ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - มัซฮับสะละฟีย์และมัซฮับทั้งสี่ (ภาคที่ 2)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
มัซฮับสะละฟีย์และมัซฮับทั้งสี่ (ภาคที่ 2)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 23, 24, 25 ... 31, 32, 33  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Fri Mar 03, 2006 12:11 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้อความของน้อง al-farook
คุณชุกกรีครับ بارك الله فيك
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته وطيباته
คุณชุกกรีครับ คำสลามที่ให้ไปนั้น สำหรับคุณโดยเฉพาะ โดยเพิ่มคำว่า وطيباته ผมไม่รู้ว่าเป็นบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงตามทัศนะของบังอะสันหรือเปล่าน่ะ เสียวหลังอยู่เหมือนกัน
…………….
ตอบ
แฮะ แฮะ... ไม่ต้องกลัวหรอก บังอะสัน ไม่ใช่ พวกตุ้ด ที่ชอบแทงข้างหลังคนอื่นนะน้อง แต่ขอถามนิดหนึ่งว่า ถ้อยคำการกล่าวสลาม ที่ท่านบี ศอ็ลลัลลอฮฮุอะลัยฮิวะสัลลัมสอนนั้น มันรู้สึกว่า มันน้อยไปหรือ มันขาดความสมบูรณ์ไปหรือ

จะวางกับดัก หรือ ครับ...แฮะ..ๆๆ อย่างไรก็ตาม



..
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri Mar 03, 2006 8:24 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

บังอะสันรูปหล่อ


السلام عليكم ورحمة الله وبركاته وطيباته

(ให้สลามเหมือนบังอัล-ฟารูกด้วยครับ) ผมคิดว่า การให้สลามของบังอัล-ฟารูกอย่างนี้ เป็นการริเริ่มแนวทางที่ดี โดยที่บังเขาจะได้รับการตอบแทนและผมผู้ปฏิบัติตามด้วยก็จะได้รับผมการตอบแทน อินชาอัลเลาะฮ์ ที่ได้รับผลการตอบแทนนั้น ไม่ใช่คิดว่า การให้สลามของท่านร่อซูล(ซ.ล.) ยังไม่เพียงพอ แต่เราเพิ่มขึ้นมา ก็เพื่อสร้างความรักปรองดอง อวยพรสิ่งดีๆจากพระองค์อัลเลาะฮ์ โดยเราเพิ่มคำว่า "บรรดาสิ่งคุณความดีงามต่างๆของพระองค์ จงมีแด่บังอะสัน" แบบนี้บังอะสันไม่ชอบหรือครับ ความจริงแล้ว คนอาหรับเขาก็ใช้กันนะครับ เขาจะใช้สำหรับผู้ที่เขาสนิท รักเอื้ออาทร และผมก็นำมาใช้กับบังอะสันด้วยครับ และบังมุหัมมัดนั้น เขาคงไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่แล้วล่ะครับ นอกจากเข้ามาปราบพวกตะกั๊บบุร โอ้อวดต่อผู้อื่น พูดจาหยาบคาย อย่างเช่น ไออาเอฟ คนเดินผ่าน อะรัช(หากเขาเข้ามา) เท่านั้นเองครับ และ บังอะสันก็คงไม่อยู่ในพฤติกรรมเหมือนกับพวกพร้องของบังอะสันนะครับ ดังนั้น เกี่ยวกับบังมุหัมมัดนั้น ในส่วนตัวของบังอะสันก็สบายใจได้ครับ ส่วนชื่อของพวกเรานั้น บังอะสัน ก็จะรู้จักพวกเราเอง หลังจากที่กลับเมืองไทยไปแล้ว อินชาอัลเลาะฮ์ เพราะบางทีผมอาจจะไปหาบังอะสันที่สงขลาน่ะ แล้วบังอะสันก็จะรู้ว่าพวกเรารูปหล่อแค่ใหน Wink


อ้างอิงจากบังอะสัน

แต่ขอเอาประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองไทย เป็นอันดับแรก และ ขอให้ใช้อัล-กุรอ่าน อัสสุนนะฮ เป็นมาตรฐานในการตัดสิน ที่ต้องการแบบนี้ เพราะ หากปัญหาเหล่านี้ เป็นเรื่องใกล้ตัว อีกอยาก

ตอบ

ก่อนที่ อ.อัล-ฟารูก จะเปิดประเด็นข้อปลีกย่อยนั้น เราต้องมีข้อตกลงกันก่อนครับ บังอะสันบอกกับเราว่า "ขอให้ใช้อัล-กุรอาน(และ)ซุนนะฮ์ เป็นมาตรฐานในการตัดสิน" ผมเองก็ไม่อยากให้บังอะสันจำกัดตนเอง และพวกเรา ในการอ้างหลักฐานเพียงแค่อัลกุรอานและซุนนะฮ์เท่านั้นหรอกนะครับ ซึ่งเป็นที่แน่นอนอย่างร้อยเปอร์เซ็นว่า อัลกุรอานและซุนนะฮ์ คือมาตรฐานอันดับแรกในเรื่องศาสนา และบางครั้งในเรื่องศาสนานั้น มีมากมายที่บรรดานักปราชน์มุจตะฮิด เขาได้กระทำและหุกุ่มในสิ่งที่ ไม่ได้ระบุไว้ในอัลกุรอานโดยตรง ของเน้นว่าโดยตรง โดยมีการอิจญฺมาอ์ กิยาสเข้ามาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ก็ยังมีหลักฐานอื่นๆอีกตามที่อุลามาอ์สะลัฟยึด เช่นอิมามมาลิก ยึดการปฏิบัติของชาวมะดีนะฮ์ มาเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติด้วย

ดังนั้น หากบังอะสันเอง จำกัดตนเองเพียงแค่อัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น บังอะสันจะอยู่ในสภาวะที่ทำการขัดต่อคำพูดของตนเองเป็นคนแรก อย่างไม่ต้องสงสัย เช่น เรื่องของศาสนานั้น มีข้อสั่งห้าม มีข้อสั่งใช้ ข้อบังคับใช้ก็ต้องมีหลักฐานมายืนยัน ข้อบังคับห้ามก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันในการห้าม พอเราอ้างอิงสนทนาไป บังอะสันอาจจะพูดว่า อัลกุรอานและซุนนะฮ์ไม่ได้ใช้ให้กระทำ ท่านร่อซูล(ซ.ล.)ไม่ได้กระทำไว้หรือทิ้งการกระทำนั้น ทางเราเองก็อาจจะตอบกลับไปว่า มันไม่มีข้อห้ามให้กระทำมัน เนื่องจาก สิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงใช้นั้น คือสิ่งที่พระองค์ทรงระบุไว้ในอัลกุรอานแล้ว และสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม พระองค์ก็ทรงห้ามไว้ในคำภีร์แล้ว และสิ่งที่พระองค์ไม่ทรงกล่าวถึง ก็ถือว่าเป็นความเมตตาของพระองค์

ท่าน อัล-บัซฺซฺาร ได้รายงานจาก อบี อัดดัรดาอ์ ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)กล่าวว่า

وما أحل الله فى كتابه فهو حلال وما حرم فهو حرام ، وما سكت عته فهو عفو ، فأقبلوا من الله عافيته ، فإن الله لم يكن لينسى شيئا ، ثم تلا ( وما كان ربك نسيا)
قال البزار : إسناده صالح، وصصه الحاكم

"สิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงอนุมัต (คือ สิ่งวายิบ สุนัติ และมุบะฮ์) ในคำภีร์ของพระองค์นั้น คือสิ่งที่หะลาล (จนถึงวันกิยามะฮ์) และสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม (คือ หะรอม และมุกโระฮ์ ด้วยหนทางแบบสรุป หรือรายละเอียด) นั้น คือสิ่งที่ห้าม (จนถึงวันกิยามะฮ์) และ[B]สิ่งที่พระองค์ทรงนิ่งจากมัน (คือสิ่งที่ ยาอิซฺ อนุญาติให้กระทำได้) ย่อมเป็นการอนุโลมให้ ดังนั้น พวกท่านตอบรับการผ่อนปรนของพระองค์เถิด [/B]เพราะแท้จริงแล้ว อัลเลาะฮ์ไม่ทรงเคยลืมเลย จากนั้นท่านร่อซูลได้อ่านอายะฮ์ที่ว่า "และพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น ไม่ทรงลืม" ท่านอัล-บัซฺซฺารกล่าวว่า หะดิษนี้ ดี และท่านหะกิมถือว่า หะดิษนี้ซอฮิหฺ

เมื่อเป็นเช่นนี้ บังอะสันจะทำอย่างไร? บังอะสันจะอ้างหะดิษแบบกว้างๆที่ห้ามกระทำสิ่งที่อัลกุรอานและซุนนะฮ์ไม่ได้ระบุไว้นั้น ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะขัดแย้งกับความเป็นจริงในเรื่องของศาสนาที่สะลัฟได้ทำแบบอย่างเอาไว้ แล้วบรรดาสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงไม่กล่าวถึงล่ะครับ มันต้องไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง เพราะมันเป็นสิ่งที่อัลกุรอานและซุนนะฮ์ไม่ได้บอกระบุห้ามและใช้เอาไว้ แล้วเราจะเอามาตรฐานอะไรมาวัดกับสิ่งที่อัลกุรอานและซุนนะฮ์ไม่ได้ระบุห้ามและไม่ได้ระบุใช้เอาไว้ ดังนั้น ส่วนมากในประเด็นที่เราจะคุยสนทนากันนั้นก็ คือ สิ่งที่อัลกุรอานและซุนนะฮ์ ไม่ได้ระบุห้ามแบบเจาะจงและไม่ได้ใช้แบบเฉพาะเจาะจง แต่จะอยู่ในประเด็นที่อัลกุรอานและซุนนะฮ์ได้ใช้แบบกว้าง مطلق หรือแบบครอบคลุม عام ซึ่งหากบังอะสัน นำหะดิษที่มาจากบอกห้ามกระทำสิ่งที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้ทำนั้น แน่นอนว่า หลักฐานที่แบบกว้างที่ส่งเสริมให้ใช้ทำความดีงาม ก็ย่อมไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง เพราะท่านร่อซูล(ซ.ล.)ไม่ได้ทำรูปแบบเจาะจงเอาไว้ให้ ซึ่งแบบนี้ย่อมขัดแย้งกับความเป็นจริงในเรื่องของศาสนาที่สะลัฟได้ทำแบบอย่างเอาไว้

และผมก็ไม่เชื่อว่า บังอะสัน จะไม่อ้างหลักการของอุลามาอ์ที่วะฮาบีย์นับถือ บางครั้งบังอะสันอ้างหลักการความเห็นของอุลามาอ์ของบังอะสัน เช่น อ้างความเห็นของ อิบนุตัยมียะฮ์ อิบนุกอยยิม บินบาซฺ อัลบานีย์ ฟัตวาของ อิบนุ อุษัยมีน และผมก็ไม่เชื่อว่า บังอะสันจะมีหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์แบบตรงๆ มาห้ามในสิ่งที่วะฮาบีย์หุกุ่มว่าเป็นบิดอะฮ์ และการที่เรากระทำการที่ไม่ขัดกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น ย่อมเป็นการตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์หรือไม่ครับ? หรือว่าการกระทำที่ไม่ขัดกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ก็คือการไม่ทำตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ?

เช่น ในกรณีเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร ผมไม่เห็นมีหลักฐานจากท่านนบี(ซ.ล.) บอกห้ามโดยตรงเลยแม้แต่หะดิษเดียว แต่ผมเห็นอุลามาอ์วะฮาบีย์ เอาคำกล่าวของ อิมามอะหฺมัดมาอ้างว่า "การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้นเป็นบิดอะฮ์" นั่นไงครับ ในที่สุด ก็ต้องเอาคำกล่าวของอุลามาอ์มาหุกุ่มสนับสนุนแนวทางของตนอีกจนได้ ทั้งที่การห้ามและการใช้ ต้องมีมาตรฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ไม่ใช่หรือ? และการอ้างคำกล่าวของอะฮ์หมัดในเรื่องประเด็นการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้น บังอะสันเอง ก็เคยเอาอ้างอิงใน เวปมุสลิมไทย กับผู้อ่านที่ตรวจสอบการอ้างอิงของบังอะสันไม่ได้ เดี๋ยวบังอะสันก็อ้าง القاعدة ของอุลามาอ์อุซูลมาเป็นมาตรฐานอีกเหมือนกับที่เราเคยสนทนามาก็เป็นได้

และอีกอย่างหนึ่ง ในกระทู้นี้ มีชื่อว่า "มัซฮับทั้งสี่ และมัซฮับสะละฟีย์ " เราไม่ต้องไม่กำจัดว่า การสนทนาในเรื่องบิดอะฮ์นี้ มันต้องเป็นสิ่งที่บ้านเราทำ เพราะสิ่งที่บ้านเราทำนั้น ส่วนมากอาหรับเขาก็ทำกัน และเราก็ต้องพูดเรื่องบิดอะฮ์ของวะฮาบีย์ด้วย เพราะมีรุก ก็ต้องมีรับ บ้างนะครับบังอะสัน มันจะได้สมน้ำสมเนือกันสักหน่อย อย่าสนทนาแบบชีอะฮ์นะครับ ชีอะอ์นั้น พอเราสนทนา พวกเขาก็จะรุกแต่เรา แต่เวลาเรารุกบ้าง พวกเขาก็ไม่รับ คือจะเลี่ยงความอัปยศของตน ผมหวังว่า บังอะสันคงหลีกเลี่ยงการสนทนาในเรื่องบิดอะฮ์ของแนวทางบังอะสันด้วยนะครับ

พูดมาก็ยาวจนบังอะสันรูปหล่อของผมไม่อยากจะอ่านมัน แต่ผมอยากจะถามจุดยืนของบังอะสันอีกครั้งว่า นอกเหนือจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น เราจะมีมาตรฐานรองจากนั้นด้วยหรือไม่ ? และผมก็อยากจะเสนอความเห็นว่า เราน่าจะทำการสนทนา ตาม[B]หลักการอ้างหลักฐาน[/B]ที่อุลามาอ์สะลัฟ ได้วางรูปแบบแก่เราเอาไว้ และสุดท้ายที่ผมอยากจะบอกกับบังอะสันก็คือว่า มาตรฐานในการสนทนาที่บังอะสันกล่าวมานั้น ผมไม่อยากจะให้บังอะสันเป็นคนแรก ที่จะกลับกลายเป็นผู้ขัดแย้งกับคำพูดของตนเองครับ มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับมาตรฐานในการสนทนา บังอะสันรูปหล่อของผม โปรดตอบชี้แจงแก่เราด้วยครับ จักขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Fri Mar 03, 2006 11:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary ตอบ: Fri Mar 03, 2006 11:24 pm
.........................................
ตอบ
น้องอัลอัชอารีย ครับ หากเป็น เรื่องอิบาดะฮ ต้องอยู่ภายใต้หลักการที่ว่า

والعبادة مبناها على التوقيف والاتباع لا على الهوى والابتداع

และการอิบาดะฮนั้น ต้องวางอยู่บนหลักการที่ว่า รอคำสั่ง และปฏิบัติตาม ไม่ใช่ การใช้ความเห็นตามอารมณ์และ การอุตริขึ้นมาใหม่
كتاب الفتاوى الكبرى، الجزء 1،
صفحة 351

قال الحافظ ابن رجب في " جامع العلوم والحكم " (1/72) :
وإنما يتم ذلك بأمرين :
أحدهما : أن يكون العمل في ظاهره على موافقة السنة ، وهذا هو الذي تضمنه حديث عائشة : " ‏مَنْ أَحْدَثَ فِي أَمْرِنَا هَذَا مَا لَيْسَ فِيهِ فَهُوَ رَدٌّ " . الثاني : أن يكون العمل في باطنه يقصد به وجه الله عز وجل ، كما تضمنه حديث عمر : " الأعمال بالنيات " . وقال الفضيل بن عياض في قوله تعالى : " لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا " [ الملك : 2] قال : أخلصه وأصوبه . وقال : إن العمل إذا كان خالصا ، ولم يكن صوابا ، لم يقبل ، وإذا كان صوابا ولم يكن خالصا ، لم يقبل حتى يكون خالصا صوابا ، قال : الخالص إذا لله عز وجل ، والصواب إذا كان على السنة .
وقد دل على هذا الذي قاله الفضيل قول الله عز وجل : " فَمَنْ كَانَ يَرْجُو لِقَاءَ رَبِّهِ فَلْيَعْمَلْ عَمَلًا صَالِحًا وَلَا يُشْرِكْ بِعِبَادَةِ رَبِّهِ أَحَدًا " . [ الكهف : 110 ] .ا.هـ
อัลฮาฟิฮ อิบนุเราะยับ กล่าวไว้ในหนังสือ ญามิอุ้ลอุลูมวัลหิกะมิ 1/72 ว่า
และความจริงดังกล่าวนั้น (อิบาดะฮ) จะสมบูรณ์ ด้วย สองประการคือ
1. การกระทำ(อะมั้ล)นั้นใน รูปภายนอกของมัน สอดคล้องกับอัสสุนนะฮ และนี้คือ ที่รวมอยู่ ความหมายของหะดิษอะอีฉะฮ ที่ว่า”บุคคลใดอุตริ สิ่งใหม่ขึ้นมา ในกิจการ(ศาสนา)ของเรานี้ สิ่งซึ่ง ไม่มีมาจากมัน มันถูกปฏิเสธ
2. การกระทำนั้นในรูปภายในของมัน จะต้องเจตนาในการกระทำนั้น เพื่ออัลลอฮ ผู้ทรงอำนาจ ทรง สูงส่ง ดังความหมายที่รวมอยู่ในหะดิษอุมัรที่ว่า “บรรดาการงานนั้น ขึ้นอยู่กับการเจตนา”
อัล-ฟาฎีล บุตร อิยาฎ กล่าวถึง คำดำรัสของอัลลอฮ (ซ.บ) ที่ว่า (เพื่อทดสอบพวกเจ้า ว่าพวกเจ้าคนใดประกอบการดี – อัลมุลกิ /2 ) เขา(อัลฟาฎีล) กล่าวว่า “ คือ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และถูกต้อง และท่านได้กล่าวต่อไปอีกว่า “แท้จริงการงานนั้น เมื่อปรากฏว่า มีความบริสุทธิใจ โดยที่ไม่ถูกต้อง มันก็ไม่ถูกรับ และเมื่อมันถูกต้อง โดยที่ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ มันก็ไม่ถูกรับ จนกว่า มันจะมีความบริสุทธิ์ใจและมีความถูกต้อง , เขากล่าวว่า “ความบริสุทธิ์ใจนั้น เมื่อทำเพื่ออัลลอฮ ผู้ทรงอำนาจ ทรงสูงส่ง และ คำว่าถูกต้องนั้น เมื่อปรากฏว่าทำตามอัสสุนนะฮ
...............................................
นี่คือ เรื่อง อิบาดะฮ เราต้องใช้หลักการข้างต้น

ส่วน หะดิษที่น้องอ้างนั้นข้างล่างนี้ คือ
ท่าน อัล-บัซฺซฺาร ได้รายงานจาก อบี อัดดัรดาอ์ ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)กล่าวว่า

وما أحل الله فى كتابه فهو حلال وما حرم فهو حرام ، وما سكت عته فهو عفو ، فأقبلوا من الله عافيته ، فإن الله لم يكن لينسى شيئا ، ثم تلا ( وما كان ربك نسيا)
قال البزار : إسناده صالح، وصصه الحاكم

"สิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงอนุมัต (คือ สิ่งวายิบ สุนัติ และมุบะฮ์) ในคำภีร์ของพระองค์นั้น คือสิ่งที่หะลาล (จนถึงวันกิยามะฮ์) และสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม (คือ หะรอม และมุกโระฮ์ ด้วยหนทางแบบสรุป หรือรายละเอียด) นั้น คือสิ่งที่ห้าม (จนถึงวันกิยามะฮ์) และ[B]สิ่งที่พระองค์ทรงนิ่งจากมัน (คือสิ่งที่ ยาอิซฺ อนุญาติให้กระทำได้) ย่อมเป็นการอนุโลมให้ ดังนั้น พวกท่านตอบรับการผ่อนปรนของพระองค์เถิด
เพราะแท้จริงแล้ว อัลเลาะฮ์ไม่ทรงเคยลืมเลย จากนั้นท่านร่อซูลได้อ่านอายะฮ์ที่ว่า "และพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น ไม่ทรงลืม" ท่านอัล-บัซฺซฺารกล่าวว่า หะดิษนี้ ดี และท่านหะกิมถือว่า หะดิษนี้ซอฮิหฺ
…………………
หะดิษข้างต้น อยู่ภายใต้ หลักการพิจารณา เรื่อง หะลาล-หะรอม เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ดังหลักการที่ว่า

الأصل في الأشياء الإباحة، أما المحرمات إنما هي أشياء مستثناة، قال تعالى: {حُرِّمَتْ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةُ وَالدَّمُ وَلَحْمُ الْخِنْزِيرِ وَمَا أُهِلَّ لِغَيْرِ اللَّهِ بِهِ} [المائدة: 2].

หลักเดิม ในสิ่งต่างๆนั้น อนุญาต สำหรับสิ่งต้องห้ามนั้น ความจริง มันเป็นสิ่งต่างๆ ที่ถูกยกเว้น ดังคำดำรัสของอัลลอฮ (ซ.บ)ทีว่า “[5.3] ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ ที่มัน (ขณะเชือด)............) อัลมาอิดะฮ / 2

.........................................................
เพราะฉะนัน หากสนทนากันเรื่อง สิ่งที่จะนำมาเป็นอิบาดะฮต่ออัลลอฮนั้น ต้อง มีหลักฐานอัลกุรอ่าน และมีแบบอย่าง(อัสสุนนะฮ)จากท่านนบี หรือ เหล่าเศาะหาบะฮ ที่เป็นเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน อันที่จริง ท่านอิหม่ามชาฟิอี (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) ก็ให้ความสำคัญ กับ อัลกุรอ่านและ อัสสุนนะฮ และ คำพูดของเหล่าสาวก ในการพิจารณาหุกุม ดังปรากฏว่า

قال الإمام الشافعي رحمه الله في الأم (7/280): ما كان الكتاب والسنة موجودين فالعذر عمن سمعهما مقطوع إلا باتباعهما فإذا لم يكن ذلك صرنا إلى أقاويل أصحاب رسول الله صلى الله عليه وسلم أو واحد منهم

อิหม่ามอัชชาฟิอี (ขออัลลอฮ เมตตาต่อท่าน)กล่าวไว้ในอัลอุม เล่ม 7 หน้า 280 ว่า
ตราบใดที่ อัล-กิตาบ และอัสสุนนะฮ นั้น มีอยู่ ข้ออ้างจากผู้ที่ได้รับฟังมันทั้งสองแล้ว เป็นอันตกไป นอกจากจะต้องปฏิบัติตามมันทั้งสองเท่านั้น แล้วหากดังกล่าวนั้น ไม่ปรากฏ เราก็มุ่งไปที่ บรรดาคำพูดของเหล่าเศาะหาบะฮ หรือ คนหนึ่งคนใดจากพวกเขา
..................................................
หวังว่า น้อง al-azhary และน้อง al-farook คงเข้าใจในจุดยืนของบังอะสัน ส่วนที่น้องชมว่า บังอะสันหล่อ นั้น อันนี้ ไม่จริง เพราะบังเป็นคนรูปชั่ว ตัวดำ แต่ทีมีเมีย ก็เพราะอาศัย หลักเดิม ที่ว่า ใจกล้าและหน้าด้าน เท่านั้น จึงจีบได้[/B]
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Fri Mar 03, 2006 11:46 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

น้องอัลอัชฮารีย์กล่าว่า
และเราก็ต้องพูดเรื่องบิดอะฮ์ของวะฮาบีย์ด้วย เพราะมีรุก ก็ต้องมีรับ บ้างนะครับบังอะสัน มันจะได้สมน้ำสมเนือกันสักหน่อย
................
ตอบ
ขอยืนยันได้ว่า บังไม่เคยใส่ใจ เรื่อง ที่ว่า วะฮบีย์ มีบิดอะฮ อะไรบ้าง เพราะไม่ได้สนใจตรงนั้น และ ไม่เคยเกิดขึ้นในสมองเลยว่า ตัวเองสังกัดมัซฮับวะฮบีย์ เพราะบังอาศัยอุลามาอทุกคน ที่เขาพาเราไปสู่ เนื้อแท้ของศาสนา เท่านั้น และ การศึกษาของบัง ไม่ได้อาศัยห้องสี่เหลี่ยม แต่เป็นการศึกษา แบบ learning by doing และ ใช้สติปัญญา ควบคู่กันไปด้วย
และขอย้ำว่า อุลามาอแห่งโลกอิลามทุกคน นั้น แม้เราจะไม่เห็นด้วยในบางเรื่อง แต่ ..เขาเหล่านั้นก็มีบุญคุณต่อเราและโลกมุสลิม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 9:38 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

น้องอัลอัชอารีย ครับ หากเป็น เรื่องอิบาดะฮ ต้องอยู่ภายใต้หลักการที่ว่า

والعبادة مبناها على التوقيف والاتباع لا على الهوى والابتداع

และการอิบาดะฮนั้น ต้องวางอยู่บนหลักการที่ว่า รอคำสั่ง และปฏิบัติตาม ไม่ใช่ การใช้ความเห็นตามอารมณ์และ การอุตริขึ้นมาใหม่
كتاب الفتاوى الكبرى، الجزء 1،
صفحة 351

วิจารณ์

ผมขอยกอ้างความเข้าใจหลักการก่อนจากนั้นของ ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ที่บังอะสันชื่นชอบมากกว่าความเข้าใจของซอฮาบะฮ์ สักนิด เพื่อขจัดความบิดบังซ่อนเร้นต่อผู้อ่าน คือดังนี้

لا ريب أن الأذكار والدعوات من أفضل العبادات والعبادات مبناها علي التوقيف والاتباع لا علي الهوى والابتداع

"ไม่ต้องสงสัยว่า แท้จริง บรรดาซิกิร และบรรดาดุอาอ์นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาอิบาดะฮ์ที่เลอเลิศ และบรรดาอิบาดะฮ์นั้น โครงสร้างของมัน ต้องอยู๋บนคำสั่ง และทำการปฏิบัติตาม ไม่ใช่ปฏิบัติตามอารมณ์ และ การอุตริขึ้นมาใหม่" ฟัตวา กุบรอ เล่ม 1 หน้า 351 ของอิบนุตัยมียะฮ์

คำว่า التوقيف นี้หมายถึง "ต้องเป็นการสอนสั่งจากท่านนบี(ซ.ล.)โดยจะเพิ่มมันขึ้นมาไม่ได้ นอกจากต้องมีหลักฐานจากท่านนบี(ซ.ล.)"

บังอะสันครับ พอเวลาพูดล่ะพูด บอกว่า ต้องเอาอัลกุรอานและซุนนะฮ์มาเป็นมาตรฐาน แต่เวลาพูดกันจริงๆ บังอะสันกลับเอาความเห็นจาก"หลักการ" ของ ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ มาเต็มๆ และยังไม่พอ บังอะสันยังยึดมั่นมันด้วยฟันกราม โดยบังอะสันพูดว่า "เรื่องอิบาดะฮ์ ต้อง อยู่ภายใต้หลักการ(ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์)ที่ว่า ..." หลักการของซอฮาบะฮ์ในเรื่องการปฏิบัติอิบาดะฮ์นั้น บังอะสันไม่สน แต่พอคำกล่าวของอิบนุตัยมียะฮ์ละก็ บังอะสันบอกว่า "ต้องกระทำ" ผมไม่ทราบว่า ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ไปมีความสำคัญมากกว่าบรรดาซอฮาบะฮ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั้งบังอะสันยึดหลักการของเขาซ่ะสุดโต่ง โดยไม่ยอมฟังใคร แม้กระทั้งหลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น มันไม่ได้อยู่ตามหลักความเข้าใจของซอฮาบะฮ์ ท่านอิบนุอุมัร(ร.ฏ.) ได้เพิ่มตะชะฮุด โดยไม่ได้รอและไม่มีคำสั่งจากท่านนบี(ซ.ล.) ท่านอิบนุอุมัรได้ ทำการเพิ่ม การกล่าวตัลบียะฮ์ ว่า لبيك وسعديك ، والخير بيديك لبيك (รายงานโดยมุสลิม) โดยไม่ได้มีหลักฐานจากท่านนบี(ซ.ล.) ท่านอิบนุมัสอูดทำการเพิ่มตะชะฮุด โดยไม่ได้รอและไม่มีคำสั่งจากท่านนบี(ซ.ล.) ท่านบิลาล(ร.ฏ.) ได้ทำการคิดวินิจฉัยอิบาดะฮ์โดยการละหมาด 2 ร่อกะอัต หลังอาบน้ำละหมาด โดยที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้สั่งสอนให้กระทำ และ โดยที่ท่านนบี(ซ.ล.)ยังไม่ได้ให้การยอมรับ อัลเลาะฮ์ก็รับรองให้เข้าสวรรค์เสียแล้ว ซอฮาบะฮ์ท่านหนึ่งได้ กล่าวซิกิรหนึ่งขึ้นมาในละหมาดโดยที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้สั่งไม่ได้สอนไว้ ท่านนบี(ซ.ล.)ยังไม่ทันยอมรับเลย บรรดามะลาอิกะฮ์ ก็แย่งกันบันทึกเสียแล้ว ท่านค่อบีบ ได้คิดอิจญฺฮาดขึ้นมาเอง กับการละหมาดสองรอกะอัต ก่อนถูกสั่งสังหาร โดยที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้สอนสั่งให้กระทำ ใหนละครับ บังอะสัน หลักการที่ท่านอิบนุตัยมียะฮ์บอกว่า "อิบาดะฮ์ ต้องวางอยู่บนหลักการที่ว่า รอคำสั่ง และปฏิบัติตาม" ทั้งที่ซอฮาบะฮ์คือบุคคลที่เข้าใจหลักการศาสนาของอัลเลาะอ์ และคำกล่าวของท่านนบี(ซ.ล.)มากกว่าผู้อื่นจากพวกเขา และบรรดาซอฮาบะฮ็ก็ไม่ได้เข้าใจเหมือนกับหลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ แต่บังอะสันกลับยึดติดมันซ่ะเหนียวแน่น แต่ความเข้าใจของซอฮาบะฮ์นั้น บังอะสันกลับละเลย ไม่ยอมใส่ใจ เพราะท่านอิบนุตัยมียะฮ์ คือคนในดวงใจของบังอะสัน.........แต่ซอฮาบะฮ์ฉันไม่ขอสนใจ ว่างั้นเถอะ

ดังนั้น หลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่บังอะสันยึดมันด้วยฟันกรามนี้ กลับไปหุกุ่มบรรดาซอฮาบะฮ์โดยทางอ้อมอย่างไม่ได้สงสัย และวะฮาบีย์ทั้งหลาย หนึ่งในนั้นคือ บังอะสัน ก็นำหลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ที่ไม่ใช่สะลัฟ ได้บัญญัติ มันขึ้นมา แล้วก็นำมาหุกุ่มที่น้องมุสลิม ว่าทำบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง ตกนรก อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

أم لهم شركاء شرعوا لهم من الدين ما لم يأذن به الله

"หรือว่าให้กับพวกเขา มีบรรดาผู้ร่วมกัน บัญญัติ ให้กับพวกเขา จากเรื่องศาสนา กับสิ่งที่อัลเลาะฮ์มิได้ทรงอนุญาติกับมันกระนั้นหรือ?"

แล้วการบัญญัติหลัการ ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ที่ขัดกับความเป็นจริง และขัดกับเข้าใจของบรรดาซอฮาบะฮ์นั้น มันเข้าอยู่ในอายะฮ์นี้หรือเปล่าครับบังอะสัน ?

อย่างผมได้กล่าวกับบังอะสันไปแล้ว ถึงการอนุญาติให้ทำการอ่านดุอาอ์หลังการอ่านตะชะฮุด ตามที่เราเลือกจะอ่านตามที่เราต้องการจะขอ ท่านอิบนุมัสอูด ได้รายงานจากท่านนบี(ซ.ล.)ว่า

ثم يتخير بعد من الدعاء

"หลังจากนั้น ให้เขาเลือก ขอดุอาอ์ หลังจากตะชะฮุด" (รายงานโดยบุคคอรีย์ และ มุสลิม)
หากผมจะถามบังอะสันว่า หากมีคนหนึ่งได้ทำการ อ่านดุอาอ์หนึ่งที่เขาได้แต่งขึ้นตามที่เขาต้องการ หรือประทับใจ หลังตะชะฮุด เป็นประจำ โดยคำสั่งของท่านนบี(ซ.ล.)แบบกว้างๆนี้ เขาย่อมเป็นผู้ที่ทำบิดอะฮ์หรือไม่ ? บังอะสันก็ต้องตอบว่า ไม่ เพราะท่านนบี(ซ.ล.)ได้สั่งไว้อย่างนั้นแบบกว้างๆ ผมก็ขอกล่าวว่า บังอะสัน การดุอาอ์นั้น เป็นเรื่อง อิบาดะฮ์ ต้อง علي التوقيف ได้รับคำสั่งจากท่านนบี(ซ.ล.) โดยท่านนบี(ซ.ล.) ได้บัญญัติกล่าวดุอาอ์นั้นไว้ให้เจริญตามแก่เรา ตาม القاعدة หลักการของ ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ของบังอะสัน แต่บังอะสันก็บอกย้ำว่า เพราะท่านนบี(ซ.ล.)ได้บอกไว้แบบกว้างๆ ซึ่งเราสามารถกำหนดดุอาอ์ขึ้นมาได้ ผมก็ขอกล่าวว่า เมื่อคำสั่งอยู่ในรูปแบบที่กว้างๆนี้ แล้วทำไมวะฮาบีย์และบังอะสันถึง ได้หุกุ่มกับพวกเรา ที่ทำการกระทำอิบาดะฮ์ในรูปกว้างๆ ที่ท่านนบี(ซ.ล.)ได้บอกเอาไว้ ซึ่งมันจะอยู่ในประเด็นข้อปลีกย่อยที่เราจะนำมากล่าวต่อไป อินชาอัลเลาะฮ์

ดังนั้น สิ่งที่ท่านนบี(ซ.ล.) ได้ใช้เราแบบ التوقيف บอกคำสั่งเจาะจงเอาไว้ เราก็จะทำตามที่ท่านร่อซูลได้ทำมันเอาไว้ แต่หากท่านนบี(ซ.ล.) ได้ทำการออกคำสั่งแบบ الإطلاق กว้างๆเอาไว้ เราก็จะทำมันในรูปแบบกว้างๆ ตามที่ท่านนบี(ซ.ล.) ได้เปิดโอกาศแก่เรา

ฉะนั้น หลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่บังอะสันยึดมันด้วยฟันกระต่ายนั้น จึงเป็นหลักการที่อ่อน ฟังไม่ขึ้น

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 9:46 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากบังอะสัน

อัลฮาฟิฮ อิบนุเราะยับ กล่าวไว้ในหนังสือ ญามิอุ้ลอุลูมวัลหิกะมิ 1/72 ว่า
และความจริงดังกล่าวนั้น (อิบาดะฮ) จะสมบูรณ์ ด้วย สองประการคือ
1. การกระทำ(อะมั้ล)นั้นใน รูปภายนอกของมัน สอดคล้องกับอัสสุนนะฮ และนี้คือ ที่รวมอยู่ ความหมายของหะดิษอะอีฉะฮ ที่ว่า”บุคคลใดอุตริ สิ่งใหม่ขึ้นมา ในกิจการ(ศาสนา)ของเรานี้ สิ่งซึ่ง ไม่มีมาจากมัน มันถูกปฏิเสธ
2. การกระทำนั้นในรูปภายในของมัน จะต้องเจตนาในการกระทำนั้น เพื่ออัลลอฮ ผู้ทรงอำนาจ ทรง สูงส่ง ดังความหมายที่รวมอยู่ในหะดิษอุมัรที่ว่า “บรรดาการงานนั้น ขึ้นอยู่กับการเจตนา”

วิจารณ์

แล้วบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ล่ะครับ (หรือเรียกว่าบิดอะฮ์ในเชิงภาษาตามทัศนะของ ท่านอิมามอิบนุ รอญับ) ซึ่งท่านอิมาม อัช-ชาฟิอีย์ ได้กล่าวไว้ ก็คือ สิ่งที่ สอดคล้องและไม่ขัดกับอัลกุรอาน ซุนนะฮ์ อิจญฺมาอ์ และสิ่งที่รายงานมาจากซอฮาบะฮ์ ก็ย่อมเข้าอยู่ในหลักการดังกล่าว และเรื่องหะดิษของ ซัยยิดะฮ์ อาอิชะฮ์ (ร.ฏ.) นั้น เราได้อธิบายไป โดยไม่ถูกหักล้างเลย อัลหัมดุลิลลาห์

อ้างจากบังอะสัน

นี่คือ เรื่อง อิบาดะฮ เราต้องใช้หลักการข้างต้น

วิจารณ์

หลักการของ ท่าน อิบนุ รอญับ และท่าน ฟุฏัยล์ บิน อิยาฏ นั้นฟังขึ้น แต่หลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น ฟังไม่ขึ้นครับ

อ้างจากบังอะสัน

หะดิษข้างต้น อยู่ภายใต้ หลักการพิจารณา เรื่อง หะลาล-หะรอม เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ดังหลักการที่ว่า

الأصل في الأشياء الإباحة، أما المحرمات إنما هي أشياء مستثناة، قال تعالى: {حُرِّمَتْ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةُ وَالدَّمُ وَلَحْمُ الْخِنْزِيرِ وَمَا أُهِلَّ لِغَيْرِ اللَّهِ بِهِ} [المائدة: 2].

หลักเดิม ในสิ่งต่างๆนั้น อนุญาต สำหรับสิ่งต้องห้ามนั้น ความจริง มันเป็นสิ่งต่างๆ ที่ถูกยกเว้น ดังคำดำรัสของอัลลอฮ (ซ.บ)ทีว่า “[5.3] ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ ที่มัน (ขณะเชือด)............) อัลมาอิดะฮ / 2

วิจารณ์

ท่าน อัล-บัซฺซฺาร ได้รายงานจาก อบี อัดดัรดาอ์ ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)กล่าวว่า

وما أحل الله فى كتابه فهو حلال وما حرم فهو حرام ، وما سكت عته فهو عفو ، فأقبلوا من الله عافيته ، فإن الله لم يكن لينسى شيئا ، ثم تلا ( وما كان ربك نسيا)
قال البزار : إسناده صالح، وصححه الحاكم

"สิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงอนุมัต (คือ สิ่งวายิบ สุนัติ และมุบะฮ์) ในคำภีร์ของพระองค์นั้น คือสิ่งที่หะลาล (จนถึงวันกิยามะฮ์) และสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม (คือ หะรอม และมุกโระฮ์ ด้วยหนทางแบบสรุป หรือรายละเอียด) นั้น คือสิ่งที่ห้าม (จนถึงวันกิยามะฮ์) และสิ่งที่พระองค์ทรงนิ่งจากมัน (คือสิ่งที่ ยาอิซฺ อนุญาติให้กระทำได้) ย่อมเป็นการอนุโลมให้ ดังนั้น พวกท่านตอบรับการผ่อนปรนของพระองค์เถิด เพราะแท้จริงแล้ว อัลเลาะฮ์ไม่ทรงเคยลืมเลย จากนั้นท่านร่อซูลได้อ่านอายะฮ์ที่ว่า "และพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น ไม่ทรงลืม" ท่านอัล-บัซฺซฺารกล่าวว่า หะดิษนี้ ดี และท่านหะกิมถือว่า หะดิษนี้ซอฮิหฺ


บังอะสันอย่าเข้าใจหะดิษคับแคบ หากบังอะสันจำกัดอยู่ในสิ่งเหล่านั้น คือสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องอิบาดะฮ์ แล้วสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงนิ่งไม่ได้กล่าวไว้ล่ะครับ มันเป็นอย่างไร ? แล้วสิ่งที่อัลเลาะฮ์ไม่ทรงบัญญัติกล่าวไว้ หรือนิ่งจากการกล่าวมันนั้น เป็นอย่างไรครับ หะลาลหรือครับ กบ เขียด คางครก ใส้เดือน สิ่งโต รับประทานได้ใช่ใหมครับ เพราะอัลเลาะฮ์ไม่ได้ยกเว้นห้ามไว้ ??

บังอะสันครับ หะดิษนี้ ให้ความหมายแบบกว้างๆ ซึ่งสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรง หะลาล และ ทรงห้าม และสิ่งที่พระองค์ทรงอนุโลมผ่อนปรนให้นั้น ก็รวมอยู่ในเรื่องอิบาดะฮ์ด้วย คำว่า ما ในตัวบทหะดิษนี้ คือ اسم الموصول ซึ่งมันให้ความหมายที่ ครอบคลุม ( عموم ) ซึ่งรวมทั้งเรื่อง อิบาดะฮ์ และไม่ใช่เรื่องอิบาดะฮ์ และสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงนิ่งไม่ได้กล่าวไว้ เพื่อเป็นความเมตตาแก่เรานั้น ก็คือ อิบาดะฮ์ที่อยู่ข้อบ่งชี้ที่อยู๋ในรูแแบบกว้างๆ ให้เราเลือกทำได้ตามความสมัครใจ ตามความสะดวก หากมันอยู่บนหลักการของศาสนาแบบกว้างๆนั้น และนั่นก็คือความเมตตาของอัลเลาะฮ์ ที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำอิบาดะฮ์สุนัตต่อพระองค์ อย่างเปิดกว้าง บังอะสันอย่าคิดแบบแคบๆเพื่อให้เข้าทางของตนเอง ในการนำไปสู่กับหุกุ่มผู้อื่นว่า ทำบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง แล้วตกนรก

และผมก็ไม่อยากให้จุดยืนของบังอะสันที่อ่อน นั้น มาหุกุ่มผู้อื่นว่าบิดอะฮ์ นะครับ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 9:50 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

ขอยืนยันได้ว่า บังไม่เคยใส่ใจ เรื่อง ที่ว่า วะฮบีย์ มีบิดอะฮ อะไรบ้าง เพราะไม่ได้สนใจตรงนั้น

วิจารณ์

นั่นไงล่ะครับ คือ จุดยืนของบังอะสัน คือแนวทางของตนเองนั้น ไม่ยอมพิจารณาใส่ใจ แต่บังอะสันมักชอบใฝ่หา ใส่ใจ จับผิด กล่าวหา แต่แนวทางของคนอื่น โดยไม่ทำความสะอาดแนวทางของตน ใส่ใจแต่เรื่องลูบหน้า กล่าวอุซอลลีย์ พอเรื่องวะฮาบีย์เชื่ออย่างเหนียวแน่นว่า พ่อแม่นบี(ซ.ล.)อยู่ในนรกหมกไหม้ล่ะก็ บังอะสันกลับสนับสนุนส่งเสริม ซุบหานัลลอฮ์ !!!

อ้างจากบังอะสัน

เพราะบังอาศัยอุลามาอทุกคน ที่เขาพาเราไปสู่ เนื้อแท้ของศาสนา เท่านั้น

วิจารณ์

จากอุลามาอ์ ที่สนับสนุนแนวทางของบังอะสันใช่หรือเปล่าครับ? เช่นท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ใช่หรือเปล่าครับ? แล้วการสนทนาที่ผ่านมาในเรื่องบิดอะฮ์หะสะนะฮ์นั้น ที่เป็นทัศนะอันมีน้ำหนักของบรรดาอุลามาอ์อย่างมากมายก่ายกอง มันนำพาเราไปสู่ ความจอมปลอมกระนั้นหรือครับบังอะสัน ??

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 9:59 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

น้อง อัล-อัซฮะรีย์ ได้กล่าวกับบังอะสัน เพื่อเปิดประเด็นในการสนทนาข้อปลีกย่อยว่า " และผมก็อยากจะเสนอความเห็นว่า เราน่าจะทำการสนทนา ตามหลักการอ้างหลักฐานที่อุลามาอ์สะลัฟ ได้วางรูปแบบแก่เราเอาไว้ " แต่ดูเหมืนว่าบังอะสันกลับไม่ยอม เพราะต้องการ เอาหลักการของ ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่ไม่ใช่สะลัฟ อีกทั้งมีหลักการที่ฟังไม่ขึ้น มาเป็นบรรทัดฐานของตนเอง แล้วแบบนี้ บังอะสันจะอยากให้เราเรียกว่า "สะละฟีย์" ได้อย่างไร ในเมื่อบังอะสัน ยังเอาหลักการของ ผู้ไม่ใช่สะลัฟมาเป็นบรรทัดฐาน

บังอะสันครับ เราต้องตกลงกันก่อน แล้วผมจะทำการเปิดประเด็นนะครับ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 10:16 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته وطيباته
บังฮะซัน..รูปหล่อ...และหนวดงาม แถมนิดหนึ่ง
แฮะๆๆในที่สุดกระดานเสวนา เรื่องบิดอะก็เริ่งลดอุณหภูมิ ลงบ้าง อัลลอฮูอักบัซร์
Rolling Eyes บังว่าอยากได้ชื่อจริง ของ น้อง al-farook น้อง al-azhary น้อง ชุกรี ส่วน มุหัมหมัด และ คนอยากรู้ ถ้าลดการเป็นนักเลงหน่อยก็จะดี เพราะเราต่างก็คุยกันเรื่องศาสนา
อีเมล์ของบังที่ใช้ asan@muslimthai.com

Crying or Very sad บังดีใจแทน น้องอัลอัชฮารีย์ อจ.อัลฟารุค คุณซุกกรีด้วย บังซึ้งจนน้ำตาจะไหล แถมอยากจะอิจฉาบุคลทั้ง3 คนจังเลย ที่บังฮะซัน เปิดใจกว้าง อยากเป็นมิตรสหาย..ด้วยพร้อมแจกรถเมล์ให้คนละคันด้วย อุ้ย อีเมล์ให้ด้วย
----ส่วนผมคนอยากรู้/คุณมูฮำมัดบังไม่อยากคบด้วยหาว่าเรา 2 คนเป็นนักเลงแน่ะ คุณมูฮำมัด คักๆๆๆๆ ......ทำไงดีละ....

Idea บังฮะซัน ครับผมไม่ได้เป็นนักเลงอย่างที่บังเข้าใจนะครับ แต่บางที่ในการพูดของผมบางครั้งที่ตอบโต้บังนั้นมันไม่ได้มีอารมณ์โรธเลย... เพียงแต่บังจิ้มผมทีผมก็จิ้มบัง2ที ล้อเล่นกันแค่นั้น ผมไม่ใช่ อันทพาล ที่ไม่มีเหตุผลเหมือน คุณไออาเอฟ ฯลฯ ใจก็ดีแม้ไม่หล่อเหมือนน้อง--อัลอัชฮารีย์ หรือทีมนักศึกษาจากอิยิปต์แต่ผมก็น่ารักน้า ....ครับ----
แต่ไม่เป็นไรครับไม่ง้อก็ได้ เมื่อบังไม่ต้องการชื่อจริงของผม เพราะเดี๋ยวถ้าผมส่งอีเมล์ไปให้บังกลัวว่าจะไม่ถึงแบบที่ผมเคยส่งของน้องอัลฮัชฮารีย์อีกเดี๋ยวจะเสียอารมณ์อีก

แฮะๆบังฮะซันครับ อยากได้ น้องเขย แบบน้องอัลอัฮารี อจ.ฟารุก น้องมูอำมัด หรือคุณซุกกรีครับ
ผมได้ข่าวว่า บังมีญาติ บังสวยๆเยอะนะครับ ยังไงก็ช่วยติดต่อให้น้องอัล อัชฮารีย์สักคนละ..ฮิๆๆๆ

ความรู้ก็มีและเรียนสูงนะครับ แถม พ่วงปริญญาตรี จากไคโรด้วยนะครับ อะฮ้า...
ฮันแน่..น้องอัลอัชฮารีย์ ของบัง ยิ้ม...อายน่าแดงเลยหน๊อ อย่าเพิ่งดีใจละ น้อง
---- แต่บังว่าบางทีน้องคงต้องเจออุปสรรค ที่ไม่คาดฝัน.แน่ นอนเลย*** เรื่องอะไรนะหรือ ไม่บอกครับคิดเอาเอง.ละ.......
-----จุจุ บังฮะซันอย่าอารมฌ์เสีย. ผมก็พูดล้อเล่นกับบังแค่นั้น......

วัสลาม มิตรสหายทุกคนในอยิปต์ และว่าที่มิตรสหายบังฮะซันที่สงขลา

--- กลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่อย่าลืมแวะไปชวนผมไปเที่ยวบ้านบังฮะซันด้วยละ ผมจะเป็นโชเฟอร์นำทางให้เอง และรับเป็นเจ้าภาพให้ด้วย..ละ งานนี้ผมว่าบังฮะซันคงจะขอยกเว้นผมกับน้องมูฮำมัดแน่เลย ฮือ.. Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad .----
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 10:37 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam อจ.อัลฟารุก

อ้าว..มาแล้วหรือครับอจ.อัลฟารุค
Very Happy เป็นไงครับช่วงนี้การเรียนยุ่งมากไหมครับ ผมได้ข่าวว่าอจ.วิ่งไปเรียนไปที่โน้นที่นี้ ไมหยุดวันเลยนะครับ ... อย่างนี้พ่อแม่และญาติพี่น้องคงปลื้มใจมากเลยซิถ้า นี่ถ้าท่าน กำลังนั่งดูการเสวนาเรื่องปัญหาคิลาฟียะเป็นสาเหตุ และท่านเองก็ได้รับผลกระทบแถวหมู่บ้านของท่าน ละก้อ ท่านคงจะดีใจและภูมิใจในตัวอจ.มากเลยนะครับที่อย่างน้อยทำให้คนอื่นที่ไม่มีความรู้หรือคนที่ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือได้ทำ อาม้าลอีบาดะได้อย่างไม่ต้อพะวงกับการถูกฮูกมและโดนใส่ร้ายว่าเป็นบิดอะบ้าง ..จนไม่กล้าทำอไร แม้จะไปอ่านอัลกรุอานหรือยาซีนให้กับมัยัตที่ล่วงลับไปแล้ว เฮ้อ...วกกลับมาเรื่องนี่เครียดๆมากเลยครับอจ.อัลฟารุคดรับ
ผมเองต้องขอมาอัฟอจ.ด้วยที่ไม่ค่อยว่างได้มาแจมในเรื่องนี้สักเท่าได อจ.ก็เลยเหนื่อยมากเป็นพิเศษ...แต่ก็มีน้องอัลอัชฮารีย...คุณครูซุกกรี ..ก็ ช่วยเข้ามาสนทนาเป็นระยะแล้วนะครับแต่คุณมุสลิมคงจะมีภาระกิจเลยไม่ค่อยจะได้เข้ามาบ่อยนัก..กระมั้งครับ....
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 11:32 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้อความของน้อง al-farook
หลักการของ ท่าน อิบนุ รอญับ และท่าน ฟุฏัยล์ บิน อิยาฏ นั้นฟังขึ้น แต่หลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น ฟังไม่ขึ้นครับ

อ้างจากบังอะสัน

หะดิษข้างต้น อยู่ภายใต้ หลักการพิจารณา เรื่อง หะลาล-หะรอม เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ดังหลักการที่ว่า

الأصل في الأشياء الإباحة، أما المحرمات إنما هي أشياء مستثناة، قال تعالى: {حُرِّمَتْ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةُ وَالدَّمُ وَلَحْمُ الْخِنْزِيرِ وَمَا أُهِلَّ لِغَيْرِ اللَّهِ بِهِ} [المائدة: 2].

หลักเดิม ในสิ่งต่างๆนั้น อนุญาต สำหรับสิ่งต้องห้ามนั้น ความจริง มันเป็นสิ่งต่างๆ ที่ถูกยกเว้น ดังคำดำรัสของอัลลอฮ (ซ.บ)ทีว่า “[5.3] ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ ที่มัน (ขณะเชือด)............) อัลมาอิดะฮ / 2

.......................

ตอบ

เรื่อง หลักอุศูลุลฟิกฮ บังไม่ได้พิจาณา คนพูด ว่ารุ่นเก่า หรือ รุ่นใหม่ แต่ดูจากหลังฐานที่พวกเขาอ้างอิง มากกว่า ส่วนน้ำหนัก น้องบอกว่าเบา แต่บังว่าหนัก มันแล้วแต่มุมมอง

มาดูหลักนิติศาสตร์อิสลาม อีกสำนวนหนึ่ง

القاعدة الرابعة عشرة 
الأصــل في العبــادات المنــع

العبادات الأصل فيها المنع إلا إذا أذن بها الشرع ودليل ذلك قوله تعالى: ﴿أَمْ لَهُمْ شُرَكَاء شَرَعُوا لَهُم مِّنَ الدِّينِ مَا لَمْ يَأْذَن بِهِ اللَّهُ﴾ [الشورى:21]،

وقول النبي :
" من عمل عملاً ليس عليه أمرنا فهو رد ".[صحيح مسلم]
กฏข้อที่ 14

หลักเดิม ในเรื่องอิบาดะฮนั้น ห้ามมิให้กระทำ

การอิบาดะฮนั้น หลักเดิมในมัน คือ การห้าม ยกเว้น เมื่อมีบัญญัติ อนุญาต ให้กระทำ และหลักฐานดังกล่าวคือ คำดำรัสของอัลลอฮ(ซ.บ)ที่ว่า "หรือ พวกเขามีบรรดาภาคี บัญญัติศาสนาให้แก่พวกเขา สิ่งซึ่งอัลลอฮมิทรงอนุญาต - อัชชูรอ/21
และท่านบี ศอลฯกล่าวว่า

บุคคลใดประกอบการงาน(อะมั้ลอิบาดะฮ)ใด ที่ไม่มีคำสั่งของเรา บนมัน มันถูกปฏิเสธ -เศาะเหียะมุสลิม
ملخص
القواعد الفقهية
تلخيص لمنظومة الشيخ محمد بن صالح العثيمين
ص 6
..........................................
salam
น้อง คนอยากรู้ อย่าเพิ่งน้อยใจ บังยินดีสนทนาทุกคนครับ รอเมล์อยู่ด้วย ตอนนี้เปิดดูไม่เจอ
ไม่ทราบว่า เมล์ หรือ รถเมล์กันแน่ เห็นส่งให้ใคร มีปัญหาทุกที่
................
วันนี้ขออนุญาตไปบรรยาย ที่หาดใหญ่
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 11:47 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

เรื่อง หลักอุศูลุลฟิกฮ บังไม่ได้พิจาณา คนพูด ว่ารุ่นเก่า หรือ รุ่นใหม่ แต่ดูจากหลังฐานที่พวกเขาอ้างอิง มากกว่า ส่วนน้ำหนัก น้องบอกว่าเบา แต่บังว่าหนัก มันแล้วแต่มุมมอง

มาดูหลักนิติศาสตร์อิสลาม อีกสำนวนหนึ่ง

القاعدة الرابعة عشرة 
الأصــل في العبــادات المنــع

วิจารณ์

นั่นไงบังอะสัน ผมก็อยากได้คำตอบจากบังอะสันว่า จะทำการสนทนแบบฉบับของสะลัฟ ตามที่น้องอัล-อัซฮะรีย์ ได้เคยถามไปแล้วหรือไม่ ?

คำอัล-กออิดะฮ์ 14 ที่บังอะสันยกมานั้น ผมก็ได้ฝากน้องเขานำมาอธิบายแล้ว และทำการหักล้างความเข้าใจของบังอะสันไปแล้ว และหน้าที่ของบังอะสันก็คือ หักล้างหรือวิจารณ์คำนำเสนอของผม และบังอะสันก็วิจารณ์หักล้างหลักฐานที่ผมนำเสนอไปไม่ได้ แล้วอยู่ดีๆบังอะสันก็ยกมันมาอีก แล้วก็บอกว่า นั่นคือสิ่งที่บังว่ามีน้ำหนัก คือแล้วแต่มุมมอง ซึ่งพูดแบบนี้ มันตักลีดชัดๆ คือฉันจะเอาอย่างนี้ ใครจะเอาหลักฐานใดมาหักล้างหรือวิจารณ์ในเชิงวิชาการอย่างไร ฉันก็ไม่เชื่อ ฉันก็ไม่คิดพิจารณาทั้งสิ้น บังอะสันชอบบอกหลักการของตนอยู่ตลอดว่า อย่าตักลีด แต่ในเชิงปฏิบัตินั้น บังอะสัน กลับทำขัดกับหลักการของตนเอง ผมจึงพอรู้ว่าบังอะสันสนทนาเรื่องศาสนาเพื่อสนองอะไร ?

และคำตอบด้วยนะครับ อย่าลืม

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 12:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

บังไม่ได้พิจาณา คนพูด ว่ารุ่นเก่า หรือ รุ่นใหม่ แต่ดูจากหลังฐานที่พวกเขาอ้างอิง มากกว่า

วิจารณ์

ใช่ครับ บังอะสัน ผมเห็นด้วยกับคำว่า "ไม่พิจารณาว่า รุ่นเก่า หรือ รุ่นใหม่ เนื่องจากดูที่หลักฐาน ในการสนับสนุน อัล-กออิดะฮ์ หลักการของตน และผมก็กล่าวไปแล้วอย่างรัดกุมว่า " ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่ไม่ใช่สะลัฟ อีกทั้งมีหลักการที่ฟังไม่ขึ้น" ดังนั้น หลักฐานของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่มาสนับสนุน หลักการ ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ทที่ได้ บัญญัติขึ้นมาเองในศาสนา นั้น มันไม่ได้ตรงความเป็นจริง ที่ท่านนบี(ซ.ล.) เข้าใจ เช่น มีบรรดาซอฮาบะฮ์ ได้กระทำอิบาดะฮ์ ที่ท่านนบี(ซ.ล.) ไม่ได้ใช้ แต่ท่านนบี(ซ.ล.) ก็ไม่ได้ปฏิเสธ และตำหนิว่า " ทำไม ท่านไม่ปฏิบัติ แต่สิ่งที่ฉันได้สั่งไว้เท่านั้น ทำไมถึงทำขึ้นมาเอง " แต่ท่านนบี(ซ.ล.)กลับให้การยอมรับ และก่อนจากท่านนบี(ซ.ล.) จะให้การยอมรับนั้น บรรดามะลาอิกะฮ์แย่งกันบันทึกคุณงามความดีนั้นแล้ว และอัลเลาะฮ์ก็รับรองซอฮาบะฮ์ว่าได้เข้าสวรรค์ก่อนที่ท่านนบี(ซ.ล.) ยอมรับเสียอีก สาเหตุที่ซอฮาบะฮ์ทำอย่างเป็นอย่างนั้น ผมก็อธิบายไปแล้ว และก็ไม่ได้ถูกหักล้าง

หลังจากท่านนบี(ซ.ล.)เสียชีวิตแล้วนั้น บรรดาซอฮาบะฮ์บางท่านได้ทำการเพิ่ม ตะชะฮุด บางท่านทำการเพิ่มการอ่านตัลบียะฮ์ฮัจญี โดยไม่ได้เข้าใจว่า "ทุกสิ่งที่ทำขึ้นมาใหม่นั้น เป็นบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง" คือบรรดาซอฮาบะฮ์ไม่ได้เข้าใจตามที่พี่น้องวะฮาบีย์เข้าใจ

และ อัล-กออิดะฮ์ " หลักเดิมของอิบาะฮ์นั้นห้าม " นั้น บรรดาซอฮาบะฮ์ ก็ไม่ได้มีความเข้าใจเหมือนกับบังอะสันและพี่น้องวะฮาบีย์ ซึ่งหากเรายึดหลักการของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่ได้ บัญญัติขึ้นมาเองในศาสนา หรือหลักการเกี่ยวกับเรื่องอิบาดะฮ์ที่พี่น้องวะฮาบีย์เข้าใจนั้น บรรดาซอฮาบะฮ์ถูกหุกุ่มโดยทางอ้อมจากแนวทางวะฮาบีย์อย่างไม่ต้องสงสัย ซุบหานัลลอฮ์ !!


أم لهم شركاء شرعوا لهم من الدين ما لم يأذن به الله

"หรือว่าให้กับพวกเขา มีบรรดาผู้ร่วมกัน บัญญัติ ให้กับพวกเขา จากเรื่องศาสนา กับสิ่งที่อัลเลาะฮ์มิได้ทรงอนุญาติกับมันกระนั้นหรือ?"

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 12:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

من عمل عملاً ليس عليه أمرنا فهو رد
บุคคลใดประกอบการงาน(อะมั้ลอิบาดะฮ)ใด ที่ไม่มีคำสั่งของเรา บนมัน มันถูกปฏิเสธ -เศาะเหียะมุสลิม

วิจารณ์

บังอะสัน ให้ความหมาย แบบไม่ถูกต้องว่า "ที่ไม่มีคำสั่งของเรา" ซึ่งมันให้ความหมายแคบ และไม่ได้อยู่ในเจตนารมณ์ของหะดิษ ซึ่งความจริงแล้ว ต้องให้ความหมายว่า "กิจการงานของเรา อยู่บนมัน" หรือ "ศาสนาของเรา" (ในอีกรายงานหนึ่งของท่าน อัลบะฆอวีย์) ซึ่งเราได้นำเสนอไปแล้ว

ดังนั้น หากบังอะสันจะแปลว่า คำสั่ง หรือหมายถึง คำสั่งใช้นั้น ท่านนบี(ซ.ล.) ก็จะกล่าวว่า

من عمل عملاً ليس به أمرنا فهو رد

แต่บังอะสัน ก็พยายามจะแปลว่า "คำสั่ง" เพื่อจะอธิบายให้เข้าทางตนเองว่า อิบาดะฮ์ใด ที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้สั่ง (โดยตรง) สิ่งนั้นย่อมถูกปฏิเสธ ทั้งที่ความจริงท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น เนื่องจากซอฮาบะฮ์บางท่านได้กระทำสิ่งที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ได้สั่ง ท่านนบี(ซ.ล.)ก็ยังให้การยอมรับ และบรรดาซอฮาบะฮ์ก็เข้าใจดียิ่งในคำกล่าวของท่านนบี(ซ.ล.) อย่างที่ผมได้อธิบายไปแล้วอย่างชัดเจน

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat Mar 04, 2006 1:15 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถึง บังคนอยากรู้ بارك الله فيك

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته وطيباته

หวังว่า คงสบายดีนะครับ กระผมเอง ที่เข้ามาสนทนาได้บ้าง ก็แค่วันศุกร์ กับวันเสาร์ เท่านั้น เพราะช่วงนี้ ที่อียิปต์หยุด 2 วันแล้ว หลักจากที่เคยหยุดวันศุกร์วันเดียว แต่เวลาเรียน และเวลาทำงาน ก็เพิ่มขึ้นอีก 1 ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ เรื่องการเรียน ก็ปกติครับ ต้องพยายามกันหน่อย ธาตุแท้ของคนคือเป็นคนโง่เขลาครับ แก่นแท้ของความรู้คืออัลเลาะฮ์เท่านั้น ส่วนมากผมจะเลือกเรียนกับชัยค์ที่อยู่ในเชื้อสายท่านนบีมุหัมมัด(ซ.ล.) แม้เราเองยังไม่เห็นท่านนบี(ซ.ล.)ในยามตื่น เราก็สามารถอยู่ร่วม สนทนา ศึกษา กับลูกหลานท่านนบี(ซ.ล.) มีลูกของชัยค์ท่านหนึ่งที่ผมไปเรียนตะเซาวุฟ อายุประมาณ 7 ขวบ ผิวขาว แก้มแดง น่ารักมาก เขามีเชื้อสาย จากท่านนบี(ซ.ล.) ทางสายท่าน ซัยยิดินาหุซัย และมีเชื้อสายทางท่าน ซัยยิดินา อบูบักร อัศศิดดีก ด้วย แม้เป็นเด็ก ผมก็ให้เกียตริเขา และผมจะเรียกแทนชื่อเขาว่า " ซัยยิด"

ความจริงผมไม่ได้วิ่งไปเรียนหรอกครับ แต่ผมแค่เดิน และก็ขึ้นรถเมล์ไปเรียน Smile Smile แต่ก็เบื่อบ้างนิดหน่อยนะครับ แต่ก็ต้องทนเอา หยาดเหงื่อแต่ละหยดของผู้เป็นพ่อแม่ ที่ได้ทำงาน ยกจอบฟันดินแต่ละครั้ง ยกฆ้อนตอกตะฟูแต่ละที หรือยกกระสอบปูนแต่ละหน มันย่อมการเสียสละแรงกายแรงใจเพื่อส่งเสียเราร่ำเรียน ที่จะได้รับการตอบแทนจากอัลเลาะฮ์ทั้งสิ้นทั้งปวง ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า อามีน ยาร๊อบ

และบังคือ คนที่ทำให้ผมต้องเข้าสนทนาครับ ผมก็จะพยายามสนทนาได้เท่าที่โอกาสจะอำนวยให้ครับ อินชาอัลเลาะฮ์

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 23, 24, 25 ... 31, 32, 33  ถัดไป
หน้า 24 จากทั้งหมด 33

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.27 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ