หลักของการศรัทธาหรือที่เรียกว่า "รุก่นอีหม่าน" หรือ "อัรกานุ้ลอีหม่าน" คือพื้นฐานทางการศรัทธาที่มุสลิมทุกคนจะต้อง
เรียนรู้ และศึกษาให้เข้าใจเพื่อจะได้มีความเชื่ออย่างถูกต้อง
แม้ว่าการศรัทธาจะมีอยู่หลายประการดังกล่าวมาแล้ว แต่ที่เป็นหลักที่ผู้ศรัทธาต้องเชื่อมั่นเป็นอันดับแรกนั้นมีอยู่ 6 ประการคือ
1.ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ
2.ศรัทธาต่อบรรดารอซูล (ศาสนฑูต)
3.ศรัทธาต่อคัมภีร์ของอัลลอฮฺ
4.ศรัทธาเรื่องมะลาอิกะฮฺ (เทวฑูตของอัลลอฮฺ)
5.ศรัทธาเรื่องกอฎอกอดัร (การกำหนดความดีและความชั่วของอัลลอฮฺ)
6.ศรัทธาเรื่องวันกิยามะฮฺ (กาลอวสานและวันฟื้นคืนชีพ)
การศรัทธา 6 ประการที่เป็นหลักข้างต้นนี้ มิมีผู้ใดคิดค้นหรือหยิบยกเอามาร้อยเรียงตามอารมณ์ หรือตามความรู้สึกนึกคิดของตัวเองแต่มีที่มา
จากอัลกุรอาน และหะดีษของท่านนบีมูฮำหมัด ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม ดังนี้คือ
"รอซูลนั้นศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมายังท่าน จากองค์อภิบาลของท่าน และบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหมดต่างก็ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ มะลาอิกะฮฺ
ของพระองค์ คัมภีร์ของพระองค์ และรอซูลของพระองค์" (อัล-บะกอเราะฮฺ:285)
"หาใช่เป็นความดีแต่อย่างใดในการที่พวกเจ้าผินหน้าของพวกเจ้าไปทางทิศตะวันออกและตะวันตก หากแต่ความดีนั้นคือ ผู้ที่ศรัทธาต่อ
อัลลอฮฺ, ศรัทธาเรื่องวันอวสาน, มะลาอิกะฮฺ, คัมภีร์, และศรัทธาต่อบรรดานบี" (อัล-บะกอเราะฮฺ:177)
จะเห็นได้ว่าอัลกุรอานทั้ง 2 อายะฮฺ ข้างต้นนั้นบอกถึงจำนวนการศรัทธาไม่ตรงกัน โดยในอายะฮฺแรกกล่าวไว้เพียง 4 ประการ คือ
ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ มะลาอิกะฮฺของพระองค์ คัมภีร์และรอซูลของพระองค์
ส่วนในอายะฮฺที่ 2 กล่าวไว้ 5 ประการคือ การศรัทธาต่ออัลลอฮฺ
วันอวสาน มะลาอิกะฮฺ คัมภีร์ และการศรัทธาต่อบรรดานบี ที่เป็นเช่นนี้เพราะอัลกุรอานแต่ละอายะฮฺถูกประทานลงมาไม่พร้อมกัน
โดยพระองค์อัลลอฮฺได้ให้ "ญิบรีล" ทยอยนำมาให้แก่ท่านนบีเป็นช่วงๆ ตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ท่านนบีประกาศอิสลาม
ส่วนการศรัทธาในเรื่อง "กอฎอกอดัร" (การกำหนดความดีและความชั่ว) นั้น พระองค์อัลลอฮฺได้ทรงกล่าวไว้ในอัลกุรอานหลายอายะฮฺ
ด้วยกัน เช่น
"และ (อัลลอฮฺ) ได้สร้างทุกๆสิ่ง แล้วพระองค์ก็ทรงกำหนดมันให้เป็นไปตามกฎ" (อัล-ฟุรกอน:2)
เพราะฉะนั้น เราสามารถกล่าวได้ว่า หลักการศรัทธา 6 ประการ มีระบุใว้ในอัลกุรอานอย่างครบถ้วน แต่หากจะมีผู้ถามว่า เรื่องอื่นๆก็มี
ระบุไว้ในอัลกุรอานเช่นเดียวกัน ทำไมถึงไม่นำมาเป็นหลักในการศรัทธาด้วย? ขอตอบว่า การที่จะนำเรื่องใดมาเป็นหลักในการศรัทธา
นั้นมิได้เป็นความคิดของผู้ใดหรือคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยเฉพาะ แต่หากท่านนบีมูฮำหมัด ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นผู้ร้อยเรียง
หลัการศรัทธา 6 ประการนี้ให้ผู้ศรัทธาได้ยึดถือ
"ถ้าเช่นนั้นได้โปรดบอกฉันถึงเรื่องอีหม่าน ท่านนบีตอบว่า คือการที่ท่านจะต้องศรัทธาต่ออัลลอฮฺ มะลาอิกะฮฺของพระองค์ คัมภีร์
จองพระองค์ รอซูลของพระองค์ และวันอวสาน อีกทั้งการที่ท่านจะต้องศรัทธาต่อการกำหนดความดีและความชั่วของพระองค์"
(รายงานโดยท่านอุมัร บันทึกโดยมุสลิม กีตาบุ้ลอีหม่าน บทที่ 1)
ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้ศรัทธาบรรดาผู้ศรัทธาจึงเชื่อมั่นอย่างสนิทใจ และยึดถือ 6 ประการ ข้างต้นนี้เป็นหลักหรือรากฐานทางการศรัทธา
เหมือนกัน ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม หรือจะอยู่ในยุคใดก็ตาม
แต่หากผู้ใดมีพื้นฐานหลักทางการศรัทธาที่แตกต่างจากนี้ ก็แสดงว่าเขามีหลักการศรัทธาที่ไม่ได้มีที่มาจากคำสอนของท่านนบี เช่น หลักการ
ศรัทธาหรือรากฐานทางการศรัทธาของกลุ่มชีอะฮฺอิหม่ามสิบสอง ที่พวกเขาอ้างว่า
1.เตาฮีต อัลลอฮฺรงเอกะ
2.อาเดล อัลลอฮฺทรงยุติธรรม
3.นุบูวะฮฺ ตำแหน่งการเป็นนบี
4.อิมามะฮฺ ตำแหน่งของอิหม่าม
5.กิยามัต กาลอวสาน
ทั้งห้าประการข้างต้นนี้มิใช่หลักการศรัทธา หรือรากฐานทางการศรัทธาที่ท่านนบีได้สอนไว้ แต่กลุ่มชีอะฮฺอ้างว่าเป็นแนวทางของลูกหลานนบี
ทั้งที่ไม่เคยมีลูกหลานนบีท่านใดได้สอนสั่งเอาไว้เช่นนี้เลย จึงเป็นการตั้งศาสนาขึ้นใหม่โดยแอบอ้างคำสอนของอิสลาม
น่าแปลก...เรื่องของหลักการศรัทธานี้เป็นเรื่องสำคัญ ถือเป็นหัวใจของการเป็นมุสลิมเลยทีเดียว และเรื่องที่สำคัญขนาดนี้หาที่มาจากคำสอนไม่ได้
ถือว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด พระองค์อัลลอฮฺได้ทรงกล่าวว่า
"บรรดาผู้ที่แยกศาสนาของพวกเขา แล้วพวกเขาก็กลายเป็นลัทธินิกายต่างๆ เจ้า (มูฮำหมัด) มิได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาแต่อย่างใด"
(อัล-อันอาม:159)
ศาสนาที่ท่านนบีมูฮำหมัดมิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะเป็นอิสลามได้อย่างไร ฉะนั้นกลุ่มชีอะฮฺอิหม่ามสิบสอง จึงได้ตั้งศาสนาขึ้นใหม่โดยแอบอ้างคำสอน
ของอิสลาม และก็แอบอ้างชื่อว่าเป็นศาสนาอิสลามอีกด้วย