ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 7, 8, 9 ... 15, 16, 17  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Thu May 18, 2006 10:39 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam นายน่าดีดหัว
ไหนละครับคำตอบของผมนั้น ผมรออญุ่นานแล้วนะ

นี่แค่ข้อเดียวเท่านั้นคุณถึงต้องสะอึกเลยหรือนายน่าดีดหัวฮ้า

ที่บังฮะซันตอบมาแบบตบตาท่านผู้อ่านนะครับ เพื่อจะตอบแทนนายน่าดีดหัว ผู้ไม่มีความรู้นั้น ผมถือว่าไม่ตรงประเด็น ครับ

ซึ่งน้องอัลฟารุคก็ได้ตอบเเบบเนื่อ้ๆให้ทราบแล้วด้วย

และผมขอเสริมบังฮะซัน ให้รู้อีกว่า การแบ่งอัลกรุอานเป็นซุเราะที่ประทานเป็นสถานที่นั้นเช่นซูเรามีกีย์ หรือซูเราะมะดีย์นั้นมันคนละเรื่องกันครับกับการแบ่งเตาฮีดออกเป็น3 ประเภทของวะฮาบีย์
----จริงๆแล้วบังฮะซันไม่ได้เป็นวะฮาบีย์ไม่ใช่หรือครับฮ้าๆๆๆๆ
เห็นวันก่อนบังเคยออกตัวกับผมแล้วไม่ใช่หรือครับ
แต่หัวข้อนี้ ผมถามวะฮาบีย์อย่างนายน่าดีดหัว นะครับแต่ก็ไม่เป็นไรครับ..
ดังนั้นการแบ่งเตาฮีดดังกล่าวนั้นไม่มีในสมัยท่านนบีและซอฮาบะหรือยุคหลังเลย แต่เพิ่งมาเมื่อ ศตวรรษที่7ไม่ใช่หรือครับ
อย่างนั้น ไหนละครับ ที่วะฮาบีย์อย่างเช่นนายนาดีดหัว อ้างว่า ตาม กิตาบุลลออ์และซุนนะนบีเท่านั้น
ตรงนี้ ผมพอจะเรียกคนประเภทนี้ว่า ปากว่าตาขยิบได้ไหมหรือว่า ลิงหลอกเจ้า คักๆๆๆ


อีกอย่าง การที่ผู้รู้ในวะฮาบีย์แบ่งเตาฮีดออกเป็น3 ประเภทนั้น มันถือว่าเป็นการกระทำที่ล้ำหน้าอัลลอฮและร้อซุลและบรรดาซออาบะหรือตาบีอีน ตาบีอิตตาบีอน และคนในยุคสลัฟอย่างชัดเจน
เพราะไม่พบหลักฐานการแบ่งเตาฮีดแบบนี้เลย และยังไม่เป็นที่ยอมรับจากอุลามะที่มีชื่อเสียงจาก4 มัสหับ จนถึงทุกวันนี้ ...แล้วนายน่าดีดหัวจะว่าอย่างไรกับอุตริกรรมที่น่ารังเกียจแบบนี้

อีกอย่าง วะฮาบีย์อย่างนายอะดีลรับเอาการตักลีดแบบนี้มาได้อย่างไร Question Question Question

และ ใครเป็นคนแบ่งเตาฮีดอัลรูบียะ เตาฮีด อัลอูลูฮียะ เตาฮีดอัสมาวัสซีฟาต Question Question

และใครกล้ายืนยันว่าการแบ่งเตาฮีดแบบ3 อย่างนี้ พระองค์จะตอบรับ Question Question

และใครกล้ายืนยันว่าการกระทำการแบ่งเตาฮีดให้อัลลออ์อัสวัญญละนั้นถูกต้อง Question Question

และมีใครบ้างจะยอมรับว่าเอกภาพของพระองค์นั้นในภาควิชาอุซุลลุดดีนนั้นมี3ประเภทอย่าง
การแบ่งเตาฮีดแบบวะฮาบีย์ Question Question

และถ้าอย่างนี้เป็นการฝ่าฝืนและล้ำหน้าและท่านรอซุลหรือไม่ Question Question

นายน่าดีดหัว คงเป็นลูกผู้ชายพอ ที่จะมีคำตอบที่ดีและมีเหตุผลให้ผมได้

เพราะมันเหมาะสมแล้วกับคำถามที่ขาดสติของผู้รู้อย่างคุณฮ้าๆๆๆ

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Thu May 18, 2006 11:36 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam นายน่าดีดหัวจอมกวน

คุณกล่าวอ้างว่า น้องอัลอัซฮารีย์กล่าวว่า

กรณีดังกล่าวนี้ มันอยู่ในเรื่องของวิธีการหรือสภาพการแต่ละพื้นที่ ซึ่งวิธีการในการรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นั้น เป็นเรื่องวิธีการที่อยู่ในรูปแบบกว้างๆ (มุฏลัก) ที่เป็นประเด็นในเชิงวินิจฉัย الإجتهاد
----คำว่า มันอยู่ที่วิธีการหรือสภาพการแต่ละพื้นที่ มันหมายความว่ากะไรหรืออัลอัซฮารีย์เอ๋ย

Rolling Eyes น่าสงสารคุณน่าดีดหัวไม่เข้าใจว่า วิธิการ เอ เรียนจบ อะไรมาน๊อ ไม่รู้จักความหมายว่าวิธิการ

Crying or Very sad วิธีการคือการกระทำตามวิธิต่างๆ แต่ตรงนี้มันถือว่าเป็นการรำลึกถึงท่านบีทั้งนั้น เช่น การอ่านกรุอาน
ว่าจะอ่านแบบไหน จะอ่านกรุอานทั้งเล่ม หรือบางบท บางซูเราะ
Laughing หรือการเล่าประวัติท่านนบี(ซล)จะเล่าประวัติทั้งหมดหรือเลือกบางตอน และเล่าอย่างไร
Wink การซอลาวาตท่านบี(หรือขอพรให้ท่านนบี) จะซอลาวาตกี่ครั้ง เหล่านี้คือวิธีการ
Embarassed ส่วนการเชิญกินบุญของผู้เชิญหรือเจ้าภาพ นั้นเราไม่จำกัดงานของเขา จะทำบุญด้วยข้าวเหนียวมะม่วงหรือข้าวเจ้า แกงไก่ แกงเนื้อ ก็เรื่องของเขา และกำลังทรัพย์ของเขา
เพราะการทำความดีแบบกว้างนั้นไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น....

---ปัญหามันอยู่ที่ว่า เขาไม่เชิญวะฮาบีย์อย่างนายน่าดีดหัวไปร่วมทำด้วยนี้ซิ ทำให้นายน่าดีดหัวอารมณ์เสียมากกับงานนี้ที่เจ้าภาพไม่เชิญ
Idea จำไว้นะนายน่าดีดหัว งานไหนที่เจ้าของงานไม่เชิญนั้นคุณอย่า สะเออะอยากไปละ เขาจะเรียกคุณว่า....หน้าด้าน...นะครับ ฮ้าๆๆๆ

และท่านนบีก็ไม่ได้สอนให้หน้าด้านไปด้วย นอกว่าถ้ามีคนเชิญไปเท่านั้น จำเป็นต้องไปถ้าไม่มีธุระอันใด
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-คุณพูกดว่า
---------บางพื้นที่บวช บางพื้นที่ทำเมาลิด ตามแต่สภาพการอย่างนั้นหรือ ----------

ตอบ นายน่าดีดหัวจอมกวน...

ก็ไม่เห็นเป็นไรครับ ใครจะบวชก็ได้ ใครจะทำความดีในรูปอื่นๆก็ได้ ก็บอกแล้วไง ว่า การกระทำความดีแบบกว้างนั้นไม่ข้อจำกัด
-----------------------------------------------------------------------------------------------
-----บวชนั้นซุนนะฮ์ของท่านนบี แต่เมาลิดซุนนะฮ์ใครหรือขอรับนายหัว

คุณพูดผิดอีกแล้วนายน่าดีดหัว
คำว่า ซุนนะ นั้นคุณยังไม่เข้าใจเลย ผมจะอธิบายสั้นๆให้คุณ

ซุนนะคือ การกระทำที่มาจากท่านนบี ไม่ว่าการนิ่ง การเฉย การยอมรับหรือการกระทำจากซอฮาบะของท่านและท่านก็รับรู้


แต่เมาลิดซุนนะฮ์ใครหรือขอรับนายหัว คำถามนี่ ผมอยากตอบเลยเพราะน้องอัลฟารุคอธิบายหลายหน้าแล้ว แต่ผมอยากจะตบและดีดหูคุณสัก100ครั้งที่ไม่ยอมอ่านรายละเอียดเลย

บอกแล้วว่าเมาลิดไม่ได้เป็นซุนนะ จากท่านบี แต่เรื่องนี้ศาสนาเขาถือว่ากระทำได้ (มุบาห์)ยินยอมให้กระทำถ้าไม่ผิดหลัการข้อบัญญัติใดๆและจัดอยู่ในการกระทำความดีแบบกว้างๆ
ไม่เจาะจงรูปแบบ

Evil or Very Mad ฉนั้นคุณกลับไปอ่านเสียใหม่ ว่าในแนวทางของเรานั้นพูดเรื่องนี้ไว้อย่างไร


ส่วนเรื่องบวชนั้นเป็นบัญญติที่มาจากอัลลออ์และให้ท่านศานทูตกระทำให้เป็นตัวอย่างกับเรา
ไม่ใช่ท่านนบีเป็นการกำหนด ขึ้นมาเองรู้ไว้ด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณยังกวนต่ออีกว่า

ที่น่าแปลกอีกอย่างก็คือ อัลอัซฮารีย์บอกว่า เป็นประเด็นในเชิงวินิจฉัย

----เฮ้อ...หลักฐานชัดเจนอยู่แล้วว่าซุนนะฮ์ให้บวช แล้วต้องไปวินิจฉัยทำ..อะไรอีกเล่า ฮ้าๆๆ ---


นายน่าดีดหัว อย่าพาออกนอกเรื่องซิ
บวชหรือการถือศีลอดนั้นเป็นบัญญัติครับ ไม่ได้เป็นซุนนะหรือสุนัติ แต่อย่างใดแต่เป็นวายิบครับ
คุณพูดให้มีหลักการหน่อย อย่าเอาของวายิบหรือจำเป็นมาปนกันมั่วกับซุนนะเหมือนแนวทางที่คุณตามอยู่

.
------------------------------------------------------------------------------

อิมามอัชชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า

كل ما له مستند من الشرع فليس ببدعة فلو لم يعمل به السلف

"ทุกๆสิ่งที่มีสิ่งที่อิงถึงหลักศาสนา มันย่อมไม่เป็นบิดอะฮ์(ที่ลุ่มหลง) ถึงแม้นว่า สะลัฟไม่เคยปฏิบัติด้วยกับมันก็ตาม"

-----ผมไม่ทราบว่าคุณเข้าใจเหมือนกับท่านอิหม่ามชาฟีอีเข้าใจหรือไม่ ฮ้าๆๆ----

หรือคุณจะพูดว่าอีหม่ามชาฟีอี(รฮ)ไม่เข้าได้เข้าใจดีมากกว่าคุณเลยคักๆๆๆ

เพราะผมดูแล้ววะฮาบีย์อย่างนายน่าดีดหัวนั้นไม่มีความรู้เอาเลย สู้บังฮะซันก็ไม่ได้
ดังนั้น ทางออกที่ดีสำหรับคุณคือ

กลับลงหลุมไปอยู่กับของซากเหม็นดีกว่าเถอะ นายอดีดเอ๋ยฮ้าๆๆๆๆๆ


wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu May 18, 2006 9:41 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นาย konyakroo กล่าวว่า
ถามบังฮะซันนิดเถิดว่า ระหว่างความน่าเชื่อถือในการเป็นมุสลิมของน้องนักศึกษา ที่เชื่อฟังอัลลออ์และปฏิบัติแบบฉบับท่านนบีและยอมรับในสิ่งที่รายงานมา กับคุณแมท ที่เชื่อแต่อัลลออ์และเชื่อว่าท่านนบีเป็นรอซุลเท่านั้น แต่กลับไม่เอาซุนนะหรือแบบฉบับของท่านนบีนั้นบังฮะซันจะยอมรับและเชื่อถือใครกว่ากัน
คนอยากรู้
..................
ตอบ
ดูจากคำถาม คิดว่า ผู้ถามอาการน่า เป็นห่วง มีอุลามาอท่านใหนละครับมาบอกว่า การแบ่งเตาฮีตโดยพิจารณาตามเนื้อหาเป็นบิดอะฮ แล้วมีใคร ที่ใหน กล่าวว่า การแบ่งบท ในวิชาหะดิษ เช่น บาบุฏเฏาะฮาเราะฮ บาบุศเศาะลาต ... เป็นบิดอะฮ มีใครที่ใหนหรือครับ ที่ มีนักหะดิษ แบ่ง หะดิษ เป็น เศาะเฮียะ หะซัน เฎาะอีฟ เมาฏูวะ ว่า เป็นบิดอะฮ สติยังดีอยู่หรือเปล่า แล้วการแบ่งเตาฮีดแบบนี้ น้องคนอยากรู้บอกว่า ผิด ว่างๆลองไปสำรวจตามปอเนาะต่างดูซิครับ ตอนนี้ในหลักสูตรของโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาเขามีทั้งหนั้น ซึ่งเขาเรียกวิชาว่า “เตาฮีดสะลัฟ” ที่นี้ลองมาดูเว็บในเครือ มอ.ปัตตานี
การศรัทธาต่ออัลลอฮ์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ในด้านความเป็นพระเจ้า ( รูบูบียะฮ )
หมายถึง จำเป็นที่มุสลิมจะต้องศรัทธาว่าอัลลอฮ์ คือ ผู้ทรงบังเกิด ผู้ทรงบริหาร ผู้ทรงประทานปัจจัยยังชีพ ผู้ทรงให้ชีวิต ผู้ทรงปลิดชีวิต ผู้ทรงดูแลคุ้มครอง ผู้ทรงสร้างสวรรค์ เป็นต้น
2. การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ในด้านการเคารพภักดี ( อูลูฮียะฮ )
หมายความว่า จำเป็นที่มุสลิมจะต้องทำการเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์องค์เดียว และมุสลิมจะต้องทำการเคารพภักดีในทุกประเภทของการสั่งให้เคารพภักดีของอัลลอฮ์ เช่น การปฏิบัติตามรูก่นอิสลาม 5 ประการ รูก่นอีหม่าน 6 ประการ อีหสาน การขอดุอาอ ความกลัว ความหวัง การมอบความไว้วางใจ การเกรงกลัว การขอความช่วยเหลือ การบนบาน การขอความคุ้มครอง เป็นต้น
3. การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ในด้านพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ์ ( อัสมาอวัสซีฟัต )
คือ จำเป็นที่มุสลิมทุกคนจะต้องศรัทธาว่า พระองค์อัลลอฮ์ทรงมีพระนาม และคุณลักษณะที่สมบูรณ์ ปราศจากความบกพร่อง ไม่มีสิ่งใดเหมือนพระองค์ พร้อมกันนี้ก็ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ หรือนำเอาลักษณะของพระองค์ไปเปรียบเทียบกับลักษณะของสิ่งที่ถูกสร้าง
http://www.fathoni.com/lesson/one_2/lesson2.htm
.............
เนื้อหาข้างต้นเป็นบิดอะฮหรือครับ กลับไปนับหนึ่งใหม่เถอะ ถ้ามีความคิดไร้สาระแบบนี้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu May 18, 2006 10:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผ่านไปพบเลยเอามาฝากผู้อ่าน
ความหมายของ อัลอะชาอีเราะฮ
เป็นพหูพจน์ของคำว่าอัลอัชอะรีย์ซึ่งมาจากชื่อตระกูลของอะบูหะสัน อัลอัชอะรีย์(เสียชีวิตปีฮ.ศ.324/ค.ศ.936) แนวคิดนี้ถูกอ้างว่าเป็นอีกแนวคิดหนึ่งของอะฮฺลุสสุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีข้อแตกต่างบางประการจากอะฮฺลุสสุนนะฮฺเช่นการยึดหลักฐานจากสติปัญญามากกว่าจากตัวบทในกรณีที่มีความขัดแย้งกัน และได้แบ่งประเภทการศึกษาคุณลักษณะของอัลลอฮฺตามแนวอิลมุลกะลามคือคุณลักษณะที่วาญิบ(จำเป็นต้องมี)ต่ออัลลอฮฺ คุณลักษณะที่มุสตะหีล(เป็นไปไม่ได้ที่จะมีต่อพระองค์) และคุณลักษณะที่ญาอิซ(อาจจะมีหรือไม่มีในพระองค์ก็ได้)และยังมีการตะอ์วีลหรืออธิบายความหมายของบางอายะฮฺที่เกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮฺให้สอดคล้องกับสติปัญญาของมนุษย์อีกด้วย และการที่นำชื่ออะบูหะสันอัลอัชอะรีย์มาอ้างว่าเป็นเจ้าของแนวคิดนี้นั้นไม่ถูกต้องเนื่องจากท่านอะบูหะสันได้เปลี่ยนแนวคิดมาเป็นอะฮฺลุสสุนนะฮฺแล้วซึ่งจะเห็นได้จากการที่ท่านแต่งหนังสือชื่อว่าอันอิบานะฮฺ (ดูมอฺญัม อัลฟาซ อัลอะกีดะฮฺ ของ อามีรฺ อิบนุ อับดุลลอฮฺ น.43-44)
http://www.iqraonline.org/thai/index.php?option=com_content&task=view&id=70&Itemid=1
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 12:56 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นายคนอยากรู้ชักจะเลอะเทอะใหญ่แล้ว บังอะสันครับ เข้ามาด่าเต็มๆเลย บังจะไม่พิจารณาหน่อยหรือครับ

ไม่รู้ว่าสนทนาเชิงวิชาการของพวกนี้คือการด่าคู่สนทนาแบบไม่ซ้ำหรือไง
มิหนำซ้ำยังใช้วิชามารสร้างภาพตบตาท่านผู้ชมอีกด้วยครับ ลองพิสูจน์ดูหน่อยเป็นไร


นายคนอยากรู้กล่าวว่า

ไหนละครับคำตอบของผมนั้น ผมรออยู่นานแล้วนะ นี่แค่ข้อเดียวเท่านั้นคุณถึงต้องสะอึกเลยหรือนายน่าดีดหัวฮ้า


ขอตอบว่า มั่วนิ่มครับ มั่วนิ่ม นายคนอยากรู้มั่วสร้างภาพให้คนเห็นว่าตั้งคำถามได้เจ๋งมากจนไม่กล้าตอบ แต่ขอโทษ...หลอกได้ไม่สนิท ตบตาท่านผู้ชมได้ไม่แนบเนียน ฮ้าๆๆเอิกๆๆ
ทีแรกผมก็สงสัยอยู่ว่า มันเข้ามาคุยกับใครอยู่วะ บอกว่ารอตั้งนานไม่ยอมตอบ
อ่านไปอ่านมาก็จับไต๋ได้ว่ากลลวง


โอ้โฮ้...เจอจะๆเลยครับท่าน

พิสูจน์ได้ด้านบนข้อความครับ ผมเข้ามาล่าสุดตอน 7.21 นายคนอยากรู้ดอตมาตั้งคำถามอยู่คนเดียวเมื่อตอน 10.05 และลงข้อความต่อเนื่องตอน 10.39 เขาคุยอยู่คนเดียวแล้วบอกไหนละคำตอบ รออยู่นานแล้วนะ ฮ้าๆๆ ประสาทกลับ.....

วิชานี้ท่านได้แต่ใดมา สกปรกจิ้งจิง ฮ้าๆๆ เอิกๆๆ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 12:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นายคนอยากรู้ทำตัวเป็นทนายอีกแล้ว โผล่มาตั้งประเด็นเรื่องแบ่งเตาฮีต

เฮ้อ....คนอยากรู้เอ๋ย ชื่อหัวข้อนี้คือ เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ) อัลฟารูกเป็นคนตั้งด้วยนะ

จะเปลี่ยนเรื่องไปทำไม จะหลบกลบเกลื่อนไปไหน คนเขากำลังชมอยู่


สงสัยจะไปไม่รอดเลยชวนเปลี่ยนเรื่องซะดื้อๆ ฮ้าๆๆ เอิกๆๆ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 1:02 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นายคนอยากรู้กล่าว่า

ผมว่าวะฮาบีย์เช่นคุณนั้นทุกวันนี้เหมือนคนไร้สติในสมองนะครับ มีแต่สมองแต่ความรู้ สู้บังฮะซันสักนิดก็ไม่ได้ฮิๆๆๆๆ

นี่เล่นวิชามารอีกขั้นรึ บังอาจจับผมไปเซี่ยมกับบังอะสัน ฮ้าๆๆ
ขอโทษ...ไม่บังอาจจะเทียบชั้นอย่างบรมจารย์อะสัน เพราะท่านกำลังสอนนักศึกษาปริญญาโทอยู่ ผมอ่านผ่านๆเห็นท่านถามลูกศิษย์ของท่านว่า


al-farook เขาใจคำว่า “นัฟลุลมุฏลัก”หรือเปล่า

ฮ้าๆๆๆ เอิกๆๆ แต่ผมเป็นแค่ลูกศิษย์ปลายแถวเท่านั้นแหละ ฮ้าๆๆ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 1:08 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นายคนอยากรู้กล่าวหาผมว่า ไม่เปิดโอกาสให้ให้นักศึกษานำเสนอเหตุผลให้ละเอียด

ผมอยากถามว่า ผมไปปิดปากมัดมือเขาซะเมื่อไหร่ละ ก่อนจะเข้ามาผมก็อ่านแล้วน้า เขาเขียนว่ากระดานเสวนา แล้วใครก็ม่ายรู้ตั้งหัวข้อว่า สนทนาเชิงวิชาการ ไม่ยักรู้ว่าเขาให้โชว์อิลมูกันอย่างเดียว โอ้โฮ้...ระดับปริญญาเมืองไคโรซะด้วย เลยต้องห้ามถามๆ เดี๋ยวหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ ฮ้าๆๆ

แต่นายคนอยากรู้ดันถามผมว่า

1.มีหลักฐานจาก ท่านนบี ห้ามไม่ให้ทำเมาลิด หรือไม่
2.มีหลักฐาจาก คอลีฟะทั้ง4 ห้ามไม่ให้ทำเมาลิด หรือไม่
3.มีหลักฐานจาก ซอฮาบะห้ามไม่ให้ทำเมาลิด หรือไม่
4.มีหลักฐานจาก ตาบีอีนห้ามไม่ให้ทำเมาลิด หรือไม่
5.มีหลักฐานจาก ตาบีอิตตาบีอีน ห้ามไม่ให้ทำเมาลิด หรือไม่
6. มีหลักฐานจาก อีหม่ามทั้ง4 ห้ามไม่ให้ทำเมาลิด หรือไม่

แหม...ถามคนอิลมูน้อยๆ อย่างผมซะด้วย แล้วจะตอบได้ไหมนี่ ฮ้าๆๆ แต่ลองใจถึงตอบคำถามของคนอยากรู้ซะหน่อย เพื่อจะคลายความอยาก (รู้ ) ไปได้บ้าง เอ้า....ฟังให้ดีนะ

สมมุติว่าผมบอกให้คุณไปกินข้าว แต่คุณดันเอาหัวไปโขกฝา

เช่นนี้แลคนอยากรู้เอ๋ย ไม่ต่างอะไรหรอกที่เอาเรื่องบวชสุนัตวันจันทร์มาโชว์แต่ดันไปทำเมาลิด ฮ้าๆๆ

และสมมุติว่า ผมไม่ได้ถามอะไรคุณเลย แต่คุณตอบเป็นวรรคเป็นเวร เช่นนี้แลคนอยากรู้เอ๋ย เขาเรียกว่า "เสือก" ฮ้าๆๆเอิก

แล้วคุณก็โวยวายว่า ผิดด้วยหรือ คำสั่งใช้ให้ตอบก็ไม่มี คำสั่งห้ามตอบก็ไม่มี เขาเรียกว่า"เสือกทั้งขึ้นทั้งล่อง"

ด้วยประการฉะนี้แล ฮ้าๆๆเอิกๆๆ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 1:12 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แล้วที่บอกว่ารักร่อซูล ก็ต้องตามรอซูลนั้น
โอ้โฮ้.....เก่งมาก....พูดได้ถูกใจ พูดได้ไงเนี่ย หน้าให้คะแนน
แล้วทำเมาลิดนะรักใครและตามใครละ ฮ้าๆๆ เอิกๆๆ


เอ้า...อ่านซะ...

อัลลอฮ์ ตะอาลากล่าวว่า

บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ (ชาวมุฮาญีรีนจากมักกะฮฺ) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันศ้อรมะดีนะฮฺ) และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดีนั้นอัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย (9/11 ความหมายโดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ)


ใช่ครับ...หัวใจของซอฮาบะฮฺเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อท่านร่อซูล ถึงขนาดตายแทนได้เลย

แต่ถ้าเราจะรักท่านรอซูลก็ควรเอาเยี่ยงอย่างซอฮาบะฮ์ไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเราถึงไปเอาเยี่ยงอย่างของคนอื่นมาแสดงความรักด้วยเล่า หรือว่าสุดยอดในของความรักต้องแบบอย่างที่เราทำ ไม่ใช่แบบอย่างของซอฮาบะฮฺใช่ไหม

เอาเยี่ยงอย่างซอฮาบะฮ์ในการแสดงความรักและการจงรักภักดีต่อรอซูลซิ อัลลอฮ์พอใจด้วยนะ แต่คนอยากรู้กับพวกไม่เอาทั้งเยี่ยงอย่างรอซูลและซอฮาบะฮ์ ไปเอาเยี่ยงอย่างใครมาเล่า ผมถามไว้ว่า มีใครอีกหรือที่แสดงความรักได้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าซอฮาบะฮ์ ก็ไม่ตอบๆ และไม่ตอบๆๆๆ เพราะไปเอาเยี่ยงอย่างชีอะฮ์ซะแล้ว

บอกว่าจะถามอิหม่าชาฟีอี ดันไปตามอิหม่ามโคมัยนี่ซะแล้ว ฮ้าๆๆ เอิกๆๆ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 1:16 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นายคนอยากรู้กล่าวว่า

บวชหรือการถือศีลอดนั้นเป็นบัญญัติครับ ไม่ได้เป็นซุนนะหรือสุนัติ แต่อย่างใดแต่เป็นวายิบครับ


เลอะเทอะซะไม่มีละ นายคนอยากรู้เอ๋ย

บวชวันจันทร์นะเป็นซุนนะฮ์

นายคนอยากรู้นี่มัซฮับไหนหว่า ถึงบอกว่าเป็นวายิบ


ถ้าบวชวันจันทร์เป็นวายิบ สงสัยบวชร่อมาฎอนจะเป็นซุนนะฮ์ละมั้ง สถาบันไหนเขาสอนละ ฮ้าๆๆเอิกๆๆๆ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 2:33 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

ไม่น่าเชื่อว่า คนระดับปริญญาโท จะตอบแบบปิดตาชนอย่างนี้ แล้วใหนล่ะหลักฐานท่านนบีใช้ให้ทำเมาลิด ตอบให้ตรงไปตรงมา ไม่ใช่ แบบไปใหนมา สามวาสองศอก อย่างที่น้องอะดีลเขาว่า
น้อง al-farook เขาใจคำว่า “นัฟลุลมุฏลัก”หรือเปล่า ละหมาดสุนัต นอกจากละหมาดสุนัตที่ควบคู่ไปกับละหมาดฟัรดู หรือ ที่เรียกว่า “รอวาติบ”เช่น ละหมาดสุนัตก่อน-หลังละหมาดฟัรดู แล้ว ก็มีละหมาดสุนัต ถูกจำกัดเวลาและสาเหตุ เช่น ละหมาดอีด ละหมาดขอฝน เป็นต้น และมีสุนัตอีกประเภทหนึ่ง เรียกกันว่า สุนัตมุฏลัก หรือ นัฟลุ้ลมุฏลัก คือ การละหมาดสุนัต ที่ไม่ได้จำกัดจำนวนและเวลา ยกเว้น ห้ามทำในเวลาที่ต้องห้าม เราจะทำจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ โดยไม่ผูกมัดตัวเองและ จำกัดเวลา ในโอกาสนั้น โอกาสนี้ ดังนิยามว่า....

วิจารณ์

ฮึ ฮึ บังอะสันไม่เข้าใจเรื่องศาสนา แล้วมากล่าวหาว่า ผมตบตา คำว่า"ทำจำนวนเท่าไหร่ก็ได้นั้น" มันมีปัญหาอยู่ เนื่องจากท่านอะหฺมัด จำกัดทำละหมาดสุนัต 300 ร่อกะอัต ในทุกวัน และเมื่อท่านอะหฺมัด ได้ถูกโบย ท่านก็จำกัดทำ 150 ร่อกะอัต ทุกวัน นี่ไงล่ะครับ ที่บังอะสันพยยามปกปิดและตบตาผู้อ่าน ทำไมท่านอิมามอะหฺมัด ไม่ทำ 100 ร่อกะอัตบ้าง ทำ 200 ร่อกะอัตบ้าง ทำ 320 ร่อกะอัตบ้างละครับ มาจำกัด 300 ร่อกะอัตทำไม ? มาจำกัด 150 ร่อกะอัตทำไม? นั่นคือประเด็น

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 2:35 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

ท่านอิหม่ามอะหมัด ละหมาดสุนัตมุฏลักด้วยความสมัครใจ แต่ท่านไม่ได้จำกัดวันนะครับ เช่นวันเกิดนบี และอิหม่ามอะหมัดไม่เคยพูดถึง การจัดงานเมาลิด อย่าลากท่านมาอ้างเลยครับ

วิจารณ์

บังอะสันครับ ผมตอบคำพูดนี้ของบังอะสันไปแล้ว ทำไมถึงเอามาพูดอีก ทำไมถึงไม่ทำความเข้าใจผู้สนทนา

ผมตอบบังอะสันไปแล้วนะครับ ในวันที่ "ตอบ: Sat May 13, 2006 10:01 pm "
ทำไมไม่พิจารณาหลักการของเราบ้างล่ะครับ ผมเคยกล่าวไปว่า

"คำว่า"อีด" นั้น ไม่ใช่แปลว่า "เทศกาล" ไม่ใช่ใครเรียกหรอกที่เรียกอีดอัฏหาว่า "เทศกาลฮัฏหา" ไม่ใครเรียกอีดฟิตรว่า "เทศกาลฟิตร์" คำว่าเทศกาลนั้น ภาษาอาหรับเขาเรียกว่า " موسم " ไม่ใช่ " عيد " แต่การทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นั้น เราทำกันได้ตลอดปี ไม่ใช่ไปเจาะจงทำกันวันเดียว เหมือนกับ อีดอัฏหา และอีดฟิตร์ ดังนั้น ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ไม่ได้กล่าวหาว่าการทำเมาลิดเป็นบิดอะฮ์แบบโดยรวม"

และผมก็เคยพูดไปแล้วว่า

"ดังนั้น การทำเมาลิดรำลึกถึงนบี(ซ.ล.)นั้น เราไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่คืนเมาลิดและเอี๊ยะติก๊อตว่ามันเป็นคืนที่เฉพาะเจาะจงในการในการทำเมาลิด เนื่องจากว่ามันเป็นอุตริกรรมในศาสนา เนื่องจากการรำลึกถึงท่านร่อซูลุเลาะฮ์(ซ.ล.)นั้น ต้องทำกันทุกวันทุกเวลา ฉะนั้น การทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) จึงทำได้ทุกวัน เนื่องจากเมาลิดนบี(ซ.ล.) ก็คือการอ่านเล่าประวัติศาสตร์ของท่านนบี(ซ.ล.) การซ่อลาวาตให้มากๆ โดยไม่ได้เจาะจงในวันใดวันหนึ่ง แต่ว่า การกระทำในเดือนที่ท่านนบีประสูตนั้น มันเป็นแรงผลักดันที่มีน้ำหนักกว่า ที่จะทำให้บรรดามุสลิมมารวมตัวกัน เพื่อแสงความรักต่อท่านร่อซูลลุลเลาะฮ์ ซอลาวาต รับฟังประวัติศาสตร์ของท่านนบี(ซ.ล.) เพื่อให้เขามีความผูกพันธ์ถึงเหตุการณ์ในอดีตอันน่าประทับใจโดยสร้างความรักอันลุกโชติช่วงอยู่ในหัวใจของเราจากบรรดาประวัติของท่านนบี(ซ.ล.)"

บังอะสันครับ การสนทนาในเชิงวิชาการ มีจะประสิทธิภาพได้ ก็ต่อเมื่อผู้ร่วมสนทนาอ่านและเข้าใจสิ่งที่ผู้ร่วมสนทนาอีกฝ่ายหนึ่งนำเสนอ เราสนทนาไม่ใช่เพื่อให้บังอะสันและพี่น้องวะฮาบีย์มาทำเมาลิดเหมือนกับพวกเรา แต่เราสนทนาเพื่อให้พี่น้องมุสลิมที่ต่างทัศนะกัน มีความเข้าใจกันและกัน ในหลักการที่ตนยึดปฏิบัติอยู่

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 2:37 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

อิมามอัชชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า

كل ما له مستند من الشرع فليس ببدعة فلو لم يعمل به السلف

"ทุกๆสิ่งที่มีสิ่งที่อิงถึงหลักศาสนา มันย่อมไม่เป็นบิดอะฮ์(ที่ลุ่มหลง) ถึงแม้นว่า สะลัฟไม่เคยปฏิบัติด้วยกับมันก็ตาม" ดู หนังสือ อิตกอน อัลซ๊อนอะฮ์ ฟี ตะหฺกีก มะอฺนา บิดอะฮ์ ของท่าน มุหัดดิษ ชัยค์ อัลฆุมารีย์ หน้า 14 ตีพิพม์ มัตตักอัลกอฮิเราะฮ์ ปี ฮ.ศ. 1426 - ค.ศ. 2005
..........
แล้วอิหม่ามชาฟิอีย์ได้สอนให้จัดงานวันเกิดนบีหรือเปล่า และอิหม่ามชาฟิอีย์ เป็นศาสดา หรือ เป็น อุลามาอ แยกออกหรือเปล่า

วิจารณ์

เราอ้างอิงคำกล่าวของอิมามชาฟิอีย์เพื่อชี้ถึงหลักการที่ว่า"สิ่งที่สะลัฟไม่ได้ทำนั้นไม่ใช่บิดอะฮ์ลุ่มหลงก็เท่านั้นเอง" พอเราอ้างคำกล่าวของอิมามชาฟิอีย์ที่วะฮาบีย์ไม่อยากจะยอมรับและรับฟัง ก็บอกกับเราว่า "อิหม่ามชาฟิอีย์ เป็นศาสดาหรืออุลามาอ.." คือพูดง่ายๆก็คือ ไม่จำเป็นต้องเอาคำกล่าวของอิมามชาฟิอีย์ เพราะว่าไม่ใช่นบี(ซ.ล.) แต่ทำไมการสนทนาของบังอะสันที่ผ่านมาหลายกระทู้ ชอบอ้างคำพูดที่ไม่ใช่นบี(ซ.ล.)ด้วยละครับ อ้างทำไมว่าตามสะลัฟ ทั้งที่พวกเขาไม่ใช่นบี(ซ.ล.) อ้างทำไมกับคำนิยามบิดอะฮ์ของท่านอิมามอัชชาฏิบีย์ ทั้งที่เขาไม่ใช่นบี(ซ.ล.) อ้างทำไมกับคำกล่าวของท่านอิบนุรอญับ อ้างทำไมกับคำกล่าวของท่าน อัลหะซันอัลบะซอรีย์ ?? ดังนั้น บังอะสันจึงดูเหมือนกับคนไม่ค่อยมีหลักการ แต่เอาหลักอารมณ์มาเป็นข้อตัดสิน เช่นเรายกคำกล่าวของสะลัฟมา บังอะสันก็บอกว่า เขาไม่ใช่เป็น "นบี(ซ.ล.)" นี่คือคำหักล้างที่สุดในการสันหาของบังอะสันแล้วครับ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 2:39 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

เอาหะดิษนี้มาใช้อีกแล้วหรือครับ มาดูตัวบททั้งหมด
وقال ابن أبي خيثمة : ثنا أبي ثنا محمد بن خازم عن الأعمش عن القاسم بن عبد الرحمن عن أبيه عن عبد الله بن مسعود قال : من عرض له منكم قضاء فليقض بما في كتاب الله , فإن لم يكن في كتاب الله فليقض بما قضى فيه نبيه صلى الله عليه وسلم , فإن جاء أمر ليس في كتاب الله ولم يقض فيه نبيه صلى الله عليه وسلم فليقض بما قضى به الصالحون , فإن جاء أمر ليس في كتاب الله ولم يقض به نبيه ولم يقض به الصالحون فليجتهد رأيه
....................
‏رواه البيهقي في السنن الكبرى كتاب آداب القاضي ‏(‏10/115‏)‏ ص‏)‏ كر‏)‏‏.‏
คำว่า
من عرض له منكم قضاء แปลว่า “บุคคลใดจากพวกท่าน มีคดีความถูกนำมาเสนอให้เขา(ตัดสิน)
หะดิษนี้ เกียวกับการพิพากษาคดีความ ไม่ใช่บอกว่า หากไม่มีในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ แล้วอนุญาต
ให้ อุตริบิดอะฮ ตามที่ที่เห็นว่าดี เช่น ทำเมาลิด อย่ามาอ้างเลยครับ รำคาญจะตอบ ไร้น้ำหนัก เบาเหมือนปุยหนุ่น


วิจารณ์

คำหักล้างมุกเก่านี้ ผมได้ตอบบังอะสันไปแล้วในกระทู้ "การแสดงความรักต่อท่านบี(ซ.ล.)" ในการ "ตอบ: Wed Apr 12, 2006 1:54 am" ว่า

เรื่องเมาลิดนั้น มีหลักฐานจากคำกล่าวของท่านนบี(ซ.ล.) ส่วนรายละเอียดนั้น ผมขอตอนหลังสอบครับ เพื่อจะได้สนทนากันต่อเนื่องในเชิงวิชการเต็มรูปแบบครับ

และจากคำพูดของ ท่านอิบนุมัสอูดนั้น ผมยกอ้างเพื่อยืนยันถึงหลักการอ้างหลักฐานเท่านั้นเองครับ คำว่า "หากสิ่งหนึ่งที่ไม่มีระบุไว้ใน กิตาบุลเลาะฮ์...." คำว่า "สิ่งหนึ่ง"หรือ "ประการหนึ่ง" ที่นี้ ให้ความหมายที่ อุมูม ครอบคลุม ถึงเรื่องศาสนาและเรื่องของดุนยา หรือรวมถึงเรื่องอิบาดะฮ์และเรื่องที่ไม่ใช่อิบาดะฮ์ เรื่องอิบาดะฮ์ก็มีการตัดสิน และเรื่องของที่ไม่ใช่อิบาดะฮ์ก็มีการตัดสินพิพากษาได้ เนื่องจากทุกอย่างก็คือหุกุ่มเช่นเดียวกัน และการยกคำกล่าวของท่านอิบนุมัสอูดมานั้น เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า การที่ไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น ก็ให้ใช้ความเห็น(เช่นการกิยาส) แต่หลักการหรือหลักฐานหะรอมที่ว่า "หากนบีหรือซอฮาบะฮ์ไม่กระทำถึงหะรอม" หรือบอกว่า "หากมันเป็นสิ่งที่ดี บรรดาผู้มีคุณธรรมก็ต้องกระทำล่วงหน้ามันมาก่อน" ซึ่งการกล่าวอย่างนี้ ไม่ใช่เป็นหลักฐานว่า หะรอม หรือ ไม่หะรอม และการที่ท่านนบีไม่ได้ทำนั้น ไม่ได้ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นสิ่งที่หะรอม นอกจากมีหลักฐานมาระบุว่ามันหะรอม และการที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้ทำนั้น ไม่ใช่เป็นหลักฐานตามหลักวิชานิติศาสตร์อิสลาม ในการชี้ขาด ก็เท่านั้นแหละครับบังอะสัน

ส่วนเรื่องพิธีกรรมในศาสนานั้น เราต้องมีหลักฐานมายืนยันครับ แต่บังอะสันอย่าลืมว่า หลักฐานนั้น มีทั้งหลักฐานที่เฉพาะเจาะจงไว้แล้ว และมีหลักฐานแบบกว้างๆ ซึ่งผมก็ได้อธิบายมาเยอะมากแล้วนะครับ หากอยากดูรายละเอียด บังอะสันโปรดติดตาม กระทู้ เหลือเชื่อ !!! เสื้อเรารักนบีเป็นบิดอะห์ ดีกว่าครับ เรื่องทำบุญคนตายและพิธีกรรมที่บังชอบเอ่ยขึ้นมานั้น ผมได้อธิบายได้ในกระทู้ดังกล่าวแล้วครับ โปรดไปติดตามได้
_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 19, 2006 2:45 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มีวะฮาบีย์ตนหนึ่ง ได้กล่าวว่า

ลองพิสูจน์ซิครับ

คำว่าทุกสิ่งที่อ้างอิงถึงหลักศาสนานั้น ผมอยากทราบว่า การรวมแบบสัดผัก เอาโน่นนิด เอานี่หน่อยรวมกันเป็นพิธีกรรมเมาลิดนะ อิงหลักศาสนาต้นไหน ตัวบทอัลกุรอานหรือฮาดีสบทใด ฮ้าๆๆ

ผมก็ถามหลายครั้งแล้วว่า เมาลิดนะใครผสมสูตรให้

ไม่มีคำตอบครับ และก็จะไม่มีคำตอบอีกเช่นเคย ออกไม่ได้.........ทางตันครับ.......ทางตัน....... ฮ้าๆๆเอิกๆๆ

วิจารณ์

คำตอบนั้น มันมีอยู่ในตัวแล้ว แต่วะฮาบีย์ตนนี้ไม่ยอมเข้าใจ

ทัศนะของนักปราชญ์อิสลามแห่งโลกอิสลาม (ชื่ออุลามาอ์ที่เป็นตัวสีดำ คือผู้ที่สนับสนุนเรื่องเมาลิด , อุลามาอ์ที่ตัวอีกษรสีน้ำเงิน คือผู้มีทัศนะที่เป็นกลาง , และผู้ที่มีอักษรสีแดงคือผู้ที่ปฏิเสธครับ) โปรดดูต่อไปนี้

1. ท่านอัชชาฏิบีย์ الشاطبي ( ชีวิต ปี 590 ฮ.ศ.)
2. ท่านอิบนุ อัลเญาซีย์ ابن الجوزى(ปี 597 ฮ.ศ.)
3. ท่านอบูอัลค๊อฏฏอบ อิบนุ ดิฮฺยะฮ์أبو الخطاب ابن دحية ( ปี 633 ฮ.ศ.)
4. ท่านอัลหาฟิซฺ อัศสะคอวีย์ الحافظ السخاوي( ปี 634 ฮ.ศ.)
5. ท่านอบู ชามะฮ์ อาจารย์ของอิมามนะวาวีย์ أبو شامة ( ปี 665 ฮ.ศ.)
6. ทานอิมาม อันนะวาวีย์ النووي( ปี 676 ฮ.ศ.)
7. ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ابن تيمية ( ปี 728 ฮ.ศ.)
8. ท่านอัลฟากิฮีย์ الفاكهاني( ปี 734 ฮ.ศ.)
9. ท่านอิบนุญะมาอะฮ์ ابن جماعة ( ปี 733 ฮ.ศ.)
10. ท่านอิบนุ ซัยยิดินนาสابن سيد الناس ( ปี 734 ฮ.ศ.)
11. ท่านอิบนุ อัลหาจญฺ อัลมาลิกีย์ ابن الحاج المالكي ( ปี 737 ฮ.ศ.)
12. ท่าน ตะกียุดีน อัลซุบกีย์ تقي الدين السبكي ( ปี 756 ฮ.ศ.)
13. ท่านอิบนุกะษีร ابن كثير ( ปี 774 ฮ.ศ.)
14. ท่านอิบนุรอญับ إبن رجب ( ปี 795 ฮ.ศ.)
15. ท่านอัลหาฟิซฺ อัลอิรอกีย์الحافظ العراقي ( ปี 806 ฮ.ศ.)
16. ท่านอิบนุ อัลญัซฺริ ابن الجزري ( ปี 833 ฮ.ศ.)
17. ท่านอิบนุ นาซิรุดดีน อัดดิมิชกีย์ ابن ناصر الدين الدمشقي( ปี 842 ฮ.ศ.)
18. ท่านอิบนุ หะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ابن حجر العسقلاني ( ปี 852 ฮ.ศ.)
19. ท่านอัศสะยูฏีย์ السيوطي ( ปี 911 ฮ.ศ.)
20. ท่านอัลกุศฏุลลานีย์القسطلاني ( ปี 923 ฮ.ศ.)
21. ท่านอิบนุหะญัร อัลฮัยตะมีย์ابن حجر الهيتمي ( ปี 974 ฮ.ศ.)
22. ท่าน มุลลา อะลีย์ อัลกอรีย์ملا علي القاري ( ปี 1014 ฮ.ศ.)
23. ท่านอัลบัรซันญีย์البرزنجي ( ปี 1177 ฮ.ศ.)
24. ท่านอะหฺมัด อัลอะรูซีย์ أحمد العروسي( ปี 1208 ฮ.ศ.)
25. ท่านอิบนุอาบิดีน ابن عابدين( ปี 1252 ฮ.ศ.)
26. ท่านอะหฺมัด ซัยนีย์ ดะหฺลาน أحمد زيني دحلان ( ปี 1304 ฮ.ศ.)
27. ท่านอบู อัฏฏอยยิบ ชัมชุลฮัก อัลอะซีม อาบาดีย์ أبو الطيب شمس الحق العظيم أبادي ( ปี 1329 ฮ.ศ.)

เราจะสังเกตุได้ว่า นักบรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ المحدثين หรือ الحفاظ ส่วนมากของโลกอิสลามวินิจฉัยว่าการทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) นั้นเป็นที่อนุญาติ เช่น ท่านอิมามหาฟิซฺ อิบนุ อัลเญาซีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัลศะคอวีย์, ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อันนะวาวีย์, ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ ตะกียุดดีนอัศศุบกีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุกะษีร, ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุร่อญับ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัลอิรอกีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุ อัลญัซฺรีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุนาซิรุดดีน อัดดิมิขกีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลอัศเกาะลานีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัศสะญูฏีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัลกุศตุลลานีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลฮัยษะมีย์ ฐ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ มุลลา อะลี อัลกอรีย์

1. บรรดาอุลามาอ์หนักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ไม่ทำตามซุนนะฮ์กับแล้วหรือ?

บรรดาอุลามาอ์หนักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ไม่ทำตามสิ่งที่อัลเลาะฮ์และร่อซูลอนุญาติแล้วหรือ?

2. บรรดาอุลามาอ์หนักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ทำบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงตามทัศนะของวะฮาบีย์หรือ?

3. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) เป็นพวกที่คาดเดาหรือครับ?

4. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) เป็นพวกที่ฟื้นฟูบิดอะฮ์หรือครับ?

5. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ทำให้พวกเราหลงจากแนวทางของอัลเลาะฮ์หรือครับ?

6. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) เป็นผู้ที่ไม่รักท่านนบีจริงๆหรือครับ?

ข้อสังเกตุ

คำถามหกข้อนี้ ยังไม่มีวะฮาบีย์ตนใดตอบได้เลยครับ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 7, 8, 9 ... 15, 16, 17  ถัดไป
หน้า 8 จากทั้งหมด 17

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.10 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ