ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
stranger มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 02/09/2010 ตอบ: 4
|
ตอบ: Thu Sep 02, 2010 5:31 am ชื่อกระทู้: การใว้เครา |
|
|
อยากทราบว่าการใว้เครามีสุนัต หรือข้อกำหนดใหมว่าต้องยาวขนาดใหน
แล้วเราจะแต่งเคราให้ดูดีได้ใหม หรือปล่อยเฉยๆเลย
ช่วยชี้แจงให้ทีครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
shabab มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2008 ตอบ: 303
|
ตอบ: Thu Sep 02, 2010 9:51 am ชื่อกระทู้: Re: การใว้เครา |
|
|
stranger บันทึก: |
อยากทราบว่าการใว้เครามีสุนัต หรือข้อกำหนดใหมว่าต้องยาวขนาดใหน
แล้วเราจะแต่งเคราให้ดูดีได้ใหม หรือปล่อยเฉยๆเลย
ช่วยชี้แจงให้ทีครับ |
วาอาลัยกุมมุสลาม วาเราะมาตุลลอฮ
คุณstranger ขอให้เข้าใจเสียใหม่นะครับ ว่า การไว้เคราเป็นวาญิบ ไม่ใช่สุนนะห์
อ่านดูครับ
การไว้เครา
ถือว่าเป็นการน้อมรับคำสั่งของอัลลอฮฺ
อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า
ไม่เป็นการสมควรสำหรับผู้ศรัทธาชายและไม่เป็นการสมควรสำหรับผู้ศรัทธาหญิง ในการที่อัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ได้ทรงกำหนดสิ่งหนึ่งสิ่งใดขึ้นมาแล้วเขานั้นจะเลือกกระทำ(ตามอำเภอใจ) (อัล-อะฮฺซาบ 36)
และอีกโองการหนึ่ง อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า
ดังนั้น จงระวังไว้ให้ดีเถิด บรรดาผู้ที่พวกเขาฝ่าฝืนจากคำสั่งของเขา(มุฮัมมัด)แล้วไซร้ ความฉิบหายจะเกิดขึ้นแก่พวกเขา หรือว่าการลงโทษอันเจ็บปวดรวดร้าวจะเกิดขึ้นแก่พวกเขาเช่นเดียวกัน (อัล-นูร 63)
และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ท่านนบีมุฮัมมัด ได้สั่งใช้เรานั่นก็คือ การขลิบหนวด และไว้เครา
ดังที่ได้มีรายงานมาจากท่าน อิบนุ อุมัร ว่า
ท่านรอซูล ได้สั่งใช้ให้เรานั้นขลิบหนวด และไว้เครา (บันทึกโดย มุสลิม)
และอีกสำนวนหนึ่ง จากท่าน อบูฮุรอยเราะฮฺ ได้กล่าวว่า
สูเจ้าทั้งหลายจงขลิบหนวด(ไม่ใช่โกน) และสูเจ้าทั้งหลายจงไว้เครา และจงทำให้มันแตกต่างจากพวกบูชาไฟ (บันทึกโดย มุสลิม)
ท่านรสูลุลอฮฺกล่าวว่า " ?? ? " ความว่า "พวกท่านจงทำตัวให้แตกต่างจากพวกมุชริก (พวกที่ตั้งภาคี) โดยที่พวกท่านปล่อยเครา และเล็มหนวดของพวกท่านเถิด" (บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 5442)
ครั้นเมื่อท่านนบี ได้เห็นสองผู้แทนจากอาณาจักรเปอร์เซียที่เขาทั้งสองนั้นได้โกนเคราจนเกลี้ยงแล้วไว้แต่หนวดเพียงอย่างเดียว ท่านนบี รู้สึกรังเกียจในการที่จะหันไปมองเขาทั้งสอง ท่านนบี ได้กล่าวแก่พวกเขาทั้งสองคนนั้นว่า ความวิบัติจะประสบยังเจ้าทั้งสอง อันเนื่องมาจากเจ้าทั้งสองได้กระทำสิ่งดังกล่าว(โกนเคราและไว้หนวด)
ผู้แทนทั้งสองได้กล่าวแก่ท่านนบี ว่า พระผู้อภิบาลของเราได้ทรงสั่งใช้เราให้กระทำเช่นนี้ (หมายถึง กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย(กิสรอ)"
ท่านนบีได้ตอบกลับไปว่า หามิได้ แต่ทว่าพระผู้ทรงอภิบาลของข้านั้น พระองค์ได้ทรงสั่งให้ข้าไว้เครา และขลิบหนวด
ซึ่งลักษณะสำนวนคำสั่งใช้ในเรื่องการไว้เครานั้น แสดงให้เห็นว่า การไว้เคราและขลิบหนวดนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตาม เมื่อใครก็ตามที่ได้กระทำตาม เขาก็จะได้รับผลบุญตอบแทน แต่ถ้าในทางกลับกัน หากเขาไม่สนใจและได้ละทิ้งคำสั่งใช้ในเรื่องนี้แล้วละก็ เขาก็จะมีความผิด...
การโกนเครานั้นถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหลักการศาสนา
อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า
และมันผู้ใดใครก็ตามที่ฝ่าฝืนอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ แน่นอนเขานั้นได้หลงทางอย่างชัดเจน (อัล-อะฮฺซาบ 36)
และในอีกโองการหนึ่ง อัลลอฮฺ ตรัสในลักษณะตำหนิอย่างรุนแรงว่า
และผู้ใดใครก็ตามที่ฝ่าฝืนอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ แท้จริงแล้วเขานั้นจะได้อยู่ในไฟนรกญะฮันนัม อย่างตลอดกาล (อัล-ญิน 23)
การที่ท่านนบี ได้สั่งใช้ให้เราขลิบหนวดและเลี้ยงเคราไว้นั้น ถือว่าเป็นการปฏิบัติและรักษาไว้ซึ่งหลักการของศาสนา ท่านนบี ก็ได้กำชับให้เราทั้งหลายตระหนักอยู่เสมอว่าอย่าทำสิ่งที่ฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺและรอซูล และก็เน้นย้ำให้เรานั้นออกห่างในสิ่งที่อัลลอฮฺและรอซูลห้าม..
ดังโองการที่ว่า
และสิ่งใดก็ตามแต่ที่ศาสนทูตได้นำมาให้แก่สูเจ้าทั้งหลาย ดั้งนั้น สูเจ้าทั้งหลายก็จงยึดถือไว้ และสิ่งใดก็ตามที่เขาได้ห้ามดังนั้นสูเจ้าทั้งหลาย ก็จงยุติมันเสีย (อัล-ฮัชรฺ 7)
ท่านนบี ได้กล่าวไว้ว่า
สิ่งใดก็ตามที่ฉันนั้นได้ห้ามสูเจ้าทั้งหลายไว้ ก็จงหันห่างออกจากมันเสียเถิด
(มุตตะฟะกุน อะลัยฮิ)
-----------------------------------------------------
หากจะถามว่า ถ้าตัดตกแต่งเคราให้สั้นพองาม หรือ ยาวแบบไม่รก ได้ป่าวนั้น
คำตอบคือ
เป็นที่ฮารอมสำหรับเขาผู้ชายที่จะตัดตกแต่งให้พองามและยาวแบบไมรก
เพราะดั่งหะดิษที่ระบุไว้ข้างต้นว่านบีสั่งให้ปล่อยเครา ไว้เครา
ไม่ใช่แต่งเครา ตัดเคราให้สั้นเพราะความสวยงามหรือเพราะแฟชั่นนำสมัย
ส่วนจะไว้ยายแค่ไหนนั้นมิได้ถูกระบุไว้ในหะดีษ เพียงแต่บอกว่า ให้เล็มหนวดและปล่อยเครา, แต่เศาะหาบะฮฺบางคนก็ไว้ยาวเท่าหนึ่งกำมือจึงจะสามารถตัดได้
และหากต้องการตกแต่งเพื่อมิให้รกอันเนื่องจากความยาวไปถึงด้านข้างของแก้ม เช่นนี้ก็มิอาจที่จะตัดได้เช่นเดียวกัน
เพราะ ส่วนด้านข้างแก้มนั้น ในคำอธิบายหะดีษอธิบายว่า ด้านข้างของแก้มทั้งสองถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเคราด้วยเช่นเดี่ยวกัน
วัลลอฮฮุอะลัม
วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุร๊อบบี มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 17/07/2008 ตอบ: 10
|
ตอบ: Tue Sep 07, 2010 11:54 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ท่านครับ ตอบ เหมือน ท่าน เชค อุซัยมีน เลย เห็นด้วยอย่างแรงครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
stranger มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 02/09/2010 ตอบ: 4
|
ตอบ: Thu Sep 09, 2010 12:50 am ชื่อกระทู้: |
|
|
แล้วถ้าที่บ้านบอกให้ตัดให้สั้นๆอะครับเพราะว่ามันรกรุงรัง ให้ตัดให้ดีๆหน่อย
แล้วที่บ้านบอกว่าไม่เชื่อฟังแล้วหรอ(ที่ไม่ตัดให้สั้น) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
shabab มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2008 ตอบ: 303
|
ตอบ: Thu Sep 09, 2010 10:02 am ชื่อกระทู้: |
|
|
stranger บันทึก: | แล้วถ้าที่บ้านบอกให้ตัดให้สั้นๆอะครับเพราะว่ามันรกรุงรัง ให้ตัดให้ดีๆหน่อย
แล้วที่บ้านบอกว่าไม่เชื่อฟังแล้วหรอ(ที่ไม่ตัดให้สั้น) |
อัสสลามุอาลัยกุม คุณ stranger ครับ
ท่านรอซูล(ซ ล) กล่าวว่า لا طاعة لمخلوق في معصية الخالق
ไม่อนุญาตให้เชื่อฟังสิ่งถูกสร้าง ให้ฝ่าฝืนผู้สร้าง (หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยอะหฺมัด)
หรือดั่งที่อัลลอฮฺทรงกล่าวในเรื่องที่ พ่อแม่บังคับในเรื่อง การศรัทธาว่า : หากทั้งสองบังคับสูเจ้าให้นำสิ่งใดมาเป็นพระเจ้าร่วมกับฉันโดยที่สูเจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น สูเจ้าจงอย่าได้เชื่อฟังเขาทั้งสอง แต่ถึงกระนั้นก็จงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำความดี (กุรอาน 31:15)
วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
stranger มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 02/09/2010 ตอบ: 4
|
ตอบ: Thu Sep 09, 2010 10:06 am ชื่อกระทู้: |
|
|
shabab บันทึก: | stranger บันทึก: | แล้วถ้าที่บ้านบอกให้ตัดให้สั้นๆอะครับเพราะว่ามันรกรุงรัง ให้ตัดให้ดีๆหน่อย
แล้วที่บ้านบอกว่าไม่เชื่อฟังแล้วหรอ(ที่ไม่ตัดให้สั้น) |
อัสสลามุอาลัยกุม คุณ stranger ครับ
ท่านรอซูล(ซ ล) กล่าวว่า لا طاعة لمخلوق في معصية الخالق
“ไม่อนุญาตให้เชื่อฟังสิ่งถูกสร้าง ให้ฝ่าฝืนผู้สร้าง” (หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยอะหฺมัด)
หรือดั่งที่อัลลอฮฺทรงกล่าวในเรื่องที่ พ่อแม่บังคับในเรื่อง การศรัทธาว่า : “หากทั้งสองบังคับสูเจ้าให้นำสิ่งใดมาเป็นพระเจ้าร่วมกับฉันโดยที่สูเจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น สูเจ้าจงอย่าได้เชื่อฟังเขาทั้งสอง แต่ถึงกระนั้นก็จงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำความดี” (กุรอาน 31:15)
วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ |
ญะซากัลลอฮฺคอยรอน ครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
shabab มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2008 ตอบ: 303
|
ตอบ: Thu Sep 09, 2010 11:53 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ความรักในอัลลอฮฺตะอาลา เป็น ข้อบังคับสำคัญที่สุดที่ผู้ศรัทธาต้องมี เนื่องจากมันเป็นพื้นฐานของอิสลาม ผู้ใดมีความรักอัลลอฮฺตะอาลาอย่างสมบูรณ์ เขาผู้นั้นมีอีมานที่สมบูรณ์ ผู้ใดที่ความรักอันพึงมีต่ออัลลอฮฺตะอาลาหย่อนยาน การยึดมั่นต่อเอกภาพของอัลลอฮฺตะอาลาของเขาก็หย่อนยายไปด้วย ตัวบทหลักฐานในเรื่องนี้ เช่นดังนี้
"...แต่ทว่าบรรดาผู้ศรัทธานั้น พวกเขารักอัลลอฮฺมาก(กว่าสิ่งใด)..." ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 165
" จงกล่าวเถิด(มุหัมมัด) หากบรรดาพ่อของพวกเจ้า บรรดาลูกๆ ของพวกเจ้า บรรดาพี่น้องของพวกเจ้า บรรดาคู่ครองของพวกเจ้า บรรดาเครือญาติของพวกเจ้า บรรดาทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าแสวงหามาได้ บรรดาการค้าที่พวกเจ้ากลัวว่ามันฝืดเคือง และบรรดาที่อยู่อาศัยซึ่งพวกเจ้าพึงพอใจมัน เป็นที่รักใคร่แก่พวกเจ้ามากกว่าอัลลอฮฺและรสูลของพระองค์ และการต่อสู้ดิ้นรนในหนทางของอัลลอฮฺแล้วละก็ ดังนั้นจงรอคอยเถิด จนกว่าอัลลอฮฺจะนำการตัดสินของพระองค์(การลงโทษ)มายังพวกเจ้า และอัลลอฮฺจะไม่นำทางแก่หมู่ชนผู้ละเมิด" ซูเราะฮฺ อัต-เตาบะฮฺ : 24
ยังมีหลักฐานอีกมากในอัลกุรอานและสุนนะฮฺ แต่จะขอละไว้เพียงเท่านี้
ความ รักในอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ยังหมายถึง ความพึงพอใจในสิ่งที่อัลลอฮฺตะอาลาทรงรักและต้องการอยากจะให้บ่าวของพระองค์ รักและต้องการในสิ่งนั้น ดังนั้นผู้ใดที่รักในสิ่งที่อัลลอฮฺตะอาลาทรงรัก และเกลียดในสิ่งที่พระองค์ทรงเกลียด เป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกันเพื่อพระองค์ และยึดมั่นในกฎหมายของพระองค์คืออัล-อิสลามมากเท่าไร ความรักที่เขามีต่อพระองค์ก็มากและเข้มแข็งเท่านั้น
ความรักในท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่ง เป็นหน้าที่ที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งของอิสลาม อันที่จริงแล้ว ความศรัทธาของคนๆหนึ่งจะยังไม่สมบูรณ์จนกว่าเขาจะรักท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มากกว่าตัวเอง ดังเช่นในหะดีษต่อไปนี้
ท่าน รสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "ไม่มีผู้ใดในหมู่พวกท่านจะเป็นผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง จนกว่าฉันจะเป็นที่รักของเขามากกว่าลูกๆของเขา พ่อของเขา และผู้คนทั้งหลาย" บันทึกโดยอิมามมุสลิม หมายเลข 44 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|