ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Jul 02, 2004 9:27 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ปี ฮ ศ 1220 มุฮัมมัด อาลี ได้รับเลือกจากประชาชนชาวอียิปต์ทุกระดับชั้น ให้เป็น
กษัตริย์ครองเมืองอียิปต์ พระองค์มิได้ลืมงานเมาลิด นบี ที่ชาวอียิปต์เคยประฎิบัติเป็น
ประเพณีตลอดมา
ปี ฮ ศ 1280 การฉลองเมาลิดได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปอีก โดยแบ่งงานออกเป็นภาคกลางวัน
และภาคกลางคืน ภาคกลางวันมีการแสดงโวหารเกี่ยวกับโครงกลอนอฺรับ มีกายกรรมและ
นักเล่นกลแสดงให้ชม ส่วนภาคกลางคืนมีการตั้งวงซิกิรฺ (ซิกรุลลอฮฺ) โดยบรรดาสาย
เฎาะริเกาะฮฺต่างๆ รายการจะเริ่มตอนสามทุ่ม หัวหน้าจะเชิญชวนให้ทุกคนอ่าน
ฟาติหะฮฺ หนึ่งจบ แล้วอ่านบทขอพร
ต่อจากนี้ทุกคนก็เริ่มซิกรุลลอฮฺในท่านั่ง ปากก็กล่าว ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ ด้วยจังหวะช้า
แล้วค่อยๆ เร็วขึ้นๆๆ หนักเข้าไป หนักเข้าไปจะได้ยินเสียงดังๆ เพียง ละอิ กับ อิลลอฮฺ
ต่อมาก็ทำในท่ายืนเหวี่ยงตัวไปข้างซ้ายที ข้างขวาที (ในเมืองไทยสมัยก่อนเรียกว่าฆะเต๊ะอฺรับ)
ต่อ ๆ ไปจะได้ยินเพียงเสียง ล ล ล ล
กระทำซิกรุลลอฮฺในแบบต่างๆ ไปจนกระทั่งอะซานรุ่งเช้า จึงได้เลิกกัน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Jul 02, 2004 9:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ดังกล่าวมาแล้วนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการมี ซิกรุลลอฮฺ หรือ ฆะเต๊ะ แทรกเข้าไปในงาน
เมาลิด นบี จากนั้นก็ทำกันมาเรื่อยจนถึงปัจจุบัน
การที่ผู้เขียนได้กล่าวประวัติ นบี อย่างยืดยาว ก็เพื่อที่จะให้ผู้อ่านทราบว่า ในระยะไดที่มี
การกระทำที่เป็นแบบฉบับที่ตกทอดมาถึงสมัยหลัง กับต้องการให้ทราบว่า อุละมาอฺในครั้งไหน
ที่เขียนเชียร์ผู้ปกครองของตนในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี การทำเมาลิดตั้งแต่ต้นจนจบ ที่ปรากฎตามหน้าประวัติเมาลิดของเมือง อียิปต์
เราจะไม่พบว่าได้นำหนังสือ บัรฺซันญี มาใส่ทำนองอ่านกันอย่างเมืองไทย
เรื่องบทกลอนของ บัรฺซันญี จะได้เล่ารายละเอียดให้ทราบในโอกาสต่อไป |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Fri Jul 02, 2004 9:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
## เมาลิดไม่ใช่สุนัต ##
นอกจากที่หยิบยกมานี้ ยังมีนิยายอีกมากที่มีเนื้อหาว่า เมื่อทำเมาลิดแล้วจะประสบความสำเร็จนานัปการ แม้ว่าผู้นั้นจะไม่เคยทำความดีเลย ไม่เคยทำอิบาดะฮฺเลยก็ตาม ผู้เขียนเขารู้ว่าไครๆ
ก็ชอบเข้าสวรรค์ จึงได้เอาสวรรค์มาล่อ ให้คนเขาทำเมาลิดก็มี
ตามหลักฐานที่ฝ่ายว่าเป็นสุนัต เขาหยิบยกมานี้ไม่มีข้อไดเลยที่เข้าหลักเกณฆ์ ในคำว่าสุนัต
ตามหลักวิชาการ ซึ่งท่านผู้อ่านคงทราบมาแล้วว่า สุนัต จะต้องมีตัวบทใช้แบบส่งเสริมระบุไว้
ที่ผ่านมาแล้วไม่มีตัวบทเลยสักข้อเดียวที่เป็นคำสั่งใช้แบบส่งเสริม ตรงกันข้าม สิ่งที่นำมากล่าวอ้าง ล้วนแต่เป็นคำกล่าวของบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิเท่านั้น แล้วผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านั้น เช่น
สุยูฎี อบูชามะฮฺ อัล ญูนัยดฺ ก็ไม่ได้อ้างตัวบทขึ้นมาเลิยแม้แต่คนเดียว ยิ่งกว่านั้น
บางคนยังได้ใช้คำพูดที่ส่อให้เห็นว่า ท่านก็รู้ว่าไม่มีตัวบทส่งเสริมให้ทำ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jul 05, 2004 12:24 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ในกระบวนข้ออ้างว่าเมาลิดเป็นสุนัตนั้นมีอยู่ข้ออ้างหนึ่ง อ้างหะดีษมาเป็นหลักฐาน
อ้างว่า อิบนุ หะญัร ได้วิเคราะการทำเมาลิดมาจากหะดีษ ก็ใคร่ขอชี้แจงเพิ่มเติม
เพื่อความเข้าใจดีอีกนิดว่า
คือหะกีษ ที่ว่า ท่าน นบี อพยพไปมดีนะฮฺ ท่านพบว่ายะฮูดีถือศิลอดในวันที่สิบ มุหัรฺร็อม
ท่าน นบี ได้ถามพวกเขา พวกเขาตอบว่า ที่เราถือศิลอดวันนี้เป็นการขอบพระคุณ อัลลอฮฺ
ที่บันดาลให้มูสาพ้นภัย และบันดาลให้ฟิรฺเอาวฺน์จมน้ำตาย ท่าน นบี จึงพูดว่า
เราทั้งหลายควรยกย่องมูสายิ่งกว่าพวกท่านเสียอีก บันทึกโดย อัล บุคอรี มุสลิม
ประโยคหลังที่เป็นคำของท่าน นบี นั้นมีบางคนแปลไม่ถูก คือแปลคำว่า
ท่าน นบีฯ กล่าวว่า เราทั้งหลายดีกว่ามูสา......
1 หะดีษนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเมาลิดแต่ประการได
2 ในตัวบทหะดีษระบุว่ายะฮูดีถือศิลอด เนื่องจาก นบีมูสา พ้นภัย ไม่ได้มีข้อเกี่ยวข้องกับงานเมาลิด
3 การถือศิลอดเป็นเรื่องที่มีตัวบทสนับสนุน แต่การทำเมาลิดไม่เคยมีตัวบทไว้เลย
4 ที่อ้างว่า อิบนิ หะญัรฺเอาหะดีษนี้มาเป็นหลักฐานในการทำเมาลิดนั้น
แม้จะตรวจดูในหนังสือของท่านเองก็ไม่พบ คนอื่นอาจอ้างโมเมเอาเฉยๆก็ได้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jul 05, 2004 12:26 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อสรุปจากเรื่องเมาลิดหลังจากทราบประวัติอันยืดยาว ตลอดจนข้ออ้างต่างๆมาแล้ว
เราก็ทราบโดยไม่ต้องสงสัยว่า การทำเมาลิดไม่ใช่สุนัต ไม่ใช่เรื่องศาสนา แต่เป็นเรื่องประเพณี ที่มุสลิมสมัย สุลฎอนฟาฎิมี คิดทำขึ้นและนิยมทำกันต่อๆมา เมื่อข้อเท็จจริง
ปรากฎอย่างนี้ การทำเมาลิดโดยนำหนังสือบัรซันญีมาอ่านมีทำนองถือว่าเป็นเรื่อง
ความนิยมเฉพาะท้องถิ่น การจัดให้มีกรรมการ และประธานกรรมการพิธีทางศาสนา
สำหรับเมาลิด ก็ไม่ทำให้ข้อเท็จจริงของเมาลิดเปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนกระทั่งการอ่านกุรอาน
แข่งขันกีฬา ฯ ที่หลักอิสลามส่งเสริมไว้ แล้วจัดผนวกเข้ามาในงานเมาลิด ก็ไม่ทำให้เมาลิด
มีส่วนเรื่องศาสนาแต่ประการได ตรงกันข้ามบางครั้งการจัดรายการดังกล่าวขึ้นในงาน
ทำให้งานเป็นบาปไปก็มี โดยเฉพาะภายใต้ชื่องานว่า เมาลิด นบี ซึ่งแทนที่จะเป็นการยกย่อง
เทิดทูนเกียรติท่าน นบี กลายเป็นการหยามเกียรติท่าน นบีไปโดยชิ้นเชิง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jul 05, 2004 12:28 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ปรากฎจากข้อเท็จจริงมาแล้วว่า การตัดสินในการแข่งขันกอรีบางปีต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์
เพราะมีการตัดสินลำเอียง เข้าข้างพวกของตน ให้พวกของตนให้ได้รับชัยชนะ แม้จะด้อยกว่าฝ่ายอื่น แสดงให้เห็นความไม่ยุติธรรมออกมาอย่างชัดแจ้ง
ดังนั้น การจัดงานเมาลิดซึ่งอ้างว่าเป็นการเชิดชูเกียรติท่าน นบี ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ทรง
ไว้ซึ่งความยุติธรรม ต้องแปดเปื้อนเพราะการกระทำของผู้เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เห็นแก่พรรคพวก
พวกฝ่ายตน จึงเป็นการหลู่เกียรติท่าน นบี อย่างมหันต์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Jul 05, 2004 12:34 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ถ้าจะทำเมาลิดแบบประเพณีนิยมอย่างคนสมัยก่อนทำไว้ ก็ให้จัดหางบประมาณก่อนหนึ่งโดย
ไม่ต้องเรียกเก็บจากคนจนๆ แล้วจัดในรูป เศาะดะเกาะโดยตรง เช่นเลี้ยงอาหารฯ
หรือเรียกเก็บจากชาวบ้านก็ได้ แต่เมื่อเสร็จงานแล้วให้มีผลสท้อนส่งไปยังชาวบ้านตาดำๆ
เหล่านั้นบ้าง ทำได้อย่างนี้ถึงจะเรียกว่า เรามีอะมานะฮฺ อย่างที่ ท่านรอซูลสอนไว้
และเป็นผู้สมควรจะได้รับการชื่นชมจามุสลิมทั่วไป
อย่างไรก็ดี ควรคำนึงถึงบัญญัติกุรอานไว้เสมอ ซึ่งอัล กุรอาน สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺ31
สอนว่า ## ประกาศเถิดมุฮัมมัด แม้นว่าท่านทั้งหลายรักอัลลอฮฺจริง
จงปฎิบัติตามฉัน แล้วอัลลอฮฺจะรักท่าน ## วัสสะลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nuroiya มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2003 ตอบ: 41
|
ตอบ: Sat Sep 25, 2004 3:19 pm ชื่อกระทู้: Re: รู้ไว้ได้ประโยชน์ ประวัติเมาลิด |
|
|
"และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า..จงปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมาเถิด..
พวกเขาก็กล่าวว่า..มิได้เราจะปฏิบัติสิ่งที่เราได้พบบรรดาบรรพบุรุษของเราเคยปฏิบัติมาเท่านั้น
และแม้ได้ปรากฏว่าบรรพบุรุษของพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดและทั้งไม่ได้รับแนวทางอันถูกต้องก็ตามกระนั้นหรือ?"
(อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 170) _________________ "จงยึดมั่นในสายเชือก(ศาสนา)ของอัลลอฮฺโดยพร้อมเพรียงกัน และอย่าได้แตกออก หรือแตกต่างจากศาสนาของอัลลอฮฺ"
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon May 15, 2006 8:19 am ชื่อกระทู้: |
|
|
จากหนังสือ บิสมิลลาฮฺ เล่มที่หนึ่ง
โดย อาจารย์ ชาฟิอี นภากร
สถาบันนักศึกษาผู้ใหญ่ธรรมอิสลาม
ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon May 15, 2006 9:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ญะซากัลลอฮุคอ็ยร้อน มีประโยชน์กับผู้อ่านมากครับ บังอับดุสสลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Mon May 29, 2006 12:18 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
พี่น้องทุกคน
ที่จบไปแล้วนั้น เป็นบทความของผู้ที่อยู่ในมัสหับวะฮาบีย์ครับ เพราะในมัสหับนี้เขาถือว่าการกระทำความดีในเรื่องศาสนาทุกอย่างไม่ว่าความดีใดๆถ้าไม่มีใน กิตาบุลลออ์และซุนนะนบีนั้นเขาถือว่าเป็นบิดอะครับ
ท่าน มุฮำมัด อิบนิอับดุลวะฮาบ เป็นผู้ที่เคร่งครัดในหลักศาสนาแต่ท่านไม่ได้เป็นผู้รอบรู้ในทุกวิชา และท่านไม่ตามการให้ความรู้ของอุลามะท่านใด
ท่านไม่ได้อยู่ในแนวทางหนึ่งแนวทางใด ของทั้ง4 มัสหับ เพราะท่านถือว่าการมีมัสหับ เป็นบิดอะ
แต่ในบางครั้งวิชาที่ว่าด้วยด้านกฏหมายหรือฟิกฮ์ ก็จะเอามาจาก มัสหับของอีหม่ามฺฮัมบาลี
ด้านอุซุลหรือการศรัทธาบางครั้งก็เอาอะกีดะของท่านมัสหับดาวุดซอฮีรีย์ บวกกับพวกมุญัสสิมะอ์
ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งจาก6แนวทางแต่ไม่เป็นที่ยอมรับของบรรดาผู้รู้ในหลัการศรัทธาต่อพระองค์
พี่น้องจะเห็นว่า ในมัสหับของวะฮาบีย์นั้น เขาจะยืนตรงกันข้ามกับมัสหับของอีหม่ามทั้ง4 โดยสิ้นเชิง
ซึ่งปัญหามากมายที่มีความเห็นไม่ตรงกันถือว่าเป็นปัญหาคีลาฟียะที่ทับถมกันมานาน จนถึงปัจจุบันนี้
เช่น ในเรื่องการทำเมาลิดมัสหับชาฟีอี ซึ่งไม่ได้เป็นวายิบหรือสุนัต แต่เป็นสิ่งที่อนุญาตหรือยินยอมให้กระทำเมาลิดได้ โดยไม่บังคับ เพราะเป็นการำลึกต่อท่านนบี ผู้เป็นนายของประชามุสลิมทุกคน
-------------------ในการกระทำดังกล่าว-------------------------------
มีการอ่านคำดำรัสที่สูงสงของผู้ให้ชีวิตเราคืออัลลออ์จากอัลกรุอ่าน
มีการเล่าประวัตติของมท่านนบีในขณะเผยแพร่ศาสนาอิสลามมาให้เราจนถึงวันนี้
มีการกล่าวสรรเสริญต่อท่านนบี
และมีการร่วมรับประทานอาหารจากผู้มีจิตศรัทธที่รำลึกถึงเนียะมัตหรือริสกีที่พระองค์ให้เขาได้มั่งมีจนถึงทุกวันนี้
เนื้อหารายละเอียดหรือความจริงต่างๆที่ไร้การบิดเบือน ซึ่งสามารถค้นหาหรือศึกษาได้จากกระทู้ รำลึกถึงท่านนบีได้โดย นักศึกษาจากสถาบันอิยิปตที่อยู่ในแนวทางของท่านอีหม่ามชาฟีอีเรียนรู้ทั้ง4มัสหับ และเบื้องหลังของวะฮาบีย์ด้วย..
สรุปกระทู้นี้คือ ความเห็น ในเชิงวิจารณ์ของผู้ที่อยู่ในทัศนะวะฮาบีย์ที่ได้รับข่าวสารด้านเดียวที่ไม่ถูกต้อง.และมีทัศนะคติเป็นลบกับอีกทัศนะหนึ่ง..
ฉนั้น ถ้าพี่น้องต้องการรู้ความจริงในเรื่องเมาลิดที่ไม่บิดเบือน และถูกต้อง
ดังนั้นผมขอแนะนำให้พี่น้องศึกษาหาความรู้กับผู้ที่อยู่ในทัศนะที่ทำเมาลิดได้เท่านั้น...
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon May 29, 2006 11:08 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
konyakroo กล่าวว่า
ท่าน มุฮำมัด อิบนิอับดุลวะฮาบ เป็นผู้ที่เคร่งครัดในหลักศาสนาแต่ท่านไม่ได้เป็นผู้รอบรู้ในทุกวิชา และท่านไม่ตามการให้ความรู้ของอุลามะท่านใด
ท่านไม่ได้อยู่ในแนวทางหนึ่งแนวทางใด ของทั้ง4 มัสหับ เพราะท่านถือว่าการมีมัสหับ เป็นบิดอะ
.............
ตอบ
อิหม่ามมุหัมหมัด บิน อับดุ้ลวะฮับ กล่าวว่า
لست ولله الحمد أدعوا إلى مذهب صوفي أو فقيه أو متكلم أو إمام من الأئمة الذين أعظمهم مثل ابن القيم والذهبي وابن كثير وغيرهم ، بل أدعوا إلى الله وحده لا شريك له ، وأدعو إلى سنة رسول الله صلى الله عليه وسلم التي أوصى بها أول أمته وآخرهم وأرجوا أني لا أرد الحق إذا أتاني ، بل أشهد الله وملائكته وجميع خلقه إن أتانا منكم كلمة من الحق لأقبلها على الرأس والعين ، ولأضربن الجدار بكل ما خالفها من أقوال أئمتي حاشا رسول الله صلى الله عليه فإنه لا يقول إلا الحق
ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮซึ่งมวลการสรรเสริญ เป็นของพระองค์ ข้าพเจ้าจะไม่เชิญชวน(ดะอฺวะอ)ไปสู่ มัซฮับซูฟีย์ มัซฮับฟิกฮ มัซฮับนักวิภาษวิทยา หรือ มัซฮับ ผู้นำคนหนึงคนใด จากบรรดาผู้นำ ซึ่ง ข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญแก่พวกเขา เช่น อิบนุกฮ็ยยิม อัซซะฮะบี อิบนุกะษีร และอื่นจากพวกเขา แต่ทว่า ข้าพเจ้า จะเชิญชวนไปสู่ อัลลอฮองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆ แก่พระองค์ และข้าพเจ้าจะ เชิญชวนไปสู่สุนนะฮของรซูลลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ซึ่งท่านได้สั่งเสียไว้แก่อุมมะฮของท่านรุ่นก่อนและรุ่นหลัง และข้าพเจ้าหวังว่าข้าพเจ้าจะไม่ ปฏิเสธ ความจริงที่มายังข้าพเจ้า แต่ ตรงกันข้าม ข้าพเจ้าขอปฏิญาน ต่ออัลลอฮ มลาอิกะฮของพระองค์ และบรรดามัคลูคของพระองค์ ทั้งหมด ว่า หากถ้อยคำใดที่เป็นความจริง มาจาก พวกท่านได้มาถึงเรา แน่นอน ข้าพเจ้าจะยอมรับ โดยเอาหัวและตาเป็นประกัน และข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ข้าพเจ้าจะทุบกำแพง กับ ทุกๆสิ่งที่ขัดแย้ง กับมัน(กับคำพูดที่มาจากความจริง) จาก คำพูดของบรรดา ผู้นำของข้าพเจ้า นอกจากท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แท้จริง ท่านรซูลจะไม่พูดนอกจากความจริงเท่านั้น..
الرسائل الشخصية ) ص252
الدرر السنية 1/37- 38 )
สำหรับแนวคิดที่สำคัญของวะฮาบียะฮฺนั้นพอสรุปเป็นหัวข้อได้ดังนี้ คือ
(1) ยึดแนวของอิมามอะฮมัด อิบนฺ ฮัมบัล (มัซฮับฮัมบะลีย์) ในเรื่องปลีกย่อยต่างๆ แต่ไม่ยึดแนวของอิมามคนใดเป็นเกณฑ์แน่นอนในเรื่องหลักพื้นฐานทั่วไป
(2) เรียกร้องให้เปิดประตูการอิจติฮาด (หมายถึงการวิเคราะห์และวินิจฉัยหลักฐานต่างๆ ทางศาสนาเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อบัญญัติของปัญหาต่างๆ) หลังจากที่ได้ถูกปิดมานานตั้งแต่กรุงแบกแดดแตกจากการโจมตีของพวกมองโกลในปี ฮ.ศ.656 (ค.ศ. 1235)
(3) ยืนยันในความจำเป็นที่จะต้องยึดถือคัมภีร์อัลกุร อานและสุนนะฮ (แบบฉบับของศาสนทูตมูฮัมมัด)
(4) ยึดมั่นในแนวทางของอะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ (นิกายสุนนีย์)
(5) เรียกร้องสู่หลักเตาฮีด (การให้เอกภาพต่อพระผู้เป็นเจ้า) อันบริสุทธิ์ตามแนวทางของกัลญานชนมุสลิมในยุคแรกของอิสลาม
(6) เน้นหลักเตาฮีดอูลูฮียะฮ (การให้เอกภาพต่อพระผู้เป็นเจ้าในด้านการเคารพสักการะ) และหลักเตาฮีดอัสมาอ วัศศิฟาต (การให้เอกภาพต่อพระผู้เป็นเจ้าด้านนามชื่อ และคุณลักษณะของพระองค์)
(7) ต่อต้านสิ่งเหลวไหลและอุตริกรรมทางศาสนาที่แพร่หลายในสังคมอันเนื่องจากความโง่งมงายของผู้คน
(8) คัดค้านกลุ่มฏอรีเกาะฮซูฟีย์และกลุ่มมุตะกัลลีมีน และสิ่งอุตริทางศาสนาที่กลุ่มเหล่านี้สร้างขึ้นมา
(9) ต่อต้านการทำชีริก (ตั้งภาคี) ต่ออัลลอฮทุกประเภท
(10) ต่อต้านการตักลีด (การตามอย่างคนตาบอด) และเรียกร้องสู่การให้ความรู้และการค้นคว้าหาหลักฐาน
..........................................
http://www.kurusampan.com/subIndex.php?option=content&id=54
........................ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Tue May 30, 2006 12:18 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมขอแจมนิดนึงว่า ในงานเมาลิดกลางมีอะไรบ้างครับ คุณคนอยากรู้
1. มีการปะปนหญิง-ชาย ในงาน และเป็นที่นัดพบของวัยรุ่นหนุ่มสาว
2. มีการขายหนังสือ ประนาม บรรดาซอฮาบะห์ ที่ด้านล่าง ใกล้กับ หอประชุม
3. มีพื้นที่ในการละหมาดเล็กนิดเดียว แต่พื้นที่ในการขายอาหารนั้นมากกว่า สี่สนามฟุตบอล
4. มีการขายเพลง มลายู คาราโอเกะ ที่มีผู้หญิงร้องเพลง และ เต้นประกอบฉาก และในวันสุดท้าย อาจจะมีนักร้องที่อยู่ในแผ่นคาราโอเกะ มียืนร้องที่หน้าบูต ก่อนปิดเมาลิด
เรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องจริง ทั้งสิ้น ที่เราไม่พูดกัน
ส่วนกรณี เมาลิดที่ตามบ้านจัดนั้น ผมไม่ทราบรายละเอียดสักเท่าไหร่ แต่เมาลิดกลางผมค่อนข้างจะเกี่ยวข้อง เพราะว่าเคยเป็นประธานร้านค้าของสถาบัน ในงานเมาลิดมาก่อน ครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Tue May 30, 2006 9:28 am ชื่อกระทู้: |
|
|
บังหะสัน
กระทู้นี้เรามาวิจารณ์ผู้เห็นด้วยและผู้ต่อต้านเรื่องงานเมาลิดกันต่อครับ
เชิญน้องมหวิทยาลัย จากไคโร ด้วยครับถ้าสอบเสร็จแล้ว
บังยกคำพูดของ ท่าน....
อิหม่ามมุหัมหมัด บิน อับดุ้ลวะฮับ กล่าวว่า
لست ولله الحمد أدعوا إلى مذهب صوفي أو فقيه أو متكلم أو إمام من الأئمة الذين أعظمهم مثل ابن القيم والذهبي وابن كثير وغيرهم ، بل أدعوا إلى الله وحده لا شريك له ، وأدعو إلى سنة رسول الله صلى الله عليه وسلم التي أوصى بها أول أمته وآخرهم وأرجوا أني لا أرد الحق إذا أتاني ، بل أشهد الله وملائكته وجميع خلقه إن أتانا منكم كلمة من الحق لأقبلها على الرأس والعين ، ولأضربن الجدار بكل ما خالفها من أقوال أئمتي حاشا رسول الله صلى الله عليه فإنه لا يقول إلا الحق
ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮซึ่งมวลการสรรเสริญ เป็นของพระองค์ ข้าพเจ้าจะไม่เชิญชวน(ดะอฺวะอ)ไปสู่ มัซฮับซูฟีย์ มัซฮับฟิกฮ มัซฮับนักวิภาษวิทยา หรือ มัซฮับ ผู้นำคนหนึงคนใด จากบรรดาผู้นำ ซึ่ง ข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญแก่พวกเขา เช่น อิบนุกฮ็ยยิม อัซซะฮะบี อิบนุกะษีร และอื่นจากพวกเขา แต่ทว่า ข้าพเจ้า จะเชิญชวนไปสู่ อัลลอฮองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆ แก่พระองค์ และข้าพเจ้าจะ เชิญชวนไปสู่สุนนะฮของรซูลลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ซึ่งท่านได้สั่งเสียไว้แก่อุมมะฮของท่านรุ่นก่อนและรุ่นหลัง และข้าพเจ้าหวังว่าข้าพเจ้าจะไม่ ปฏิเสธ ความจริงที่มายังข้าพเจ้า แต่ ตรงกันข้าม ข้าพเจ้าขอปฏิญาน ต่ออัลลอฮ มลาอิกะฮของพระองค์ และบรรดามัคลูคของพระองค์ ทั้งหมด ว่า หากถ้อยคำใดที่เป็นความจริง มาจาก พวกท่านได้มาถึงเรา แน่นอน ข้าพเจ้าจะยอมรับ โดยเอาหัวและตาเป็นประกัน และข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ข้าพเจ้าจะทุบกำแพง กับ ทุกๆสิ่งที่ขัดแย้ง กับมัน(กับคำพูดที่มาจากความจริง) จาก คำพูดของบรรดา ผู้นำของข้าพเจ้า นอกจากท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แท้จริง ท่านรซูลจะไม่พูดนอกจากความจริงเท่านั้น..
الرسائل الشخصية ) ص252
الدرر السنية 1/37- 38 )
วิจารณ์
ก็นั่นนะซิครับ ผมถึงบอกว่า ท่านอีหม่าม มูฮำมัด บินอับดุลวาฮาบ ท่านไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ
สิ่งที่ผู้นำมัสหับทั้งหลาย(ทั้ง4มัสหับ)ได้วินิจฉัยไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แม้ว่าการกระทำของเขาเหล่านั้นจะเป็นที่ยอมรับของอุลามะทั่วโลกว่าถูกต้องก็ตาม แต่ท่านไม่ยอมรับและถือว่าการมีมัสหับ
หรือแนวทางเป็น บิดอะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บังครับ ผมก็อยากรู้ว่า
--ทำไมท่าน อิบนุวะฮาบ ถึงไม่ยอมรับในความรู้ของอีหม่ามทั้ง4 ครับ
--และด้วยสาเหตุใดท่านจึงกลับไปยอมรับและยึดตามบุคคลเช่น ท่านอิบนุก็อยยิม อัซซะฮะบี อิบนุกะษีร และอื่นจากพวกผู้ที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกับท่าน ซึ่งบุคคลเหล่านั้น ท่านก็รู้มาก่อนแล้วว่าได้เดินตามสำนักความคิดเห็นใหม่ ที่เป็นแม่แบบมาจากท่านอิหม่าม อิบนุ ตัยมียะ ที่มีความเห็นขัดแย้งและไม่ยอมรับในความรู้ของบรรดาผู้รู้ของแนวทางทั้ง4 ประมาณศตวรรษที่7ไม่ว่า ท่านอีหม่ามฮานะฟี ท่านอีหม่ามมาลีกี ท่านอีหม่ามชาฟีอี ท่านอีหม่ามฮัมบาลี(รฮ)
ดังนั้นมันจึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจเพิ่มอีกว่า
ระหว่างความน่าเชื่อถือในความรู้จากอีหม่ามทั้ง4 กับความรู้ที่ของบรรดาผู้รู้ในสิ่งที่ท่าน
อีหม่ามมุฮำมัด บินอับดุลวะฮาบนั้น
---เราในฐานะผู้ตามและมีความรู้ไม่มาก จะให้การยอมรับและเชื่อถือใครมากกว่ากันจึงจะปลอดภัยทั้งดุนยาและอาคีเราะ
--และใครจะเป็นผูรับผู้ประกันรับรองเราได้ว่าการตามท่านเหล่านั้นที่มาทีหลังถูกต้อง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Tue May 30, 2006 9:45 am ชื่อกระทู้: |
|
|
:o คุณ ดับดุลลา
ผมขอแจมนิดนึงว่า ในงานเมาลิดกลางมีอะไรบ้างครับ คุณคนอยากรู้
1. มีการปะปนหญิง-ชาย ในงาน และเป็นที่นัดพบของวัยรุ่นหนุ่มสาว
2. มีการขายหนังสือ ประนาม บรรดาซอฮาบะห์ ที่ด้านล่าง ใกล้กับ หอประชุม
3. มีพื้นที่ในการละหมาดเล็กนิดเดียว แต่พื้นที่ในการขายอาหารนั้นมากกว่า สี่สนามฟุตบอล
4. มีการขายเพลง มลายู คาราโอเกะ ที่มีผู้หญิงร้องเพลง และ เต้นประกอบฉาก และในวันสุดท้าย อาจจะมีนักร้องที่อยู่ในแผ่นคาราโอเกะ มียืนร้องที่หน้าบูต ก่อนปิดเมาลิด
ตอบคุณ ดับ..ผมก็เห็นคำถามแบบนี้ของคุณหลายครั้งแล้ว แต่..ที่ไม่ตอบนั้นถือว่าไม่ใช่เนื้อหาหรือสาระหลักและเป้าหมายขิองการทำเมาลิดเลยครับ
แม้ว่าเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องจริงแต่ที่มีในงานใหญ่ๆเช่นส่วนอัมพรฯกทม.
แต่เป็นข้อปลีกย่อยที่เจ้าภาพหรือคณะกรรมการอาจจะไม่รู้เห็นเป็นใจหรือไม่ได้ระมัดระวังหรืออาจละเลยในการดูแล
แต่บอกแล้วว่าเหล่านี้คือ--ผลกระทบในเชิงลบที่ตามมาที่ไม่มีใครต้องการ..
ซึ่งในตัวผมเองไม่เห็นด้วยเหมือนคุณตรงคำคำถามของคุณที่นำมานั้นแหละครับ
กิจกรรมใดที่เลยเทิดออกไปจากเนื้องานข้างล่างนี้ผมถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่งครับ..
-มีการอ่านคำดำรัสที่สูงสงของผู้ให้ชีวิตเราคืออัลลออ์จากอัลกรุอ่าน
-มีการเล่าประวัตติของมท่านนบีในขณะเผยแพร่ศาสนาอิสลามมาให้เราจนถึงวันนี้
-มีการกล่าวสรรเสริญต่อท่านนบี
-มีการร่วมรับประทานอาหารจากผู้มีจิตศรัทธที่รำลึกถึงเนียะมัตหรือริสกีที่พระองค์ให้เขาได้มั่งมีจนถึงทุกวันนี้
อีกอย่างผู้เป็นเจ้าภาพหรือคณะกรรมการงานต้องช่วยกันสอดส่องดูแล
รวมทั้งคุณด้วยนะครับ
ในฐานะตำแหน่งตรงนี้ที่ตกหนักบนคุณที่เป็นถึงประธานร้านค้าของสถาบันฯ แต่ปล่อยให้มีการขายหนังสือที่ดูกถูกและโจมตีท่านเหล่านั้น....
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนกรณี เมาลิดที่ตามบ้านจัดนั้น ผมไม่ทราบรายละเอียดสักเท่าไหร่ แต่เมาลิดกลางผมค่อนข้างจะเกี่ยวข้อง เพราะว่าเคยเป็นประธานร้านค้าของสถาบัน ในงานเมาลิดมาก่อน ครับ
--สำหรับเมาลิดที่บ้านไม่มีกิจกรรมอะไรมากนอกจากสิ่งที่ผมบอกไว้แล้วในเนื้อหาของการทำเมาลิด..ข้างบน
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|