ชีอะห์เคยเป็นชนกลุ่มน้อยในอิรัค ที่ปัจจุบันแตกออกเป็น 2 ขั้ว โดยขั้วแรกมีโคแก่อย่างนายอาลี อัลซิสตานีย์ เป็นแกนนำ ซึ่งมีสัมพันธ์ที่ดีกับอเมริกาและพันธมิตรที่ยึดครองอิรัคอยู่ในขณะนี้ โดยเข้าไปมีบทบาทในฐานะคณะผู้บริหารของสภาปกครองอิรัค ร่วมกันปล้นชาติปล้นทรัพยากรของอิรัคกันอย่างเมามัน
แต่ชีอะห์อีกขั้วหนึ่งนำโดยกระทิงหนุ่มอย่างนาย มุกตะดา อัลศ็อดร์ มีฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองนะยัฟ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคู่ปรับของอเมริกาและพันธมิตรเสียแล้ว ทั้งๆที่เริ่มแรกชีอะห์กลุ่มนี้ได้วางตัวอย่างสงบเสงี่ยมมาโดยตลอด
มูลเหตุที่ทำให้ชีอะห์กลุ่มนายมุคตาดา ชักธงรบกับอเมริกานั้นเพราะพลาดตำแหน่งในการเข้าร่วมเป็นคณะผู้บริหารอิรัคชุดใหม่ ซึ่งจะมีการถ่ายโอนอำนาจกันในวันที่ 30 ที่จะถึงนี้ ทำให้นายมุกตาดาและคณะเริ่มก่อหวอดออกมาวิพากษ์วิจารณ์อเมริกาและพันธมิตรอย่างรุนแรง ทั้งบนธรรมาสและในบทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่พวกเขาได้จัดทำขึ้น
แต่หลังจากที่ถูกสั่งปิดหนังสือพิมพ์ จึงเป็นชนวนที่สร้างกระแสความไม่พอใจอเมริกาขึ้นมาทันที มีการประทะกันด้วยอาวุธบ่อยครั้งขึ้น จนกระทั่งอเมริกาประกาศไล่ล่า มุกตาดา ในฐานะฆาตรกรที่ลอบสังหารหนึ่งในแกนนำชีอะห์เมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่บริวารผู้จงรักภักดีต่อ มุกตาดา ประกาศลั่นว่า หากอเมริกาล่วงล้ำเข้ามาในเขตเมืองนะยัฟ ก็จะตอบโต้ด้วยความรุนแรงทันที
นายพอล เบลเมอร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารอิรัค กล่าวว่า เมืองนะยัฟ เป็นแหล่งซ่องซุมอาวุธร้ายแรงที่ใหญ่ที่สุดในอิรัค คำกล่าวของนายเบลเมอร์ จะจริงหรือเท็จก็ต้องรอพิสูจน์กันต่อไป
แต่ไม่แน่...หากทั้งสองฝ่ายประสานผลประโยชน์กันได้ ก็อาจจะหันมาจูบปากกันอย่างดูดดื่ม แล้วลืมการนองเลือดที่ผ่านมา
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.