ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Sat Jun 26, 2004 10:12 am ชื่อกระทู้: รู้ไว้ได้ประโยชน์ ประวัติเมาลิด |
|
|
อัสสะลามมุอะลัยกุม
### เมาลีด ###
ประเพณีอีกอย่างหนึ่งที่มุสลิมนิยมทำกันมา จนเข้าใจกันโดยทั่วๆไปว่า เป็นการประฎิบัติศาสนากิจ
อย่างหนึ่งพร้อมกับอ้างกันว่าเป็นเรื่องสุนัต ขณะเดียวกันก็มีมุสลิมอีกไม่น้อยที่ถือว่าการกระทำดังกล่าว ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนา แต่เป็นเรื่องบิดอะฮฺ และได้มีการถกเถียงกันมาช้านาน
เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจในเรื่องนี้อย่างละเอียด จึงขอนำเรื่องนี้มาเสนอ
คำว่า เมาลิด เป็นภาษาอฺรับแปลว่า วันเกิด เมาลิดนบี จึงแปลว่า วันเกิดของนบี
ซึ่งตรงกับวันที่ 12 เดือน รบีอุลเอาวัล เมื่อครบรอบทุกๆปีจะมีการจัดทำเมาลิดนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัย
ฮิวะซัลลัม เป็นการเฉลิมฉลองวันสำคัญดังกล่าวไว้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Sat Jun 26, 2004 10:17 am ชื่อกระทู้: |
|
|
วิธีทำโดยทั่วๆไปก็คือ เจ้าภาพได้เชิญแขกมายังสถานที่ ที่เตรียมไว้ เมื่อได้เวลาแล้ว
ผู้อาวุโสหรือผู้ทรงคุณวุฒิก็จะเริ่มพิธีโดยเริ่มอ่าน ฟาติหะฮฺ หนึ่งจบ แล้วเริ่มอ่านบทกลอนของ
บัรซันญี เริ่มตั้งแต่คำว่า อับตะดีอุลอิมลาอฺ ไปจนถึงประโยคที่ว่า ฟะวะลาดัตหฺศ็อลลัลลอ
ฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นูร็อยยะตะละอุสะนาฮฺ จากนั้นทุกคนก็จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าว
ศ็อลลัลลอ และจากนั้นบรรดา ละแบ ทั้งหลายคอยรับสร้อยที่ว่า
ยา นบีสะลามอะลัยกะ ยา รซูลสะลามอะลัยกะ ยาหะบีบสะลามอะลัยกะ เศาะลาวา
ตุลลอฮฺ อะลัยกะ ส่วนหัวหน้าก็จะนำอ่าน อัซรอก็อลบัดรุอะลัยนา
ครบสองบาท บรรดาละแบจะกล่าวสร้อยข้างต้นรับครั้งหนึ่ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Sat Jun 26, 2004 10:20 am ชื่อกระทู้: |
|
|
การอ่านนี้ หัวหน้าจะอ่านไปสักประมาณ 10 บาทของบทโคลงดังกล่าว แล้วข้ามไปอ่านตอนท้าย
ที่มีเนื้อหาเป็นคำขอพรจนจบ เมื่อจบแล้ว ทั้งหมดก็นั่งลงพร้อมกันจากนั้นก็อ่าน อีซีกุโบร์
อีกครั้งหนึ่ง ตามวิธีในบทก่อน แล้วจึงมาอ่านดุอาอฺเป็นเสร็จพิธี
จากนั้นก็ถึงเวลาเลี้ยงอาหารกัน กินกันจนอิ่มหนำสำราญแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
หรือไม่ก็ไปกิน เมาลิด ต่อที่บ้านอื่น หรือมัสญิดอื่นอีกต่อไป ทั้งนี้เพราะบางแห่งทำวันเดียวกัน
หลายราย บรรดาผู้ถูกเชิญก็ต้องตระเวนไปร่วมอย่างไม่เสียดายเวลา
และเป็นที่น่าสังเกตุว่าอยู่อย่างหนึ่งว่า ในเมืองไทยเรานี้มีการทำเมาลิดกันตลอดทั้งปี
ไม่ใช่ว่าทำเฉพาะในวันที่ตรงกับวันที่นบีเกิดเท่านั้น ดังนั้น จึงอาจจะกล่าวได้ว่า
ในเมืองไทยเรานี้ ท่านนบีฯ มีวันเกิดมากที่สุดในโลก |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Sat Jun 26, 2004 10:23 am ชื่อกระทู้: |
|
|
## ประวัติเมาลิด ##
การจัดงานวันคล้ายวันเกิดของท่าน นบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นี้ จากหน้าประวัติศาสตร์
อิสลามบอกเราว่า ในสมัยท่าน นบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และสมัยเคาะลีฟะฮฺทั้งสี่
ก็ไม่เคยมีใครกระทำมาก่อน ในหนังสือ ประวัติพิธีเมาลิดนบี ของท่านหะสัน อัส ซันดูบี
หน้า 22 กล่าวว่า
แท้จริง ฤดูการหรือวันสำคัญหรือวันอีดและอื่นๆนั้น ถูกนับว่าเป็นเรื่องบิดอะฮฺที่อัลลอฮฺไม่ทรง
อนุญาต และไม่เคยมีคำบอกเล่าชี้ให้เห็นว่า ท่านรซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
เคยสั่งให้ทำหรือสนับสนุน หรือว่าเคยเกี่ยวข้องด้วยคำพูดหรือการกระทำก็ไม่มี
นอกจากอีดอัฎฮา และอีดิลฟิตรฺเท่านั้น และเช่นเดียวกันบรรดาเศาะหะบะฮฺก็ไม่เคยรู้จัก
เลยแม้แต่คนเดียว บรรดาตาบิอีนหลายๆระดับชั้นก็ไม่เคยเห็น บรรดาอิมามที่เป็นมุจญ์ฮิด
ซึ่งเป็นนักวางรากฐานกฎเกณฑ์ และสาธยายข้อปลีกย้อยของศาสนา ก็ไม่เคยพูดถึงเลยแม้แต่น้อย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Sat Jun 26, 2004 10:29 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ท่านจะเห็นแล้วว่า จากหน้าประวัติศาสตร์อิสลามระบุว่า เรื่องการทำเมาลิด
ท่าน นบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ท่าน นบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยทำ
บรรดาเคาะลีฟะฮฺทั้งสี่มี อบูบักรฺ อุมัรฺ อุษมาน และอะลี ไม่เคยทำ
บรรดาเศาะหะบะฮฺทุกระดับ ไม่เคยทำ ไม่เคยรู้เห็น
บรรดาตาบิอีน ทุกระดับชั้น ไม่เคยทำ และไม่เคยรู้เห็น
บรรดาอิมามต่างๆ ซึ่งมี หะนะฟี มาลิกี ชาฟิอี และฮัมบาลี ไม่เคยกระทำและ
ไม่เคยออกความเห็น
ทั้งๆที่ท่านเหล่านี้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นนักการศาสนา
เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าที่ริเริ่มทำเมาลิดขึ้นเป็นคนแรก
ยังมีต่อ อินชาอัลลอฮฺ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 8:26 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
จากหน้าประวัติศาสตร์อีกเหมือนกันบอกให้เราทราบว่า เมาลิดนบีฯ อุบัติขึ้นครั้งแรกในยุค
ของสุลฎอนฟาฎิมี ซึ่งในหนังสือมีข้อความดังนี้
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยตามประสงค์ สุลฎอน (สุลต่าน ) มุอิซลิดีนิลลาฮฺ เริ่มคิดหาทางโน้มน้าว
จิตใจ ตลอดจนครอบงำจิตใจชาวอียิปต์ เพื่อให้ประชาชนชาวอียิปต์ เห็นดีกับรัฐบาลใหม่
ในด้านนโยบายปกครองประเทศ และเมื่อประชาชนชาวอียิปต์มีแนวโน้มไปในทางรักษาวงค์
ตระกูลของท่านรอซูลฯ กอปรกับพวกฟาฎิมีก็เป็นสายหนึ่งจากตระกูลนี้ สุลฎอนมุอิซจึงเห็นว่า
วิธีที่จะให้ถึงเป้าหมายของท่านได้ง่ายที่สุดก็คือ การอาศัยงานซึ่งมองกันภายนอก แล้วจะมองเห็น
งานที่เกี่ยวกับศาสนา จึงได้คิดจัดงานวันพิธีต่างๆ ขึ้นโดยกำหนดวันเวลาเอาไว้
ที่สำคัญที่สุดก็คืองานพิธีรำลึกถึงวันเกิดท่าน นบีศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ผู้ประเสริฐ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 8:27 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ก็เป็นอันทราบกันอย่างชัดเจนแล้วว่า งานเมาลิดนบีฯ อุบัติขึ้นครั้งแรกในสมัยสุลฎอน
มุอัซลิดีนิลลาฮฺ สุลต่านหรือสุลฎอนของราชวงค์ฟาฎิมี ซึ่งปกครองอียิปต์เมื่อปี ฮ ศ 362
สาเหตุที่สุลฎอนคิดจัดงานเมาลิดขึ้นก็เนื่องจากว่า ฝ่ายฟาฎิมีซึ่งเป็นผู้พิชิตวงค์วาน
อับบาสียะฮฺ และได้เข้ามาครองอียิปต์ใหม่ๆ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นชอบหรือจะพูดอิกอย่าง
คือ อยากให้ประชาชนเชียร์รัฐบาลใหม่อย่างเต็มที่ จึงได้จัดเมาลิดขึ้น เป็นงานเฉลิมฉลอง
วันเกิดของท่านนบีฯ ซึ่งทุกคนต้องชอบ เหมือนกับเมืองไทยเรา
หากองค์พระประมุขเสด็จร่วมงานเมาลิดก็ทำให้ทุกคนชื่นชมยินดี
จึงพอสรุปตอนนี้ได้ว่า
1 ตระกูลแรกที่ทำเมาลิด คือ ฟาฎิมี
2 คนแรกที่ทำเมาลิด คือ สุลฎอนมุอิซลิดีนิลลาฮฺ
3 ปีแรกที่ทำเมาลิด คือ ฮ ศ 362
4 ประเทศแรกที่ทำเมาลิด คือ อียิปต์
5 ระดับแรกที่จัดงานเมาลิด คือ ระดับชาติ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 8:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
บรรยากาศของงานเมาลิดสมัยนั้นเต็มไปด้วยความครึกครื้น สถานที่ต่างๆประดับ ประดา
ด้วยแสงสี มีเสียงการอ่านกุรอานทุกๆมัสญิด จัดสถานที่สำหรับแจกจ่ายทานแก่คนยากจน
มีขบวนแห่แบบสวนสนาม มีขบวนทหารม้าถือธง ขบวนแห่ทหารราบ ขบวนเจ้าหน้าที่รัฐบาล
ขบวนพ่อค้าประชาชน ทุกคนต่างแซ่สร้องสรรเสริญให้รัฐบาลใหม่จงเจริญยิ่งๆขึ้น
และพิธีกรรมอย่างนี้ ลูกหลานของสุลฎอนมุอิซลิดีนิลลาฮฺ ได้ยึอถือปฎิบัติต่อๆมา
กับได้แพร่ออกไปยังหัวเมืองต่างๆเช่น สิเรีย ยะมัน(เยเมน) มอร็อคโค อาฟริกา และอันดาลุส
(สเปน) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 8:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
## เมาลิดในยุคต่อมา ##
ในปี ฮ ศ 488 สุลฎอนอัล มุสตะอฺลีบิลลาฮฺ ได้ขึ้นครองราชย์ มีท่าน อัฤฎ็อล ชาฮันหฺ เสนาบดี
ซึ่งมีหัวรุนแรง ท่านได้ประกาศงดจัดงานเมาลิดต่างๆโดยสิ้นเชิง ขณะนั้นมีพิธีเมาลิด4อย่างคือ
1 เมาลิดท่าน นบีฯ
2 เมาลิดท่านอะลีฯ
3 เมาลิดท่านหญิงฟะฎิมะฮฺ (บุตรี นบีฯ)
4 เมาลิดของสุลฎอนฟาฎิมี
นับแต่งานเมาลิด นบีฯ อุบัติขึ้นมาครั้งแรกจนถึงปี ฮ ศ 488 ก็ถูกสั่งงดโดยสิ้นเชิง
หลังจากได้ทำสืบเนื่องต่อมา 126 ป๊ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 8:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ในปี ฮ ศ 495 สุลฎอนอัล อามิรฺ บิอะหฺกามิลลาฮฺ ขึ้นครองราชย์ ได้มีข้าราชการไกล้ชิดกับสุลฎอน
ตลอดจนคนอื่นๆ ในหลายงวการด้วยกัน ต่างเรียกร้องให้นำงานเมาลิดขึ้นมาจัดกันอีก
ทุกฝ่ายได้พยายามชี้แจงกับสุลฎอนอัล อามิรฺ บิอะหฺกามิลลาฮฺ โดยอ้างประโยชน์ทางการเมือง
ทางสังคมและอี่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านจิตใจของประชาชนชาวอียิปต์ ว่าจะมีผลได้อย่าง
มากมาย แต่ความเพียรพยายามของบุคคลในหลายๆ วงการที่จะให้สุลฎอน
ได้จัดงานเมาลิด นบี ขึ้นใหม่ ยังไม่ประสบความสำเร็จ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 8:36 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ครั้นเมื่อปี ฮ ศ 514 เสนาบดีของสุลฎอนชื่อ อัล อัฟฎ็อล ถูกลอบสังหารตาย สุลฎอนจึงได้ประกาศให้จัดงานเมาลิด นบี ขึ้นใหม่ คำประกาศนี้ได้ประกาศแก่ประชาชนเมื่อวันที่ 14 เดือนรบีอุลเอาวัล
ฮ ศ 514 ในการทำเมาลิดครั้งนั้น มีจดหมายเหตุบันทึกไว้ว่า ได้ใช้เงินไปหกพันดิรฺฮัม
อาหารสำรับใหญ่สี่สิบสำรับ ขนมหวานสี่ร้อยชั่ง ขนมปังคิดเป็นน้ำหนักหนึ่งพันชั่ง
ได้แจกจ่ายของต่างๆเหล่านี้แก่บรรดาผู้ยากจน
ต่อมาปี ฮ ศ 567 ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการปกครองจากราชวงศ์ฟาฎิมี มาอยู่กับราชวงศ์
อัยยูบี ผู้เป็นสุลฎอนราชวงศ์อัยยูบี คือ เศาะลาฮุดดีน ผู้พิชิดสงครามครูเสดได้ยกเลิกงานพิธีต่างๆ
ที่ยุคก่อนท่านทำมา รวมทั้งงานพิธีเมาลิด นบีฯ ด้วย ทั้งนี้เป็นการยกเลิกพิธีแบบทางการเท่านั้น แต่เอกชนก็ยังจัดทำกันตามประเพณีอยู่ ซึ่งปรากฎในหนังสือประวัติกล่าวว่า |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Wed Jun 30, 2004 7:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ทว่า ความคิดเกี่ยวกับพิธีรำลึกวันเมาลิด นบีได้กลายมาเป็นความรู้สึกที่ฝังอยู่ในจิตใจ
ของประชาชน เป็นประเพณีที่สำคัญและกลายมาเป็นทางของความยึดมั่นที่จำเป็นต้องปฎิบัติ
เป็นพิธีที่ยากแก่การลืม หรือทอดทิ้งเมื่อเวลามาถึง ด้วยเหตุนี้ ประชาชนจึงได้ร่วมกันจัด
พิธีดังกล่าวขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง โดยไม่ต้องคอยผู้นำชักจูงหรือผลักดัน
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทางการหรือไม่ก็ตาม (หน้า 79 ประวัติเมาลิด นบี )
ในปี ฮ ศ 586 กษัตริย์อัยยูบีที่มีนามว่า มุศ็อฟฟะรุดดีน ผู้ครองเมือง อิรฺบิล
ได้รื้อฟื้นงานเมาลิด นบีฯ ขึ้นมาจัดอีก เป็นการจัดพิธีเมาลิดระดับรัฐบาล ได้มีหนังสือเวียน
เชิญประชาชนไกล้เคียง เช่น ชาวบัฆดาด เมาซิล ญะซีเราะฮฺ อีรอนมา ร่วมงาน
พวกที่ถูกเชิญจะทยอยออกเดินทางจากเมืองของตน ตั้งแต่เดือนมุฮัรฺร็อม และมาร่วมกันใน
ตอนต้นเดือนรบิอุลเอาวัลพอดี งานในยุคนี้จึงใหญ่โตมาก มีทั้งมหรสบบันเทิงตลอดงาน
ก่อนงานวันจริงสองวัน พวกข้าราชการจะได้แห่แหนสัตว์ที่จะนำไปเชือดทำอาหารเลี้ยงแขก
มีวัว อูฐ แพะ แกะเป็นฝูงๆ จึงนับได้ว่าเป็นพิธีที่ใหญ่โตมากเป็นประวัติการณ์
ได้มีผู้เขียนหนังสือสรรเสริญเยินยอการกระทำดังกล่าว จนเจ้าเมืองเกิดพอใจให้รางวัลแก่
คนแต่งหนังสือมาแล้ว เช่น ซัยคฺ อะบุลค็อฎฎ็อบ อิบนุ ดิฮฺยะฮฺ ได้รับรางวัลเป็น
เงินหนึ่งพันดีนารฺ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Wed Jun 30, 2004 7:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มีอีกท่านหนึ่งได้เขียนหนังสือชมเชยไว้คือ ท่านซัยคฺ อบูชามะฮฺ ท่านกล่าวว่า
การกระทำดังกล่าว (งานเมาลิด ) เป็นของดี ควรส่งเสริม ควรขอบใจและสรรเสริญผู้กระทำ
ท่านอบูชามะฮฺผู้นี้เป็นอาจารย์ของอิมามนะวาวี อุละมาอฺแห่งมัซฮับชาฟิอีผู้หนึ่ง แล้วต่อมามีผู้
อ้างทัศนะของท่านว่า การทำเมาลิดเป็นสุนัต ซึ่งผู้เขียนจะได้เก็บมาวิจารณ์ใบทที่เกี่ยวกับหลักฐานของฝ่ายผู้สนับสนุนทำเมาลิดต่อไป
เป็นที่น่าสังเกตุอยู่อย่างหนึ่งคือ ท่านมุศ็อฟฟารุดดีนได้จัดงานทำเมาลิด บางปีถือเอาวันที่8
บางปีถือเอาวันที่ 12เดือนรบีอุลเอาวัล ทั้งนี้ก็เนื่องจากเหตุที่ว่า บางฝ่ายเชื่อว่าท่าน นบีฯ
เกิดวันที่ 8 เดือนรบีอุลเอาวัล แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าท่านเกิดวันที่ 12 ดังนั้นเพื่อให้ทุกฝ่ายพอใจ
ท่านจึงจัดงานเมาลิดบางปีเอาวันที่ 8 บางปีก็เอาวันที่ 12 นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ผู้ปกครองจะเอาใจประชาชน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Wed Jun 30, 2004 7:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
งานเมาลิดยังกระทำกันมาตลอดสมัยท่านมุศ็อฟฟารุดดีน จวบจนกระทั่งปี ฮ ศ 630
ท่านมุศ็อฟฟารุดดีนสิ้นชีพไป ก็ไม่มีใครได้กระทำขึ้นมาอีก เป็นอันระงับไปตั้งแต่นั้น
จนถึงปี ฮ ศ 785 ท่านศอฮิรฺ บัรฺกูด ผู้เป็นกษัตริย์ครองอียิปต์ ได้ฟื้นพิธีจัดงานเมาลิดขึ้นมาอีก
เป็นการจัดงานระดับรัฐบาล มีสิ่งที่แปลกไปจากงานรุ่นก่อนอยู่หน่อยคือ
ท่านศอฮิรฺ บัรฺกูด ได้ใช้ทองคำแท้แจกจ่ายแก่ผู้ร่วมงานเมาลิด รวมแล้วเป็นน้ำหนัก 1000
มิษกอล (หนึ่งมิษกอล เท่ากับ หนึ่งดิรฺฮัมครึ่ง ) งานเมาลิดได้มีตลอดสมัยของท่าน
ปี ฮ ศ 845 เป็นสมัยของสุลฎอลซัยฟุดดีน จักมุก ได้จัดงานเมาลิด นบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม โดยจัดอ่านประวัติท่าน นบีฯ อย่างละเอียด ในยุคนี้ มีอาลิมผู้หนึ่ง คือ ท่านอิบนุ เญาซี
ได้เขียนสรรคุณของการทำเมาลิดไว้ว่า
ที่ประสบมาแล้วจากสรรพคุณของเมาลิดคือ ความปลอดภัยตลอดปี
กับเป็นนิมิตดีที่จะได้รับสิ่งที่ตั้งปรารถนาไว้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Wed Jun 30, 2004 7:36 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ปี ฮ ศ 872 สุลฎอลอัชร็อฟ ก็อยตะบาย ก็จัดงานเมาลิด และสุลฎอลคนต่อๆมา
ก็ยังถือการจัดงานเมาลิดเป็นประเพณีทุกปี
มาในปี ฮ ศ 922 ฝ่ายตุรฺกีโดยการนำของสุลฎอลสะลีมได้เข้ามาตีเมืองอียิปต์ และยึดเป็นเมือง
ขึ้นได้ เมื่อจัดตั้งข้าหลวงประจำอียิปต์เรียบร้อยแล้ว สุลฎอลสะลีมก็เดินทางหลับตุรฺกี
ข้าหลวงผู้มีนามว่า เครฺเบย์ ก็ได้ฟื้นฟูประเพณีของชาวอียิปต์ขึ้นมาจัดทำรวมทั้งงานเมาลิดด้วย
ทั้งนี้เพื่อเอาใจประชาชนชาวอียิปต์ ซึ่งต้องสูญเสียเอกราชแก่ชาติตุรฺกีนั่นเอง
ต่อมาในปี ฮ ศ 1213 ฝรั่งเศสได้บุกเข้ายึดอียิปต์ โดยการนำของนโปเลียน อียิปต์จึงตกเป็น
เมืองขึ้นของฝรั่งเศส ทหารฝรั่งเศสก็เล็งเห็นความสำคัญของประเพณีจัดงานเมาลิด
ได้มอบหมายให้ชัยคฺ เคาะลีล อัล บักรี แห่งอัซฮัร จัดงานฉลองเช่นก่อน แรกๆท่านไม่ยอมทำ
อ้างว่าบ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย แต่ฝ่ายฝรั่งเศสถืออำนาจออกคำสั่งให้จัดงานเมาลิดขึ้น
และได้ให้เงินกับชัยคฺ เคาะลีล 300 เหรียน เพื่อเป็นเงินช่วยค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง สถานที่
ที่สุดชัยคฺ เคาะลีล จึงยอมรับจัดงาน ฝรั่งเศสครองอยู่จนถึง ฮ ศ 1216 ก็ถอนตัวออก
การจัดงานเมาลิดในระยะฝรั่งเศสเข้ายึดครอง เป็นการจัดในวงแคบไม่ได้แพร่หลายออกไป
ตามหัวเมืองต่างๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|