บ่อยครั้งที่ชาวโลกได้ยินคำว่า สิทธิมนุษยชน เพราะเป็นคำที่สหรัฐใช้อ้างในการรุกคืบสู่ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็น ประเทศจีน,พม่า,มาเลเซีย,ซูดาน,คิวบา,รัสเซีย,ซีเรีย,ซาอุดิอาราเบีย และ ฯลฯ ทั้งๆ ที่คำนี้ชาวโลกไม่เคยได้ยินมาก่อน
โดยสหรัฐมักจะสอดส่ายสายตามองไปยังรัฐบาลประเทศต่างๆ โดยเฉพาะบรรดาประเทศที่กล่าวมานั้น มักจะมีนโยบายที่ตรงกันข้ามกับสหรัฐ ซึ่งในบางครั้งสหรัฐก็ออกมาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ด้วยตนเอง และบางครั้งก็ใช้สหประชาชาติเป็นเวทีประณามแทน ซึ่งภาพภายนอกนั้นเหมือนกับสหรัฐจะเป็นผู้ผดุงค์ความยุติธรรมให้แก่ชาวโลก คอยปกป้องรักษาสิทธิ์เสรีภาพขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนโดยทั่วไป ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหนก็ตาม
แต่ในภาพความเป็นจริงแล้ว สหรัฐใช้คำว่า สิทธิมนุษยชน เพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐ ด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า มาโดยตลอด ทั้งๆที่ประชาชนชาวอเมริกันเอง ก็ยังไม่ได้รับสิทธิเสรีภาพอย่างครบถ้วน ตามที่สหรัฐได้แหกปากบอกกับชาวโลก เช่นในหลายรัฐของอเมริกายังมีการแบ่งแยกชนชั้น สีผิว โดยที่คนดำไม่สามารถเรียนโรงเรียนเดียวกับคนขาว หรือไม่สามารถรักษาในโรงพยาบาลเดียวกัน หรือไม่สามารถรับประทานอาหารร้านเดียวกัน แม้กระทั่งในบางรัฐก็ยังห้ามคนผิวดำขึ้นรถเมล์คันเดียวกับคนผิวขาว อย่างนี้เป็นต้น
ขณะที่สหรัฐยังไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาภายในประเทศของตัวเองได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่กลับไปประณามชาวโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวใหญ่ที่ทำให้สหรัฐหน้าแตกเย็บไม่ติด เสื่อมเสียกันไปทั้งประเทศ นั่นคือเหตุการณ์ที่ทหารสหรัฐทารุณกรรมต่อนักโทษชาวอิรัค ในเรือนจำอบูฆอรีบ แต่หลังจากสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นคำสั่งของนายโดนัล รัมส์เฟลด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐเสียเอง และนอกจากซาตานบุช ผู้นำสหรัฐจะไม่จัดการต่อนายรัมส์เฟลด์แล้ว ยังออกมาปกป้องอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของสันดานยิว ที่ชอบเสือกเรื่องชาวโลก
ล่าสุดรัฐบาลพม่าที่เคยถูกสหรัฐประณามมาโดยตลอด ได้ย้อนรอยสหรัฐ โดยออกมากล่าวโจมตี และประณามรัฐบาลสหรัฐอย่างรุนแรงว่า ต่อจากนี้ไปสหรัฐอย่าได้อ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนต่อพม่าอีก หากยังไม่เคลียร์เรื่องราวที่คาใจแก่ชาวโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐ หรือในอิรัคก็ตาม
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.