะ) เป็นการเปลียนแปลงรูปแบบการละหมาดที่เป็นที่รู้กัน ดังนั้น จึงควรจะไม่ปฏิบัติ โดยไม่มีหะดิษมาสนับสนุน และหะดิษของมัน(ของการละหมาดตัสเบียะ) ไม่แน่นอน คือ หะดิษที่รายงานโดย อิบนุอับบาส (ร.ฎ) ........จนจบหะดิษ
- ดู อัลมัจญมัวะ ชัรหุลมุหัซซับ เล่ม ๓ หน้า ๕๔๗- ๕ถ๘ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
peace มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 22/01/2011 ตอบ: 1
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 10:53 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมอยากรู้ว่า คนที่บอกว่าฮาดิษซิเฮี่ยะฮ-ดออีฟ คือครัยหรอครับ?????????? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 12:37 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เป็นคำถามที่ดีมากครับ ผมขอตอบว่าหลายคนครับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 1:05 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | เป็นคำถามที่ดีมากครับ ผมขอตอบว่าหลายคนครับ |
ผมว่า เป็นคำถามของคน ที่คิดจะถามแต่ไม่อ่านมาแต่ต้น _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 1:20 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ممن ضعف أحاديث صلاة التسابيح : ส่วนหนึ่งจากผู้ที่ระบุว่า บรรดาหะดิษเกี่ยวกับละหมาดตัสเบียะเฎาะอีฟ คือ
الإمام علي بن المديني ، حيث قال في العلل : " هو حديث منكر " ...إلخ
نقل ذلك عنه الحافظ ابن حجر ( إتحاف المهرة 7 / 486 ).
والإمام العقيلي ، حيث قال : "ليس صلاة التسابيح حديث يثبت ".
الضعفاء ( ترجمة أوس بن عبدالله الربعي أبو الجوزاء ).
والإمام أحمد ، فقد نقل عنه ابن قدامة قوله : " ما تعجبني . قيل له :
لم ؟ قال ليس فيها شيءٌ يصح ، ونفض يده كالمنكِر .
المغني ( 2 / 551 ).
والإمام ابن الجوزي ، فقد ذكر أحاديثها في الموضوعات ( 2 / 465 - )
وقال : "هذه الطرق كلها لاتثبت" _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 1:49 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แล้วจะตามผู้รู้กลุ่มไหนล่ะครับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 2:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ f1
คุณไม่เบื่อบ้างหรอ ที่ต้องอยู่ตรงขอบตลอดเวลา
ศาสนายังมีเรื่องต้องให้ทำอีกเยอะ
เอาเวลาที่เราต้องมาคิดเรื่องนี้
เป็นการเน้นความเข้มข้น ในอิบาดะห์เดิมๆ ที่อัลลอฮใช้เรา ไม่ดีกว่าหรือ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 3:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
[/quote]ผมอยากรู้ว่า คนที่บอกว่าฮาดิษซิเฮี่ยะฮ-ดออีฟ คือครัยหรอครับ?[/quote]
................................................................
ในหนังสือ تحفةالأوذى เล่ม 2 หน้า 596 ระบุว่าท่านอิบนุลญูซีย์ กล่าวว่าหะดีษเรื่องนมาซตัสบี้หฺเป็นหะดีษเมาฎูอฺ
ในหนังสือ المجموع ของท่านอิมามอันนะวะวีย์ เล่ม 4 หน้า 55 ระบุว่าท่านอัลอุก็อยลีย์ ท่านอิบนุลอะรอบีย์และท่านอื่นๆกล่าวว่าไม่มีหะดีษศอหี้หฺและหะซันในเรื่องนี้
ตัวท่านเองก็กล่าวในหนังสือเล่มดังกล่าวหน้า 5 ว่าหะดีษเรื่องนี้ฎออีฟ
แต่ขณะเดียวกันท่านกลับกล่าวในหนังสือ تهذيب الأ ساء واللغات ว่าหะดีษเรืองนี้เป็นหะดีษหะซันและกล่าวในหนังสือ الأذ كار ของท่านหน้า 168-269 โดยโน้มเอียงไปในทางยอมรับว่าหะดีษนี้หะซัน
เช่นเดียวกับท่านอิบนุหะญัรกล่าวในหนังสือ تلخيص الحبير เล่ม 2 หน้า 7 ว่าสายรายงานของหะดีษเรื่องนี้ทั้งหมดฎออีฟ
แต่ท่านก็กลับกล่าวในลักษณะโน้มเอียงในด้านการยอมรับหะดีษเรื่องนี้ใน หนังสือ نتائج الأفكار และหนังสือ الخصال المكفرة และกล่าวอย่างชัดเจนในหนังสือ اجوبة عن احاديث المصا بيح ว่าหะดีษเรื่อง
การนมาซตัสบี้หฺเป็นหะดีษหะซันลิฆ็อยริฮี....[/quote] _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 27, 2011 3:18 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | แล้วจะตามผู้รู้กลุ่มไหนล่ะครับ |
อัลลอฮ ให้สติปัญญาเป็นเครื่องมือในการแยกแยะ และตัดสินใจหลังจากที่สมองได้รับข้อมูลแล้ว
การตัดสินใจที่ดีคือ การตัดสินใจโดยมองผลในวันอาคีเราะฮ แม้จะไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่
เพราะเมื่อถึงวันนั้น ไม่มีใครช่วยได้
وبالله التوفيق والهداية _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|