จบลงแล้วกับการประชุมสุดยอดผู้นำโลกอาหรับ 22 ประเทศ หรือสันนิบาตอาหรับ ซึ่งเป็นไปดังที่เคยมีเสียงวิพากวิจารณ์ไว้ก่อนแล้วว่า คาดหวังอะไรได้ไม่มากนัก และก็จะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากจะสร้างความร้าวฉานให้เกิดแก่โลกอาหรับมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะก่อนจะเริ่มประชุมก็เกิดอาการรวนเสียแล้ว โดยซาอุดิอาราเบีย เยเมน ซีเรีย ซูดาน ไม่ยอมเข้าร่วมประชุมด้วย และบางประเทศก็ออกจากที่ประชุมกลางคัน แถมสิงห์ทะเลทรายอย่าง มุอัมมัร ก็อดซาฟี่ ก็ไม่พอใจประกาศถอนตัวและชาติลิเบียออกจากการประชุมสันนิบาติอาหรับอีกด้วย ทำให้เหลือชาติที่ยังคงร่วมประชุมอยู่ต่อไปเพียง 12 ประเทศเท่านั้น
เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผู้นำชาติอาหรับต่างมีจุดยืนที่แตกต่างกัน บางคนก็แสดงตนเป็นทาสรับใช้ตะวันตกอย่างเปิดเผย และแม้บางคนจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่กล้าที่จะประกาศว่ายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามอเมริกา แสดงให้เห็นว่าผู้นำชาติอาหรับแต่ละคน ต่างก็รักตำแหน่ง และรักษาผลประโยชน์ของชาติตัวเองไว้อย่างเหนี่ยวแน่น โดยไม่คำนึงถึงภาพรวมของมุสลิมและอิสลาม
ฉะนั้นการหยิบปัญหาของปาเลสไตน์ และอิรัค มากล่าวในที่ประชุม ก็คงเป็นเพียงการเล่าสู่กันฝัง หรือเป็นเวทีให้บางคนได้ระบายอารมณ์เท่านั้นเอง แล้วในที่สุดประชาชนชาวปาเลสไตน์ และประชาชาติอิรัค ก็ต้องถูกโดดเดี่ยวอีกตามเคย
ยิ่งกว่านั้น ภาพการประชุมที่ได้ปรากฏยังเป็นช่องโหว่ ให้ตะวันตกได้กระหยิ่มว่า มุสลิมไร้น้ำยา และต่อนี้ไปเลือดและน้ำตาของมุสลิมจะยิ่งหลั่งริน นองไหลไม่มีวันเหือดแห้ง ซีเรียจะเป็นรายต่อไป
คงจะไม่แปลกนักที่เราจะกล่าวว่า.........
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.