ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Wed Feb 08, 2006 4:43 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณฟาอิสครับ กระทู้นี้จะปิดอีกเมื่อไหร่ครับบอกด้วยแล้วกันไม่ใช่เล่นสาดโคลนเหม็นใส่เพื่อนแล้วตัวเองวิ่งเอาผ้าปิดหน้าเข้าบ้านไปเฉยๆไม่ดีนะครับ
ถามอะไรคุณสักข้อสั้นๆนะครับคุณฟาอิสผมยังค้างใจอยุ๋จากกระทู้การแบ่งบิดอะภาค2...
ฮาดีสที่ท่านนบีกล่าวว่า ในยุคของพวกยะฮูดี จะแตกเป็น72 พวกที่ถูกอยู่คือพวกเดียว
1.อยากถามว่าพวกไหนบ้างครับผิด
2.และพวกไหนครับที่ท่านนบีว่าถูก
ช่วยตอบให้อย่างด่วนเลยนะผมกำลังนั่งคอยอยู่ครับ
ขอคุณล่วงหน้า |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Feb 08, 2006 5:04 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อความของ kunkonyakroo
คุณอัชอารีครับ/คุณมูฮำมัด เราคงไม่สามารถเข้าไปทำการชี้แจงในกระทู้ การแบ่งบิดอะได้แล้วครับ เพราะวะฮาบีย์เขาตีหัวเราแตกแล้ววิ่งหนีหางจุกตูดเข้าเมืองไปแล้วครับ ............
ไม่แน่จริงนี่หว่า..คักๆๆๆๆ
.......................................................................
ตอบ
น้อง kunkonyakroo ครับ คำว่าวิ่งหางจุกตูด นั้น หมายถึงสุนัข นะครับ พวกคุณตอบเรื่องศาสนาเพื่อความสะใจ แต่ไม่คำนึงผลที่ตามมาว่า ฟิตนะ มันจะเกิดอย่างไร การคงไว้ซึ่งสิ่งมีอยู่ในสมัยของท่านศาสนดามุหัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เมื่อท่านนบีมุหัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิ ไม่ตีความ แต่พวกคุณพยายามอย่างที่สุดที่จะตีความ นั้น คือ การล้ำหน้าอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ พอเถอะครับ พวกคุณไม่ได้รับสิทธิเหนื่อ ท่านนบีมุหัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิ
คำว่า
เพราะวะฮาบีย์เขาตีหัวเราแตกแล้ววิ่งหนีหางจุกตูดเข้าเมืองไปแล้วครับ ............
ไม่แน่จริงนี่หว่า..คักๆๆๆๆ
เป็นคำพูดที่ไม่จะมาจากน้อง kunkonyakroo เพราะบังมองในแง่ดีตลอด แต่ก็เสียใจ และสิ่งใดๆที่ล่วงเกินไม่ว่าด้วยประการใดก็ตาม บังขอ มาอัฟ มา ณ โอกาสนี้ด้วย และขอให้น้องแก้ไขคำพูดข้างต้นด้วย เพราะเรายังมีโอกาสคุยกันในกระทู้นี้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ทีมงานสื่ออนุรักษ์ มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 25/02/2004 ตอบ: 47
|
ตอบ: Wed Feb 08, 2006 5:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เรียนคุณ Konyakroo
คุณกำลังสนทนาเรื่องศาสนาไม่ใช่หรือ แต่ทำไมคุณถึงกล่าวร้ายและจาบจ้วงท่านอาจารย์ฟารีดด้วยคำว่า
คุณฟาอิสคือคนทีมีเส้นสายกับเจ้าของเว็บนี้ หลังจากส่งข้อความไม่นาน
เจ้าของเส็บสั่งปิดกระทู้ทันที................
ท่านอาจารย์และคุณฟาอิสไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ท่านอาจารย์ไม่ทราบด้วยว่า ผู้ใช้นามว่า ฟาอิส คือผู้ใด แต่ท่านก็กล้าใส่ไค้ล
ทั้งที่ผมกำลังชี้แจงว่าเราคืออะลุสซุนนะ วัญญะมะอะ 1ใน73 พวก แต่โดนปิดกระทู้โดยเจ้าของเว็บไปเฉยๆ
ท่านอาจารย์ได้ชี้แจงและแสดงจุดยืนของท่านก่อนที่จะปิดกระทู้แล้วไม่ใช่หรือ
และอีกไม่นานผมกับทีมนักศึกษาก็ต้องดดนแบนไอพีแน่นอนครับท่านผู้อ่าน.
ท่านคาดการณ์เอาเอง ถ้าจะให้แบนไอพีคุณ ไม่ต้องรอท่านอาจารย์หรอกครับ ผมจัดการเองได้ แต่เห็นเป็นเรื่องวิชาการ เลยต้องรอให้อาจารย์ตัดสินใจ ซึ่งท่านไม่ค่อยมีเวลา
ที่ผ่านมา เราไม่เคยตัดหรือลบข้อความของคุณกับพวก นอกจากในช่วงปลายปีที่เวบของเราล่ม และกู้ข้อมูลกลับคืนมาได้เกือบทั้งหมด
เขาเปิดโอกาสให้คุณมาโพสข้อความที่นี่ แต่คุณก็ไม่น่ากล่าวร้ายกับเจ้าของบ้านเลย
คนเรียน คนรู้ศาสนา ไม่น่าทำอย่างนี้
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-farook มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005 ตอบ: 297 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Wed Feb 08, 2006 6:18 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เรียน ถึงท่านอาจารณ์ฟารีด
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
สิ่งที่ท่านได้นำเสนอคำตักเตือนต่างๆแก่เราในกระทู้อากิดะฮ์นั้น เราขอรับฟังและนำไปพิจารณา ความจริงท่านน่าจะเข้ามาเร็วกว่านี้ ก็จะเป็นการดีมากเลยทีเดียว และเราก็ใคร่จะขอขอบคุณอาจารย์ฟารีดด้วยซ้ำไป ที่ได้ให้โอกาศแก่เราในการสนทนาในเชิงวิชาการ
น้องอัล-อัซฮะรีย์ก็ดี คุณมุหัมมัดก็ดี รุ่นน้องของผม และคุณคนอยากรู้ คุณฃุกกรี มิตรสหายของเราก็ดี ต่างก็มีความปราถนาที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงที่อุลามาอ์ส่วนใหญ่มีทัศนะเห็นด้วยอย่างนั้น จุดมุ่งหมายแต่แรกของเราก็เพื่อที่จะทำการ "ตักรีบ" ปรับความเข้าใจกันและกัน แต่ด้วยการสนทนาที่อยู่ในสภาพที่ผู้ร่วมสนทนามีความยึดมั่นแนวทางของฝ่ายตนอย่างแข็งกร้าว จึงทำให้รูปแบบการสนทนาได้เกิดขึ้นในรูปแบบที่เป็นอยู่นี้ ผมก็ขอให้อาจารย์เห็นใจและเข้าใจบรรดาผู้ร่วมสนทนาครับ
والسلام
الفاروق الشافعى الأشعرى
غفر الله له ولنا ولوالديه ولوالدينا _________________ นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-farook มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005 ตอบ: 297 ที่อยู่: อียิปต์
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-farook มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005 ตอบ: 297 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Wed Feb 08, 2006 7:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างจากคุณ ฟาอิส هداك الله
คือไม่ค่อยมีเวลาที่จะอ่านทั้งหมด เอาเพียงแค่หนึ่งวัคก็พอ
อ่านแล้วปวดหัว ภาษาอาหรับอียิปต์ ก็ไม่ได้แปลว่าอย่างนี้นี่หนา
" พวกท่านจงดำรงไว้ ด้วยซุนนะฮ์ของฉัน และบิดอะห์ฮาซานะห์ของบรรดาค่อลิฟะฮ์ผู้ทรงธรรม
ไปเปลียนทำมัย
คุยกับ มุตะซีเลาะห์มันยุ่งยากอย่างนี้นี่เอง เอะอะ อะไร ก็ตีความ ๆเพื่อให้เข้ากับตัวเอง นึกว่าตัวเองนั้นถูกเสมอ เก่งจริงๆ ที่ได้มา วิจารณ์ความผิด อูลามะห์ ระดับมุจตาฮิจ โถ!
วิจารณ์
จุดอ่อนของผู้ที่ทำการสนทนาก็คือ การไม่อ่านทั้งหมดในสิ่งที่ผู้สนทนาได้นำเสนอมา เมื่อคุณสนทนาออกความเห็น มันจึงไม่ตรงประเด็นและการสนทนาจึงไม่ค่อยมีประสิทธิ์ภาพเท่าที่ควร ส่วนเรื่องการตีความนั้น เรามีหลักฐานจากซอฮาบะฮ์ และบรรดาอุลามาอ์สะลัฟมากมาย ที่จะมายืนยันในเรื่องนี้ เพื่อเราและคุณจะได้ทำความเข้าใจอย่างเปิดกว้าง หากการตีความเป็นแนวทางของกลุ่มมั๊วะตะซิละฮ์นั้น ผมเองก็ไม่ทราบว่า บรรดาหลักฐานที่เราจะนำเสนอเกี่ยวกับการตีความของสะลัฟนั้น ต้องทำให้พวกเขาอยู่ในแนวทางมั๊วะตะซิละฮ์ด้วยหรือเปล่า ? อัลอะชาอิเราะฮ์นั้น มีสองแนวทาง แต่ผมให้น้ำหนักแนวทางของ สะลัฟ และยึดมั่นตามนั้น แต่แนวทางของค่อลัฟ ที่มีการตีความด้วยนั้น การให้น้ำหนัก ก็ต้องอยู่ที่ยุคและสมัย เนื่องจาก แนวทางของค่อลัฟ เป็นแนวทางที่ใช้ในการปกป้องอากิดะฮ์อัลอิสลาม จากอิทธิพลและหลักการต่างๆของพวกนอกศาสนาและกลุ่มบิดอะฮ์ ผมขอกล่าวเกริ่นประเด็นการตีความเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ เพราะกระทู้นี้ได้พูดเกี่ยวกับในเชิงฟิกห์
คุณฟาอิส พยายามอ้างและเข้าใจตัวบทของท่านนบีคาดเคลื่อน ซึ่งคุณกล่าวว่า
" พวกท่านจงดำรงไว้ ด้วยซุนนะฮ์ของฉัน และบิดอะห์ฮาซานะห์ของบรรดาค่อลิฟะฮ์ผู้ทรงธรรม"
แต่ความจริง คุณต้องเข้าใจตัวบทตามเดิม คือ ใช้คำว่า
" พวกท่านจงดำรงไว้ ด้วยซุนนะฮ์ของฉัน และแนวทางของบรรดาค่อลิฟะฮ์ผู้ทรงธรรม"
ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า บรรดาซอฮาบะฮ์นั้น คือผู้ที่ได้การปกป้อง อัลอิสลาม อัลกุรอานและซุนนะฮ์ และได้ทำการฟื้นฟูอัซซุนนะฮ์ อย่างไม่ต้องสงสัย นั่นคือหนึ่งในแนวทางของบรรดาซอฮาบะฮ์ การที่พวกเขามีความปราถนาอย่างยิ่ง ในการเจริญรอยตามท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอะลาอาลิฮฺ วะซัลลัม โดยพยายามบอกเล่ารายงาน คำพูด แบบอย่างต่างๆของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอะลาอาลิฮฺ วะซัลลัม เพื่อจะไม่เป็นการปกปิดความรู้ที่ได้รับมา แต่บางสิ่งบางอย่างที่บรรดาซอฮาบะฮ์ได้กระทำขึ้นมา โดยที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอะลาอาลิฮฺ วะซัลลัม ไม่ได้กระทำ และไม่ได้สร้างแบบอย่างเอาไว้ อย่างเช่นการละหมาดตะรอวิหฺ 20 ร่อกะอัต และสิ่งที่อยู่ในแง่ที่ท่านนบีไม่เคยทำแบบอย่างเอาไว้ ซึ่งน้อง อัล-อัซฮะรีย์ได้ชี้แจงไปแล้ว และยังมีประเด็นอื่นอีกมากมาย ที่เราจะทำการนำเสนอ ในการกระทำต่างๆของบรรดาซอฮาบะฮ์ที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอะลาอาลิฮฺ วะซัลลัม ไม่ได้กระทำไว้ และนั่น ก็คือบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ที่เป็นแนวทางหนึ่งเท่านั้นเอง ที่มาจากบรรดาแนวทางต่างๆที่บรรดาซอฮาบะฮ์ได้กระทำเอาไว้ (ซึ่งเราจะนำเสนอในการสนทนาหลักฐานคำกล่าวและการกระทำของบรรดาซอฮาบะฮ์ อินชาอัลเลาะฮ์ และการสนทนาที่เป็นขั้นเป็นตอนนี้ คือความคิดของผมเอง)
ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณฟาอิส จะเข้าใจตัวบทหะดิษโดยเจาะจงเอาเอง ที่ว่า " และแนวทางของบรรดาค่อลิฟะฮ์ผู้ทรงธรรม" ไปเป็น "และบิดอะฮ์ฮาซานะห์...." อย่างนี้ย่อมไม่ได้ ซึ่งแนวทางของบรรดาซอฮาบะฮ์นั้น มีหลายแนวทางในการปฏิบัติ และแนวทางต่างๆของพวกเขานั้น ก็ย่อมครอบคลุมไปถึง บิดอะฮ์หะสะนะฮ์ด้วย และรายละเอียดความเข้าใจในเรื่องบิดอะฮ์หะสะนะฮ์นี้ ก็กรุณาอ่านมันให้เข้าใจ และคุณมีความเห็นแตกต่างอย่างไร ก็เชิญร่วมสนทนาชี้แนะครับ นั่นคือการสนทนาในเชิงวิชาการครับ _________________ นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Feb 08, 2006 10:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
บิดอะฮในทางศาสนานั้น ไม่มีคำว่า หะสะนะ หรือ บิดอะฮที่ดี เพราะท่านนบี ศอลฯ กล่าวว่า
"كل بدعة ضلالة، وكل ضلالة في النار" [رواه النسائي في "سننه" (3/188 ـ 189
ทุกบิดอะฮ เป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดนั้น จะอยู่ในนรก รายงานโดย อัลนะสาอีย์ ในสุนันของท่าน 3/188-189
ส่วนการอ้างหะดิษที่ว่า หะดิษต่อไปนี้ เป็นหลักฐานบิดอะฮหะสะนะฮนั้น ย่อมไม่เป็นผล
من سن في الإسلام سنة حسنة فله أجرها وأجر من عمل بها بعده من غير أن ينقص من أجورهم شيء ومن سن في الإسلام سنة سيئة كان عليه وزرها ووزر من عمل بها من بعده من غير أن ينقص من أوزارهم شيء
" ผู้ใด ที่ได้ทำแบบอย่างที่ดี ในอิสลาม แน่นอน เขาจะได้รับ ผลตอบแทนของมัน และผลตอบแทนของผู้ที่ได้ปฏิบัติด้วยกับมัน จากหลังเขา(เสียชีวิตไปแล้วก็ได้กับเขา) โดยไม่มีสิ่งใดลดลงไปเลย จากผลการตอบของพวกเขา และผู้ใด ทีได้ทำแบบอย่างที่เลว ในอิสลาม แน่นอน บาปของมันก็ตกบนเขา และบาปของผู้ที่ปฏิบัติมัน หลังจากเขา(เสียชีวิตไปแล้วก็ตกบนเขา) โดยไม่มีสิ่งใดบกพร่องลงไปเลย จากบรรดาบาปของพวกเขา" (รายงานโดย ท่านอิมาม มุสลิม ไว้ในซอเฮี๊ยะหฺของท่าน หะดิษที่ 1017)
..............................
เพราะ หะดิษนี้ ไม่ได้หมายถึง การอุตริบิดอะฮที่ดีในอิสลาม แต่หมายถึง การฟื้นฟูสุนนะฮ และ การเป็นแบบอย่าง ในการทำดี ทีศาสนามีบัญญัติไว้ เพราะที่มาของคำพูดของท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ข้างต้นเนื่องจากมีเศาะหาบะฮท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวอันศอร ได้ทำการเศาะดะฮเกาะฮ ในยามวิกฤต แล้วคนอื่นๆก็เอาเยี่ยงอย่าง ดังสำนวนหะดิษข้างล่างนี้
ما جاء في صحيح عن جرير بن عبد الله رضي الله عنه قال : كنا عند رسول الله صلى الله عليه وسلم في صدر النهار ، قال : فجاءه قوم حُفاة عراة ، مجتابي النمار أو العباء ، متقلدي السيوف ، عامتهم من مُضَر ، بل كلهم من مُضَر ، فتمعّر وجه رسول الله صلى الله عليه وسلم لما رأى بهم من الفاقة ، فدخل ثم خرج ، فأمر بلالا فأذن وأقام فصلى ثم خطب ، فقال : (يَا أَيُّهَا النَّاسُ اتَّقُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ مِنْ نَفْسٍ وَاحِدَةٍ) إلى آخر الآية . (إِنَّ اللَّهَ كَانَ عَلَيْكُمْ رَقِيبًا) ، والآية التي في الحشر : (اتَّقُوا اللَّهَ وَلْتَنْظُرْ نَفْسٌ مَا قَدَّمَتْ لِغَدٍ وَاتَّقُوا اللَّهَ) . تَصَدَّق رجل من ديناره ، من درهمه ، من ثوبه ، من صاع بُرّه ، من صاع تمره ، حتى قال : ولو بِشِقّ تمرة . قال : فجاء رجل من الأنصار بِصُرّة كادَتْ كَفّـه تعجز عنها بل قد عجزت . قال : ثم تتابَع الناس حتى رأيت كومين من طعام وثياب ، حتى رأيت وجه رسول الله صلى الله عليه وسلم يتهلل كأنه مذهبة ، فقال رسول الله صلى الله عليه وسلم : من سن في الإسلام سنة حسنة فله أجرها وأجر من عمل بها بعده من غير أن ينقص من أجورهم شيء ، ومن سن في الإسلام سنة سيئة كان عليه وزرها ووزر من عمل بها من بعده من غير أن ينقص من أوزارهم شيء
.
เพราะฉะนั้น การคิดแนวทางใดๆโดยปัญญาเพื่อให้เป็นแนวทางของศาสนา ย่อมไม่เป็นแนวทางที่ดีอย่างแน่นอน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al_katsir มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 27/12/2005 ตอบ: 9
|
ตอบ: Wed Feb 08, 2006 10:08 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สู้ไม่ไว้แย้วถ่อยดีก่า อิอิ... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Thu Feb 09, 2006 7:55 am ชื่อกระทู้: มัสหับ |
|
|
บังฮะซันครับ บังเข้าใจผิดนะครับ เพราะบังขาดการตีความหหมายในคำที่ว่า วิ่งหางจุกตูด[/U
]น้อง kunkonyakroo ครับ คำว่า[U]วิ่งหางจุกตูด นั้น หมายถึงสุนัข นะครับ
ตอนผมเหนียดพูดครั้งแรกไม่ได้เปรียบเป็นสุนัขเลยครับแต่ผมเหนียดว่า เป็นวัว นะครับและสัตว์ที่มีหางก็เยอะแยะนี่ครับ แพะ แกะ ช้างม้าควายฯลฯ บังนะไม่ยอมให้ความหมายกว้างๆบ้างเลยมีความคิดคับแคบ ผมขอมาอัฟบังและทีมงานด้วยนะ ที่มีความเสียใจมากเลยใช้คำพูดเปรียบเปรย
บังพูดได้นะว่า
-****พวกคุณตอบเรื่องศาสนาเพื่อความสะใจ แต่ไม่คำนึงผลที่ตามมาว่า ฟิตนะ มันจะเกิดอย่างไร การคงไว้ซึ่งสิ่งมีอยู่ในสมัยของท่านศาสนดามุหัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เมื่อท่านนบีมุหัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิ ไม่ตีความ แต่พวกคุณพยายามอย่างที่สุดที่จะตีความ นั้น คือ การล้ำหน้าอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ พอเถอะครับ พวกคุณไม่ได้รับสิทธิเหนื่อ ท่านนบีมุหัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิ
บังครับ เราไม่เคยล้ำหน้าอัลลออ์และรอซุ้ล แม้1ใน1000ของความคิดและย่างก้าวโดยเฉพาะคำสั่งใช้และห้าม ที่มาจากพระองค์ แต่บังนั้นมีความสุดโต่งในจุดยืนเลยมองคนอื่นว่าล้ำหน้าในหลักการ และจำกัดวงแคบในความคิดที่แคบๆนะครับ
หวังว่าบังคงไม่โกรธนะครับ อ้าวบังไหนลองยิ้มสักนิดซิ คักๆๆๆๆ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 09, 2006 9:02 am ชื่อกระทู้: |
|
|
น้องkunkonyakroo
บังเพิ่งจะรู้นะว่า คำว่าหางจุกตูด นั้น คือ แพะ แกะ ด้วย แฮะๆๆ แต่ที่เขาใช้กัน คือ สุนัข
แต่อย่างไรก็ตาม สุนัข เป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์และกตัญญู
และขอบอกให้ทราบว่า บังอะสันใจกว้างเสมอ เพียงแต่มีหลักความเชื่อที่ว่า
ศาสนาอิสลาม คือ คำสอนของอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ประทานแก่ท่านรซูล ศอลฯ มนุษย์ไม่มีหน้าที่ออกบทบัญญัติ แต่มีหน้าที่รับมาปฏิบัติเท่านั้น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 09, 2006 12:45 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
قال سفيان الثوريُّ: "البدعة أحبُّ إلى إبليس من المعصية، المعصية يُتاب منها، والبدعة لا يُتاب منها" [شرح السنّة: 1/216].
ซุฟยานอัษเษารีย์ กล่าวว่า" บิดอะฮ เป็นที่รักยิ่งแก่ อิบลิส ยิ่งกว่ามะอซียะฮ(ความฝิดในการฝ่าฝืนคำสอนศาสนา) มะอซียะฮ ได้รับการเตาบะฮ และบิดอะฮ ไม่ได้รับการเตาบะฮ - ชัรหุสุนนะฮ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 09, 2006 12:47 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เพิ่มเติม
คำว่า"ไม่ได้รับการเตาบะฮ" เนื่องคนทำคิดว่าดี |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Thu Feb 09, 2006 4:12 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ตอนผมเหนียดพูดครั้งแรกไม่ได้เปรียบเป็นสุนัขเลยครับแต่ผมเหนียดว่า เป็นวัว นะครับและสัตว์ที่มีหางก็เยอะแยะนี่ครับ แพะ แกะ ช้างม้าควายฯลฯ บังนะไม่ยอมให้ความหมายกว้างๆบ้างเลยมีความคิดคับแคบ ผมขอมาอัฟบังและทีมงานด้วยนะ ที่มีความเสียใจมากเลยใช้คำพูดเปรียบเปรย
บังยังมีอารมณ์ค้างแต่ยังบอกว่าใจกว้าง แถมพูดไม่หมดที่ผมยกตัวอย่าง แพะ แกะ ช้าง ม้าควายฯลฯ พวกนี้ก็มีหาง
แล้วบังจะยัดเหยียดสิ่งผมเปรียบเปรยว่าวิ่งหางจุกตูดคือสุนัข ได้อย่างไรละก็เมือการลั่นวาจาหรือการนึกเหนียตครั้งแรก ของผมคือ วัวนั่นเอง
วัวนั้นพอเชือดผูกหลุดปลอกคอ เจ้าของจะเข้าไปจับมันก็วิ่งหางจุกก้นของมัน เพราะมันไม่เชื่องนะครับ
และที่บังกล่าวว่า นี่คือในนิยาม หนึ่ง
ศาสนาอิสลาม คือ คำสอนของอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ประทานแก่ท่านรซูล ศอลฯ มนุษย์ไม่มีหน้าที่ออกบทบัญญัติ แต่มีหน้าที่รับมาปฏิบัติเท่านั้น
อันนี้สำหรับผู้เข้าในศาสนาของพระองค์เขาเรียนรู้และเข้าใจมาตั้งแต่ในอดีตกาลแล้วครับอาบัง
แต่อีกนิยามหนึ่งกล่าว่า ***ศาสนาอิสลาม คือศาสนา แห่งการจำนนและยอมด้วยหลักฐานที่มาจากพระองค์ซึ่งพระองค์คือผู้ทรงสร้างมนุษย์โดยให้สติปัญญาในการใช้วิจรณาญาณฯในสิ่งที่พระองค์ประทานลงมาในโลกนี้****
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Thu Feb 09, 2006 5:08 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุฯอัลฟารุก คุณอัชอารีคุณมูฮำมัด และเพื่อนๆนักศึกษาไคโรทุกคน
กระผมคนอยากรู้และเพื่อนผู้อยู่ในแนวทางอัชชาฟอีทั้งหลายยินดีต้อนรับทุกๆท่านจากอียิปต์ครับ
ที่นีคือรายการ ....แก้คำ.ใส่ร้ายป้ายสีจากพี่น้องวะฮาบีย์ที่กล่าวหาว่ามัสหับชาฟีอี คืออะล้ลบิดอะ
โดยจำเลยคือ มัสหับของวะฮาบีย์และโจทย์ที่ผู้ถูกกล่าวหาคือ มัสหับชาฟีอี
โดยพี่น้องวาฮาบีย์ยืนกรานว่า
บิดอะฮในทางศาสนานั้น ไม่มีคำว่า หะสะนะ หรือ บิดอะฮที่ดี เพราะท่านนบี ศอลฯ กล่าวว่า
"كل بدعة ضلالة، وكل ضلالة في النار" [رواه النسائي في "سننه" (3/188 ـ 189
ทุกบิดอะฮ เป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดนั้น จะอยู่ในนรก รายงานโดย อัลนะสาอีย์ ในสุนันของท่าน 3/188-189
ส่วนการอ้างหะดิษที่ว่า หะดิษต่อไปนี้ เป็นหลักฐานบิดอะฮหะสะนะฮนั้น ย่อมไม่เป็นผล
من سن في الإسلام سنة حسنة فله أجرها وأجر من عمل بها بعده من غير أن ينقص من أجورهم شيء ومن سن في الإسلام سنة سيئة كان عليه وزرها ووزر من عمل بها من بعده من غير أن ينقص من أوزارهم شيء
" ผู้ใด ที่ได้ทำแบบอย่างที่ดี ในอิสลาม แน่นอน เขาจะได้รับ ผลตอบแทนของมัน และผลตอบแทนของผู้ที่ได้ปฏิบัติด้วยกับมัน จากหลังเขา(เสียชีวิตไปแล้วก็ได้กับเขา) โดยไม่มีสิ่งใดลดลงไปเลย จากผลการตอบของพวกเขา และผู้ใด ทีได้ทำแบบอย่างที่เลว ในอิสลาม แน่นอน บาปของมันก็ตกบนเขา และบาปของผู้ที่ปฏิบัติมัน หลังจากเขา(เสียชีวิตไปแล้วก็ตกบนเขา) โดยไม่มีสิ่งใดบกพร่องลงไปเลย จากบรรดาบาปของพวกเขา" (รายงานโดย ท่านอิมาม มุสลิม ไว้ในซอเฮี๊ยะหฺของท่าน หะดิษที่ 1017)
..............................
เพราะ หะดิษนี้ ไม่ได้หมายถึง การอุตริบิดอะฮที่ดีในอิสลาม แต่หมายถึง การฟื้นฟูสุนนะฮ และ การเป็นแบบอย่าง ในการทำดี ทีศาสนามีบัญญัติไว้ เพราะที่มาของคำพูดของท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ข้างต้นเนื่องจากมีเศาะหาบะฮท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวอันศอร ได้ทำการเศาะดะฮเกาะฮ ในยามวิกฤต แล้วคนอื่นๆก็เอาเยี่ยงอย่าง ดังสำนวนหะดิษข้างล่างนี้
ما جاء في صحيح عن جرير بن عبد الله رضي الله عنه قال : كنا عند رسول الله صلى الله عليه وسلم في صدر النهار ، قال : فجاءه قوم حُفاة عراة ، مجتابي النمار أو العباء ، متقلدي السيوف ، عامتهم من مُضَر ، بل كلهم من مُضَر ، فتمعّر وجه رسول الله صلى الله عليه وسلم لما رأى بهم من الفاقة ، فدخل ثم خرج ، فأمر بلالا فأذن وأقام فصلى ثم خطب ، فقال : (يَا أَيُّهَا النَّاسُ اتَّقُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ مِنْ نَفْسٍ وَاحِدَةٍ) إلى آخر الآية . (إِنَّ اللَّهَ كَانَ عَلَيْكُمْ رَقِيبًا) ، والآية التي في الحشر : (اتَّقُوا اللَّهَ وَلْتَنْظُرْ نَفْسٌ مَا قَدَّمَتْ لِغَدٍ وَاتَّقُوا اللَّهَ) . تَصَدَّق رجل من ديناره ، من درهمه ، من ثوبه ، من صاع بُرّه ، من صاع تمره ، حتى قال : ولو بِشِقّ تمرة . قال : فجاء رجل من الأنصار بِصُرّة كادَتْ كَفّـه تعجز عنها بل قد عجزت . قال : ثم تتابَع الناس حتى رأيت كومين من طعام وثياب ، حتى رأيت وجه رسول الله صلى الله عليه وسلم يتهلل كأنه مذهبة ، فقال رسول الله صلى الله عليه وسلم : من سن في الإسلام سنة حسنة فله أجرها وأجر من عمل بها بعده من غير أن ينقص من أجورهم شيء ، ومن سن في الإسلام سنة سيئة كان عليه وزرها ووزر من عمل بها من بعده من غير أن ينقص من أوزارهم شيء
.
เพราะฉะนั้น การคิดแนวทางใดๆโดยปัญญาเพื่อให้เป็นแนวทางของศาสนา ย่อมไม่เป็นแนวทางที่ดีอย่างแน่นอน
นี่คือเอกสารและหลักฐานที่ทางพี่น้องวะฮาบีย์ยื่นฟ้องร้องต่อศาลสุงส่งคือ อัลลอฮ์(ซบ)
ว่า พวกเรารวมทั้งบรรดาอุลามะ ในสมัยอดีตกาล เปลี่ยแปลงหลักคำสอนจากคัมภีร์และอัลฮาดีสบ้าง โดยหาว่าบิดเบือนและก้าวล้ำหน้าอัลลออ์และรอซูลบ้างฯลฯ
ดังหลักฐานข้างบนที่ยกมา นี่คือความชัดเจนว่ามัสหับชาฟีอีคือผู้ทำบิดอะ เพราะไปแบ่งแยกและให้คำนิยามบิดอะเป็นหลายแบบ ทั้งที่มีอยู่แบบเดียว โดยอ้างอิงฮาดีสที่รายงานจาก ท่านนาสาอี ท่านมุสลิมมาที่ว่า***ทุกบิดอะฮ เป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดนั้น จะอยู่ในนรก เป็นหลักฐาน เพื่อพยายามยัดเหยียดและกล่าวหาว่าเราคือผู้ฝ่าฝืนและชอบทำอุตริกรรม เป็นข้อผูกมัดเพื่ออ้างข้อสัญญาของอัลลอฮ์แกบร้อซ้ลของพระองค์ โดยการชี้แนะให้เห็นว่าเราสมควรจะอยู่ในนรกเท่านั้น
บังฮะซันครับ ฮาดีสข้างบนนั้นไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าพระองค์จะต้องให้บ่าวที่ทำบิดะต้องลงนรกหรอกนะครับ ทุกอย่างเป็นสิทธิของพระองค์ อย่าพยายามเอาฮาดีสที่สนับข้างตัวเองแล้วประกาศให้อัลลอฮ์เร่งรีบหรือกาหัวว่าเราคือผู้ทำบิดะเลยครับ
บังเองยังไม่เข้าใจ นิยามคำว่าบิดอะที่อุลามะเขานำมาอ้างเลย
ที่ท่านนบีพูดว่า ทุกบิดอะฮ เป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดนั้น จะอยู่ในนรก
แล้วบังรู้หรือไม่ว่าบิดอะคำนี้แปลว่าอย่างไรบ้างอะไร มีกีอย่าง
ไม่ใช่พอว่าบิดอะแล้วมันคือสิ่งเลวร้ายทั้งหมด
ถ้างั้นผมขอถามว่าที่ในฮาดีสที่กล่าววถึง ท่านอุมัซร์ในเรื่อรวมคนละหมาดตารอวิห์ละ แล้วท่านกล่าวว่านีคือ บิดอะที่ดีละ***นีคืออะไร แล้วบิดอะตรงนี้ในความหมายคืออะไรกันแนะละบัง เหอเหอ เหอ....
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Thu Feb 09, 2006 5:15 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แก้คำผิด***โดยจำเลยคือมัสหับชาฟีอี เป็นผู้ถูกกล่าวหา...โดยโจทย์ยื่นฟ้องต่ออัลลออัสวัญญัลละคือมัสหับของวะฮาบีย์ ว่าเป็นผู้กระทำบิดอะ คักๆๆๆๆๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|