คุณชอบะฮ์ผมทวงคำถามผมช่วยตอบด่วนด้วย หากความเชื่อในเรื่องอัลลอฮ์ที่ขึ้นลงฟากฟ้าเป็นจริง ถ้ายังไม่ตอบแสดงว่าความเชื่อในซิฟัตของอัลลอฮ์เช่นนั้นของฝ่ายวะฮะบีเป็นเท็จ จึงป่วยการที่ คุณจะไปโต้แย้งในเรื่องอุซูลุดดีนกับพวกชีอะฮ์ ขอยืนยันว่า ฝ่ายซุนนีมัศฮับชาฟีอี ไม่มีความเชื่อในเรี่องการเดินทางขึ้นลงของอัลลออ์
โดยคุณ คนท่าอิฐแท้ [18 Oct 2001 16:4] #3165 (121/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลักความศรัทธาของพวก สุนนะ หรือ วะฮะ บี
." เราศรัทธาว่า สำหรับอัลลอฮฺนั้น มีมือสองมือที่มีเกียรติ ที่ ยิ่งใหญ่ ."
โดยอ้างจาก อัลกุรอ่าน ( อัลมาอิดะฮฺ : 64 )
นอกจากนี้พวกสุนนะยังเชื่อและศรัทธาอีกว่า บรรดาผู้ศรัทธานั้น จะเห็นพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาในวันกิยามัติ .
โดย เอา หลักฐาน จารอัลกุรอ่าน
." ใบหน้าต่างๆในวันนั้น ( วันกิยามะฮฺ ) สดใส ยังพระผู้เป็นเจ้าของพวกมัน เป็นผู้มองไป ." ( อัลกิยามะฮฺ : 22 )
ความว่า "...หากแต่ว่ามือทั้งสองข้างของพระองค์แผ่กว้าง พระองค์ทรงจับจ่ายตามที่พระองค์ทรงประสงค์ .."
จากหนังสือ
หลักการเชื่อถือ ของ อะฮฺลุสซุนนะฮฺ วัลญามาอะฮฺ ที่เรียบเรียงโดย เชค มุฮัมมัด อัศซอและหฺ อัลอุไซ ยมีน
แปลโดย อ . มุฮัมมัด เหมอนุกุล ( หน้าที่ 1 4 - 15 )
สรุป ซุนนะเชื่อว่า อัลลอฮทรงมีเรื่อนร่าง มีมือ 2 มือ มีตา 2 ตา มีทิศทางที่ แน่นนอน ในการเคลื่อนที ."
โดยอาศัยการเข้าใจกรุอ่าน แบบๆ ผิด เพี้ยน
ที่นี้เรามาลองดูความเข้าใจในเรื่องของชีอะฮ อิมา มิยะห์ กับบ้าง นะครับ
."ท่าน มุฮัมหมัด บินอะบีอุมัยรฺ ได้กล่าวว่า : ข้าพเจ้า เคยได้ถามท่าน อิมาม มูซา อัล-กาซิม ( อ) ว่า
บุตรบุตรของศาสนทูต แห่งอัลลอฮ ( ซบ) เอ๋ย โปรดสอนเรื่องหลักเตาฮีด ( เอกภาพของอัลลอฮ ( ซบ) ให้แก่ข้าพเจ้าเถิด ท่านอิมามมูซา(อ) กล่าวว่า
อะบูอะฮฺมัดเอ๋ย ในเรื่องหลักเอกภาพของอัลลอฮ (ซบ) นั้น ท่านจงอย่ากล่าวให้เกินเลยไปจากที่อัลลอฮ (ซบ) ตรัสไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ มิ ฉนั้นท่านจะเสียหาย จงรู้ไว้เถิดว่า อัลลอฮ(ซบ) ทรงมีองค์เดียว เ ป็น องค์เดียวอันป็นที่พึ่ง ไม่ให้กำเนิด เพื่อสืบทายาท และไมถูกประสติ เพราะจะเป็น ภาคี ไม่มีมเหสี ไม่มีบุตร และไม่มีหุ้นส่วนใดๆ ทรงดำรงชีวิตอยู่โดยไม่ตาย ทรงอานุภาพโดยไม่ออ่นแอ ทรงยิ่งใหญ่เกรียงไกร โดยไม่แพ้พ่าย ทรง สุขุมโดยไม่ รีบร้อน ทรงดำรงอยู่ตลอดไปโดยไม่แปรเปลี่ยน ทรงคงอยู่ตลอดไปโดยไม่สูญสลาย ทรงมั่นคงแน่นอนโดยไม่เสรื่อมคลาย ทรงมั่มคง เหลือล้นโดยไม่ขาดแคลน
ทรงมีเกียรติยศ ยิ่งโดยโดยไม่ตกต่ำ ทรงมีความรู้โดยไม่โง่เขลา ทรงยุติธรรมโดยไม่อธรรม ทรงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยไม่ตระหนี่ สติปัญญาใดๆย่อยจำกัดขอบเขตของพระองค์ มิได้ มโนภาพใดๆ ย่อมไม่ถูกต้องต่อพระองค์ ขอบเขตใดๆไม่อาจโอบล้อมพระองค์ สถานที่ใดๆมิอาจรองรับพระองค์ สายตาใดๆมิอาจสัมผัสพระองค์ พระองค์ทรงมีความออ่นโยน ทรงเปิดเผย และไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ ทรง ได้ยิน ทรงมองเห็น พระองค์ทรงมีโองการว่า :
.เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า อัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และสิ่งที่อยู่ใน แผ่นดิน การซุบซิบกันในสามคนจะไม่เกิดขั้น เว้นแต่พระองค์จะทรงเป็นที่สี่ของพวกเขาและมันจะไม่เกิดขึ้นในห้าคน เว้นแต่พระองค์ทรงเป็นที่หกของ พวกเขา และมันจะไม่เกิดขึ้นน้อยกว่านั้น และจะไม่เกิดขึ้นมากกว่านั้นเว้นแต่พระองค์จะทรงอยู่ร่วมกับพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในแห่งหนใด แล้ว พระองค์ก็จะทรงแจ้งพวกเขาให้ทราบในวันกิยามะฮฺถึงสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้ (ในโลกดุนยา) แท้จริงอัลลอฮเป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง (*1*) ( ซู เราะห์ อัล-มุญาดะละฮฺ : 7 )
พระองค์นั้นเป็นองค์แรก ซึ่งไมมีใครดำรงอยู่ก่อนพระองค์ ทรงเป็นองค์สุดท้ายทีไม่มีใครดำรงอยู่ ภาย หลังจากพระองค์ พระองค์ทรงเป็นองค์เริ่มแรก เดิมที ไมมีสิ่งใดที่เพิ่งถูกสร้างมาคล้ายคลึงพระองค์ ทรงอยู่เหนือลักษณะทั้งหลายของบรรดาสิ่งถูก สร้าง ทรงสูงสุด ทรงยิ่งใหญเกรียงไกร .
จาก หนังสือ อัต เตาฮีด หน้า 77
โดยคุณ Hasim [18 Oct 2001 18:45] #3169 (122/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถึงคุณ HASIM การที่คุณเชื่อใน อัลลอฮฺ ในอัลกุรอ่าน ก็เป็นสิ่งดี แต่ทำไมในอัลกุรอ่าน จึงไม่มีหลักฐานของพวกท่านอยู่เลยละ ในเมื่อพวกท่านตามอัลลอฮฺ ตามอัลกุรอ่าน ไฉนท่านจึงไม่นำหลักฐานจาก อัลกุรอ่านมาเสนอ ว่าอุศูล หรือ รุก่น 5 ประการของ ซีอะฮฺอยู่ตรงไหน ใครเป็นผู้รวบรวม ( อุศูลคอมซะฮฺ ) มัวแต่จะบิดเบือนอยู่หรือไร
สรุปของชาวซุนนะฮฺ ที่ยกอัลกุรอ่าน (อัลบะเกาะเราะฮฺ 177 285 ) (และ อัลฟุรกอน 2 ) ใช้ไม่ได้ อย่างนั้นหรือ ใครปฏิเสธ อัลกุรอ่านกันแน่
โดยคุณ มุสลิม [18 Oct 2001 23:02] #3171 (123/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่เข้ามาคนแล้วคนเล่าก็เฝ้าแต่ปฏิเสธ เฝ้าแต่ จะบิดเบือน เช่น คนท่าอิฐ เข้ามาทำไมไม่ดูประเด็นก่อนว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร ใครเป็นคนตั้งกฏิกา ฝ่ายท่านทั้งนั้น
ส่วนคุณ ซัลมาก็อธิบายบิดเบือนอยู่ร่ำไปคำถามแต่เริ่มแรกคือเรื่อง อุศูล หรือ รุก่น 5 ประการมาจากไหน ใครเป็นผู้เรียบเรียง ง่าย ๆ ในเมื่อพวกคุณเชื่อ ว่า เตาฮีด นุบูวะฮฺ อัลอัด อิมามะฮฺ กิยามะฮฺ ในเมื่อคุณเชื่อในหลัก อุศูล 5 ประการของคุณ (ซีอะฮฺ) ก็นำหลักฐานมาแสดงดีกว่า (หรือว่าไม่มี) เที่ยวบิดเบือนอยู่ร่ำไป """""จะเห็นได้ว่าปากพวกซีอะฮฺนั้นบอกเชื่อ อัลลอฮฺ เชื่ออัลกุรอ่าน แต่อุศูล รุก่น คอมซะฮฺ 5 ประการนั้นไม่มีในอัลกุรอ่าน
แน่นอน""""""""อย่างที่คุณ ซอบะห์ว่า หงายหลังตีลังกา ตกรูไปเลย แล้ว ก็ไม่มี อะฮฺลุลบัยต์ ท่านใดรวบรวมด้วยนี่ก็ 100 กว่ากระทู้แล้วยังไม่มีเลยหลักฐาน รวมของเก่าจาก เวป มรดกอิสลามก็ 500ได้ แล้ว ไม่มีหลักฐานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดยคุณ มุสลิม ซุนนะฮฺ [18 Oct 2001 23:20] #3172 (124/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรียนคุณ "คนท่าอิฐ"
คุณขาน รับคำชีอะฮ์ดีเหลือเกินนะคะ
มิหนำซ้ำยังช่วยเปิดช่องให้ชีอะฮ์หนีประเด็นเสียอีก
ถ้าคุณคือสายมัซฮับซาฟีอีจริงๆ ก็พึงรู้เถิดว่า มัซฮับ ซาฟีอีนั้นมีหลักการศรัทธา 6 ประการไม่ใช่ 5 ประการ
มัซฮับซาฟีอี เชื่อศรัทธาตามอัลกุรอาน,เชื่อศรัทธาตามฮาดีษศอเฮียะฮ์ และเชื่อในความ เที่ยงธรรมของบรรดาศอฮาบะฮ์
คุณคนท่าอิฐคะ พฤติกรรมของคุณมันฟ้องว่าคุณไม่ใช่มัซฮับซาฟีอี แต่คุณคือชีอะฮ์ หรือฝักใฝ่ในชีอะฮ์ หรือ เป็นแนวร่วมให้ชีอะฮ์ ปิดกันไม่มิดหรอกคะ
คำถามใดๆที่เข้ามามิใช่ชาวซุนนะฮ์ตอบไม่ได้ แต่โองการใดก็ตามที่พูดถึงอัลลอฮ์นั้น ชาวซุนนะฮ์ เขาเชื่อศรัทธาตาม เขาไม่ได้เอาสมองหรือปัญญาไปวิจารณ์หรือวางฮุกมให้อัลลอฮ์ เขาไม่ใช้สติปัญญาไปตีความ
ฉะนั้น เรื่องที่ชาวซุนนะฮ์เชื่อ ศรัทธาทุกเรื่อง คือเรื่องที่มีตัวบทหลักฐานจากอัลกุรอานและฮาดีษศอเฮียะฮ์มาบ่งบอก
แต่ชีอะอ์พยายามเหลือเกินที่จะเปลี่ยนเรื่องเปลี่ ยประเด็น
ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง ไม่ใช่มัซฮับใดในอิสลาม
ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสองไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์
ชีอะฮ์ใช้อะอ์ลุ ลบัยต์บังหน้าเพื่อล่อลวงมุสลิมออกจากอิสลาม
ไม่ละอายกันเลยหรือคะ...ที่ดิฉันพูดประโยคข้างต้นนี้อยู่หลายครั้ง หลายหน แต่ก็ไม่มีชีอะ ฮ์ท่านใด ไม่ว่าจะเป็นระดับอุลามาอ์ หัวแถวหรือปลายแถว ที่จะออกมายืนยันว่าดิฉันพูดผิด
ชีอะฮ์เสนอเองกฏกติกามาเองว่า "หลักฐาน จากทั้งสองฝ่าย" แต่ขณะนี้ชีอะฮ์ฉีกกฏกติกาอีกแล้วคะ ไม่ยอมนำเสนอหลักฐานว่า อะฮ์ลุลบัยท่านใดรวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์
เหล่าชีอะฮ์ต้องกลืนสะเลดที่คากแล้วลงคออีกครั้งอย่างจำใจ
น่าสงสารผู้สัจจริงนะคะ ที่พร่ำโพทนาตลอดมาว่าตาม ลูกหลานนะบี แต่เมื่อถึงเวลา พวกเขาก็หาคำของลูกหลานนะบีมายืนยันความเชื่อของพวกเขาไม่ได้
เมื่อพวกเขาไม่กล้ารับความจริง พวกเขา จึงใช้วิธีการเบี่ยงเบนประเด็น ชีอะอ์หลายท่านที่เข้ามาต่างก็นำเรื่องมาคนละเรื่องเพื่อกลบเกลื่อน ด้วยการใส่ไคล้
แต่ดิฉันไม่หลงกลนะคะ และ ผู้มีปัญญาที่เข้ามาอ่านแต่แรกย่อมทราบดีว่า พวกชีอะฮ์กำลังดิ้นตะเกียกตะกายในเฮือกสุดท้าย
นี่เป็นเพียงฉากแรกที่พิสูจน์ว่า ชีอะฮ์ไม่ใช่ แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์
คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าทราบว่าชีอะฮ์มีรุกนอิสลาม 10 ประการ และในสิบประการนี้ไม่มี "กะลิมะฮ์ซะฮาดะ ฮ์"
ไม่มีการปฏิญาณตนว่า "ลาอิลาฮาอิ้ลลัลลอฮ์" และไม่มีคำปฏิญานว่า "มูฮัมมะดุรรอซูลุลลอฮ์"
แต่ใจเย็นๆนะคะ..ดิฉันต้องการสนทนาทีละเรื่อง ที่ละประเด็น ทั้งสองฝ่าย
เมื่อชีอะฮ์ไม่มีหลักฐานที่จะนำเสนอ วิธีการของชีอะฮ์ก็เป็นอย่างที่ เห็นนี่แหละคะ... ตั้งคำถามมาคนละเรื่องสองเรื่องเพื่อกลบเกลื่อน แต่กลบไม่มิดนะคะ
หางโพล่ออกมา ยาวตั้งศอกหนึ่ง
โดยคุณ ซอบะห์ [19 Oct 2001 00:0] #3173 (125/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปหลักความเชื่อของ ลัทธิ วาฮะบี เชื่อ และยอมรับ จริงๆ ว่า อัลลอฮ สามารถ มองเห็นได้ ในวันกิยามัติ ในขณะที่ ชีอะฮิ เชื่อว่าไม่สามารถ มองเห็น ได้ ในโลกนี้ และโลกไหน
ลัทธิ วาฮะบี เชื่อ ว่า อัลลอฮ สามารถมีเรือนร่าง และเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทาง และทรงเสด็จจากชั้นฟ้า มาสู่โลกนี้ ได้
ลัทธิวาฮะบี เชื่อว่า อัลลอฮมี ใบหน้า และมีตาสองตา แล้วยังบังอาจใช้จิตนาการเปรียบเทียบดวงตาของดัจญ้าล อีก ว่าดัจญ้าลตาแหล่ แต่อัลลอฮมมิได้ตาแหล่ "
พี่น้องผู้ มีปัญญา ครับ พวกท่านเชื่อกันหรือครับ ว่า นบีได้สอนเรื่องนี้ ให้กับมุสลิมจริงๆ พวกท่านเชื่อกันหรือครับ ว่าท่านนบี เปรียบเทียบคุณลักษณะ ของอัล ลฮ กับดัจญ้าล อย่างที่พวก วะฮะบีนำมาอ้าง นำมาสอน ซึ่งพวกเขาก็ยอมรับ ตามคำตอบของคุณ ซอบะฮ [19 Oct 2001 00:08] #3173 (125/125)
" คำถามใดๆที่เข้ามามิใช่ชาวซุนนะฮ์ตอบไม่ได้ แต่โองการใดก็ตามที่พูดถึงอัลลอฮ์นั้น ชาวซุนนะฮ์เขาเชื่อศรัทธาตาม เขาไม่ได้เอาสมองหรือปัญญาไปวิจารณ์หรือวางฮุกมให้อัลลอฮ์ เขาไม่ใช้สติปัญญาไปตีความ "
ปากพล่อยๆพูดว่า ไม่ได้เอาสมองหรือ ปัญญาไปวิจารณ์ หรือวางฮุกุมให้ อัลลอฮ แต่สิ่งที่ปรากฎในหนังสือที่ใช้สั่งสอนกัน มา จากต้นตำรับ อิบนุ ตัยมิยะ และบรรดาสานุศิษย์ ก็เป็นดังที่ ปรากฎ ครับ ....
โดยใช้คำพูดอย่างสวยหรู ว่าเป็นสุนนะท่านนบี เป็นเรื่องที่นบีพูด และได้บันทึกและเก็บรวบรวมไว้เป็นฮะดิษ ที่ซอเฮียศฺ ทำให้ พวกลัทธิวาฮะบีนี้ใช้ช่องทางในการครอบ งำความคิด สติปัญญา ในการการคิดใคร่ครวญในเรื่องต่างๆ ซึ่งขัดกับหลักการอิสลาม หลักความเชื่อ โค ยทั่วไป พวกมันวาฮะบี อาศัยการเข้าใจกรุอ่านเพียงผิวเผิน เถรตรง พิดเพี้ยน เป็นศัตรูตัวร้าย ของอิสลามที่แท้จริง เป็นศัตรู ที่พวกหมาอำนาจ สร้างมาเป็นอาวุธ ในการทำลาย อิสลาม( ดีน) ของอัลลอฮ โดยทำกันเป็นขบวนการ ของพวกมหาโจร ของราชวงค์หนึ่งในอรับ ตัวอย่างในปัจจุบัน ก็ มีให้เห็น ปรากฏอย่างชัดเจน อยู่แล้วครับพี่น้อง ฉนั้น ลัทธิวาฮะบีนี้ ห่างไกลกันเสียเหลือเกิน กับคำว่าอิสลาม แบบสุนนะ นบี
ย้ำ ลัทธิวะฮะบี ห่างไกลกันเสียเหลือเกิน กับ อิสลามทีแท้จริง
โดยคุณ hasim [19 Oct 2001 11:4] #3174 (126/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณชอบะฮ์ ในเมี่อหลักศรัทธาของฝ่ายชุนนะฮ์ และซุนนีเหมือนกัน ทำไมฝ่ายซุนนะฮ์ จึงกล่าวหาพวกเรามาตลอดว่า เป็นพวกทำบิดอะฮ์ ฮุกุมพวกเรามาตลอดว่าเป็นชาวนรก จนเดี๋ยวนี้อาจารย์ยะ ฮ์ยา ลาตีฟีก็ตายไปแล้ว พวกเราเชิญพวกท่านมาอ่านอัรวะฮ์ให้ ก็ถูกกล่าวหาว่าทำบิดอะฮ์ เมื่อเราเชิญฝ่ายชีอะฮ์ ฝ่ายชีอะฮ์เขาก็มา และบอกกับเราว่า เป็นมุศตะฮับ ที่ทำบุญให้กับบรรดาอัลมัรฮูม เพราะนบียังเคยทำให้กับท่าน ฮัมซะฮ์ เลย เมื่อวาระที่ท่านเสียชีวิตในสงครามอุฮุด และ8และ20 ในเดือน รอมฎอนก็เช่นกัน ชีอะฮ์เขาบอกว่า นบีทำจำนวนร๊อกอัตในแต่ละวันเท่ากันบ้างไม่เท่ากันบ้าง แต่จำนวน20 นั้นนบีก็เคยทำ 8ก็ทำ การอ่านที่ปากหลุม ให้มัยยิตเขาก็ทำเหมือนเรา งานเมาลิดเขาก็จัดเช่นกัน ถือเป็นมุศตะฮ้บ ดุอากุนูตเขาก็อ่านทุกวันในละหมาดเช่นกัน ชิเกรและ ดุอาหลังละหมาดเขาก็ทำ ยกมึอขอดุอาเขาก็ยก แต่ฝ่ายวะฮะบีลงฮุกุมเป็นบิดอะฮ์หมด ได้เวลาแล้วที่ผมจะต้องได้รับคำตอบเรื่องอัลลอฮ์เสด็จขึ้นลงในฟากฟ้า ตามที่ฝ่ายวะฮะบี เชื่อถือ ตอบด่วนด้วย ผมไม่ยอมคุณแน่ ไม่ตอบในกระทู้ก็ต้องไปเปิดกระทู้ใหม่ตอบให้ผมด้วย ผมจะตามคุณไปถึงแม้คุณเป็นมุสลิมะฮ์ก็ตาม เพื่อต้อง เอาความจริงนี้ให้กระจ่าง วิญญาณของความเป็นผู้หญิงคงมี่อยู่ในตัวนางสาว หรือ นาง ซอบะฮ์อย่างแน่นอน
โดยคุณ คนท่าอิฐแท้ [19 Oct 2001 14:03] #3175 (127/175)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปแนวคิด หรือความเข้าใจของ ลัทธิวาฮะบี ในเรื่อง อุซูลุดดีน
- พระผู้เป็นเจ้า ทรงนั่งบนบัลลังค์
- พระผู้เป็นเจ้าทรงลงมาจากฟากฟ้า ในช่วงสุดท้ายของทุกๆคำคืน
-พระผู้เป็น เจ้าทรงปรทัยอยู่ข้างบนสุด
-พระผู้เป็นเจ้าทรงมีร่างกาย และเคลื่อนย้ายที่อยู่ พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัส ด้วยอักษร และเสียง
- การไป เยี่ยมสุสาน เช่นสุสานของนบีมุหัมมัด ที่ มะดีนะห์ สุสานของนบีอิบรอฮีมที่มัศยิดคลลิล พร้อมทั้งสุสานของอุลามานั้น ถือเนการกระทำที่น่า รังเกียจ
- กุรอ่านนั้นเป็นสิ่งปัจจุบันไม่ใช่สิ่งล้าสมัย
บรรดานบีไม่ได้เป็นผู้มะซูม ( บริสุทธิ์จากบาป ) *** สามารคทำความผิดได้ ไม่ แตกต่างจากมนุษย์***
- การอิสติฮาเต๊าะห์ ( การเฝ้าแหน หรือ การให้เกียรติจนเกินขอบเขต ) แก่ท่านนบีนั้นเป็น ชีริก
- การขอดุอา โดยผ่านสื่อนั้นเป็นชีริก ( ตั้วภาคี )
ตามทีได้กล่าวมา นั้นคือ แนวคิดหรือความเข้าใจของ อิบนุ ตัยมิยะห์ ที่ลัทธิ วาฮะบี ให้ความเชื่อมั่น และ ปฏิบัติตาม .
และ มุฮัมมัด บิน อับดุลวาฮาบ ลูกศิษย์ ได้รับ และนำมา เป็นแนวคิดคือ
- ในเรือง ของอุซูลลุดดีน นั้น ต้องยึดถือทัศนะ ของ อิบนุ ตัยมิยะห์
- ในเรื่องของ ฟิกฮ์ นั้นยึดถือ ตามมัชฮับ ฮัมบาลี
- มัชฮับ ชาฟิอีย์ ต้องละทิ้ง
- ห้ามไม่ให้ไป เซียเราะห์กุบุร
- ห้ามประชาชาติอิสลามจัดงานพิธี เมาลิดนบี
- การละหมาดญะมาอะห์ นั้นเป็นวาญิบ
- ห้ามอ่านหนังสือ ดะลี ลุล ค็อยรอด - บุรดะห์ และ วิริต
- อิหม่ามต้องไม่อ่าน บิสมิลลาห์ในการละหมาด
- การ ซิกิร ลาอิลาฮ่า อิลลัลลอฮ พร้อมๆกันเป็นหมู่ คณะนั้นเป็นที่ต้องห้าม
- ไม่อนุญาติ ให้อ่านกุรอ่าน ด้วยการใช้ ลาฆู ส่วนการอะซานละหมาด ก็ไม่ควรใช้ ลาฆูเช่นกัน ( ลาฆู คือ การใช้ ทำนองคล้ายเพลง )
จากหนังสือ นักศาสนาสมัยใหม่
โดย ซีรอยุดดีน อับบ๊าส
แปลโดย มูซา มณีโชติ
จัด พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ ส. วงค์เสงี่ยม
ครับ อิสลาม แบบซุนนะ ของลัทธิ วะฮะบี เป็นอย่างนี้แหละครับ ....ที่อ้างๆกันว่า ฉัน ตาม แบบอย่างของ นบี ก้ออ้างเพื่อหาพรรคพวก ให้ดูสวยหรู มีอุดมการณ์ แต่เนื้อแท้ เป็นพวกปฏิเสธ ดีๆนี้เอง ครับ
สังเกตุดูง่าย การยกย่องเชิดชูเกียติให้กับ ท่านศาสดา ก้อเป็น ชิริก การอ่านกุรอ่าน ด้วยทำนองแบบนักกอรี ก็เป็นชิริก
และอีกหลายๆอย่างก็เป็น ชิริก
คำว่า กาเฟร เหมาะ แล้วครับ ที่จะใช้กลุ่มลัทธิพวกนี้ พวกไม่มี แม้แต่มั๙ฮับ จับโน่นนิด เอานี้หน่อย มาผสมกัน กลายเป็นลัทธิวาฮะบี
โดยคุณ Hasim [19 Oct 2001 14:0] #3176 (128/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอความกรุณาอย่าหลงประเด็น คุณ ท่าอิฐ และคุณ Hasim ครับ
......กำลังดูอยู่ .............
โดยคุณ วิน [19 Oct 2001 15:54] #3178 (129/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ Hasim และเหล่าชีอะฮ์หมดปัญญาแล้วหรือคะที่ จะปกป้องลัทธิชีอะฮ์ ตามคำประณามของดิฉันว่าไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์
คุณและเหล่าชีอะอ์ยอมรับคำพูดของดิฉันแล้วหรือ ว่าอะอ์ลุ ลบัยต์ไม่ได้รวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์ได้ยึดถือ
ไม่มีหลักฐาน !!! ไม่มีปัญญาจะปกป้องแนวคิดนอกรีตนี้ได้หรือ จึงได้พยายามเหลือเกินที่จะหยิบเอาเรื่องอื่นๆ มาคนละเรื่องสองเรื่องเพื่อสอดแทรก ต้องการกลบเกลื่อนลัทธิอุบากว์ที่เอาอะฮ์ลุลบัยต์บังหน้า
น่าขบขันจริงๆ ที่คุณ Hasim เสนอกฏกติกามาเอง แล้วก็บิดพลิ้วฉีกสัญญากติกาด้วยตัวเอง มิหนำซ้ำยังชวนผู้อื่นให้ละเมิดสัญญาและกติกาเสียด้วย
สัญญากติกาที่คุณเสนอว่า "นำเสนอหลักฐานพื้นฐานการศรัทธาจากทั้งสองฝ่าย" แต่จนถึงขณะนี้คุณและเหล่าชีอะฮ์ก็ยังไม่มี ปัญญาเอาหลักฐานมาแสดงได้ว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของคุณนั้น อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงให้
น่าอายขายขี้หน้า นะคะ...ที่ป่าวร้องว่าจะตามอะฮ์ลุลบัยต์ พอดิฉันถามถึงอะฮ์ลุลบัยต์กลับวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนกันเป็นแถว
งานเมาลิดปีนี้อย่าลืมแจกผ้าถุงนะคะ จะ เอาไปนุ่งหรือเอาไปคลุมหัวก็ตามใจ อ้อ...ช่วยแจกปี๊ปด้วยนะคะเผื่อผ้าถุงไม่พอ
แม้คุณและเหล่าชีอะอ์จะพยายามเหลือเกินที่จะปกปิด แต่ ความแตกเสียแล้วคะ เพราะฉะนั้นเรื่องใดๆที่คุณยกมาใส่ไคล้ชาวซุนนะฮ์จึงไม่เป็นผล, ไม่ได้ผลจริงๆคะ เช่นที่ยกมาว่า
นะบีไม่ได้เป็นมะอ์ซูม, ห้ามซิยาเราะฮ์กุโบร์,การขอดุอาอ์โดยผ่านสื่อเป็นซิริก,การเยี่ยมสุสานนะบีมูฮัมหมัดเป็นที่น่ารังเกียจ และ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ไส่ไคล้ เป้าหมายก็คือต้องการให้ดิฉันตอบโต้ แล้วจะได้ลืมเรื่องรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการ ที่เป็นบาดแผลฉกรรณ์ของชีอะฮ์ไว้ แต่ดิฉันบอกแต่แรกว่าไม่ หลงกล
ผิดหวังไหมคะ..ที่ยกเรื่องโน้นเรื่องนี้มาคนละเรื่องสองเรื่องเพื่อใส่ไคล้ แต่ไม่เป็นผลใช่ไหมคะ
วิธีการน้ำเน่า ไม่ได้ผลใช่ไหมคะ ?
ดิฉันไม่ลืมไม่หลงประเด็น และผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็ไม่ลืมไม่หลงประเด็นเช่นกัน แต่ก็รอดูอยู่ว่า ชีอะฮ์จะนำเสนอหลักฐานใหม ว่าอะฮ์ลุ ลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ยึดถือ
และหลายคนกำลังเพ่งมองว่าชีอะฮ์จะสามารถลบคำของผู้หญิง ที่ชื่อซอบะห์ได้ใหม ที่พูดว่า ชีอะฮ์ไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์, ชีอะฮ์เอาอะฮ์ลุลบัยต์บังหน้าเพื่อล่อลวงผู้อื่นให้ออกจากอิสลาม
หลายคนก็ ตั้งข้อสังเกตว่า
1. ทำใมชีอะฮ์ต้องละเมิดและผิดสัญญาฝ่าฝืนกฏกติกาที่ชีอะฮ์นำเสนอเอง
2. ทำใมชีอะฮ์ต้องโกหก,บิดพลิ้ว,บิดเบือน, แม้กระทั่งคำพูดของตัวเอง
3. ทำใมชีอะฮ์ต้องออกนอกเรื่องนอกประเด็นไม่เสนอหลักฐานเสียที แต่กลับพยายามชี้นำไปเรื่องอื่น
หลาย คนกำลังรอดูอยู่ว่า ชีอะฮ์จะทำอย่างไรต่อไป จะคอยกลบเกลื่อนไปอย่างนี้ต่อไปก็กลบไม่มิด แล้วจะทำอย่างไร
แต่ดิฉัน..กำลังมองจุดจบแห่ง ความหายนะของชีอะฮ์ที่เอาอะฮ์ลุลบัยต์มาบังหน้า
โดยคุณ ซอบะห์ [19 Oct 2001 16:49] #3179 (130/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณคุณซอบะฮ์ ที่กรุณาอธิบายความ หมาย
กุรอานซูเราะตุลฟะลัก ได้อย่างเป็นผู้มีความรู้ที่แตกฉานภาษาอรับอย่างแท้จริงจริง ทั้งคำว่า คอลาก้อ และ อะมิลา เราซาบซึ้งมาก แต่ เกิดปัญหาคือ ที่ท่านกล่าวว่า
""มินซัรริมาค่อลัก แปลว่า "จากความชั่วที่อัลลอฮ์สร้างมา"
ซึ่งเรา เองก็เชื่อในอายะฮ์นี้อยู่แน่นอนแล้ว
แต่การอรรถาธิบายย่อมแตกต่างจากท่าน และเมื่อท่านได้ยืนยันแล้วว่า "อัลลอฮ์สร้างความ ชั่ว"
แต่ฝ่ายชีอะฮ์ยังเชื่อมั่นว่าพระองคค์ไม่ทรงกระทำทั้งสองสิ่งคือ
"สร้าง" (คอลาก้อ) และไม่ทรง " ทำ" (อะมิละ) ความชั่ว
เพราะพระองค์ บริสุทธิ์ ฉะนั้นดิฉันจึงอยากทราบว่า
"ความชั่ว" แรกที่อัลลอฮ์สร้าง ตามที่ท่านกล่าวหานั้นคือ อะไร?
หรืความชั่วไหน ๆ ก็ได้ ที่ท่านว่าอัลลอฮ์เป็นผู้สร้าง (คอลาก้อ) คืออะไร?
ขณะนี้ท่านกำลังกล่าวหา อัลลอฮ์ผู้ทรงบริสุทธิ์ (ซุบฮานัลลอฮ์)อยู่นะคะ ขอหลักฐานและตัวอย่างด้วยคะ
โดยคุณ ซัลมา [20 Oct 2001 10:09] #3182 (131/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
อย่าลืมนะคะ ขอตัวอย่าง
" ความชั่ว" แรก
หรือ "ความชั่ว" ไหน ๆ ก็ได้
ที่พระองค์อัลลอฮ์ "ทรงสร้าง" (คอลาก้อ) ตาม ที่
คุณซอบะฮ์ คุณทนอ่าน และอุลามาแห่งมรดกอิสลามได้อ้าง และใส่ร้ายพระองค์
โดยคุณ ซัลมา [20 Oct 2001 10:49] #3183 (132/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
หากจะกล่าวว่าชีอะฮ์เป็น "กาเฟร" เพราะ ไม่เชื่อเรื่องรุกนอีมานข้อที่ 6 ที่กล่าวว่า "วัลก็อดริคอยริฮี วะชัรริฮีมินัลลอฮิตะอาลา" ก็ขอกล่าวว่ามิใช่พี่น้องชีอะฮ์เท่านั้นที่ ปฏิเสธ
แต่อุลามาผู้มีชื่อเสียงและนักวิชาการฝ่ายซุนนะฮ์เองก็ปฏิเสธ
เช่นท่านซัยยิด สุไลมานนัดวีย์ ที่กล่าวไว้ในซีรอตุนนบี เล่ม 4 หน้า 860 ดังนี้
"ถึงแม้กุรอานจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เลยในหลักการศรัทธา (กุรอานไม่ได้กล่าวเลยว่า"ความดีความชั่วมา จากอัลลอฮ์) และโดยที่มีการกล่าวซ้ำกันบ่อยๆ มากมายในกุรอานถึงความสำคัญและกำหนดการของมัน (และที่อ้างว่ากล่าวซ้ำก็คือเรื่องกอฎอ กอดัร หรือเรื่องกำนดกฏเกณฑ์การสร้างสรรค์อื่นๆ ซึ่งชีอะฮ์ก็เชื่อเหมือนเรื่องอื่น ๆ ในกุรอาน เชื่อมากกว่า 6 ข้อที่ท่านอ้างด้วยซ้ำคะ) จึงได้รวมไว้ในหลักการ อีมาน ด้วยฮะดิษซอเฮียะฮ์บางบท (มิใช่ฮะดิษทุกบท และมิใช่กุรอานใช่ไหมคะ) ก็ได้ผนวกเรื่องนี้ไว้เป็นหลักศรัทธาข้อสุด ท้าย"
และท่านอ. อิบรอฮีม กุเรชี นักวิชาการฝ่ายซุนนะฮ์ที่สามารถแปลกุรอานเป็นภาษาไทยจนจบเล่มก็ได้กล่าวไว้ในกุรอาน ฉบับแปลภาษไทย ของท่านเล่ม 2 หน้า 1442 ว่า
"เป็นความจริงที่เราต้องยอมรับว่าหลักการศรัทธาในกอฎอกอดัรนั้นไม่มี ปรากฏในกุรอาน อัลกุรอานกล่าวถึงเรื่องนี้ในของกฏและการกำหนดสภาวะเท่านั้น ดังหลักฐานที่กล่าวงข้างต้น (2/117,4/136) เรื่องนี้มีปรากฏในฮะ ดิษ บางนักปราชญ์กล่าวว่า เรื่องที่จะถือเป็นหลักศรัทธาได้นั้น ต้องสืบหลักฐานจากอัลกุรอานดังเช่นหลักการอื่นๆ แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าเราปฏิเสธ เรื่องกอฎอกอดัร" (ที่ไม่ปฏิเสธเพราะมีกล่าวไว้ในกุรอาน เช่นเดียวกับเรื่องสวรรค์ นรก ญิน ชัยตอน ฯลฯ ทุกคนจะต้องเชื่อ แต่มิใช่เป็น หนึ่งในรุ กนอีมานตามที่ท่านนำไปเพิ่มเติม:ซัลมา)
สองท่านนี้ เป็นกาเฟรไหมคะ คุณซอบะฮ์ ?
โดยคุณ ซัลมา [20 Oct 2001 11:1] #3184 (133/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตามที่ดิฉันเคยอ้าง การอรรถาธิบายเรื่อง"เตา ฮีด"
จากตำรับ ตำรา และอุลามาฝ่ายซุนนีย์ เพื่อชี้ให้เห็นว่า
เรื่องเตาฮีดมิใช่เรื่องแปลกใหม่ในอิสลาม จนกระทั่งมีมุสลิมบาง ส่วนกำลังถามหาหลักฐานอยู่ในเวลานี้ ความว่า
"เตาฮีด แบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ คือ
1. ผูกพันในพระผู้เป็นเจ้า เรียกว่า "เตาฮีด อัรซูบูบียะฮ์ หมายถึงศรัทธามั่นในพระเจ้าองค์เดียวในสากลจักรวาล คือ พระองค์อัลลอฮ์
2. ผูกพันต่อการศรัทธามั่น เรียกว่า "เตาฮีดอัลอุลูซียัฮ์" หมายถึงการมุ่งมั่นว่าไม่มีสิ่งอื่นที่ควรแก่การศรัทธา เว้นแต่อัลลอฮ์
3. ผูกพันในบรรดาพระ นามและคุณลักษณะของอัลลอฮ์ เรียกว่า "เตาฮีดอัสมาอ วัสซิฟัต" หมายถึงศรัทธามั่นว่า
ก. เราต้องไม่เรียกพระนามและกำหน กคุณสมบัติเป็นอย่างอื่น นอกจากที่พระองค์ และศาสนทูตของพระองค์ได้กำหนดไว้
ข. ไม่มีสิ่งใดที่จะถูกกำหนดเรียกพระนามหรือคุณสมบัติ ของพระองค์ได้เช่น อัลกะรีม
ค. เราต้องยืนยันอย่างมั่มใจ ถึงคุณานุลักษณ์ของอัลลอฮ์ตามที่ปรากฏในกุรอานหรือรสูล(ศ) กล่าวถึงโดยไม่ไขว้ เขว
4. ผูกพันที่ต้องปฏิบัติตามศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ เรียกว่า
"เตาฮีดอัลอิตติบาอ" ข้อนี้รวมถึงคำว่า "ข้า ขอปฏิญาณว่ามุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์" ด้วย กล่าวคือไม่มีบุคคลใดที่จะทรงสิทธิ์ในการชี้นำตามกุรอานเวันแต่มุฮัมมัดเท่า นั้น"
โดยคุณ ซัลมา [20 Oct 2001 12:24] #3189 (134/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่คำตอบของคุณซอบะฮ์ คือ
" คุณซัลมาพยายามจะนำเอาความหมายของคำว่า "เตาฮีต" ในการอธิบายของชาวซุนนะฮ์มาพูด แต่ไม่ทราบว่า ไปจำๆ ใครเขามา เพราะ"เตาฮีด อัรซูบูบียะฮ์ " และ "เตาฮีดอัลอุลูซียัฮ์" ไม่มีนะคะ ชาวซุนนะอ์ไม่เคยสอนคำทั้งสองนี้ ที่มีและสอนและใช้กัน จริงๆ ก็คือ เตาฮีต "รุบูบียะฮ์" และ "อุลูฮียะฮ์" สงสัยคุณซัลมาจะฟังผ่านๆแล้วจำผิด ไม่เป็นไรคะ"
ตรงนี้ก็หมดหน้าที่ของดิฉันแล้วคะ
ดิฉันนำวิชาการมาเสนอท่านแล้ว และแม้จะนำมาจากตำรับตำราและอุลามาในฝ่ายซุนนีย์ท่านเอง ท่านซอ บะฮ์ยังปฏิเสธ แล้วท่านยังจะรีบเร่งมายังหลักฐานของฝ่ายชีอะฮ์เพื่อประโยชน์อะไรคะ?
และนี่ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ดิฉันยังไม่นำท่านทั้งหลายมาสู่ "สัจธรรมแห่งอะฮ์ลุลบัยต์" เพราะท่านถกเถียงแม้กระทั่งตำรับตำราและอุลามาในฝ่ายท่านเอง แล้วจะให้ดิฉันรีบนำหลักฐานจากทาง ฝ่ายอะฮ์ลุลบัยต์มาเสนอทำไม มุบัซเซรคะ
โดยคุณ ซัลมา [20 Oct 2001 12:25] #3190 (135/175)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และขอให้ท่านซอบะฮ์ไปเคลียร์ ไปถกเถียงกันเองแล้ว กันนะคะ ที่คุณซอบะฮ์กล่าวว่า
"ชาวซุนนะอ์ไม่เคยสอนคำทั้งสองนี้"
แต่ความรู้ทั้งหมดที่ดิฉันนำมาเสนอ มาจากหนังสือ ฮะดิษบุคอรี แปลไทยโดย อ.จารึก เซ็น เจริญ และ อ.มุฮัมมัด พายิบ เล่ม 1 กรุณาไปหาหน้าเองนะคะ ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านเป็นชาวซุนนะฮ์หรือเปล่า จึงสอนในสิ่งที่คุณซอบะฮ์ไม่ได้สอน
ฉะนั้นที่ท่านซอบะฮ์กล่าวอีกว่า "สงสัยสัยคุณซัลมาจะฟังผ่านๆแล้วจำผิด" จึงเป็น ข้อกล่าวหาที่ทุเรศ แต่ดิฉันไม่ถือสาคะ
โดยคุณ ซัลมา [20 Oct 2001 12:27] #3191 (136/175)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรา ชีอะฮฺ อิมามิยะฮฺ ขอยืนยัน เราไม่ได้หลงประเด็น และทำนอกกติกา ทุกอย่างอยู่ในประเด็น ครับ พวกคุณ ต่างหากที่เลี่ยง การตอบ ให้ตรงประเด็น และพวกคุณก็ไม่ได้ตอบอะไร ที่เป็นวิทยปัญญาเลย ครับ ...
ทุกคำตอบที่เราเสนอไป อยู่ในประเด็นหมด และตอนนี้เรากำลังอยู่ในหลักศัรทธา ข้อที่หนึ่ง คือ
1. สุนนะ หรือ วาฮะบี เชื่อ ในอัลลอฮ และเรา มีหลักศัรทธา ว่า อัล - เตาฮีด
และเราก็มาถึงการ วิเคราะห์ ว่า ที่พวกคุณเชื่อในอัลลอฮ นั้น เชื่ออย่างไร และพวกคุณก็ไม่ เคยตอบ พวกคุณหลีกเลี่ยงที่จะตอบ ในเรื่องดังกล่าวตลอดมา และพวกคุณก็ก็แกล้งโง่ ที่จะไม่เข้าใจในความหมายของอัล เตาฮีด โยกโย้ เล่นลิ้น เล่นคำในภาษาอรับ อวดความรู้ในเรื่องการอธิบาย อัลกุรอ่าน ซึ่งอัลลอฮ มีโองการที่ว่า
" และไม่มีผู้ใดล่าวรู้การตีความของมันได้ นอกจากอัลลอฮ และบรรดาผู้สันทัดจัดเจนในวิชาความรู้ " ( อาลิ-อิมรอน / 7 )
และเพราะพวกท่านละเมิด ละทิ้งในคำสั่งของนบี (ซล) ในฮะดิษษะกอลัยน์ พวกคุณถึงได้รู้จักอัลลอฮ ในแบบทีมีเรื่อนร่าง อัลลอฮทีต้องการที่อยู่ อัลลอฮที่ มีใบหน้า มีดวงตา ...
ความเชื่อตรงนี้ พวกคุณ สุนนะจะปฏิเสธ หรือเปล่า ? ซึ่งที่ผ่านมาพวกคุณไม่ปฎิเสธ ไม่มีวะฮะบีหน้าไหนออกมาปฎิเสธ
เมื่อไม่ปฎิเสธ ก็เท่ากับยอมรับ ใน ความเชื่อนี้ ซึ่งการยอมรับ ในความเชื่อนี้ ก็เท่ากับพวกท่าน ได้ตั้งภาคีกับ พระองค์อัลลอฮ แล้ว ซึ่งการตั้งภาคี กับอัลลอฮ ก็เท่ากับเป็นผู้ปฏิเสธ ผู้ หลงผิดออกจากอิสลามที่แท้จริง ... ครับ.
และถามว่าเราออกนอกประเด็นตรงไหน ในเมื่อเรากำลังพิสูจน์ กันว่า พวกไหนกันแน่ ที่เป็นพวก หลงผิด เป็นกาเฟร ?
2. พวกคุณประนามเราชีอะฮฺ ว่าเอา อลุลบัตย์ บังหน้า ในการล่อลวงผู้อื่นให้ออกจากอิสลามที่แท้จริง แต่เปล่าเลย พวกเรากลับนำเสนอหลักฐานและความรู้ของอลุลบัยต์ ทั้งหมดมาทำการตอบโต้พวกท่านทั้งกุรอ่าน และการอรรถธิบายกรุอ่านโดยลูกหลานของศาสดา หรืออลุลบัยต์ เช่นในเรื่อง เตาฮีด ของท่านอิมามมูซา อัลกาซิม เพื่อแสดงให้พี่น้องมุสลิมเห็นว่า เริ่มแรก ของความเชื่อ ของศาสนาอิสลาม คือการรู้ จักอัลลอฮ ( มะอฺริฟัติพระองค์ ) ก่อนเป็นลำดับแรก และความสมบรูณ์ของการรู้จัก ก็จะนำไปสู่ความสมบูรณ์ ของการเชื่อมั่นศรัทธา และความ สมบูรณ์ ของการเชื่อมั่นศรัทธา จะนำไปสู่การศรัทธาในเตาฮีด ( เอกภาพ ) ของพระองค์
และเราชีอะฮฺ ยกหลักฐานจากกุรอ่าน จากคำสอน ของอิมามอะลี (อ) จากท่านอิมามศอดิก (อ) และคำอธิบายจากท่านอิมาม มูซา (อ) เป็นลำดับ และตามกติกาทีได้ตกลงกันไว้ด้วย แต่เป็นเพราะ ความมืดบอดในจิตใจ ของคุณซอบะฮฺ ความมีอคติ ต่อสัจธรรมความจริง หรือเป็นเพราะการมีอะกีดะทีสกปรก จริงทำให้ไม่สามารถ ยอมรับวิชาการ และหลักฐาน จากบรรดาอิมามของชีอะฮฺ ผู้บริสุทธฺ และพระองค์อัลลอฮทรง รับรองและปกป้องพวกท่านจากความผิดพลาดทั้งมวล . และคุณซอบะฮ ยังจะหน้าด้าน ไม่มียางอายใดๆเลย กริยามารยาทของผู้หญิง ของสุนนะ เขาสอนมาให้เป็นแบบคุณ หรือ คุณซอบะฮฺ เที่ยวออกมาเพ่นพล่านแจก ผ้าถุงให้กับบุรุษ กันหรือ นี่เป็นครั้งที่สองหรือ สามแล้ว นึกว่า จะสำนึก แต่ก็เปล่าเลย ช่างน่าละอายเสียจริงๆที่สตีรนางหนึ่งของของวะฮะบี จะถอด ผ้าถุง แล้ววิ่งไล่คลุมหัวบุรุษ ช่างสอนสั่งกันมาดีเสียเหลือเกิน ...แต่อย่างว่าแหละครับ ลูกหลานของอบูซุฟยาน ในสมัยของท่านศาสดาก็ทำอย่างนี้ และครับ ใช้ผู้หญิงให้ออกสงครามด้วย เพื่อยั่วยุ บรรดาทหารของนบีให้หลงกล ละทิ้งหน้าที และคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย ฝ่าฝืนคำสั่งของของศาสดา พี่น้องจำ กันได้ไหมครับ ว่าเหตการณ์แบบนี้ ได้เกิดขึ้นในสมัยไหนของ ท่าน และแผนนี้ก็ได้ผลครับ ...( .อบูซุฟยาน บิดาของมุอาวิยะห์ ปู่ ของ ยาซีด ผู้ซึ้งตอ่ต้านการประกาศอิสลาม ของนบี เป็นสัตรูของนบี และสัตรู ของอิสลามตลอดกาล ) เกือบทำสำเร็จ ท่านศาสดามุหัมหมัด หวิดสิ้นชือ่ ในแผนนี้ของพวกเขา ....และครั้ง นี้ ทายาท
ของพวกมัน ก็นำกลับใช้อีกโดยนาง หรือ นางสาว ซอบะฮฺ และพรรคพวก ที่พยายามบิดเบือน ตอ่ต้านลูกหลานนบี หรือบรรดาอะลุลบัตย์ ....
สำนึกเสียเถิดคุณซอบะฮฺ เ พื่อเห็นแก่บุตรหลานของคุณเอง อย่าปลูกฝังความเชื่อที่ผิดเพี้ยน บิดเบื้อน ให้ลูกหลานและญาติพี่น้องของคุณอีกเลย ....
สำหรับความเข้าใจในเรื่องของอลุลบัยต์ ของสุนนะ กับชีอะฮฺ มันต่างกันอยู่แล้ว
อย่าพิเรนนำมาอ้างเลย คุณซอบะฮฺ บทความที่คุณเสนอใว้ก็ยังไมจบ ....อย่ามาแสดงความกลับกลอก ว่ารักและเชือ่ ในอะลุลบัยต์ เลยครับ ความรักความเชื่อแบบจอมปลอมของพวกคุณไม่มีใครเชื่อ หรอกครับ
โดยคุณ Hasim [20 Oct 2001 13:26] #3192 (137/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดีแล้วคะที่คุณซัลมาใช้คำว่า ทุเรศ แล้วบอกว่าไม่ ถือสา
แต่ดิฉันขอแฉความทุเรศที่ต้องถือสาสักหน่อยนะคะ เพราะความทุเรศที่คุณซัลมานำเสนอนั้นเป็นการบิดเบือนใส่ความเพื่อให้ ชาวซุนนะฮ์ทะเลาะกันเอง แต่ชาวซุนนะฮ์ไม่บ้าจี้ตามหรอกคะ
เรื่องเตาฮีต ที่คุณซัลมาหยิบเอาตำราของชาวซุนนะฮ์มาเสนอ (สงสัยตำราของ ชีอะฮ์ไม่มี) แล้วกล่าวหาว่าดิฉันปฏิเสธ น่าขำนะคะ...
ดิฉันไม่ได้ปฏิเสธตำราของชาวซุนนะฮเองหรอกคะ แต่ดิฉันปฏิเสธความทุเรศของคุณซัล มาต่างหาก ที่อยากจะอ้าง แต่ก็จำมาอย่างผิดๆถูกๆ เช่น
"เตาฮีด อัรซูบูบียะฮ์ " ความจริงที่ถูกต้องคือ รุบูบียะฮ์
คำว่า ซูบูบียะฮ์ ที่คุณซัลมาจำมาอย่างมั่วๆนี้มีความหมายว่า "เอกภาพในการด่าทอ" นี่คือหนึ่งในความทุเรศของคุณซัลมาที่ไม่รู้แล้วอยาก ชี้
อีกคำหนึ่งที่คุณยกมาอ้างคือ "เตาฮีดอัลอุลูซียัฮ์" ความจริงที่ถูกต้องคือ "อุลูฮียะฮ์"
คำว่า "เตา ฮีดอัลอุลูซียัฮ์" ที่คุณซัลมาจำมาอย่างมั่วๆนี้มีความหมายว่า "เอกภาพในการฝ่านฝืน" และนี่ก็คือความทุเรศของคุณซัลมาอีกข้อ หนึ่งที่ไม่รู้แล้วดันชี้
เอกภาพในการด่าทอ และเอกภาพในการฝ่าฝืนที่คุณซัลมาอ้างมั่วอย่างทุเรศเข้ามา สงสัยชีอะอ์จะช่ำชอง แล้วจำผิดจำถูก เอามายัดเยียดให้ชาวซุนนะฮ์
ทำตัวทุเรศได้น่าสงสารมากคะ!!! ทุเรศได้อย่างน่าสงสารจริงๆ
ขอแฉความทุเรศของคุณซัลมา อีกกรณีหนึ่งที่พูดว่า ""มินซัรริมาค่อลัก แปลว่า "จากความชั่วที่อัลลอฮ์สร้างมา"
ซึ่งเราเองก็เชื่อในอายะฮ์นี้อยู่แน่ นอนแล้ว""
เชื่ออย่างไรคะคุณซัลมา เชื่อปนสงสัยนี่ มันเป็นยังไงคะ พวกชีอะฮ์ชอบตรรกวิทยานักมิใช่หรือ ลองตั้งสมมุติฐานดู หน่อยซิคะว่า เชื่อปนสงสัย ผลภัพมันออกมาเป็นอย่างไร
แต่คำพูดของคุณซัลมาที่ว่า
""แต่ฝ่ายชีอะฮ์ยังเชื่อมั่นว่าพระ องค์ไม่ทรงกระทำทั้งสองสิ่งคือ "สร้าง" (คอลาก้อ) และไม่ทรง "ทำ" (อะมิละ) ความชั่ว"
มุสลิมทุกคนไม่ เชื่อว่าอัลลอฮ์ทำความชั่วหรอกคะ แม้จะวิจารณ์ก็ประหนึ่งเอาลิ้นไปแกว่งไฟนรก
แต่มุสลิมปฏิเสธไม่ได้ที่จะยืนยันว่า อัลลอฮ์สร้างความชั่ว เพราะพระองค์อัลลอฮ์บอกด้วยคำของพระองค์เองว่า
""มินซัริมาค่อลัก แปลว่าจากความชั่วที่พระองค์ทรงสร้าง มา""
ที่ดิฉันพูดว่าคำของคุณซัลมาแย้งกันเอง ก็คือคำพูดที่ว่า
"เราเองก็เชื่อในอายะฮ์นี้อยู่แน่นอนแล้ว" และคำว่า
""แต่ฝ่ายชีอะฮ์ยังเชื่อมั่นว่าพระองคค์ไม่ทรงกระทำทั้งสองสิ่ง""
ตกลงว่าจะตวัดลิ้นไปทางไหน คะ ถ้าปฏิเสธในกรณี "สร้าง"
ก็คือปฏิเสธอัลกุรอาน บอกตามตรงก็ได้คะว่า ปฏิเสธทั้งหมด
นอกจากนั้นแล้วคุณซัลมายัง อ้างคำของนักวิชาการบางท่าน แล้วพยายามเบี่ยงเบนคำพูดของเขา ด้วยการเติมคำของตัวเองใส่ในวงเล็บท้ายคำท้ายประโยค
แล้วคุณซัล มาเอ่ยอ้างนักวิชาการเหล่านั้นมาทำใม ในเมื่อพวกเขาไม่ปฏิเสธฮะดีษของท่านอุมัร แต่คุณซัลมาปฏิเสธฮะดีษของท่านอุมัรโดยสิ้น เชิง
แต่จนแล้วจนรอด...ชีอะฮ์ที่เข้ามาแต่ละคนก็ใช้วิธีทุเรศอย่างที่คุณซัลมาทำให้เห็นนี่แหละคะ ไม่ยอมนำเสนอหลักฐานยืนยันเสียที ว่า อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดรวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์ยึดถือ
แต่ท่านอิหม่ามอาลีเริ่มต้นด้วยการศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ไม่ ใช่เริ่มด้วย เตาฮีต อย่างชีอะฮ์
เมื่อใหร่คุณ หักกุลยะกีน จะเอาหลักฐานมายืนยันคะว่า เตาฮีต คือนามหนึ่งของอัลลอฮ์
แผลฉกรรณ์อยู่ แล้วนะคะ..ยิ่งเวอะกันไปใหญ่
โดยคุณ ซอบะห์ [20 Oct 2001 14:37] #3193 (138/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ Hasim ร่ายมาเสียยืดยาว พร่ำพรรณาว่ายึดอะ ฮ์ลุลบัยต์ หรือตามลูกหลานนะบี แล้วบอกว่า
"สำหรับความเข้าใจในเรื่องของอลุลบัยต์ ของสุนนะ กับชีอะฮฺ มันต่างกันอยู่ แล้ว"
ไม่เป็นไรหรอกคะ...เอาอะฮ์ลุลบัยต์ที่ชีอะฮ์อ้างเองก็ได้ เช่นท่านอาลี,ท่านฮะซัน,ท่านฮุเซน ท่านใดหรือคะที่รวบรวมเรียบเรียงรุกน อีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์
ก็ไหนพวกคุณบอกว่าจะตามพวกเขา อย่าอ้างแต่ปากคะ เอาหลักฐานมายืนยันซิคะ อย่าใช้คำหวานหู หลอกชาวบ้านอยู่เลย คำพูดนี้ดิฉันพูดตั้งแต่กระทู้แรก จนถึงกระทู้นี้ ประมาณซัก 500 กว่าความเห็นแล้วมั้ง หลบหลีกกันอยู่ได้
ผู้สัจจริงไม่มี หลักฐานยืนยันว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการนั้นอะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดรวบรวมเรียบเรียงให้
ช่วยถ่ายกระทู้นี้แจกในงานเมาลิดเยอะๆหน่อย นะคะ อย่าผิดสัญญาลูกผู้ชายนะคะ คุณ Hasim
โดยคุณ ซอบะห์ [20 Oct 2001 14:59] #3194 (139/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลักตะกียะฮ (อำพราง) ถือว่ามีเกียรติสำหนับชาว ซีอะฮฺ
ความหมายของคำว่า " ตะกียะฮ" สำหรับพวกซีอะฮ ก็คือ โกหกแบบสุด ๆ หรือหน้าไหว้หลังหลอกอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง ปรากฏอย่างชัดเจนจากรายงานของพวกเขาเอง
ต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งจากเรื่องราวที่เป็นรายงานเกี่ยวกับหลักเชื่อถือของพวกซีอะฮ ในเรื่องตะกียะฮ ซึ่งพวกเชาถือว่ามีเกียรติมาก ซึ่งมีอยู่ในหนังสือที่เป็นที่เชื่อถือสำหรับพวกเขาเอง
" อัลกุลัยนี ได้เสนอ รายงาน จากอิบนิอุมัยร อัลอะอญะมี ได้กล่าวว่า อบูอับดุลลอฮ อะลัยฮิสสลามได้กล่าวแก่ฉันว่า โอ้อบาอุมัยร แท้จริงเศษเก้าส่วนสิบของศาสนาอยู่ ในเรื่องตะกียะฮ และไม่ถึอว่ามีศาสนาแก่ผู้ที่ไม่มีตะกียะฮสำหรับเขา ตะกียะฮมีอยู่ในทุกสิ่งยกเว้นในเหล้าองุ่น และการเช์ดรองเท้าคุฟทั้งสอง (อูศูลุ ลกาฟี หน้า 482 )"""""""""""อัลกุลัยนี ได้นำรายงานออกมาอีกว่า ( อบูญะอฟัร อะลัยฮิสสลาม) ได้กล่าวว่า การตะกียะฮ (อำพราง) เป็นส่วนหนึ่งจากศาสนาของฉันและศาสนาแห่งบรรพบุรุษของฉัน และไม่ถือว่ามีอี มาน (หลักศรัทธา) สำหรับผู้ที่ไม่มีตะกียะฮที่เขา (อูศูลลกาฟี หน้า 484 ) """""""อัลกุลัยนีได้ เสนอรายงานอีก (จากอบีอับติลลาฮ อะลัยฮิสสลาม) ได้กล่าวว่า จงยำเกรงศาสนาของพวกเจ้า และจงปกปิดมันด้วยอัตตะกียะฮ เพราะความจริง ไม่มีอิมาน (ความศรัทธา) สำหรับผู้ที่ไม่มีการตะกียะฮที่เขา (อูศูลลุลกาฟี หน้า 483) """""""
จากที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นหลักฐานจากพวกซีอะฮอิมาม 12 ทั้งสิ้น จาก หนังสือ อูศูลุลหาฟี ซึ่งเป็นหนังสือที่ชาวซีอะฮฺเชื่อถือมาก หนังสือเล่มนี้ได้บอกไว้ถึงเรื่องโกหก หลอกลวงทั้งสิ้น ซึ่ง การโกหกนั้น กลับเป็นการทำ ความดีของช่วซีอะฮฺ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยว่า พวกเขาถึงได้ชอบโกหก บิดเบือนตอหลด ตอแหล เพื่อที่จะแสดงออกถึงการทำดี (การทำดีของพวก เขาคือการ โกหก) จึงเห็นได้ว่าเป็นศาสนาที่แปลกมาก คือ ทำชั่วมากๆ แล้วถึงจะเป็นคนดี เป็นศาสนาที่สอนให้คนโกหกแล้วเป็นคนดี
การ ที่พวกเขาไม่ตอบคำถามเรื่อง อุศูล 5 ประการนั้นก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะพวกเขายึดหลักการที่ว่า โกหกไว้ก่อนเป็นดี อัลกุลัยนีได้กล่าวว่า 9 ใน 10 ของศาสนา ซีอะฮฺ เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น
จึงสรุปได้ว่า ตำราของพวกเขาถ้ามี 10 เล่ม 9 เล่มต้องสอบให้โกหกแน่นอน แล้ว พวกท่านยังเชื่อพวกคนโกหกอีกหรือ ถ้ายังอยากเป็นคนดีของมนุษย์โลกแล้วละก็ ช่วยตอบคำถามที่ว่า อูศูล หรือ รุก่น 5 ประการของพวกท่านนั้น มีหลักฐานมาจากอะไร ใครเป็นผู้รวบรวม อะลุลบัยต์ ท่านใด
โดยคุณ ทนอ่าน [20 Oct 2001 21:50] #3195 (140/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่ผมนำเสนอทั้งหมดนั้น เป็นหลักฐานในหนังสือ ของพวกเขาทั้งสิ้นเช่น อุศุลุลกาฟี และก็ระบุหน้าเอาไว้ด้วย แต่ผมคิดว่าพวกเขาก็ต้องปฏิเสธอยู่ดีเพราะเป็นหลักการ โกหกของพวกเขาอยู่แล้ว 9 ใน 10 คือการโกหก
แล้วเรื่องที่จะตอบเรื่อง อุศูลนั้น ไม่มีแน่ นอน
"""""""""ซีอะฮฺเป็นศาสนาที่โกหกแบบสุดๆอยู่ แล้ว""""""""""""""""
อย่าคิดว่าพวกเราหนีท่านเพียงแต่เห็นว่าคำถามของ คุณ ซอบะห์ และของผม และของ คนหนุม เป็นคำถามเดียวกัน จึงได้แต่เฝ้ามองอยู่
โดยคุณ ทนอ่าน [20 Oct 2001 21:5] #3196 (141/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมได้ติดตามการโต้ตอบตั่งแต่กระทู้แรก
ณ.บัดนี้ผมยังไม่ได้รับสาระอะไรจากพวกชีอะฮ์เลยแม้แต่น้อยนิด
แต่ต้องยอมรับว่าระว่างคุณซอบะห์กับคุณซัลมานั้น
คุณซัลมากินขาด ลื้น ไหล กระเด้งไปกระเด้งมาชักอยาก
สัมผัสกับความเชื่อแปลกๆดูบ้างแล้วซิ...
โดยเฉพาะเรื่องมุตอะฮ.
ไม่ทราบคุณซัลมาจะคิดค่า มุตอะฮเท่าไรต่อวัน
ผมอยากมุตอะฮ์ด้วยสักสามวันตามอาการที่คุณซัลมา
กําลังวาดลวดลายอยู่ขณะนี้นั้น
ถ้าไม่ไช่การตะกียะฮ์ก็ คง
ได้มุต.......ต่อกันอีกถ้าราคาไม่โยกโย้เยี่ยงวาทะของเจ้า
โดยคุณ นาย. จ้องสืบพันธุ [21 Oct 2001 03:16] #3198 (142/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านหน้านี้มา 3 วัน ได้ความรู้เยอะเลยครับ เรื่องของอิสลาม ยิ่งอ่านยิ่งน่าศึกษา
แต่ผมยังไม่ได้ข้อสรุปเลยว่า ถ้าจะเข้าอิส ลาม เข้าซุนนะห์หรือ ชีอ๊ะห์ดี
โดยคุณ กาเฟรตัวจริง [21 Oct 2001 04:17] #3199 (143/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถามอีกนิด ถ้าจะเข้าซุนนะห์ ไปฟังที่ สันติชนใช่ไหม? แล้วถ้าจะเข้าชีอ๊ะห์ ไปฟังที่ไหนได้ครับ
โดยคุณ ตอนนี้ยังเป็นกาเฟรอยู๋ [21 Oct 2001 04:24] #3200 (144/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่อง "เตาฮีด" ดิฉันยก มาจากหนังสือฮะดิษบุคอรี แปลไทยโดย อ.จารึก เซ็น เจริญ และ อ.มุฮัมมัด พายิบ เล่ม 1 หน้าแรก ๆ คุณซอบะฮ์กรุณาไปตรวจสอบก่อนเถิดคะ ส่วน ความผิดพลาดจะเกิดจากการ "เรียงพิมพ์ผิด" หรือ ""ความรู้" ของอาจารย์ทั้งสองท่านผิด ท่านต้องไปเคลียร์กันเอง
ถ้า"เรียงพิมพ์ผิด" ก็ควรให้อภัยอาจารย์ทั้งสองท่าน เพราะความผิดจะตกอยู่กับฝ่ายจัดพิมพ์
หาก "ความรู้" ของอาจารย์ทั้งสองผิด ท่านก็ไปเคลียร์กันเองในหมู่ซุนนะฮ์ด้วยกันว่า "แปล" มาผิด หรือ "อธิบาย" ผิดเอง แล้วก็ฮุกมกันเข้าไป
อย่างไรก็ตามดิฉันซัลมาไม่ได้ผิดคะ เพราะดิฉันยกมาทั้งกระบิ เขียนอย่างไรก็ยกมาอย่างนั้นทุกตัวอักษร ไม่กล้าที่จะแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น เดี๋ยวจะหาว่าบิดเบือนอีก
และที่ยกมาก็มิใช่เพราะในตำราชีอะฮ์ไม่มี แต่ยกมาเพื่อชี้ให้ เห็นว่า เรื่อง "เตาฮีด" เป็นเรื่องการมะอริฟะตุลลอฮ์ทั้งสิ้น และไม่ใช่สิ่งใหม่ หรือสิ่งที่น่ากลัวใดๆ เลย ในตำรับตำรา และวงการอุลามาซุน นะฮ์เองก็มีกล่าวมีสอน หรือว่าพวกเขาก็สอนสั่งในสิ่งที่มิได้มาจากกุรอานตามที่ท่านซอบะฮ์เข้าใจ
ไปเคลียร์กันเองเถิดคะ
โดยคุณ ซัลมา [21 Oct 2001 09:2] #3201 (145/175)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และที่กล่าวว่า
"ขอแฉความทุเรศของ คุณซัลมาอีกกรณีหนึ่งที่พูดว่า ""มินซัรริมาค่อลัก แปลว่า "จากความชั่วที่อัลลอฮ์สร้างมา"
ซึ่งเราเองก็เชื่อในอา ยะฮ์นี้อยู่แน่นอนแล้ว""
เชื่ออย่างไรคะคุณซัลมา"
ขอตอบว่า ก็เชื่อว่าอายะฮ์นี้มีอยู่ในกุรอานจริง แต่ที่ไม่ เชื่อคือการอรรถาธิบายของท่าน ที่อ้างว่าอายะฮ์นี้ คือ รุกนอีมานข้อที่ 6 เพราะอายะฮ์นี้ลงที่มักกะฮ์ ก่อนอายะฮ์ที่อ้างเรื่องรุกนอีมานข้อที่ 1 ถึง 5 ที่ลง มาภายหลังที่
นครมะดีนะฮ์ ดิฉันไม่เชื่อว่าข้อ 6 จะลงมาก่อนข้อที่ 1 ถึง 5 เพราะท่านเองบอกว่าเรื่องการศรัทธาในอัลลอฮ์ต้องมาก่อน
และไม่มีข้อความใดในอายะฮ์นี้ และแม้ในซูเราะฮ์นี้ที่ว่าเป็นเรื่อง"อีมาน" หรือ "อีมานข้อที่หก"
และไม่เชื่อ ว่าอายะฮ์นี้จะแปลดุ่ย ๆ ว่า "จากความชั่วที่อัลลอฮ์สร้างมา" เพราะดิฉันยังไม่เคยเห็นเลยว่าพระองค์อัลลอฮ์ทรงสร้าง "ความ ชั่ว" อะไรมาบ้าง
ขณะนี้เราชาวชีอะฮ์ชีอะฮ์ ขอยืนยันและเชื่อมั่นว่าอัลลอฮ์ไม่สร้าง(คอลากอ) ความชั่ว ไม่ว่าจะเป็นความชั่ว แรก ความชั่วสุดท้าย และความชั่วใด ๆ ก็ตาม เราชีอะฮ์ขอปกป้องเกียรติยศและความบริสุทธ์ของพระองค์
ท่านซอบะฮ์และอุลามา ซุนนะฮ์อย่าใส่ร้ายพระองค์เหมือนกับที่อเมริกาใส่ร้ายบินลาดินโดยปราศจากหลักฐาน
ขอตัวอย่าง หรือหลักฐานสักข้อเดียวก็เพียงพอ ว่า
ความชั่วแรกที่พระองค์ทรงสร้างคืออะไร?
หรือความชั่วไหน ๆ ก็ได้ที่พระองค์ทรงสร้างคืออะไร?
หรืออะไรก็ได้ที่พระองค์ทรงสร้าง แล้วคุณซอบะฮ์และชาวซุนนะฮ์ทั้งหมดเห็นว่า "ชั่ว"
อย่ามัว ประณามพระองค์โดยปราศจากหลักฐานอยู่เลย
โดยคุณ ซัลมา [21 Oct 2001 09:38] #3202 (146/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การโกหก,บิดเบือนความจริง,ตลบแตลง,หน้าไหว้หลังหลอก,ผิดสัญญา,ไม่ยอมรับความจริง,อ้างเท็จ,ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น,ล่อลวง,ฉ้อฉล
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงตัวอย่างของความชั่วบางประการ ที่คุณซัลมาและเหล่าชีอะฮ์ได้กระทำอยู่ เท่าที่รู้และเห็นในการสนทนากันที่ผ่านมา
มันเป็นความชั่วที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงสร้าง และห้ามมิให้ มนุษย์ปฏิบัติ โดยพระองค์ได้ทรงประทานอัลกุรอานมาเป็น "อัลฟุรกอน" (ชื่อหนึ่งของอัลกุรอาน) เพื่อจำแนกระหว่างความจริงกับความ เท็จ,ความดีกับความชั่ว และพระองค์ยังได้ส่งรอซูลมาชี้นำเพื่อให้มนุษย์ปฏิบัติดีและออกห่างจากความชั่ว ฉะนั้นมุสลิมหรือมุอ์มินจึงได้ปฏิบัติคุณงาม ความดี ตามการชี้นำจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ของท่านนะบี
แล้วใครคือผู้ปฺฏิบัติชั่วที่มีอิบลีสและสาวกของมันเรียกร้องชี้นำบรรดาผู้คน
ทั้งความชั่วและคนชั่วนั้น แม้พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงสร้างมาก็จริง แต่พระองค์ก็ได้เตือนให้มนุษย์ออกห่าง และสอนให้ขอความคุ้มครองจาก พระองค์
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า อิบลีส คือต้นแบบของความชั่วและเรียกร้องผู้คนไปสู่ความชั่ว และตัวอิบลีสเองพระองค์อัลลอฮ์ก็ได้ทรงสร้างมันมา
เพราะฉะนั้นในโองการที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า
""มินซัรริมาค่อลัก"" แปลว่า จากความชั่วที่ พระองค์ทรงสร้างมา
ซึ่งคุณซัลมายืนยันว่ายอมรับอายะฮ์นี้ แต่ก็ไม่เชื่อว่าอัลลอฮ์ได้สร้างความชั่วมา นั่นแสดงว่า
คุณซัลมายอมรับใน ตัวอักษร แต่ปฏิเสธความหมาย
นี่แหละคะคือผู้ปฏิเสธ นี่แหละคะคือลักษณะหนึ่งของ กาเฟร ที่ปฏิเสธอัลกุรอาน,ปฏิเสธฮะดีษนะบี,และปฏิเสธ แม้กระทั่งคำสอนของอะฮ์ลุลบัยต์ที่พวกเขาบอกว่าจะตาม
ท่านอิหม่ามอาลีกล่าวว่า
""เอาว่าลุดดีน มะอ์รีฟะ ตุ้ลลอฮ์" แปลว่า "สิ่งแรกของศาสนาคือการรู้จักอัลลอฮ์"
นี่คือแนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์ที่สอดคล้องกับแนวทางของชาว ซุนนะฮ์
แต่ชีอะฮ์ซึ่งอ้างว่าตามอะฮ์ลุลบัยต์กลับมีแนวทางที่แตกต่างจากอะฮ์ลุลบัยต์ พวกเขาเริ่มต้นการศรัทธาด้วย เตาฮีต ทั้งที่คำนี้ไม่มีใน อัลกุรอาน และคำนี้ไม่ใช่พระนามหรือซิฟัตของอัลลออ์ แต่คำว่า "เตาฮีต" เป็นเพียงกระบวนการหรือวิชาหนึ่งในการเรียนรู้จักและศรัทธา ต่ออัลลอฮ์
แม้ว่าชีอะฮ์จะดึงมุสลิมออกจากอิสลามด้วยวิธีการที่แยบยล แต่ก็ไม่สามารถจะล่อลวงผู้ศรัทธาได้
คำว่า "เตา ฮีต"ที่ชีอะฮ์ยกไปอ้างเป็นข้อแรกของพื้นฐานการศรัทธานั้น ชีอะฮ์เองก็ยังไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจ จึงได้หยิบเอา การอธิบายเรื่องนี้จาก ชาวซุนนะฮ์มาอ้าง และการอ้างโดยไม่เข้าใจนั้นจึงปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ ขอเพียงให้ได้อ้างเท่านั้น
ข้อสังเกตคือ ชีอะฮ์ปฏิเสธแนวทาง ของซุนนะฮ์แต่ก็อ้างชาวซุนนะฮ์หรืออ้างตำราของชาวซุนนะฮ์ แปลกไหมคะ
วิธีการของชีอะฮ์ที่ทำอยู่ ด้วยการยกเรื่องโน้นเรื่องนี้มาก็เพื่อปก ปิดแนวทางหรือลัทธิอุบาว์ของพวกเขาไม่ให้ถูกตีแผ่ความจริง และความจริงที่ดิฉันพูดถึงก็คือ
ชีอะฮ์ไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์ พวกเขา ใช้อะฮ์ลุลบัยต์บังหน้าเพื่อล่อลวงผู้คน พวกเขามีพื้นฐานการศรัทธา 5 ข้อ ดังนี้
1.เตาฮีต 2.อาดิ้ล 3.นุบูวะฮ์ 4.อิมามะฮ์ 5.กิยามะฮ์
ชี อะฮ์ไม่สามารถลบคำพูดของดิฉัน เพราะชีอะฮ์ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของพวกเขานั้น อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดรวบรวมเรียบ เรียงให้
ขณะนี้ชีอะฮ์กำลังหลบหลีกความจริงในเรื่องนี้ ด้วยการเปิดกระทู้ใหม่อีกหลายหัวข้อ(ตามที่ปรากฏอยู่ในด้านหน้า) ทำให้หลายคนเกิด ความกังขาว่า กระทู้นี้ยังไม่จบ แต่เปิดกระทู้ใหม่มาอีกหลายกระทู้ เพื่ออะไร
นั่นนะซิคะ..เพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เป็นการหนีความจริง
โดยคุณ ซอบะห์ [21 Oct 2001 18:0] #3207 (147/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เท่าที่ผมติดตามการโต้ตอบระหว่างชาวซุนนะฮ์กับ พวกชีอะฮ์นาง12เอ๊ย!นาย12 รู้สึกเหนื่อยแทนชาวซุนนะฮ์ที่พยายามปกป้องศาสนาของอัลเลาะฮ์ที่ให้มีกุรอ่านเป็นบรรทัดฐานแก่บรรดาเหล่าผู้ศรัทธา และยังได้ส่งมนุษย์ผู้หนึ่งที่ชื่อมูฮัมหมัดเป็นศาสนฑูตแห่งพระองค์และพระองค์ยังได้ยืนยันไว้ในอัลกุรอ่านว่ามูฮัมหมัดผู้นี้มิได้เผยแผ่ศาสนาด้วยปัญยา และความคิดเห็นของตัวเอง แต่ทุกถ้อยคำนั้นคือการดนใจของพระองค์เพราะฉะนั้นทุกแง่ทุกมุมปัญหาที่เกี่ยวโยงกับศาสนาจะต้องย้อนกลับไปดูพระ ดำรัสของพระองค์คำสอนของท่านร่อซู้ลและแนวปฏิบัติของเหล่าซอฮาบะฮ์
บรรดาชีอะฮ์นาย12ทั้งหลายที่กำลังออกมากวนเมืองอยู่ทั่วโลก ขณะนี้ล้อนเป็นปรปักษ์ต่ออัลลอฮ์และร่อซู้ลทั้งสิ้น โอ้ชาวชีอะฮ์เอ๋ยเล่ห์อุบายสติปัญญาที่พวกชาวชีอะฮ์นาย12กำลังสำเริงสำราญกันอยู่นี้อัลลอฮ์มิได้ ละสายตาพวกเจ้า อัลลอฮ์นั้เหนือพวกเจ้าเหนือคนานับ
ความเชื่อของชีอะฮ์ลัทธินาย12ที่พวกเราชาวมุสลิมกำลังสับสนกันอยู่นี้เป็นเพียงจุด เริ่มของนิยายที่หลากหลายบทบาท หลากหลายด้วยดาราน้อยใหญ่ จุดไคลเม็คของเรื่องคือพระเอกตัวน้อยที่มีวิทยายุทธมุดเข้ารูดำดินหายไปพร้อม กับตำราวิทยายุทธที่บรรดาอัครสาวกอ้างว่าเป็นคัมภีร์ที่สมบูณร์แบบ และบทเศร้าที่สุดในเรื่องนี้ท่านทั้งหลายทราบไหมว่าอะไร?... ผมว่าประเด็นนี้ถ้า ถูกนำมาเปิดเผยชาวชีอะฮ์ปลายแถวจะต้องออกมาปฏิเสธกันว่าไม่จริงไม่มี ก็โดยสันดานของพวกลัทธิโกหกแล้วได้บุญ ลัทธินี้จะไม่นำเสนอประเด็นที่ ก่อให้เกิดผลลบต่อมวลชนที่ยังไม่ได้หลุดเข้าไปในกับดักของลัทธิ
พี่น้องไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกชีอะฮ์นาย12ถึงออกมาปฏิเสธรู่ก่น อีหม่านที่อัลลอฮ์บอกร่อซู้ลว่า ที่ผมบอกว่ามีฉากเศร้าอยู่ในนิยายเรื่องนาย12ขณะนี้คือตัวละครที่ผู้แต่งเรื่อง้ชื่อว่าอาลีนั้ันกำลังต่อสู้กับอัลลอฮ์อยู่ และกำลังจะได้รับชัยชนะผมได้รับข้อมูลจากชาวอีหร่านผู้หนึ่งแน่นอนที่สุดประเด็นนี้พวกชีอะฮ์ระดับหางจะต้องออกมาใช้วิธีตะกียะฮ์(โกหก,ปลิ้น ปล้อน,หลอกลวง,จะได้ผลบุญมากมาย)เพื่อกลบเกลื่อนความชั่วร้าย,ไม่ว่ากันนะครับเพราะนักแสดงตัวประกอบนั้นจะต้องตีบทให้แตกเพื่อให้เข้าตาผู้ กำกับจะได้ก้าวขึ้เป็นดาราชั้นนำที่มีผลตอบแทนมากขึ้น
พี่น้องชาวซุนนะฮ์ทั้งหลายไม่ว่าท่านจะเค้นคอขอขอให้พวกชีอะฮ์นำหลักฐานรุ่ก่น อีหม่านคุณขอมากไปหรือเปล่าพวกนี้เล่นบทตัวประกอบครับเขาก็ว่าไปตามบทพวกเขาอยากบอกใจจะขาดว่ารออีกหน่อยซิรอพระเอกตัวน้อยที่มุดดิน หายไป โผล่กลับมาเมื่อไหร่ได้หลักฐานแน่.....
โดยคุณ ิิิิิิB52 [21 Oct 2001 18:53] #3208 (148/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
อย่ามัวด่าอยู่เลย ดิฉันถามว่า
ที่ท่านประณาม ว่าอัลลอฮ์ "สร้างความชั่ว" ทั้ง ๆ ที่เราบอกว่า"ซุบฮานัลลอฮ์" หรือ มหาบริสุทธิ์ยิ่งสำหรับองค์อัลลอฮ์ ท่านกล่าวมาได้อย่าง ไร
ขอตัวอย่าง หรือหลักฐานสักข้อเดียวก็เพียงพอ ว่า
ความชั่วแรกที่พระองค์ทรงสร้างคืออะไร?
หรือความชั่วไหน ๆ ก็ได้ที่พระองค์ทรงสร้างคืออะไร?
หรืออะไรก็ได้ที่พระองค์ทรงสร้าง แล้วคุณซอบะฮ์และชาวซุนนะฮ์ทั้งหมดเห็นว่า "ชั่ว"
อย่ามัวประณามพระองค์โดยปราศจากหลักฐานอยู่เลย
โดยคุณ ซัลมา [21 Oct 2001 23:22] #3226 (149/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าใจหลบหลีกดีจังนะคะ
อยากได้ตัวอย่าง ความชั่วที่อัลลอฮ์สร้างมา ก็ตอบให้แล้วนะคะ ถ้าไม่ได้อ่านมัวแต่ถามก็จะย้ำให้อีกครั้งว่า
การโกหก,ตลบแตลง,ไส่ไค้ล,บิดเบือน,ผิดสัญญา, ปฏิเสธความจริง นี่คือเพียงตัวอย่างความชั่วที่อัลลอฮ์สร้างมา และห้ามผู้ศรัทธาไม่ให้ประพฤติปฏิบัติ
แต่คุณซัลมาและเหล่าชีอะฮ์นำไปปฏิบัติ ทั้งหมด
อัลกุรอานซูเราะฮ์ อัลฟะลัก อายะที่ 2 ที่ว่า
""มินซัรริมาค่อลัก " แปลว่า จากความชั่วที่อัลลอฮ์สร้าง มา
กุรอานของชีอะฮ์คงไม่มีอายะฮ์นี้ ถ้ามีจะเหมือนกันหรือไม่ แล้วชีอะฮ์จะแปลว่าอย่างไร ? กรุณานำมาเสนอแล้วก็แปลให้ฟังหน่อยซิคะ เพราะกล่าวหาว่าดิฉันประณามพระองค์อัลลอฮ์ กรุณาอย่าเก่งแต่ถาม ลองยกมาพิสูจน์หน่อยซิคะ
คุณซัลมาและเหล่าชีอะฮ์อ้างว่ายึดอะฮ์ลุ ลบัยต์ แต่ไม่มีหลักฐานว่า อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดรวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ยึดถือ
ฉะนั้นแนวทางของชีอะฮ์จึงไม่ใช่ แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์
ชีอะฮ์ใช้อะฮ์ลุลบัยต์บังหน้าเพื่อล่อลวงผู้อื่นให้ออกจากอิสลาม
ผู้สัจจริงทำไมไม่กล้ายืนยันความจริง จะรีบ ปิดกระทู้หนีไปไหน
โดยคุณ ซอบะห์ [22 Oct 2001 02:40] #3230 (150/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรุณาอย่าใช้เล่ห์เพทุบาย
แค่คำว่า " สร้าง" กับคำว่า "ทำ" ยังแกล้งไม่เข้าใจ แล้วจะเอาปัญญาตรงใหนไปชำระประวัติศาสตร์
ถ้าชีอะฮ์คือผู้สัจจริง ไม่ใช่ผู้ล่อ ลวงผู้อื่น กรุณานำเสนอหลักฐานด้วยว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการคือ
1.เตาฮีต 2.อาดิ้ล 3.นุบูวะฮ์ 4.อิมามะฮ์ 5. กิยามะฮ์
อะฮ์ ลุลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียง
โดยคุณ ซอบะห์ [22 Oct 2001 02:49] #3231 (151/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...อ่านต่อหน้าที่ 6...
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.