ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Dec 03, 2005 5:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
น้อง al-azhary กล่าวว่า
ผมไม่ได้ปฏิเสธ คำว่าเบื้องบนที่อยู่ในความหมายที่สูงส่ง คืออัลเลาะฮฺทรงมีฐานันดรที่ยิ่งใหญ่ เกรียงไกรและสูงส่งยิ่ง แต่ผมปฏิเสธอากิดะฮฺแบบบังอะสัน(สะละฟีย์วะฮาบีย์ปัจจุบัน) ที่เชื่อว่า อัลเลาะฮฺ ทรงอยู่เบื้องบน โดยอยู่ห่างจากมัคโลค และนั่งสัมผัสอยู่บนมัคโลกที่ชื่อว่า "อัลอะรัช " โดยมีน้ำหนักอึ้ง ซึ่งแบบนี้ผมปฏิเสธแน่นอนครับ อัลหัมดุลิลลา
.............................
ตอบ
ปิดประตูใส่กุญแจ เรียบร้อยเลยนะ ไม่รับ ไม่เชื่อ ไม่ตาม ว่างั้นเถอะ
..................
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Dec 03, 2005 11:39 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
:o
ข้อความของ al-azhary
ผู้รู้บางท่านที่ผมกล่าวมานั้น ผมก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยมและพูดคุยด้วย อย่างเช่นอาจารย์ ชุโกร เจริญสุข (จบจากปอเนะดาลอ) และอาจารย์ การีม วันแอเลาะ(เรียนจากมักกะฮฺและจบจากอัลอัซฮัร) حفظهما الله وأطال عمرهما ซึ่งท่านทั้งสองก็ไม่มีความเห็นด้วยกับสะละฟีย์ (วะฮาบีย์)ปัจจุบัน ผมได้มีโอกาสคุยด้วย ก็รู้ดีว่าเป็นอย่างไร ? ส่วนอาจารย์อรุณ บุญชม(จบจากมหาลัยมะดีนะฮฺ)นั้น حفظه الله ونفعنا بعلومه ตอนนี้ ท่านกำลังแปลหนังสือ ที่ชื่อว่า " การไม่มีมัซฮับ เป็นบิดอะฮฺ อันตราย ที่จะมาคุกคราม ชะรีอะฮฺ อัลอิสลาม " ได้ข่าวว่า ตอนนี้ท่านกำลังแปลได้เกินครึ่งหนึ่งแล้ว ผมก็ขอให้อัลเลาะฮฺทรงประทานความสำฤทธิ์ผลด้วย อามีน
อาจารย์หะกีม วันแอเลาะ(จบจากอัลอัซฮัร) ท่านก็ได้ แปลหนังสือ ตรรกวิทยา อิสลาม ขึ้นมาฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานที่ดีอันหนึ่ง
และท่านอาจารย์ ไพบูลย์ เจะยอเด(จบปริญญาโท จากอินเดีย) ผมก็เคยเป็นศิษย์ของท่านเหมือนกัน حفظه الله ونفعنا بعلومه ดังนั้น ผมจึงรู้ดีว่าพวกเขาเป็นอย่างไร ? ส่วนบังอะสันไม่รู้หรอกครับ
..........................................................
ตอบ
อันที่จริงไม่อยากจะล่วงเกินอาจารย์เหล่านี้ เพราะท่านอยู่ของท่าน แต่น้อง al-azhary อ้างขึ้นมา เพื่ออวดว่า ตัวเองมีอาจารย์ ดังๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ให้เกียรติผู้รู้ทุกคน ไม่ว่าจะเข้าใจบางเรื่อง แตกต่างกันก็ตาม แต่ก็ไม่ว่าใครจะมีความรู้สักปานใดก็ตาม เขาก็มีหน้าที่นำคำสอนของอัลลอฮ(ซ.บ)และท่านรซูล (ศอลฯ) มาถ่ายทอดแก่บรรดาผู้ไม่รู้ทั้งหลาย ค่าของผู้รู้(อุลามาอฺ) ต้องดูที่สิ่งที่เขาสอน พฤติกรรมและการปฏิบัติของเขา มีหะดิษบทหนึ่งที่ควรนำมาเป็นบทเรียนคือ
عن ابن عمر عن النبي صلى الله عليه وسلم قال من طلب العلم ليماري به السفهاء أو ليباهي به العلماء أو ليصرف وجوه الناس إليه فهو في النار * ( حسن ) المشكاة 225 و 226 : النعليق الرغيب 68/1
รายงานจากอิบนิอุมัร จากท่านบี ศอลฯ กล่าวว่า ผู้ใดแสวงหาความรู้ เพื่อโต้เถียงเอาชนะกับบรรดาคนไม่รู้ หรือ เพื่อโอ้อวดภูมิปัญญากับบรรดาผู้รู้ หรือ เพื่อต้องการเป็นจุดเด่นให้ผู้คนสนใจเขา ดังนั้นเขาจะอยู่ในนรก หะดิษหะซัน
หนังสือ ที่มีชื่อว่า การไม่มีมัซฮับ เป็นบิดอะฮฺ อันตราย ที่จะคลอดออกมาตามที่น้อง al-azhary อ้าง บังอะสันอยากจะอ่านใจจะขาด แต่.. คิดว่า น่าจะไม่ออกมามากกว่า อาจจะเป็นราคาคุยของน้อง al-azhary มากกว่า ปล่อยท่านเหล่านั้นให้อยู่อย่างสงบเถอะครับ อย่าเอายี้ห้อท่านมาอวดเลยครับ
..................
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
มุหัมมัด มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Sun Dec 04, 2005 6:34 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ อะสันเนี่ย ไม่ค่อยเข้าใจ หะดิษ มุฏเฏาะร๊อบ ว่ามีกี่ประเภท และหาเหตุมันมีอะไรบ้าง ? เมื่อเขาไม่เข้าใจ เขาก้อพยายามแอบอ้างมาสนับสนุนกัน ตามอารมณ์ที่คุณอะสันจะเอา ?? ผมว่า อัลอัซฮะรีย์คงมาเคลียร์เองล่ะครับ รอไปเถิด
ผมไม่รู้ว่าหะดิษ ญาริยะฮฺนั้น คุณอะสันจะกล่าวว่าอย่างไร ? ไม่รู้จะกล่าวว่ามาสนับสนุนอีกหรือเปล่า?
- มีหะดิษบทหนึ่งกล่าวว่า "นบีได้ถามทาสหญิงว่า อัลเลาะฮฺอยู่ใหน ? หญิงนั้นตอบว่า อยู่(ใน)บนฟ้า
- มีอีกหะดิษหนึ่งกล่าวว่า" นบีกล่าวกับนางว่า เธอจะปฏิญานตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮฺและแท้จริงฉันคือร่อซูลของพระองค์ใหม? นางตอบว่า ค่ะ นบีก็กล่าวว่า ท่านจงปล่อยนางให้เป็นอิสระ"
- มีอีกหะดิษกล่าวว่า "ใครคือพระเจ้าของเธอ นางตอบว่า "อัลเลาะฮฺ " ท่านนบีกล่าวอีกว่า แล้วฉันคือใคร? นางตอบว่า ท่านคือร่อซูลของอัลเลาะฮฺ นบีจึงกล่าวว่า ท่านจงปล่อยนางให้เป็นอิสระเถิด เพราะนางเป็นผู้ศรัทธาแล้ว"
ผมไม่ทราบว่า คุณอะสันจะบอกว่าหะดิษต่างนั้นมาสนับสนุนกันเองหรือเปล่า????? ผมเห็นอัลอัซฮะรีย์บอกว่า จะนำบรรดาหะดิษมาอธิบายเพิ่งรายละเอียดอีกครั้ง ผมก็อยากให้อัลอัซฮะรีย์นำเสนอหะดิษนี้ด้วย
ผมอยากยกตัวอย่างการตบตาอำพรางของคุณอะสันต่อท่านผู้อ่านสักนิดนะครับ
คุณอะสันกล่าวว่า
ขอยกตัวอย่างสักอีกหะดิษ
عَنِ بْنِ سَـعِيْدِ الْخُـدْرِيِّ اَنَّ رَسُـوْلَ اللهِ صَلَّى عَلَيْهِ وَسَـلَّمَ قَالَ : اَلاَ تَاْمَنُوْنَنِيْ وَاَنَا اَمِيْنٌ مَنْ فِى السَّمَآءِ يَاْتِنِيْ خَبَرٌ مِنَ السَّمَآءِ صَبَاحٌ وَمَسَاءٌ.
จากอบีสะอีดอัลคุดรีย์ ว่า แท้จริงท่านรซูลุลลอฮ ศอลฯ กล่าวว่า พวกท่านไม่ไว้วางใจข้าพเจ้าหรอกหรือ ทั้งที่ข้าพเจ้า เป็นผู้ได้รับความไว้วางวางใจ ของผู้ที่อยู่บนฟากฟ้า ข่าว(วะหยู)จากฟากฟ้ามายังข้าพเจ้า ในเวลาเช้าและเวลาบ่าย รายงานโดย อะหมัด และบุคอรี หะดิษหมายเลข 4351 และ มุสลิม
คุณอัซ-อารี ก็ ตีความว่า ผู้ที่อยู่บนฟากฟ้า หมายถึง มลาอิกะฮ เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อตนเอง ที่ปฏิเสธการอยู่เบื้องบนของอัลลอฮ(ซ.บ)
ผมขอกล่าวว่า
คุณตบตา อำพรางและโกหกต่อผู้อ่าน และโกหกต่ออัลอัซฮะรีย์ ทั้งที่ความจริงคุณต้องกล่าวอย่างมีอะมานะฮฺ โดยที่ความจริงแล้ว อัลอัซฮะรีย์ได้เคยอธิบายเกี่ยวกับหะดิษดังกล่าวว่า
คุณอะสันยอมรับไม่เหมือนที่อะชาอิเราะฮฺยอมรับ คุณอะสันกล่าวยอมรับว่า "อัลเลาะฮฺอยู่ในฟากฟ้า!!ส่วนอัลเลาะฮฺจะเป็นลักษณะอย่างไรนั้นอัลเลาะฮฺเท่านั้นทรงรู้" แต่อุลามาอฺซะลัฟจริงๆในยุคก่อนที่อะชาอิเราะฮฺยึดตามนั้น คือ " คำว่า" فى السماء " นั้นเราไม่รู้ความหมายที่แท้จริงนอกจากอัลเลาะฮฺ และให้เราผ่านมันไปอย่างที่มันได้ระบุเอาไว้ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ? แต่สะลัฟปัจจุบันบอกว่า " อัลเลาะฮฺอยู่ในฟากฟ้า แต่จะอยู่ในฟากฟ้าอย่างไรนั้นไม่รู้ ? ฟากฟ้านั้นคือชื่อของสถานที่ คือเอาสถานที่ให้กับอัลเลาะฮฺ แล้วมาบอกว่าอัลเลาะฮฺอยู่ในสถานนั้นอย่างไรไม่รู้ ? ดังนั้นคุณอะสันจึงยึดไม่เหมือนอุลามาอฺซะลัฟยุคก่อน เพราะอุลามาอฺซะลัฟยุคก่อนนั้น ยืนยันว่า
كان ولامكان، وهو الأن على ما عليه كان
อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น(คือไม่ทรงมีสถานที่)
ดังนั้นผมขอถามคุณอะสันว่า มีอุลามาอฺสะลัฟยุคก่อนท่านใดบ้างครับ ที่บอกว่า "อัลเลาะฮฺอยู่ในฟากฟ้าโดยไม่มีสถานที่ให้กับพระองค์" ??? (แล้วคุณอะสันก็นำเสนอหลักฐานจากสะลัฟมากมาย แต่อัลอัซฮะรีย์ก็วิจารณ์ในเชิงวิชาการได้อย่างดีเลยทีเดียว -คำพูดเพิ่มเติมของผม )
وفي الصحيح في حديث الخوارج "ألا تأمنوني وأنا أمين من في السماء يأتيني خبر السـماء صباحـاً ومسـاء"
ตอบ
ตามที่ผมเรียนไปแล้วก็คือ อุลามาอฺซะลัฟนั้น แท้จริง คำว่า فى السموات หรือ فى السماء นั้นสำหรับแนวทางของอิชาอะเราะฮฺนั้น สามารถใช้ได้สองหนทางด้วยกัน
1. คือ التفويض การมอบหมาย ซึ่งหมายถึงการมอบหมายความหมายของตัวบทไปยังอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.) โดยไม่เข้าไปพิจารณาความหมาย และศรัทธาบนหนทางที่สรุปๆ คือศรัทธาอิหม่านว่า สิ่งที่อัลเลาะฮฺรู้นั้น เป็นสัจจะธรรมและความสัจจริง และให้มันผ่านไปอยู่ที่ได้ระบุมาอย่าง ไม่รู้วิธีการว่าเป็นอย่างไร และมีความหมายอย่างไร พร้อมกับเชื่อว่าอัลเลาะฮฺทรงบริสุทธิ์จากคุณลักษณะที่บกพร่อง นี่คือแนวทางของอุลามาอฺซะลัฟ ซึ่งมันแตกต่างกับคุณอะสันที่กล่าวว่า อัลเลาะฮฺอยู่บนฟากฟ้าแต่ไม่รู้ว่าอยู่อย่างไร? ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเห็นมีสถานที่อยู่บนฟากฟ้าแต่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ? แต่ชาวซะลัฟแท้ๆนั้น(ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งของอะชาอิเราะฮฺ)มีจุดยืนกับตัวบทนี้ว่า อัลเลาะฮฺกล่าวอย่างนั้นจริง แต่เราไม่รู้ความหมายที่แท้จริง โดยที่อัลเลาะฮฺปราศจากและไม่ทรงมีการกำหนดสถานที่และทิศให้กับพระองค์ เช่นอัลเลาะฮฺทรงอยู่บนฟากฟ้าและทรงอยู่ทิศบนอย่างที่ซะลัฟปัจจุบันเขาอ้างเชื่อกันอย่างนั้น
แต่บรรดาอุลามาอฺผู้ที่อ้างตัวเองว่าเป็นสะลัฟปัจจุบันและคุณอะสันเจริญรอยตามนั้น กล่าวว่าอัลเลาะฮฺ นั่งสถิตอยู่บนอะรัช และอยู่ในฟากฟ้า เป็นที่ทราบดีกว่า ซะละฟีย์ปัจจุบันกล่าวว่า อัลเลาะฮฺทรงลงมาจากฟากฟ้าในยาม รุ่ง (คือ ท้าย 1ส่วน 3 ของคืน) ลงมาโดยซาตของพระองค์เอง แต่พวกเขาอ้างว่าไม่รู้ว่าอยู่ในสภาพและลักษณะอย่างไร ??? เป็นที่ทราบกันดีกว่าโลกนั้นหมุนรอบดวงอาทิตย์ เวลาแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันเป็นลูกโซ่ เวลารุ่งนั้นเมืองไทยก็ประมาน ตี 5 (แต่ตอนนี้ผมอยู่อียิปต์) เวลานั้นอัลเลาะฮฺก็ลงมา(ตามที่ซะละฟีย์กล่าวอ้าง) เมื่อเมืองไทยสว่าง ประเทศใกล้เคียงก็รุ่งอีก เมื่อประเทศใกล้เคียงนั้นสว่าง ประใกล้เคียงของประเทศนั้นก็รุ่งอีก เป็นทอดๆกันไป แม้กระทั้ง 9โมงเช้าเมืองไทย ที่อียิปต์เพิ่งรุ่งเองครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ทั่วโลก อัลเลาะฮฺไม่ลงมาจากฟากฟ้ากันตลอดเลยหรือครับ ? และอัลเลาะฮฺจะนั่งสถิตอยุ่บนบันลังค์กันตอนใหน ? แต่อุลามาอฺซะลัฟยุคก่อนเขายึดมั่นว่า อัลอิสติวาอฺนั้นอัลเลาะฮฺทรงรู้ความหมายยิ่ง และคำว่า" نزول " นั้นอัลเลาะฮฺทรงรู้ยิ่ง ลักษณะอย่างไรนั้นไม่เป็นที่รู้ได้นอกจากอัเลาะฮฺ แค่นี้ก็จบครับ แต่ตามทัศนะของซะลัฟปัจจุบันนั้น เราต้องคุยกันต่อครับ
หากอัลเลาะฮฺนั่งสถิตอยู่บนอะรัชอย่างที่ซะละฟีย์ซาอุดี้เข้าใจแล้ว และอายะฮฺอื่นๆล่ะครับคุณจะว่าอย่างไร หรือว่าคุณจะ التأويل ตีความ เช่น
(وهو معكم أينما كنتم)
(وهو الذي في السماء إله وفي الأرض إله)
(فأينما تولوا فثمّ وجه الله)
(ونحن أقرب إليه من حبل الوريد)
หากอัลเลาะฮฺอยู่ทิศบนและอยู่นั่งสถิตอยู่บนอะรัชนั้น มันก็จะมาค้านกับอายะฮฺต่างๆ ที่ผมนำเสนอ หรือว่าคุณอะสันจะ التأويل ตีความ ถ้าคุณทำอย่างนั้น ก็เป็นแนวทางของอิชาอิเราะฮฺอีก และแนวทางของอะชาอิเราะฮฺ เป็นแนวทางบิดอะฮฺตามทัศนะของอุลามาอฺซาอุดี้ไม่ใข่หรือครับ ? (หมดข้อความของอัลอัซฮะรีย์)
ผมขอกล่าวว่า
แล้วคุณอะสันบอกผู้อ่านไปได้ไงว่า หะดิษนี้ อัลอัซฮะรีย์ ได้บอกว่าเป็นมะลาอิกะฮฺ ??? คุณอะสันก็ยังไม่เลิกเรื่องบิดเบือนเลยนะเนี่ย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะครับ คุณนพช่วยตัวให้คุณอะสันหน่อย
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
อิลยาส มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/04/2005 ตอบ: 279
|
ตอบ: Sun Dec 04, 2005 9:29 am ชื่อกระทู้: |
|
|
นี่คือ ผลกระทบของสมองบุลคล ซึ่งเข้าพัวพันกับ วิชา งงเต๊ก
"แต่บรรดาอุลามาอฺผู้ที่อ้างตัวเองว่าเป็นสะลัฟปัจจุบันและคุณอะสันเจริญรอยตามนั้น กล่าวว่าอัลเลาะฮฺ นั่งสถิตอยู่บนอะรัช และอยู่ในฟากฟ้า เป็นที่ทราบดีกว่า ซะละฟีย์ปัจจุบันกล่าวว่า อัลเลาะฮฺทรงลงมาจากฟากฟ้าในยาม รุ่ง (คือ ท้าย 1ส่วน 3 ของคืน) ลงมาโดยซาตของพระองค์เอง แต่พวกเขาอ้างว่าไม่รู้ว่าอยู่ในสภาพและลักษณะอย่างไร ??? เป็นที่ทราบกันดีกว่าโลกนั้นหมุนรอบดวงอาทิตย์ เวลาแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันเป็นลูกโซ่ เวลารุ่งนั้นเมืองไทยก็ประมาน ตี 5 (แต่ตอนนี้ผมอยู่อียิปต์) เวลานั้นอัลเลาะฮฺก็ลงมา(ตามที่ซะละฟีย์กล่าวอ้าง) เมื่อเมืองไทยสว่าง ประเทศใกล้เคียงก็รุ่งอีก เมื่อประเทศใกล้เคียงนั้นสว่าง ประใกล้เคียงของประเทศนั้นก็รุ่งอีก เป็นทอดๆกันไป แม้กระทั้ง 9โมงเช้าเมืองไทย ที่อียิปต์เพิ่งรุ่งเองครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ทั่วโลก อัลเลาะฮฺไม่ลงมาจากฟากฟ้ากันตลอดเลยหรือครับ ? และอัลเลาะฮฺจะนั่งสถิตอยุ่บนบันลังค์กันตอนใหน ? แต่อุลามาอฺซะลัฟยุคก่อนเขายึดมั่นว่า อัลอิสติวาอฺนั้นอัลเลาะฮฺทรงรู้ความหมายยิ่ง และคำว่า" نزول " นั้นอัลเลาะฮฺทรงรู้ยิ่ง ลักษณะอย่างไรนั้นไม่เป็นที่รู้ได้นอกจากอัเลาะฮฺ แค่นี้ก็จบครับ แต่ตามทัศนะของซะลัฟปัจจุบันนั้น เราต้องคุยกันต่อครับ"
ซึ่งต้องใช้วิชา งงเต๊กถามต่อ..แล้วตกลงลัยละตุ้ลกอดรฺ มีกี่คือ หากแยกตามมัฎละฮฺ
แล้วมะไหร่มันจะจบ เหมือนอ่านหนังสือคนละเล่ม ร๊อดไปร๊อดมา..ยิ่งไปกันใหย่..งั้นกระทู้นี้ ขอบายนะครับ วัสลาม (แค่หยอก อย่าโกรดนะ)
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
มุหัมมัด มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Tue Dec 06, 2005 1:11 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณอะสันครับ ผมคิดว่า คุณกำลังว่าตัวคุณเองมากนะครับ
เอาเถอะครับ คุณอะสัน เมื่อผมเข้ามาแล้วคุณไม่ได้สนทนาในเชิงวิชาการอย่างที่ผู้รู้เขาปฏิบัติกัน และได้แต่ทำการประนามผู้ที่ไม่เชื่อตามแนวทางวะฮาบีย์ที่คุณฝังหัวและปิดซิบหัวใจแล้ว ผมก็ขอกล่าวว่า " سَلاَماً สันติเถิด " (ซูเราะฮฺ ฟุรกอน อายะฮฺ 63 )
อัลเลาะฮฺทรงตรัสไว้ว่า
افلا تعقلون
"หรือพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณา"
لعلكم تعقلون
"บางทีพวกเจ้าใช้ปัญญาคิดพิจารณา"
لعلكم تتفكرون
"พวกทีพวกเจ้าคิดพิจารณา"
افلا يتدبرون
" หรือพวกเข้าได้ทำการใคร่ควรญ"
افلا تتفكرون
" หรือพวกเจ้าไม่ทำการพิจารณา"
และอัลเลาะฮฺทรงตรัสอีกว่า
و قالوا لو كنا نسمع او نعقل ما كنا في اصحاب السعير
" พวกเขากล่าวว่า หากแม้นว่าเรา ได้ยิน หรือใช้ปัญญาคิดพิจารณา เราก็จะไม่ได้อยู่ในนรกสะอีรอย่างแน่นอน " (อัลมุลกฺ 10 )
อัลเลาะฮฺทรงตรัสเช่นกันว่า
صُمٌّ بُكْمٌ عُمْيٌ فَهُمْ لَا يَعْقِلُونَ
" เขาเหล่านั้นเป็นคนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่(ใช้ปัญญา)คิดพิจารณา(ให้เข้าใจ) (1) "
(1) คืออัลเลาะฮฺเปรียบเทียบพวกเขาว่าประหนึ่งดัง พวกปฏิเสธที่ถูกเรียกร้องนั้น อุปมาดังสัตว์เดรฉานที่ถูกเรียก แต่มันกลับไม่ฟังและไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณา ในสิ่งได้กล่าวให้กับมัน ดังนั้น พวกเขาจึงไม่รับฟัง ทำเป็นบอดใบ้ไม่รู้ไม่ชี้ในสัจจะธรรม เพราะพวกเขาไม่ใช้สติปัญญาพิเคราะห์พิจารณา "
คุณอะสันครับ
سَلاَماً
สันติ
(ซูเราะฮฺ ฟุรกอน อายะฮฺ 63 )
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Dec 06, 2005 6:23 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ก่อนอื่นต้องขอมาอัฟคุณมุหัมหมัด ด้วยที่อาจจะล่วงเกินไปบ้างในการสนทนา ผมยังไปพี่น้องคุณมุหัมหมัดเสมอ แต่..คุยกันไปก็แค่นั้นแหละครับ เพราะโต้กันไปมา กล่าวหากันไปมา ไม่สร้างสรรค์เลย ความเข้าใจที่แตกต่างกันอันนี้หลีกเลี่ยงไม่พ้น แต่ ของแถมที่ได้จากการสนทนาอันเกิดจากอารมณ์นั้น มันสร้างภาพลบให้มุสลิมมากกว่า บวก จึงไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไป
รักคุณมุหัมหมัดในฐานะมุสลิมเสมอ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
มุหัมมัด มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Tue Dec 06, 2005 5:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
คุณอะสันครับ สิ่งที่คุณกล่าวมาล่าสุดนี้ มีคำพูดที่ถูกต้องที่สุดแล้วครับ การให้การมะอัฟ มันไม่ใช่ทำให้เราต้องตกต่ำลงไปเลยแม้แต่น้อย หากมีคนชื่นชมเรา ก็เราจงกล่าวว่าอัลหัมดุลิลลาห์ หากเราล่วงเกิน เราก็ขอมะอัฟ ขออภัยกัน ผลที่ตามมาก็คือ ความไม่ตกต่ำ ความจำเริญ
ผมขอบอกด้วยใจจริงว่า บางอายะฮฺที่ผมยกอ้างอิงไปนั้น ผมไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการสนทนาแบบของแถมนั้น เราต้องงดและทิ้งมันไป
และคุณอิลยาสครับ การที่ผมสนทนาแทนอัลอัซฮะรีย์ในกรณีคำพูดต่างๆ ของคุณนพนั้น เพราะวามันไม่ต้องพึ่งพาตำรา เนื่องจากคุณนพพูดออกมาโดยไม่ใช่ในเชิงอ้างหลักฐาน แต่วิจารณ์ออกมาทางความคิดเสียมากกว่า ผมก็เลยร่วมวิจารณ์ได้ แต่ถ้าหากในเชิงอ้างอิงตำราล่ะก็ ผมขอมอบให้อัลอัซฮะรีย์ดีกว่า เพราะเขาคือนักแสวงหาความรู้จากการเรียนและค้นคว้า
การโต้กันไปโต้กันมานั้น หากว่ามันอยู่ในเชิงวิชาการแล้ว ย่อมมีคุณประโยชน์อันมากมาย ซึ่งเขาเรียกว่า مناقشة علمية (การถกกันในเชิงวิชาการ) เพื่อจะหวนกลับไปสู่ความจริง แต่เราต้องใช้ความอดทนสูง เพื่อเปิดใจในการรับฟังหลักฐานและเหตุผลของคู่สนทนา แล้วเราก็ทำการวิจารณ์ในเชิงวิชาการ แต่เราจนต่อหลักฐานนั้น ก็ให้เรานิ่งเสีย อย่ามีของแถม
อย่างเช่นกรณีที่อยู่ในเชิงวิชาการ อาธีเช่น ฝ่ายหนึ่ง มีการอ้างอิงหะดิษ คู่สนทนาก็ทำการวิจารณ์หะดิษว่าคำมันสับสน(مضطرب ) อีกฝ่ายก็บอกว่ามันเป็นการสนับสนุนกันและกัน คู่สนทนาก็ตอบกลับไปว่า คุณยังไม่เข้าใจคำว่า (مضطرب ) เมื่อถึงตรงนี้แล้ว อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องเปิดใจรับฟังและรอคำชี้แจงของคู่สนทนาว่าเป็นอย่างไร ? เราอย่าเสริมคำพูดแถมไป แต่ต้องรอคู่สนทนามาชี้แจง. แบบนี้เขาเรียกว่า สนทนาในเชิงวิชาการ
และการสนทนานั้น ต้องรอบครอบในการโพสต์จากคำพูดของตน ต้องอ่านสิ่งที่คุณสนทนานำเสนออย่างเข้าใจอย่างแท้จริง หากผิดพลาด หรือมีการกล่าวหาในเชิงไม่ใช่ความจริง หรือล่วงเกิน ก็ขอมะอัฟ หรือนิ่งเสีย อย่าแถม
เราต้องยอมรับว่า คำพูดแบบของแถมอันไม่พึงประสงค์มันเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย อันนี้มันสร้างภาพลบให้แก่มุสลิม จึงไม่สมควรสาวความให้ยืดยาวในเรื่องแบบของแถมอย่างนี้อีกต่อไป แต่การสนทนาในเชิงวิชาการนั้น ผมขอให้คงอยู่ต่อไป เนื่องจากมันคงคุณประโยชน์สำหรับผู้ที่หาความรู้ครับ
อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอมะอัฟคุณอะสันด้วย หากมีการล่วงเกินอันใดเกิดขึ้นครับ
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
al-azhary มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
al_katsir มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 27/12/2005 ตอบ: 9
|
ตอบ: Tue Dec 27, 2005 3:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
al_katsir มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 27/12/2005 ตอบ: 9
|
ตอบ: Tue Dec 27, 2005 4:03 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมสนับสนุน คุณal-azhary และ อาจารย์Farook ทำเว็บไซตครับ
จะเป็นกำลังใจให้ครับ
ผมจะรอครับ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
al-azhary มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Tue Dec 27, 2005 5:27 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
ถึงคุณ al_katsir حفظك الله ورعاك
เรื่องทำเวปไซด์นั้น มันอยู่ในโครงการของเราแล้วครับ แต่มันไม่ค่อยสะดวกในช่วงนี้ และตอนนี้ ผมก็กำลังติดต่อคนเมืองไทย เพื่อหาผู้ที่ชำนาญในการทำเวปไซด์ และมีเวลาที่กันอับเดทนะครับ แต่ตอนนี้ผมติดต่อไปแล้ว และรอคำตอบอยู่ ส่วนคำตอบจะเป็นอย่างไรนั้น ก็รอดูอีกทีหนึ่ง และต้องหาทางอื่นต่อไป แต่จะให้พวกผมทำเองนั้น คงไม่ได้ เนื่องจากเวลามีน้อย แต่... เราสะดวกในเรื่องส่งและให้ข้อมูลในเชิงวิชาการน่ะครับ ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้ถอดความหมายข้อมูลในเชิงวิชาการต่างๆเป็นภาษาไทยไว้พอสมควร หากมีอะไรแนะนำ โปรดติดต่อผมได้ที่ al-azhary@hotmail.com น่ะครับ
الأزهرى الشافعى
والسلام
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Dec 29, 2005 6:13 am ชื่อกระทู้: |
|
|
บังอะสันก็กำลังรอเว็บ อัชอะรียะฮ ดอทคอม อยู่เหมือนกัน ขอเป็นกำลังใจให้
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
al-azhary มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Sun Jan 01, 2006 7:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
บังอะสันครับ หากผมจะกล่าวว่า ชัยค์ อิบนุตัยมียะฮ์ (ร่อหิมะหุลเลาะฮ) นั้น ได้เตาบะฮ์กลับมาสู่อากิดะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์แล้ว บังอะสันจะว่าอย่างไรครับ ??
_________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 01, 2006 8:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
น้องอัล-อัซฮารีย์
บังก็ไม่ว่าอะไร เพราะบังอะสัน ไม่เห็นเดือดร้อน บังไม่ได้ผูกติดอยู่กับอิบนุตัยมียะฮ นี่ครับ เพราะท่านไม่ได้อยู่ในคำปฏิญานนี่ครับ แต่...ไม่ว่า จะเป็นอิบนุตัยมียะฮ หรือ อิหม่ามอัชอะรียฮ ท่านทั้งสอง บังอะสันไม่บังอาจไปเทียบชั้นกับท่านได้ และคนอื่นๆก็เหมือนกัน ไม่ว่าอุลามาอยุคเก่า หรือ ยุคไหม่ บังอะสันไม่กล้าไปขุดโคตรท่านเหล่านั้นหรอกครับ แม้อาจจะไม่เห็นด้วยในบางเรื่องก็ตาม แต่..ถ้าใครมาดูถูกท่านนบี ศอลฯ บังก็ยอมไม่ได้ มีคนแจ้งมาว่าในเว็บ เอมไทย มุสลิมถูกดูถูกเหยียดหยามสารพัด คิดว่าจะเข้าไปดูอยู่เหมือนกัน เป็นไงบ้าง ตอนนี้
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|