ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เขาว่าอุละมาซุนนะลอกการบ้านชีอะฮ์มา มุตอะกับมิสยาร นะ
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เขาว่าอุละมาซุนนะลอกการบ้านชีอะฮ์มา มุตอะกับมิสยาร นะ
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 27, 28, 29  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Wed Oct 07, 2009 10:19 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณ Israya ครับ

ผมไม่ได้ถามว่า อิหม่ามของคุณจะเรียกใตรว่าเป็นมุอ์มินอย่างไร

แต่ผมถามเรื่องการที่ อิหม่ามของคุณห้ามการนิกาฮ์ มุตอะฮ์

ลองทวนใหม่อีกทีละกัน

อาจารย์อะสันได้ยกหลักฐานจากตำราของชีอะฮ์ว่า

ما رواه أحمد بن محمد بن أبي الحسن عن بعض أصحابنا يرفعه إلى أبي عبد الله (ع) قال: لا تتمتع بالمؤمنة فتذلها

สิ่งที่รายงานโดยอะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน อบีอัลหะซัน จากบางส่วนของสหายของเรา เขาได้อ้างมันว่า อบีอับดุลลอฮ (อ)กล่าวว่า " ท่านอย่านิกะหมุตอะฮ กับหญิงผู้ศรัทธา เพราะท่านจะทำให้นางต่ำต้อย - ดู ตะซีบุลอะหกาม เล่ม 7 หน้า 253 หมายเลข 1089 หะดิษที่ 14 (1)
---------
(1)تهذيب الأحكام ج7ص 253 رقم 1089 حديث 14 - باب في تفصيل أحكام النكاح

และคุณ Israya ได้ตอบว่า

บรรดาชีอะทุกคนจะพัฒนาตัวเองให้เป็นมุมิน หรือมุมินะ ตามนัยยะนี้ จะไม่ทำทั้งบาปเล็กบาปใหญ่ เพื่อจะได้เป็นผู้ศรัทธาจริงๆ ไม่ใช่ศรัทธาเท่าแต่ลมปาก ก็ส่วนมากหญิงที่รับการมุตอะเพื่อการเสพสุขกับชีอะ ก็มักจะมาจากสังคมซุนนีนั่นเอง ซึ่งถือว่า พวกนางอยู่ในเกณฑ์มุสลิมต้นๆ ยังไม่เข้าเกณฑ์มุมินะ ตามมาตรฐานของชีอะที ไงละครับ ก็เท่านั้นเอง

นั่นแสดงว่า ชีอะฮ์ยอมรับว่ามีข้อห้ามเรื่องมุตอะฮ์จากอิหม่ามของพวกท่านจริง
แต่หญิงที่จะทำมุตอะฮ์ด้วยต้องไม่ใช่ มุอ์มินะห์ หมายถึงหญิงที่ไม่ได้เป็นชีอะฮ์
แต่ถ้าเป็นหญิงที่เป็นชีอะฮ์ก็ถือว่าเป็นข้อห้าม


ผมเข้าใจถูกไหม


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AntiRafidah
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009
ตอบ: 120


ตอบตอบ: Wed Oct 07, 2009 11:06 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

israya บันทึก:
ถ้าคุณมีประสบการณ์กับตำราและคำสอนของบรรดาอิมามอะฮลุลบัยต นะครับ จะเห็นได้ว่า พวกท่าน

จะพิถีพิถันมากในการจะเรียกคนมุสลิมทั่วไปว่ามุมิน เพราะหลักการในอัลกุรอาน ก็พิถีพิถัน ดังมี

ในซูเราะฮ อัลฮุญุรอต อายะ14. อาหรับชาวชนบทกล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า

พวกท่านยังมิได้ศรัทธา แต่จงกล่าวเถิดว่า เราเข้ารับอิสลามแล้ว เพราะการศรัทธายังมิได้เข้าสู่

หัวใจของพวกท่าน

นี่คือ นิยามคำว่า มุมินะ ของอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ ซึ่งเปนไปตามมาตรฐาน

กุรอาน




จริงเหรอครับ ที่ความเชื่อของรอฟิเฏาะชีอะห์ตรงกับนิยามของอิมามแห่งอะลุ้ลบัยต์
และแน่ใจหรือที่คำสอนของพวกคุณสอดคล้องกับมาตรฐานของอัลกุรอ่าน?


อัลลอฮฺตรัสว่า บรรดาที่ได้อพยพ และให้ความช่วยเหลือเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริง




Thai: [8:74] และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และอพยพ และต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ และบรรดาผู้ที่ให้ที่พักอาศัย และความช่วยเหลือนั้น ชนเหล่านี้แหละ พวกเขาคือผู้ศรัทธาโดยแท้จริง ซึ่งพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษ และเครื่องยังชีพอันมากมาย


แต่คำสอนของพวกคุณกลับบอกว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นกาเฟรตกมุรตัดเฉย?
ไม่ครับ อย่างนี้พวกคุณไม่สอดคล้องกับอัลกุรอานเลย
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
สับสน
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 03/09/2009
ตอบ: 13


ตอบตอบ: Wed Oct 07, 2009 11:59 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เมื่อพูดถึงการมุตอะของพวกชีอะแล้ว ทำให้ลำบากใจกับโองการที่ว่า

24. ซูเราะฮฺ อันนูรฺ (An-Nur)


32. และจงให้พวกเจ้าแต่งงานกับผู้เป็นโสดในหมู่พวกเจ้า (*1*) และกับคนดี ๆ (*2*) จากปวงบ่าวผู้ชายของพวกเจ้า และบ่าวผู้หญิงของพวกเจ้า หากพวกเขายากจน อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นจากความโปรดปรานของพระองค์ (*3*) และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงไพบูลย์ ผู้ทรงรอบรู้


(1) คือจงให้ผู้ที่ไม่มีภรรยาหรือสามี แต่งงานกับผู้ที่เป็นโสดในหมู่พวกเจ้าที่เป็นชายอิสระหรือหญิงอิสระ
(2) หมายถึง ผู้ที่ตักวาและมีความยำเกรงอัลลอฮ์ ในการนี้เป็นการชี้บ่งถึงตำแหน่งของผู้ที่มีความตักวา
(3) เป็นการแสดงให้เห็นว่า ความโปรดปรานของพระองค์นั้นจะทำให้เขาพอเพียง


เพราะชายชีอะสนองตันหาตัวเองจนไม่เหลือคนโสดให้เห็นแล้ว
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 8:17 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อย่างไรก็ตาม คำโต้ตอบทั้งหมดที่ผ่านมาแล้ว พวกคุณทำเสแสร้ง แกล้งเฉไฉหมกการพูดคุยอยู่

กับประเด็นการทำมุตอะอย่างเดียว ทั้ๆที่หัวข้อกระทู้ ตั้งขึ้นมาถามว่า อุละมา

ของพวกคุณ อนุญาตให้คนมุสลิมสมสู่นอกระบบแบบมิสยารได้อย่างไร ไม่ใช่ลอก

การบ้านจากชีอะที่เขาทำมุตอะไปดัดแปลงหรือ


เพราะจนกระทั่งบัดนี้ พวกคุณเองก็ยังมองว่า การทำมุตอะ เป็นสิ่งฮะรามอยู่ ฉะนั้น ขนาดการทำ

มุตอะ ซึ่งยังคงพอมีหลักฐานให้อ้างอิงอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยในตำราของพวกคุณ แต่

พวกคุณก็ตัดสินว่า ฮะรอมเสียแล้ว แล้วพวกคุณจะว่าอย่างไรกับมิสยาร หลัการสมสู่แผนใหม่ ที่อุ

ละมาของพวกคุณอุตริคิดค้นขึ้นมา

เพราะเราก็ยอมรับว่า มุตอะได้เป็นสิ่งต้องห้ามจริง สำหรับในสมัยคอลีฟะฮ์อุมัร ซึ่งกฏเกณฑ์

ของพวกคุณนั้น ต้องถือคำสั่งของคอลีฟะฮ์เทียบเท่ากับคำสั่งของท่านนบี จึงต้องเชื่อถือยืนตามคำ

สั่งห้ามของคอลิฟะฮ์อุมัรด้วยอันนี้เราเข้าใจ ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดคำถามจากชีอะ ไปยังพวกคุณ

คำถามจากฝ่ายชีอะที่โจษขานกันในเวลานี้ก็คือ เขาเห็นว่า หลักวินิจฉัย

ของอุละมาซุนนะ ค้านกับจุดยืนของตนเอง ค้านกับคำสั่งคอลีฟะฮ์อุมัร และค้านกับคำพูดทุกถ้อย

คำของพวกคุณเองที่ประณามการทำมุตอะมาโดยตลอด พวกคุณไม่เคยเห็นด้วยกับการทำมุตอะ

มีแต่คัดค้านและบอกเสมอว่า ฮะราม แต่มาบัดนี้พวกคุณเล่นมิสยาร นี่หมายความอย่างไร ?

ตรงนี้ต่างหากที่ทำให้พวกชีอะมองว่า อุละมาซุนนี ลอกการบ้าน เรื่องมุตอะจากชีอะ

เพราะหลักฐานจากกุรอานฮะดีษไม่มีแม้แต่นิดเดียว ที่สนับสนุนการทำมิสยาร ที่อนุญาตให้ชาย

จ่ายมะฮัรหนเดียว แล้วสมสู่กับนางได้ตลอดไป ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด และไม่มีนัฟเกาะ

(ค่าเลี้ยงดู)


พวกคุณถูกจับเปนข้อหาจำเลย แต่ก็ยังให้การภาคเสธวกวน ว่าสงสัย ไม่แน่ใจ กับบรรดาอิมา

มแห่งอะฮลุลบัยตว่าอนุญาตให้ทำมุตอะหรือไม่ อิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ อนุญาตหรือไม่ นั่นเป็น

หน้าที่ที่ชีอะต้องให้คำตอบ แต่ที่คุณต้องตอบชีอะบ้าง ณ ปัจจุบันนี้ ก็คือ ข้อหาเล่นมิสยาร ขนาดมุต

อะ ที่ยังพอมีหลักฐานบ้างนิดๆหน่อยๆ ในตำราพวกุณ แต่พวกคุณก็ตัดสินว่าหลักฐานนั้นโมฆะ

ต้องยึดหลักฐานที่ห้าม ฮะรอม เป็นหลัก

แล้วถามว่า การเล่นมิสยารละ พวกคุณตัดสินว่า ไง ไม่ต้องเอาความรู้สึกตัวเองตอบ ?

ส่วนประเด็นมีหลักฐานที่ทำให้สงสัยว่า มุตอะเป็นสิ่งต้องห้ามหรือฮะรอมนั้น ผมก็ตอบไปแล้ว ว่า

การมุตอะ เป็นหลักการที่อนุญาตให้สำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ในยาม

ตกอยู่ในสภวะที่จำเป็นเท่านั้น คนที่ไม่จำเป็นต้องทำมุตอะ แล้วเรื่องอะไรต้องไปทำ แต่สมมติ

ว่า ถ้าทำล่ะ ก็ไม่ได้ผิดหลักศาสนา พวกคุณไม่เข้าใจข้อแตกต่างระหว่างความหมายของคำว่า

อนุญาต(ญะยูซ) กับคำว่า วาญิบ ต่างหาก

พวกคุณถามแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงคนกาเฟรที่ชอบถามเสมอว่า จริงหรือที่คนมุสลิม ต้องมีเมีย

๔ คน บางคนก็เหน็บแนมว่า แหมดีจังเลยนะพวก ศาสนาของคุณให้มีเมียได้ตั้ง ๔ คน

ความเห็นส่วนตัวของอิมามบางท่านที่ห้ามคนสนิท หรือลูกหลานบางคนของท่าน ไม่ให้ทำมุตอะ ก็

เหมือนกับที่ท่านนบีห้ามลูกหานของท่านกินกะเทียมงั้นแหละ ตัวท่านเองก็ไม่กิน อาหารหลาย

อย่างที่พวกท่านไม่กิน แต่ท่านไม่ได้บอกว่า ศาสนาห้าม เช่น กะปิ ปลาร้า ผักดอง ฯลฯ

หมายเหตุจงตอบเรื่องเล่นมิสยาร มาโดยดี
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 10:27 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[8:74] และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และอพยพ และต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ และบรรดาผู้ที่ให้ที่พักอาศัย และความช่วยเหลือนั้น ชนเหล่านี้แหละ พวกเขาคือผู้ศรัทธาโดยแท้จริง ซึ่งพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษ และเครื่องยังชีพอันมากมาย

แต่คำสอนของพวกคุณกลับบอกว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นกาเฟรตกมุรตัดเฉย?
ไม่ครับ อย่างนี้พวกคุณไม่สอดคล้องกับอัลกุรอานเลย

เมื่อพูดถึงการมุตอะของพวกชีอะแล้ว ทำให้ลำบากใจกับโองการที่ว่า

24. ซูเราะฮฺ อันนูรฺ (An-Nur)

32. และจงให้พวกเจ้าแต่งงานกับผู้เป็นโสดในหมู่พวกเจ้า (*1*) และกับคนดี ๆ (*2*) จากปวงบ่าวผู้ชายของพวกเจ้า และบ่าวผู้หญิงของพวกเจ้า หากพวกเขายากจน อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นจากความโปรดปรานของพระองค์ (*3*) และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงไพบูลย์ ผู้ทรงรอบรู้


ทั้งแอนตี้(รอฟิเฎาะฮ์) ทั้งสับสน

เอาให้แน่ จะเบี่ยงประเด็น ไปคุยเรื่องความหมายอายะกุรอานกับผมใช่ไหม ก็ไม่เกี่ยงนะ ได้และพร้อมทกประเด็น

แต่ให้ถามพวกของคุณก่อนเถอะว่า แน่ใจดีแล้วหรือว่าจะ ไม่ปิดประตูการสนทนา เหมือนเมื่อวาน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 10:40 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณ Israya กล่าวว่า

การมุตอะ เป็นหลักการที่อนุญาตให้สำหรับคนกลุ่มหนึ่งในยามตกอยู่ในสภาวะที่จำเป็นเท่านั้น

คำว่าจะเป็นของคุณนั้นหมาย ฏ่อรูเราะฮ์ ใช่ไหม

แสดงว่าคนที่ไม่ตกอยู่ในภาวะจำเป็น (ฏ่อรูเราะฮ์) ฮะรอมที่จะทำมุตอะฮ์

ผมเข้าใจถูกไหม


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AntiRafidah
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009
ตอบ: 120


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 10:45 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

israya บันทึก:

[8:74] และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และอพยพ และต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ และบรรดาผู้ที่ให้ที่พักอาศัย และความช่วยเหลือนั้น ชนเหล่านี้แหละ พวกเขาคือผู้ศรัทธาโดยแท้จริง ซึ่งพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษ และเครื่องยังชีพอันมากมาย

แต่คำสอนของพวกคุณกลับบอกว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นกาเฟรตกมุรตัดเฉย?
ไม่ครับ อย่างนี้พวกคุณไม่สอดคล้องกับอัลกุรอานเลย

เมื่อพูดถึงการมุตอะของพวกชีอะแล้ว ทำให้ลำบากใจกับโองการที่ว่า

24. ซูเราะฮฺ อันนูรฺ (An-Nur)

32. และจงให้พวกเจ้าแต่งงานกับผู้เป็นโสดในหมู่พวกเจ้า (*1*) และกับคนดี ๆ (*2*) จากปวงบ่าวผู้ชายของพวกเจ้า และบ่าวผู้หญิงของพวกเจ้า หากพวกเขายากจน อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นจากความโปรดปรานของพระองค์ (*3*) และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงไพบูลย์ ผู้ทรงรอบรู้


ทั้งแอนตี้(รอฟิเฎาะฮ์) ทั้งสับสน

เอาให้แน่ จะเบี่ยงประเด็น ไปคุยเรื่องความหมายอายะกุรอานกับผมใช่ไหม ก็ไม่เกี่ยงนะ ได้และพร้อมทกประเด็น

แต่ให้ถามพวกของคุณก่อนเถอะว่า แน่ใจดีแล้วหรือว่าจะ ไม่ปิดประตูการสนทนา เหมือนเมื่อวาน




อ้าว! แล้วรอฟิเฏาะตัวไหนที่มันมั่วไปเรื่องอื่นก่อนครับ ก็เห็นคุณแวะข้างทางลงไปนั่งคุยเรื่องมุมิน(ที่ปั้มน้ำมัน)
ผมก็แวะตามคุณเลี้ยวรถไปนั่งคุยกับคุณเรื่องมุมินที่ปั้มบ้าง ตามที่คุณเริ่มขึ้นมาก่อน นี่ไงหลักฐาน





israya บันทึก:

ถ้าคุณมีประสบการณ์กับตำราและคำสอนของบรรดาอิมามอะฮลุลบัยต นะครับ จะเห็นได้ว่า พวกท่าน

จะพิถีพิถันมากในการจะเรียกคนมุสลิมทั่วไปว่ามุมิน เพราะหลักการในอัลกุรอาน ก็พิถีพิถัน ดังมี

ในซูเราะฮ อัลฮุญุรอต อายะ14. อาหรับชาวชนบทกล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า

พวกท่านยังมิได้ศรัทธา แต่จงกล่าวเถิดว่า เราเข้ารับอิสลามแล้ว เพราะการศรัทธายังมิได้เข้าสู่

หัวใจของพวกท่าน

นี่คือ นิยามคำว่า มุมินะ ของอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ ซึ่งเปนไปตามมาตรฐาน

กุรอาน





อ้าวเฮ้ย รอฟิเฏาะตัวนี้ ขนาดคุยกันอยู่แท้ๆ ตัวเองเขียนเองยังจำไม่ได้เลย มาหาว่าพวกเราเบี่ยงประเด็นเฉย?

เต็มรึเปล่าเนี่ย ก็เอาสิครับ จะมาตั้งประเด็นเรื่องชาวอพยพ และบรรดาผู้ให้ความช่วยเหลือนั้น เป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงหรือเปล่าก็ได้เลย เอาซี่?

ใจเย็นๆ ครับ ตอบอะไรไม่ได้ ก็อย่าเครียด อย่างอแง
Laughing Laughing Laughing
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AntiRafidah
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009
ตอบ: 120


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 11:02 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

israya บันทึก:

อย่างไรก็ตาม คำโต้ตอบทั้งหมดที่ผ่านมาแล้ว พวกคุณทำเสแสร้ง แกล้งเฉไฉหมกการพูดคุยอยู่

กับประเด็นการทำมุตอะอย่างเดียว ทั้ๆที่หัวข้อกระทู้ ตั้งขึ้นมาถามว่า อุละมา

ของพวกคุณ อนุญาตให้คนมุสลิมสมสู่นอกระบบแบบมิสยารได้อย่างไร ไม่ใช่ลอก

การบ้านจากชีอะที่เขาทำมุตอะไปดัดแปลงหรือ




มุตอะกับมิสยาส มันต่างกันนะคู้ณณณ อย่าพยายามลากเราให้โสมมเเบบคุณเลย

อาจารย์อะสันก็อธิบายหลักของมิสยาสไปแล้ว แต่คุณอ่านไม่เข้าใจเอง แล้วบอกว่าเหมือนกัน

แล้วต่างกันก็คือ มิสยาส ไม่ใช่ว่ามุสลิมอย่างเราทุกคนจะเห็นด้วย ดังอาจารย์อะสัน
ก็แสดงทัศนะไปแล้ว ว่าไม่เห็นด้วย ตัวผมเองอ่านแล้วก็สรุปว่าไม่เห็นด้วย


แต่มุตอะของพวกคุณ รอฟิเฏาะชีอะห์ 12 อิมามทุกคนนั้นเห็นด้วยว่าไม่หะรอมไม่ใช่หรือ?


ใช่มั้ย?.....
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 11:53 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แม้คุณ Israya จะพยายามแถไถลไปเรื่อยๆ แต่ผมก็จับประเด็นได้ดังนี้

1 – มุตอะฮ์ มีข้อห้ามจากอิหม่ามของพวกท่านเอง ถูกระบุด้วยสายรายงาน และในตำราของชีอะฮ์เอง

2 – อิหม่ามห้ามที่จะทำมุตอะฮ์กับหญิงผู้ศรัทธา

3 – แม้มุตอะฮ์จะอนุญาตให้กระทำได้เฉพาะหญิงที่ไม่ศรัทธา แต่ก็มีเงื่อนไขว่า ต้องอยู่ในสภาวะจำเป็น (ฏ่อรูเราะฮ์) เท่านั้น


เหล่านี้คือสิ่งที่ผมได้รับจากคำของคุณ Israya ถ้าคุณจะงอแงว่า ผมพูดไม่ถูกต้อง ผมก็ยินดีที่จะเอาข้อความที่คุณโพ้สในกระทู้นี้แหละมายืนยัน

ผมบอกอะไรให้อย่างหนึ่ง

คุณ มักจะลืมคำพูดของตัวเอง

ลองหัดพูดความจริงดูบ้างซิ เพราะจะพูดอีกเมื่อไหร่ กี่วัน,กี่เดือน,กี่ปี ก็เหมือนกัน เพราะมันคือความจริง


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 12:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

งั้นเห็นทีจะต้องขอหลักฐานจากกุรอาน หรือฮะดีษ หรือจากอิจมาอ์อุละมา

เกี่ยวกับมิสยารออกมาให้ปรากฏหน้าจอนี้ได้แล้วละครับ


[size=18]ความจริงหลักฐานการทำมุตอะนั้น สำหรับชีอะ ก็คือ หลักฐานในอัลกุรอาน และฮะดีษ และบรรดา

อิมาม และฟัตวาจากบรรดามัรญีอ์ของชีอะเพียงแต่พวกคุณหักล้างด้วยการยึดถือความรู้สึกของ

พวกคุณเองประการหนึ่ง และหลักฐานคัดค้านจากตำราของพวกคุณเองประการหนึ่ง และหลัก

ฐานการให้ถือเป็นข้อแม้สำหรับบุคคลบางประเภทจากบรรดาอิมาม(อ)อีกประการหนึ่ง ซึ่งผมก็

อธิบายไปแล้วว่า หลักการมุตอะ ไม่ใช่เป็นสิ่งวาญิบ แต่เป็นเพียงเรื่องหนึ่งที่อนุญาตให้ทำได้

เท่านั้น ส่วนกรณีที่ใครไม่ยอมทำ หรือไม่อยากทำ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง พวกคุณก็ทำไม่เข้าใจ เส

แสร้ง หรือโง่จริงๆผมก็คาดเดายาก

อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย ขนาดอายะกุรอาน ๑๗/๒๔ ฟิอ์ลุลอัมร์ กิริยาคำสั่ง

จากอัลลอฮ์ สั่งแก่ท่านนบีว่า กุล อยู่โทนโท่ มาตั้งแต่วันนบีรับวะห์ยู ว่าอัลลอฮ์สั่งให้นบีกล่าว พวก

คุณยังค้านยังกะว่า ราวกับว่าอายะนั้นไม่ใช่วะห์ยูที่อัลลอฮสั่งให้ท่านนบีกล่าว กลับไปให้น้ำหนัก

(ตัรญีฮ์)แบบผิดหลักวิชาการให้ แก่ริวายะฮ์จากอะบูฮุร็อยเราะที่ว่าพ่อแม่นบีตกนรก โดยอ้างอิบ

นุกะษีร มาสนับสนุน พอผมชี้แจงว่า ทัศนะในเรื่องนี้ของอิบนุกะษีร เป็นทัศนะที่ผิดพลาด เพราะ

ไปยึดเอาฮะดีษที่ว่า พ่อแม่นบีไปสอบตก ตอบคำถามในวันกิยามะฮ์ผิด เท่านั้นแหละ พวกคุรก็

ปิดกระทู้ แถมลบข้อความที่ผมชี้แจง โดยอ้างเหตุผลว่า กลัวความแตกแยกในซุนนีด้วยกันเอง

ที่จริงไม่ใช่ พวกคุณไมได้กลัวความแตกแยกอะไรหรอก ที่กลัวก็คือ กลัวผู้อ่านจะเห็นความ

บกพร่องในวิชาการของพวกคุณเท่านั้นเอง

แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องมุตอะ ??

ลงว่าเมื่อพวกคุณไม่เชื่อเรื่องอันใดแล้ว จำเป็นด้วยหรือครับว่า ที่เรื่องนั้นจะต้องผิดเสมอไป?

ไม่ได้โยกโย้ไปไหนเลย กระทู้ของเราเกี่ยวพันระหว่างมุตอะกับมิสยาร คุณจะอ้างว่า ส่วนตัวไม่

เห็นด้วย มันไม่ได้นะครับ แล้วถ้าเผื่อผมจะบอกคุณบ้างว่า ส่วนตัวผมก็ไม่เห็นด้วยกับมุต

อะ เรื่องมันจะจบหรือ ? ศาสนาไม่ได้อยู่ที่ความเห็นของผม หรือความเห็นของคุณเมื่อไหร่ล่ะ

หรือคุณจะโยนเรื่องไปให้ผมถามอุละมาของพวกคุณเอง ? แล้วผมล่ะถ้าทำแบบนั้น มันก็ไม่

ยุติธรรมซีครับ บอกผมมาดีๆมิสยาร มันเป็นหลักการที่ถูกต้องตามศาสนาคุณตรงไหน ?

อย่าได้เอาความเห็นและความรู้ของบังฮะซันมาอ้างเป็นหลักฐานกับผมเลย เพราะท่านก็ไม่ใช่

ฮุจญะฮ์ (ข้อพิสูจณ์)ที่ต้องทำให้ผมยอมรับ ไว้เวลาเขามาคุยเองจะดีกว่า
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
สับสน
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 03/09/2009
ตอบ: 13


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 12:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

28. ซูเราะฮฺ อัลเกาะศ็อศ (Al-Qasas)


50. หากพวกเขาไม่ยอมสนองตอบเจ้า ก็พึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกเขาปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของพวกเขาเท่านั้น และผู้ใดเล่าจะหลงผิดยิ่งไปกว่าผู้ปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของเขา โดยปราศจากแนวทางที่ถูกต้องจากอัลลอฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องแก่กลุ่มชนผู้อธรรม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 12:35 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

50. หากพวกเขาไม่ยอมสนองตอบเจ้า ก็พึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกเขาปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของพวกเขาเท่านั้น และผู้ใดเล่าจะหลงผิดยิ่งไปกว่าผู้ปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของเขา โดยปราศจากแนวทางที่ถูกต้องจากอัลลอฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องแก่กลุ่มชนผู้อธรรม

อายะนี้ จะไปถูกไปต้องกับใครเอ่ย หลักฐาน อนุญาตให้สมสู่แบบเล่นมิสยาร จากกุอาน จากฮะดีษอยู่ที่

ไหน รีบเอามาแสดงหน่อย ผมเรียกหามานานแล้ว แต่ยังไม่ใครตอบสนอง สับสนจึงยกอายะกุ

รอานมาแสดง เพื่อเตือนเป็นนัยๆเหมือนบอกให้รู้ว่า คนที่ไม่สนองตอบผม เป็นพวกอารมณ์ต่ำ

และหลงผิดยิ่ง เพราะตามอารมณ์ต่ำ ปราศจากแนวทางที่ถูกต้องจากอัลลอฮ์ ระวังนะ จะเป็นกลุ่ม

ชนผู้อธรรม แล้วอัลลอฮ์จะไม่ชี้นำ

ส่วนหลักฐานการทำมุตอะของชีอะนั้น ผมได้อ้างมาบ้างแล้ว พอควรแก่เหตุ ใครเห็นด้วย ไม่เห็น

ด้วย เป็นอีกเรื่อง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 12:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

หลบไปเรื่อง มิซยาร เลย

ยอมรับแล้วใช่ไหมว่า อิหม่ามของชีอะฮ์เองที่ห้ามนิกะฮ์มุตอะฮ์

1 – มุตอะฮ์ มีข้อห้ามจากอิหม่ามของพวกท่านเอง ถูกระบุด้วยสายรายงาน และในตำราของชีอะฮ์เอง

2 – อิหม่ามห้ามที่จะทำมุตอะฮ์กับหญิงผู้ศรัทธา

3 – แม้มุตอะฮ์จะอนุญาตให้กระทำได้เฉพาะหญิงที่ไม่ศรัทธา แต่ก็มีเงื่อนไขว่า ต้องอยู่ในสภาวะจำเป็น (ฏ่อรูเราะฮ์) เท่านั้น


เหล่านี้คือสิ่งที่ผมได้รับจากคำของคุณ Israya ถ้าคุณจะงอแงว่า ผมพูดไม่ถูกต้อง ผมก็ยินดีที่จะเอาข้อความที่คุณโพ้สในกระทู้นี้แหละมายืนยัน


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 2:21 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

บรรดาอุละมา และบรรดาอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ ไม่เคยตัดสินว่านิกาห์มุตอะเป็นสิ่งต้องห้าม

นอกจากคนโง่เขลาที่ไม่อ่านตำราไม่ตลอด ได้เพียงแต่จิกเจาะ บางวรรค บางตอน คนแบบนี้

ลักษณะนี้ มีให้พบเห็นโดยทั่วไปในสังคมของพวกท่าน อันตรายอย่างมากที่คนประเภทนี้ เข้ามา

มีบทบาทในศาสนา เพราะฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด

ชีอะ มีหลักการมุตอะ เป็นที่รู้อย่างกว้างขวาง แพร่หลายแก่ชาวโลก ไม่ว่ากาเฟร พุทธ คริสต์

ฮินดูพราหมณ์ กล่าวคือ นักปราชญ์ผู้รู้ในทุกศาสนา ต่างรู้ทั้งนั้นว่า ในคำสอนของบรรดาชีอะฮ์

ในอิสลามนั้นอนุญาตให้แต่งงานชั่วคราวหรือมุตอะได้

ถึงแม้จะไม่รู้ในระเบียบกฎเกณฑ์รายละเอียดก็ตาม ซุนนีทั่วไปก็รู้ แต่ทว่ารู้อย่างฉาบฉวย

ผิวเผิน

บางคนรู้แต่ว่า มุตอะ มีไว้สำหรับการสมสู่กันอย่างเดียว จึงคิดกฎมิสยาร ขึ้นมาประกบ

ทั้งๆที่มิสยาร ไม่มีหลักฐานอันใดรองรับ

นอกจากใช้เหตุผล หรือเล่ห์เพทุบายเพื่อหาทางออกให้กับการระบายตัณหาราคะโดยตรง

ไม่มีต้นแบบ ไม่ว่าจากอัลกุรอาน หรือฮะดีษ

นอกจากอาศัยเค้าโครงการอธิบายของอุละมาชีอะที่อธิบายเรื่องมุตอะเท่านั้น

คนพวกนี้จะหงุดหงิดอย่างมาก ถ้าหากถูกซักไซร้ ถูกจี้ถามหาหลักฐานการเล่นมิสยาร

ทั้งนี้เพราะการเล่นมิสยาร มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองกามราคะอย่างเดียว

เพราะความคิดของพวกเขาหมกมุ่นอยู่กับการร่วมเพศ และการการเสพสุข และสมสู่อย่าง

เดียว ทำให้พวกเขาเข้าใจหลักการมุตอะอยู่ในมุมนั้น

พวกเขาก็ยอมรับว่า มิสยาร ไม่เหมือนกับมุคอะอย่างสิ้นเชิง แล้วหมายความอย่างไร ?

การเล่นมิสยารวิเศษกว่ามุตอะตรงไหน หรือ ไม่เห็นลองขานไขเล่าแจ้งสักหน่อยหนึ่ง ?


ที่ไม่เหมือนกับมุตอะ ก็เพราะมุตอะเป็นหลักการดั้งเดิม มิสยารเป็นบิดอะ ที่เพิ่งปลุกเสกขึ้น

มาสนองความชั่วร้ายและกิเลสตัณหาในสังคมที่สำส่อนด้วยซินา

มุตอะ มีพื้นฐานมาจากการอนุญาตจากท่านรอซูลแก่บรรดาซอฮาบะฮ์ แม้ท่านรอซูลหรือบรรดาอิ

มามเองอาจไม่ได้ปฏิบัติ แต่ก็เป็นสิ่งที่ท่านอนุญาตไว้โดยหลักการ

และในรายละเอียดปลีกย่อย การมุตอะ ยังมีข้อแม้อีกมาก ซึ่งไม่จำเป็นอันใดที่ผมจำเป็น

แจกแจงให้ละเอียดทั้งหมด เพราะเท่าที่สาธยายมาอย่างเป็นระบบ เท่านี้ผู้มีสติปัญญาบริบูรณ์

ควรได้ประโยชน์แก่ทุกคำถามแล้ว ที่เหลืออยู่ก็คือความโง่เขลาและความเก็บกดของพวกคุณ

เอง ที่ต้องการบ่ายเบี่ยงการตอบเรื่องหลักฐานของการอนุญาตให้เล่นมิสยาร เท่านั้นเอง ผมรู้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu Oct 08, 2009 2:48 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

israya บันทึก:
บรรดาอุละมา และบรรดาอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ ไม่เคยตัดสินว่านิกาห์มุตอะเป็นสิ่งต้องห้าม

นอกจากคนโง่เขลาที่ไม่อ่านตำราไม่ตลอด ได้เพียงแต่จิกเจาะ บางวรรค บางตอน คนแบบนี้

ลักษณะนี้ มีให้พบเห็นโดยทั่วไปในสังคมของพวกท่าน อันตรายอย่างมากที่คนประเภทนี้ เข้ามา

มีบทบาทในศาสนา เพราะฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียดรู้


น้องบ่าว isriya ครับ
อะกีดะฮ หรือความเชื่อต่อไปนี้ อันตรายยิ่งกว่าครับ

มาดูในตำราชีอะฮ พูดถึงการนิกะห์มุตอะฮ ข้างล่าง

الايمان بالمتعة أصلا من اصول الدين ، ومنكرها منكر للدين
การศรัทธา เกี่ยวกับมุตอะฮ(การหาความสุขชั่วคราวกับสตรี) นั้น เป็นรากฐานหนึ่งจากรากฐานของศาสนา และผู้ที่คัดค้านมัน คือ ผู้ที่คักค้านศาสนา - ดู ตัฟสีรมินฮะญุสศอดิกีน ของ อัลกะชานีย์ เล่ม 2 หน้า 495
...........
การหาความสุขชั่วคราวกับสตรี โดยจ่ายค่าตอบแทน เสร็จแล้วก็ทางใครทางมัน เป็นรากฐานสำคัญของศาสนาเชียวหรือ แล้วคำสอนแบบนี้ เอามาจากอายะฮอัลกุรอ่านโองการใดและหะดิษของท่านนบี Solallah ศาสดาของพระองค์ บทใด วัลอิญาซุบิลละฮ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 27, 28, 29  ถัดไป
หน้า 5 จากทั้งหมด 29

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.09 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ