ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - มัซฮับสะละฟีย์และมัซฮับทั้งสี่ (ภาคที่ 2)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
มัซฮับสะละฟีย์และมัซฮับทั้งสี่ (ภาคที่ 2)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 13, 14, 15 ... 31, 32, 33  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Tue Feb 21, 2006 4:55 pm    ชื่อกระทู้: มัสหับ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam บังฮะซัน
บังกล่าวว่า
น้อง kunkonyakroo ครับ ขอให้ตอบเชิงวิชาการนะครับ อย่าเข้ามาบ่น และ บ่น แล้วก็ขอตัวออกไป
...ลาอิลาฮาอี้ลลัลลอฮ์...เฮ้อ..พูดวะฮาบีย์แบบบังฮะซันนี้เหนื่อยใจเหลือเกิน ยาอัลลอฮ์..ช่างไม่แตกต่างอะไรกับท่านอีหม่ามอิบนุตัยมียะ ในในการตะฮัศซุบกับแนวทางของตน...ในที่ขณะท่านถูกนำตัวไปยังศาลสูงสุด เพื่อ ไต่สวน เรื่องที่ท่านกล่าวว่าอัลลอฮ์นั่นทรงมีลักษณะคล้ายมนุษย์ ซึ่งผู้พิพากษาสูงสุดขณะนั้นคือ ซะรอฟุดดีน ซะราวี ผู้เป็นนักกฏหมายในมัสหับของฮัมบาลี ซึ่งได้ถาม ท่าน(อิบนุตัยมียะ)ว่า..จะแก้ตัวอย่างไร ในความผิดเรื่องการเอี๊ยะติกอดของท่านกับคำพูดของท่านขณะท่านขึ้นเทศนาบนมิมบัซร์...ที่ท่านได้กล่าวว่า อัลลออฮ์นั้นทรงประทับหรือนั่งบนอารัชและทรงเดินลงเหมือนฉันนเดินขึ้นเดินลงที่มิมบัซร์พร้อมชี้นิ้วด้วย.พร้อมแสดงการกระทำนั้นจริงหรือไม่. ซึ่งแทนที่ท่านอิบนุตัยมียะจะตอบ ท่านกลับกล่าวแต่ ริกรุลลอฮ์เท่านั้น โดยไม่พูดจาหรือตอบข้อซักถามของศาลสูงสุดแต่อย่างใด จนกระทั่งผู้พิพากษาถึงกับตะคอกใส่กับท่านว่า..สถานทีนี้ไม่ใด้เป็นสถานที่ปปาฐกาถา แต่ท่านจะต้องเคารพและเชื่อฟังกฏระเบียบของศาลสูงสุดเท่านั้น และท่านจะต้องตอบคำถามมาเลย ...จนในที่สุด ท่านก็ถูกตัดสินจำคุกด้วยความผิดในเรื่องการยึดมั่นในคุณลักษณะต่ออัลลอฮ์(ซบ)
อ้างจากหนังสือ อิบนุมัยยะ แปลและเรียบเรียงโดย ดร.มูฮำมัด ยุซุฟ ... ที่ศานสถานอาการเซ็ง

บังครับ ลักษณะและอาการของบังที่ไม่ยอมเปิดใจรับ ความรู้ของอุลามะยุคก่อนในแนวทางของอัชาฟีอีเลย บังตัดพ้อและไม่ฟังความใดๆทั้งสิ้น สำหรับการให้ความหมายของบรรดาอุลามะขออัลลอฮ์(ซบ)ที่พระองค์ทรงให้ความรู้กับเขา แม้กระทั้งท่านนบียังยอมรับใความประเสริฐของบรรดาอุลามะห์เลยแต่นี้บัง.ไม่เปิดใจรับความรู้จากท่านเหล่านั้นบ้างเลย
.บังนั้นยังคงทำตัว ลื่นไหลแบบไปเรื่อยๆ โดยใช้สีข้างถูกไปจนกระทั่งเห็นกระดูกซี่โครงตัวเองโผล่แล้ว ก็ยังถูมันอีก..บังจะหนีไปไหนพ้นละบัง. ผมเห็นบังยกแต่ฮาดีสที่ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็น10ๆรอบแล้วนะ สงสารท่านนบีบ้างเถอะบังอย่าได้ใส่ร้ายท่านเลยครับผมขอร้อง ฮาดีสทีท่านนบีกล่าวว่า
"كل بدعة ضلالة، وكل ضلالة في النار" [رواه النسائي في "سننه" (3/188 ـ 189) من حديث جابر بن عبد الله بنحوه،
ทุกบิดอะฮเป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดจะอยู่ในนรก"

ถามจริงๆเถอะ ฮาดีสที่บังยกมานั้นบังอยู่ในเหตุการ์ณหรือไม่ ที่คำว่าบิดอะ นั้นท่านนบีบอกหรือไหมว่า มีอย่างเดียวตามที่บังเข้าใจ หรือถ้ามี และคือสิ่งใดบ้าง.ให้บังแจงมาเป็นข้อๆ.ไมว่า สิ่งที่บังถามมา เช่น การอ่านกูหนูตในละหมาดซุบ
การตัลกีน การอ่านอูซอลลี การทำเมาลิด การกล่าวซอลาวัตนบี การขอดุอาแล้วยกมือหลังละมาด

ผมเห็นบังถามมาหลายครั้งแล้วผมขอถามบังกลับมั้งว่า..
****ที่ท่านกล่าว่าทุกบิดอะฮเป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดจะอยู่ในนรก"
มันคืออะไรบ้าง
Idea บังต้องตอบมาเป็นข้อๆนะและยกหลักฐานที่ท่านนบีกล่าวว่าใน ข้อความที่ผมขีดเส้นมาด้วยละ ในเมื่อบังพูดนักพูดหนาว่า*** บังนั้นจะเชื่อเฉพาะสิ่งที่เป็นคำพูดมาจากอัลลอฮ์และรอซุ้ลเท่านั้น อุลามะนั้นบังไม่นับถือและไม่รับฟัง...บังก็อย่าลืมตอบกับสิ่งที่ผมถามมาละผมจะคอย

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Tue Feb 21, 2006 5:23 pm    ชื่อกระทู้: มัสหับ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam น้องอัลอัชฮารีย์..อจ.อัลฟารุค และคุณมูฮำมัดอยู่หรือปล่าว ทราบแล้วเปลี่ยน....

น้องอัลอัฮารีย์กล่าวว่า
อย่าลืมอีกข้อหนึ่งคือ

5. ได้มีความใจกว้างต่อทัศนะของอื่นจากตน (นี่คือเป้าหมายสำคัญครับ)

ข้อนี้แหละครับคือ...ปัญหาโลกแตกของ คณะวะฮษบีย์เขาละ

----บังเห็นด้วย กับอจ.อัล-ฟารูก คาดการณ์ไว้ว่า พี่น้องวะฮาบีย์ ต้องไม่ยอมรับในการแบ่งแยกบิดอะฮ์ในเชิงศาสนา เราก็เลยต้องนำทัศนะการแบ่งแยกบิดอะฮ์ในเชิงภาษามากล่าวด้วย คือเราจะของดแจกแจงเรื่องการแบ่งบิดอะฮ์ในเชิงศาสนา

Crying or Very sad เพราะชี้แจงเท่าไหร่ พี่น้องวะฮาบีย์ก็คงไม่ยอมรับฟัง เมื่อเป็นเช่นนี้

ดังนั้นที่น้องกล่าวว่า ----เราก็ขอเลื่อนมาสนทนาบิดอะฮ์ในเชิงภาษา ซึ่งบังอะสันของเรา จะยอมรับในการแบ่งแยกหรือไม่ครับ ? คือจุดมุ่งหมายสำคัญของเราก็คือ แบ่งบิดอะฮ์ หรือ ว่าไม่แบ่ง แต่อิมาม อัช-ชาฟิอีย์กล่าวไว้ชัดเจนครับว่า แบ่งบิดอะฮ์เป็นหะสะนะฮ์ ซึ่งอิบนุตัยมียะฮ์ ได้ถ่ายทอดคำกล่าวของอิมาม อัช-ชาฟิอีย์ไว้ว่า

وبدعة لم تخالف شيئاً من ذلك، فهذه قد تكون حسنة لقول عمر: نعمت البدعة

และ(สอง)บิดอะฮ์ที่ไม่เคยทราบเลยว่า มันขัดกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด จากดังกล่าวนั้น ดังนี้นั้น มันย่อมบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ เพราะคำกล่าวของ ท่านอุมัร ที่ว่า "บิดอะฮ์ที่ดี คือ อันนี้"

บังฮะซันตอบมาเป็นข้อที่น้องบ่าวของผมถามมานะครับ อย่าหลีกเลี่ยงอีกละ เอากันง่ายๆแบบนี้ดีกว่า ไม่นั้นพิมพ์จนคอมระเบิดก็คุยกันไม่รู้เรื่องร๊อก ถ้าบังไม่ยอมเปดใจรับการเสนอจากเราบ้าง...คักๆๆๆ


....บังฮะซัน ครับมันชัดเจนครับ ว่ามีการแบ่งบิดอะฮ์ เป็น บิดอะฮ์ที่ดี และบิดอะฮ์ที่ไม่ดี

และที่อจ. อัล-ฟารูกก็กล่าวไว้ จากความเข้าใจของ อิบนุตัยมียะฮ์ว่า

"และที่สำคัญใน ณ ที่นี้ คือ ไม่ว่าจะเรียก ซุนนะฮ์ หรือ บิดอะฮ์หะสะนะฮ์ก็ตาม แต่สิ่งที่ถูกเรียกนั้น ก็คือ สิ่งที่ทำขึ้นมาใหม่ โดยไม่ขัดกับตัวบทครับ"

มันชัดเจนครับ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยไม่ขัดกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ย่อมเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ดี ซึ่งคำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ดีนี้ อิบนุตัยมียะฮแรกมันว่า ซุนนะฮ์ แต่เราจะเรียก "สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ดี"นี้ว่า "บิดอะฮ์ที่ดี" มันผิดตามหลักภาษาหรือครับ ? แล้วเมื่อมันไม่ผิดตามหลักภาษา เราขอกล่าวว่ามันเป็นบิดอะฮ์ที่เกี่ยวกับเรื่องศาสนา ตรงนี้เราพูดผิดไหมครับ เนื่องจากว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ มันอยู่สอดคล้องและอยู่บนหลักการของศาสนา ? หรือว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ไม่ขัด และสอดคล้องกับหลักการศาสนา คือ สิ่งที่ไม่ใช่เป็นเรื่องศาสนา" ??? ทำผู้อ่านตอบในใจซิครับว่า มันเป็นเรื่องศาสนาไหม?


บังครับ ผมไม่ทราบว่าสิ่งที่น้องบ่าวอัลอัชฮารีย์และผมถามไป บังจะดิ้นรนถูสีข้างจนเห็นซี่โครงอีกข้างหรือไม่
ผมนะสงสารบัง ฮะซันรูปหล่อจริ้งๆ ภรรยาก็ทำงานดี้ดี ด้านจัดเก็บเจ็บภาษี ของประชาชน.ซะด้วย น่าอิจฉาจัง....

บังว่าบังต้องการวิชาการจากผม ก็ขนาด วิชาการที่สดๆซิงๆจากน้องนักศึกษาบังยังคุยไม่รู้เรื่องเลย...
พอน้องเขายกตำราจากอุลามะผู้ที่มีความรู้ บังก็บอกว่าเบือๆความเห็นของอุลามะท่านๆนั้น
อยากเอาคำพูดทีมาจากท่านนบีบ้าง และพอผมถามกลับไปว่า ไหนละหลักฐานจากท่านบี ว่า
สิ่งที่บรรดาอุลามะแบ่งบิดอะ เป็น2 หรือ5นั้น มันผิด และท่านนบีไม่ยอมรับ ขอให้เอาหลักฐานมาด้วยบังก็ ดันยกคำหักล้างของบรรดาอุลามะฝ่ายบัง
แล้วจะไม่ให้ผมบ่นว่าเซ้งเงได้อย่างไรละพี่บ่าว

บังนะเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านอย่างเดียวนั้นดีแล้วนะ อย่าออกนอกบ้านเลย ...มันอันตราย...ฮิๆๆๆๆ


wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Feb 21, 2006 10:28 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นอ้ง konyakroo กล่าวว่า
มันชัดเจนครับ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยไม่ขัดกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ย่อมเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ดี ซึ่งคำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ดีนี้ อิบนุตัยมียะฮแรกมันว่า ซุนนะฮ์ แต่เราจะเรียก "สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ดี"นี้ว่า "บิดอะฮ์ที่ดี"
..................
ตอบ
ใจเย็นๆครับ อย่าเพิ่ง มีอารมณ์ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เพื่อไม่ให้พายเรือในอ่าง ใหนยกตัวอย่างมาซิครับ ว่า บิดอะฮหะสะนะฮ ที่ไม่ขัดกับอัลกุรอ่านและหะดิษ ที่มุสลิมบางส่วนในเมืองไทยทำกัน เอาปัญหาใกล้ตัวนี่แหละ บอกมาเป็นข้อๆเลย ชักรำคาญ


น้อง konyakroo กล่าวว่า
ถามจริงๆเถอะ ฮาดีสที่บังยกมานั้นบังอยู่ในเหตุการ์ณหรือไม่
.................
ตอบ

มาชาอัลลอฮ ถามแบบนี้ก็มีด้วย แล้ว หะดิษ บุคอรี และ มุสลิม ตลอดจนอื่นๆ ที่เอามาอ้างกัน ใครบ้างสมัยนี้อยู่ในเหตุการณ์ ในสมัยนั้น นี่ถามออกมาได้อย่างไร ขอให้ไปเรียนวิชาหะดิษมาใหม่ นะครับ

น้อง konyakroo กล่าวว่า
การตัลกีน การอ่านอูซอลลี การทำเมาลิด การกล่าวซอลาวัตนบี การขอดุอาแล้วยกมือหลังละมาด
ผมเห็นบังถามมาหลายครั้งแล้วผมขอถามบังกลับมั้งว่า..
****ที่ท่านกล่าว่าทุกบิดอะฮเป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดจะอยู่ในนรก"
มันคืออะไรบ้าง

ตอบ
ข้างบนนี้แหละ บิดอะฮ เพราะไม่มีแบบอย่าง หรือ ถ้ามี ช่วยบอกเอาบุญหน่อยครับท่าน
.......................................................................
น้อง konyakroo กล่าวว่า
ผมนะสงสารบัง ฮะซันรูปหล่อจริ้งๆ ภรรยาก็ทำงานดี้ดี ด้านจัดเก็บเจ็บภาษี ของประชาชน.ซะด้วย น่าอิจฉาจัง.
................
ตอบ
ประเด็นนี้เรื่องส่วนตัว และนอกประเด็น

..............................
ขอเตือนว่า การใส่ร้ายป้ายสีอิหมามอิบนุตัยมียะฮนั้น น้องรับไหวหรือ ในวันอาคีเราะฮ การสนทนาเรื่อง ศาสนา ต้องมีจรรยาบรรณ์ด้วย ไม่ควรเอาบุคคลที่ตายไปแล้วมากล่าว เพื่อแสดงการดูถูกเหยียดหยาม ขอเตือนนะครับ เดี่ยวจะได้ไม่ต้องคุยกัน

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اجْتَنِبُوا كَثِيراً مِّنَ الظَّنِّ إِنَّ بَعْضَ الظَّنِّ إِثْمٌ وَلَا تَجَسَّسُوا وَلَا يَغْتَب بَّعْضُكُم بَعْضاً أَيُحِبُّ أَحَدُكُمْ أَن يَأْكُلَ لَحْمَ أَخِيهِ مَيْتاً فَكَرِهْتُمُوهُ وَاتَّقُوا اللَّهَ إِنَّ اللَّهَ تَوَّابٌ رَّحِيمٌ

12. โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย! พวกเจ้าจงปลีกตัวให้พ้นจากส่วนใหญ่ของการสงสัย (*1*) แท้จริงการสงสัยบางอย่างนั้นเป็นบาป (*2*) และพวกเจ้าอย่าสอดแนม (*3*) และบางคนในหมู่พวกเจ้าอย่านินทาซึ่งกันและกัน (*4*) คนหนึ่งในหมู่พวกเจ้านั้นชอบที่จะกินเนื้อพี่น้องของเขาที่ตายไปแล้วกระนั้นหรือ? พวกเจ้าย่อมเกลียดมัน (*5*) และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ (*6*)

(1) จงทำตัวให้ห่างไกลจากการสงสัย การไม่ซื่อสัตย์ และการนึกร้ายต่อญาติพี่น้องและมหาชนทั่วไป ที่ว่า “ส่วนใหญ่การสงสัย” นั้นเพื่อเป็นการระมัดระวังในทุก ๆ การกระทำดังกล่าว อย่ารีบด่วนในการนึกคิดแต่จงพินิจพิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงเสียก่อน
(2) คือจะได้รับการลงโทษ
(3) คือสืบเสาะหรือค้นหาความลับของพี่น้องมุสลิม
(4) คืออย่ากล่าวถึงความไม่ดีงามของผู้อื่นในสิ่งที่เขาไม่ชอบที่จะให้กล่าวถึงเป็นการลับหลัง
(5) เป็นการยกอุทาหรณ์เปรียบเทียบถึงการกินเนื้อพี่น้องของเขาที่ตายแล้วว่ามันเป็นที่น่ารังเกียจเพียงใด ดังนั้นการนินทามุสลิมด้วยกันจึงเป็นที่น่ารังเกียจยิ่งกว่า และโทษของมันก็ร้ายแรงยิ่งกว่า
(6) แก่ผู้ที่มีความยำเกรงอัลลอฮฺ ตะอาลา สำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัว ในตอนท้ายของอายะฮฺนี้เป็นการสนับสนุนให้มีการขออภัยโทษ ชอบให้มีการเสียสละและสารภาพผิดเพื่อมิให้มนุษย์หมดหวังในความเมตตาของอัลลอฮฺ
..........................

มีหลักวิชาการอะไรก็เสนอมา แต่ไม่ควรมาบังคับให้คนอื่นยอมรับ คำว่าใจกว้าง ไม่ได้หมายถึง การเป็นคนแบบไม้หลักปักขี้เลน ความเข้าใจที่แตกต่าง มันไม่ได้หมายถึงการใจแคบ นะครับ พยายามสนทนาอย่างมีสตินะครับ น้อง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Feb 21, 2006 11:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เพิ่มเติม
ขอเรียนให้น้อง konyakroo ทราบว่า เรื่อง บิดอะฮ ไม่ใช่เรื่อง ที่มาประณีประนอม แบบพบกันครึ่งทางนะครับ คุณว่า ดี คุณก็รับไป แต่ บังไม่เอาด้วย ย้ำไม่เอาด้วย เพราะกลืนไม่ลงจริงๆ หมายถึง บิดอะฮที่พบเห็นที่บ้านเรา ใครอยากสนับสนุนก็เชิญ แต่บังไม่เอา
มาดูโองการข้างล่างนี้
{لِيَحْمِلُواْ أَوْزَارَهُمْ كَامِلَةً يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ وَمِنْ أَوْزَارِ ٱلَّذِينَ يُضِلُّونَهُمْ بِغَيْرِ عِلْمٍ} [النحل: 25].

16.25] พวกเขาจงแบกความผิดอย่างครบครันในวันกิยามะฮ์เถิด และ (จงแบก) ความผิดของบรรดาผู้ที่พวกเขาทำให้เขาเหล่านั้น หลงผิดโดยไม่รู้พึงทราบเถิด! สิ่งที่พวกเขาทำผิดนั้นชั่วช้ายิ่ง

قال مجاهد: "يحملون وزر من أضلوه، ولا ينقص من إثم المضلّ شيء

มุญาฮิดกล่าวว่า “ พวกเขาจะแบกรับความผิดของผู้ที่พวกเขาทำให้หลงทาง และ(ความผิดที่เขาแบกรับนั้น)จะไม่ลดน้อยไปจากความผิดของผู้ที่ถูกทำให้หลงทางเลย แม้แต่น้อย -ดู
تفسير القرطبي (10/96)
………………..
คำว่า كل ในคำว่า كل بدعة ضلالة แปลว่าทุกๆบิดอะฮ เพราะหลักเดิมคำว่า كل นั้น หมายถึง ทั่วไป (อาม) เพราะฉะนั้น ทุกบิดอะฮในทางศาสนา เป็นการหลงผิด ไม่มีการยกเว้น นอกจาก มีคำสอนจากผู้กล่าวคือ ท่านนบี มาตัคศิส หรือ มาแสดงบอกว่า มีข้อยกเว้น ส่วน หะดิษที่ว่า
من سن فى الإسلام سنة حسنة
หะดิษนี้ เกี่ยวกับการเป็นแบบอย่างในสิ่งที่มีบัญญัติเอาไว้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่คิดขึ้นใหม่ หรือ บิดอะฮ

อิหม่ามชาฟิอีกล่าวว่า
ليس لاحد دون رسول الله صلى الله عليه وسلم أن يقول إلا بالاستدلال

ไม่อนุญาตให้คนหนึ่งคนใดอื่นจากท่านรซูลุลลอฮ ศอ็อลลัลลอฮูอะลัยฮิวะสัลลัม ในการที่จะกล่าวอ้าง นอกจากต้อง แสดงหลักฐาน - الرسالة 504
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Feb 21, 2006 11:35 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[B]อีกนิด
น้อง konyakroo ครับ ควรแสดงศักยภาพของตนเองบ้าง ไม่ใช่แอบกอ็บเอาข้อความน้อง อัล-อัชฮารีย มาโต้กับบังอะสัน บังอะสันว่าถ้าไม่มีอะไรจะแสดง นั่งดูเฉยๆก็ได้ หรือก็ ตบมือเชียร์น้องอัลอัชอารีย ก็พอ ฮะฮะ Very Happy
[/B]
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ซุกกรี
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 06/01/2006
ตอบ: 26


ตอบตอบ: Wed Feb 22, 2006 11:21 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam บังหะสันผมเองก็เซ็งบังเหมือนคนอยากรู้นั้นแหละครับ....
salam คนอยากรู้และน้องนักศึกษาอียิปต์
น้อง konyakroo กล่าวว่า
ถามจริงๆเถอะ ฮาดีสที่บังยกมานั้นบังอยู่ในเหตุการ์ณหรือไม่
.................
ตอบ

มาชาอัลลอฮ ถามแบบนี้ก็มีด้วย แล้ว หะดิษ บุคอรี และ มุสลิม ตลอดจนอื่นๆ ที่เอามาอ้างกัน ใครบ้างสมัยนี้อยู่ในเหตุการณ์ ในสมัยนั้น นี่ถามออกมาได้อย่างไร ขอให้ไปเรียนวิชาหะดิษมาใหม่ นะครับ

Twisted Evil บังครับที่คนอยากรู้ถามแบบนั้นก็ถูกอยู่นะครับ เพราะบังเองก็ได้รับการถ่ายทอดสายรายงานมาอีกทีหนึ่งนี้ครับ และท่านนบีเองก็ไม่ได้เจาะจงว่า บิดอะมีอย่างเดียวและท่านห้ามการแบ่งแยกบิดอะ เป็น บิดอะฮ์ที่ดีและบิดอะห์ที่ลุ่มหลง...ไมใช่หรือครับ แต่บังนั้นกลับเอาตามแนวทางทัศนะของบังมาหักล้างในทัศนะของอีหม่ามทั้ง4 ที่ยอมรับให้มีการแบ่งแยกบิดอะฮ์ ทั้งดีและล่มหลง อีกอย่างบังนั้นเข้าใจความหมายผิดมากครับ...ที่บังยกฮาดีสนี้มาและอ้างคำว่าบิดอะฮ์นั้น ผมว่า ความหมายตรงนั้น คือบิดอะฮ์ที่ล่มหลงที่ไม่มีแบบอย่างจากศาสนา ต่างหากละครับ และในมัสหับของอีหม่ามทั้ง4 ก็ไม่มีใครสนับสนุน เพราะมันคือสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ที่ไม่มีรากฐานของศาสนา นะครับ แต่ที่เรากำลังคุยกันนั้น ถึง บิดอะฮ์ที่ดี นี้ครับและมีแบบอย่างมาจากรากฐานของศาสนาอยู่ก่อนแล้ว และท่านนบีก็ไม่ได้ห้ามและกล่าวด้วยว่า การกล่าวอูซอลลี หรือหรือการทำตัลกีน การยกมือขอดุอาหลังละหมาด การอ่านกูหนูตในละหมาด การมีมัสหับฯลฯเป็นบิดอะฮ์ทั้งนั้น เหมือนที่พี่น้องวาฮะบีย์ใส่ไคล้เราอยู่ไม่ว่าทางการโฆษณาหรือทางสือใดๆ ว่าการกระทำของผู้ที่ตามแนวทางของ อัชฟีอีย์นั้น คือมีแต่บิดอะฮ์ พร้อมยกหลักฐาน ข้างบนเหมือนที่บังยกมาหลายๆครั้งนะครับนั้รนแหลบะครับ...
ดังนั้นผมว่าคนอยากรู้เพียงแต่ ให้บังรับผิดชอบคำพูดของบังที่บังอ้างถึงท่านนบีมาให้เขามั่งว่า มีหลักฐานบ้างไหมว่าท่านนบีเจาะจงหรือห้ามในสิ่งนั้นๆและไม่ให้แบ่งแยกบิดอะฮ์ อย่าว่าแต่คนอยากรู้เลยครับพี่นน้องทัศนะอื่นก็อยากจะดูเหมือนกัน ผมขอร้องบังบังนะครับว่า..อย่าเอาการให้ความของทัศนะของบังมาหักล้างทัศนะของผู้อื่นละ ผมขอเตือน เพราะสำหรับเราผู้ตามแนวทางทัศนะนั้น ยอมรับ ว่าเราเชื่อฟังในการตีความที่มาจากอัลกรุอานยและอัลฮาดีสของบรรดาอุลามะผู้รู้เหล่านั้นอยู่แล้ว ซึ่งบังเองเคยออกตัวประจำว่า ไม่ยึดถืออุลามะท่านใดไม่ว่าสายไหนๆ
บังหะสัน ทุกอย่างนั้นย่อมมีต้นแบบและที่มาครับ มันไม่ได้คิดขึ้นมาหรือโผล่ขึ้นมาเองทันทีทันใด เหมือนที่บังและสหายชอบติเตียนว่าเรานั้น คิดค้นขึ้นมาเองเพื่อให้สอดคล้องกับคำว่าบิดอะฮ์ฮาสานะ....นี่คอความเข้าใจผิดที่มีอคติในเชิงลบสั่งสมกันมาในพวกวะฮาบีย์ครับ

บังกล่าวว่า
น้อง konyakroo กล่าวว่า
การตัลกีน การอ่านอูซอลลี การทำเมาลิด การกล่าวซอลาวัตนบี การขอดุอาแล้วยกมือหลังละมาด
ผมเห็นบังถามมาหลายครั้งแล้วผมขอถามบังกลับมั้งว่า..
****ที่ท่านกล่าว่าทุกบิดอะฮเป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดจะอยู่ในนรก"
มันคืออะไรบ้าง

ตอบ
ข้างบนนี้แหละ บิดอะฮ ครับคือบิดอะฮ์ที่ดีแควรแก่การสงเสริม ให้กระทำ เพราะงานทุกอย่างที่เขาขวนขวายเพื่ออีหม่านต่ออัลลอฮ์(ซบ)นั้น ย่อมเป็นที่พอใจของพระองค์แม้นว่าไม่มีแบบอย่างจากท่านรอซูลมาก่อน ก็ย่อมไม่ผิดหรืออุตริกรรมแต่อย่างใดเลยครับ
.......................................................................
..............................
ขอเตือนว่า การใส่ร้ายป้ายสีอิหมามอิบนุตัยมียะฮนั้น น้องรับไหวหรือ ในวันอาคีเราะฮ การสนทนาเรื่อง ศาสนา ต้องมีจรรยาบรรณ์ด้วย ไม่ควรเอาบุคคลที่ตายไปแล้วมากล่าว เพื่อแสดงการดูถูกเหยียดหยาม ขอเตือนนะครับ เดี่ยวจะได้ไม่ต้องคุยกัน

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اجْتَنِبُوا كَثِيراً مِّنَ الظَّنِّ إِنَّ بَعْضَ الظَّنِّ إِثْمٌ وَلَا تَجَسَّسُوا وَلَا يَغْتَب بَّعْضُكُم بَعْضاً أَيُحِبُّ أَحَدُكُمْ أَن يَأْكُلَ لَحْمَ أَخِيهِ مَيْتاً فَكَرِهْتُمُوهُ وَاتَّقُوا اللَّهَ إِنَّ اللَّهَ تَوَّابٌ رَّحِيمٌ

12. โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย! พวกเจ้าจงปลีกตัวให้พ้นจากส่วนใหญ่ของการสงสัย (*1*) แท้จริงการสงสัยบางอย่างนั้นเป็นบาป (*2*) และพวกเจ้าอย่าสอดแนม (*3*) และบางคนในหมู่พวกเจ้าอย่านินทาซึ่งกันและกัน (*4*) คนหนึ่งในหมู่พวกเจ้านั้นชอบที่จะกินเนื้อพี่น้องของเขาที่ตายไปแล้วกระนั้นหรือ? พวกเจ้าย่อมเกลียดมัน (*5*) และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ (*6*)

(1) จงทำตัวให้ห่างไกลจากการสงสัย การไม่ซื่อสัตย์ และการนึกร้ายต่อญาติพี่น้องและมหาชนทั่วไป ที่ว่า “ส่วนใหญ่การสงสัย” นั้นเพื่อเป็นการระมัดระวังในทุก ๆ การกระทำดังกล่าว อย่ารีบด่วนในการนึกคิดแต่จงพินิจพิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงเสียก่อน
(2) คือจะได้รับการลงโทษ
(3) คือสืบเสาะหรือค้นหาความลับของพี่น้องมุสลิม
(4) คืออย่ากล่าวถึงความไม่ดีงามของผู้อื่นในสิ่งที่เขาไม่ชอบที่จะให้กล่าวถึงเป็นการลับหลัง
(5) เป็นการยกอุทาหรณ์เปรียบเทียบถึงการกินเนื้อพี่น้องของเขาที่ตายแล้วว่ามันเป็นที่น่ารังเกียจเพียงใด ดังนั้นการนินทามุสลิมด้วยกันจึงเป็นที่น่ารังเกียจยิ่งกว่า และโทษของมันก็ร้ายแรงยิ่งกว่า
(6) แก่ผู้ที่มีความยำเกรงอัลลอฮฺ ตะอาลา สำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัว ในตอนท้ายของอายะฮฺนี้เป็นการสนับสนุนให้มีการขออภัยโทษ ชอบให้มีการเสียสละและสารภาพผิดเพื่อมิให้มนุษย์หมดหวังในความเมตตาของอัลลอฮฺ

บังครับผมว่า คนอยากรู้ไม่ได้ใสร้ายอินุตัยมียะที่บังตักลีดตามเลยนะ ...เพียงแค่ยกหลักฐานจากตำราของเขา ซึ่งที่ผมก็มี ให้บังได้รู้การตะอัดศุบของอีหมาม อิบนุตัยมียะ ที่ไม่ยอมรับความจริงว่าได้ไข้ใจผิดในเรื่อง [color=violet]การเชื่อมั่นในหลักเตาฮ๊ดต่อพระผู้เป็นเจ้า เท่านั้นถึงขนาดไม่ยอมเปลี่ยแปลงคำพูด กับผู้พิพากษาที่สังกัดมัสหับฮัมบาลีในขณะนั้น..ด้วยแลกกับการถูกจำคุกในศาล. ซึ่งคนอยากรู้แนำมาเปรียบเทียบกับตัวบังที่ไม่ยอมเปิดใจกว้างรับฟังความวิชาการจากทัศนะอื่นเท่านั้น ฉนั้นการพาดพิงหรืออ้างอิงมันย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ในบางครั้งนะครับ..มันก็ต้องทำใจ ผมนี้ชินแล้วครับถ้าอ่านหนังสือจากทัศนะของบังเจอบ่อยครั้งครับในคำวิจาณณ์และคำใส่ร้ายบรรดาอุลามะในทัศนะของเรา..แต่เราก็ไม่เคยโกรธ
ประเด็นนี้เราเพียงแค่ชี้แจงให้ท่านและสหายว่า อย่าได้ส้ร้ายผู้ที่อยู่ต่างทัศนะของอัชชาฟีอีว่ามีแต่บิดอะฮ์ลุ่มหลงทั้งนั้น...ได้ไหมครับ


บังกล่าวว่า ให้คนอยากรู้นำเสนอวิชาการมาเสนอ ผมก็เห็น คนอยากรู้ก็คุยในประเด็นเรื่องศาสนานี้ครับ...แม้ว่า บางครั้ง หลักฐานจากที่นำมาอาจจะเหมือนของใครบ้างแต่ในมัสหัลชาฟีอีมันก็ตำราเดียวกันนะครับ ผมว่าคนอยากรู้เขาไม่กล้ายกอะไรที่เป็นการตัดสินใจของตัวเองมาหักล้างการให้ความหมายเข้าข้างตัวเองหรอกครับ อย่าคิดมากไปนะบัง....
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
fais
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005
ตอบ: 84


ตอบตอบ: Wed Feb 22, 2006 12:51 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
อ้างคุณfarook
เมื่อยุคค่อลัฟ มีพวกปรัชญาที่ใช้สติปัญญาแบบล้วนๆ เข้ามามีอิทธิพลต่ออะกีดะฮ์อิสลาม บรรดานักปราชน์อิสลามในสมัยนั้นๆ ก็จำต้องใช้หลักฐานทางสติปัญญาที่อยู่บนพื้นฐานจากหลักการศาสนาอิสลาม มาหักล้างพวกปรัชญาที่บิดเบือน ซึ่งหากเราเอาอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่พวกเขาไม่ศรัทธาเชื่อ ไปอ้างหลักฐานล้มล้างแนวคิดของพวกเขานั้น แน่นอนว่า พวกเขาย่อมไม่ให้การยอมรับอย่างเด็ดขาด และก็ไม่สามารถพิชิตแนวคิดเหล่านั้นได้อย่างราบคาบ
.............
ความเห็น
คุณFAROOk พูดคล้ายๆกับว่าในสมัยของยุค สาลัฟนั้นไม่มีคนพวกนี้เลย
ถึ่งแม้ความรู้ของผมจะเทียบกับคุณปริญญาโทไม่ได้ แต่ ทางฮีดายะห์ของพระองค์อัลเลาะห์ ซบ.นั้นจะไม่เลือกปริญญามาเป็นหนึ่ง ตัวอย่างจากชาวบ้านที่ไม่ค่อยจะมีความรู้แต่พวกเขาถึ่งเวลาก็ออกไปละหมาดยามาอะห์ที่มัสยิด และถือศิลอดเป็นประจำ และในทางกลับกัน ผู้ที่จบปริญญาทางศาสนาจากต่างประเทศกลับมาเป็นผู้นำพาชาวบ้านกระทำบิดอะห์กัน และก็กล่าวว่ามันเป็นบิดอะห์ ฮาซานะห์ และก็ไม่ชอบไปละหมาดยามาอะห์ที่มัสยิด อย่างนี้เป็นต้น คนที่รู้และเข้าใจเรื่องบิดอะห์ฮาซานะห์อย่างจริงๆนั้น แถวบ้านเราคงมีไม่กี่คน แต่ส่วนมากจะเป็นพวกผู้ตามซึ่งพวกเหล่านี้จะตามโดยตาบอด พวกเขาไม่เคยรู้หลักฐานว่ามันเป็นอย่างไรและพวกเขาจะคิดว่ามันเป็นทางของซุนนะห์ อันนี้แหละที่จะทำให้อิสลามตกต่ำและตกต่ำ ๆ ถ้าเขาตามการกระทำเหล่านั้นที่มันเป็นซุนนะห์จริงและเขาจะคิดว่ามันเป็นซุนนะห์ก็ไม่ผิด แต่ถ้าเขาตามบิดอะห์และเขาคิดว่านี้คือทางซุนนะห์ อย่างนี้ผมคิดว่าพวกอูลามะห์คงจะปวดหัวน่าดู ขอยกต้วอย่างแถวภาคใต้ เมื่อคุณไปที่ภาคใต้ตอนล่างคุณจะเห็นว่าเมื่อจบการละหมาด(ให้สลาม)แล้วพวกเขาจะลูบหน้ากันถ้าเราถามว่าลูบหน้าทำไม เขาจะตอบคุณว่าเป็น ซุนนะห์ของ นบี ทั้งๆที่ไม่มีกีตาบใดเลยที่สอนให้กระทำการลูบหน้าหลังให้สลามในการละหมาด(ถ้าคุณมีหลักฐานช่วยตอบมาด้วยนะครับ) แล้วคุณคิดว่าพวกเขาเอามาจากใหนถ้าไม่ใช่มาจากผู้ที่มีความรู้มาสอนแก่พวกเขา ถึ่งตอนนี้ถ้าคุณมาบอกเขาว่ามันเป็นบิดอะห์ และเขาก็จะกล่าวแก่คุณว่าเป็น วาฮาบีหรือพวกใหม่เพราะพวกนั้นเขาไม่ลูบหน้ากันหลังละหมาด จะเห็นว่าถ้าเราไม่มาห้ามหรือชี้แจงในการกระทำบิดอะห์ มันก็จะกระทำกันเรื่อยๆจนลูกจนหลาน....ดังนั้นสมควรอย่างยิ่งที่เราจะนำเอาซุนนะห์ที่แท้จริง ของท่านรอซูล ซล.มาปฎิบัติอย่างไม่ต้องไปเบียงเบน ผมคิดว่าแค่นี้ก็จะนำอุมมะห์ไปสู่ทางที่เที่ยงตรงได้แล้ว
...................
อ้างคุณfarook
ดังนั้น เมื่อหะดิษนี้ซอเฮียะหฺ ก็แสดงว่า ท่านอุมัรใช้ให้ทำ 20 รอกะอัต ซึ่งท่านนบีไม่เคยทำ (โดยไม่คำนึงถึงสายรายงานนบีละหมาด 20 รอกะอัตที่ฏออีฟ) เมื่อนบีไม่เคยทำ ทำอุมัรจึงกล่าวว่า มันเป็น"บิดอะฮ์ที่ดี" ฉะนั้น ที่บิดอะฮ์ ก็เพราะว่าท่านนบี(ซ.ล.)ไม่เคยทำละหมาดตะรอวิหฺในรูปแบบ 20 รอกะอัต แต่เป็นสิ่ง"ที่ดี" นั้น เพราะว่า อยู่ภายใต้หลักการที่ว่า การละหมาดตะรอวิหฺในเดือนรอมะดอน เป็นสิ่งที่ท่านนบีส่งเสริม
..................
วิจารณ์
จำนวนรอกาอัตในการละหมาดตารอเวียห์นั้น ในเมื่อบรรดาอูลามะห์เขาขัดแย้งกันอยู่ เราก็ไม่ควรที่จะมาด่วนตัดสิน
แต่ท่านอุมัรใช้ให้ทำ 20 รอกะอัต(ซึ่งท่านนบีไม่เคยทำตามทัศนะของ อ.ฟารูก) ท่านอูมัรเรียกมันว่าเป็นบิดอะห์ที่ดี
และท่านนบี ซล.เรียกมันว่าเป็น ซุนนะห์ของคอลาฟะห์อัรรอซีดีน ก็เป็นคำสั่งที่อยู่ในกรอบที่ท่านนบี ซล.กล่าวไว้ว่า"จงทำตามซุนนะห์ของฉันและซุนนะห์ของคอลาฟะห์อัรรอซีดีน ไม่ใช่หรือครับ? ในการกระทำอีบาดะห์ที่สมบูรณ์เราจะมาเทียบระหว่างสมัยปัจจุบันกับสมัยท่านนบี ซล.และตาบีอีนไม่ได้หรอก เพราะท่าน รอซูลย่อมทราบดีว่าในสมัยหลังจากท่าน จะมีการนำศาสนาไปปฎิบัติอย่างไม่ถูกต้อง แต่ถึ่งอย่างไรก็ตามเราก็ต้องพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งที่คลุมเคลือให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นในความคิดเห็นของผม การตีความนั้นหาก หะดิษ หรืออายาต ได้มีมาและทำให้เราเข้าใจในบทนั้นแล้ว เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตีความให้เพิ่มเติมหรือลดลงอีก
ผิดพลาดประการใดขอมาอัฟด้วยนะครับ
wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
fais
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005
ตอบ: 84


ตอบตอบ: Wed Feb 22, 2006 12:55 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
konyakru
ผมเห็นบังยกแต่ฮาดีสที่ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็น10ๆรอบแล้วนะ สงสารท่านนบีบ้างเถอะบังอย่าได้ใส่ร้ายท่านเลยครับผมขอร้อง ฮาดีสทีท่านนบีกล่าวว่า
"كل بدعة ضلالة، وكل ضلالة في النار" [رواه النسائي في "سننه" (3/188 ـ 189) من حديث جابر بن عبد الله بنحوه،
ทุกบิดอะฮเป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดจะอยู่ในนรก"
.......
วิจารณ์
ให้รู้ด้วยว่าคนผู้นี้เมื่อได้เห็น" ฮาดิษ "บ่อยๆ แล้ว จิตใจจะว้าวุ้น
............
konyakru
ถามจริงๆเถอะ ฮาดีสที่บังยกมานั้นบังอยู่ในเหตุการ์ณหรือไม่
..................
วิจารณ์
เป็นคำถามที่โง่ที่สุด... คุณคงจะอยู่ในเหตุการณ์มั่งที่พูดออกมาอย่างนี้
.....
konyaru
และพอผมถามกลับไปว่า ไหนละหลักฐานจากท่านบี ว่า
สิ่งที่บรรดาอุลามะแบ่งบิดอะ เป็น2 หรือ5นั้น มันผิด และท่านนบีไม่ยอมรับ
..........
ตอบ
โง.จริงๆด้วย ....มีหลักฐานมั้ยที่ท่าน นบี ซล.ทรงห้ามไม่ให้เฟ้ากูโบร์หรือละหมาด อีซา 5 รอกาอัต ?

ท่าน อาลี(รฎ)กล่าวว่า"หากปรากฎว่าศาสนาขึ้นอยู่กับสติปัญญาแล้วไซร้ แน่นอนยิ่งด้านล่างของรองเท้าคุฟนั้นสมควรเช็ดมากกว่าด้านบน(แต่) ฉันเห็นท่านรอศูล ซล.เช็ดรองเท้าคุฟทั้งสองข้างของท่านทางด้านบน"(ศอเฮียะ เศาะเฮียะหุสุนะนีอะบีดาวูด 1/53-162) เป็นหลักฐานเพียงพอมั้ยที่ชี้ให้เห็นว่าท่าน ซอฮาบัต เคร่งในเรื่องของ อิตตีบะอํ

ขอถามว่าทำไม่ท่านนบี ซล.ได้ทรงเคร่งในการสั่งให้ตาม ซุนนะห์ของท่านและซุนนะห์ของ ซอฮาบัต และให้กัดด้วยฟันกราม ...เป็นหลักฐานเพียงพอมั้ยที่จะมาป้องกันการกระทำบิดอะห์ คุณจะเรียกบิดอะห์ฮาซานะห์หรือซุนนะห์ของซอฮาบัตก็ได้ มันไม่สำคัญเท่ากับการกระทำ จะเห็นได้ว่า อะฮลิลกาลามชอบพูดถึ่งเรื่องนิยามของคำ
มากกว่าด้านปฎิบัติและเราก็คล้อยตาม ถ้าจะมาเทียบเรื่องหลักฐานผมและบังฮาสันไม่ได้อยู่ในห้องสมุดย่อมจะหาหลักฐานได้โดยไม่ง่ายและไม่ค่อยมีเวลาเพราะเราต่างคนก็มีงานทำประจำ ซึ่งต่างกับบรรดานักศึกษาเพราะว่านี่ก็คือการศึกษาอย่างหนึ่งที่จะเป็นคำตอบในการสอบได้ ส่วนคำตอบในกูโบร์นั้น อัลกุรอ่านและอัซซุนนะห์นะครับ
คุณครับช่วยยกตัวอย่างที่คุณบอกว่าเป็นบิดอะห์ฮาซานะห์มาซิครับและผมจะพยายามหาหลักฐานมาสนับสนุนหรือค้าน เราจะมาพูดถึ่งคำนิยามและจะยกตัวอย่างจากบรรดาอูลามะห์เป็นปีก็ไม่จบนะครับ และอีกอย่างผมคิดว่าแค่นี้ท่านผู้อ่านที่ติดตามอยู่คงจะได้รับมากกว่าความเข้าใจเสียอีกนะครับ
ค่อยๆตอบนะครับคนอยากรู้ และถ้าผิดพลาดประการใดขอมาอัฟด้วยนะครับ
wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
fais
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005
ตอบ: 84


ตอบตอบ: Wed Feb 22, 2006 1:04 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
azhary
คือบังอะสันพยายามพูดเกี่ยวกับบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง โดยไม่เกี่ยวข้องกับบิดอะฮ์ที่หะสะนะฮ์ ซึ่งดูเหมือนว่า หากบังอะสันพูดเรื่องบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงแล้ว มันก็จะรวมไปถึงบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ด้วย ซึ่งความจริงแล้วมันคนละประเด็นกันเลยครับ
.....
ความเห็น
ท่านนบีกล่าวว่า ทุกบิดอะห์คือความลุ่มหลง แต่คุณมาบอกว่า ไม่ใช่ มันมีบิดอะห์ที่ดีไม่ใช่ลุ่มหลงอย่างเดียว มันก็น่าคิดนะครับว่า ทำไมท่านนบีถึ่งกล่าวว่า ทุกๆบิดอะห์แต่ไม่ได้กล่าวว่า บางบิดอะห์ และผู้คนในสมัยนั้น
ต่างอิตตีบะอํตามท่านโดยไม่มีปัญหา เมื่อมาในยุคของเราเพิ่งจะมาเถียงกันทำไมละครับ ศาสนาที่ท่านรอซูล ซล.ได้นำมา ซอฮาบัตและตาบีอีนก็ อิตีบะอํตามท่านอย่างไม่มีปัญหา
ผมคิดว่าในการอีบาดะห์นั้นทุกอย่างท่านนบี Solallah .ได้สอนและทิ้งหลักฐานให้เราเพื่อ อิตตีบะอํอย่างชัดเจนและละเอียด จะเห็นว่าแม้แต่การที่จะก้าวเดินอย่างไรเพื่อที่จะได้เป็นบุญ การเข้าห้องน้ำการออกจากห้องน้ำก็มีสอนมา อย่างที่ไม่มีศาสนาอื่นใดเลยที่จะสอนได้ละเอียดขนาดนี้ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าการทำอีบาดะห์นั้นถ้าไม่มีแบบอย่างจากท่านรอซูล Solallah แล้ว เราก็ไม่สมควรที่จะไปกระทำเพิ่มเติมหรือตัดออกที่มีอยู่แล้วจากเดิม ไม่อย่างนั้นปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับ อุมมะห์อิสลามในรุ่นต่อๆไปจะยิ่งเพิ่มขึ้นนะครับ
wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Wed Feb 22, 2006 3:31 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam คุณฟาอิส

***********ขออัลลอฮ์ทรงเปิดใจของคุณ...ให้ได้รับแต่ความดีที่ถูกต้องด้วยเถิด..อามีน.....

ฮาดีสนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมได้โอกาสตีศอกกลับคุณและพวกที่มีความคิดสุดโต่งได้เต็มแรงฮาๆ
ผมว่าคุณนั้นยังหลงประเด็นอยู่กับฮาดีสบทนี้จนกลายเป็นข้อพิพาท...

"كل بدعة ضلالة، وكل ضلالة في النار" [رواه النسائي في "سننه" (3/188 ـ 189) من حديث جابر بن عبد الله بنحوه،
ทุกบิดอะฮเป็นการหลงผิด และทุกการหลงผิดจะอยู่ในนรก"
.......
คุณวิจารณ์ ว่า........
ให้รู้ด้วยว่าคนผู้นี้เมื่อได้เห็น" ฮาดิษ "บ่อยๆ แล้ว จิตใจจะว้าวุ้น อยากจะหัวเราะให้ขาแพลงไปเลยครับ....ฮาๆๆๆๆๆๆๆ

Rolling Eyes อย่างนั้นหรือครับ คุณฟาอิส..ผมว่าคุณนั้นกำลังวนหาตัวเองไม่เจอแล้วนะ ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าจะวิจารณ์อะไร ก็ต้องศึกษาข้อมูลจากฝ่ายต่างทัศนะให้ละเอียดก่อน จริงๆแล้วคุณก็ยังวนและหลงกับประเด็นอยู่ดีนี้เอง

จะไม่ให้ผมเซ็งคุณเป็นคนที่2ได้อย่างไรละ...เมื่อพูดกี่ครั้งคุณก็วนไปวนมา...อยู่แบบนี้...
ทางที่ดีคุณน่ากลับไปอ่านสิ่งที่น้องอัลอัชฮารีย์เขาได้อธิบายจากตำราของอุลามะก่อนดีกว่า น้ะ
แม้ว่าคุณไม่ยอมรับตำรับตำราของบรรดาอุลามะต่างทัศนะเหล่านั้น...ก็ตามแต่ก็โปรดใช้วิจรณาญาณบ้าง ว่าสิ่งที่นักศึกษาเขานำมาถ่ายทอดให้เห็นนั้นมันมีทีมา ไม่ใช่เอามาจากอารมณ์นัฟซูอัมเราะ ส่วนตัวมาตัดสินด้วยตัวเอง.ฮาๆๆๆ
Very Happy ลาอิลาฮาอิ้ลลัลลอฮ์ คุณได้เอาลืมฮาดีส ที่.ท่านนบีกล่าวไว้และสั่งว่า.ให้พวกเราทรงเคร่งในการสั่งให้ตาม ซุนนะห์ของท่าน[U]และซุนนะห์ของ ซอฮาบัต และให้กัดด้วยฟันกราม .[/U]ดังนั้น ฮาดีสนี้คุณเอาไปวางไว้ตรงไหนละอย่าเลือกฮาดีสที่สนับสนุนข้างตัวเองฝ่ายเดียวซิครับ ท่านอุมัร(รด)เป็นซอฮาบะนะครับ และที่ท่าน

ใช้ให้ซฮฮาบะและคนอยู่ใต้ปกครองทำละหมาดตารอวิห์ 20 รอกะอัต ทั้งที่ท่านนบีไม่เคยทำ แต่ท่านอุมัร(รด)ให้กระทำ และท่านยังกล่าวว่า มันเป็น"บิดอะฮ์ที่ดี" ฉะนั้น ที่คำว่าบิดอะฮ์ ก็เพราะว่าท่านนบี(ซ.ล.)ไม่เคยทำละหมาดตะรอวิหฺในรูปแบบ 20 รอกะอัต แต่ที่ท่านอัลฟารุกใช้นั้นเป็นสิ่ง"ที่ดี" นั้น เพราะว่า อยู่ภายใต้หลักการที่ว่า การละหมาดตะรอวิหฺในเดือนรอมะดอน เป็นสิ่งที่ท่านนบีส่งเสริมให้ผู้คนกระทำ
----------คุณฟาอิสนะไม่น่าจะดูถูกหรือไม่ยอมรับฮาดีสนี้นะครับ--------------

หรือว่าคุณฟาอิสจะปฏิเสธสิ่งที่ท่านนบีให้ยึดถือตามฮาดีสนี้ก็ ขอให้ตอบมาด้วยละ
และผมขอถามอีกว่า...ทำไม่ท่านนบี ซล.ได้ทรงเคร่งในการสั่งให้ตาม ซุนนะห์ของท่านและซุนนะห์ของ ซอฮาบัต และให้กัดด้วยฟันกราม ..ด้วยละ เห็นไม่ว่าคุณฟาอิสยังหลงประเด็นอยู่ดีนั้นเอง Razz ผมบอกแล้วไงต้องศึกษาให้รอบคอบก่อน
ไม่ใช่นั้นจะกลายเป็นว่าตัวเอง โง่และจมปลักกับความเข้าใจที่ผิดๆมาตลอด ฮิๆๆๆ
ที่ผมนำมา.เป็นหลักฐานเพียงพอหรือไม่ที่จะมาป้องกันว่าเราไม่ได้กระทำการกระทำบิดอะห์แบบลุ่มหลงเหมือนที่เหล่าคุณวาฮะบีย์ทั้งหลายจะเรียกใส่ร้ายเราจนทุกวันนี้....และตลอดกียามัต
............

คุณว่าkonyakru
ถามจริงๆเถอะ ฮาดีสที่บังยกมานั้นบังอยู่ในเหตุการ์ณหรือไม่
..................
วิจารณ์
เป็นคำถามที่โง่ที่สุด... คุณคงจะอยู่ในเหตุการณ์มั่งที่พูดออกมาอย่างนี้ Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad

Razz ก็เพราะการใส่ร้ายป้ายสีของพวกคุณนี้แหละที่ชอบอ้างว่า ท่านนบีมาบังหน้าหมายถึง ว่าฮาดีสนี้ท่านบีกล่าวว่าบิดอะมีอย่างเดียว เลยไม่ได้นึกถึงการกระทำของศอฮาบะของท่านนบีที่ท่านรับรองไว้ ว่าหลังจากที่ท่านจากไปแล้วมีอะไรหลายๆอย่างที่ศอฮาบะของท่านนบีเหล่านั้นได้กระทำไว้ ทั้งที่ไม่เคยมีในสมัยท่านนบี..............
ผมว่าคุณกลับไปศึกษานิยาม ในคำว่า บิดอะใหม่ก่อนเถิด..แล้วค่อยมาว่ากัน....
Idea เอางี้แล้วกัน นะผมจะยกตัวอย่างจากประทานุกรมอาหรับฉบับต่างๆมาให้ดูบ้างแต่ไม่รู้ว่าคุณจะยอมรับอีกไหม
1.ประทานุกรมอัลมูหีต เล่มที่3 หน้าที่3 ขยายความคำว่าบิดอะไว้ดังนี้...
บิดอะฮ์ คือกิจกรรมที่เป็นอันดับแรก
2.จากประทานุกรมมุคตารุสซอลา หน้า379 บอกว่า บิดอะฮ์คือ สิ่งที่ถูกประดิษฐ์มันขึ้นมาโดยไม่มีตัวอย่างหรือแบบอย่างมาก่อน(ในรากฐานของศาสนา)

3.ประทานุอัลมุนยิด กล่าวว่า...บิดอะฮ์คือสิ่งที่ถูกเริ่มขึ้นมาโดยไม่มีแบบอย่างมาก่อน
4.ประทานุกรมอัลมุตะมัด ขยายความว่า
บิดอะฮ์คือ กิจกรรมที่ถูกประดิษฐ์และริเริ่มมันขึ้นมาโดยไม่มีตัวอย่าง...

มาถึงตรงนี้คุณฟาอิสต้องหัดเปิดใจแล้วนะเพราะเราก็ต่างยึดถือประทานุกรมเล่มดังกล่าวด้วยกัน
ผมว่าคุณไม่กล้าปฏิเสธแน่กับหลักฐานการให้ความหมายนี้ และที่ท่านอุมัร(รด)กระทำไปนั้น
ผมขอถามคุณว่า คุณกล้าที่จะใส่ร้ายท่าน อัลฟารุกหรือว่า ทำบิดอะอ์ ตรงนี้คุณคงคิดหนักและต้องกลับไปทำการบ้านใหม่นะ ฉนั้นอย่าเพียงแต่นึกอะไรมาแล้วยกมาสนับสนุนทัศนะตัวเองให้อยู่รอดไปวันๆนะครับ ชาวบ้านเขาตื่นตัวกันนานแล้วครับ ไม่ได้ผลหรอกครับที่จะไปฮูกมเขาว่าทำบิดอะฮ์....แต่ถ้าบิดอะฮ์ที่ฎอลาละอันี้ผมไม่เหก็นด้วยอยู่แล้ว..
.....
konyaru
และพอผมถามกลับไปว่า ไหนละหลักฐานจากท่านบี ว่า
สิ่งที่บรรดาอุลามะแบ่งบิดอะ เป็น2 หรือ5นั้น มันผิด และท่านนบีไม่ยอมรับ
..........
ตอบ
โง.จริงๆด้วย ....มีหลักฐานมั้ยที่ท่าน นบี ซล.ทรงห้ามไม่ให้เฟ้ากูโบร์หรือละหมาด อีซา 5 รอกาอัต ?

......อัลลออ์อักบัซร์คุณนี้ เป็นคน จิตวิปริตหรือไงครับ

ระหว่าการเฝ้ากุโบร์ นั้นท่านนบีอาจจะทำหรือไม่ได้ทำ ตรงนี้ไม่ชัดเจน..แต่ท่านได้มีกล่าวบ้างไหมว่า ห้ามเราๆท่านเยี่ยมกุโบร์ หรืออ่านกรุอานให้กับมัยยัตเหล่านั้น ผมมีหลักฐานนะว่ามีบรรดาศอฮาบะท่านนบีได้กระทำกันมากมาย แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำมา นั้นเเนะ ไม่ต้องหัวเราะเยาะครับ

ผมเตรียมไว้ตอบโต้การใส่ร้ายของท่านและสหายที่มีต่อศอฮาบะท่านนบีไว้เพียบแล้วครับ

ก็บอกแล้วไง แนวทางของอัชชาฟีอีนั้นเปิดกว้างครับไม่ใจแคบและขี้เหนียวเหมือนวะฮาบีย์ครับ และก็เชื่อและในเตาฮีดต่ออัลลอฮ์(ซบ)และการเป็นนบีของท่านศานทูตของท่านมูฮำมัด(ซล) และยังยอมรับการการทำที่เป็นอัซซุนะและให้ความรู้จากบรรดา
ซอฮาบะและอุลามะถัดมาด้วย.... แต่ท่านอย่าได้เอาไปโยงกับเรื่องหลักเตาฮีดอีกละว่าเรานั้นศรัทธาต่อบรราดศอฮาบะและอุลามะเหมือนกับศรัทธาต่ออัลลออ์และรอซู้ล คนละประเด็นกัน ..
ผมละเคยเจอ ตำราบางเล่มที่โจมตีเล่นโยงใยมั่วกันไปหมด แยกไม่ออกว่าสิ่งที่เขานำเสนอมานั้น เป็นวิชา ด้านเตาฮีดหรือฟิกฮ์หรือตะเซาวุฟ เพราะปนเปกันหมด อย่างนี้ไม่ถูกนะครับ
วิชาอัลลกรุอ่านนั้น มีถึง104วิชานะครับ
เรื่อการกำหนดละหมาดอีฉาเป็น 5 รอกะอัตนี้ ถือว่าเป็นบิดอะที่ผิดอย่างมากครับ อย่าเอามามั่วซิครับ คุณฟาอิส และผมไม่เห็นใครที่ยกตัวอย่างพิเรนๆเช่นคุณเลยนะ มาแปลก....
อย่างนี้มันไม่เรียกว่าโง่อย่างเดียวกับแต่ต้องเรียกว่า โคตรโง่พันธ์แท้เลยครับบอดอซูปอ กาเม็งนะเนี๊ยะ คั๊กๆๆๆ

คุณยกฮาดีสที่ว่าครับ
...ท่าน อาลี(รฎ)กล่าวว่า"หากปรากฎว่าศาสนาขึ้นอยู่กับสติปัญญาแล้วไซร้ แน่นอนยิ่งด้านล่างของรองเท้าคุฟนั้นสมควรเช็ดมากกว่าด้านบน(แต่) ฉันเห็นท่านรอศูล ซล.เช็ดรองเท้าคุฟทั้งสองข้างของท่านทางด้านบน"(ศอเฮียะ เศาะเฮียะหุสุนะนีอะบีดาวูด 1/53-162) เป็นหลักฐานเพียงพอมั้ยที่ชี้ให้เห็นว่าท่าน ซอฮาบัต เคร่งในเรื่องของ อิตตีบะอํ

Embarassed อันนี้ผมไม่ได้เเย้งคุณนะและก็ไม่มีใครค้านฮาดัสนี้ด้วยซิครับ

Crying or Very sad เฮ้อเหนื่อยใจเป็นครั้งที่99 พี่น้องวะฮาบีย์และพี่น้องร่วมทัศนะทั้งหลายครับ...ผมยังจำได้ในกระทู้เก่าๆของคุณที่เคยกล่าวว่า ในส่วนตัวคุณและสหายนั้นไม่มีอคติต่อมัสหับทั้ง4 ไม่ว่าอีหม่ามท่านใด..แถมคุณฟาอิสเองยังเคยอยู่ทัศนะของอีหม่ามชาฟีอีมาก่อน แต่ผมคิดว่าไม่จริงหรอกครับที่ว่าเคยอยู่ในทัศนะนี้มาก่อน นอกจากเรียนไม่ถึงจุดแก่นแท้เท่านั้นเลยเปลี่ยนเข็มทิศ..ฮาๆๆๆ คุฯฟาอิสครับ
Evil or Very Mad สิ่งทีผมยกมานี้ท่านอิหม่ามชาฟีอีกล่าวว่า..........
.
บิดอะฮ์นั้นมี2ประเภท คือบิดอะฮ์ที่ดีและบิดอะที่เลว สิ่งใดที่มันสอดคล้องกับซุนนะ(คือทั้งซุนนะท่านนบีและซุนนะซอฮาบะ)นั้นคือ บิดอะฮ์ที่ดี และสิ่งใดที่มันขัดแย้งกับสิ่งดังกล่าว นั้นคือบิดอะที่เลว จากหนังสือ ฟตหุลบารี เล่ม 17 หน้า 10

เมื่อถึงตรงนี้คุณจะเบี่ยงเบนเฉไฉไปไหนไม่ได้อีกนะ ถ้าคุณเบี่ยงเบนประเด็นนี้ถือว่าคุณไม่ยอมรับความรู้ของท่านอัชชาฟีอีและอุลามะผู้รู้....ผมถือว่า คุณ นั้นหมดความน่าเชื่อถือในตัวคุณเองทันที...ถ้ายังเล่นลิ้นกลืนน้ำลายตวัเองได้ลงคอ ....

คุณฟาอิสถามผมว่า
คุณครับช่วยยกตัวอย่างที่คุณบอกว่าเป็นบิดอะห์ฮาซานะห์มาซิครับและผมจะพยายามหาหลักฐานมาสนับสนุนหรือค้าน เราจะมาพูดถึ่งคำนิยามและจะยกตัวอย่างจากบรรดาอูลามะห์เป็นปีก็ไม่จบนะครับ และอีกอย่างผมคิดว่าแค่นี้ท่านผู้อ่านที่ติดตามอยู่คงจะได้รับมากกว่าความเข้าใจเสียอีกนะครับ

Wink ตอบครับ...ท่านอีหม่ามชาฟีอี(รฮ).ได้เขียนในหนังสือนิยามบิดอะฮาซานะคือ กิจกรรม ทางศาสนา กิจกรรมที่ดีและไม่ขัดกัลอัลกรุอ่านอัซซุนนะ และลักษณะของการกระทำของบรรดาอัครสาวก โดยที่ปวงปราวญ์ได้ลงมติเห็นด้วยแล้ว..
ดังนั้นคุณฟาอิสและสหายจึงไมน่าด่วนตัดสินว่า ทุกอย่างนั้นคือบิดอะฮ์ทั้งหมดไม่ว่ารูปแบบใดๆ
แต่ทางืดีต้แองดูว่าสิ่งเหล่านั้นมันขัดกับอัลกรนุอานหรืออัซซุนะหรือไม่...
ค่อยๆตอบนะครับคนอยากรู้ และถ้าผิดพลาดประการใดขอมาอัฟด้วยนะครับ .

สุดท้ายนี้ คำถาม อจ.อัลฟารุกข้างบนและของน้องอัลอัชฮารีย์ข้างล่างนั้นสักเดียวน้องก็คงเข้ามา
ตอบและชี้แจงสิ่งที่คุณฟาอิสยังศึกษาไม่ละเอียดเองนะครับ

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Wed Feb 22, 2006 5:11 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ่านมา 2 กระทู้แล้ว เจอแต่

หลักฐานห้ามอุมมะฮ์ทำบิดอะฮฺ

ซีกครูอะสัน กับคณะ (ใหม่) จะเน้นหนักในการเสนอหลักฐานห้าม

ซีกนักศึกษาอัซฮาร กับคณะ (เก่า) ก็แก้โดยการตีความทางภาษา

ทางที่ดีควรเสนอหลักฐานที่อนุญาติด้วย จะทำให้การเสนอมีน้ำหนัก

เพราะว่า การแก้ในแง่ภาษาโดยอาศัยคำจำกัดความ บวกกับอ้างทัศนะอุละมาอ์ที่แบ่งบิดอะฮฺเป็นหลายอย่าง

มันหักล้างหลักฐานไม่ได้

จึงอยากถามทีมนักศึกษาอัซฮารว่า

หลักฐานอนุญาตให้อุมมะฮ์ทำบิดอะฮฺมีใหม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Feb 22, 2006 5:43 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

น้องนักศึกษาไคโรและทีมงานครับ

ถ้า เวียนไปเวียนมาอยู่อย่างนี้ โต้กันไปมาก็วกกลับมาที่เดิม มันไม่จบ ขอย้ำ สัก 1 ล้านครั้ง ว่า สิ่งที่เป็นบิดอะฮในทางศาสนานั้น เป็นการหลงผิด และ อย่าเอาสุนนะฮของเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน มาอ้างเพื่อสนับสนุนบิดอะฮ เพราะ สุนนะฮ เคาะลิฟะอ คือ สิ่งที่ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สอนให้ปฎิบัติตาม (อันนี้บอกไปหลายครั้งแล้ว ) เพราะฉะนั้น สรุปได้ว่า ในเรื่อง ศาสนานั้น หากไม่มีใน อัล-กุรอ่าน และอัสสุนนะฮ มันไม่ใช่ศาสนา เสียเวลา ที่จะเอามันมารกสมอง
ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
"إن خير الحديث كتاب الله، وخير الهدي هدي محمد صلى الله عليه وسلم، وشر الأمور محدثاتها، وكل بدعة ضلالة". {مسلم: 867

แท้จริง คำกล่าวที่ดีเลิศคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ และทางนำที่ดียิ่ง คือทางนำของมุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม บรรดากิจการที่ชั่ว คือ สิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่(ในศาสนา) และทุกบิดอะฮ เป็นการหลงผิด - รายงานโดยมุสลิม (หะดิษหมายเลข 867)
ดังนั้น มันจำเป็นอะไรหรือครับ ที่พวกคุณพยายามคิดบิดอะฮขึ้นมาเพิ่มเติม ในศาสนาซึ่งมันสิมบูรณ์อยู่แล้ว ขอกล่าวถึงพระดำรัสของอัลลอฮ(ซ.บ)อีกครั้ง

ٱلْيَوْمَ أَكْمَلْتُ لَكُمْ دِينَكُمْ وَأَتْمَمْتُ عَلَيْكُمْ نِعْمَتِى وَرَضِيتُ لَكُمُ ٱلإسْلاَمَ دِيناً} [المائدة: 3].

วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งศาสนาของพวกเจ้าและข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้ยินยอมอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว
อิหม่ามอัชเชากานีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

فإذا كان الله قد أكمل دينه قبل أن يقبض نبيه صلى الله عليه وسلم، فما هو الرأي الذي أحدثه أهله بعد أن أكمل الله دينه، إن كان من الدين في اعتقادهم فهو لم يكمُل عندهم إلا برأيهم، وهذا فيه ردٌّ للقرآن، وإن لم يكن من الدين فأي فائدة بالاشتغال بما ليس من الدين؟!

แล้วเมื่อปรากฏว่า อัลลอฮทรงได้ให้ศาสนาของพระองค์สมบูรณ์แล้ว ก่อนที่ทรงเอาชีวิตท่านศาสดาของพระองค์ศ็อลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ดังนั้นสิ่งที่เป็นความคิดเห็น ที่นักแสดงความคิดเห็น อุตริขึ้นมา หลังจากที่อัลลอฮทรงให้ศาสนาของพระองค์สมบูรณ์แล้ว หากมันเป็นส่วนหนึ่งจากศาสนา ตามความเชื่อของพวกเขา ดังนั้นมันเท่ากับว่า ในทัศนะของพวกเขานั้น มันยังไม่สมบูรณ์ นอกจาก ด้วยความคิดเห็นของพวกเขา(มาเสริมให้สมบูรณ์) และนี้คือ การปฏิเสธอัลกุรอ่าน และถ้าหากมันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของศาสนา แล้วประโยชน์อะไร ที่จะไปสาละวน(ไปเสียเวลา)อยู่กับสิ่ง ซึ่งไม่ใช่ศาสนา ? - القول المفيد من الرسائل السلفية (ص3

มีสิ่งที่ดีอะไรอีกหรือ ที่ท่านนบี ศ็อลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ปิดบังพวกคุณ ไม่ได้บอกให้พวกคุณทราบ ท่านนบี ศ็อลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

((إنه لم يكن نبي قبلي إلا كان حقاً عليه أن يدل أمته على خير ما يعلمه لهم وينذرهم شر ما يعلمه لهم)).

แท้จริง ไม่ปรากฏว่ามีนบีท่านใดที่มาก่อนฉัน นอกจาก เป็นหน้าที่เหนือเขา จะต้องแนะนำอุมมะฮของเขา ซึ่ง ความดีงามของสิ่งที่มันถูกสอนเอาไว้แก่พวกเขา และ เขาจะต้อง เตือนอุมมะฮของเขา ซึ่งความชั่วของสิ่งที่มันได้ถูกสอนไว้แก่พวกเขา – รายงานโดย มุสลิม

نقل ابن الماجشون عن مالك - رحمه الله - أنه قال: من ابتدع في الإسلام بدعة يراها حسنة، فقد زعم أن محمداًصلى الله عليه وسلم خان الرسالة، لأن الله تعالى يقول: -اليوم أكملت لكم دينكم- فما لم يكن يومئذ ديناً فلا يكون اليوم ديناً -الاعتصام للشاطبي 1/111

อัล-มาญิชูน ได้รายงานจาก มาลิก (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)ว่าแท้จริง เขาได้กล่าวว่า “ผู้ใดอุตริบิดอะฮในอิสลาม โดย เห็นว่าดี แน่นอน เขาเข้าใจผิดว่า มุหัมหมัด ศ็อลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่ซื่อสัตย์ต่อสาส์นของพระเจ้า เพราะว่า แท้จริง อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

(วันนี้ เราได้ให้ศาสนาของพวกเจ้าสมบูรณ์สำหรับพวกเจ้าแล้ว) ดังนั้น สิ่งใดที่ไม่ใช่ศาสนาในวันนั้น ในวันนี้ มันก็ไม่ใช่ศาสนา – อัลเอียะติศอม ของอัชชาฏิบีย์ เล่ม 1 หน้า 111

وقال ابن القيم - رحمه الله: الأصل في العبادات البطلان حتى يقوم دليل على الأمر -إعلام الموقعين 1/443
และอิบนุกอ็ยยิม ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน กล่าวว่า “ หลักเดิมในเรื่องอิบาดะฮนั้น เป็นโมฆะ จนกว่าจะมีหลักฐานใช้ให้กระทำ – เอียะลามอัลมุวักเกาะอีน เล่ม 1 หน้า 443
…………….
ข้างบนคือ จุดยืนของผม คุณ ฟาอิซ และ ทีมงานเว็บนี้ ที่คุณไม่มีวันเปลี่ยนได้ และ บังขอบอกว่า อย่าให้เรากลับไปเผยแผ่เรื่องบิดอะฮอีกเลย ครับ รักทุกคนครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Thu Feb 23, 2006 6:04 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อิบนุเราะญับกล่าวอีกว่า

فكل من أحدث شيئاً ونسبه إلى الدين ولم يكن له أصل من الدين يرجع إليه فهو ضلالة، والدين برئ منه، وسواء في ذلك مسائل الاعتقادات أو الأعمال أو الأقوال الظاهرة والباطنة.

แล้วทุกคนที่อุตริสิ่งใดขึ้นมา แล้วนำไปอ้างว่าเป็นศาสนา ทั้งๆที่ไม่ได้มีที่มาในศาสนา ที่จะกลับไปหามัน มันคือ การหลงผิด โดยที่ ศาสนา นั้น เป็นอิสระจากเขา ในเรื่องดังกล่าวนั้น ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ อะกีดะฮ หรือ การปฏิบัติ หรือ คำพูด ที่ให้ความหมายแบบผิวเผิน และแบบภาย"

ท่านอิบนุหาญิบว่า "บรรดาคำพูดที่ออกมาโดยความหมายแบบภายนอกผิวเผิน" นั้นเป็นบิดอะฮ์ฏ่อลาละฮ์ที่ลุ่มหลง!!! ซึ่งคำกล่าวของ ท่านอิบนุ รอญับนี้ มันหมายถึงหลักการของวะฮาบีย์ ที่พรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์แบบความหมายภายนอกแบบผิวเผิน ดูซิครับ อุลามาอ์ที่วะฮาบีย์นำมาอ้างสนับสนุนแนวทางของตนนั้น คืออุลามาอ์ที่หุกุ่มว่า อะกีดะฮ์วะฮาบีย์เป็นบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง!! แล้ววะฮาบีย์ไม่กลับไปพิจารณาตนเองก่อน ที่จะไปพิจารณาผู้อื่นหรือครับ


ดังนั้น บิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง ย่อมหมายถึง บิดอะฮ์ในด้านการปฏิบัติ และบิดอะฮ์ในด้านการเอี๊ยะติก๊อต สำหรับบิดอะฮ์ในเชิงปฏิบัตินั้นที่วะฮาบีย์กล่าวหานั้น ตอนนี้พวกเขากำลังเป็นศรัตรูกับความไม่รู้ (ความโง่) สนทนามากันตั้งนาน วะฮาบีย์ก็พยายามที่จะพูกเกี่ยวกับข้อปลีกย่อย เพื่อจะหลีกเลี่ยงการสนทนาเรื่องบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ซึ่งมีหลักฐานที่มีน้ำหนัก บังคนอยากรู้ครับ ตอนนี้วะฮาบีย์เขากำลังเป็นศัตรูกับความโง่เขลาอยู่ เขาจึงพูดเยาะเย้ย เรื่องปัญหาข้อปลีกย่อย ซึ่งเมื่ออุลามาอ์วะฮาบีย์หุกุ่มแนวทางอื่นว่าบิดอะฮ์ ผู้ที่เจริญรอยตามแนวทางของวะฮาบีย์นั้น ก็คิดว่า ต้องไม่มีหลักฐานมายืนยันแล้วแน่ๆ พูดง่ายๆก็คือ ผู้เจริญรอยตามวะฮาบีย์ถูกปิดหูปิดตา ห้ามไปยอมรับหลักฐานแนวทางอื่น อย่างเช่นเรื่องกุนูต วะฮาบีย์ถูกปิดหูปิดตามานาน ปกปิด หมกเม็ดส่วนสำคัญ แต่มันก็ถูกเปิดเผยข้อเท็จจริง ใหนวะฮาบีย์จะยกคำกล่าวของ ท่านอิบนุมัสอูดในเรื่องการล้อมวงทำการซิกิร แล้วมาหุกุ่มอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ว่า ทำบิดอะฮ์ และเรื่องข้อปลีกย่อยอื่นๆนั้น เราจะทำการสนทนาแน่นอนครับ อินชาอัลเลาะฮ์ สงสัยเหตุการณ์จะซ้ำรอยเหมือนเรื่องกุนูต แต่ตอนนี้ วะฮาบีย์ก็เป็นศรัตรูกับความโง่เขลาไปพลาง

ส่วนเรื่องบิดอะฮ์ในทางอากิดะฮ์นั้น วะฮาบีย์โดนเต็มๆ ความจริงแล้ว หากเราทำการสนทนาไปอีกสักพัก เรื่องอากิดะฮ์ของวะฮาบีย์ก็จะถูกเปิดโปรงความบิดอะฮ์แน่นอนครับ แต่ อ.ฟาริด เล็งเห็นถึงอากิดะฮ์ที่บิดอะฮ์ของวะฮาบีย์จะถูกเปิดโปรง จึงสั่งปิดเสียก่อน โดยอ้างแบบน้ำขุ่นๆว่า "วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องของอัลเลาะฮ์" จึงต้องสั่งปิด ทั้งที่เราสนทนาในเชิงวิชาการทั้งสิ้น โดยไม่มีการโกหกบิดเบือนเลย แต่ความจริงแล้ว เราวิจารณ์ผู้ที่กล่าวพรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ในแนวทางที่บิดอะฮ์มากกว่า และเราเองก็ยกตำราจากหนังสือ อิบนุตัยมียะฮ์ อิบนุก๊อยยิม อัลบานีย์ มาอ้างอิง แล้วมันบิดอะฮ์ตรงใหน ? หากตำราอุลามาอ์ของวะฮาบีย์ไม่บิดอะฮ์ แล้วทำไมเมื่อเราจะยกมาอ้างอิง ถึงต้องถูกห้าม หรือว่าตำราเหล่านั้น มีเรื่องบิดอะฮ์อยู่ด้วย การยกอ้างก็เลยเป็นบิดอะฮ์ไปด้วย อ.ฟาริดครับ ท่านกล้ายืนยันใหมว่า หนังสือของอุลามาอ์วะฮาบีย์ไม่มีเนื้อหาอะกีดะฮ์ที่บิดอะฮ์ ? หากท่านตอบว่ามีบิดอะฮ์อยู่ด้วย ท่านก็ควรนำมาเสนอเพื่อให้คนอื่นระวัง แต่หากท่านตอบว่าไม่มีบิดอะฮ์ แล้วท่านห้ามเรานำเสนอทำไมครับ ? ขอไม่บิดอะฮ์ แต่หากนำมาเสนอนั้น มันเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในการสนทนาด้วยหรือครับ ? ท่าน อ.ฟาริด อ้างคำกล่าวของอิมามมาลิก ที่ว่า "การถามเรื่อง อิสติวาอ์นั้น บิดอะฮ์" เลยห้ามให้ทำการสนทนาเรื่องเตาฮีด นี่ขนาดถามเรื่องอิสติวาอ์นั้น เป็นบิดอะฮ์นะครับ แล้วตำราอุลามาอ์ที่กล่าวว่า จักรวาลทั้งหมดอยู่ในกำมือของอัลเลาะฮ์ ที่เสมือนกับเศษธุลีที่อยู่ในกำมือ ซีฟัตนิ้วเป็นส่วนหนึ่งจากซีฟัตมือ เป็นต้น อธิบายแบบนี้เป็นบิดอะฮ์ใหมครับ ? แค่ถามเรื่องอิสติวาอ์ยังเป็นบิดอะฮ์ แล้วอธิบายซีฟัตของอัลเลาะฮ์ กลับไม่เป็นบิดอะฮ์หรือครับ ? น้ำที่สะอาดนั้น หากเหล้าหนึ่งหยดตกลงไปก็เป็นนะญิสแล้ว ต้องเททิ้งไปเลยครับ เพราะมันเป็นบิดอะฮ์ ซึ่งมันเป็นกรณีเดียวกันครับ การวิจารณ์หนังสือเล่มเขียวของพี่น้องดะวะฮ์นั่นแหละครับ

สิ่งที่ผมกล่าวมานี้ มันเป็นความอัดอั้นในใจนะครับ ยังไง ก็อยากปิดกระทู้นี้ เนื่องจากตัวผมเลยนะครับ เนื่องจาก อัล-อัซฮะรีย์ และคุณ อัล-ฟารูก เขาต้องการพูดในเชิงฟิกห์ นะครับ เรามาเข้าเรื่องกันสักหน่อยดีกว่า

คุณอะสันกล่าวว่า

น้องนักศึกษาไคโรและทีมงานครับ

ถ้า เวียนไปเวียนมาอยู่อย่างนี้ โต้กันไปมาก็วกกลับมาที่เดิม มันไม่จบ ขอย้ำ สัก 1 ล้านครั้ง ว่า สิ่งที่เป็นบิดอะฮในทางศาสนานั้น เป็นการหลงผิด และ อย่าเอาสุนนะฮของเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน มาอ้างเพื่อสนับสนุนบิดอะฮ เพราะ สุนนะฮ เคาะลิฟะอ คือ สิ่งที่ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สอนให้ปฎิบัติตาม (อันนี้บอกไปหลายครั้งแล้ว )

ผมขอกล่าวว่า

คุณอะสันครับ ไอ้ผู้ที่วนไปวนมานะคือ วะฮาบีย์ ไม่ใช่ฝ่ายเรา คุณอะสันลองไปสำรวจการสนทนาที่ผ่านมาซิครับ แล้วจะรู้ว่า ประเด็นต่างๆที่เราได้นำเสนอในเชิงวิชาการนั้น มันมีหลายจุด ที่วะฮาบีย์ต้อง ชี้แจงให้กระจ่าง มิเช่นนั้น ทัศนะของเราก็ยังคงมีน้ำหนักอยู่เหมือนเดิม และสิ่งที่วะฮาบีย์อ้างอิงมานั้น เราวิจารณ์มันได้ทั้งหมด และหลักฐานที่เราวิจารณ์ไปนั้น คุณอะสันก็ยังยกมันมาอีกแบบวกไปวนมากับหลักฐานเดิมๆ ทั้งที่หน้าที่ของคุณอะสันและคณะวะฮาบีย์ทุกคนต้องทำก็คือ หักล้างคำวิจารณ์ของเราที่มีต่อหลักฐานนั้นๆ แต่วะฮาบีย์กลับหักล้างไม่ได้ ก็เลยยกหลักฐานแบบวกไปวนมา หากคุณอะสันจะสนทนาแบบในเชิงวิชาการจริงๆนั้น ก็ดูรูปแบบการสนทนาของเรานะ เพื่อจะได้รู้ว่า เราจะได้ไม่ตักลีดแบบตาบอด

บังคนอยากรู้ครับ ตอนนี้ คุณอัล-ฟารูก เป็นผู้สนทนานำ พวกเราจึงสนทนาเสริมตาม บังน่าจะทราบดีว่า คุณอัล-ฟารูกเขามีเวลาน้อย จึงเข้ามาบ่อยไม่ได้ การสนทนาจึงไม่ต่อเนื่องเหมือนกับที่น้องอัล-อัซฮะรีย์ได้เคยสนทนานำ ตอนนี้น้องอัล-อัซฮะรีย์ ก็ถือโอกาศพักนะครับ ส่วนผมนั้น ความจริงแล้ว ผมจะเข้ามาปราบ ไออาเอฟและผู้ที่ใช้นามว่า คนเดินผ่านนะครับ คือปราบความตะกับบุร โอ้อวด ของพวกเขานะครับ ผมเข้ามาก็ไม่เห็นไออาเอฟโผล่มา ก็เลยสนทนาได้ไม่มาก และไอ้กระผมเองนั้นก็รู้อยู่ว่า ใจร้อนนิดๆ ก็เลยดันไปวิจารณ์คำพูดของ อ.ฟาริด นิดหนึ่ง หวังว่าผมคงไม่เป็นเหตุต้องทำให้กระทู้ถูกปิดอีกนะครับ

และสิ่งที่ คุณฟาอิส คุณอะสัน คุณอะดีล นำเสนอแบบวกวนมานั้น ไม่เกินสัปดาห์ คุณอัล-ฟารูกก็คงเข้ามา นี่ก็ใกล้วันศุกร์แล้ว เขาก็คงเข้ามาแหละครับ อินชาอัลเลาะฮ์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Thu Feb 23, 2006 6:55 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เข้ามาแล้ว ผมก็ขอยกตัวอย่างบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงจากพวกวะฮาบีย์ที่ได้ทำการบิดอะฮ์ขึ้นมาแบบสดๆกันสักตัวอย่าง วะฮาบีย์(บางคน) กล่าวว่า

صلى الله وسلم على محمد بن عبد الوهاب

ซุบหานั้ลลอฮ์ !! คำซอละวาดนี้ใช้กับท่านนบี(ซ.ล.) แต่วะฮาบีย์บางคนนำมาใช้กับมุหัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ พี่น้องโปรดดูที่เวปวะฮาบีย์ต่อไปนี้


http://www.hdrmut.net/vb/showthread.php?t=184231
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Thu Feb 23, 2006 10:12 am    ชื่อกระทู้: มัสหับ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam คุณมูฮำมัด

สิ่งที่น้องพูดและนำเสนอจากเว็ปที่อ้างถึงนั้นเป็นความจริง ทุกประการเลยครับ... ตอนแรกบังเองเข้าใจว่าน้องพูดเล่น...อัลลอฮูอักบัซร์ นี่แหละโบราณเขากล่าวไว้ไม่ผิดว่า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ... ข้างนอกสดใส ข้างในเป็นโพรง... หน้าไหว้หลังหลอก ...ลิงหลอกเจ้า ...บิดอะฮ์อย่างนี้แหละน๊า ที่ชีอะห์มันถึงได้โจมตีนัก ..พูดถึงชีอะห์..รอมาดอนที่ผ่านมาบังได้ยินบ่อยกับนักวิชาการชีอะฮ์ออกมาพูดในทีวีช่วงตอนรุ่งโดย กล่าวซอลาวัตให้ท่านนบีว่า ซอลลอลลออ์ฮูอาลีฮีวาซัลลัม....

แต่พี่น้องที่รักทั้งหลายครับ บัดนี้ คำซอลาวาตท่านบีได้เปลี่ยนแปลงไปอีกแบบหนึ่งแล้ว...จากการบิดเบือนโดยเป็นบิดอะที่วะฮาบีย์เสริมแต่งครับ...คือ....คำๆนี้ครับصلى الله وسلم على محمد بن عبد الوهاب[/......และผมก็ยกหลักฐานที่น้องมูฮำมัดกล่าวถึงมาให้ชมกันจ่ะๆครับว่าเราแนวทางอัชชาฟีอี(รฮ)ไม่ได้ใส่ร้ายและฮูกมใครเป้นว่าเล่นครับ....

Rolling Eyes ดูกันให้เต็มตาครับ Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad ที่ผมมารค์คำเอาไว้ อย่างนี้ ขอถามผู้รู้น่อยเถอะว่า เข้าข่ายบิดอะฮ์ที่เลวหรือลุ่มหลงหรือไม่...ฮิๆๆๆๆๆๆ


صلى الله وسلم على محمد بن عبد الوهاب
يوجد بهذا الموضوع 94 تعقيب وقد تمت قرائته 4147 مرة/مرات
الصفحة 1 من 10 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 >

أدوات الموضوع

24-06-2005, 04:07 AM #1
محمد عمر
مكافحة الزندقة والهرطقة



المشاركات: 4,130
ضربت له 370 تحية في 206 مشاركة


تاريخ الإنضمام: Oct 2001
مستوى الشعبية: 6752 صلى الله وسلم على محمد بن عبد الوهاب

--------------------------------------------------------------------------------


شاهدت برنامج ( أسياد ومريدون ) في قناة العربية ...

فعادت بي الذاكرة إلى الوراء ... يوم كان السادة

الصوفية ...يستعبدون الناس ...ويستغلون اندفاعهم الفطري

إلى التدين ...ليوهموهم بأنهم أهل كرامات ...

وأن الرزق والحياة والموت ...والبركة ...تتوقف عند أـطراف شفاههم

وأنامل أصابعهم ...

================================

عادت بي الذاكرة إلى تلك الأيام الخالية ؛ حيث كان الصوفية

مسيطرين على ( عقول ) العامة ...ويسخرونها لصالحهم ومآربهم

الشخصية الخبيثة
...

==============================

تخيلوا :

في البرنامج : حشاشون ...وأصحاب سوابق ...ومجرمون عتاة ...

يطلب العامة منهم البركة ... والولد ...والشفاء من الأمراض ...

لم أتمالك نفسي حينها أن قلت :

صلى الله وسلم على محمد بن عبد الوهاب !!!

جزاه الله عن أمة محمد خير الجزاء !!!
التوقيع :
ومن نكد الدنيا على الحر أن يرى ... عدوا له ما من صداقته بدُّ
=================================

อจ.อัลฟารุค น้องอัลอัชฮารีย์ น้องมูฮำมัดครับ หลังจากที่อจ.ฟาริดปิดกระทู้ หลักอะกีดะอัสสลัฟซอและห์ภาคที่1แล้ว
Razz บังก็เปิดกระทู้ใหม่ และใช้ชื่อว่า หลักอะกีดะอัสสลัฟซอและห์ที่ถูกบิดเบือนโดยวาฮาบีย์ แต่มันมีอายุสั้นมากครับไม่เกิน 24 ชม.ครับถูกปิดอีกเป็นรอบที่2 บังก็ยังไม่ทราบสาเหตุเลยเพราะบังก็ไม่ได้ว่ากระทบกระทั่งต่อองค์อัลลอฮ์(ซบ)เลย อจ.ฟาริด คงจะอารมณ์ค้างกระมัง หลังจากที่คณะดาวะญามาอะตับลีฆเข้าพบและขอที่มัสยิดของอจ.เพื่อสอนและอบรม(บะยาน)ในคณะของเขา ซึ่งอจ.เขาไม่ยอม และถูกตามตื้อจากคณะดังกล่าว อจ.เลยใช้ไม้เด็ดเอาหนังสือเล่มเขียวที่ชื่อคุณค่าอาม้าล 999 ข้อมากางและสอนมวยพร้อมชี้ให้ดูบรรดาฮาดีสและสายรายงานทีมาของขั้นฮาดีสต่างๆพร้อมยกตัวอย่าง แต่ก็ไม่เป็นผลแต่ถูก คณะดาวะห์โต้กลับเฉยทำไมรู้ไม่ชี้... เลย...
ส่งผลมาที่พวกเรา ที่กำลังคุยเรื่องบิดอะฮ์
Laughing อจ.ฟารีดครับ ที่ผมเรียกนามสกุล อจ.เป็นชื่อนั้นขอมาอัฟด้วย ผมเข้าใจว่าอจ.เป็นคนเชื้อสายฝรั่งครับ โทษทีครับผม และคิดว่า อจ.ฟาริด คงไม่สั่งปิดกระทู้นี้อีกนะครับอิงชาอัลลอฮ์

น้องอัล-อัชฮารี อจ.อัลฟารุก เชิญเสวนาต่อครับ

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 13, 14, 15 ... 31, 32, 33  ถัดไป
หน้า 14 จากทั้งหมด 33

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.14 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ