การประชุมสุดยอดของสันนิบาตรอาหรับที่มีถึง 22 ประเทศ และกำลังจะจัดให้มีขึ้นในเช้าวันเสาร์นี้ ( 22 พฤษภาคม 47 ) โดยมีประเทศตูนีเซียเป็นเจ้าภาพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าภาพตูนีเซียเคยสั่งยกเลิกการประชุมสุดยอดมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโดยที่ตูนีเซียไม่สามารถชี้แจงเหตุผลการสั่งยกเลิกในครั้งนั้นได้ แต่ว่าการประชุมในครั้งใหม่นี้ หัวข้อประเด็นที่สำคัญๆ ก็คงจะหลีกหนีไม่พ้นปัญหาในประเทศอิรัค และปาเลสไตน์ ซึ่งถ้ามองตามผิวเผินแล้วก็น่าจะเป็นการแก้ปัญหาฉุกเฉินอย่างทันท่วงที
แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับไม่ได้เป็นอย่างที่หลายฝ่ายตั้งความหวังไว้แม้แต่น้อย เนื่องจากประสพการณ์ที่ผ่านมาระยะหลังๆ นั้น ไม่เคยมีสักครั้ง ที่การประชุมสุดยอดสันนิบาตรอาหรับจะได้รับความสำเร็จ และรีบเข้ามาแก้ไขปัญหาในภูมิถาคตะวันออกกลางอย่างจริงจัง
จะสังเกตุได้ว่าจากการที่ตูนีเซียได้กำหนดวันในการประชุมครั้งใหม่นี้ ก็เริ่มมีเสียงวิพากวิจารณ์จากหลายประเทศอาหรับว่า การประชุมครั้งใหม่นี้ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาอะไรได้อย่างเป็นรูปธรรม และน่าจะเป็นการสร้างความแตกแยกให้หนักลงไปกว่าเดิมในหมู่ผู้นำอาหรับมากกว่า เนื่องจากประเทศเจ้าภาพเองก็เป็นสมุนรับใช้อย่างใกล้ชิดของรัฐบาลสหรัฐ ที่คอยรับฟังคำบัญชาใช้มาโดยตลอด
อีกทั้งการประชุมในครั้งนี้ ก็จะมีผู้นำอาหรับอีกหลายประเทศที่เป็นสมุนรับใช้ของสหรัฐมาร่วมกันเออออห่อหมก พูดขอไปทีแก้ปัญหาอย่างลวกๆ และหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับประเทศ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจอะไร ที่มีผู้นำอาหรับซึ่งไม่ค่อยชอบนโยบายสหรัฐประกาศไม่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ เช่น ซาอุดิอารเบีย เยเมน ซีเรีย ซูดานและอีกหลายประเทศ
จากเรื่องราวที่กล่าวมานั้น คงจะทำให้พี่น้องมุสลิมหลายท่านเกิดความกระจ่างชัดเจน ว่าทำไมประเทศอาหรับจึงไม่เข้าช่วยเหลือพี่น้องชาวปาเลสไตน์หรือในอิรัค ทั้งๆ ที่ถ้าผู้นำอาหรับสามารถรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวได้เมื่อไหร่ โลกทั้งโลกก็จะต้องยอมสยบต่ออาหรับอย่างหลีกหนีไม่พ้น เนื่องจากว่าอาวุธร้ายแรงที่ชาวอาหรับมีอยู่ในขณะนี้ ก็คือ น้ำมัน นั่นเอง
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.