ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
AntiRafidah มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 10:37 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณรอฟิเฏาะ israya ตอบอาจารย์อะสัน 2 ข้อความด้านบนไม่ได้เหรอ เห็นเงียบนานจัง รออ่านอยู่ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AntiRafidah มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 10:40 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อความจากอาจารย์อะสัน
-------------------------------------------------
น้องบ่าวชีอะฮ อิสรายา ลองอ่านข้างล่าง
محمد بن الحسن بإسناده عن محمد بن أحمد بن يحيى، عن أبي جعفر، عن أبي الجوزاء، عن الحسين بن علوان، عن عمرو بن خالد، عن زيد بن علي، عن آبائه عن علي عليه السلام قال: " حرّم رسول الله صلى الله عليه وآله يوم خيبر لحوم الحمر الأهلية ونكاح المتعة
มุหัมหมัด บิน อัลหะซัน ด้วยสายรายงานของเขา จากมุหัมหมัด บิน อะหมัด บิน ยะหยา จากอบียะอฺฟัร จาก อบี อัลเญาซาอฺ จาก อัลหุซัยน์ บิน อุลวาน จากอัมริน บิน คอลิด จาก เซด บิน อาลี จาก บิดาของเขา จาก อาลี อะลัยฮิสสลาม กล่าวว่า " รซูลุลลอฮ วะอาลิฮี ได้ห้ามเนื้อลาบ้านและการนิกะหฺมุตอะฮ - ดู วะสาอิลุชชีอะฮ ของท่านหุรอัลอามิลีย์ อัชชีอีย์ เล่ม 14 หน้า 441 หะดิษหมายเลข 32 บทว่าด้วยเรื่อง นิกะห หัวข้อเรื่อง นิกะหมุตอะฮ
...........
ข้างต้น นักวิชาการคนสำคัญของชีอะฮเอง ได้รายงานว่า ท่านอิหม่ามอาลีบอกว่า ท่านนบี ห้ามการนิกะหฺมุตอะฮ แต่..ไม่มีใครออกมาเปิดเผย เพราะถือหลักตะกียะฮ (ปิดบังอำพรางเพื่อความอยู่รอด) เพราะฉะนั้น น้องบ่าวควรใช้วิจารณญานให้ดี ก่อนที่จะสายเกินแก้
**********************************************
ما رواه أحمد بن محمد بن أبي الحسن عن بعض أصحابنا يرفعه إلى أبي عبد الله (ع) قال: لا تتمتع بالمؤمنة فتذلها
สิ่งที่รายงานโดยอะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน อบีอัลหะซัน จากบางส่วนของสหายของเรา เขาได้อ้างมันว่า อบีอับดุลลอฮ (อ)กล่าวว่า " ท่านอย่านิกะหมุตอะฮ กับหญิงผู้ศรัทธา เพราะท่านจะทำให้นางต่ำต้อย - ดู ตะซีบุลอะหกาม เล่ม 7 หน้า 253 หมายเลข 1089 หะดิษที่ 14 (1)
---------
(1)تهذيب الأحكام ج7ص 253 رقم 1089 حديث 14 - باب في تفصيل أحكام النكاح
.........
แสดงว่า มีเหมือนกันคำสอน ชีอะฮ ห้ามมุตอะฮกับสตรีมุสลิมะฮ แล้วสตรีต่างศาสนามุตอะฮได้หรือครับน้อง israya
-------------------------------------------------------
รออ่านคำตอบของคุณรอฟิเฏาะอยู่นะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 2:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
การนิกาห์มุตอะเป็นทางออกที่ดีงาม สำหรับมนุษย์ที่ต้องการรักษากฏเกณฑ์ของอัลลอฮ์
ในอัลกุรอาน ได้อนุมัติไว้ ตามอายะที่เคยบอก ในสมัยนบีก็มีการปฏิบัติ ศอฮาบะนบีมากมายปฏิบัติ ดังที่เคยให้ฮะดีษมา
แต่พวกพ้อง อำมาตย์ของคอลีฟะอุมัรและบริวารรุ่นหลังมาทำไขว้เขวเสียเอง ก็ช่างท่านอุมัรซิครับ
อิบนุอับบาส ยังไม่เห็นด้วยเลย อุละมารุ่นอิบนุตัยมียะฮ์จะมาดีกว่าความรู้ของอิบนุอับบาสได้ไง
หนำซ้ำกลับปั้นแต่งฮะดีษหาว่าอะลี สั่งเลิกด้วย ข้อมูลเท็จ
ชีอะเขามีหลักฐานชัดเจนกับเรื่องนั้น พวกคุณตามแนวทางของคอลีฟะอุมัร ก็ว่าไปซิว่า มุตอะฮะราม มันฮะรามของอุมัร แต่สำหรับอัลลอฮ และนบี และบรรดาอิมามอะฮืลุลบัยต์ ยังไม่ฮะรามครับ
แต่ถามว่า นิกาห์เพื่อให้มีการเสพสังวาสแบบสัปดนที่วาฮาบีเขาทำกัน เรียกว่า มิสยาร นั้น มีหลักฐานและประวัติตอนไหน สมัยนบีไหนครับ กุรอานอายะไหน ครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ali มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 2:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อความต่อไปนี้จากตำราของชีอะฮ์เองมิใช่หรือ
محمد بن الحسن بإسناده عن محمد بن أحمد بن يحيى، عن أبي جعفر، عن أبي الجوزاء، عن الحسين بن علوان، عن عمرو بن خالد، عن زيد بن علي، عن آبائه عن علي عليه السلام قال: " حرّم رسول الله صلى الله عليه وآله يوم خيبر لحوم الحمر الأهلية ونكاح المتعة
มุหัมหมัด บิน อัลหะซัน ด้วยสายรายงานของเขา จากมุหัมหมัด บิน อะหมัด บิน ยะหยา จากอบียะอฺฟัร จาก อบี อัลเญาซาอฺ จาก อัลหุซัยน์ บิน อุลวาน จากอัมริน บิน คอลิด จาก เซด บิน อาลี จาก บิดาของเขา จาก อาลี อะลัยฮิสสลาม กล่าวว่า " รซูลุลลอฮ วะอาลิฮี ได้ห้ามเนื้อลาบ้านและการนิกะหฺมุตอะฮ - ดู วะสาอิลุชชีอะฮ ของท่านหุรอัลอามิลีย์ อัชชีอีย์ เล่ม 14 หน้า 441 หะดิษหมายเลข 32 บทว่าด้วยเรื่อง นิกะห หัวข้อเรื่อง นิกะหมุตอะฮ
หรือคุณ Israya จะบอกว่าเป็นฮะดีสปลอม ทั้งๆที่เป็นสายรายงานของพวกท่านเอง และในตำราของพวกท่านเอง ผมยังงงๆ อยู่ ช่วยชี้แจงหน่อยซิ
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 3:11 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ما رواه أحمد بن محمد بن أبي الحسن عن بعض أصحابنا يرفعه إلى أبي عبد الله (ع) قال: لا تتمتع بالمؤمنة فتذلها
สิ่งที่รายงานโดยอะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน อบีอัลหะซัน จากบางส่วนของสหายของเรา เขาได้อ้างมันว่า อบีอับดุลลอฮ (อ)กล่าวว่า " ท่านอย่านิกะหมุตอะฮ กับหญิงผู้ศรัทธา เพราะท่านจะทำให้นางต่ำต้อย - ดู ตะซีบุลอะหกาม เล่ม 7 หน้า 253 หมายเลข 1089 หะดิษที่ 14 (1)
---------
(1)تهذيب الأحكام ج7ص 253 رقم 1089 حديث 14 - باب في تفصيل أحكام النكاح
.........
แสดงว่า มีเหมือนกันคำสอน ชีอะฮ ห้ามมุตอะฮกับสตรีมุสลิมะฮ แล้วสตรีต่างศาสนามุตอะฮได้หรือครับน้อง israya
ถ้าคุณมีประสบการณ์กับตำราและคำสอนของบรรดาอิมามอะฮลุลบัยต นะครับ จะเห็นได้ว่า พวกท่านจะพิถีพิถันมากในการจะเรียกคนมุสลิมทั่วไปว่ามุมิน เพราะหลักการในอัลกุรอาน ก็พิถีพิถัน ดังมีอายะ14. อาหรับชาวชนบทกล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า พวกท่านยังมิได้ศรัทธา แต่จงกล่าวเถิดว่า เราเข้ารับอิสลามแล้ว เพราะการศรัทธายังมิได้เข้าสู่หัวใจของพวกท่าน (*1*) นี่คือ นิยามคำว่า มุมินะ ของอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ ซึ่งเปนไปตามมาตรฐานกุรอาน
บรรดาชีอะทุกคนจะพัฒนาตัวเองให้เป็นมุมิน หรือมุมินะ ตามนัยยะนี้ จะไม่ทำทั้งบาปเล็กบาปใหญ่ เพื่อจะได้เป็นผู้ศรัทธาจริงๆ ไม่ใช่ศรัทธาเท่าแต่ลมปาก ก็ส่วนมากหญิงที่รับการมุตอะเพื่อการเสพสุขกับชีอะ ก็มักจะมาจากสังคมซุนนีนั่นเอง ซึ่งถือว่า พวกนางอยู่ในเกณฑ์มุสลิมต้นๆ ยังไม่เข้า่เกณฑ์มุมินะ ตามมาตรฐานของชีอะที ไงละครับ ก็เท่านั้นเอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 3:23 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
محمد بن الحسن بإسناده عن محمد بن أحمد بن يحيى، عن أبي جعفر، عن أبي الجوزاء، عن الحسين بن علوان، عن عمرو بن خالد، عن زيد بن علي، عن آبائه عن علي عليه السلام قال: " حرّم رسول الله صلى الله عليه وآله يوم خيبر لحوم الحمر الأهلية ونكاح المتعة
มุหัมหมัด บิน อัลหะซัน ด้วยสายรายงานของเขา จากมุหัมหมัด บิน อะหมัด บิน ยะหยา จากอบียะอฺฟัร จาก อบี อัลเญาซาอฺ จาก อัลหุซัยน์ บิน อุลวาน จากอัมริน บิน คอลิด จาก เซด บิน อาลี จาก บิดาของเขา จาก อาลี อะลัยฮิสสลาม กล่าวว่า " รซูลุลลอฮ วะอาลิฮี ได้ห้ามเนื้อลาบ้านและการนิกะหฺมุตอะฮ - ดู วะสาอิลุชชีอะฮ ของท่านหุรอัลอามิลีย์ อัชชีอีย์ เล่ม 14 หน้า 441 หะดิษหมายเลข 32 บทว่าด้วยเรื่อง นิกะห หัวข้อเรื่อง นิกะหมุตอะฮ
ตำราของนักปราชญ์ ไม่ใช่ตำราของอิมามเองเมื่อไหร่เล่า นักฮะดีษที่บันทึกโดยทั่วไป ก็เหมือนๆกัน คือบันทึกไว้ ยังไม่ได้ตรวจสอบ หรือตรวจสอบแล้ว แต่ยังมีขาดตก บกพร่อง
แต่ฮะดีษนี้ อยู่ในกลุ่มที่เขาบันทึกให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า นี่ไง หลักฐานนี้ เป็นของปลอมนะครับ ก็เท่านั้นเอง
บรรดาอุละมาชีอะ ก็เหมือนอุละมาพวกคุณอีกอย่างตรงที่จะเลือก จะตรวจสอบก่อนยึดถือฮะดีษใดๆ
แต่ยังไงๆ ก็คงไม่เหมือนอุละมาที่เลือกเอาฮะดีษใส่ร้ายพ่อแม่นบีว่าตกนรก แทนที่จะยึดอัลกุรอาน หรือฮะดีษอื่นๆที่ขัดแย้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 3:36 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ทั้งปีเลย
พอยกหลักฐานตรงนี้มา ตรงนั้นมาก็บอกไม่ซอแฮะห์บ้าง ยังไม่ได้มีการแยกบ้าง
เช่นเรื่องที่ชีอะห์กล่าวว่าอัลกุรอ่านที่แท้จริง เล่มนั้นยังคงอยู่กับอีหม่ามมะห์ดีเพียงผู้เดียว
พอซุนนะห์เขาว่าเรื่องนี้ ก็บอกว่า ฮะดิษนี้ไม่ซอแฮะห์ (แต่อุลามาชีอะห์เอาไปเขียนเป็นหนังสืออีกร้อยเล่ม)
แต่เที่ยวสอนลูกศิษย์ชีอะห์รอฟิเฏาะห์ว่า วันนี้ให้ตะกียะห์ไปก่อน เดี๋ยวอีหม่ามมะห์ดี (อีหม่ามในนิทาน) มา แล้วมาเจอกัน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ali มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 3:49 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อาจารย์อะสันได้ยกหลักฐานจากตำราของชีอะฮ์ว่า
ما رواه أحمد بن محمد بن أبي الحسن عن بعض أصحابنا يرفعه إلى أبي عبد الله (ع) قال: لا تتمتع بالمؤمنة فتذلها
สิ่งที่รายงานโดยอะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน อบีอัลหะซัน จากบางส่วนของสหายของเรา เขาได้อ้างมันว่า อบีอับดุลลอฮ (อ)กล่าวว่า " ท่านอย่านิกะหมุตอะฮ กับหญิงผู้ศรัทธา เพราะท่านจะทำให้นางต่ำต้อย - ดู ตะซีบุลอะหกาม เล่ม 7 หน้า 253 หมายเลข 1089 หะดิษที่ 14 (1)
---------
(1)تهذيب الأحكام ج7ص 253 رقم 1089 حديث 14 - باب في تفصيل أحكام النكاح
และคุณ Israya ได้ตอบว่า
บรรดาชีอะทุกคนจะพัฒนาตัวเองให้เป็นมุมิน หรือมุมินะ ตามนัยยะนี้ จะไม่ทำทั้งบาปเล็กบาปใหญ่ เพื่อจะได้เป็นผู้ศรัทธาจริงๆ ไม่ใช่ศรัทธาเท่าแต่ลมปาก ก็ส่วนมากหญิงที่รับการมุตอะเพื่อการเสพสุขกับชีอะ ก็มักจะมาจากสังคมซุนนีนั่นเอง ซึ่งถือว่า พวกนางอยู่ในเกณฑ์มุสลิมต้นๆ ยังไม่เข้า่เกณฑ์มุมินะ ตามมาตรฐานของชีอะที ไงละครับ ก็เท่านั้นเอง
นั่นแสดงว่า ชีอะฮ์ยอมรับว่ามีข้อห้ามเรื่องมุตอะฮ์จากอิหม่ามของพวกท่านจริง
แต่หญิงที่จะทำมุตอะฮ์ด้วยต้องไม่ใช่ มุอ์มินะห์ หมายถึงหญิงที่ไม่ได้เป็นชีอะฮ์
แต่ถ้าเป็นหญิงที่เป็นชีอะฮ์ก็ถือว่าเป็นข้อห้าม
ผมเข้าใจถูกไหม
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 4:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ปรากฏในตำราชีอะฮว่า
محمد بن أبي عمير، عن عبد الله بن سنان
قال: سألت أبا عبد الله عليه السلام عن المتعة فقال: لا تدنس نفسك بها
มุหัมหมัด บิน อบี อุมัยรฺ จากอับดุลลอฮ บิน สะนาน กล่าวว่า ข้าพเจ้าได้ถามอบูอับดุลลอฮ อะลัยฮิสสลาม เกี่ยวกับนิกะหฺมุตอะฮ แล้วเขากล่าวว่า ท่านอย่าได้ทำให้ตัวของท่านมัวหมอง(มีมลทิน)ด้วยมัน - ดู อัลบิหารุลอันวาร์ เล่ม 100 หน้า 103 และ อัลมุสตัดรอ็ก อัลมะสาอีล ของ อิหม่ามอัฏฏูสีย์(อุลามาอฺชีอะฮ) เล่ม 14 หน้า 445
عن عمار قال: قال أبو عبد الله لي ولسليمان بن خالد: ( قد حرمت عليكما المتعة )
จากอัมมาร กล่าวว่า อบูอับดุลลอฮ ได้กล่าวแก่ข้าพเจ้าและ สุลัยมาน บิน คอลิด ว่า (แท้จริงฉันได้ห้ามการนิกะหฺมุตอะฮแก่ท่านทั้งสอง - ดู ฟุรูอัลกาฟีย์ เล่ม 2 หน้า 48 และวะสาอิลุชชีอะฮ เล่ม 14 หน้า 450
.............................
รายงานสองบทข้างต้น ทำไมชีอะฮ อย่างน้อง จึงแอบตะกียะฮไว้ไม่เปิดเผย รายงานที่หนึ่ง เขาบอกว่า การเล่นมุตอะฮ ทำให้มัวหมองมีมลทิน ส่วนรายงานที่สองบอกถึงการห้ามเล่นมุตอะฮ มันอะไรกันแน่ครับน้องบ่าว?
عن زراة قال جاء عبد الله بن عمير الي ابي جعفر ( الباقر ) فقال ما تقول في متعة النساء؟ فقال ابو جعفر احلها الله في كتابه وعلي لسانه نبيه فهي حلال الي يوم القيامة وذكر كلاما طويلا , ثم قال ابو جعفر لعبدالله بن عمير هلم الي ألاعنك فأقبل عليه عبدالله بن عمير وقال ايسرك ان نسائك وبناتك واخواتك وبنات عمك يفعلن ذلك؟ يقول فاعرض عنه ابو جعفر وعن مقالته عندما ذكر له نسائه وبناته وبنات عمه
รายงานจากซะรอตกล่าวว่า อับดุลลอฮ บินอุมัยรฺ(เป็นชาวซุนนีย์) ได้มายังอบียะอฺฟัร (อัลบากีร) แล้วกล่าวว่า ท่านมีความเห็นอย่างไรในการมุตอะฮกับบรรดาผูหญิง?
แล้วอบูยะอฺฟัร กล่าวตอบว่า อัลลอฮ ทรงอนุมัติมันในคัมภีร์ของพระองค์ และโดยผ่านวาจาของศาสดาของพระองค์ แล้วมันหะลาล(อนุมัติ จนถึงวันกิยามะฮ และเขาได้ระบุคำพูดเสียยาว ต่อมา อบูยะอฟัร ได้กล่าวกับอับดุลลอฮ บิน อุมัยรฺว่า มาข้างฉันซิ.. ฉันจะบอกกับท่าน(หมายถึง ว่า การนิกะหมุตอะฮนั้นหะลาล) แล้ว อับดุลลอฮ บิน อุมัยรฺ ก็ได้มาหาเขา(อบียะอฺฟัร) พร้อมกล่าวว่า
( ท่านพอใจที่จะให้บรรดาภรรยาของท่าน, บรรดาบุตรสาวของท่าน,บรรดาพี่น้องหญิงของท่าน และบรรดาบุตรสาวของพี่น้องของท่านกระทำ ดังกล่าวนั้นไหม ? ( หมายถึงการนิกะห์มุตอะฮ) แล้วอบูยะฮ ก็ผินหลังให้เขาเมื่อเขา(อับดุลลอฮ บิน อุมัยร์) และคำพูดของเขา เมื่อเขา ระบุ บรรดาภรรยา,บรรดาบุตรสาวและบรรดาบุตรสาวของพี่น้องของเขา - ดู ตะฮซีบุลอะหกาม ของ อัฏฏูสีย์ เล่ม 2 หน้า 186 และ ฟุรูอุลกาฟีย์ เล่ม 2 หน้า 42
............
มันแปลกใหม? น้องบ่าว israya ที่อิหม่ามของชีอะฮ อนุมัติให้นิกะฮ มุตอะฮได้ แต่ กลับไม่พอใจ เมื่อมีผู้ถามถึงลูกเมียและญาตของตัวเอง ว่า ยินดีไหมถ้าพวกนางจะนิกะหมุตอะฮ ก็สรุปว่า ลูกหลานคนอื่นฉันอนุญาต และลูกเมียฉัน ฉันไม่ยอมให้เล่นมุตอะฮ ที่น้น้องบ่าวจะว่าอย่างไร
อย่าตอบนะว่า ชีอะฮเขาปลอมมา _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 6:21 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เราถกกันว่า มุตอะ ฮะลาล หรือฮะรอม กันแน่ ฝ่ายชีอะบอกว่า ยังฮะลาลอยู่ เพราะเป็นทางออก
หนึ่ง ที่อัลลอฮ์ ให้ความเมตตาแก่มนุษย์ เพราะว่าโทษทัฑ์ของการทำซินานั้นใหญ่หลวงนัก
เรายังไม่เข้าใจกันอีกหรือว่า อย่านำเอาความรู้สึก หรือความเห็นส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับหลักการ
เพราะบางที ความรู้สึกส่วนตัวของเรา อาจไม่เห็นด้วย แต่นั่นไม่ใช่ศาสนา ถ้าศาสนาบอกว่า ฮะ
ลาล ก็ต้องบอกว่าฮะลาลตาม ในหลักการวาฮาบี (บางคน)ถือว่า อะไรที่ไม่ระบุว่าฮะรามในกุรอาน
ย่อมนำมาเป็นอาหารได้ทั้งสิ้น ไม่ว่างู เต่า ตะพาบน้ำ ลิง ค่าง บ่าง ชะนีฯลฯ
ผมเคยพบว่าอาจารย์คนหนึ่งแถวอัลอะตีก เคยฟัตวาให้กินแลน(ตะกวด)ตะพาบน้ำได้
มีฮะดีษในตำราของพวกท่าน ระบุท่านบีอนุญาตให้สาวกกิน ฎ็อบ (บางคนแปลว่า แย้) แต่ส่วนตัว
ท่านไม่กิน
ฉะนั้นการทีท่านยกตัวของบรรดาอิมามมาแสดงด้วยความลิงโลด เพื่อให้ชีอะได้ฉงนใจนั้น คุณ
คาดผิดมากครับ เพราะการมุตอะ เป็นเพียงหลักการที่อนุญาตเท่านั้น สำหรับคนที่ไม่ตกอยู่ใน
ปัญหาใดๆ จะทำไปทำไม ? แต่มิได้หมายความว่า ถ้าทำมุตอะแล้วจะฮะราม มันคนละเรื่อง
มีอีกตั้งเยอะแยะที่ศาสนาอนุญาตแต่ความรู้สึกของเราไม่ชอบตามไปด้วย
เราไม่ต้องทำไปด้วยทุกสิ่ง เช่นศาสนาอนุญาตให้มีเมียถาวรได้ ๔ คน คุณมีคนที่ ๒ ที่ ๓ แล้วยัง
ครับ ? จำเป็นต้องมีไหม ? ความเห็นส่วนตัวและความรู้สึกของคนทั่วไปจะพอใจด้วยไหม ?โดย
เฉพาะ เมียคนแรกของคุณจะพอใจไหม ? บิดามารดาของภรรยาคนแรกจะพอใจ กระโดโลด
เต้นด้วยไหม ที่ลูกเขยตัวเองมีภรรยาอีกคน และได้กระทำในสิ่งที่ศาสนาอนุญาต ?ก็เช่นเดียว
กันครับ คุณพบฮะดีษที่อิมามไม่ชอบการให้ลูกหลานของท่านทำมุตอะ แต่ผมก็พบฮะดีษที่ท่านนบี
ไม่กินสัตว์บางชนิด ที่อนุญาตให้กิน ฉะนั้น ก่อนจะทำตื่นเต้นกับเรื่องใดๆ ทีหลังคิดหน้าคิดหลัง
ให้รอบคอบก่อนนะ คนจะนึกหยันในใจเอาได้การมุตอะ เป็นเรื่องอนุญาตเสมอ เหมาะสำหรับ
คนที่อยู่ในสภาวะไม่ปกติ ดังที่ได้อธิบายไปแล้ว เป็นทางหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาสังคม ไม่ต้อง
ทำการเฆี่ยนตี หรือขว้างด้วยก้อนหินรายวัน ฉะนั้น ในสังคมของพี่น้องซุนนีที่ไม่มีหลักมุตอะ จึง
สุ่มเสี่ยงอย่างมาก จะไม่มีทางเลือกให้กับตัวเองเลยในยามเผชิญกับปัญหาอุปสรรค นอกจากสอง
ทางเท่านั้นคือ นิกาห์ถาวร กับซินา
ไม่ต้องพูดถึงการสมสู่กันหรอกครับ เพียงจูงมือกันข้ามถนน ชีอะก็ทำไม่ได้ เพราะถือว่าเข้าใกล้
การซินาเสียแล้ว อิมามอะลีจึงพูดไว้ว่า ถ้าการทำมุตอะไม่ถูกสั่งห้าม(ในสมัยท่านอุมัร) แน่นอนจะ
ไม่มีคนทำซินา นอกจากมนุษย์ที่ชั่วร้ายเศษสถุลที่สุดเท่านั้น เราจึงมั่นใจว่า ในสังคมที่ไม่เชื่อ
ถือเรื่องมุตอะ ในยุคปัจจุบัน จะมีการทำซินาอย่างแพร่หลายแน่นอน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ali มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 6:41 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เอ้ !! ทำไมถึงกระโดดข้ามข้อความของผมไปได้
ลวงทวนใหม่อีกทีละกัน
อาจารย์อะสันได้ยกหลักฐานจากตำราของชีอะฮ์ว่า
ما رواه أحمد بن محمد بن أبي الحسن عن بعض أصحابنا يرفعه إلى أبي عبد الله (ع) قال: لا تتمتع بالمؤمنة فتذلها
สิ่งที่รายงานโดยอะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน อบีอัลหะซัน จากบางส่วนของสหายของเรา เขาได้อ้างมันว่า อบีอับดุลลอฮ (อ)กล่าวว่า " ท่านอย่านิกะหมุตอะฮ กับหญิงผู้ศรัทธา เพราะท่านจะทำให้นางต่ำต้อย - ดู ตะซีบุลอะหกาม เล่ม 7 หน้า 253 หมายเลข 1089 หะดิษที่ 14 (1)
---------
(1)تهذيب الأحكام ج7ص 253 رقم 1089 حديث 14 - باب في تفصيل أحكام النكاح
และคุณ Israya ได้ตอบว่า
บรรดาชีอะทุกคนจะพัฒนาตัวเองให้เป็นมุมิน หรือมุมินะ ตามนัยยะนี้ จะไม่ทำทั้งบาปเล็กบาปใหญ่ เพื่อจะได้เป็นผู้ศรัทธาจริงๆ ไม่ใช่ศรัทธาเท่าแต่ลมปาก ก็ส่วนมากหญิงที่รับการมุตอะเพื่อการเสพสุขกับชีอะ ก็มักจะมาจากสังคมซุนนีนั่นเอง ซึ่งถือว่า พวกนางอยู่ในเกณฑ์มุสลิมต้นๆ ยังไม่เข้าเกณฑ์มุมินะ ตามมาตรฐานของชีอะที ไงละครับ ก็เท่านั้นเอง
นั่นแสดงว่า ชีอะฮ์ยอมรับว่ามีข้อห้ามเรื่องมุตอะฮ์จากอิหม่ามของพวกท่านจริง
แต่หญิงที่จะทำมุตอะฮ์ด้วยต้องไม่ใช่ มุอ์มินะห์ หมายถึงหญิงที่ไม่ได้เป็นชีอะฮ์
แต่ถ้าเป็นหญิงที่เป็นชีอะฮ์ก็ถือว่าเป็นข้อห้าม
ผมเข้าใจถูกไหม
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ali มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 6:45 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แล้วต่อไปนี้ก็จากตำราของชีอะฮ์เอง สายรายงานของชีอะฮ์ที่สืบถึงอิหม่ามของพวกท่านเอง
محمد بن أبي عمير، عن عبد الله بن سنان
قال: سألت أبا عبد الله عليه السلام عن المتعة فقال: لا تدنس نفسك بها
มุหัมหมัด บิน อบี อุมัยรฺ จากอับดุลลอฮ บิน สะนาน กล่าวว่า ข้าพเจ้าได้ถามอบูอับดุลลอฮ อะลัยฮิสสลาม เกี่ยวกับนิกะหฺมุตอะฮ แล้วเขากล่าวว่า ท่านอย่าได้ทำให้ตัวของท่านมัวหมอง(มีมลทิน)ด้วยมัน - ดู อัลบิหารุลอันวาร์ เล่ม 100 หน้า 103 และ อัลมุสตัดรอ็ก อัลมะสาอีล ของ อิหม่ามอัฏฏูสีย์(อุลามาอฺชีอะฮ) เล่ม 14 หน้า 445
عن عمار قال: قال أبو عبد الله لي ولسليمان بن خالد: ( قد حرمت عليكما المتعة )
จากอัมมาร กล่าวว่า อบูอับดุลลอฮ ได้กล่าวแก่ข้าพเจ้าและ สุลัยมาน บิน คอลิด ว่า (แท้จริงฉันได้ห้ามการนิกะหฺมุตอะฮแก่ท่านทั้งสอง - ดู ฟุรูอัลกาฟีย์ เล่ม 2 หน้า 48 และวะสาอิลุชชีอะฮ เล่ม 14 หน้า 450
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AntiRafidah มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 8:13 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สังเกตว่ารอฟิเฏาะ israya ชี้แจงแบบใช้ความคิดตัวเองมั่วเอาเองล้วนๆ ไม่มีการยกคำอธิบายความ
มาจากตำราของชีอะห์เอง แต่อย่างใดเลย ไหนละจะมาบอกว่าหะดีษของชีอะห์เองนั้นปลอม
ก็มันอธิบายอยู่ในตำราเล่มไหน หนังสืออะไรของชีอะห์ล่ะ ที่บอกว่าปลอม ทำไมไม่ยกมา เราจะได้ไปเช็คดู
เออ แต่ก็จะให้ยกมาได้ไง ตำราของรอฟิเฏาะเองแท้ๆ รอฟิเฏาะตัวนี้ยังอ่านไม่จบสักเล่มเลยนี่เนาะ
ก็อบบทความเป็นอย่างเดียว แถมผิดซ้ำผิดซากอีกต่างหาก
เจอหะดีษของลัทธิตัวเองบอก ก็เลยช็อตไปเลย อาศัยตักกียะห์เอาตัวรอดไปวันๆ
ชี้แจงที่อาจารย์อะสัน กับคุณ ali ถามไว้ให้ตรงจุดด้วยนะ อย่ามัวแต่เลี่ยงไปเลี่ยงมา รออ่านอยู่ 555+ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 9:38 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ถ้าคุณมีประสบการณ์กับตำราและคำสอนของบรรดาอิมามอะฮลุลบัยต นะครับ จะเห็นได้ว่า พวกท่าน
จะพิถีพิถันมากในการจะเรียกคนมุสลิมทั่วไปว่ามุมิน เพราะหลักการในอัลกุรอาน ก็พิถีพิถัน ดังมี
ในซูเราะฮ อัลฮุญุรอต อายะ14. อาหรับชาวชนบทกล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า
พวกท่านยังมิได้ศรัทธา แต่จงกล่าวเถิดว่า เราเข้ารับอิสลามแล้ว เพราะการศรัทธายังมิได้เข้าสู่
หัวใจของพวกท่าน
นี่คือ นิยามคำว่า มุมินะ ของอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ ซึ่งเปนไปตามมาตรฐาน
กุรอาน
[B] |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Wed Oct 07, 2009 10:00 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ israya ครับ
ขอความกรุณาอย่ายกเอา อะห์ลุลบัยต์ ของท่านนบี มาอยู่ในที่นี้
พวกเราอะห์ลุสซุนนะห์รักและให้เกียรติพวกท่านทั้งหมด
สิ่งที่แตกต่างระหว่างท่านกับเรา ไม่ใช่เรื่องความรักที่มีให้กับอะห์ลุลบัยต์
แต่เป็นเรื่องของอากีดะห์ ที่พวกท่านไม่ศรัทธาว่าอัลกุรอ่านที่เราอ่านนั้นคือฉบับสมบูรณ์
ไม่มีลูกหลานของนบีคนใดศรัทธาเหมือนพวกท่าน และสิ่งที่พวกท่านอ้างถึง
ก็ล้วนแต่เป็นการกุขึ้นมา
ขออัลลอฮทรงประทานความเมตตาแด่วงศ์วานของท่านนบี ตลอดจนบรรดาภรรยาของท่านทั้งหมด และบรรดาศอฮาบะห์ผู้เป็นที่รักของท่านนบีด้วยเถอด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|