ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - มัซฮับสะละฟีย์และมัซฮับทั้งสี่ (ภาคที่ 2)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
มัซฮับสะละฟีย์และมัซฮับทั้งสี่ (ภาคที่ 2)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 31, 32, 33  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 3:17 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถึง คุณคนอยากรู้ และคุณชุกกรี

ตอนนี้ ผมได้บีบคำถามของ คุณรอยยาให้แคบลงแล้ว เราคงรู้ดีว่า ต่อไปคุณรอยยา เขาจะถามประเด็นคำถามเด็ด ที่จะมาเป็นตัวแปล ในการชี้ถึงคำนาม บิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ที่เอาคำกล่าวของท่านอุมัรมาสนับสนุน ยังไงคุณทั้งสอง ก็ช่วยตอบประเด็นที่เขาจะถามด้วยนะครับ ว่างๆผมจะเข้ามา

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 7:05 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[B] salam
น้อง al- azhary สุดหล่อของบังอะสันครับ
ตอนนี้ ผู้อ่านเขามองออกแล้วล่ะครับว่า บิดอะฮคืออะไร ไม่อยากให้ตอบแบบพายเรือในอ่าง วกไปเวียนมา ตอนนี้ อยากจะให้น้องและสหายยกตัวอย่าง บิดอะฮหะสะนะฮ มา ว่าที่อิหม่ามชาฟิอี อุตริบิดอะฮ หะสะนะฮนั้นมีอะไรบ้าง แต่ อย่าป้ายเรื่องเท็จให้แก่ท่านอิหม่ามชาฟิอีย์ของบังอะสันให้มัวหมอง น่ะครับ ท่านอิหม่ามชาฟิอีได้กล่าวว่า
من استحسن فقد شرّعผู้ใดเห็นดี( คือ คิดบิดอะฮขึ้นมาแล้วเห็นว่าดี) แน่นอนผู้นั้นได้ตั้งบัญญัติขึ้นใหม่ - ดู อัสสุนัน วัลมุบตะดะอาต หน้า 5 และซิลซิละฮหะดิษเฏาะอีฟะฮ ของอัล-บานีย์ - เล่ม 2หน้า 19
........................
ดังนั้น เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ ยกตัวอย่างมาเลยครับน้อง
[/B]
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 10:05 am    ชื่อกระทู้: มัสหับ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam คุณอัชอารี/คุณมูฮำมัด

ผมว่าบังฮะซันนี้ ยิ่งคุณอธิบายอย่างชัดเจนพร้อมยกหลักฐานมาให้จนสมบูรณ์แล้วแต่บังแกก็ยังทำตัวลื่นเป็นปลาไหล ไปเรื่อย ทั้งที่ผมก็บอกอยู่เสมอว่า นิยามคำว่าบิดอะที่เสนอนี้เป็นในแนวทางท่านอีหม่ามชาฟีอี(รฮ) เป็นคนที่เดินตามยุคสลัฟตัวจริง และเป็นอุลามะของโลกคนหนึ่งจากท่านอีหม่ามทั้ง4 แต่เวลาเรานำเสนออะไรที่**ไม่ใช่แนวทางอุลามะของบัง บังก็จะไม่ฟังหรือฟังก็ไม่จบบังก็จะค้านทันที เช่น อ้างว่า ในสมัยท่านนบีไม่มี .บ้าง ไม่ใช่ฮาดีสซอเหียะบ้าง..ฯลฯ.. ฉนั้นสำหรับบังนั้นต้องมีหลักฐานจากท่านบีเท่านั้น แหละต้องซอเหียะจากฝ่ายตัวเองด้วยว่างั้นเถอะ..
จึงจะยอมรับ**ทำไมวะฮาบีย์เช่นบัง จึงชอบทำตัวเป็นคนไม่ยอมเปิดกว้างทางความรู้สายอื่นบ้าง
แล้วเรื่องขั้นตอนการเสวนาที่ผ่านมา ไม่ว่าเฉพาะเรื่องใดๆ ทุกครั้งพอบังจนมุม ลื่นไปไหนไม่ได้ บังแกจะกระดิกหัวโขกพื้นตัวเองคือ ดันหาที่จะหลบให้ได้ ไหลแบบถูสีข้างจนเห็นแผลเหวอะแล้วก็ยังดันหาทางออก...

ยังไงฉันก็จะไม่เอา ไม่รับ อย่างเดีว... แล้วอัลลออ์ท่านสร้างอุลามะที่มีความรู้ทำหน้าที่แจกแจงความรู้ให้คนไม่รู้ทำไมละ เมื่อบังมีอคติต่อการชี้แจงความรู้ของอุลามะ ที่โลกมุสลิมยอมรับ

ฮาดิสนี้ที่ผมจะนำเสนอให้บังและสหายได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของอุลามะบ้างนะ

ท่านอุษมาน บินอินิอัฟฟานกล่าวว่า
ในวันสุดท้าย หรือวันปรโลก บุคคล 3ประเภทนี้จะช่วยท่านได้
1.บรรดานบี 2.บรรดาอุลามะ 3.บรรดาผู้ออกรบตายชะฮีด รายงานโดยอิบนิมัยยะ

แต่ผมก็ไม่ทราบว่าฝ่ายวะฮาบีย์จะเอาฮาดีสนี้มาใช้หรือไม่ เพราะเท่าที่รู้มา วะฮาบีย์นั้น จะไม่ให้ความสำคัญกับบรรดาอุลามะ หรือยึดถืออุลามะเป็นครู เพราะเขากลัวว่า จะเป็นชิรก..คักๆๆๆ
มีบางคนกล่าวว่าผมกับคุณ,มุฮำมัด,คุณชุกรี ไม่มีความรู้เลย***ดีแต่นำเสนอหรือกอบปี้เอาคำพูดของคุณฮัลอัชอารี มาอ้างเท่านั้น

ขอชี้แจงครับ พวกเราให้เกียติรคนทีมีความรู้ที่มากกว่าเรา ครับโดยเฉพาะความรู้จากคุณอัชอารีนี้อีกอย่างเขาเป็นนักศึกษาระดับปริญญโทด้วยดีกรีความรู้เขาต้องดีกว่าผมและคนอื่นๆอยู่แล้วแม้กระทั้งคุณมูฮำมัดยังเปิดโอกาสให้คุณอัชอารีเต็มที่เลย
และเราถือว่าคุณอัชอารีคือผู้ที่เรียนและเจาะลึกและมีความตั้งใจสูงครับ พี่น้องวาฮะบีย์ ครับ
และเราไม่อยากออกนอกประเด็นในการเสวนา สิ่งใดที่มีหลักฐานตัวบทเราจะยกให้คุณอัชอารีครับ

ใช่ว่าคุณมูฮำมัดหรือคุณชุกรี จะไร้ความรู้ แต่การเสวนาที่ต่อเนื่องนั้นย่อมสมบุรณ์ที่ดีกว่าครับ .
ไม่ใช่เจาะอันนี้นิด ทิ่มอันโน้นหน่อย อันนี้ไม่ได้สาระครับ

ลองอ่านกระทู้เก่าๆด้วยความเป็นกลางซิครับ คุณอัชอารี มีความพร้อมในการตอบที่สมบุณร์มากครับ สิ่งไหนที่พี่น้องวะฮาบีย์ไม่เข้าใจ คุณอัชอารีก็พยามอธิบายให้อย่างชัดเจนนะครับ

และจะเห็นว่าผมและคนอื่นนะจะคอยสนับสนุนหลักฐานเท่านั้น และจะคอยกำชับและเตือนพี้น้องวะฮาบีย์บางคนที่พยายามเบี่ยงเบนความจริง ให้กลับมายอมรับความคิดเห็นของอุลามะในอดีดนะครับ
Razz อีกอย่าง คุณรอยยา มีพิรุธนะบางครั้งทำตัวคล้ายผู้ชาย บางครั้งก็เป็นผู้หญิง..ฝากเตือนด้วยนะครับ ไม่ต้องหลบตัวเรื่องเพศครับ เปิดเเผยดีกว่าไม่เสียหายหรอกครับ

บังฮะซัน ผมว่าแกนั้นตอบวกไปวนมายิ่งกว่าพายเรื่อวนในอ่างนะครับ น่าสงสารจังเลย บังฮะซันรูปหล่อแต่ฟันหัก...ฮิฮิๆ

Twisted Evil Twisted Evil Idea Wink

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 11:20 am    ชื่อกระทู้: มัสหับภาค2 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากบังอะสัน

ท่านนบี ศอลฯกล่าวว่า
((من عمل عملاً ليس عليه أمرنا فهو رد)).

ผู้ใดประกอบการงานใดที่ไม่มีคำสั่งของเราบนมัน นั้นมันถูกปฏิเสธ – รายงานโดยมุสลิม
และ
قال ابن رجب: فهذا الحديث يدل بمنطوقه على أن كل عمل ليس عليه أمر الشارع فهو مردود، ويدل بمفهومه على أن كل عمل عليه أمره فهو غير مردود))
อิบนุเราะญับกล่าวว่า “ ดังนั้นหะดิษนี้ คำพูดของมันแสดงให้เห็นว่า แท้จริงทุกการงาน ที่ไม่มี[U]คำสั่งของศาสนา นั้น ถูกปฏิเสธ[/U]แท้จริงทุกการงานที่มีคำสั่งของศาสนา จะไม่ถูกปฏิเสธ**


:oops: ตอบบังฮะซันบ้องตื้น (ล้อเล่น)
Embarassed มีให้ผมและเพื่อนไมเฮอีกตามเคย บังครับ ท่านนบี Solallah กล่าวว่าผู้ใดประกอบการงานใดที่ไม่มีคำสั่งของเราบนมัน

มาดูคำอธิบาย ของคนความรู้น้อยเช่นผมกันบ้างนะบัง ฮาดีสนี้ชัดเจนมากเลยโดยไม่ต้องตีความอะไรเลยนะบัง คำสั่งหรือคำสั่งในศาสนาของท่านนบี Solallah ก็คือฮูกมต่างๆที่เราเอามาปฏิบัติเพื่อทำอีบาดัตหรือเป็นชาเราะหรือกฎชารีอัตนั้นเอง และ ตรงไหนบ้าง ละที่อีหม่ามทั้ง4 ฝ่าฝืน และคิดขึ้นมาเองหรืออุตริกรรมในฮูกมมาเองโดยไม่ยอมรับในคำสั่ง ตามที่บังใส่ร้ายว่า*** แนวทางของเราหรือแนวทางของอีหม่ามทั้ง4 มีแต่บิดอะ *** บังฯ คำสั่งที่เกี่ยวกับฮุกมของศาสนา หลังจากผ่านลิ้นท่านนบีมาแล้ว นั้นคือฮูกมชาเราะ และถือว่าทุกอย่างสมบูรณ์ในตัวของมันโดยท่านอีหม่ามทั้ง4 ก็ยอมรับในเรื่องหลักการศาสนา แต่หลังจากฮูกมทุกอย่างได้วางก็ไม่เคยมีใครมาเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าวิธิการละหมาด หรือเวลาของการเข้าละหมาด ฯลน...ท่านนบีกล่าวอย่างไรเราก็ละหมาดตามท่านสอน ผ่านการให้ความรู้ของผู้รู้จริงคือ อุลามะขอเงอัลลออ์(ซบ) ฉนั้นของฮารามมันก็คือฮาราม ไม่มีใครและแนวทางใดมาเปลี่ยนแปลง เป็นฮารอม หมู/เหล้าฯลฯกินทานไม่ได้เมื่อก่อนตอนนี้ไม่ก็ทาน
บังนั้นไม่ชอบการให้คว่ามหมายเลยสับสนในฮาดีสที่นำมา คำวา คำสั่งไม่ได้จนถึงทุกวันนี้แล้วบังเอา อวัยวะส่วนไหนมาพูดว่าเราเปลี่ยแปลงหรืออุตริกรรมบนคำสั่งของท่านนบ

และที่บังว่า
والتحقيق أنها إن كانت مما يندرج تحت مستحسن فى الشرع فهى حسنة وإن كانت مما يندرج تحت مستقبح فهى مستقبحة وإلا فهى من قسم المباح .

ความว่า " บิดอะฮ ที่มาของมันคือ สิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยไม่มีแบบอย่างมาก่อน และในทางศาสนา ใช้เรียก สิ่งที่ตรงกันข้ามกับอัสสุนนะฮ ดังนั้น มันเป็นสิ่งที่ถูกตำหนิ
ฉนั้นความหมายข้างบนนี้บังต้องแบ่งแยก ระหว่าคำสั่งของศาสนาที่มันสมบูรณ์อยู่แล้ว ในเรื่องหลักการและข้อกำหนดต่างๆ ไม่ใช่เอามาปนกับ โปรดพิจรณานะบัง
ท่านอุมัรฯซอฮาบะท่านบี ท่านจะแยกออกระหว่าคำสั่งท่านนบี Solallah ในเรืองศาสนา โดยเฉพาะละหมาดตารอเวียะเห็นไหมครับว่า ท่านไม่ได้ห้ามผู้คนให้เลิกละหมาด แต่ท่านเพียงให้ท่านละหมาดนั้นเป้นไปอย่างสมบูรณ์ และสวยงาม และให้ตรงกัความตั้งใจของท่านนบี Solallah ที่เน้นให้ทุกคนมาร่วมละหมาดเป็นในรูปชของญามาอะ ไม่ใช่ต่างคนต่าละหมาด ต่างคนต่างๆมีหมู่คณะตัวเอง และท่านก็จัดให้ซอฮาบะท่านหนึ่งเป็นอีหม่าม เห็นนไหมละครับ ว่า นี่คือสิ่งที่ดี (หะสานะ)
แต่ถ้าท่านไม่ทำแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าใครเป็นอีหม่ามและใครมีความรู้ในการเป็นผู้นำ อัลลออ์ทรงตัดดีร์หรือต้องการให้ท่านอุมัรฯ ทำแบบนั้น เราก็ต้องยอมรับว่าดีมาก
แต่มันไม่ตรงกับท่านนบีที่เคยกระทำคนเดียวและต่างคนต่างทำ ไม่ใช่ว่าท่านนบี จะโง่หรือไม่รอบคอบตามที่***ท่านชอบใส่ร้ายและอ้างว่าทัศนะเรานั้นชอบฝ่าฝืนคำสั่งท่านนบีบ้าง

ถ้าท่านเข้าใจแบบนี้ด็แสดงว่าท่านอุมัรก็เป้รคนหนึ่งที่ฝ่าฝืนคนหนึ่งใช่ไหมครับ
อันนี้พึงระวังให้มากครับบัง และหลายตัวอย่างที่ท่านนบีไม่ทำแต่ซอฮาบะกระทำ อย่างนี้ไม่แย่หรือครับท่าน
อีกอย่าง บิดอะในความหมายหนึ่งคือ ของการให้ความหมายของอุลามะ แม้นว่าที่ท่านนบี ไม่ทำไม่ได้สั่งแต่ถ้ามีการกระทำขึ้นและเป็นสิ่งดีนั้น ถือว่าไม่ได้ผิดอะไรและไม่เป็อุตรกรรมด้วย
ย้อนกลับเรื่องการที่ท่านอุมัร ได้ให้บรรดาผู้อยู่ใต้ปกครองของท่าน ละหมาดตารอวิห์20รอกาอัต พร้อมกันตั้งแต่นั้นมา นี้ถือว่า ท่านนบีไม่เคยให้มีการญามาอะแต่ท่านอุมัรใช้และผู้คนก็กระทำ และไม่มีใครคัดค้าน ทั้งที่มีซอฮาบะอยู่มากมาย
ถามว่า ทำไม ก็ขณะท่านนบีมีชีวิตอยู่ท่านยังไม่ได้กำชับ เพราะท่านกลัวละหมาดสุนัตนี้จะเป็นวายิบ หลังจากท่านวะฟาตแล้ว ท่านอุมัรเป็นคนปกครองก็จัดการกับรูปแบใหม่
Razz สิ่งนี้ไม่ได้เป็นคำสั่งของศาสนาแต่อย่างไดไหม เเละไม่ได้เป็นฮูกมชาเราะแต่อย่างใดเหมือนตามที่พี้น้องวะฮาบีย์ได้เข้าใจผิดๆ ท่านอุมัรเพียงให้เกิดความสวยงานมและมีระเบียบเท่านั้น

และคำว่าบิดอะฮ์นั้น หากมันกระทำแล้วไปสนับสนุนหรือเป็นแบบอย่างและขั้นตอนในหลักศาสนา แล้วมันก็คือ (บิดอะฮ์)หะสะนะฮ์(บิดอะฮ์ที่ดี)
Laughing และหากว่ามันไม่มีหรือไปขัดแย้งกับสั่งในฮุกมชารีอัตแล้ว ถือว่าน่ารังเกียจ มันก็คือ(บิดอะฮ์)ที่น่ารังเกียจ และถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น(จากบิดอะฮ์ทั้งสอง) มันก็มาจาก ประเภทที่มุบาห์"

Shocked และบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ก็คือ สิ่งที่กระทำขึ้นมาใหม่ โดยมีรากฐานอยู่บนหลักการศาสนา ย่อมไม่ถูกปฏิเสธ และการจะกระทำบิดอะฮ์หะสะนะฮ์นั้น ไม่ใช่จะทำการง่ายๆ ตามความคิดตัวเอง เนื่องจากต้องการ เงื่อนไข กฏเกนฑ์ตามหลักการศาสนา อย่างรัดกุมและมีทีมาในการสนับสนุนหลักฐานด้วย และนี้ คือทัศนะของอุลามาอ์ส่วนมาก ที่เห็นพ้องกัน

Laughing ดังนั้น การจะอ้างหะดิษที่มาจากฝ่ายตนข้างเดียวนั้นไม่เป็นการบังควรเพราะอัลกรุอานและฮาดีสนั้นเรื่องนี้นั้น เราจะต้องมีการตีความเพื่อให้ได้ความหมายที่ถูกต้องกับวัตถุประสงค์ของฮาดีสที่นำมาเสนอด้วย ไม่ใช่เห็นปุ๊บก็ยกออกมาทั้งดู้นเลยโดยไม่ตีความไม่มีการตีความอะไรและอันนี้ถือว่าน่าตำหนิและเพราะเป็นนิสัยของผู้ไม่รู้จริงครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 12:59 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แหม kunkonyakroo ที่มาตอบนะ รู้ไหม บังอะสันเปิดปับ เห็นแล้วหัวเราะก้ากเลย (พอมีฟันอยู่บ้างนะน้อง) มาชาอัลลอฮ กบน้อยในกะลา โผล่มาแต่ละที ได้เฮ หนอนที่อยู่ในกองอุจจาระ มันบอกว่ามันวิเศษกว่าใคร นึกอยากจะกินก็ไม่ต้องขอ ดีกว่าชาวสวรรค์ เสียอีก ที่จะกินอะไรก็ต้องขอก่อน นี่คือ ทัศนะของหนอนในอาจม เหมือนกับน้อง kookonyakroo นั้นแหละ จมปลักอยู่ในกองอาจมแห่งบิดอะฮ แต่ กลับบอกว่า ฉันนี่แหละเข้าใจเรื่องศาสนายิ่งกว่าใคร ฮะฮา..
...........
ตอนนี้ ขอไปตอบเรื่อง อะกีดะฮก่อน ตอนนี้ ก็ไม่ค่อยว่าง..แต่ก็พยายามปลีกเวลามาตอบ คือ กลัวว่า น้องอัล-อัซฮารี และสาวก คือ น้อง kunkonyakroo จะพาบิดอะฮมากองไว้ให้เหม็นกระดานสนทนา เลยอาสาเข้ามากวาดบ้าง จะได้ไม่เลอะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 1:58 pm    ชื่อกระทู้: มัสหับ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam บังฮะซัน
))
แหม kunkonyakroo ที่มาตอบนะ รู้ไหม บังอะสันเปิดปับ เห็นแล้วหัวเราะก้ากเลย (พอมีฟันอยู่บ้างนะน้อง) มาชาอัลลอฮ กบน้อยในกะลา โผล่มาแต่ละที ได้เฮ หนอนที่อยู่ในกองอุจจาระ มันบอกว่ามันวิเศษกว่าใคร นึกอยากจะกินก็ไม่ต้องขอ ดีกว่าชาวสวรรค์ เสียอีก ที่จะกินอะไรก็ต้องขอก่อน นี่คือ ทัศนะของหนอนในอาจม เหมือนกับน้อง kookonyakroo นั้นแหละ จมปลักอยู่ในกองอาจมแห่งบิดอะฮ แต่ กลับบอกว่า ฉันนี่แหละเข้าใจเรื่องศาสนายิ่งกว่าใคร ฮะฮา..

Laughing Laughing Laughing คักๆๆๆๆๆ ตาหรกมากเลย จริงเหรอครับบัง ถ้าบังเปรียบผมหนอนบังก็คืออุจจาระ ใชไหมครับ แต่เป็นหนอนก็ดีกว่าเป็นอุจจาระนะบัง เพราะหลังจากได้เจาะอาหารหรือได้ของที่ต้องการแล้ว มันก็ไปที่อื่นต่อ ไม่สร้างความขะยะแขยงหรือน่ารำคาญให้ให้กับผู้คน เหมือนขี้ ที่ไม่มีความสามารถใดๆในการช่วยเหลือตัวเอง มีแต่คอยสร้างความนรำคาญส่งกลิ่นเหม็นนของตัวเองและทุเรศส่ายตาผู้คน โดยเข้าใจว่าอุจรระตัวเองที่รดหัวหนอนอญุ่นั้น มีกลิ่นหอมมากละซิ

....อ้างอิงจากบังอะสัน

ท่านนบี ศอลฯกล่าวว่า
((من عمل عملاً ليس عليه أمرنا فهو رد)).

ผู้ใดประกอบการงานใดที่ไม่มีคำสั่งของเราบนมัน นั้นมันถูกปฏิเสธ – รายงานโดยมุสลิม
และ
قال ابن رجب: فهذا الحديث يدل بمنطوقه على أن كل عمل ليس عليه أمر الشارع فهو مردود، ويدل بمفهومه على أن كل عمل عليه أمره فهو غير مردود.......
Embarassed ตอบบังฮะซันก็ด้วยความทะเยอทะยานว่าอุจาระตัวเองหอมอบอวนนะซิถึงได้ ถึงได้ไม่ยอมเปิดตาเปิดใจในความหมายบ้าง
อุลามะผู้ทรงเกียรติเขามีความรู้มากกว่าบัง บังยังไม่ยอมรับ ความรู้ตรงนั้น มุ่งที่จะสุดโต่งในคำที่ไม่ตีความหมาย และจำกัดอยู่แค่กะลาครอบขี้ตัวเอง
เปิดใจรับความรู้จากภายนอกบ้างเถิด ชาววะฮาบีย์เอ๋ย..อย่าจมปลักอยู่กับทัศนะตัวเอง
แต่ธรรมดาครับ หัวเรื่อเป็นยังไงลูกเรื่อก็ต้องเป็นยังนั้นวันยังคำ

Idea มันจึงไม่แปลกที่อิบนุตัยมียะไม่รอมเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองเรื่องอะกีดะในการยึดมั่นและเตาฮีด ต่ออัลลออ์ แต่ดันเอาความเข้าใจของตัวเองที่ตึงม่าตัดสิน ความเข้าใจตัวเองเลยพบจุดจบที่น่าสังเวชใจ อัลลอฮ์ให้สมองมาแต่ไม่รุ้จักคิด โดยเอาความคิดตัวเองไปเผยแพร่แบบผิดๆ อย่างนี้จะโทษว่าอัลลออ์มีพระประสงค์อย่างนี้ได้อย่างไรละครับท่าน...
บังนะจนมุมวันยังคำ แหละเพราะฉายออกมาตรงๆไปไหนก็ไม่ได้ ตัวอ้วนแคต่คับอยู่ในกะลา

ดังนั้นจึงไม่รับการให้ความหมายอย่างไดจากทัศนะอื่น เฮ้อ น่า สงสารเหลือเกิน บังฮะซัน


wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
รอยยา
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/02/2004
ตอบ: 78


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 4:14 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณ อัล-อัซฮารี เข้ามาก็ไม่ตอบอะไร ได้แต่ทวนคำถามแล้วผ่านเลยไปเฉยๆ

คำถามที่เคยถามว่า

การรวมละหมาด - การละหมาด - การให้คนหนึ่งเป็นอิมาม เป็นซุนนะฮฺนบี ทำไมถึงเรียกว่าบิดอะฮฺฮาซานะฮฺ

คำของท่านอุมัรต้องการสื่อประเด็นไหนแน่

หรือว่าการเพิ่มจำนวนละหมาดเป็น 20 รอกอะฮฺ ขอหลักฐานที่ศอเฮียฮฺด้วย

หรือท่านเป็นคนแรกที่ริเริ่มนำซุนนะฮฺนบีมาปฎิบัติอีกครั้ง

ถ้าลำบากใจจะเสนอหลักฐานก็ไม่เป็นไร

อ้อ >>>> อยากฟังคำตอบที่ท่าน อะซัน ถามด้วย เรื่องตัวอย่างบิดอะฮฺฮาซานะฮฺที่ท่านอิมามซาฟีอีสอนไว้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
รอยยา
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/02/2004
ตอบ: 78


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 4:18 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้อความของ คนอยากรู้ ไม่ได้แก่นสาร ไร้สาระ เสียเวลาอ่าน

แต่พอจะเป็นวิชาการหน่อย ก็วกวนจนทำให้งง เช่นข้อความข้างล่างนี้


แต่หลังจากฮูกมทุกอย่างได้วางก็ไม่เคยมีใครมาเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าวิธิการละหมาด หรือเวลาของการเข้าละหมาด ฯลฯ...ท่านนบีกล่าวอย่างไรเราก็ละหมาดตามท่านสอน

การที่ท่านอุมัร ได้ให้บรรดาผู้อยู่ใต้ปกครองของท่าน ละหมาดตารอวิห์20รอกาอัต พร้อมกันตั้งแต่นั้นมา นี้ถือว่า ท่านนบีไม่เคยให้มีการญามาอะแต่ท่านอุมัรใช้และผู้คนก็กระทำ และไม่มีใครคัดค้าน ทั้งที่มีซอฮาบะอยู่มากมาย

สิ่งนี้ไม่ได้เป็นคำสั่งของศาสนาแต่อย่างไดไหม เเละไม่ได้เป็นฮูกมชาเราะแต่อย่างใดเหมือนตามที่พี้น้องวะฮาบีย์ได้เข้าใจผิดๆ ท่านอุมัรเพียงให้เกิดความสวยงานมและมีระเบียบเท่านั้น


อ่านแล้วปวดหัว ข้อความค้านกันมั่วไปหมด

สรุปว่าบิดอะฮฺฮาซานะฮฺไม่เกี่ยวกับฮุก่มซาเราะหรือ หลงอ่านมาตั้งนาน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 11:18 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณ คนอยากรู้ครับ

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

ก่อนอื่น ผมอยากจะเรียนคุณ เกี่ยวกับน้องอัล-อัซฮะรีย์ ดังนี้ นะครับ คือน้องเขาไม่ได้เรียนอยู่ระดับปริญญาโท แต่เขาอยู่ปีสี่ ระดับปริญญาตรีครับ คุณอัล-ฟารูคต่างหาก ที่เรียนอยู่ระดับปริญญาโท แต่ผมและคุณอัลฟารูค อายุมากกว่าน้องอัล-อัซฮะรีย์ แต่ทั้งสองมีความรู้มากกว่าผม น้องอัล-อัซฮะรีย์ คือคนที่ชวนผมมาทำการสนทนาตั้งแต่แรกนะครับ และน้องเขาไม่กล้าชวนคุณอัล-ฟารูก เพื่อเกรงใจ และอีกอย่าง คุณอัล-ฟารูก ก็คือครู ที่เคยสอนน้องอัล-อัซฮะรีย์ ในวิชาที่เขาต้องการ และคุณอัล-ฟารูก ให้น้องอัล-อัซฮะรีย์ ออกโรงเองนั้น เพื่อเราจะได้ฝึกฝนเขา ให้ทำการค้นคว้าหาความรู้ ที่อยู่ในเชิงปฏิบัตินะครับ คุณอัลฟารูคเคยบอกเราว่า หากจะเข้ามาสนทนา ก็ควรอยู่ในรูปแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตัวอักษร วิธีการเว้นวรรค เว้นบรรทัดระหว่างอักษรอาหรับและไท หรือย่อหน้าเป็นระยะเป็นช่วง เพื่อผู้อ่านจะได้อ่านง่าย มีระเบียบ และเป็นเอกลักษณ์ของเรานะครับ แรกๆผมเข้ามาก็สะเปะสะปะ อักษรเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ไม่มีการเว้นวรรคที่ดี ก็เลยถูกแนะนำมานะครับ

สิ่งที่คุณนำเสนอมานั้น สรุปได้ดีครับ นอกคนที่ได้อยู่ในทางเรานั้น เขาจะงง เพราะเขาไม่ยอมเปิดใจกว้างในการเข้าใจ แนวทางอื่น

อย่างเช่นคุณรอยยา ซึ่งเขากล่าวว่า

การรวมละหมาด - การละหมาด - การให้คนหนึ่งเป็นอิมาม เป็นซุนนะฮฺนบี ทำไมถึงเรียกว่าบิดอะฮฺฮาซานะฮฺ
คำของท่านอุมัรต้องการสื่อประเด็นไหนแน่

ผมขอกล่าวว่า

ประเด็นที่ท่านอุมัรจะสื่อนั้น คือ

- การที่ท่านอุมัรเรียกคนมารวมกัน (ทำละหมาดแบบญะมาอะฮ์ ) ดังนั้น ท่านนบีเคยไปเรียกคนมารวมกันทำละหมาดหรือครับ ?

- การละหมาดนั้น 20 รอกะอัต ท่านนบีเคยทำ 20 หรือครับ ? ถ้านบีเคยทำ มันก็ไปขัดกับทัศนะของวะฮาบีย์ แต่ถ้านบีไม่เคยทำ มันก็มาเข้าประเด็นคำนิยามบิดอะฮ์หะสะนะฮ์

- การให้คนหนึ่งเป็นอิมามนำละหมาดที่เฉพาะเจาะจงนั้นตลอดทั้งเดือนนั้น นบีเคยทำหรือครับ ?
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Mon Jan 30, 2006 11:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณอะสันกล่าวว่า

ตอนนี้ ขอไปตอบเรื่อง อะกีดะฮก่อน ตอนนี้ ก็ไม่ค่อยว่าง..แต่ก็พยายามปลีกเวลามาตอบ คือ กลัวว่า น้องอัล-อัซฮารี และสาวก คือ น้อง kunkonyakroo จะพาบิดอะฮมากองไว้ให้เหม็นกระดานสนทนา เลยอาสาเข้ามากวาดบ้าง จะได้ไม่เลอะ

ผมขอกล่าวว่า

คุณอะสันเอาอะไรมากวาดครับ หรือว่าเอาการหมกเม็ด หรือแปลบิดเบือนมากวาดครับ ถ้าอย่างนั้น คุณอะสันโปรดกวาดบิดอะฮ์ของตนเองเสียก่อนนะ ก่อนจะไปกวาดทัศนะของคนอื่น
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Jan 31, 2006 1:35 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้อความของคุณมุหัมหมัด
ประเด็นที่ท่านอุมัรจะสื่อนั้น คือ

- การที่ท่านอุมัรเรียกคนมารวมกัน (ทำละหมาดแบบญะมาอะฮ์ ) ดังนั้น ท่านนบีเคยไปเรียกคนมารวมกันทำละหมาดหรือครับ ?

- การละหมาดนั้น 20 รอกะอัต ท่านนบีเคยทำ 20 หรือครับ ? ถ้านบีเคยทำ มันก็ไปขัดกับทัศนะของวะฮาบีย์ แต่ถ้านบีไม่เคยทำ มันก็มาเข้าประเด็นคำนิยามบิดอะฮ์หะสะนะฮ์

- การให้คนหนึ่งเป็นอิมามนำละหมาดที่เฉพาะเจาะจงนั้นตลอดทั้งเดือนนั้น นบีเคยทำหรือครับ
.......................................
ตอบ
นี้คือ คำถามแบบโง่ๆและบ้องตื้น ทีสุด นี้หรือ นักศึกษามหาลัยอัลอัซฮัร ผมไม่อยากด่า แต่อดไม่ได้ เพราะผิดหวังมากที่ สนทนากันแบบโง่ๆแบบนี้ แสดงถึงไม่เข้าใจเรื่อง ศาสนาเอาเสียเลย คุณตอบน้องรอยยาเขาพร้อมแสดงหลักฐานทางวิชาการมาซิครับ ตอบมาให้สมศักดิ์ศรี นักศึกษามหาลัยอัลอัซฮารปริญญาโทหน่อยซิครับ ผมไม่ชอบเหลาะแหละนะครับจะบอกให้
แบบนี้เขาเรียกว่า ขายวัวให้ควายไปเรียน
พวกคุณมาท้าทายตั้งแต่ต้นเดือนเราะมะฏอน แล้วบอกว่าจะมาคุยกันในเชิงวิชาการ แต่..ทีใหนได้ ใช้ลูกไม้เดิม ปล่อยไว้นานแล้ว ด่ากันมั้ง เว็บมาสเตอร์ครับ ถ้าไม่เหมาะสมก็ลบได้เลยนะครับ ผมเหลืออดจริงๆ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Tue Jan 31, 2006 3:49 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

No. : 8014
ข้อความ: ส่วนประเด็นเรื่องบิดอะฮฺหะสะนะฮฺที่ท่านอุมัร อิบนุล ค็อตตอบ กล่าวก็มีคนเข้าใจแล้วสำหรับท่านที่เพิ่งเคยได้ยิน
แต่สำหรับคนทั่วๆไปที่ติดตามศึกษาแสวงหาความรู้มานานก็จะได้ยินคำนี้มานานแล้ว
และเป็นเรื่องเก๊าเก่า
แต่เราก็คงจะต้องนำมาฉายใหม่ให้คนที่ยังไม่เคยได้รับรู้ให้รับรู้ซะ

ให้เราทราบกันว่าซอฮาบะฮฺจะไม่ปฏิบัติเรื่องพิธีกรรมศาสนาที่นบีไม่เคยทำ หรือไม่มีหลักฐานมาจากนบี
เพราะเขาถือว่าเป็นบิดอะฮฺ และทุกๆบิดอะฮฺถือว่าหลงผิด ดังหะดีษที่กล่าวว่า
"ทุกสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ถือเป็นบิดอะฮฺ และทุกๆบิดอะฮฺถือว่าหลงผิด"
และหะดีษรายงานโดยนางอะอิชะฮฺนั้นอธิบายชัดเลยว่าเฉพาะเรื่องศาสนา
"ทุกๆสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ในกิจการ(อัมรฺ)ของเรา อัลลอฮฺไม่รับ"
ซอฮาบะฮฺจึงไม่ทำ และห้ามไม่ให้ผู้อื่นกระทำ เพราะกลัวลงนรก ดังหะดีษว่า
"ทุกๆบิดอะฮฺถือว่าหลงผิด และทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"
หะดีษเหล่านี้ทุกคนได้ยินกันหมด แม้แต่กลุ่มที่ทำบิดอะฮฺก็กล่าวหะดีษนี้แต่เขาไม่เคยให้คำตอบตัวเองและผู้อื่นได้
"กุลลุ" หรือ "กุลละ" ครอบคลุมชัดเจนว่า ทุกๆ ทั้งหมด บิดอะฮฺทั้งหมด นี่คือเรื่องชะรีอะฮฺ
ประโยคหะดีษเหล่านี้เป็นคำแสลงหูของกลุ่มบิดอะฮฺ และไม่นิยมพูดไม่นิยมอธิบาย นอกจากไว้ดุอาอฺตอนคุตบะฮฺ

แต่มีซอฮาบะฮฺอยู่ 4 ท่านที่จะสามารถกระทำกิจการใดๆนอกเหนือจากนบี นั่นก็คือคอลิฟะฮฺทั้ง 4
ก็เนื่องจากเป็นที่อนุญาตจากหะดีษนบี "จงปฏิบัติตามซุนนะฮฺของฉัน และซุนนะฮฺของคอลิฟะอัรรอชิดีน"
ดังนั้นสิ่งที่คอลิฟะฮฺปฏิบัติแตกต่างไปจากท่านนบี เราไม่เรียกบิดอะฮฺ แต่เราเรียก"ซุนนะติลคุลาฟะอัรรอชิดีน"
(เช่น อะซานวันศุกร์ 2 ครั้ง , เพิ่มโทษคนกินเหล้า เป็นต้น)
ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลุ่มบิดอะฮฺชอบนำมาอ้างเป็นหลักฐานว่าให้ทำบิดอะฮฺได้ แต่จริงๆแล้วนั่นไม่เรียกว่าบิดอะฮฺ

ส่วนกรณีท่านอุมัรฺก็เช่นกัน กลุ่มบิดอะฮฺมักนำมาอ้างไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย อาจจงใจบิดเบือน หรืออาจ"บกพร่องโดยสุจริต"
แต่ท่านอุมัรฺไม่ได้ทำบิดอะฮฺแต่ประการใด และไม่ได้กระทำแตกต่างไปจากนบีด้วยซ้ำ(ทั้งๆที่ตัวท่านสามารถทำได้)
ในเรื่องของการละหมาดตะรอวี้หฺ ถามจริงๆเถอะ (ไตร่ตรองให้ดี) ท่านนบีไม่เคยละหมาดตะรอวี้หฺที่มัสญิดหรือ?
ท่านนบีไม่เคยรวมคนละหมาดตะรอวี้หฺที่มัสญิดหรือ?

เพราะฉะนั้นท่านอุมัรฺไม่ได้คิดค้นอะไรใหม่เลยในเรื่องตะรอวี้หฺ แต่เป็นการทำตามซุนนะฮฺที่ท่านนบีได้ทำไว้
แต่เนื่องจากในสมัยของท่านอุมัรฺ ผู้คนมาละหมาดกันเต็มจนเป็นประจำทุกค่ำคืนรอมฎอน
ซึ่งภาพอย่างนี้ไม่เคยปรากฏให้เห็น (เพราะสมัยนีละหมาดที่มัสญิดบ้าง ที่บ้านบ้าง เพื่อให้คนรู้ว่าไม่ใช่วาญิบ)
และไอ้ภาพซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ตรงนี้แหละครับ ภาษาอาหรับเรียกว่า "บิดอะฮฺ"
ซึ่งไม่ใช่บิดอะฮฺในความหมายของชะรีอะฮฺ(ที่นบีได้ห้ามไว้)แต่ประการใด
ดังนั้นคำพูดของท่านอุมัรฺ คนไทยเราที่เชี่ยวชาญภาษาจึงใช้คำได้ถูกต้องดังนี้ครับ
(ท่านอุมัรฺพูดว่า) "มันเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ดียิ่ง"
ดังเช่นที่ผมได้ยกตัวอย่างไปแล้วว่า หากมีคนอเมกานับล้านมารวมตัวละหมาดที่มัสญิดหะรอม
นั่นก็เป็นบิดอะฮฺในทางภาษาเหมือนกัน เพราะภาพอย่างนี้ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในโลก

ดังนั้น กลุ่มบิดอะฮฺไปเข้าใจความหมายของบิดอะฮฺผิด (โดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม) เขาจึงทำบิดอะฮฺไงครับ
และมาตรฐานที่ผมได้กล่าวไปเกี่ยวกับวิธีเช็คว่าใครเข้าใจผิด ใครเข้าใจถูกคือ
คนที่เข้าใจถูกจะอธิบายได้หมดและไม่ขัดแย้งกัน แต่คนที่เข้าใจผิดจะไม่สามารถอธิบายในส่วนที่ขัดแย้งกับตนได้
เช่นคำถามที่ค้างไว้และไม่มีกลุ่มบิดอะฮฺหน้าไหนอธิบายได้นั่นก็คือ
เหตุการณ์ที่ 1
ทำไมท่านอิบนุ มัสอูดถึงได้ห้ามปรามกลุ่มคนที่ตั้งวงซิกรุลลอฮฺพร้อมกันๆ?
> คำตอบคือ .. เพราะการซิกรุลลอฮฺพร้อมๆกันเป็นวงนั้นนบีไม่เคยทำไว้ แล้วการที่เราเอามาทำ ทำจนมีรูปแบบ
กลายเป็นการประดิษฐ์พิธีกรรมขึ้นใหม่ นั่นถือว่าเป็นบิดอะฮฺ
และถึงแม้จะเป็นเรื่องดีคือกล่าวซิกรุลลอฮฺก็ตาม ก็ถือว่าผิด เพราะ "ทุกๆบิดอะฮฺถือว่าหลงผิด"

เหตุการณ์ที่ 2
ทำไมท่านอิบนุ อุมัรจึงห้ามคนที่ไปซอละวาตนบีหลังดุอาอฺจาม?
> คำตอบคือ ..เพราะ ดุอาอฺหลังจามนั้นไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานให้ซอละวาตต่อ
ดังนั้นนบีทิ้งไว้แค่ไหน สั่งไว้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ไม่ต้องเติม
ถึงแม้จะเป็นเรื่องดี เป็นการซอละวาตก็ตาม แต่ "ทุกๆบิดอะฮฺถือว่าหลงผิด"

เหตุการณ์ที่ 3
ทำไมซอฮาบะฮฺถึงห้ามคนที่ยกมือดุอาอฺในคุตบะฮฺ?
> คำตอบคือ ..ท่านไม่พบว่ามีหลักฐานว่านบีเคยยกมือในขณะคุตบะฮฺ
ดังนั้นถึงแม้การยกมือจะเป็นมารยาท เป็นเรื่องดีก็ตาม แต่ถ้านบีไม่ทำ เราจะไปเก่งกว่านบีไม่ได้
เพราะ "ทุกๆบิดอะฮฺถือว่าหลงผิด" และการห้ามครั้งนี้อย่าลืมนะครับถึงขั้นสาปแช่งเลย นั่นคือหัวใจระดับซอฮาบะฮฺ
เขาเกลียดสิ่งที่แปลกปลอมที่จะเข้ามาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ ดังที่ประชาชาติก่อนๆเคยทำไว้

ทีนี้เข้าใจชัดขึ้นหรือยังครับ ทั้งหะดีษ และตัวบทหลักฐานต่างๆ เรารู้แต่ความรู้ของเราก็ไปตีกันเอง
ไม่สามารถอธิบายได้ มัวแต่หลับหูหลับตาไปเข้าใจส่วนอื่นตามแบบของเราเอง โดยทำเป็นไม่รับรู้ส่วนนี้ไม่ได้
เราเรียนรู้บิดอะฮฺจากการอธิบายโดยตรงของซอฮาบะฮฺ ดีกว่าการอธิบายของวะฮาบีย์ไหมล่ะครับ

ทีนี้เห็นแล้วนะครับ ว่าซอฮาบะฮฺเขาจะไม่ห้ามในเรื่องที่ต่างคนต่างมีหลักฐาน หรือต่างคนต่างเข้าใจ
แต่เขาห้ามไอ้สิ่งที่ไม่มีหลักฐานต่างหากล่ะครับ!
ผู้ส่ง: IRF : IP : 203.172.36.1
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Tue Jan 31, 2006 3:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ดังนั้นคำถามที่ถามไว้ 5 ข้อ จึงตอบมาแล้วหนึ่ง คือบิดอะฮฺหะสะนะฮฺ
แต่ไม่ตรงเป้า เพราะไม่ใช่บิดอะฮฺหะสะนะฮฺดังที่เป็นเรื่องชะรีอะฮฺ อย่างที่กลุ่มบิดอะฮฺทำกันอยู่
คือหมายถึง "สิ่งที่นบีไม่ได้ทำ ไม่มีรูปแบบมาจากนบี แต่เรามาประดิษฐ์รูปแบบเอง และขอให้เป็นเรื่องดี"
ผมอธิบายตามนั้นเพื่อจะชี้ชัดและไม่หลงประเด็นไปมากกว่านี้

รวมคนละหมาดตะรอวี้หฺนบีเคยทำ

แล้วของที่นบีไม่เคยทำ ไม่เคยทิ้งรูปแบบไว้ล่ะ ..อะไรบ้าง?
เช่น ตั้งวงกันอ่านกุรอาน และซิเกรฺ ..ลาอิลาหะอิลลัลลอฮฺ ดังๆ..(มีมาตั้งแต่โบราณกาล)
เช่น แต่งบทซอละวาตนบีแล้วเอามาใส่หลังดุอาอฺ ..ซ็อลลัลลอฮฺอาลา...

ซึ่งเหล่านี้นะครับ ถ้าเราไม่ทำเขาโกรธดวบยนะ มองหน้าเลย
เราก็ไม่รู้เราผิดตรงไหน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Tue Jan 31, 2006 4:10 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถามว่าแล้วมีหลักฐานไหม เจอตัวอย่างมั่งไหม
ที่ว่ามีคนมาประดิษฐ์รูปแบบใหม่ หรือประดิษฐ์บทดุอาอฺใหม่ แล้วซอฮาบะฮฺไม่ห้าม
แถมบอกว่าเป็นเรื่องดีด้วย.. ไม่มีหรอกครับ ไม่ต้องหาเลย เดี๋ยวเสียเวลาอีก..
รอตั้งนานตั้งแต่ก่อนอีด จนหลังอีด ได้คำตอบแบบที่ บดอ บ้านเราสอน (อุมัรบอกบิดอะฮฺมีหะสะนะฮฺ..!)

เพราะสลัฟเขาเข้าใจตรงกันครับข้อนี้ อย่าไปอธิบายอะไรมาก เดี๋ยวพูดผิด แล้วเขาจะเอาคำพูดที่พูดผิดมาโต้
ส่วนไอ้ที่ถูกน่ะ(ไอ้ตรงที่ชัดแบบเนื้อๆ)เขาโต้ไม่ได้ และไม่เคยตอบ และมองข้าม และไม่ใส่ใจ
..เขาจึงไม่เข้าใจซะทีไง! ส่วนสำคัญของศาสนากลับไม่เข้าใจ

ดังนั้นไม่เป็นไรครับ คำถาม 5 ข้อ ตอบมาหนึ่ง ก็ยังดีครับ

แต่ที่แน่ อะกีดะฮฺสลัฟนี่หาหลักฐานให้ผมไม่เจอใช่ไหมครับ?
เพราะไม่มีไงครับ! ที่เขาเชื่อว่า มือ คืออำนาจ อรัช คือครองตำแหน่ง.. ไม่มีหรอก

ถ้าจะมีก็ต้องไปเอาหลักฐานจากมุอฺตะซิละฮฺมาให้น่ะครับ อันนั้นพอลุ้นได้เจอคำตอบมั่ง

ดังนั้นการโจมตีเรื่องการแบ่งเตาฮีด ไม่มีประโยชน์ครับ ไม่รู้ไปตักลีดวิธีการโจมตีของใครมาอีก
หัดคิดเองซะมั่งครับ ทำความเข้าใจศาสนาเองจากหลากหลายอุละมาอฺ ไช่ให้อุละมาอฺอะชาอิเราะฮฺ(บางคน)จูงจมูก

อ้อ.ไม่ต้องกล่าวว่า ..
ไออาเอฟ.กล่าวว่า ..
ผมขอกล่าวว่า.. "พวกวะฮาบีย์นั่นแหละที่ให้อุละมาอฺวะฮาบีย์จูงจมูก เพราะวะฮาบีย์ไม่เคยฟังใคร.." ผมรู้ครับ นี่คือนิสัยและแนวทางการพูดจาพาลของท่าน

เรื่องการแบ่งการศึกษาเตาฮีด หรือจะแบ่งการศึกษาเรื่องอื่นมันไม่เกี่ยวอะไรหรอกครับ มันเป็นอุศูล
อย่าเอาสมองอันปราชญ์เปรื่องไปตักลีดใครเถอะครับเรื่องนี้ ไม่รู้ใครคิดมุขนี้เนี่ย.."การแบ่งเตาฮีดเป็นบิดอะฮฺ!"
โห..ใช้ไรคิดเนี่ย!

ดังนั้นไปหาคำตอบมาอุดช่องโหว่ของตนดีกว่าครับ ว่าอะชาอิเราะฮฺไปเอาหลักฐานเรื่องอะกีดะฮฺมาจากไหน?
ดีกว่ามาใช้เหตุผลทางปัญญา ..หลักฐานน่ะ ที่เขาขอนานแล้วน่ะ หลักฐาน!
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue Jan 31, 2006 6:49 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถึงบังอะสัน ผมและบังมุหัมมัด ไม่ได้เรียน ปริญญาโท เพราะผม เรียน ชาริอะฮ์ปี 4 บังมุหัมมัดเรียน ศึกษาศาสตร์ ปี 4 เช่นกัน ส่วนคนที่เรียนปริญญาโท นั้น คือบัง อัล-ฟารูค ครับ โปรดอย่าสับสน ผมเข้ามาก็ขอสนทนาในเรื่องที่จะสนทนาเท่านั้นครับ ส่วนคำเสียดสี ต่อว่าอะไรนั้น ผมไม่ขอสนทนาตอบนะครับ เพราะผมมันเหนื่อยกับการตอบอย่างนั้น

คุณไออาเอฟครับ ผมบอกตรงๆว่า ผมจะทำการสนทนาในเชิงวิชาการ ที่เป็นระบบ และมีระเบียบ คุณเองก็เป็นถามผมในเรื่องเกี่ยวกับบิดอะฮ์ เมื่อผมได้นำเสนอตอบ คุณก็น่าจะเครารพกติกา ที่ผมขอร้องบ้าง เพื่อการสนทนาจะได้มีประสิทธิ์ภาพ ตอนนี้ เรากำลังคุยเรื่องคำนิยาม ที่บรรดาอุลามาอ์ทั้งสองแนวทาง คือกลุ่มส่วนมาก ที่ทำการแบ่งบิดอะฮ์ และส่วนน้อยที่ไม่ทำการแบ่ง แต่ไปแบ่งบิดอะฮ์ดุนยา กับศาสนา ซึ่งผมก็วิจารณ์ไปแล้ว คุณเองก็น่าจะไปทบทวน และนำมาวิจารณ์เพื่อชี้แจงพวกเราบ้าง หลังจากเรื่องคำนิยาม ผมก็เลื่อนไปพูดประเด็นที่อัลกุรอาน ได้กล่าวถึงบิดอะฮ์หะสะนะฮ์เช่นกัน พวกคุณก็ไม่ยอมวิจารณ์มัน

ดังนั้น ทั้งสองประเด็นนี้ ผมคิดว่ามันใกล้จะจบแล้ว ผมก็จะเลื่อนไปยัง หลักฐานจากอัลหะดิษ ซึ่งคุณอยากจะพูดกันเหลือเกิน ซึ่งหลังจากเคลียร์สองประเด็นนี้ ผมก็จะเข้าสนทนาหลักฐานหะดิษให้เต็มที่ไปเลยนะครับ ส่วนประเด็นคำพูดของบรรดาซอฮาบะฮ์นั้น ผมจะชี้แจงคุณแน่นอนครับ อินชาอัลเลาะฮ์ คุณไม่ต้องกลัวว่า ผมจะไม่ตอบหรอก อย่างคำกล่าวของท่านอิบนุมัสอูดนั้น ผมก็จะวิจารณ์ให้นะ วิจารณ์ทั้งสายรายงาน ทั้งสภาพของบุคคลที่ท่านอิบนุมัสอูดพูดหุกุ่มพวกเขา วิจารณ์ทั้งหลักหุกุ่มของท่านอิบนุมัสอูด กับหะดิษนบี(ซ.ล.) ว่ามีการสอดคล้องกันหรือไม่? ซึ่งผมจะชี้แจงให้หมดแหละครับ เพราะคำตอบนั้น ผมได้พิมพ์ตอบไว้ในคอมพ์เรียบร้อยแล้ว แต่ผมไม่ต้องการจะโพสท์ตอนนี้ เนื่องจากผมต้องการสนทนาเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งคุณเองก็รับเงื่อนไขผมแล้วนี่ครับ โปรดอย่าผิดสัญญาซิ ! ดังนั้น 2 ประเด็นที่ผมยังไม่ขอตอบ คือ หะดิษที่คุณอ้างอิงมา และบรรดาคำกล่าวของซอฮาบะฮ์

แต่ผมจะคุยประเด็นของท่านอุมัร ที่คุณได้นำมาสนทนา เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับคำนิยาม ที่อิมามชาฟิอีย์ได้ยกมาสนับสนุน ซึ่งผมจะตอบผนวกไปกับสิ่งที่คุณรอยยาถามครับ

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 31, 32, 33  ถัดไป
หน้า 5 จากทั้งหมด 33

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.22 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ