ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - ชี้แจงการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน บวกความยืดหยุ่น
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
ชี้แจงการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน บวกความยืดหยุ่น

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
annur
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 05/09/2009
ตอบ: 1


ตอบตอบ: Sat Sep 05, 2009 1:20 pm    ชื่อกระทู้: ชี้แจงการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน บวกความยืดหยุ่น ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ชี้แจงการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน บวกความยืดหยุ่น

ด้วยพระนามของอัลลอฮ สิ่งที่ผู้อ่านจะได้อ่านต่อไปนี้ ไม่ได้เกิดจากความมีอคติส่วนตัว ไม่ได้มาจากองค์กรหรือในส่วนของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทั้งสิ้น
และไม่ได้เกิดจากการที่เคยได้มีปัญหาส่วนตัวหรือมีอะไรไม่ชอบพอกันมาก่อนกับเจ้าของคำกล่าวที่จะกล่าวถึงแต่อย่างใดเลย เพราะสิ่งที่บุคคลท่านนี้เขียน ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ที่มีคุณค่าต่อมุสลิมเราทั้งหลาย

แต่สิ่งที่ต้องทำการชี้แจงต่อไปนี้ เป็นเพียงกระจกบานหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า บางส่วนของคำพูดหลายๆตอน ด้วยกันเป็นคำพูดที่สร้างให้เกิดความสับสน และ ความคลางแคลงใจ ให้กับมุสลิมหลายๆคน ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากของความคลุมเครือ และความไม่ชัดเจนในการนำเสนอ จึงสร้างความสับสนกับพี่น้องที่ไม่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ ไม่สามารถทราบและรู้ได้ว่า ตกลงอิสลามว่าอย่างไรกันแน่ ตกลงเราจะไปทางไหน และตกลง อิสลามมีสีดำ และสีขาว หรือว่ามีสีเทาปนมาด้วย ....
....เป็นไปได้ว่าผู้เขียนไม่ได้เรียนรู้หลักการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง จึงเป็นเหตุทำให้ใช้เหตุผลที่ผิดพลาดหลายจุดด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้จะเป็นตัวชี้แจงให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เจ้าของคำพูดได้ ตรวจสอบ และวิเคราะห์สิ่งที่ตัวเองจะเขียนให้รอบคอบมากกว่านี้.... ก่อนที่จะนำเสนอและถ่ายทอดไปยังสาธารณะชน


สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ขอให้ผู้อ่านได้อ่านอย่างมีใจที่เป็นกลาง โดยจะต้องไม่มองเจ้าของคำพูดที่เราจะวิจารณ์ต่อไปนี้ในฐานะเป็นผู้ร้าย หรือ พระเอก แต่ขอให้มองว่าเป็นผู้ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนคนหนึ่งที่เราไม่มีส่วนได้หรือส่วนเสียอะไรกับเขา และที่สำคัญขอให้เจ้าของบทความข้างต้น ยอมรับการแนะนำและติเตือนข้างต้นนี้ด้วย อย่างน้อยเพื่อให้งานเขียนที่ท่านผู้นี้ได้เขียนนั้น มีประสิทธิผลต่อการอ่านของพี่น้องของเราอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์

จากความตอนหนึ่งท้ายบทความลิ้งนี้

http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=266&Itemid=30

มีผู้กล่าวว่า

ตอนที่ 1

ความเข้าใจที่ ‘ไม่ตรงกัน’ เป็นผลมาจากการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน ซึ่งทรรศนะเหล่านี้อาจยอมรับได้ทั้งหมด หรืออาจมีบางทรรศนะที่ผิดพลาดก็ได้ แต่มิได้หลงผิด ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ได้กล่าวว่า “เมื่อผู้ทำการชี้ขาด(ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน)ทำการวินิจฉัย หากเขาวินิจฉัยถูกก็ได้สองผลบุญ หากว่าเขาวินิจฉัยผิดได้หนึ่งผลบุญ” (รายงานโดยบุคอรียฺ)

การวินิจฉัย(อิจญติฮาด)ปัญหาต่างๆ ยังคงเปิดให้กระทำได้อยู่จนถึงทุกวันนี้โดยผ่านผู้มีความรู้ที่ครบเงื่อนไขของผู้มีความสามารถวินิจฉัยปัญหาได้(เรียกว่า มุจญตะฮิด)

ด้วยสาเหตุนี้เอง ประเด็นปัญหาปลีกย่อยที่แตกต่างระหว่างมุสลิมจึงนับว่าเป็นเรื่องปกติ เช่น กรณีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างทรรศนะเปิดหน้าและปิดหน้าของสตรีมุสลิม เป็นต้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าใจที่แตกต่างกันต่อ ‘ตัวบท’ เดียวกัน

( ชี้แจง: เรื่องปิดหน้าหรือเปิดหน้านั้น เป็นความเห็นที่ได้ตรงกันที่อยู่ในยุคสลัฟ ซึ่งเรายอมรับได้ แต่คำถามก็คือ ถ้าจะมีใครที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้รู้ในวันนี้ และได้ทำการวินิจฉัยในเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่ชาวสลัฟได้เคยวินิจฉัยเช่นนั้นมาก่อน... ดูๆเหมือนว่า ชาวสลัฟนั้นเข้าใจผิดในประเด็นนั้นๆมาโดยตลอด โดยมีผู้รู้นั้นๆเป็นคนแรกที่วินิจฉัยในสิ่งที่ถูก...

เราจะยอมรับการวินิฉัยเช่นนั้นได้ไหม เราจะอ้างได้ไหมว่า ถ้าเขาวินิจฉัยผิด เขาก็จะได้ 1 ผลบุญ? ...จะพูดได้ไหมว่า ผู้รู้คนนี้เข้าใจศาสนาดีกว่าชาวสลัฟ .... เราพูดเช่นนี้ได้ไหม? ...

เราจะพูดอะไรต้องอย่าพูดลอยๆ พูดแล้วแทนที่จะทำให้เกิดความชัดเจน แต่กลับทำให้เกิดความคลุมเครือ ... ถ้าจะพูดก็พูดให้กระจ่าง ให้ละเอียด .... เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ผู้ที่ทำในสิ่งที่เป็นบิดอะฮฺ และตัวคุณก็เชื่อว่าสิ่งนั้นเป็นบิดอะฮฺจริง อ้างแก่คุณบ้างว่า สิ่งที่เขาทำอยู่ถือเป็น “ประเด็นปัญหาปลีกย่อยที่แตกต่างระหว่างมุสลิมจึงนับว่าเป็นเรื่องปกติ” แล้วคุณจะว่าอย่างไร เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรให้ขุ่นมัว พูดให้ชัดเจนว่า ที่ว่า “การวินิจฉัยที่แตกต่างกัน ซึ่งทรรศนะเหล่านี้อาจยอมรับได้ทั้งหมด หรืออาจมีบางทรรศนะที่ผิดพลาดก็ได้ แต่มิได้หลงผิด” นั้นหมายความว่าอย่างไร มีกรอบแค่ไหน มาตรฐานที่ยอมรับได้มีแค่ไหน ... หรือว่าใครเขาจะขัดกันเรื่องไหนก็ตาม ก็อ้างได้ว่า “เป็นการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน” ก็ยอมรับได้ทั้งหมด...ใช่ไหม ...

อย่างนี้เราก็ไม่สามารถตำหนิผู้ที่ วินิจฉัยว่าดอกเบี้ยกินได้... ใช่ไหม? ... การวินิจฉัยของเขาถือว่ามิได้หลงผิดใช่ไหม ???.... อย่างนี้เราก็ต้องให้เกียรติ ผู้รู้ที่วินิจฉัยว่า อนุญาตให้มุสลิมในตะวันตกขายสุราได้... ใช่ไหม??? ถ้าจะเขียนบทความขึ้นมาทั้งทีก็ พูดให้กระจ่าง ให้ชัดเจน ไม่ใช่ยิ่งพูดยิ่งสร้างความสับสนมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก )

--------------------------------

ตอนที่ 2

นี่เป็นความยืดหยุ่นของคำสอนอิสลามดังที่ท่านอิมาม ฮะซัน อัล บันนา ได้กล่าวถึงวิทยปัญญาของมันเอาไว้ว่า “....ด้วยเหตุว่าอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ประสงค์ให้ศาสนานี้ดำรงอยู่ตลอดไป โดยผ่านยุคสมัยต่างๆไปได้ ด้วยเหตุผลนี้ อิสลามจึงมีลักษณะเรียบง่าย ยืดหยุ่น และอ่อนโยน ปราศจากความตายตัว และความเคร่งเครียด”

( ชี้แจง: ตรงนี้ก็เช่นกันที่ พูดขึ้นมาลอยๆ สร้างความคุมเคลือต่างๆให้เกิดขึ้น ... ตกลงอิสลามยืดหยุ่นได้ทุกเรื่องใช่ไหม ไม่มีขอบเขตใช่ไหม ...

ผู้ที่คิดว่าตัวเองลำบาก ไม่สามารถละหมาดได้ อย่างนี้ก็ไม่ต้องละหมาดได้ใช่ไหม เพราะอิสลามยืดหยุ่น...ใช่ไหม? ...

เราอยู่ในสังคมกาเฟร หางานทำยาก อย่างนี้อนุญาตให้ทำงานอะไรก็ได้ใช่ไหม แม้แต่ขายเหล้าก็ตาม...ยืดหยุ่นอย่างนี้ใช่ไหม???...

หรือ งานที่เราทำ ถ้าคลุมฮิญาบแล้วทำให้ทำงานไม่สะดวก เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน...เพราะฉะนั้นศาสนาจึงยืดหยุ่นให้ไม่ต้องใส่ฮิญาบ... ยืดหยุ่นอย่างนี้ใช่ไหม???...

ถ้าตอบว่าไม่ใช่... ก็ต้องอธิบายให้ชัดเจนซิ อย่าพูดอะไรลอยๆ และปล่อยให้แต่ละคนไปจินตนาการคิดกันเอง คนละทาง สองทาง มั่วไปหมด... แทนที่จะสิ่งที่ตนเองพูดจะนำมาซึ่งความชัดเจน แต่เปล่าเลย ยิ่งทำให้เกิดความคลุมเครือเข้าไปใหญ่ .... แทนที่จะเป็นคนนำความถูกต้องมาให้คนทั้งหลาย แต่ระวัง ว่าอาจจะทำให้คนทั้งหลายหลงผิดยิ่งเข้าไปใหญ่) วัลลอฮฮุอะลัม
วาบิลลาฮิตเตาฟี วัลฮิดายะฮฺ วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮ
มีต่อ................
-------------------------
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat Sep 05, 2009 10:53 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Exclamation

ความเห็นต่างของมนุษย์ในประเด็นต่างๆนั้น เป็นปกติธรรมดาของมนุษย์ แต่ถ้าให้มนุษย์มามีความเห็นและเข้าใจตรงกันในทุกเรื่องนั้น ถือว่า เป้นสิ่งผิดปกติ ในเรื่องศาสนาก็เช่นกัน มีมากมายที่บรรดาผู้รู้ในแต่ละยุคในแต่ละสมัย มีหลายประเด็นที่พวกเขามีความเข้าใจไม่ตรงกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ ...ที่แปลกคือ ทำไม่ความแตกต่างจึงต้องแตกแยก"? เราแตกแยกกันเพื่ออะไร เพื่อหวังในความโปรดปรานของพระเจ้าหรือ? คงไม่ใช่แน่..เพราะพระเจ้าย่อมไม่ประสงค์เช่นนั้น ดังนั้น "เราจะทำอย่างไรที่จะทำให้ความเห็นต่างกัน ไม่เป็นฉนวนที่นำไปสู่ความแตกแยกของอุมมะฮมุสลิม
อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

{وَاعْتَصِمُواْ بِحَبْلِ اللَّهِ جَمِيعاً وَلاَ تَفَرَّقُواْ} [آل عمران :103].

และพวกเจ้าจงยึดสายเชือก(ศาสนา)ของอัลลอฮ์โดยพร้อมกันทั้งหมดและจงอย่าแตกแยกกัน

{وَلاَ تَنَـازَعُواْ فَتَفْشَلُواْ وَتَذْهَبَ رِيحُكُمْ} [الأنفال:46].

และพวกเจ้าจงอย่าขัดแย้งกัน แล้วจะทำให้พวกเจ้าย่อท้อ และทำให้ความเข้มแข็งของพวกเจ้าหมดไป

{وَلاَ تَكُونُواْ كَالَّذِينَ تَفَرَّقُواْ وَاخْتَلَفُواْ مِن بَعْدِ مَا جَاءهُمُ الْبَيّنَـاتُ} [آل عمران:105].

และพวกเจ้าจงอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ที่แตกแยกกัน และขัดแย้งกันหลังจากที่บรรดาหลักฐานอันชัดแจ้งได้มายังพวกเขาแล้ว


สาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกแยกในเรื่องศาสนา เช่น

๑. ผู้รู้ที่รู้ไม่จริง แล้วทำการวินิจฉัยประเด็นต่างๆผิดพลาดแล้วมีมุสลิมส่วนหนึ่งเชื่อตามอย่างหลับหูหลับตา ใครนำข้อเท็จจริงมาบอกก็กลับกลายเป็นศัตรูหรือ คนละฝ่าย ของพวกเขาไป
๒. ผู้รู้ที่รู้ความจริง แต่ไม่ได้สอนหรือบอกศิษย์ไปตามความเป็นจริง เพราะเกรงว่าตนจะเสียมวลชนหรือผลประโยชน์ที่มวลชนยิบยื่นให้ แล้วถ้ามีใครมาชี้แจงว่าสิ่งเขาสอนนั้นผิด เขาก็จะยุยงให้มวลชนต่อต้านกับคนผู้นั้น เพราะเขาเกรงว่าเขาจะเสียประโยชน์หากมวลชนทั้งหลายรู้ข้อเท็จจริง จึงเป็นเหตุทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในหมู่ประชาชน

ท่านนบี Solallah กล่าวว่า

القضاة ثلاثة: قاضيان في النار، وقاضي في الجنة، فأما الذي في الجنة فرجل علم فقضى به، وأما اللذان في النار فرجل قضى للناس على جهل، ورجل علم الحق وقضى بخلافه

ผู้พิพากษานั้น แบ่งออกเป็นสามจำพวก ผู้พิพากษาสองจำพวกจะได้อยู่ในนรกและผู้พิพากษาหนึ่งจำพวกจะได้อยู่ในสวรรค์ แล้วสำหรับผู้พิพากษาที่ได้อยู่ในสวรรค์นั้น คือ ชายคนหนึ่ง ที่มีความรู้และเขาได้ตัดสินด้วยความรู้นั้น และสำหรับผู้พิพากษาสองจำพวกที่จะได้อยู่ในนรกนั้น คือ ชายคนหนึ่ง เขาได้ตัดสินให้แก่ประชาชน บนความไม่รู้ และ ชายคนหนึ่งเขารู้ความจริง และเขาได้ตัดสินขัดแย้งกับมัน(กับความจริงที่เขารู้) - รายงานโดย อบูดาวูด,อิบนุมาญะฮและอัตติรมิซีย์
..........
อินชาอัลลอฮมีต่อ

๑.

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sun Sep 06, 2009 4:21 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เพิ่มเติม
๓. ผู้รู้ได้ปลูกฝังประชาชนให้ยึดติดกับมัซฮับ จนประชาชนเข้าใจว่า มัซฮับเป็นส่วนหนึ่งของนิกายในศาสนาที่เขาจำเป็นจะต้องยึดถือนิกายใดนิกายหนึ่งเป็นการเฉพาะ และสมาชิกที่ยึดติดกับมัซฮับจะมองมัซฮับที่ต่างกันเหมือนคนละพวกกับพวกเขา

อัสสัยยิดสาบิก(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

وبالتقليد والتعصب للمذاهب فقدت الأمة الهداية بالكتاب والسنة، وحدث القول بانسداد باب الاجتهاد، وصارت الشريعة هي أقوال الفقهاء، وأقوال الفقهاء هي الشريعة، واعتُبر كل من يخرج عن أقوال الفقهاء مبتدعاً لا يوثق بأقواله، ولا يُعتد بفتاويه.

การเลียนแบบและการทิฐิ(ยึดติดโดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง) ต่อมัซฮับต่างๆ ทำให้อุมมะฮอิสลาม ไม่ได้รับทางนำ แห่งอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ จนถึงกับมีทัศนะให้ปิดประตูอิจญติฮาด จนเป็นเหตุให้บทบัญญัติศาสนาขึ้นอยู่กับบรรดาคำพูดของนักนิติศาสตร์อิสลาม(ฟุเกาะฮาอฺ) และบรรดาคำพูดของฟุเกาะฮาอฺ คือ ศาสนบัญญัติ และถือว่า ทุกคนที่ออกจากบรรดาคำพูดของบรรดาฟุเกาะฮาอฺ เป็นผู้อุตริบิดอะฮ และ คำพูดของบุคคล(ที่ไม่ยึดติดกับฟุเกาะฮฮาอฺ)จะไม่ได้รับการเชื่อถือ และฟัตวาของเขาจะไม่ได้รับการยอมรับ.....- ฟิกฮอัสสุนนะฮ เล่ม ๑ หน้า ๑๐
..........
ปัจจุบัน พิสูจน์ได้ว่า เป็นจริงตามที่ท่านสัยยิด สาบิก กล่าวไว้ คือ ใครไม่สังกัดมัซฮับ จะถูกต่อต้านและถูกตั้งฉายาด้วยฉายาต่างๆ และจะไม่ถูกยอมรับแม้สิ่งที่เขานำมานั้น คือ อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮที่ถูกต้องก็ตาม

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.20 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ