ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
ชาริค มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/04/2007 ตอบ: 276
|
ตอบ: Thu Dec 01, 2011 10:42 am ชื่อกระทู้: อิสลามกับการโกนหัว |
|
|
حلق الرأس การโกนหัว
الذي يؤخذ من كلام العلماء رحمهم الله أن حلق الرأس ستة أنواع :
จากความเห็นของนักวิชาการนั้นการโกนหัวแบ่งออกเป็น 6 ประเภท
النوع الأول :( ส่งเสริมไห้โกน) ประเภทที่1
طاعة وقربة إلى الله تعالى يُثاب عليه الإنسان ، وهذا في أربعة مواضع فقط لا خامس لها وهي :
1-เพื่อแสดงตนว่าเป็นผู้ที่เชื่อฟังและต้องการความไกล้ชิดกับอัลลอฮ ประเภทนี้มี4 โอกาสเท่านั้น
1- الحج ในพิธีฮัจย์
2- العمرة ، قال تعالى : ( لقد صدق الله رسوله الرؤيا بالحق لتدخلن المسجد الحرام إن شاء الله آمنين محلقين رءوسكم ومقصرين ) الفتح/27
2- ในพิธีอุมเราะห์ อัลลอฮทรงตรัสว่า( โดยแน่นอนอัลลอฮ.ได้ทรงทำให้ความฝันนั้นสมจริงแก่ร่อซูลของพระองค์ด้วยความจริง แน่นอนพวกเจ้าจะได้เข้าสู่มัสยิดอัลฮะรอมอย่างปลอดภัยหากอัลลอฮ.ทรงประสงค์ (อินชาอัลลอฮ.) โดย (บางคน) โกนผมของพวกเจ้าและ (อีกบางคน) ตัดผม) (อัลฟัตฮ 27)
3- حلق رأس الصبي في اليوم السابع لولادته ، ودليل ذلك ما رواه الترمذي (1439) عن علي بن أبي طالب رضي الله عنه قال : عق رسول الله صلى الله عليه وسلم عن الحسن بشاة ، وقال : ( يا فاطمة احلقي رأسه وتصدقي بزنة شعره فضة ) حسنه الألباني في صحيح الترمذي (1226) ، وانظر : تحفة المودود لابن القيم (ص : 217)
3- โกนหัวเด็กเกิดไหม่ในวันที่7 ของการคลอด ท่านอาลีอิบนุอาบีตอลิบรายงานว่า( ท่านรอซู้ลได้ทำอากีเกาะห์ไห้ท่านฮาซันด้วยแกะหนึ่งตัว และบอกท่านหญิงฟาติมะห์ว่า จงโกนหัวไห้ฮาซันและไห้ทำการบริจาคแร่เงินเท่าน้ำหนักผมของเขา)
4- الكافر إذا أسلم ، لما رواه أبو داود (356) أن النبي صلى الله عليه وسلم أمر رجلاً كافراً أسلم بقوله : ( ألق عنك شعر الكفر واختتن ) حسنه الألباني في صحيح أبي داود ، وانظر : المغني 1/276 ، وشرح العمدة لشيخ الإسلام (1/350)
4- กาเฟรเมื่อเข้ารับอิสลาม เพราะท่านนบีเคยบอกกาเฟรคนหนึ่งเมื่อเข้ารับอิสลามว่า( จงโกนผมของการปฏิเสธออกและจงขลิบ)
واتفق العلماء رحمهم الله أنه لا يستحب حلق الرأس في غير هذه المواضع الأربعة ، انظر الاستقامة لشيخ الإسلام 1/256
นักวิชาการลงมติเอกฉันท์ว่า ไม่มีการส่งเสริมไห้โกนหัว นอกจาก4โอกาสดังกล่าวนี้เท่านั้น
النوع الثاني : ประเภทที่2(เป็นชิริก)
شرك ، ويكون حلق الرأس شركاً بالله عز وجل
โกนหัวเพื่อแสดงว่าเป็นการยอมรับสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ
وهو إذا حلق رأسه تذللاً لغير الله تعالى ، قال ابن القيم رحمه الله في زاد المعاد 4/159 : كما يحلفها المريدون لشيوخهم ، فيقول أحدهم : أنا حلقت رأسي لفلان ، وأنت حلقته لفلان ، وهذا بمنزلة أن يقول : سجدت لفلان ، فإن حلق الرأس خضوع وعبودية وذل ولهذا كان من تمام الحج ... فإنه وضع النواصي بين يدي ربها خضوعاً لعظمته وتذللاً لعزته وهو من أبلغ أنواع العبودية ولهذا كانت العرب إذا أرادت إذلال الأسير منهم وعتقه حلقوا رأسه وأطلقوه ... الخ كلامه رحمه الله .
คือคนๆหนึ่งโกนหัวของเขาเพื่อแสดงความต่ำต้อยของเขาต่อสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ ท่านอินุกอยยิมบอกว่า เหมือนกับพวกมุรีดูน(ตอรีกัต)แสดงต่อบรรดาผู้อาวุโสของพวกเขา โดยกล่าวว่า ฉันโกนหัวของฉันเพื่อคนนั้น หรือเจ้าจงโกนหัวของเจ้าเพื่อคนนั้นการพูดแบบนี้เหมือนพูดว่า ฉันสุญุดเพื่อคนนั้น เพื่อคนนี้ เพราะการโกนหัวนั้นเป็นการนอบน้อมเป็นการเคารพภักดีในความยิ่งไหญ่ของเขา และยอมต่ำต้อยด้วยความสูงส่งของเขา ดังเช่นมุสลิมจะโกนผมเมื่อเสร็จพิธีฮัจย์และ มุสลิมจะก้มกราบเพราะยอมรับในความยิ่งไหญ่และความสูงส่งของอัลลอฮดังกล่าวนี้จึงทำไห้การโกนหัวถือว่าเป็นประเภทหนึ่งของการทำอิบาดะห์ และการโกนผมนั้นคนอาหรับเมื่อต้องการจะปล่อยทาสพวกเขาจะโกนหัวทาสแล้วปล่อยไป
النوع الثالث :( เป็นอุตริกรรม) ประเภทที่สาม
بدعة مكروهة ، وله صور كثيرة : อุตริกรรมที่น่ารังเกียจ และมีหลายรูปแบบ
منها : حلق الرأس علي سبيل التعبد والتدين في غير المواضع الأربعة السابقة كما لو جُعِل حلق الرأس شعاراً للصالحين ، أو من تمام الزهد ، وهذا كما كانت الخوارج تفعل ، ولهذا ورد عن النبي صلى الله عليه وسلم في صفة الخوارج أنه قال : ( سيماهم التحليق ) البخاري (7007) ومسلم (1763) ، قال القرطبي : ( قوله : سيماهم التحليق ) أي جعل ذلك علامة لهم على رفضهم زينة الدنيا ، وشعاراً ليُعرفوا به ، وهذا منهم جهل ... وابتداع منهم في دين الله شيئاً كان النبي صلى الله عليه وسلم والخلفاء الراشدين وأتباعهم على خلافه ) ، وانظر شرح العمدة 1/231 ومجموع الفتاوى 21/118
ส่วนหนึ่งก็คือ โกนหัวเพื่อเป็นการการแสดงว่าเขาเป็นผู้เคร่งครัดในการทำอีบาดะห์และแสดงถึงความเคร่งครัดในศาสนา (โดยไม่ใช่1ใน4ประการที่กล่าวมาแล้ว) ดังเช่นหากถือเอาว่าการโกนหัวเป็นสัญลักษณ์ของคนดี หรือโกนหัวเมื่อเสร็จสิ้นการฝึกตนบำเพ็ญตะบะ(แบบกลุ่มดะห์วะห์) การกระทำดังกล่าวพวกคอวาริจชอบทำ มีรายงานจากท่านนบีพูดถึงลักษณะของพวกคอวาริจว่า( สัญลักษณ์ของพวกเขาคือการโกนหัว) ท่านกุรตูบี้ อธิบายว่า พวกเขาทำแบบนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาว่าไม่สนใจความเพลิดแพร้วของดุนยาและเพื่อแสดงตนว่านี่คือสัญลักษณ์ของคอวาริจ นี่คือการกระทำที่โง่เขลาของพวกเขา เพราะพวกเขาได้กระทำอุตริกรรมในศาสนาของอัลลอฮที่รอซู้ลและบรรดาคอลีฟะห์ไม่เคยทำ
ومنها : ما يفعله بعض الناس من أمر التائب أن يحلق رأسه ، وهذا بدعة ، لم يفعلها أحد من الصحابة والتابعين لهم بإحسان ولا أحد من أئمة المسلمين . مجموع الفتاوى 21/118
อีกอย่างหนึ่งก็คือบางคนใช้ไห้คนที่เตาบะห์ตัวโกนหัวของเขานั่นเป็นอุตริกรรมที่บรรดาซอฮาบะห์และตาบีอีนไม่เคยทำ
والنوع الرابع :ประเภทที่ 4 (ฮารอม)
محرم وله عدة صور สิ่งต้องห้าม(ฮารอม)มีหลายรูปแบบด้วยกัน
1- حلق الشعر عند المصيبة بموت قريب ونحوه ، فعن أبي موسى الأشعري رضي الله عنه قال : ( إن رسول الله صلى الله عليه وسلم بريء من الصالقة والحالقة والشاقة ) رواه مسلم (149) ، والحالقة هي التي تحلق شعرها عند المصيبة ، والصالقة التي ترفع صوتها بالويل والثبور ونحوه ، والشاقة التي تشق ثيابها . وذكر ابن حجر رحمه الله في ( الزواجر عن اقتراف الكبائر ) الكبيرة السابعة عشرة بعد المائة : حلق الشعر عن المصيبة ، قال : لأن ذلك يشعر إشعاراً ظاهراً بالسخط ، وعدم الرضا بالقضاء . اهـ
1- โกนหัวเมื่อประสบกับสิ่งไม่ดีคือเมื่อมีญาติหรือคนที่รักเสียชีวิต จากท่านอบูมูซาอัลอัชอารีท่านบีบอกว่า ท่านรอซู้ลนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกที่ส่งเสียงดังโวยวายเมื่อเกิดหายนะ และพวกที่โกนหัวเมื่อประสบกับความทุกข์และพวกที่ชอบฉีกเสื้อผ้า ท่านอิบนุฮะยัรบอกและอธิบายว่าคนที่โกนหัวเมื่อเกิดความทุกข์นั้นเป็นบาปไหญ่และเป็นการแสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและไม่ยอมรับในการกำหนดของอัลลอฮ
2- حلق الرأس على سبيل التشبه بالكفار أو الفساق الذين اشتهروا بحلق رؤوسهم ، وربما جعل عليه زيتاً معيناً ليظهر مثلهم ، أو خففه جداً من الجانبين وجعله طويلاً في الوسط ، فهذا كله تشبه محرم ، وميوعة وانحلال ، نسأل الله السلامة والعافية ، وقد قال النبي صلى الله عليه وسلم : ( من تشبه بقوم فهو منهم ) رواه أبو داود (4031) وصححه الألباني في صحيح أبي داود (3401) ، قال الفاري رحمه الله : أي من شبه نفسه بالكفار أو بالفساق أو الفجار ( فهو منهم ) أي : في الإثم اهـ
2- โกนหัวเพื่อเลียนแบบกาเฟรและบรรดาฟาสิคซึ่งพวกเขาเป็นที่รูจักของคนทั่วไปด้วยการโกนหัวหรือบางทีก็เพื่อใส่น้ำมันบางชนิดเพื่อไห้เหมือนพวกเขาหรือบางทีอาจจะตัดผมข้างไห้สั้นมากๆและปล่อยตรงกลางศรีษะไว้ยาวๆดังกล่าวนั้นเป็นเลียนแบบที่ต้องห้าม ท่านนบีกล่าวว่า ใครเลียนแบบใครเขาก็เป็นพวกนั้น(คือใครเลียนแบบกาเฟรหรือคนชั่วเขาก็เป็นพวกนั้น
النوع الخامس : ประเภทที่ 5 (อนุญาติ)
مباح وهو أن يحلق رأسه لحاجة ، مثل أن يحلقه للتداوي من مرض ، أو لدفع أذى القمل ونحو ذلك ، قال شيخ الإسلام رحمه الله : فهذا جائز بالكتاب والسنة والإجماع . اهـ مجموع الفتاوى 12/117
อนุญาติไห้ทำได้คือการโกนหัวเพราะจำเป็นเช่นโกนเพื่อใส่ยารักษาหรือป้องกันเหา
النوع السادس : ประเภทที่6 (อยากโกน)
أن يحلق رأسه من غير حاجة ولا سبب من الأسباب المتقدمة .
โกนหัวโดยไม่มึความจำเป็นหรือไม่มีสาเหตุดังที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
فهذا مما اختلف العلماء في حكمه ، فذهب بعضهم إلى كراهته وهو مالك رحمه الله ، واستدلوا بأنه من علامة أهل البدع وهم الخوارج كما سبق في الحديث ، وقد قال النبي صلى الله عليه وسلم : ( من تشبه بقوم فهو منهم ) ถ้าแบบนี้นักวิชาการมีความเห็นขัดแย้งกันบ้าง บางคนบอกว่าเป็นมักโรฮเช่นอีหม่ามมาลิกโดยยกหลักฐานว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของพวกอุตริชนคือพวกคอวาริจดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
واستدل من أباحه بما رواه أبو داود (4192) أن النبي صلى الله عليه وسلم أتى آل جعفر بن أبي طالب رضي الله عنه ، بعد موت جعفر بثلاث ، ودعى بالحلاق فأمره أن يحلق رؤوس بنيه . صححه الألباني في صحيح أبي داود (3532)
นักวิชาการที่บอกว่าทำได้ก็ยกหลักฐานจากฮาดิษของอบูดาวูดว่าท่านนบีไปเยี่ยมครอบครัวของยะฟัรหลังจากเขาตายได้สามวันและได้เรียกช่างตัดผมมาและท่านใช้ไห้โกนหัวลูกชายเขา
بما رواه أبو داود (4195) أن النبي صلى الله عليه وسلم رأي طفلاً قد حُلِق بعض رأسه ، وتُرِك بعضه فقال : ( احلقوه كله أو اتركه كله ) صححه الألباني في صحيح أبي داود (3535) ، قال النووي رحمه الله : وهذا صريح في إباحة حلق الرأس لا يحتمل تأويلاً . اهـ شرح مسلم ، ولكن الاستدلال بهذين الحديثين على إباحة حلق الرأس بدون حاجة فيه نظر :
มีรายงานจากท่านอบูดาวูดว่าท่านนบีได้เห็นเด็กคนหนึ่งโกนหัวบางส่วนไม่โกนบางส่วน ท่านนบีบอกว่าถ้าโกนก็โกนไห้หมดถ้าไม่โกนก็ไม่ต้องโกนเลย ท่านนาวาวีบอกว่าฮะดิษนี้ชี้ชัดว่าอนุญาติไห้โกนหัวได้โดยไม่มีความจำเป็นการจะกระทำตามฮะดิษสองบทนี้ที่อนุญาติไห้โกนหัวโดยไม่มีความจำเป็นนั้นต้องพิจรณาว่า
أولاً : لأن حلق الرأس هنا لحاجة ، فيكون مباحاً ، والحاجة أن الصبيان أكثر عرضة من غيرهم للإصابة بالقمل لكثرة رطوبتهم والأوساخ التي تتعلق بهم . زاد المعاد 4/159
1-การโกนหัวนั้นจะอนุญาติไห้โกนได้เมื่อจำเป็น และความจำเป็นก็คือเด็กๆส่วนมากจะเป็นเหาเพราะผมเปียกชื้นและสกปรก
ثانياً : أن هذا في حق الصبي الصغير ، والصبي يرخص له ما لا يُرخص للكبير . حاشية السندي على النسائي ، وانظر مجموع الفتاوى (21/119) وشرح العمدة (1/230)
2- การโกนหัวนั้นเป็นสิทธิของเด็กๆและเด็กๆนั้นจะถูกยกเว้นในสิ่งที่ผู้ไหญ่ไม่ถูกยกเว้น
وهذا الخلاف في هذا القسم الخامس إنما هو : هل يكره حلق الرأس أم يباح ؟ أم الأفضل فالأفضل هو عدم حلقه ، قال الفاوي رحمه الله : الأفضل أن لا يحلق إلا في أحد النسكين ( يعني : الحج والعمرة ) كما كان عليه صلى الله والسلام مع أصحابه رضي الله عنهم . اهـ من عون المعبود (11/248) ، والله
และดังกล่าวคือการมีความเห็นแย้งกันในประเภทที่5 ว่าการโกนหัวจะเป็นมักโรฮหรือเป็นที่อนุญาติทางที่ดีที่สุดคืออย่าโกนหัวดีกว่า ท่านฟาวีกล่าวว่า ดีที่สุดคืออย่าโกนหัวนอกจากในพิธีฮัจย์และอุมเราะห์เท่านั้นเหมือนกับที่ท่านนบีและบรรดาซอฮาบะห์ได้ทำมา
الله أعلم |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nawawee มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2012 ตอบ: 6
|
ตอบ: Fri Jan 13, 2012 11:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมขอเสริมในฐานะสมาชิกสักหน่อยนะครับ ถ้าเราโกนหัวแต่เราไม่ได้คิดว่าเป็น อิบาดะ และ กุรบะห์ แต่เพื่อว่าเป็นการนาซอฟะ คือรักษาความสะอาดก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของการศัทธา เพราะท่านนบี ไม่ได้บอกเอาไว้ว่าห้ามรักษาความสะอาดด้วยการโกนหัว |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|