ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Sat Dec 04, 2004 2:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คงเป็นที่ลำบากใจกับซะละฟียูน เนื่องจากข้อมูลชนกันเอง แม้ว่าในช่วงแรก อ.อิสฮาก จะพูดเหมือนกับ อ.ฮะซันว่า เปลี่ยนหมดแล้ว แต่เมื่อทำหนังสือออกมาก็กล่าวว่า เปลี่ยนบางส่วน ซึ่งตรงกับที่ อ.ฟารีด เสนอไว้
เมื่อเปรียบเทียบการนำเสนอกรณีนี้ของทั้งสองฝ่าย จะเห็นได้ว่า ทางอนุรักษ์นำเสนอได้ครอบคลุมและชัดเจนมากกว่า เพราะ อ.ฟารีด ได้นำเสนอเพิ่มเติมคือ กลุ่มที่รักษาคัมภีร์ ซึ่งทางซะลาฟียูน ไม่ได้เสนอเรื่องนี้เลย |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Sat Dec 04, 2004 2:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ.ฟารีด นำเสนอว่า
ส่วนกลุ่มที่ศรัทธามั่นและรักษาคัมภีร์ของพวกเขาไว้นั้น เราได้รับทราบเรื่องราวของพวกเขาจากอัลกุรอานและฮะดีษของท่านนบีดังนี้
บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา โดยพวกเขาได้อ่านคัมภีร์นั้นจริงๆ (น้อมรับและปฏิบัติตาม) ชนเหล่านี้คือผู้ศรัทธาต่อคัมภีร์นั้นซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 121
ท่านอิบนุกะษีรอธิบายว่า : ท่านอุมัร อิบนุค็อตตอบ ได้อธิบายประโยคที่ว่า พวกเขาได้อ่านคัมภีร์นั้นจริง โดยท่านกล่าวว่า เมื่อพวกเขาได้อ่านเรื่องราวที่กล่าวถึงสวรรค์ พวกเขาก็วิงวอนขอสวรรค์ต่ออัลลอฮ์ และเมื่อพวกเขาได้อ่านเรื่องราวที่กล่าวถึงนรก พวกเขาก็ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ให้พ้นจากนรก
อบูลอาลียะห์กล่าวว่า ท่านอิบนุมัสอู๊ด ได้กล่าวว่า ขอสาบานต่อ (อัลลอฮ์) ผู้ซึ่งที่ตัวของฉันอยู่ในพระหัตของพระองค์ว่า พวกเขาได้อ่านคัมภีร์นั้นจริง คืออนุมัติในสิ่งที่ฮะลาล และห้ามในสิ่งที่ฮะรอม และได้อ่านคัมภีร์ดังที่อัลลอฮ์ได้ประทานลงมา โดยไม่บิดเบือนถ้อยความจากที่ของมัน และไม่ตีความให้เป็นอื่นแต่อย่างใด
ท่านซุดดีย์กล่าวว่า รายงานจากอบีมาลิก จากอิบนิอับบาส โดยเขากล่าวเกี่ยวกับอายะห์นี้ว่า : พวกเขายอมรับในสิ่งที่อนุมัติ และพวกเขาปฏิเสธในสิ่งที่ต้องห้าม และพวกเขาไม่บิดเบือนถ้อยความจากที่ของมัน
อีกรายงานหนึ่งจาก อิบนิอับบาสในคำกล่าวของอัลลอฮ์ที่ว่า พวกเขาได้อ่านคัมภีร์นั้นจริง เขากล่าวว่า คือปฏิบัติตามคัมภีร์นั้นอย่างจริงๆ ตัฟซีรอิบนิกะษีร เล่มที่ 1 หน้าที่ 236 (จากหนังสือสถานภาพของยะฮูดี นัศรอนี และอะห์ลุลกิตาบ โดย อ.ฟารีด เฟ็นดี้ เล่มที่ 1 หน้าที่ 31-32) |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Sun Dec 05, 2004 2:59 am ชื่อกระทู้: |
|
|
นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องราวของชาวยะฮูดี ที่พยายามหลบหลีกข้อบัญญัติในคัมภีร์เตารอตที่พวกเขามีอยู่ โดยพระองค์อัลลอฮ์ได้นำมาเล่าให้เราได้รับทราบว่า
อย่างไรเล่าที่พวกเขาจะให้เจ้าเป็นผู้ตัดสิน ทั้งๆ ที่พวกเขามีอัตเตารอตอยู่ ในนั้นมีข้อตัดสินของอัลลอฮ์อยู่แล้ว ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 43
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ชาวยะฮูดีมาร้องขอให้ท่านนบีตัดสินกรณีผู้ละเมิดประเวณี โดยหวังว่าข้อบัญญัติที่มูฮัมหมัดนำมา อาจจะลดหย่อนผ่อนโทษให้มากกว่า ที่มีบัญญัติอยู่ในคัมภีร์อัตเตารอต คือให้ขว้างผู้ละเมิดประเวณี
ท่านอิบนุญะรีร อัตตอบารีได้อธิบายว่า : อย่างไรเล่าที่เจ้าจะตัดสินให้แก่ชาวยะฮูด แล้วจะทำให้พวกเขาพอใจเจ้าในข้อตัดสินนั้น โอ้มูฮัมหมัดเอ๋ย ทั้งๆที่พวกเขาก็มีอัตเตารอต คัมภีร์ที่ถูกประทานให้แก่มูซา ซึ่งพวกเขาก็ยอมรับว่ามันคือสัจธรรม มันคือคัมภีร์ที่ถูกประทานลงมาให้แก่นบีจริงๆ และในนั้นมีข้อตัดสินอยู่แล้ว โดยพวกเขาก็รู้เรื่องดังกล่าวดี อย่าได้แสร้งทำเป็นไม่รู้ และอย่าได้ดิ้นรน พวกเขารู้ดีว่าโทษของผู้ละเมิดประเวณีนั้นคือการขว้าง ตัฟซีรอัตตอบารีย์ เล่มที่ 4 หน้าที่ 247
และเกี่ยวกับเรื่องนี้มีฮะดีษที่มาอธิบายความว่า
รายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนุอุมัร รอฏิยัลลอฮุอันฮุมาว่า ชาวยะฮูดได้มาหาท่านรอซูลุลลอฮิ ศ็อลล็อลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และได้เล่าให้ท่านนบีฟังว่า มีชายหญิงคู่หนึ่งในหมู่พวกเขาละเมิดประเวณี ท่านรอซูลได้กล่าวแก่พวกเขาว่า พวกท่านไม่พบข้อบัญญัติเรื่องการขว้างในคัมภีร์อัตเตารอตหรือ พวกเขากล่าวว่า ประจานแล้วจับมาเฆี่ยน ท่านอับดุลลอฮ์ บินสลามได้กล่าวว่า พวกเจ้าโกหก ข้อบัญญัติในอัตเตารอตนั้นให้ขว้าง พวกเขาได้นำเอาเตารอตออกมากางโดยคนหนึ่งเอามือปิดโองการเกี่ยวกับการขว้างไว้ แล้วอ่านข้อความก่อนหน้าและหลังจากนั้น ท่านอับดุลลอฮ์ บินสลามได้กล่าวว่า จงเอามือออก และเมื่อเขาเอามือออก ก็ปรากฏว่าเป็นโองการเกี่ยวกับการขว้าง จนพวกเขากล่าวยอมรับว่า มูฮัมหมัดพูดจริง ในคัมภีร์เตารอตมีโองการเกี่ยวกับการขว้าง ฉะนั้นท่านรอซูลจึงใช้ให้เอาทั้งสองไปขว้าง ท่านอับดุลลอฮ์กล่าวว่า ฉันได้เห็นชายนั้นคอยบังก้อนหินให้แก่หญิงนั้นด้วย บันทึกโดยอิหม่ามบุคคอรี ฮะดีษเลขที่ 3363 |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Sun Dec 05, 2004 3:03 am ชื่อกระทู้: |
|
|
นอกจากนั้น พระองค์อัลลอฮ์ยังได้กล่าวสำทับเรื่องราวของพวกเขาต่อไปอีกว่า
แท้จริงเราได้ให้อัตเตารอต ในนั้นมีทางนำ และรัศมี บรรดานบีผู้ซึ่งสวามิภักดิ์ก็ได้ใช้อัตเตารอตตัดสินแก่ชาวยะฮูด และบรรดาผู้ที่รู้ในเรื่องของพระเจ้าดี และบรรดานักปราชญ์ต่างก็ได้ใช้อัตเตารอตตัดสิน เนื่องด้วยที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้รักษามันไว้ จากคัมภีร์ของอัลลอฮ์ และพวกเขาก็เป็นพยานยืนยันในคัมภีร์นั้นด้วย ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 44
ท่านอิบนุญะรีร อัตตอบารี อธิบายว่า บรรดาผู้ที่รู้ในเรื่องของพระเจ้าดี และบรรดานักปราชญ์ หมายถึง บรรดาบาดหลวงที่พยายามเก็บรักษาความรู้ของพวกเขาที่ได้จากคัมภีร์ของอัลลอฮ์ ซึ่งก็คืออัตเตารอตนั่นเอง ตัฟซีรอัตตอบารีย์ เล่มที่ 4 หน้าที่ 251
จากตัวบทหลักฐานที่นำมาเสนอนี้ ทำให้เรามิอาจกล่าวได้ว่า คัมภีร์เตารอตถูกบิดเบือนไปหมดแล้ว แต่เราน่าจะกล่าวว่า คัมภีร์เตารอตบางส่วนถูกบิดเบือนไป และบางส่วนยังคงอยู่ ในขณะนั้น เหตุที่ต้องย้ำว่า ในขณะนั้น ก็เพราะเรามิอาจรับรองได้ว่า คัมภีร์อัตเตารอตจะยังคงมีอยู่โดยสมบูรณ์ในปัจจุบันหรือไม่ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 22/05/2004 ตอบ: 11
|
ตอบ: Sun Dec 05, 2004 7:43 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เกี่ยวกับการบิดเบือนเปลี่ยนแปลงคัมภีร์นั้น ต่างก็เห็นตรงกันว่า มีการเปลี่ยนแปลงบิดเบือนจากคัมภีร์เดิมแล้ว โดยที่ อ.ฟารีด ได้กล่าวถึงเพียงชาวยะฮูดีบางส่วนบิดเบือนคัมภีร์เตารอต มิใช่นะศอรอที่บิดเบือนคัมภีร์อินญีล และได้กล่าวอีกว่า ที่กล่าวมานี้ มิใช่ต้องการจะยกย่องคัมภีร์อินญีลให้เหนือกว่าอัลกุรอาน(หนังสือสถานภาพของยะฮูดี นัศรอนี และอะห์ลุลกิตาบ เล่ม 1 หน้า 3-31)
ขอเรียนถามดังนี้
1.คัมภีร์อินญีลในความหมายของ อ.ฟารีด ไม่มีการบิดเบือนเปลี่ยนแปลงเลยหรือคะ
2.พวกที่ยึดถือคัมภีร์ที่บิดเบือนแล้วนั้น ยังคงเป็นอะห์ลุลกิตาบอยู่หรือไม่คะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
วิทยากร อนุรักษ์มรดกอิสลาม


เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004 ตอบ: 158
|
ตอบ: Sun Dec 05, 2004 2:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอบคุณที่ติดตามผลงานทั้งในหนังสือและทางเวปไซต์
ยินดีตอบข้อสงสัยที่มีอยู่ในหนังสือสถานภาพฯ
ตามข้อความที่คุณ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร นำมาโพสต์นี้ เป็นข้อความที่ต่อเนื่องจากการอธิบายอัลกุรอาน ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 13 และ 41
พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า
يُحَرِّفُوْنَ الْكَلِمَ عَنْ مَوَاضِعِهِ
พวกเขาได้บิดเบือนถ้อยคำให้ออกจากที่ของมัน ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 13 และ 41
เท่าที่สำรวจดูในตัฟซีรหลายเล่ม ต่างก็อธิบายตรงกันว่า หมายถึงชาวยะฮูดี (บางส่วน) บิดเบือนถ้อยคำในคัมภีร์เตารอต มิใช่ชาวนะศอรอที่บิดเบือนคัมภีร์อินญีล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์อัลลอฮ์ได้กล่าวไว้ในต้นอายะห์ว่า مِنَ الَّذِيْنَ هَادُوا แปลว่า ส่วนหนึ่งจากบรรดาผู้ซึ่งเป็นยะฮูด ซึ่งเป็นข้อความที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี
ที่กล่าวมานี้มิใช่ต้องการจะยกย่องคัมภีร์อินญีลให้เหนือกว่า อัลกุรอาน แต่เมื่อเป็นประเด็นทางวิชาการ ก็ต้องละเอียดรอบคอบมิใช่หรือ ( สถานภาพของยะฮูดี นัศรอนี และอะห์ลุลกิตาบ เล่มที่ 1 หน้าที่ 30 และ 31 )
อัลกุรอานอายะห์นี้พูดถึงพฤติกรรมของยะฮูดีบางส่วนเท่านั้นครับ และการอ้างว่า นะศอรอบิดเบือนโดยอาศัยอัลกุรอานจากอายะห์นี้ด้วยนั้น เป็นการอ้างหลักฐานแบบตีคลุม แต่ก็มิได้หมายความว่า นะศอรอจะไม่บิดเบือนคัมภีร์ของพวกเขาเลย บิดเบือนแน่นอนครับ (แต่บางส่วนเท่านั้นมิใช่ทั้งหมด) เรื่องนี้นะศอรอก็ถากเถียงกันเอง (อ่านเล่มที่ 1 ในบทนำครับ) _________________
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วิทยากร เมื่อ Sun Dec 05, 2004 2:28 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
วิทยากร อนุรักษ์มรดกอิสลาม


เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004 ตอบ: 158
|
ตอบ: Sun Dec 05, 2004 2:24 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ส่วนคำถามที่ว่า พวกที่ยึดถือคัมภีร์ที่บิดเบือนแล้วนั้น ยังคงเป็นอะห์ลุลกิตาบอยู่หรือไม่
คำถามนี้น่าจะนำเสนอเป็นประเด็นเปรียบเทียบได้ หากท่านมีข้อมูลเปรียบเทียบอยู่แล้ว ก็เรืยนเชิญครับ คุณนพัฒน์ คุณ natee คุณ ali คุณสยด และสมาชิกท่านอื่นๆ
 _________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
addullslam มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Mon Dec 06, 2004 8:45 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอเสนอความคิดเห็นด้วยนะครับ ผิดถูกอย่างไรก็
นึกว่าเป็นการคุยกัน
เรื่องคัมภีร์ ของอัลลอฮฺ ที่ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข
หายไปสักหนึ่งอักษร หรือเพิ่มขึ้นมา ความหมาย
จะเปลี่ยนไปทันที เมื่อความหมายเปลี่ยนไป
สิ่งต่างๆก็จะเปลี่ยนไปด้วย
เมื่อมีการไม่ครบหรือแก้ไขคัมภีร์ ก็จะไม่ใช่
คัมภีร์ที่มาจาก อัลลอฮฺ เมื่อไม่ใช่คัมภีร์ที่มาจาก อัลลอฮฺ
แล้วฐานะของคนที่อยู่ในสมัยนี้จะเป็นเช่นใด
อันนี้เราหมายถึงภาพรวมของคำว่า คัมภีร์
ไม่ได้หมายถึงโองการใด โองการหนึ่ง
แต่เราก็มีสิ่งที่เป็นบรรทัดฐานว่าคัมภีร์ใดแก้ไขหรือไม่
คือ อัล กุรอาน
 |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Mon Dec 06, 2004 3:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เรื่องคัมภีร์เปลี่ยนหมดหรือยัง ผมไม่มีหน้าที่ตัดสินว่าใครถูกใครผิด แต่ผมเอาข้อมูลการนำเสนอของสองฝ่ายมาลงให้เห็นแล้ว ก็อยู่ในดุลยพินิจของท่านครับ
และขอปรึกษาเพื่อนสมาชิกด้วยว่า เราควรย้ายประเด็นได้หรือยัง ถ้าเพื่อนสมาชิกเห็นควรว่าย้าย ผมก็จะเริ่มประเด็นใหม่คือเรื่อง อะห์ลุ้ลกิตาบคือใคร ผมมีข้อมูลเปรียบเทียบพร้อมจะนำเสนอแล้วครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
สยดสยอง มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 30/11/2004 ตอบ: 9
|
ตอบ: Mon Dec 06, 2004 7:21 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ดิฉันว่าเรื่องอะห์ลุ้ลกิตาบคือใคร เป็นเรื่องที่ง่ายแก่การเข้าใจมากนะค่ะ ถ้าเราติดตาม
และค้นคว้าถึงคำพูดที่อัลลอฮ์เรียกหาไว้ในกุรอ่านหลายอายะห์ด้วยกันเราจะพบเช่น " โอ้อะห์
ลุ้ลกิตาบเอ๋ย จงอย่าได้ทำอย่างนั้นหรืออย่าได้ทำอย่างนี้ " ก็หมายความว่า ถึงแม้อัลลอฮ์
เรียกโดยใช้คำว่าอะห์ลุ้ลกิตาบก็ตาม แต่ว่าให้พวกเขากลับสู่สัจธรรมอันเที่ยงแท้อย่าได้บิด
เบือนคัมภีร์ที่อยู่ในมือของพวกเขา และถ้าคำเรียกร้องของอัลลอฮ์ถูกพวกเขาปฏิเสธ แน่
นอนพวกเขาก็จะไม่ถูกเรียกว่าอะห์ลุ้ลกิตาบ (ชาวคัมภีร์) แต่อย่างใด ตัวอย่างเช่นในกุรอ่าน
ซูเราะห์อั้ลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 17 มีใจความว่า "พวกบรรดาผู้ซึ่งกล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ์คือ อั้ล
ม่าเซียห์ลูกของมัรยัม การกล่าวอย่างนั้นถือว่าเป็นการปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์แล้ว" นั่นหมาย
ความว่าอัลลอฮ์ก็จะไม่รับรองการเป็นอะห์ลุ้ลกิตาบของพวกเขา
เช่นเดียวกันกับที่อัลลอฮ์เรียกคนที่อีหม่าน(ชาวมุสลิม) ไว้ในหลายอายะห์ว่า "โอ้ผู้ศรัทธา
(อีหม่าน)เอ๋ย จงเชื่อฟังคำสั่งที่มาจากอัลลอฮ์และร่อซู้ลเถิด" ก็หมายความว่า หากผู้ที่อีหม่าน
คนใดปฏิเสธศรัทธาหรือขัดขวางความเชื่อที่ถูกต้อง ดิฉันอยากเรียนถามว่า พวกเขายังเป็นผู้ที่
ศรัทธาตามที่อัลลอฮ์เรียกไว้ในอัลกุรอ่านหรือไม่
ดิฉันขอแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้ค่ะ แต่ถ้าผู้ใดมีความคิดเห็นแตกต่างจากดิฉัน
ก็โปรดแสดงความคิดเห็นได้เลยค่ะ ยินดีรับฟังเสมอค่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Mon Dec 06, 2004 8:55 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อะห์ลุลกิตาบคือใคร
ซะละฟียูน :
บันทึกจากการอภิปรายในงานซะลีฟูน วันที่ 23 ตุลาคม 47
อ.อามีน เหมเสริม สรุปคำบรรยายของ อ.อิสหาก ตกลงยะฮูดี นัศรอนี ก็คืออะห์ลุลกิตาบ และอะห์ลุ้ลกิตาบก็คือยะฮูดี นัศรอนี
บันทึกจากวิทยุอะกีดะห์ซะลัฟ รายการตัฟซีรอัลกุรอาน
อ.ฮะซัน ถ้าบอกว่า ยะฮูดี นัศรอนี ไม่มีแล้ว ต้องรอให้มันมาฆ่าก่อนหรือไง ฮึ ถึงจะยอมรับว่ามี
บันทึกจากวิทยุอะกีดะห์ซะลัฟ รายการนาทีนี้มีคำตอบ อ.อิสฮาก และจูมัด
อ. อิสฮาก อะห์ลุ้ลกิตาบไม่ใช่ใคร หมายถึงคนที่อีมานต่อนะบีมูซาหรือไม่ก็นะบีอีซา อาจจะหมายถึงคนที่อีมานต่อนะบีมูซาอย่างเดียวหรือนะบีอีซาอย่างเดียวก็ได้
จูมัด เฉพาะยะฮูดี กับนัศรอนี
อ. อิสฮาก ครับอันนี้เป็นที่ทราบกันดีและเป็นที่เอกฉันท์ด้วยซ้ำไป
จูมัด คือยะฮูดี นัศรอนี
อ. อิสฮาก ครับผม
มูลนิธิอนุรักษ์ :
บันทึกจากวิทยุสื่ออนุรักษ์ รายการถามมาซิจะตอบให้ อ.อะห์หมัด และ อ.ฟารีด
ยะฮูดี และ นัศรอนี ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นอะห์ลุลกิตาบ และส่วนหนึ่งไม่ใช่อะห์ลุลกิตาบ มีทั้งยะฮูดี นัศรอนีที่เคยเป็นอะห์ลุลกิตาบ หรือยะฮูดี นัศรอนี ที่สิ้นสภาพจากการเป็นอะห์ลุลกิตาบ
หลักฐานที่บอกว่ายะฮูดี นัศรอนี ส่วนหนึ่งเป็นอะห์ลุลกิตาบนั้น ผมได้นำเสนอแล้ว แต่หลักฐานที่บอกว่า ยะฮูดี นัศรอนี ทั้งหมดเป็นอะห์ลุลกิตาบ ผมยังไม่เห็น ถ้าใครมีหลักฐานก็ช่วยนำเสนอด้วย |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Mon Dec 06, 2004 8:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
การนำเสนอทางวิทยุของทั้งสองฝ่ายนี้ ดูเหมือนจะไม่ตรงกันคือ
ซะลาฟียูน นำเสนอฟังความได้ว่า ยะฮูดี นัศรอนี ทั้งหมดเป็นอะห์ลุ้ลกิตาบ
แต่ทางมูลนิธิอนุรักษ์ นำเสนอ ยืนยันว่า ยะฮูดี นัศรอนี บางส่วนเป็นอะห์ลุลกิตาบ บางส่วนไม่ใช่
เราคงต้องนำเอาหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำเสนอเป็นตัวหนังสือมาเปรียบเทียบให้เห็นกันต่อไป |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
นพัฒน์ มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 86
|
ตอบ: Tue Dec 07, 2004 1:29 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ต่อไปนี้คือข้อมูลจากหนังสือของทั้งสองฝ่าย มีเนื้อหายาวมาก แต่ผมจะจับเฉพาะประเด็นและทยอยนำเสนอเป็นระยะ
ซะละฟียูน :
อะห์ลุ้ลกิตาบคือยะฮูดและนะศอรอ เมื่อคำว่าอะห์ลุ้ลกิตาบหมายถึงยะฮูดและนะศอรอ เราคงตอบได้ทันทีว่าพวกเขายังคงมีอยู่ในปัจจุบัน และอาจจะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกยาวนานพร้อมกับความผิดเพี้ยนที่พวกเขามีอยู่ (หนังสืออะห์ลุ้ลกิตาบคือใคร อ.อิสฮาก เล่ม 1 หน้าสิบสี่)
มูลนิธิอนุรักษ์ :
บางท่านกล่าวว่า ยะฮูดี นัศรอนีทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่ในยุคใดหรือสมัยใดก็เป็นอะห์ลุลกิตาบด้วย ซึ่งการพิจารณาในประเด็นนี้ ดูจะไกลจากข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน เพราะคนที่เกิดจากยะฮูดี หรือนัศรอนีนั้น มิได้หมายความว่า พวกเขาจะถือศาสนาของชาวยะฮูดและนะศอรอ ตามพ่อแม่ของพวกเขาเสมอไป บางคนก็ประกาศตนไม่มีศาสนา หรือบางคนก็มีพ่อเป็นยะฮูดี แต่มีแม่เป็นพวกบูชาไฟ หรือบางคนก็มีแม่เป็นนัศรอนี แต่มีพ่อเป็นพวกบูชาไฟ อย่างนี้เป็นต้น
หรือในกรณีที่หญิงชาวคัมภีร์บางคนที่หลังจากแต่งงานกับชายมุสลิมแล้วได้โอนย้ายศาสนา และไม่เหลือสภาพของอะห์ลุลกิตาบหรือชาวคัมภีร์อยู่เลย โดยเธอย้ายไปอยู่ศาสนาอื่น อย่างนี้จะถือว่าเธอตกมุรตัด เหมือนอย่างที่มุสลิมที่ออกจากอิสลามหรือไม่ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่นักวิชาการได้วิพากษ์วิจารณ์
นอกจากบางคนจะประกาศตนไม่มีศาสนาแล้ว บางคนก็ยังไปเป็นหลวงพี่ หรือหลวงพ่อตามวัดก็มากมาย ซึ่งหากจะถือว่าพวกเขาคืออะห์ลุลกิตาบโดยการนับเชื้อสายเผ่าพันธุ์เช่นนี้ละก็ ที่กล่าวมาทั้งหมดก็ต้องถือว่าเป็นอะห์ลุลกิตาบด้วย แต่มิใช่เช่นนั้น... (หนังสือสถานภาพของยะฮูดี นัศรอนี และอะห์ลุลกิตาบ โดย อ.ฟารีด เล่มที่ 2 หน้า 14 และ 15) |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
รอยยา มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/02/2004 ตอบ: 78
|
ตอบ: Tue Dec 07, 2004 3:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณนพัฒน์เสนอได้ดีคะ ได้ความรู้มาก
ญะซากัลลอฮฺคอยร็อน |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
natee มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 108
|
ตอบ: Tue Dec 07, 2004 9:37 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
จากที่คุณ นพัฒน์ ได้โพสต์ไว้ ดังนี้
บันทึกจากวิทยุอะกีดะห์ซะลัฟ รายการตัฟซีรอัลกุรอาน
อ.ฮะซัน ถ้าบอกว่า ยะฮูดี นัศรอนี ไม่มีแล้ว ต้องรอให้มันมาฆ่าก่อนหรือไง ฮึ ถึงจะยอมรับว่ามี
ต้องขอเรียนว่า ข้อความข้างต้นไม่ใช่ฟัตวาของฮาซันในเรื่องนี้หรอกนะคะ แต่เป้าหมายของเขาคือ ต้องการจะฟิตนะห์ใครบางคนค่ะ ขออนุญาตยกมาให้ดูนิดนึงนะคะ (หากไม่เหมาะสมประการใด ขอให้ทาง webmaster โปรดลบออกไปได้เลยนะคะ)
และมีบางกลุ่มนะครับที่บอกว่า
พูดหนักไปกว่านั่นว่า ปัจจุบันเนี้ย ยะฮูดีหรือว่านัสรอนีหรือว่ายิวน่ะ ไม่มีแล้ว ท่านผู้ฟังที่เคารพทั้งหลาย การที่ไปฟัตวาแล้วบอกว่า ยิวปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว หรือยะฮูดีไม่มีแล้วนะครับ อันตรายมาก......... และก็มีบางท่านถามว่า ไอ้ใครที่มันบอกว่ายะฮูดีไม่มีน่ะ ไปถามมันซิว่า รอให้ไอ้พวกยะฮูดีมันฆ่ามุสลิมให้หมดโลกก่อนแล้วถึงจะรับว่ามียะฮูดีหรือไง |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|