ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 8:56 am ชื่อกระทู้: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
ก่อนอื่นขอนำคำของ ท่าน ร่อซูล กล่าวว่า
จงพูดแต่ความจริงเถิดถึงแม้ว่ามันจะขมขึ่นก็ตาม
อาชูรอ เป็นคำอรับ แปลว่า ที่สิบ หมายถึงวันที่สิบ
เดิอนมุฮัรฺร็อม ซึ่งเป็นเดือนหนึ่งของอรับ มีความสำคัญดังนี้
1 .ให้ถือศิลอด
ท่านหญิงอาอิชะฮฺเล่าว่า ก่อนนี้ท่านนบี มุฮัมมัดสั่งให้ถือศิลอดในวันอาชูรอ
(วันที่สิบมุฮัรฺร็อม)ต่อมาเมื่ออัลลอฮฺกำหนดให้ถือศิลอดในเดือนรมฎอน
วันอาซูรอนั้นใครจะถือหรือไม่ก็ได้
2.เป็นวันสำคัญของยะฮูดี
อิบนุ อับบาสเล่าว่า ท่านนบีได้เดินทางไปมดีนะฮฺ ก็เห็นยะฮูดีถือศิลอดใน
วันอาซูรอ ท่านนบี จึงสอบถามว่า ถือศิลอดทำไม ก็ได้รับคำตอบว่า
เป็นวันสำคัญที่อัลลอฮฺทรงให้นบีอิสรออีลปลอดภัย ท่านนบีมูซาได้ถือในวันนี้
เหมือนกัน ท่านนบี จึงพูดว่า
เราทั้งหลายควรจะยกย่องนบีมูซายิ่งกว่าท่านทั้งหลายเสียอีก
ท่านนบี ก็ถือศิลอดและสั่งให้บรรดามุสลิมถือศิลอดด้วย
3. เป็นวันสำคัญในสมัยญาฮิลียะฮฺ
ท่านหญิงอาอิซะฮฺเล่าว่า วันอาซูรอนั้นเป็นวันที่ชาวกุร็อยช์ในสมัยญาฮิลียะฮฺ
ถือศิลอดกัน ท่านนบี ก็เคยถือเช่นกัน ต่อมาเมื่อนบีไปอยู่มดีนะฮฺ ก็ยังถืออยู่
และสั่งให้มุสลิมถือศิลอดในวันนั้นด้วย ต่อมาเมื่ออัลลอฮฺทรงกำหนดศิลอดใน
เดือนรมฎอน ท่านนบี จึงงดศิลอดในวันอาชูรอ แต่ใครจะถือหรือไม่ก็ได้
4. เป็นวันที่เอาผ้าไปคลุมกะฮฺบะฮฺ
ท่านหญิงอาอิชะฮฺเล่าว่า บรรดามุสลิมได้ถือศิลอดในวันอาชูรอกัน
ทั้งนี้ก่อนการกำหนดศิลอดเดือนรมฎอน และวันอาชูรอนี้เป็นวันที่
เขานำผ้าไปคลุมกะฮฺบะฮฺด้วย
ข้อความทั้งหมดที่เป็นหะดีษคัดมาจากบุคอรี กิตาบุศเศาวฺมุ
และกิตาบอัลหัจญ์ เท่าที่ปรากฎตามซุนนะฮฺก็ให้ถือศิลอดในวันอาชูรอเท่านั้น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 8:58 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
ส่วนเรื่องกวนขนมกิน หรือมีการตั้งข้อรังเกียจว่าเดือนมุฮัรร็อมหรือทั่วๆไป
เรียกว่าเดือน มะหะร่าม ไม่ให้ทำการสมรส ไม่ให้สร้างบ้าน แม้แต่สร้างรังนก
รังไก่ก็ไม่ได้นั้น ไม่มีปรากฎตามซุนนะฮฺเลยแม้แต่น้อย
มีอยู่ว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
จากหน้าประวัติศาสตร์อิสลาม เราจะพบว่าวันอาชูรอเป็นวันวิปโยคของมุสลิม
โดยเฉพาะฝ่ายชีอะฮฺ ทั้งนี้เพราะท่านหุซัยนฺ(ฮุเซ็น) หลานรักของท่านนบี ฯ
ถูกฆ่าตายในวันนี้ มิใช่จะถูกฆ่าให้ตายในอย่างเดียว แต่ยังถูกบั่นคอด้วย
รายละเอียดพอสรุปได้ว่า
เมื่ออะลีเคาะลีฟะฮฺที่สี่ถูกลอบสังหารแล้ว ลูกชายคนโตชื่อหะซัน ก็ควรจะได้สืบ
ตำแหน่งเคาะลีฟะฮฺแทนพ่อ แต่หะซันเห็นว่ากระแสการเมืองกำลังผันผวนจึงปล่อยมือ
ไม่ยอมยุ่งเกี่ยวด้วย ทำให้ฝ่ายนิยมอะลีมองมายังหุซัยนฺเป็นจุดเดียวกัน และที่สุด
พวกสนับสนุนดังกล่าวซึ่งเป็นชาวอิร็อก(อิรัค) ก็มีหนังสือถึงหุซัยนฺ
ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่มดีนะฮฺขอร้องให้เดินทางไปอีร็อกเพื่อจะตั้งให้เป็นเคาะลีฟะฮฺแทนพ่อ
หุซัยนฺก็ได้จัดรวบรวมสมัครพรรคพวกและครอบครัวของท่านรวมประมาณ80คน
ออกเดินทางมุ่งหน้าไปอีร็อก ก่อนหน้าที่หุซัยนฺจะออกเดินทางทั้งนี้มีบุคคลสำคัญๆ
และศอหะบะฮฺของท่านนบี ฯ ได้พยายามทักท้วงการเดินทางครั้งนี้ว่าไม่ปลอดภัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิทธิพลทางฝ่ายมุอาวียะฮฺในประเทศชาม(ซีเรีย)นั้นกำลังแผ่ขยาย
ไปทุกแห่งและฝ่ายมุอาวียะฮฺก็เคยรบพุ่งกับอะลีผู้เป็นพ่อของหุซัยนฺมาแล้ว |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 8:59 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
อัมรุบนุ อับดุรฺเราะหฺมาน ก็ได้ทัดทานหุซัยนฺไว้มิให้เดินทาง เพราะไม่แน่ใจว่า
พวกที่มีจดหมายมาถึงหุซัยนฺนั้นจะช่วยเหลือร่วมเป็นร่วมตายกับท่านจริงจังหรือไม่
ท่านอิบนุอับบาสก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ทัดทานการเดินทางของหุซัยนฺว่ามันไม่ปลอดภัย
อิบนุอับบาสได้สาธยายให้ฟังว่า
พวกอีร๊อกนั้นเป็นพวกหักหลังเก่ง เกรงพวกเขาจะลวงท่านเท่านั้น ขอให้อยู่มดีนะฮฺ
อย่างเดิมเถิด อย่างน้อยท่านก็เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ถ้าพวกอีร็อกต้องการตัวท่าน
แล้วไซร้ก็ขอให้ขจัดเสี้ยนหนามหรือศรัตรูของท่าน และศรัตรูที่เคยเป็นอริกับพ่อ
ของท่านให้หมดไปเสียก่อนแล้วท่านค่อยเดินทางไป หรือหากท่านไม่อยากอยู่
มดีนะฮฺ อยากไปอยู่ที่อื่น ก็ขอเสนอให้ไปอยู่ที่ยะมัน(เยเมน)ก็ได้
เพราะที่นั่นเป็นเมืองอุดมสมบูรณ์ และผู้ที่นิยมชมชอบท่านพ่อของท่าน
(คือท่านซัยยิดินาอะลี)ก็มีไม่น้อย
อิบนุ อับบาสพยายามชี้แจงเท่าไรๆ หุซัยนฺก็ยืนกรานจะไปท่าเดียว
เมื่อทัดทานไม่อยู่แล้ว อิบนุอับบาสก็บอกว่า
ถ้าจะไปจริงๆก็อย่าเอาลูกเมียไปด้วยเลย เพราะหากเกิดเรื่องราวขึ้นมาจริงๆจะยุ่งยาก |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 9:00 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
ท่านหุซัยนฺไม่ยอมรับฟังท่าเดียว ในที่สุด อิบนุ อับบาสก็ต้องให้ท่านออกเดินทางไป
อิร๊อกตามประสงค์ เมื่อท่านเดินทางไปถึงเมือง นีนะวา ก็พบกับทหารฝ่ายชาม
(ซีเรีย)ภายใต้การนำของอุมัรฺ อิบนุ สอัด อิบนุ อบีวักก็อศ ได้มีการต่อรองกันระหว่าง
ฝ่ายหุซัยนฺกับฝ่ายทหารชาม ซึ่งฝ่ายหลังต้องการให้หุซัยนฺยอมรับรองการเป็น
เคาะลีฟะฮฺของ ยะซีด ซึ่งเป็นฝ่ายราชวงศ์มุอาวียะฮฺ หากไม่ยอมก็จะจับคุมตัว
เป็นจำเลยลงไปให้ ยะซีด พิพากษา ส่วนหุซัยนฺเสนอว่า เมื่อไม่ให้เดินทางไปอิร๊อก
ก็ยินดีจะเดินทางกลับสู่มดีนะฮฺอย่างเดิม แต่ทหารฝ่ายชามไม่ยินยอม
เมื่อตกลงกันไม่ได้ก็มีทางเดียวคือ จับอาวุธต่อสู้กัน เหตุนี้เกิดเมื่อ
วันที่สิบเดือนมุฮัรฺร็อม ปีฮิจเราะฮฺศักราช 61
ฝ่ายหุซัยนฺและพรรคพวกมีกำลังเพียง 80 คน ส่วนทหารชามมีกำลังเป็นพันคน
เมื่อประอาวุธกันไม่นานฝ่ายน้อยก็ตายเรียบแม้แต่ตัวท่านหุซัยนฺเอง
คงเหลือรอดชีวิตอยู่ก็แต่เด็กๆและผู้หญิงซึ่งถูกจับตังส่งไปยัง ยะซีด ที่ชาม
พร้อมทั้งศีรษะของหุซัยนิด้วย
อนิจจา ..เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านร่อซูลต้องมาตายด้วยน้ำมือของพวกมุสลิมด้วยกัน
เท่านั้นยังไม่พอ หุซัยนฺผู้เป็นหลานในใส้ของท่านร่อซูลยังถูกบั่นศีรษะออกจากร่าง
อย่างน่าอนาถอีกด้วย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 9:02 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
จากเหตุการครั้งนี้เอง ทำให้ฝ่ายผู้นิยมท่านอะลีและวงศ์ตระกูลของท่านได้รับความ
กระทบกระเทือนใจอย่างใหญ่ยิ่ง เป็นวันที่พวกเขาสูญเสียผู้ที่เขารักปานแก้วตา
ไปอย่างไม่มีวันกลับ จึงร่วมใจกันไว้อาลัยแก่หุซัยนฺโดยการไม่ยอมกระทำสิ่งไดๆ
ทั้งสิ้น ไม่มีการแต่งตัว ไม่มีการตกแต่งบ้านช่อง ระงับงานรื่นเริงสนุกสนาน
สิ้นเชิงทุกคนจะอยู่กับบ้านอย่างเศร้าสลด และเมื่อไม่ได้ออกจากบ้านช่อง
ไปร้านตลาดก็อาศัยถั่วงาและอื่นๆ ที่มีอยู่นำออกมาต้มมาผัดกินเป็นอาหาร
ด้วยเหตุนี้กระมังจึงถ่ายทอดมาเกิดเป็นขนมกวนอาชูรอขึ้นในบ้านเรา
รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่หุซัยนฺต้องสิ้นชีวิตลงดังได้สรุปมานี้จะค้นคว่าใน
ตำราอาหรับได้ เช่น หนังสือประวัติศาสตร์อิสลาม ยุคมุอาวียะฮฺของ
ชัยคฺ มุฮัมมัด อัลคุฎอรี เล่ม 2หน้า124..130
เขากวนถั่ว กวนแป้ง เพราะไม่ได้ออกไปจ่ายตลาดหาของมากินเนื่องจากเสียใจ
ที่ต้องสูญเสียบุคคลสำคัญ
แต่พวกเราอาจจะเสียใจถ้าไม่ได้กวนขนมอาชูรอ หรือไม่ได้กินขนมอาชูรอ
จริงอยู่การกวนขนมอาชูรอ และเชิญมิตรสหายมาร่วมรัปประทานกันเป็นประเพณี
อันดีงามที่ควรจะช่วยให้มีอยู่ต่อไป แต่พึงทราบว่า
การกวนขนมอาชูรอ ไม่เกี่ยวกับศาสนา
การเชิญคนมารัปทาน ก็ไม่มีตัวบทขอพรที่จะต้องขอกัน
โดยเฉพาะก่อนหรือหลังการรัปประทานขนมนี้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 9:03 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
โปรดวางใจให้ถูกต้อง
มีผู้กล่าวกันว่า ขนมอาชูรอนี้เป็นมาตั้งแต่สมัน นบีนูฮฺ เมื่อตอนหลังน้ำท่วมโลก
เรือเกยแห้งแล้วไม่มีอะไรกิน ก็ได้เอาของเหลือๆมารวมๆ กันแล้วต้มกินกัน
คำบอกเล่าดังกล่าวไม่มีมูลแห่งความจริงแต่ประการใด ซึ่งจะมีหลักฐานอ้างอิกต่อไป
ส่วนการชักชวนให้ดุอาอฺ(ขอพร) พิเศษก็ดี การทำทานหรืออื่นๆก็ดี ล้วนเป็นสิ่ง
ที่ศาสนาอิสลามสนับสนุนอยู่แล้ว ไม่ใช่เจาะจงให้ทำในวันอาชูรอเท่านั้น
เคยมีผู้อ้างว่า วันอาชูรอนี้อัลลอฮฺทรงอภัยแก่ นบีอาดัม
ทรงให้ นบีนูฮฺปลอดภัย ทรงให้อิบรอฮีมพ้นจากการถูกเผา ฯลฯ
ก็ไม่มีมูลแห่งความจริงแต่ประการใด ผู้เขียนขอนำคำของหนังสือ
อัสนัลมะฎอลิบ หน้า 277 มีข้อความดังนี้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 9:04 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
อนึ่ง สิ่งนอกเหนือจากได้กล่าวมาแล้ว (คือ การถือศิลอดวันอาชูรอ) นั้นซึ่งมี
การกระทำกันแพร่หลายในวันอาชูรอ เช่น ให้ทาอายแชดด้ว์(ทายาขอบตา)
การแต่งตัวด้วยอาภรณ์สวยงาม ให้เยี่ยมเยียนผู้รู้และญาติและอื่นๆนั้นไม่มีสิ่งได
ที่ถูกต้อง(จากหลักฐาน) ไว้เลย เพียงแต่สิ่งดังกล่าวนั้นเป็นการกุขึ้นของพวก
ผู้สังหารหุซุยนฺซึ่งถือว่า(วันอาชูรอ)เป็นวันรื่นเริงสมหวัง ขณะเดียวกันฝ่าย
รอฟิเฎาะฮฺถือเอาเป็นวันไว้อาลัย ส่วนที่กล่าวในหนังสือ ยาหอม (ตัรฺฆิบ) ว่า
อัลลอฮฺทรงอภัยแก่ นบีอาดัม ในวันอาชูรอ ก็ดี อัลลอฮฺทรงให้ นบีนู้ฮฺปลอดภัย
ในวันอาชูรอ ก็ดี อัลลอฮฺทรงให้อิบรอฮีมพ้นจากการถูกเผาในวันอาชูรอก็ดี
อัลลอฮฺทรงให้อัยยูบหายจากโรคร้ายในวันอาชูรอก็ดี อัลลอฮฺทรงให้ยูนุสออกมา
จากท้องปลาในวันอาชูรอก็ดี อัลลอฮฺทรงให้ยะอฺกูบพบกับยูสุปในวันอาชูรอก็ดี
หรืออัลลอฮฺทรงให้คัมภีร์เตาร็อตลงมาในวันอาชูรอก็ดี ฯลฯ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น
ความเท็จ ปราศจากรากฐานแห่งความเป็นจริงใดๆทั้งสิ้น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 9:06 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
##นิสฟูซะอฺบาน
ตามความรู้ของเราทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ทรงคุณาวุฒิหรือไม่ก็ตามต้องเข้าใจว่า
วันนิฟูซะอฺบาน เป็นวันสำคัญอย่างยิ่งยวดของศาสนา ดังจะได้ยินคำประกาศ
จากผู้เป็นท่านครูบอกให้รู้ว่าวันนั้น วันนี้เป็นค่ำของวันนิฟูซะอฺบาน และให้ประกอบ
ศาสนกิจ ซึ่งมีหลายอย่างด้วยกัน เช่นให้ทำการละหมาดนิสฟูซะอฺบาน สองร็อกอะฮฺ
หรือถ้าให้ได้100ร็อกอะฮฺยิ่งดี ให้อ่านยาซีนสามจบ แต่ละจบให้ตั้งเจตนาขอโดย
เฉพาะเสร็จจากนั้นให้ดุอาอฺหรือขอพรต่ออัลลอฮฺ
นับว่าวัน นิฟูซะอฺบาน นี้เป็นวันหัวเลี้ยว หัวต่อที่อัลลอฮฺทรงกำหนดชะตาชีวิตของ
มนุษย์ขึ้นใหม่ จึงต้องวิงวอนกันอย่างตั้งอกตั้งใจ สิ่งใดที่ไม่ดีที่จดบันทึกไว้ที่อัลลอฮฺ
ก็ขอให้ลบเสีย เปลี่ยนมาเป็นการงานที่ดีแล้วขอให้เพิ่มดีขึ้นไปอีก นอกจากนี้ก็ส่งเสริม
ให้มีการถือศิลอดในวันนิสฟูซะอฺบานกันด้วย จึงน่าสงสัยว่า
สิ่งเหล่านี้เป็น สุนัต ไหม
เป็น ศาสนกิจ ไหม
และเป็นของ อะหฺลิซซุนนะฮฺ ไหม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Sep 16, 2004 9:09 am ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
เราทั้งหลายมีหน้าที่จะต้องทำตามแบบอย่างของท่าน นบีมุฮัมมัด และศอฮาบะฮฺ
ของท่าน ดังนั้น สิ่งใดที่เกิดขึ้น หรือเป็นสิ่งที่ปฎิบัติกันมาแล้วจะถูกหรือผิด
หรือจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนาหรือไม่เพียงใดนั้น เราจำเป็นต้องค้นคว้าจาก
ซุนนะฮฺของท่าน นบี หมายถึงว่า เอาซุนนะฮฺมาเป็น มาตร วัดจึงจะรู้
คำว่า นิสฟู แปลว่า ครึ่ง หรือ กลาง ซะอฺบาน คือ ชื่อของเดือนที่8 ของอรับ
รวมแล้วสองคำนี้แปลว่า กลางเดือนซะอฺบาน
ตามตัวบทหะดีษของท่าน นบี ฯ เราทราบว่าเดือน ซะอฺบาน มีความสำคัญใน
ด้านศาสนาดังนี้
##ให้ถือศิลอด
ท่านหญิงอาอิชะฮฺเล่าว่า ท่าน นบี เคยถือศิลอดจนกระทั่งเรารู้สึกว่าท่านไม่หยุด
และท่าน นบี เคยหยุดถือศิลอดจนกระทั้งเรานึกว่าท่านไม่ถืออีก และฉันไม่เคยเห็น
ท่าน นบี ถือศิลอดเต็มเดือนในเดือนใด นอกจากเดือนรมฎอน และฉันไม่เคยเห็นท่าน
ถือศิลอดในเดือนใดมากไปกว่าเดือนชะอฺบาน
##ท่านหญิงอาอิชะฮฺเล่าอีกว่า ท่าน นบี ไม่เคยถือศิลอดมากวันในเดือนใดเท่าเดือนชะฮฺบาน
ท่านเคยสอนว่า ท่านทั้งหลายจงปฎิบัติงานตามความสามารถเถิด เพราะอัลลอฮฺ
จะไม่ทรงเบื่อจนกว่าสูเจ้าจะเบื่อ ละหมาดที่ท่าน นบี รักมากที่สุดคือ ละหมาดที่
ทำสม่ำเสมอ แม้ว่าจะน้อยก็ตาม ท่าน นบี นั้นหากได้ละหมาด(สุนัต)
อย่างหนึ่งแล้ว ท่านทำสม่ำเสมอ
(จากบันทึกของ บุคอรี เรื่อง ศิลอดในชะฮฺบาน)
ยังมีต่อ อินชาอัลลอฮฺ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Sep 17, 2004 10:28 pm ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
#กลางเดือนชะอฺบานไม่มีการถือศิลอด
อบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า ท่าน นบี สอนว่า เมื่อถึงกลาวเดือนชะอฺบานแล้วไม่มีการถึอ
ศิลอด จนกระทั่งเดือนรมฎอนมาถึง (จากบันทึกของ อิบนุมาญะฮฺ เล่ม1หน้า528หะดีษ1651)
หมายถึงผู้ที่ไม่เคยถือศิลอดเป็นประจำติดต่อกันมา ห้ามเจาะจงถือศิลอดในวัน
กลางเดือนชะอฺบาน โดยมีหลักฐานจากหะดีษดังนี้
# อัลลอฮฺทรงยกโทษในคืนกลางเดือนชะอฺบาน
ท่านหญิงอาอิชะฮฺกล่าวว่า มีคืนหนึ่ง(คือ คืนกลางเดือนชะอฺบาน,ผู้แปล) ท่านร่อซูล
หายไป ฉันจึงออกตาม ก็ไปพบท่าน นบี ที่สุสานบากิอฺ(บาเกี๊ยะอฺ) ท่าน นบี
เอ่ยปากถามฉันว่า นี่เธอเกรงว่าอัลลอฮฺและร่อซูลจะไม่ยุติธรรมแก่เธอหรือ ฉันก็ตอบ
ท่านว่า เปล่า ฉันเกรงว่าท่านจะไปหาภริยาคนอื่น ท่าน นบี จึงกล่าวต่อไปอีกว่า
อัลลอฮฺทรงลงมา ณ ฟ้าชั้นใกล้ และทรงอภัยให้คนจำนวนมากเหมือนจำนวน
ขนแกะของพวกเผ่ากัลบิน(เป็นเผ่าที่เลี้ยงแกะมาก)
(จากบันทึกของติรมิซี เรื่อง กลางเดือนชะอฺบาน เล่ม1 หน้า92 ติรมิซีอธิบายว่า
บุคอรีว่าหะดีษนี้เฎาะอีฟ เพราะยะหฺยาไม่ได้ยินจากอุรฺวะฮฺ และอัจญาจญ์
ก็ไม่ได้ยินจากยะหฺยา) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Sep 17, 2004 10:31 pm ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
จากบันทึกหะดีษ เราพบว่าเดือนชะอฺบานนี้ ท่าน นบี ได้ปฎิบัติให้เป็นแบบฉบับ
ไว้อย่างหนึ่งคือ การถือศิลอด และส่อให้เห็นว่าไม่ได้เจาะจงถือศิลอดเฉพาะ
กลางวันของเดือนชะอฺบานเพียงวันเดียว นอกเหนือไปจากนี้แล้ว ท่าน นบี
ไม่ได้ทำอะไรไว้เป็นแบบฉบับอีก จะมีอยู่อีกอย่างก็คือกลางเดือนชะอฺบานนี้
อัลลอฮฺทรงอภัยแก่คนจำนวนมาก ตามเนื้อความในหะดีษของติรมิซี แต่เป็นหะดีษ
ที่เฎาะอีฟ ซึ่งก็เอามาเป็นหลักฐานได้ในการขอพรจากอัลลอฮฺ เพราะเป็นเรื่องที่อิสลาม
ส่งเสริมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องมีสุนัตให้ละหมาดสุนัตนิสฟูชะอฺบาน ดุอาอฺนิสฟูชะอฺบาน
อ่านยาซีน3จบ ในค่ำคืนนิสฟูชะอฺบาน ฯลฯ เป็นเรื่องที่ไม่ปรากฎอยู่ในหลักฐานจากหะดีษ
หรือไม่มีแบบฉบับจากท่าน นบี นั่นเอง ปัญหาจึงมีอยู่ว่า สิ่งเหล่านี้มาจากไหน
ใครเป็นผู้คิดค้นนำมาเขียน และนำมาปฎิบัติกันจนคนทั่วๆไปยึดถือว่า
เป็นศาสนกิจ และเป็นสุนัต ไปแล้ว
เรื่องนี้เห็นจะต้องพึ่งหนังสือ ฟุรฺกุนนัน รวบรวมโดย หัจญีอับดุลฺเราะชีด บันญัรฺ
ซึ่งเอามาจากข้อความของ ชัยคฺ มุฮัมมัด รุซคฺ บันญัรฺ (เมืองหนึ่งในอินโดนีเซีย)
ในหนังสือดังกล่าวนี้หน้า15 บอกว่าในละหมาดสุนัตนิสฟูชะอฺบาน โดยใช้คำนึกดังนี้
ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตคืนกลางเดือนชะอฺบานสองร็อกอะฮฺเพื่ออัลลอฮฺ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Sep 17, 2004 10:33 pm ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
ได้กล่าวมาแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นละหมาดสุนัตนิสฟูชะอฺบาน หรือการอ่านยาซีน3จบ
พร้อมทั้งดุอาอฺ เมื่อท่านเหล่านั้นซึ่ง นบี สั่งนักสั่งหนาให้เรายึดถือปฎิบัติตาม
ท่านไม่ได้ทำเอาไว้ แล้วใครเป็นผู้ทำขึ้น อันนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของ ตำราอีกเล่มหนึ่ง
ซึ่งแจกแจงเรื่องกาฝากศาสนาดังกล่าว โดยเฉพาะคือ หนังสือ อัสนัลมะฎอลิบหน้า276
ความว่า หะดีษที่มีมาเกี่ยวกับกลางเดือนชะอฺบานนั้นบ่งให้เห็นถึงความประเสริฐ
ของมัน ดังที่นักวิชาการระบุไว้ ส่วนการอ่านซูเราะฮฺยาซีนในคืนนั้น หลังจากละหมาด
มักริบแล้วก็ดี และดุอาอฺที่แพร่หลายกันนั้นก็ดี เป็นการวางระเบียบเอาเองโดยคนศอลิหฺ
บางคนกล่าวว่าเป็นการกระทำของท่าน อัล บูนี และสิ่งดังกล่าวไม่เป็นการผิดแต่ประการ
ได อีกตอนหนึ่งในหนังสือ อัสนัลมะฎอลิบ ระบุว่า |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Sep 17, 2004 10:34 pm ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
อิบนุ ติหฺยะฮฺกล่าวว่า เกี่ยวกับนิสฟูชะอฺบานนั้น ไม่มีหะดีษถูกต้องยืนยันเลย
แม้แต่น้อย และไม่มีผู้รายงานที่เชื่อถือได้ระบุเรื่องละหมาด(นิฟูชะอฺบาน)ไว้เลย
ดังนั้น สิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นไม่ไช่อื่น นอกจากการเล่นตลกกับศาสนาที่มุฮัมมัดนำมา
ชอบที่จะแสดงให้เหมือนมะยูซี และท่านอิบนุตัยมียะฮฺได้กล่าวว่า
เกี่ยวกับคืนนิสฟูชะอฺบานนั้น มีหะดีษต่างๆมายืนยัน ส่อให้เห็นถึงความสำคัญ
คนยุคก่อนบางคนทำละหมาดโดยเฉพาะ การถือศิลอดในเดือนชะอฺบาน
ก็มีหะดีษที่เข้มแข็งมายืนยัน แต่การถือศิลอดเฉพาะวันกลางเดือนชะอฺบาน
เพียงวันเดียวไม่มีหลัก แต่กลับเป็นเรื่องมักรูหฺ และทำนองเดียงกันการถือว่า
นิสฟูชะอฺบานเป็นฤดูกาลที่จะต้องทำอาหาร ทำของหวานพิเศษ มีการประดับ
ประดากันนั้น นับได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ เป็นสิ่งที่ไม่มีหลักการ
จากศาสนา และการกล่าวกันว่ามีการแจกจ่ายลาภต่างๆก็ไม่มีหลักฐานยืนยัน
เช่นกัน
ส่วนในหนังสืออธิบายหะดีษติรฺมีซี เล่ม 1 หน้า 92 ระบุว่า |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Sep 17, 2004 10:36 pm ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
ความว่า คืนที่สิบห้าของเดือนชะอฺบาน เรียกว่าคืนแห่งความปลอดภัย
ส่วนการประดับโคมไฟและอื่นๆ จากการละเล่นสนุกสนาน ดังที่พวกเอาวาม
ของอินเดียทำขึ้นนั้น คล้ายกับว่าเอาแบบมาจากพวกฮินดูในดวาลี
ซึ่งในเรื่องนี้ไม่มีหลักฐานจากหะดีษมายืนยันเลยแม้แต่น้อย
# ข้อสรุปนิสฟูชะอฺบาน
1, ละหมาดนิสฟูชะอฺบานนั้น มนุษย์กำหนดขึ้นมาเอง อัลลอฮฺและร่อซูลมิได้กำหนด
2, การอ่านยาซีนด้วยการตั้งเจตนาอย่างนั้น อย่างนี้ก็ไม่มีแบบอย่างมาจากร่อซูล
เช่นกัน แต่การอ่านกุรอานนั้น เป็นหลักการของอิสลามอยู่แล้ว
3, บทขอพรที่เริ่มต้นด้วยคำว่า ยา ซัลมันนิ...(โอ้ผู้ทรงให้) ไม่ใช่บทขอพรที่ นบี
และซอหะบะฮฺใช้ให้ขอ แต่การขอพรนั้นจะขออย่างไร ขออะไรได้ตามความต้องการ
4, บุคคลผู้กำหนดแบบแผนในเรื่องนิสฟูชะอฺบานขึ้น คือ ท่าน อัล บูนี
ทั้งนี้ตามรายงานของบางกระแส |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Sep 17, 2004 10:39 pm ชื่อกระทู้: Re: คำว่า อาชูรอ และนิสฟูชะอฺบาน |
|
|
นอกจากนี้ ท่านอิมาม นะวาวี ยังได้ตอบปัญหาซึ่งมีผู้ถามท่าน ดังนี้
ถาม .. นักปราชญ์ด้านศาสนาอิสลามมีทัศนะอย่างไรเกี่ยวกับละหมาด ร่อฆอเอ็บ
และละหมาด นิสฟูชะอฺบาน ที่มีผู้นิยมกระทำกันในปัจจุบัน อยากทราบว่าท่าน นบี
เคยละหมาดไหม ศอหะบะฮฺเคยละหมาดไหม อิมามทั้งสี่ คือ หะนะฟี ,มาลิกี , ชาฟิอี
และฮัมบะลี เคยละหมาดหรือเคยพูดถึงไหม มีคำพูดของท่าน นบี เกี่ยวกับเรื่องนี้
บ้างหรือเปล่า และอยากทราบว่า ละหมาดทั้งสอง (ร่อฆอเอ็บ กับ นิสฟูชะอฺบาน)นี้
ตรงกับเป้าหมายแห่งผู้บัญญัติศาสนาหรือไม่ การทำกับการทิ้ง อย่างไหนจะดีกว่า
และการประดับประดาในค่ำคืนทั้งสองดังกล่าวซึงอยู่นอกเหนือประเพณีนั้น
ถือว่า หะรอม หรือ มักรูหฺ หรือเป็นมุบาฮฺ กรุณาตอบด้วย
ตอบ...การสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ
การละหมาดทั้งสองอย่างดังได้กล่าวมานั้น ท่าน นบี และศอหะบะฮฺไม่เคยละหมาดเลย
อิกทั้งอิมามทั้งสี่ก็ไม่เคยทำมาด้วย ท่านเหล่านั้นไม่เคยพูดถึง ไม่มีหะดีษที่ถูกต้องมา
ยืนยันเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งจากผู้ที่เราทำตามเขาได้ก็ไม่มีมา
แต่เพิ่งจะมีมาในสมัยหลังๆ การละหมาดทั้งสองละหมาดดังกล่าว (คือร่อฆอเอ็บ
กับนิสฟูชะอฺบาน) เป็นบิดอะฮฺ เป็นการกระทำที่เสีย แท้จริง ได้มีคำสอนจาก
ท่าน นบี ว่า # ท่านทั้งหลายพึงระวังการประดีษฐ์ต่างๆเพราะบิดอะฮฺทั้งหมด
เป็นเรื่องหลงผิด# |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|