ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 1:08 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เล่าจากอะนัส(ร.ด.)กล่าวว่า"ท่านรอซูลคงอ่านดุอาอ์กูนูตอยู่เป็นประจำในละหมาดซุบฮิ จนกระทั่งจากโลกนี้ไป"รายงานโดย อัดดารุกุตนี อับดุรรอดซากและฮากิม
ป.ล เอามาจากหนังสืออาหรับแปลไทยชื่อ"อัตตาจญฯ"(ฮาดิษซอเฮียะฮ์)แปลโดยอ.อรุณ บุญชม
ว่ากันยังงัยครับ ฮาดิษตัวนี้ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 1:17 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | เล่าจากอะนัส(ร.ด.)กล่าวว่า"ท่านรอซูลคงอ่านดุอาอ์กูนูตอยู่เป็นประจำในละหมาดซุบฮิ จนกระทั่งจากโลกนี้ไป"รายงานโดย อัดดารุกุตนี อับดุรรอดซากและฮากิม
ป.ล เอามาจากหนังสืออาหรับแปลไทยชื่อ"อัตตาจญฯ"(ฮาดิษซอเฮียะฮ์)แปลโดยอ.อรุณ บุญชม
ว่ากันยังงัยครับ ฮาดิษตัวนี้ |
ไม่ต้องว่าอย่างไรหรอกคับ
เพราะหะดีษ บทนี้ที่ยกมาเป็นหะดีษ ที่อยู่ในสถานะ ฎออีฟคับ
ไม่สามารถเอามาเป็นหลักฐานได้
وأما ما ورد أن النبي صلى الله عليه وسلم داوم على القنوت في الفجر فليس بثابت عند أهل العلم ، والحديث الوارد في ذلك وهو عن أنس رضي الله عنه قال ما زال رسول الله صلى الله عليه وسلم يقنت في الفجر حتى فارق الدنيا ) فهو حديث ضعيف لا تقوم به الحجة . انظر السلسلة الضعيفة 3/384-388
และสำหรับสิ่งที่มีรายงานว่าท่านนบี อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร เป็นประจำ นั้น ไม่เป็นที่ยืนยันจากผู้ทรงความรู้ และหะดิษที่รายงานในเรื่องดังกล่าว คือ รายงานจากอะนัส(ร.ฎ)กล่าวว่า "รซูลุ้ลลอฮ อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร(ศุบฮิ)จนกระทั่งได้จากโลกนี้ไป) มันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้ - ดูอัสสิลสิละฮ อัฎเฎาะอีฟะฮ 3/384-388 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 1:23 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หนังสือหะดีษ "อัตตาจญ์" นั้นมีทั้งหะดีษเศาะหี้หฺ,หะสัน และหะดีษเฎาะอีฟปะปนกัน ฉะนั้นหากจะอ่านหนังสือเล่มดังกล่าวก็ต้องพิจารณาหะดีษด้วยนะครับ.
والله أعلم |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 2:00 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เอาอะไรเป็นเกณต์มาวัดเหรอครับ หรือเอาแต่ทัศนะอุลามะอ์ที่คุณชื่นชอบ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 4:02 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ชาวอะลุสซุนนะห์ใช้การตรวจสอบหะดีษเป็นหลักคับ
แล้วเมื่อได้ตรวจสอบหะดีษบทนี้แล้วว่าเป็นหะดีษ ฎออีฟคับ
แม้กระทั่ง บรรดา ญุมฮูรรุลอุลามะห์(ปวงปาชญ์) ได้บอกไว้ว่าหะดีษที่ท่านนบี
กุนูตในเวลา ซุบฮิ เป็นหะดีษฎออีฟ
และที่ถูกต้อง เพราะมีหะดีษ ศอเฮีย ว่า
รายงานยืนยันจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث
ข้าพเจ้าได้กล่าวแก่บิดาของข้าพเจ้าว่า "โอ้บิดาของฉัน แท้จริงท่านเคยละหมาดตามหลังท่านรซูลุ้ลลอฮ ,อบูบักร,อุมัร,อุษมานและ อาลี ขออัลลอฮโปรดประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา ,พวกเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญริ(ละหมาดศุบฮิ )หรือเปล่าครับ? เขาจึงตอบว่า "โอ้ลูกของพ่อ มันคือ สิ่งที่ถูกประดิษขึ้นใหม่"- รายงานโดยนักรายงานห้าท่านยกเว้น อบูดาวูด(อัลบานีย์ระบุในอัล-อิรวาอ์ หะดิษหมายเลข 435 ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ ) และแท้จริงทางนำที่ดี คือ ทางนำของท่านนบีมุหัมหมัด
ในเมื่อมีหะดีษที่ ศอเฮียอยู่ น้อง f1 จะยังคงสงสัยไหม ว่า ท่านนบี ทำอย่างไร
อ้างคำพูดบัง asan บังเขาตอบว่า การกุนูตจำกัดเฉพาะละหมาดศุบฮิ ข้อนี้ เถียงกันมาหลายร้อยปีแล้ว บ้างก็ว่าสุนัต บ้างก็ว่าบิดอะฮ ทั้งนี้เพราะมีหะดิษระบุไว้ แต่เป็นหะดิษเฎาะอีฟ
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 4:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ที่สำคัญ ท่านนบี และบรรดาคอลีฟะห์ คือ อบูบักร อุมัร อุสมาน อาลี ไม่ได้เจาะจง กุนูตในเวลา ซุบฮิ เป็นการเฉพาะ ในเมื่อน้องบอกว่าจะตามกิตาบุ้ลลอฮและซุนนะห์และ อจมาอ์(ของบรรดาศอฮาบะห์) และอบูบักร อุมัร อุสมาน และ อาลี ทั้งหมดเป็นศอฮาบะห์ของท่านนบีคับ
หวังว่าน้องคงจำคำพูดของตัวเองได้
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 4:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | เอาอะไรเป็นเกณต์มาวัดเหรอครับ หรือเอาแต่ทัศนะอุลามะอ์ที่คุณชื่นชอบ |
ขอเรียนให้น้องเอฟ 1 ทราบว่า การที่เรานับถือศาสนา โดยมีเป้าสูงสุดในชีวิต คือ ความโปรดปรานจากอัลลอฮ ในโลกนี้และโลกหน้า เราไม่ได้นับถือศาสนาเพื่อตามอารมณ์ตนเอง หรือ อารมณ์ของความหลากหลายของคนในดุนยา หรือ เพื่อพวกฟ้องและมัซฮับ เพราะฉะนั้น การแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮ นั้น เราต้องพยายามแสวงหาแนวทางที่จะทำให้ใกล้ชิดต่อพระองค์ นั้น คือ การปฏิบัติตามสิ่งใดก็ตามที่เป็นสุนนะฮของท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
قُلْ إِنْ كُنْتُمْ تُحِبُّونَ اللَّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللَّهُ وَيَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَحِيمٌ
จงประกาศเถิด(โอ้มุหัมหมัด) ว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮ จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮก็จะรักพวกท่านและอภัยความผิดของพวกท่าน ให้แก่พวกท่าน และอัลลอฮ คือ ผู้ทรงอภัยและเมตตายิ่ง อาลิอิมรอน/31
ท่านอิบนุกะษีร อธิบายว่า
هَذِهِ الْآيَةُ الْكَرِيمَةُ حَاكِمَةٌ عَلَى كُلِّ مَنِ ادَّعَى مَحَبَّةَ اللَّهِ ، وَلَيْسَ هُوَ عَلَى الطَّرِيقَةِ الْمُحَمَّدِيَّةِ فَإِنَّهُ كَاذِبٌ فِي دَعْوَاهُ فِي نَفْسِ الْأَمْرِ ، حَتَّى يَتَّبِعَ الشَّرْعَ الْمُحَمَّدِيَّ وَالدِّينَ النَّبَوِيَّ فِي جَمِيعِ أَقْوَالِهِ وَأَحْوَالِهِ ، كَمَا ثَبَتَ فِي الصَّحِيحِ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهُ قَالَ : " مَنْ عَمِلَ عَمَلًا لَيْسَ عَلَيْهِ أَمْرُنَا فَهُوَ رَدٌّ
อายะฮอันทรงเกียรตินี้ คือ ผู้ตัดสิน (เอาผิด)บน ทุกๆคน ที่อ้างว่ารักอัลลอฮ โดยที่เขาไม่ได้อยู่บนแนวทางของมุหัมหมัด ,ในความเป็นจริง เขาคือ ผู้กล่าวเท็จในการอ้างของเขา จนกว่า เขาจะเจริญรอยตามบัญญัติแห่งมุหัมหมัด และศาสนาแห่งนบี ในบรรดาคำพูดและการกระทำของเขาทั้งหมด ดังหะดิษที่ยืนยันไว้ในอัศเศาะเฮียะ จากท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ผู้ใดประกอบการงาน(อะมั้ลอิบาดะฉ)ใด ที่ไม่ใช่กิจการของเราบนมัน มันถูกปฏิเสธ
- ดู ตัฟสีรอิบนุกะษีร เล่ม 2 หน้า 33
عَنِ ابْنِ جُرَيْجٍ قَوْلَهُ : " إِنْ كُنْتُمْ تُحِبُّونَ اللَّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللَّهُ ، قَالَ : كَانَ قَوْمٌ يَزْعُمُونَ أَنَّهُمْ يُحِبُّونَ اللَّهَ ، يَقُولُونَ : إِنَّا نَحْبُ رَبَّنَا ! فَأَمَرَهُمُ اللَّهُ أَنْ يَتْبَعُوا مُحَمَّدًا - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - ، وَجَعَلَ اتِّبَاعَ مُحَمَّدٍ عَلَمًا لِحُبِّهِ .
จากอิบนุญุรัยญฺ เกี่ยวกับคำตรัสที่ว่า จงประกาศเถิด(โอ้มุหัมหมัด) ว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮ จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮก็จะรักพวกท่าน เขาได้กล่าวว่า คนกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า พวกเขารักอัลลอฮ โดยกล่าวว่า พวกเรารักพระเจ้าของเรา ดังนั้นอัลลอฮจึงสั่งให้พวกเขาปฏิบัติตามมุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และให้การปฏิบัติตามมุหัมหมัด เป็นเครื่องหมายพิสูจน์ว่า รักพระองค์ ดู ตัฟสีร อัฏฏอ็บรีย์ เล่ม 6 หน้า 322
...........
จากตัวอย่างข้างต้น เราพยายามที่จะแสวงหาสัจธรรม โดยใช้บรรดาผู้รู้ทั้งยุคก่อนและยุคหลัง เป็นสะพานเชื่อมไปปสู่เป้าคือ ทางนำของอัลลอฮและรอซูล แต่ถ้าเรา ยังยึดติดอยู่กับ คนนั้น คนนี้ มัซฮับนั้น มัซฮับนี้ โดยไม่เปิดให้สติปัญญาได้ตริตรอง เราจะพ บแก่นของศาสนาได้อย่างไร
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 6:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ล่าจากอะนัส(ร.ด.)กล่าวว่า"ท่านรอซูลคงอ่านดุอาอ์กู นูตอยู่เป็นประจำในละหมาดซุบฮิ จนกระทั่งจากโลกนี้ไป"รายงานโดย อัดดารุกุตนี อับดุรรอดซากและฮากิม
ถามบังอะสันและkolisว่าฮาดิษตัวนี้เข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาดหรือปล่าว _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 7:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | ล่าจากอะนัส(ร.ด.)กล่าวว่า"ท่านรอซูลคงอ่านดุอาอ์กู นูตอยู่เป็นประจำในละหมาดซุบฮิ จนกระทั่งจากโลกนี้ไป"รายงานโดย อัดดารุกุตนี อับดุรรอดซากและฮากิม
ถามบังอะสันและkolisว่าฮาดิษตัวนี้เข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาดหรือปล่าว |
บัง asan ตอบไว้ชัดเจนอยู่แล้วคับ
ในเมื่อมีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว จะมีการอิจญติฮาดอีกได้อย่างไร
กฏนิติศาสตร์อิสลามระบุว่า
لا اجتهاد مع النص
ไม่มีการอิจญติฮาด พร้อมกับตัวบทที่เป็นหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว
เพราะมีหะดีษ ที่ ศอเฮีย อยู่แล้วว่า
รายงานยืนยันจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث
ข้าพเจ้าได้กล่าวแก่บิดาของข้าพเจ้าว่า "โอ้บิดาของฉัน แท้จริงท่านเคยละหมาดตามหลังท่านรซูลุ้ลลอฮ ,อบูบักร,อุมัร,อุษมานและ อาลี ขออัลลอฮโปรดประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา ,พวกเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญริ(ละหมาดศุบฮิ )หรือเปล่าครับ? เขาจึงตอบว่า "โอ้ลูกของพ่อ มันคือ สิ่งที่ถูกประดิษขึ้นใหม่"- รายงานโดยนักรายงานห้าท่านยกเว้น อบูดาวูด(อัลบานีย์ระบุในอัล-อิรวาอ์ หะดิษหมายเลข 435 ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ ) และแท้จริงทางนำที่ดี คือ ทางนำของท่านนบีมุหัมหมัด
...............................................................................................................................................
สรุปคือ ประเด่น การกุนูตใน เวลาซุบฮิ ไม่ใช้ประเด่นที่ต้องอิจญติฮาด เพราะมีหลักฐานที่ตรงตัวอยู่แล้ว หรือว่าน้อง f1 จะบอกว่าต้องอิจญติฮาดอีกเหรอคับ
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 7:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | ล่าจากอะนัส(ร.ด.)กล่าวว่า"ท่านรอซูลคงอ่านดุอาอ์กู นูตอยู่เป็นประจำในละหมาดซุบฮิ จนกระทั่งจากโลกนี้ไป"รายงานโดย อัดดารุกุตนี อับดุรรอดซากและฮากิม
ถามบังอะสันและkolisว่าฮาดิษตัวนี้เข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาดหรือปล่าว |
ในประเด็นนี้ จะเรียกว่า มีการอิจญติฮาด ก็ได้ แต่ เมื่อมีหะดิษเศาะเฮียะชัดเจนอยู่แล้ว แต่กลับพยายามไปทุ่มเทความพยายามในหะดิษเฎาะอีฟ การวินิจฉัย ไม่สามารถทำให้หะดิษเฏาะอีฟกลายเป็นหะดิษเศาะเฮียะได้หรอกครับ อัลลอฮประทานสติปัญญา(อักลุ) ก็เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการเลือกอย่างฉลาด แล้วระหว่างหะดิษเศาะเฮียะ กับหะดิษที่มีปัญหา
และหาความแน่นอนหรือหาข้อยุติไม่ได้ เราจะเลือกอันไหน
ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
دع ما يريبك إلى ما يريبك
จงทิ้งสิ่งที่ไม่แน่ใจ ไปสู่สิ่งที่แน่ใจ
การอิจญติฮาด(การวินิจฉัยอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ได้มาซึ่งหุกุม)นั้น มีการผิดพลาด และ ถูกต้อง
อิหม่ามอิบนุกุดามะฮ(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) กล่าวว่า
والحق في قول واحد من المجتهدين ومن عداه مخطئ، سواء كان في فروع الدين أو أصوله
และความถูกต้องนั้น อยู่ในคำพูดของคนหนึ่งคนใดจากบรรดามุจญตะฮิดและผู้ที่อยู่นอกเหนือจากเขานั้น เป็นผู้ที่ผิดพลาด ไม่ว่า ในเรื่องข้อปลีกย่อยของศาสนาหรือรากฐานของศาสนาก็ตาม เราเฎาะตุลนาซีร หน้า 19 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 11:08 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัลฮำดุลิลลาอ์
บังอะสันยอมแล้วนะครับว่าเข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาด งั้นดูหลักฐานจากอีกทัศนะเกี่ยวกับฮาดิษตัวนี้
6- รายงานท่านอะนัส บิน มาลิก เขากล่าวว่า
ما زال رسول الله صلى الله عليه وسلم يقنت في الفجر حتى فارق الدنيا
ความว่า" ท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.)ยังคงอ่านกุนูตในละหมาดซุบหฺจนกระทั้งท่านได้จาก โลกนี้ไป"
รายงานหะดิษนี้ โดยอิมามอะหฺมัด ไว้ในมุสนัด เล่ม 3 หน้า 162 ดู หนังสือ อัลฟัตหฺ อัรร๊อบบานีย์ เล่ม 3 หน้า 302 , และได้รายงานโดยท่าน อัลบัรซฺาซ โดยที่ อัลหาฟิซฺ อัลฮัยษะมีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มัจญฺมะอฺ อัซซะวาอิด เล่ม 2 หน้า 139 ว่า บรรดานักรายงานหะดิษนี้ เชื่อถือได้ ,และท่านอัลบัยฮะกีย์ ได้รายงานไว้ในหนังสือ อัสสุนัน อัลก๊อบรอ ของท่าน เล่ม 2 หน้า 102 และทำการถ่ายทอดการซอเฮี๊ยะหฺของท่านอัลหากิม และท่านอัลบัยฮะกีย์ก็ยอมรับในการยืนยันถึงความซอเฮี๊ยะห์ ,และท่านอัรดารุกุตนีย์ ได้รายงานไว้ใน หนังสือสุนัน ของท่าน เล่ม 2 หน้า 39 ,และท่านอับดุล อัรร๊อซซาก ได้รายงานในหนังสือ อัลมุซันนัฟ ของท่าน เล่ม 3 หน้า 110 ,และอิบนุ อบี ชัยบะฮฺ กล่าวไว้ใน หนังสือ อัลมุซันนัฟ เล่ม 2 หน้า 312 ,และท่านอัลบุฆอวีย์ ได้รายงานในหนังสือ ชัรหฺ อัสสุนนะฮฺ เล่มที่ 3 หน้า 124 ,ท่านอิมาม อันนะวาวีย์ (ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ ใน หนังสือ อัลมัจญฺมั๊วะ ว่า หะดิษนี้ เป็นหะดิษที่ซอเฮี๊ยะหฺ ซึ่งได้รายงานโดยนักหะดิษกลุ่มหนึ่ง และพวกเขาถือว่าเป็นหะดิษซอเฮี๊ยะหฺ และส่วนหนึ่งจากผู้ระบุถึงความซอเฮี๊ยะหฺของหะดิษนี้นั้น อาธิเช่น อัลหาฟิซฺ อบู อับดิลลาฮฺ มุหัมมัด บิน อลี อัลบัลคีย์ ,ท่านอัลหากิม ,ท่านอัลบัยฮะกีย์ และได้รายงานโดยท่าน อัดดารุกุตนีย์ จากหลายสายรายงานซึ่งเป็นสายรายงานที่ซอเฮี๊ยะหฺ " ดู อัลมัจญฺมั๊วะ เล่ม 3 หน้า 504
7- ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัสสุนัน อัลก๊อบรอ ของท่าน ว่า
عن العوام بن حمزة قال : سألت أبا عثمان عن القنوت فى الصبح بعد الركوع قلت : عمن ؟ قال عن أبى بكر وعمر وعثمان رضى الله عنه
ความว่า " รายงานจาก อัลเอาวาม บิน หัมซะฮฺ ซึ่งได้กล่าวว่า ฉันได้ถามอบูอุษมาน เกี่ยวกับเรื่องกุนูตในละหมาดซุบหฺ หลังจากร่อกั๊วะ ฉันกล่าวว่า จากใครหรือ ? เขากล่าวว่า จากอบูบักร , อุมัร และอุษมาน " ท่านอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า หะดิษนี้ หะซัน ดู อัสสุนัน อัลก๊อบรอ เล่ม 2 หน้า 202
8- ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัสสุนัน อัลก๊อบรอ ของท่านอีก ว่า
وعن عبد الله بن معقل قال : قنت على رضى الله عنه فى الفجروهذا عن على صحيح مشهور
ความว่า "และรายงานจาก อับดุลเลาะฮฺ บิน มะอฺกิล ซึ่งได้กล่าวว่า ท่านอลี(ร.ฏ.) ได้ทำการอ่านกุนูตในละหมาดซุบหฺ และ(ท่านบัยฮะกีย์กล่าวว่า) หะดิษนี้ ได้รายงานจากท่านอลีนั้น ซอเฮี๊ยะหฺ เป็นที่เลื่องลือ " ดู อัสสุนัน อัลก๊อบรอ เล่มที่ 2 หน้าที่ 204
9 - وعن أنس بن مالك أن رسول الله صلى الله علبه وسلم قنت حتى مات وأبو بكر حتى مات وعمر حتى مات رواه البزار ورجاله موثقون
" รายงานจากท่านอะนัส บิน มาลิก ว่า แท้จริง ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ทำการอ่านกุนูต จนกระทั่งเสียชีวิต และท่านอบูบักร(อ่านกุนูต) จนกระทั่งเสียชีวิต และท่านอุมัร(อ่านกุนูต) จนกระทั้งเสียชีวิต " รายงานโดย ท่านอัลบัซฺซฺาร โดยที่บรรดานักรายงานนั้น เป็นที่น่าเชื่อถือได้ (ดู มัจญฺมะอฺ อัซซะวาอิด ของท่าน นูรุดดีน อัลฮัยษะมีย์ เล่ม 2 หน้า 139 ) _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 11:12 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อีกกลุ่มบอกว่าซอเฮียะอ์ แล้วจะว่ากันยังงัยต่อล่ะครับเกี่ยวกับฮาดิษตัวนี้ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Jan 14, 2011 2:57 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | อีกกลุ่มบอกว่าซอเฮียะอ์ แล้วจะว่ากันยังงัยต่อล่ะครับเกี่ยวกับฮาดิษตัวนี้ |
ความจริงหะดิษข้างต้น เราได้วิจารณ์ไปแล้ว ไม่ว่า จะเป็น อ. มุรีด ,อ.ปราโมทย์ , นักวิชาการเว็บอิกเราะฮ และผมในเว็บอัสสุนนะฮ ว่าหะดิษบทนี้เฎาะอีฟ แต่..ความมีทิฐิ เลยไม่ยอมรับ
หะดิษที่รายงานจากท่านอะนัส ขัดแย้งกันเอง บ้างก็ว่า ท่านนบี ศอลฯ อ่านกุนูต เพียงเดือนเดียว บ้างก็บอกว่า อ่านเฉพาะมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น บ้างก็บอกว่า อ่านตลอด หะดิษแบบนี้เขาไม่เอามาเป็นหลักฐานหรอกครับ
عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَنَتَ شَهْرًا يَدْعُو عَلَى قَاتِلِي أَصْحَابِهِ بِبِئْرِ مَعُونَةَ ، ثُمَّ تَرَكَ ، فَأَمَّا الصُّبْحُ فَلَمْ يَزَلْ يَقْنُتُ حَتَّى فَارَقَ الدُّنْيَا . وَأَوَّلُ الْحَدِيثِ فِي الصَّحِيحَيْنِ ، وَلَوْ صَحَّ هَذَا لَكَانَ قَاطِعًا لِلنَّزِاعِ وَلَكِنَّهُ مِنْ طَرِيقِ أَبِي جَعْفَرٍ الرَّازِيِّ ، قَالَ فِيهِ عَبْدُ اللَّهِ بْنُ أَحْمَدَ : لَيْسَ بِالْقَوِيِّ : وَقَالَ عَلِيُّ بْنُ الْمَدِينِيِّ : يَخْلِطُ ، وَقَالَ أَبُو زُرْعَةَ : يَهِمُ كَثِيرًا ، وَقَالَ عَمْرُو بْنُ عَلِيٍّ الْفَلَّاسُ : صَدُوقٌ سَيِّئُ الْحِفْظِ ، وَقَالَ ابْنُ مَعِينٍ : ثِقَةٌ لَكِنَّهُ يُخْطِئُ ، وَقَالَ الدَّوْرِيُّ : ثِقَةٌ لَكِنَّهُ يَغْلَطُ وَحَكَى السَّاجِيُّ أَنَّهُ قَالَ : صَدُوقٌ لَيْسَ بِالْمُتْقِنِ ، وَقَدْ وَثَّقَهُ غَيْرُ وَاحِدٍ ، وَلِحَدِيثِهِ هَذَا شَاهِدٌ وَلَكِنَّ فِي إِسْنَادِهِ عَمْرَو بْنَ عُبَيْدٍ وَلَيْسَ بِحُجَّةٍ . قَالَ الْحَافِظُ : وَيُعَكِّرُ عَلَى هَذَا مَا رَوَاهُ الْخَطِيبُ مِنْ طَرِيقِ قَيْسِ بْنِ الرَّبِيعِ عَنْ عَاصِمِ بْنِ سُلَيْمَانَ ، قُلْنَا لِأَنَسٍ : إِنَّ قَوْمًا يَزْعُمُونَ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَزَلْ يَقْنُتُ فِي الْفَجْرِ ، قَالَ : كَذَبُوا إِنَّمَا قَنَتَ شَهْرًا وَاحِدًا يَدْعُو عَلَى حَيٍّ مِنْ أَحْيَاءِ الْمُشْرِكِينَ ، وَقِيسٌ وَإِنْ كَانَ ضَعِيفًا لَكِنَّهُ لَمْ يُتَّهَمْ بِكَذِبٍ . وَرَوَى ابْنُ خُزَيْمَةَ فِي صَحِيحِهِ مِنْ طَرِيقِ سَعِيدٍ عَنْ قَتَادَةَ عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَقْنُتْ إِلَّا إِذَا دَعَا لِقَوْمٍ أَوْ دَعَا فَاخْتَلَفَتِ الْأَحَادِيثُ عَنْ أَنَسٍ وَاضْطَرَبَتْ فَلَا يَقُومُ لِمِثْلِ هَذَا حُجَّةٌ ، انْتَهَى
รายงานจากอะนัส ว่า แท้จริง นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อ่านกุนูตหนึ่งเดือน ดุอาสาปแช่งบรรดาผู้ที่สังหารบรรดาสาวกของท่านที่บ่อมะอูนะฮ ต่อมาท่านก็ได้ละทิ้ง สำหรับละหมาดศุบฮินั้น ท่านคงอ่านต่อไปจนกระทั้งจากโลกนี้
และในตอนแรกของหะดิษ ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม และถ้าหากหะดิษนี้เศาะเฮียะ ก็ตัดปัญหาการขัดแย้งไปได้ แต่...มันเป็นหะดิษจากสายรายงานของ อบียะอฺฟัร อัรรอซีย์ ท่านอับดุลลอฮ บิน อะหมัด กล่าวว่า ในตัวเขาผู้นี้ หลักฐานไม่แข็งแรง . อาลี บิน อัลมะดีนีย์ กล่าวว่า เขาสบสน และ อบูซะรออะฮ ล่าวว่า เขาผิดพลาดเป็นอย่างมาก และ อัมรุน บิน อาลี อัลฟัลลาส กล่าวว่า เขาเชื่อถือได้ แต่ความจำแย่มากๆ ,อิบนุมุอีน กล่าวว่า เขาเชื่อถือได้ แต่ ผิดพลาด และอัดเดารีย์ กล่าวว่า เชื่อถือได้ แต่ เขาผิดพลาด และอัสสาฮีย์ เล่าว่า แท้จริงเขา(อบียะอฺฟัร) เชื่อถือได้ แต่ขาดความประณีต และแท้จริงมีหลายคน ระมัดระวังสิ่งที่เขารายงาน และหะดิษของเขา บทนี้ มี หะดิษ(บทอื่นสนับสนุน) แต่ ในสายรายมีผู้รายงานชื่อ อัมริน บิน อุบัยดิ เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้ และอัลหาฟิซ กล่าวว่า และสิ่งที่ทำให้ดิษบทนี้ดำมืดเข้าไปอีก คือ หะดิษที่รายงานโดย อัลเคาะฏีบ จากสายรายงานของ กัยส์ บิน อัรรอเบียะ จาก อาศิม บิน สุลัยมาน มีใจความ
ว่า พวกเรา กล่าวแก่ท่านอะนัสว่า คนกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดฟัจญรฺ (ละหมาดซุบฮิ) ท่านอะนัสกล่าวว่า พวกเขาโกหก ความจริง ท่านอ่านกุนูต เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น โดยดุอาสาปแช่งกลุ่มชนหนึ่ง จากกลุ่มชนมุชริกีน และ (ผู้รายงานที่ชื่อว่า) กัยสฺ แม้เขาจะเป็นผู้ที่หลักฐานอ่อน แต่ ไม่เคยได้รับการตำหนิว่าเป็นคนโกหก และมีรายงานจาก อิบนุคุซัยมะฮ ในเศาะเฮียะของท่าน จากสายรายงาน สะอีด จากกอตาดะฮ จาก อะนัส ว่า แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะไม่อ่านกุนูต นอกจากเพื่อดุอาให้แก่กลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่ง หรือ ดุอา(สาปแช่ง กลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่งเท่านั้น, ดังนั้น บรรดาหะดิษที่รายงานจากอะนัส ขัดแย้งกันเอง และมีความสับสน หะดิษลักษณะนี้เอามาเป็นหลักฐานอ้างอิงไม่ได้ ดู ตุหฟะตุลอะหวะซีย์ ชัรหุอัตติรมิซีย์ บทว่าด้วย การอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร หน้า 362
................
เราได้วิจารณ์หะดิษเหล่านี้ไปหลายครั้งและครบถ้วนแล้ว แต่..ถ้าเอาน้ำทะเลมาเป็นน้ำหมึก อธิบายให้กลุ่มคนที่เขายังยึดติดกับมัซฮับอย่างลืมหูลืมตา มันก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด มีแต่ผลเสียคือ ฟิตนะฮ ที่ขายหน้าคนต่างศาสนาที่เข้ามาอ่านแค่นั้นเอง
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Fri Jan 14, 2011 3:38 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แสดงว่าบังอะสันไม่ยอมรับในทัศนะจากอีกกลุ่ม แต่เชื่อในทัศนะของนักวิชาการอีกกลุ่มที่บังได้เอ่ยชื่อมา แสดงว่าบังก็ยังยึดติดกับอีกกลุ่ม แล้วแบบนี้ไม่เรียกว่ายึดติดมัรซับหรือครับ มีอะไรมาเป็นข้อพิสูจร์หรือครับว่ากลุ่มไหนเก่งกว่า หรือกลุ่มไหนไม่ตามท่านนบี _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Jan 14, 2011 4:37 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | แสดงว่าบังอะสันไม่ยอมรับในทัศนะจากอีกกลุ่ม แต่เชื่อในทัศนะของนักวิชาการอีกกลุ่มที่บังได้เอ่ยชื่อมา แสดงว่าบังก็ยังยึดติดกับอีกกลุ่ม แล้วแบบนี้ไม่เรียกว่ายึดติดมัรซับหรือครับ มีอะไรมาเป็นข้อพิสูจร์หรือครับว่ากลุ่มไหนเก่งกว่า หรือกลุ่มไหนไม่ตามท่านนบี |
............
ผมไม่ได้ยึกติดกับกลุ่ม แต่จะดูที่หลักฐานที่ชัดเจน เพราะผมต้องการสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด และชัดเจนที่สุด เพราะต้องการแก่น แท้ของศาสนามาปฏิบัติ ส่วนนักวิชาการ ที่เขาอุทิศตนเพื่ออิสลาม เขาเก่งทุกคน แต่ ความเป็นมนุษย์ ความผิดพลาด อาจจะเกิดขึ้นได้ทุคน นักวิชาการที่เขาอุทิศตนเพื่อแสวงหาความจริง เขาจะไม่แข่งขันว่าใครเก่งกว่าใคร ผมรักและชื่นชมในอิหม่ามทั้งสี่ ไม่ว่าจะเป็น อิหม่ามอบูหะนีฟะฮ ,มาลิก, ชาฟิอี และอะหมัด เพราะท่านเหล่านี้มีคุณต่ออุมมะฮอิสลาม
ท่านทั้งหมดสอนให้เรายึดมั่นในกิตาบุลลอฮและสุนนะฮ
ดังที่ท่านอัสสะนะดีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) กล่าวว่า
وهذا الشافعي نهى أصحابه عن تقليده، ويوصيهم بترك قوله، إذا جاء الحديث بخلافه
และนี้คือ ชาฟิอี ท่านได้ห้ามบรรดาสหายของท่าน จากการตักลิด(เชื่อตาม)ท่าน และสั่งเสียพวกเขาให้ทิ้งคำพูดของท่าน เมื่อ ปรากฏหะดิษที่ขัดแย้งกับคำพูดของท่าน
-;تحفة الأنام في العمل بحديث النبي عليه السلام&(ص62). _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|