ชาววะฮะบีเชื่อว่า อํลลอฮ์ทรงลงมายังฟากฟ้า ของโลกนี้ ตามที่พวกชีอะฮ์นำหลักฐานของฝ่ายวะฮะบีย์มาอ้างไว้จริงหรือ ดังนั้นการที่ท่านศรัทธาในอัลลอฮ์ ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ช่วยอธิบายด้วย ก่อนไปพูดกันเรื่องอื่น ท่านหญิงชอบะฮ์ช่วยหน่อยครับ
โดยคุณ คนท่าอิฐแท้ [16 Oct 2001 23:10] #3102 (88/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณคนท่าอิฐพูดว่า "ชาววะฮะบี" และ "พวกชีอะฮ์" ดิฉันไม่ทราบว่าคุณเป็นชาวอะไร หรือพวกใหน ?
หากคุณเป็นมุสลิมก็อย่าคลางแคลงใจต่อคำสอนที่มีในอัลกุรอาน และฮาดีษศอเฮียะฮ์ หน้าที่ของมุสลิมคือเชื่อศรัทธาและปฏิบัติตาม แม้บางเรื่องสติปัญญาของมนุษย์จะไปไม่ถึงก็ตาม
"จงประกาศเถิดมู ฮัมหมัด หากพวกท่านทั้งหลายรักอัลลอฮ์ก็จงปฏิบัติตามฉัน แล้วอัลลอฮ์ก็จะรักพวกท่าน " อัลกุรอาน
กรุณาอย่าเปลี่ยนชื่อ เพื่อเปลี่ยน เรื่อง เปลี่ยนประเด็น
ดิฉันยังยืนยันคำพูดที่ว่า ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสองไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์
ยังไม่มีชีอะฮ์ท่านใดนำหลักฐานมา แสดงว่า คำพูดของดิฉันพิดพลาด เหมือนกับจะยอมรับ กรุณานำหลักฐานมาแสดงซิคะว่า อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุ ศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์ได้ยึดถือ
อย่าเพิ่งปิดกระทู้หนี ก่อนที่จะเสนอหลักฐานนะคะ
โดยคุณ ซอบะห์ [17 Oct 2001 01:16] #3106 (89/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมูปิ้งคับหมูปิ้ง/////
โดยคุณ บังกินหมู [17 Oct 2001 01:48] #3113 (90/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เหล่า ซีอะฮฺอิมาม 12 ทั้งหลาย เป็นอะไรไปหมดครับ การที่ คุณแจมแมน แจมอีกที่ หรือพวกท่านทั้งหลายที่เข้ามาทำไม่ไม่นำหลักฐานมาด้วยละครับ หรือไม่มีหลักฐาน ในเมื่อพวกท่านบอกว่า ตามกิ ตาบุลลอฮฺ และอะลุลบัยต์ ทำไมอะลุลบัยต์มีตั้งหลายท่าน พวกท่านไม่ได้รวบรวม รุก่น อุศูล 5 ประการ ของซีอะฮฺไว้บ้างเลยหรือครับ หรือแม้แต่ ท่านอะลี
แต่อะลุลบัยต์ของชาวซุนนะฮฺได้รวบรวมรุก่น 6 ประการ โดยท่าน นบีมุหัมมัด (ศล) ครับ หรือพวกท่านไม่นับท่านนบีมุ หัมมัด (ศล) เป็นหนึ่งในอะลุลบัย
ผู้ที่เข้ามาช่วยนำหลักฐานมาก่อนครับ ค่อยวิจารณ์ทีหลัง จะได้ว่าไปทีละประเด็น อุศูล 5 ประการครับ อะลุลบัยต์ท่านใดเรียบเรียงครับ
โดยคุณ มุสลิม [17 Oct 2001 08:56] #3116 (91/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในเมื่อกระทู้เริ่มยาวขึ้นมาเราก็ขอเสนอหลักฐานใหม่เป็น ระยะ ดังนี้
จากอัลกุรอ่าน อัลบะเกาะเราะฮฺ 177ความว่า
""""มิใช่ความดีแต่อย่างใดที่สูเจ้าทั้งหลายจะผิน หน้าของพวกสูเจ้าไปทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก แต่ทว่าความดีคือ ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อวันสุดท้าย ต่อบรรดามะลาอิกะฮฺ ต่อคัมภีร์ และต่อ บรรดานบี"""""""
และทั้งนี้เนื่องจากอัลกุรอ่านไม่ได้ลงมาที่เดียวพร้อมกันจึงมีบางข้อที่ลงมา ทีหลักเช่น ในซูเราะ อัลฟุรกอน 2
"""""""และพระองค์อัลลอฮฺทรงบังเกิดทุกสิ่ง แล้วพระองค์ ได้ทรงกำหนดสภาวะไว้อย่างแน่นอน"""""""""
ทั้งสอง อายะฮฺนี้ ได้ถูกรวมรวม โดยหะดิษท่านนบี (ศล) ความว่า """""ดังนั้นท่านจงบอกฉัน (ญิบรีล) ถึงอีมาน ท่านร่อซูล (ศล) กล่าวว่า " ท่านต้องศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อบรรดามะลาอิกะฮฺของพระองค์ ต่อบรรดาคัมภีณืของพระองค์ ต่อบรรดาร่อซูลของพระองค์ ต่อวันสุดท้าย (วันอาคิเราะฮฺ) และศรัทธาต่อการกำหนดสภาวะในความดี และความชั่ว""
หะดิษนี้บันทึกโดย อิมามมุสลิม (8) อิมามอะหมัด 8/27,51 , 52 , 53 , อบูดาวูด (4695) ติรมิซีย์ (2610)
ทางเราชาวซุนนะฮฺได้นำเสนอไว้มากมายแล้ว แต่พวกซีอะฮฺอิมาม 12 ทั้งหลายก็ได้ปฏิเสธอัลกุรอ่าน และ อัลหะดิษของท่าน นบี (ศล) มาโดยตลอดทางเราจึงอยากให้พี่น้องมุสลิมีน และ มุสลิมะฮฺ ทุกท่านได้ อ่านและได้พิจรณาดูว่า ท่านจะเลื่อกปฏิบัติตาม หรือเลือก ปฏิเสธ อย่างพวก ซีอะฮฺอิมาม 12 ที่พวกเขาพยายามทำกันอยู่
โดยคุณ มุสลิม [17 Oct 2001 09:01] #3117 (92/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลักฐานเรื่องรุกรอีมานมี 6 ประการ และความดีความ ชั่วมาจากอัลลอฮ์ มีเท่านี้หรือคะ ? หมดแล้วจริงๆ หรือคะ? มันใช้ไม่ได้คะดังเหตุผลที่กล่าวมาหลายครั้งแล้วและท่านทั้งหลายยังมิได้ชี้แจงเลย คือ
1. ทำไมอายะฮ์ที่อ้างมา
ไม่มีเรื่อง"รุกนอีมาน"
"ไม่มีคำว่า"หกประการ"
และไม่มีเรื่อง"ความดีความชั่วมาจากอัลลอฮ์"
แต่ท่านยังคงอ้างว่าเป็นอายะฮ์เกี่ยวกับรุกนอีมาน 6 ประการ มั่วหรือ เปล่าคะ?
2. ที่ท่านอ้างว่าเริ่มแรกของศาสนาคือการรู้จักอัลลอฮ์
และกล่าวอ้างว่ารุกนอิมาน 6 ประการจึงเริ่มด้วย "ฮัน ตุอมินะบิลลาอ์" แต่ในหลักฐานที่ท่านยกมาจากกุรอานซูเราะฮ์ อัล-บะเกาะเราะฮ์ กลับเป็นซูเราะฮ์มะดะนียะฮ์ จะเห็นได้ว่าทำไมเริ่มแรกของ ศาสนากลับไปลงทีหลังที่เมืองมะดีนะฮ์ ส่วนอายะฮ์ที่พยายมยกมาสนับสนุนรุกนอีมานข้อที่ 6 ข้อสุดท้าย กลับอยู่ในซูเราะฮ์มักกียะฮ์ซึ่งเป็นเมืองแรกที่ ลงวะฮ์ยู
ทำไมอายะฮ์ที่อ้างว่าลงมาเรื่องรุกนอีมานข้อที่ 6 ซึ่งเป็นข้อสุดท้ายจึงลงมาก่อน แต่อายะฮ์ที่อ้างว่าเป็นเรื่องรุกนอีมาน 5 ประการแรก กลับลงมาที่หลัง
3. ทั้งสองอายะฮ์ห่างกันกี่ปี ในระหว่างนั้นบรรดาซอฮาบะฮ์เป็นมุสลิมด้วยรุกนอีมานใด หรือในขณะที่พวกเขาอยู่ที่ มักกะฮ์มีรุกนข้อที่ 6 ก่อน คือ ความดีความชั่วมาจากอัลลอฮ์
แล้วมารู้จักอัลลอฮ์ที่มะดีนะฮ์ ตอนที่วะฮีดังกล่าวลงมา?
4. นบี(ศ)อธิบายอายะฮ์ทั้งสองนี้ด้วยฮะดิษมุสลิมจริงหรือ หรือท่านลากมายำกันเองคะ?
5. ถ้าต้องศรัทธาว่า
"วัลก็อดริ คอยริฮี วะชัรริฮี มินัลลอฮิตะอาลา"
หรือ "การกำหนดความดีความชั่วมาจากอัลลอฮ์"
ตามฮะดิษแล้ว แล้วเราจะ เชื่อกุรอานที่กล่าวว่า
"วะมินชัรรินนัฟฟาซาติฟิลอุก็อด" ความว่า "ขอให้พ้นจากความชั่วร้าย(ชัรริน)ของบรรดา(มนุษย์)ผู้ เสกเป่าในตระกุด" กันอย่างไรคะ?เพราะฮะดิษให้อีมานทุกๆความชั่วมาจากอัลลอฮ์ แต่กุรอานกลับชี้ให้เห็นว่าความชั่วมาจากมนุษย์ เอง
6. ทำไมไม่อ้างฮะดิษบุคอรีบ้าง ในเมื่อฮะดิษมุสลิมมีขัดแย้งหลายประแส
7. เมื่อฮะดิษมุสลิมมีริวายะฮที่ขัดแย้ง กันทำไมจึงเลือกเชื่อริวายะฮ์ที่ไม่มีข้อความในกุรอาน และขัดแย้งกับกุรอาน
8. เมื่อฮะดิษบุคอรีและมุสลิมมีริวายะฮ์ที่ขัดแย้งกัน ทำไม จึงเลือกเชื่อฮะดิษมุสลิมที่มีฐานะ "รอง" และ "ด้อย" กว่าฮะดิษบุคอรี
9. ทำไมไม่อ้างฮะดิษ"บุคอ รี" บ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?
10. หากท่านกล่าวว่าอะฮ์ลุลบัยต์มิได้สอนอุศุลอย่างที่ฝ่ายชีอะฮ์อ้างแล้ว ท่านเองมีหลัก ฐานหรือไม่ว่าอะฮ์ลุลบัยต์สอนเรื่องรุกนอีมานมี 6 ประการ และความดีความชั่วมาจากอัลลอฮ์ ก็เปล่าเลย อะฮ์ลุลบัยต์มิได้สอนสิ่งที่ไม่มีในกุรอานและ ขัดแย้งกับกุรอานเช่นนี้ และท่านก็แสดงเพียงหลักฐานมาจากท่านอุมัร บินค็อคคอบ ซึ่งมีประวัติต่อต้านซุนนะฮ์เท่านั้น เราทุกคนต้องเชื่ออะฮ์ลุลบัยต์มิ เช่นนั้นจะหลงทาง ฉะนั้นรุกนอีมานของฝ่ายซุนนีย์แน่นอนว่าไม่ได้มาจากอะฮ์ลุลบัยต์
ส่วนทางฝ่ายชีอะฮ์เราได้อ้างแล้วแต่ท่านเลือกที่จะปฏิเสธ
อยากให้ท่านตอบให้ตรงประเด็น อย่าได้หลีกเลี่ยงบิดเบือนอีกเลย
โดยคุณ ซัลมา [17 Oct 2001 09:28] #3118 (93/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
และเราแปลกใจมาก ๆ ที่ท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นคุณ ซอบะฮ์ เด็กมุสลิม มุสลิมซุนนะฮ์ หรือคุณทนอ่าน
ไม่อ้างฮะดิษ "บุคอรี" บ้างเลย ในเรื่อง "รุกนอีมานมี 6 ประการ" และ "ความดีความชั่วมาจากอัลลอฮ์"
แต่กลับไปอ้างฮะดิษมุสลิมที่มีฐานะเป็น "ต่ำกว่า"
และขัดแย้งกับกุ รอาน แล้วบังคับให้ฝ่ายชีอะฮ์เชื่อ และยอมรับ พร้อมกับแจ้งช้อหากาเฟรให้อีก ทั้ง ๆ หลักฐานแสนจะอ่อน ขาดเหตุผล และขัดแย้งกันเองมาก มาย
ซึ่งท่านทั้งหลายไม่มีทางตอบได้และหลีกเลี่ยงอยู่จนบัดนี้
ขอย้ำว่าอยากอ่านอะไรที่มันตรงประเด็นหน่อยคะ
โดยคุณ ซัลมา [17 Oct 2001 09:3] #3119 (94/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ มุสลิมซุนนะ หรือ คุณทนอ่านเดิม ไม่มีปัญญา หาหลักฐาน อื่นมาสนับสนุน เพิ่มเติ่มหรือ ที่คุณยกมาทั่งหมด นั้นคุณยังอธิบายคุณซัลมา ไม่ได้เลย ซักประเด็น เดียว
คุณซอบะฮฺ วันนี้ก้อ เพี้ยน อีกแล้ว บังคับขู่เข็น พี่น้องให้เชื่อศรัทธา ตามตัวเอง ช่างไม่ละอายแก่ใจแท้ๆ...เลย
( คุณคนท่าอิฐพูดว่า "ชาววะฮะบี" และ "พวกชีอะฮ์" ดิฉันไม่ทราบว่าคุณเป็นชาวอะไร หรือพวกใหน ?
หากคุณเป็นมุสลิมก็อย่าคลางแคลงใจต่อคำสอนที่มีในอัลกุ รอานและฮาดีษศอเฮียะฮ์ หน้าที่ของมุสลิมคือเชื่อศรัทธาและปฏิบัติตาม แม้บางเรื่องสติปัญญาของมนุษย์จะไปไม่ถึงก็ตาม
"จงประกาศ เถิดมูฮัมหมัด หากพวกท่านทั้งหลายรักอัลลอฮ์ก็จงปฏิบัติตามฉัน แล้วอัลลอฮ์ก็จะรักพวกท่าน " อัลกุรอาน
กรุณาอย่าเปลี่ยนชื่อ เพื่อ เปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนประเด็น " )
คุณ คนท่าอิฐ เขาอยากรู้ ว่าจริงหรือเปล่าที่
" ชาววะฮะบีเชื่อว่า อํลลอฮ์ทรงลงมายัง ฟากฟ้าของโลกนี้ ตามที่พวกชีอะฮ์นำหลักฐานของฝ่ายวะฮะบีย์มาอ้างไว้จริงหรือ ดังนั้นการที่ท่านศรัทธาในอัลลอฮ์ ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ช่วยอธิบาย ด้วย ก่อนไปพูดกันเรื่องอื่น ท่านหญิงชอบะฮ์ช่วยหน่อยครับ ." คุณซอบะฮฺ
ก้อตอบเขาไปซิครับว่า จริง หรือ ไม่จริง
ถ้าจริง เพราะ อะไร ถึงเชื่อแบบนั้น ? ถ้าไม่จริง ก็ชี้แจงว่าเพราะอะไร ?
นะครับ นะครับ ใช้ปัญญา และมีสติในการคิดหน่อย อย่างฟั่นเฟือน เหมือน เจ้าสำนักของคุณ หละ อิบนุ ตัยมิยะห์ รู้จักไหม ? บุคคลทีพวกคุณคิดว่าเป็น มุญัญดิด งัยครับ...
โดยคุณ Hasim [17 Oct 2001 10:55] #3120 (95/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชาวชีอะฮ์ไม่ว่าจะเป็นคุณซัลมา หรือคุณ Hasim หรือ ท่านอื่นจะกลับเข้ามาสักกี่ครั้งก็ไม่ยอมเสนอหลักฐานว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของชีอะฮ์นั้น อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียง ให้
ดิฉันยืนยันคำพูดอีกครั้งว่า แนวทางของชีอะอ์ไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์ ชาวชีอะฮ์ไม่กล้ายอมรับในประเด็นนี้ แต่การใช้วิธีหลบหลีก ดังที่ผ่านมา ก็เหมือนเป็นการประจานชีอะฮ์เองว่า ใช้อะฮ์ลุลบัยต์มาบังหน้าเพื่อดึงมุสลิมออกจากอิสลาม ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่ดิฉันพูดก็เสนอหลักฐาน มาคัดค้านซิคะ ดิฉันก็พูดคำนี้อยู่ตลอดแต่ก็ไม่มีชีอะฮ์ท่านใดคัดค้าน มิหนำซ้ำยังพยายามแหกกฎกติกาของตัวเองเพื่อเปลี่ยนประเด็นให้ได้ เช่นคุณ ซัลมาที่นอกจากจะไม่เสนอหลักฐานที่ว่าแล้วยังตั้งคำถามที่ดิฉันเรียกว่า "คำถามโง่ๆ" คือถามว่า
1. ทำไมอายะฮ์ที่อ้างมา
ไม่มีเรื่อง"รุกนอีมาน"
"ไม่มีคำว่า"หกประการ"
ดิฉันตอบด้วยคำถามโง่ๆแบบคุณซัลมา เช่นเดียวกันว่า
ซูเราะอ์อัลอิคลาศที่ชีอะฮ์นำมาอ้าง ไม่เห็นมีเรื่องรุกนอีหมานหรือเรื่องอุศูลของชีอะฮ์แม้แต่อายะฮ์เดียว
ไม่มีคำว่า "อุศูลคอมซ่า" ไม่มีคำว่าห้าประการ แม้แต่อายะฮ์เดียว
ไม่มี เตาฮีต อาดิ้ล นุบูวะฮ์ อิมามะฮ์ และกิยามะฮ์ แม้แต่อายะฮ์เดียว และ ขอยืมคำพูดของคุณซัลมาตบท้ายว่า
มั่วหรือเปล่าคะ?
และดิฉันก็ใช้คำถามของคุณถามคุณว่า
อะฮ์ลุลบัยต์ได้อธิบายซูเราะอ์ อัลอิคลาศนี้อย่างไร หรือชีอะฮ์ลากมายำกันเองคะ ?
ถ้าคุณซัลมาตอบคำถามของตัวคุณเองไม่ได้ ก็อย่าใช้คำถามโง่ๆเช่นนี้มาถามอีก คุณ เคยพูดว่า อยากได้คำตอบแบบฉลาดๆ ก็ลองถามแบบฉลาดๆดูบ้างซิคะ
หลักฐานเรื่องความชั่วมาจากอัลลอฮ์นั้นเป็นเพียงอายะฮ์เดียว จาก ซูเราะฮ์อัลฟะลัก(ยังมีอีกหลายอายะอ์ในซูเราะอ์อื่นๆ) ที่ดิฉันนำมาแสดงคือ
มินซัรริมาค่อลัก แปลว่า "จากความชั่วที่อัลลอฮ์สร้าง มา"
อยู่ในซูเราะฮ์อัลฟะลัก อายะฮืที่ 2 ไม่ใช่อายะฮ์ที่ 3 และ 4 ที่คุณซัลมาพยายามลากไปกลบเกลื่อน
ในอายะอ์ที่ 2 บอกถึงที่ มาของความชั่วว่าอัลลอฮ์เป็นผู้สร้าง
ในอายะฮ์ที่ 3 บอกให้ระวังความชั่วที่ส่วนใหญ่จะแพร่กระจายกระจายในยามค่ำคืน
ในอายะฮ์ที่ 4 และ 5 บอกถึงส่วนหนึ่งของผู้ประพฤติประฏิบัติชั่วและวิธีการ
สรุปว่าในซูเราะฮ์อัลฟะลักนี้ บอกถึง ที่มา,เวลา,ผู้ปฏิบัติและวิธีการ และพระองค์ก็ สอนให้ขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากผลของความชั่วที่จะมากระทบกับผู้ศรัทธา
คุณซัลมาอย่าพยายามเบี่ยงเบนไปทางอื่นเลยคะ อย่าทำตัวให้น่าสงสารมากกว่านี้
คุณซัลมาถามครั้งที่เท่าใหร่แล้วว่า ทำใมไม่อ้างบุคคอรีบ้าง ? ดิฉันถามตรงๆว่า คุณซัลมาและชีอะฮ์ยอมรับ ในบุคคอรีหรือคะ เมื่อคุณไม่ยอมรับแล้วถามถึงทำไม เพื่ออะไร ถ้าดิฉันใช้คำถามแบบคุณซัลมาแล้วถามว่า ทำไมชีอะฮ์ไม่อ้างซูเราะฮ์ "อัลมะ ซัด"(ตับบัต) บ้าง คุณตอบได้ใหมคะ
นักวิชาการชาวซุนนะฮ์เขารับรองบุคคอรีนั้น เขารับรองเรื่องอะไรประเด็นใหน? เขารับรองว่าในบุ คคอรีมีครบทุกเรื่องหรือรับรองความน่าเชื่อถือ
ถ้าชีอะฮ์ถามถึงบุคคอรี เพราะเชื่อถือจริงๆ ดิฉันนำเสนอให้ว่า บุคคอรี(ฟัตฮุลบารี) เล่มที่ 1 หมวดที่ 2 บทที่ 3 หน้าที่ 50 พูดถึงเรื่อง อัลอีหมาน คุณรับใหม ? ดิฉันก็เคยนำมาเสนอแล้ว คุณก็ปฏิเสธ ทั้งอัลกุรอาน ทั้งฮะดีษบุคคอรี,ฮะดีษมุสลิม แม้กระทั่งนะฮ์ญัลบะลาเฆาะฮ์ คำของท่านอิหม่ามอาลีเอง ท่านก็ไม่รับ แล้วชีอะฮ์เชื่อใคร ตามใคร ในขณะที่ปากบอกว่าตามอะฮ์ลุลบัยต์ แต่พื้นฐาน ความเชื่อก็ยังเป็น เตาฮีต,อาดิ้ล,นุบูวะฮ์,อิมามะฮ์,กิยามะฮ์
นำหลักฐานยืนยันหน่อยซิคะว่า อะฮ์ลุลบัยต์เป็นผู้รวบรวมเรียบเรียง รุกนอีหมา นหรืออุศูล 5 ประการนี้ให้
อย่ามั่วแต่หลอกตัวเองและชาวบ้านอยู่เลย ยืนยันด้วยหลักฐานซิคะ ผู้สัจจริงต้องวิ่งหนีความจริง เป็นภาพที่ไม่น่า มองเลยนะคะ
โดยคุณ ซอบะห์ [17 Oct 2001 14:57] #3123 (96/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อคุณซัลมาอยากได้อะไรที่ตรงประเด็น
ดิฉันก็พูดตรงประเด็นเลยว่า
รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของชีอะอ์ ไม่ใช่คำสอนของอะฮ์ลุลบัยต์
ท่านอาลีเริ่มต้นด้วยการศรัทธา ต่ออัลลอฮ์
แต่ชีอะฮ์เริ่มต้นด้วยเตาฮีตและฯลฯ
ชีอะฮ์หลอกผู้อื่นว่ายึดลูกหลานนะบี
แต่ไม่มีหลักฐานว่าอะฮ์ลุลบัยต์เป็นผู้รวบ รวมเรียบเรียงรุกนหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์ยึดถือ
ตรงประเด็นใหมคะ กับข้อหาที่ว่า ชีอะฮ์เป็นกาเฟร
โดยคุณ ซอบะห์ [17 Oct 2001 15:04] #3124 (97/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณซอบะฮ์ ถ้าจะปัญญาทึบจริงๆ เลยนะครับ แล้ว ยังบังอาจ มาหุกุ่มในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ อีก แม้แต่เรื่องทีตัวเองควรจะรู้ ก็ยังไม่รู้ ไม่ศึกษาทำความเข้าใจ กับหลักการของตัวเอง แล้วยังบังอาจ เอา มาตรฐานความเชื่อทีผิดๆของตัวเองมาตัดสินชาวบ้านเขาอีก ..เรื่องที่พวกสุนนะ ควรจะชี้แจงก้อไม่ชีแจง จะปิดกระดานสนทนา ในหัวข้อนี้หรือครับ ....อย่าเพิ่งคุณ ซอบะฮฺ คุณมุสลิม ซุนนะฮฺ และ พวกวาฮะบีทั้งหลาย ผมจะนำเสนอ หลักความเชื่อ ที่ เพี้ยนๆ ของพวกคุณต่อไป ...พร้อมทั้งนำเสนอ เรื่องราวของ อิบนุ ตัยมิยะฮฺ และประวัติ ที่มา ที่ ของบรรดาสานุศิษย์ ทั้งหลายด้วย ...คำว่ากาเฟร ในทัศนะของวาฮะบีอย่างพวกคุณ ชีอะฮฺเขาไม่ สะเทือนกันหรอกครับ.....สัจธรรมก็คือสัจธรรม แล้วจะได้รู้กัน ว่าคำว่ากาเฟร ควรจะเหมาะกับใคร กว่ากัน ?
." ชีอะฮ เป็นการเฟร หรือว่า วาฮะบี เป็นกาเฟร "
เรื่องยังไม่จบ อย่าเพิ่งด่วนสรุปครับ....
โดยคุณ Hasim [17 Oct 2001 18:07] #3125 (98/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สลามคุณซอบะฮฺ ผมไม่ได้เปิดWeb แค่วัน สองวันมีกะทู้เข้ามาเพียบ รู้ภาคภูมิใจกับบรรดาผู้ใฝ่หา ความรู้ในอิสลาม ผมขอตอบคุณในประเด็น ที่แล้วมาดังนี้นะครับ
1. ทำไมต้องใช่ข้อ ความที่ว่า . ขอถามแบบโง่ๆละครับ ถ้าโง่จริงก็บอกว่าโง่ และที่ผมเข้ามาสนทนากับคุณเพราะมีความเชือ ว่าคุณโง่จริงๆ คุณลองพิจารณาดูนะครับ คุณยกเรื่องพระยโฮวา และนักปรัชญา เพลโ โซเครติส แต่พอเราคุยกันในเรื่องราวระหว่างสุนนะฮฺ กับชีอะฮฺ คุณกลับไม่มีความรู้ ในเรื่องราวของชีอะฮฺ เข้าตำราใกล้เกืลอ กินด่าง ข้อความที่คุณยกมาว่าพระเจ้าองค์เดียวนี้เป็นความเชื่อของบุคคลหลายศาสนา มิใช่หรือค่ะ พระเจ้าองค์เดียวของคนอื่น ชือ ยะโฮวา . คุณซอบะฮ คุณไม่ทราบหรือว่าทั้งยิวและคริสต์ เชื่อว่าอัลลอฮ ทรงมีบุตร ยิวเชื่อว่า อุเซร คือ บุตรของอัลลอฮ ดูซูเราะห์ อัต - เตาบะฮฺ อายะ 30
และชาวยิวได้กล่าวว่า อุซัยร์(*1*)เป็นบุตรของอัลลอฮ์ .
และชาวคริสต์ เชื่อว่าพระเจ้ามี 3 ภาค พระบิดา พระบุตร พระ วิญญาณ บริสุทธ์
. ... และชาวคริสต์ได้กล่าวว่า อัล-มะซีห์(*2*)เป็นบุตรของอัลลอฮ์ นั่นคือถ้อยคำที่พวกเขากล่าวขึ้นด้วยปากของพวกเขา เอง ซึ่งคล้ายกับถ้อยคำของบรรดาผู้ที่ได้ปฏิเสธการศรัทธามาก่อน ขออัลลอฮ์ทรงละอ์นัต(*3*)พวกเขาด้วยเถิด พวกเขาถูกหันเห(*4*)ไปได้อย่างไร? ซูเราะห์ อัต - เตาบะฮฺ อายะ 30
หลักฐานชัดแจ้งอย่างนี้ แล้วจะเหมือนกับอัลลอฮ ของศาสนาอิสลามได้ยังไงครับ ผมคิดว่าคุณอย่ามั่วนิ่มดี กว่า และ พระเยซู ( นบีอีซา ) ก็ไม่ได้เป็นพระเจ้าดู ซูเราะห์ อัลมาอิดะฮฺ อายะที่ 17
. แน่นอนได้ปฏิเสธศรัทธาแล้วบรรดาผู้ที่กล่าวว่า แท้ จริงอัลลอฮ์นั้นคืออัลมะซีห์(*1*) บุตรของมัรยัม จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ก็ใครเล่าที่จะมีอำนาจครอบครองสิ่งของ(*2*) จากอัลลอฮ์ได้ หากพระองค์ ทรงประสงค์ที่จะทำลายอัล-มะซีห์ บุตรของมัรยัม และมารดาของเขา และผู้ที่อยู่ในแผ่นดินทั้งหมด และอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินและสิ่งที่ อยู่ในระหว่างทั้งสองนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น และอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง .
แล้วคุณเขียนมาได้อย่างไรว่า เรื่อง ของพระเจ้าองค์เดียวนี้เป็นความเชื่อของบุคคลหลายศาสนา ขอความกรุณาท่านผู้อ่าน ย้อยกลับไปดูกระทู้ ของคุณซอบะฮฺ วันที่ 14 Oct 2001 03.22 #3025 ( 32/84 ) นับจากบนลงมาบรรทัดทีหก
ที่นี้ ท่านผู้อ่าน คงทราบแล้วว่า อะกีดะฮฺ หรือ หลักความเชื่อของคุณซอบะฮฺ มั่วขนาดไหน และตัวเขาเองก็ยืนยันมาด้วยตัวเอง
สรุป
ด้วยเหตุนี้ผมจริงบอกคุณซอบะฮฺว่า เรามาคุยกัน หลักศรัทธาที่ละข้อ โดยเริ่ม จากข้อแรก คือ ของคุณว่า เชื่อต่ออัลลอฮ ส่วนของชีอะฮ เชื่อว่า อัลลอฮคือผู้ทรงเอกะ แต่เพียงผู้เดียว ( เตาฮีด ) เพราะ ผมขอบอกตรงๆ ว่า อัลลอฮ ของสุนนะ กับของชีอะฮ คนละองค์กันแน่ๆ ถ้ามาคุยกันในเรื่องรายละเอียดกัน..ในข้อแรกนี้ เราจะได้แสดงให้ผู้อ่านได้เข้าใจเสียที่ว่า อย่าได้ไป คุยหลักการอีหม่าน ของที่สอง หก ของคุณเลย แค่ข้อแรกมาพิสูจน์กันก่อนว่า อัลลอฮที่คุณและพวกผมเชื่อ มันคนละองค์กันกับที่ผม และบางมัซ ฮับในโลกอิสลามนับถือ ผมว่าไม่เหมือนกันแน่นอน
ทีนี้เราจะได้จะได้พูดกันจะๆว่าใครคือกาเฟรกันแน่ เพราะพวกคุณชอบพูดบ่อยๆ และกรุณาให้คำนิยามของคำว่ากาเฟร มาด้วยผมจะได้รู้เงื่อนไขของพวกคุณ
โดยคุณ หักกุล ยากีน [17 Oct 2001 18:09] #3126 (99/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. คุณ ซอบะฮฺ กล่าวว่า . การเป็นหนึ่งนั้นเป็น การแสดงลักษณะแห่งอัลลอฮ ไม่ใช่พระนามของอัลลอฮ สงสัยคุณคงรู้จักแต่คำว่าอัลลอฮฺกระมังครับ ?
คงไม่เคยรู้ว่า คำว่า เอกะ . = อะฮัด . เป็นพระนามหนึ่งของพระองค์ พระองค์มีตั้งหลายพระนาม กลับไปอ่านกุรอ่านใหม่ซะไป ดีแต่อ้างว่าทำตามกุรอ่าน แม้แต้คำว่า อะหัด ยังไม่รู้เลยว่าหมายถึง ใคร พระองค์ทรงตรัสว่า
และอัลลอฮ์นั้นมีบรรดาพระนามอันสวยงาม ดังนั้นพวกเจ้าจงเรียกหาก(*1*) พระองค์ด้วยพระนามเหล่านั้นเถิด และจงปล่อยบรรดาผู้ที่ทำให้เฉ(*2*) ในบรรดาพระนามของพระองค์เถิด พวกเขานั้นจะถูกตอบแทนในสิ่งที่พวกเขา กระทำ . ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ อายะห์ ที่ 180
(1)คือวิงวอนขอความช่วยเหลือ
(2) คืออกเสียงกล่าวพระนามของอัลลอฮ์ให้เพี้ยน และเฉออกจากสำเนียงที่เป็นจริง ทั้งนี้เพื่อให้พระนามของอัลลอฮ์หมดความสวยงามประการหนึ่ง
และอีกประการหนึ่งก็เพื่อให้พระนามของ พระองค์ ตรงกับชื่อบรรดาเจว็ดของพวกเขา หรือไม่ก็บิดเบือนความหมายแห่งพระนามของพระองค์เสียเลย
สรุป แล้วคุณจะมาถกเถียงกับ ผมทำไมว่าสูเราะห์ เตาฮีด มีระบุ พระนามของอัลลอฮไหมคะ ? หรือคุณจะ ปฏิเสธ คำว่า อะหัด ไม่ใช่ พระนามของอัลลอฮ (สบ) ขอร้องอย่า แกล้งปัญญานิ่มหน่อยเลย ( หรือว่าปัญญานิ่มจริงๆ ) ครับคุณ ซอบะฮฺ
3. หลักฐานเรื่องอัลฮะดิษทั้งสองจากอิหม่าม อะลี และ อิหม่าม ศอดิก ( อ) มีตัวบท ที่ผมถ่ายเอกสารพร้อมที่จะส่งไปสู่สายตาของชาวสุนนะฮฺ แล้วคุณยังถาม ซ้ำๆ อยู่ได้ คุณอ่านภาษาไทยเข้าใจดีหรือเปล่าครับ และทีผม พิมพ์ ไป ในครั้งแรก คุณไปเบิ่งตามองดี ผมลงทั้งสำนักพิมพ์ ปีทีพิมพ์ ชือหนังสือ มาจากประเทศอะไร ...น่าแปลกที่ยังทวนคำถามเดิมๆอยู่ได้ คุณ จะเอา มาตรฐานความเชื่อของคุณ มาเป็นเกณฑ์ ให้คนอื่นเขาเชื่อตามคุณหรือ คุณซอบะฮฺ
โดยคุณ หักกุลยากีน [17 Oct 2001 18:12] #3127 (100/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ ชอบะฮ์ครับ ผมคนท่าอิฐแท้ ไม่เชื่อไปถาม ท่านอาจารย์ ยะฮ์ยาดูก็ได้ เพราะท่านก็เล่นเนตเหมือนกัน ช่วยตอบคำถามผมด้วยครับ ทำไมมาตำหนิผมเล่าครับ ก็ในเมื่อแนวมัซฮับชาฟีอี ไม่ได้พูดว่า อัลลอฮ์ ทรงลงมายังฟากฟ้าของโลกนี้ ผมมารู้ก็จากฝ่ายชีอะฮ์ที่เขาว่าฝ่ายวะฮะบีนี้แหละ ผมเรียนมาก็มีแต่ซิฟัต20 ช่วยกรุณาอธิบายเพื่อเป็น วิทยาทานด้วยครับ ว่าอัลลอฮ์ทรงมีซิฟัตในการขึ้นลงอย่างไร ฟากฟ้าและแผ่นดินบรรจุพระองค์ได้หรือครับ ไม่ไช่หน้าที่ของมะลาอิกะฮ์ หรือที่จะขึ้นลง เพราะพระองค์กล่าวไว้ถึงการขึ้นลงของมะลาอิกะฮ์ ในชูเราะฮ์อัลมะอาริจ หากพระองค์ทรงกระทำเช่นนั้นเอง มะลาอิกะฮ์จะมีหน้าที่อะไร และมีปีกไว้ ทำไม ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ ไม่ไช่หรือครับ ดีนะที่ผมถามในฐานะเป็นมุสลิม หากคนพุทธเขาถามเพื่ออยากรู้จักพระเจ้า ของมุสลิม ท่านจะ อธิบายเรื่องการขึ้นลงนี้อย่างไร ?
โดยคุณ คนท่าอิฐแท้ [17 Oct 2001 18:13] #3128 (101/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำพูดของคุณ Hasim ที่ว่า "คุณ มุสลิมซุนนะ หรือ คุณทนอ่านเดิม ไม่มีปัญญา หาหลักฐาน อื่นมาสนับสนุน เพิ่มเติ่มหรือ ที่คุณยกมาทั่งหมด นั้นคุณยังอธิบายคุณซัลมา ไม่ได้เลย ซักประเด็น เดียว "
คุณมุสลิมซุนนะ หรือคุณทนอ่านได้ทำหน้าที่เสนอหลักฐานแล้วไม่ใช่หรือคะ(ยังอยู่ในขั้นตอนของการเสนอหลักฐานจากทั้งสองฝ่าย)
ส่วนคุณ Hasim และเหล่าชีอะฮ์ได้เสนอหลักฐานหรือยังว่า ใครเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์
คุณว่าคุณทน อ่านไม่มีปัญญาหาหลักฐานเพิ่มเติมหรือ ?
คุณ Hasim ไม่กระดากปากหรือคะ แทนที่คุณทนอ่านจะว่าคุณและเหล่าชีอะฮ์ว่า
ไม่มี ปัญญาหาหลักฐานมายืนยันหรือว่า ผู้ใดรวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์ยีดถือ
เพราะชีอะฮ์ยังไม่ได้เสนอหลักฐานในประเด็นนี้ เลย มัวแต่หลบเลี่ยงพยายามลากไปเรื่องอื่น
มิหนำซ้ำคุณ Hasim ยังแสดงอาการ มุนาฟิก ออกมาให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่นที่พูดว่า " คุณซอบะฮฺ วันนี้ก้อ เพี้ยน อีกแล้ว บังคับขู่เข็น พี่น้องให้เชื่อศรัทธา ตามตัวเอง ช่างไม่ละอายแก่ใจแท้ๆ...เลย"
สิ่งที่ดิฉันยืนอยู่และนำ เสนอมีแต่อัลกุรอานและฮาดีษที่ใช้เป็นหลักฐาน
"ประกาศเถิดมูฮัมหมัด หากพวกท่านทั้งรักอัลลอฮ์ก็จงปฏิบัติตามฉัน แล้วอัลลอฮ์ก็จะ รักพวกท่าน" อัลกุรอาน
นี่หรือคะคือข้อความที่ดิฉันบังคับ ขู่เข็ญคนอื่น หากคุณ Hasim และเหล่าชีอะฮ์จะสมัครใจเป็นกาเฟร ดิฉันก็ไม่ ว่าหรอกคะ และไม่ต้องมาขออนุญาตดิฉันด้วย
แต่เรากำลังสนทนากันในความเชื่อของทั้งสองฝ่ายมิใช่หรือ ? เราสนทนากันบนกฏกติกาที่คุณ Hasim เสนอมาเองมิใช่หรือ ? และดิฉันต้องคอยเตือนให้คุณและเหล่าชีอะฮ์อยู่ในกติกาของคุณเองมิใช่หรือ ?
คุณ Hasim คะ..นอกจากคุณจะ แหกกฏกติกาของคุณเองแล้วคุณยังสนับสนุนให้ผู้อื่นแหกกฎกติกาของคุณเองอีกด้วย เช่นที่คุณพยายามพลักดันให้ดิฉันตอบคำถามของคุณเด็กท่าอิฐ ซึ่งยังไม่เกี่ยวกับประเด็นที่เรากำลังสนทนาอยู่
ชีอะฮ์ผู้อ้างว่าเป็นผู้สัจจริงเขาตลบแตลงกันอย่างนี้ทุกคนไหมคะ เพียงขั้นตอนแรกของการนำ เสนอหลักฐานจากทั้งสองฝ่าย คุณก็บิดพลิ้วเสียแล้ว ดิฉันอยากให้ผ้าถุงคุณยืมจริงๆ จะได้เอาไปปิดหัวปิดหน้าเหล่าชีอะฮ์ให้หมด
คุณบิดพลิ้ว ตลบแตลงกับดิฉัน ณ.ที่นี่ เวบ siamic นี้ซึ่งเป็นบ้านของคุณและเหล่าชีอะฮ์เอง
จะมีอุลามาอ์ของชีอะฮ์สักท่านไหมคะ ที่เป็นผู้สัจจริง มาช่วยแก้ ภาพลักษณ์ของเหล่าชีอะฮ์หน่อย ด้วยการนำเสนอหลักฐานว่า ผู้ใดรวบรวมเรียบเรียงรุกนหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์ยึดถือ เชิญคะ
โดยคุณ ซอบะห์ [17 Oct 2001 18:4] #3130 (102/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรุณาฟังให้ดี และฟังให้ชัดอีกครั้งนะคะ
ดิฉัน ไม่ได้ฮุก่มอะฮ์ลุลบัยต์ ดิฉันไม่ได้ประณามอะฮ์ลุลบัยต์ แต่ดิฉันประณามชีอะฮ์ที่เอาอะฮ์ลุลบัยต์มาบังหน้า ที่พวกท่านโพทนาว่า จะตามอะฮ์ลุลบัยต์จะ ตามลูกหลานนะบี
แล้วไหนละคะ หลักฐานที่บอกว่า อะฮ์ลุลบัยต์หรือลูกหลานนะบีเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ชี อะฮ์ยึดถือ
ดิฉันกล่าวหาว่าชีอะฮ์หลอกลวงผู้อื่นโดยเอาอะฮ์ลุลบัยต์บังหน้า ข้อหานี้ใหญ่หลวงนัก
แต่ทำไมไม่มีชีอะฮ์สักท่านเดียวไม่ ว่าระดับหัวแถวหรือปลายแถว จะออกมาคัดค้านด้วยการนำเสนอหลักฐาน มีแต่ความพยายามที่จะบิดเบือนไปเรื่องอื่น
ชีอะฮ์กำลังประจานความ เป็นกาเฟรด้วยตัวเอง
โดยคุณ ซอบะห์ [17 Oct 2001 18:57] #3131 (103/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณคนท่าอิฐคะ
คุณจะอยู่มัซฮับใหนก็แล้วแต่
คุณจะเป็นคณะใดก็แล้วแต่
รุก่นอีหมานของมุสลิมทุกคนทุกคณะก็คือ อีหมาน 6 ประการมิใช่หรือ ?
แต่ที่เรากำลังสนทนากันอยู่นี้ คือกลุ่มผู้อ้างตัวว่าเป็นมุสลิมด้วย พวกเขามีรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการคือ
1.เตาฮีต 2.อาดิ้ล 3.นุบูวะฮ์ 4.อิมามะฮ์ 5. กิยามะฮ์
และ เหล่าผู้อ้างตัวว่าเป็นมุสลิม ที่พวกเขาบอกว่าตามลูกหลานนะบี กำลังอลม่าน เพราะไม่มีหลักฐานว่า อะฮ์ลุลบัยต์หรือลูกหลานนะบีคนใดรวบรวมเรียบเรียง รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้
หากคุณคนท่าอิฐไม่ได้เป็นชีอะอ์ หรือไม่ใช่บุคคลที่นิยมชีอะฮ์ ก็ขอความกรุณาเถิดคะ อย่าเปิดช่องให้พวก เขามุดไปเรื่องอื่น ขณะนี้เหลือเพียงแค่รูแย้ ที่พวกเขากำลังตะเกียกตะกาย
โดยคุณ ซอบะห์ [17 Oct 2001 19:10] #3133 (104/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณซอบะฮฺ คุณหักกุลยากีน เขาก็แสดงให้พี่น้องผู้ ชมดูอีกคนหนึ่งแล้ว ครับ จะๆด้วย กลับไปอ่านดูให้ละเอียดซิครับ...ความเซ่อซาในทางวิชาการของคุณนะครับ...น่าอนาจแท้ คุณซอบะฮฺ เอ่ย พรรค พวกวาฮะบี นี้ไม่มีใครเข้ามาช่วยคุณเลยหรือ แต่ไม่เป็นไรหรอกนะเวลายังมีอีกเยอะ ....ก็คงสรุปกันทันก่อนถึงงาน เมาลิด ปีนี้แน่ ครับ....
โดยคุณ Hasim [17 Oct 2001 19:4] #3136 (105/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ออกมาชี้แจงความเชื่อของคุณซิครับ คุณซอบะฮฺ ว่า มันไม่เป็นความจริง อย่างที่คุณท่าอิฐ เขาสงสัยมา นะครับ คุณจะโยกโย้ทำไมครับ หรือคุณจะยอมรับว่า " อัลลอฮ ( ซบ ) ที่คุณศรัทธานั้น มี เรือนร่าง มีตา สามารถมองเห็นได้ ในวันกิยามัติ สามารถเคลื่อนทีอย่างมีทิศทาง และอีกหลายประการที่ผมยังไม่ได้ประกาศให้ บรรดาผู้สนใจทราบ ครับ...
คำว่า "มะอฺริฟะติฮี " แปลว่าอะไร คุณก็ทราบความหมายดี อย่า เถรตรงนักเลย คุณซอบะฮฺ หลักฐานทีคุณหักกุล ยากีน ยกมา
จากอัลหะดีษ
จากหนังสือ นะฮฺญุล บะลาเฆาะฮ์ ( สุนทโรวาทของท่านอะลี อิบนี อะบี ฏอลิบ )
ตรวจทานโดย ดร. ศุบฮี อัศศอและห์ อาจารย์สอนมหาวิทยาลัยเลบานอล พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง ปี พิมพ์ 1387 / คศ 1967
เบรุต เลบานอล
คุตบะฮฺ ที่ 1 หน้า 39 บรรทัดที่ 14
ท่าน อิมาม อะลี ( อ) ได้กล่าวว่า
" เอาวะลุด ดีนิ มะอฺริฟะตุฮู วะกะมาลฺ มะอฺริฟะติฮี อัต ตัศดิกฺ บิฮี วะกะมาลุต ตัศ ดิกิ บิฮี เตาฮีดฺฮู... "
แปล
เริ่มแรกของดีน คือการมะอฺริฟัตพระองค์ ( อัลลอฮฺ )
และความสมบรูณ์ของการมะริ ฟัตต่อ พระองค์ คือความเชื่อมั่นศรัทธาในพระองค์
และความสมบรูณ์ในการเชื่อมั่นต่อพระองค์ คือ
การให้เอกภาพ ( เตาฮีด ) ต่อ พระองค์ ...
ตรงคุณไม่เข้าใจหรือ ถึงยังได้ถามหา หลักฐานที่มาทีไป ของชีอะฮฺ อีก ( หลักฐานชัดแจ้งทั้ง กุรอ่าน และหะดิษ ) คุณซอบะฮฺ ภาษาไทยนะคุณ ซอบะฮฺอ่านแล้วเข้าใจหรือเปล่า
โดยคุณ Hasim [17 Oct 2001 20:00] #3137 (106/175)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากที่คุณ HASIM อ้างมานั้น จาก หะดิษของใครละ จากอัลกุรอ่าน ซูเราะฮฺไหน อายะฮฺอะไร ใครเป็นผู้เรียบเรียงครับ ได้แต่พูดว่า อัลหะดิษ ของใครหรือ บุคอรี มุสลิม หรือ อะลุลบัยต์คนไหน รายงานครับ "ท่านอิมามอะลี (อ) ได้กล่าวว่า """เอาวะลุด ดีนิ มะอฺริฟะตถฮู วะกะมาลฺ มะฮฺริฟะติฮี อัต ตัศติกฺ บิฮี วะกะ มาลุต ตัศติกิ บะฮี เตาฮีตฺฮู""" คุณ HASIM ได้อ้างท่านอะลี แล้วใครเป็นผู้รายงานละ บุคอรี หรือ มุสลิม ซอเฮียะ หรือเปล่า ไหนว่าหลักฐานจาก อัลกุรอ่าน อายะฮฺไหน ซูเราะฮฺอะไร กำหนดให้ชัดเจนด้วยครับ อย่าหมกเม็ดครับ ปากบอกว่า หลักฐานชัดแจ้งทั้ง กุรอ่าน และหะดิษ ตรงไหนมิทราบครับ จากตรงไหนครับ ใครเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงครับ อุศูล 5 ประการยังไม่เห็นมี ผมว่าคุณเริ่มมั่วมิ่มแล้วละ เห็น รายงาน คุตะบะฮฺไม่เห็นจากอัลกุรอ่าน อัลหะดิษก็ ของคุณ หักกุล ยะกีม ไม่ทราบว่าเดี่ยวนี้คุณ หักกุล ยะกีม เปลี่ยนอาชีพไปรายงานหะดิษแล้ว หรือครับ ซอเฮียะฮฺหรือเปล่า
อย่าหาว่าเปลี่ยนประเด็นเลยครับ อยากทราบจริง ๆ ว่า คำว่า ศาสดา (ศ) ที่พวกคุณใช้กันนะ ใคร ครับ แล้วท่านศาสดาของพวกท่านไม่ได้รวบรวมเรื่องอุศูล 5 ประการไว้บ้างเลยหรือครับ
จากอัลกุรอ่าน อัลบะเกาะเราะฮฺ 177ความ ว่า
""""มิใช่ความดีแต่อย่างใดที่สูเจ้าทั้งหลายจะผินหน้าของพวกสูเจ้าไปทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก แต่ ทว่าความดีคือ ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อวันสุดท้าย ต่อบรรดามะลาอิกะฮฺ ต่อคัมภีร์ และต่อบรรดา นบี"""""""
และทั้งนี้เนื่องจากอัลกุรอ่านไม่ได้ลงมาที่เดียวพร้อมกันจึงมีบางข้อที่ลงมาทีหลัก เช่น ในซูเราะ อัลฟุรกอน 2
"""""""และพระองค์อัลลอฮฺทรงบังเกิดทุกสิ่ง แล้วพระองค์ได้ ทรงกำหนดสภาวะไว้อย่างแน่นอน"""""""""
ทั้งสอง อายะฮฺนี้ ได้ถูกรวมรวม โดยหะดิษท่านนบี (ศล) ความว่า """""ดังนั้นท่านจงบอกฉัน (ญิบรีล) ถึงอีมาน ท่านร่อซูล (ศล) กล่าวว่า " ท่านต้องศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อบรรดามะลาอิกะฮฺของพระองค์ ต่อบรรดาคัมภีณืของพระองค์ ต่อบรรดาร่อซูลของพระองค์ ต่อวันสุดท้าย (วันอาคิเราะฮฺ) และศรัทธาต่อการกำหนดสภาวะในความดี และความชั่ว""
หะดิษนี้บันทึกโดย อิมามมุสลิม (8) อิมามอะหมัด 8/27,51 , 52 , 53 , อบูดาวูด (4695) ติรมิซีย์ (2610)
ทางเราชาวซุนนะฮฺได้นำเสนอไว้มากมายแล้ว แต่พวกซีอะฮฺอิมาม 12 ทั้งหลายก็ได้ปฏิเสธอัลกุรอ่าน และ อัลหะดิษของท่าน นบี (ศล) มาโดยตลอดทางเราจึงอยากให้พี่น้องมุสลิมีน และ มุสลิมะฮฺ ทุกท่านได้ อ่านและได้พิจรณาดูว่า ท่านจะเลื่อกปฏิบัติตาม หรือเลือก ปฏิเสธ อย่างพวก ซีอะฮฺอิมาม 12 ที่พวกเขาพยายามทำกันอยู่
ผู้ที่เข้ามาใหม่ กรุณานำหลักฐานมาด้วยนะครับ ว่าอุศูล 5 ประการ (อุศูล คอมซะฮฺ)มาจาก ไหน อะลุลบัยต์ท่านใดรวบรวมเรียบเรียงครับ เสนอหลักฐานก่อนครับ ค่อยมาวิจารย์ในประเด็นต่อ ๆ ไป
โดยคุณ มุสลิม [17 Oct 2001 21:50] #3143 (107/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ท่านซอบะฮ์ ใครจะเข้าออกรูอะไรผมไม่สนใจ แต่ ผมสนใจให้คุณตอบคำถามข้างต้นของผมด่วน เพราะผมจำเป็นต้องใช้ในการสอนนักเรียน ที่พวกเขาถามเรื่องนี้อยู่ คำถามนี้อยู่ในประเด็นนะครับ อย่างไรเสียคุณจะต้องพูดเรื่องนี้กับฝ่ายชีอะฮ์เขาอยู่ดี
โดยคุณ คนท่าอิฐแท้ [17 Oct 2001 23:54] #3146 (108/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดีใจคะที่คุณ "หักกุลยะกีน" เข้ามา และ ดีใจที่คุณ Hasim บอกว่าจะนำกระทู้นี้ไปแจกในงานเมาลิด ขอให้ทำจริงๆ อย่างที่พูดเถอะคะ
คุณ Hasim ว่าดิฉันเซ่อซ่า ก็ดีใจคะที่คนเซ่อซ่า อย่างดิฉันสารถนำหลักฐานจากอัลกุรอานและฮาดีษมาแสดงให้คนฉลาดอย่างบรรดาชีอะฮ์ได้ดู แต่คนฉลาดอย่างชีอะฮ์ฉลาดแค่เพียงหลบหลีก,ฉลาด ในการตลบแตลง,บิดเบือนคำพูดของตัวเอง, ไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของชีอะอืนั้นอะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดรวบ รวมเรียบเรียงให้ คุณฉลาดมากคะที่ประจานตัวเองเช่นนี้
คุณหักกุลยะกีนถามว่า ทำใมดิฉันถึงพูดว่า ขอถามแบบโง่ๆ ถ้าโง่จริงก็บอกว่าโง่ ใช่ คะ...ดิฉันพูดว่าขอถามแบบโง่ๆ แล้วคุณไม่ได้อ่านต่อหรือคะว่า ด้วยวิธีการของคุณซัลมา ฉะนั้นคุณต้องถามคุณซัลมาเองเถอะคะว่าโง่จริงหรือเปล่า ? เพราะดิฉันใช้วิธีการของคุณซัลมาถามคุณซัลมาและเหล่าชีอะฮ์เอง ไปถามกันเองเถอะนะคะ
คุณหักกุลยะกีนชี้แจงเรื่องพระเจ้าองค์เดียวว่า " คุณซอบะฮ คุณไม่ทราบหรือว่าทั้งยิวและคริสต์ เชื่อว่าอัลลอฮ ทรงมีบุตร ยิวเชื่อว่า อุเซร คือ บุตรของอัลลอฮ ดูซูเราะห์ อัต - เตาบะฮฺ อายะ 30"
และชาวยิวได้กล่าวว่า อุซัยร์(*1*)เป็นบุตรของอัลลอฮ์ . ชาวคริสต์ เชื่อว่าพระเจ้ามี 3 ภาค พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณ บริ สุทธ์
คุณหลบไปเรื่องบุตรได้อย่างไร เป็นความเชื่อของคนอื่นที่เชื่อว่าพระเจ้าองค์เดียวนั้นมีบุตร เขาเรียกพระบุตร หรือบุตรของพระเจ้า ใน ภาษาอาหรับใช้คำว่า " อัซซาลูต" หมายถึงพระเจ้าองค์เดียวแต่แบ่งภาค
นักปรัชญาที่ชื่อเพลโต้,โซเครติส ก็เชื่อเรื่องพระเจ้าองค์ เดียว แต่ไม่ได้ระบุนามว่าชื่ออะไร เพราะฉะนั้นการพูดแต่เพียงคำว่า พระเจ้าองค์เดียวโดยไม่มีพื้นฐานการศรัทธาที่ถูกต้อง และไม่ได้ระบุนามว่าเป็นผู้ใด ก็ไม่ต่างอะไรกับความเชื่อของคนอื่น แต่อิสลามสอนให้มุสลิมได้รู้จักนามของพระเจ้าองค์เดียวว่า ทรงพระนามว่า อัลลอฮ์ จึงไม่ได้หมายถึงพระเจ้าองค์ เดียวของศาสนิกอื่น ในอัลกุรอานที่ซูเราะฮ์อัลอิคลาศ ที่คุณยกมาเป็นหลักฐานก็ขึ้นต้นอย่างนี้มิใช่หรือ
กุลฮุวัลลอฮุอะฮัต แปลว่า จงกล่าวเถิด พระองค์คืออัลลอฮ์ผู้ทรงเอกะ
ยากนักหรือคะที่จะขึ้นต้นการศรัทธาด้วยนามของพระองค์ อัลลอฮ์ ตามที่อัลลอฮ์,รอซูล และอะฮ์ลุลบัยต์ได้ สอน
แต่ชีอะฮ์กลับขึ้นต้นการศรัทธาด้วยคำว่า "เตาฮีต"
เมื่อนำเสนอหลักฐานก็ยกอัลกุรอานมาว่า
"กุลฮุ วัลลอฮุอะฮัต" แล้วก็อธิบายด้วยการลากเอาคำว่า "อะฮัต"ในอายะฮ์นี้ไปเป็นหลักฐานให้คำว่า "เตาฮีต"
คุณ ใช้หาหลักฐานด้วยวิธีการชักลากอย่างนี้ ถลอกปลอกเปลือกหมดเลยคะ เวลาเสนอใช้คำว่า เตาฮีต เวลาอ้างหลักฐานใช้คำว่า อะฮัต อย่างนี้ไม่ใช่ตลก ค่าเฟ่หรอกหรือคะ
ขึ้นต้นการศรัทธาของชีอะฮ์คือ เตาฮีต ไม่ใช่ อะฮัต
ถ้าจะถามว่าทั้งสองคำนี้ต่างกันอย่างไร....
ต่างกัน คะ
คำว่า "อะฮัต" แปลว่าเป็นหนึ่งและเป็นพระนามของอัลลอฮ์
คำว่า "เตาฮีต" แปลว่าทำให้เป็นหนึ่งใน การอิบาดะฮ์ ไม่ใช่พระนามของอัลลอฮ์
คุณหักกุลยะกีนบอกให้ดิฉันไปอ่านอัลกุรอานใหม่ ?
ดิฉันอ่านแล้ว อัลกุรอานของมุสลิมทั้งโลก หกพันกว่าอายะฮ์ ไม่มีคำว่าเตาฮีต และคำนี้ก็ไม่ใช่นามของอัลลอฮ์
ชาวชีอะฮ์ขึ้นต้นการศรัทธาด้วยคำว่า "เตาฮีต" ลองหาคำนี้ จากอัลกุรอานมาแสดงซิคะ
และขอหลักฐานยืนยันด้วยว่า คำว่า เตาฮีต คือนามของอัลลอฮ์
ผู้สัจจริงต้องอิงหลักฐานคะ ถ้าไม่เป็นการลำบากไปก็เปิด อัลกุรอานหัวเล็ก ที่เด็กๆหัดอ่าน อะลิฟ,บา,ตา ด้านในจะมีพระนามและลักษณะของพระองค์อัลลอฮ์ อยู่ 99 พระนาม ลองหาดูนะคะว่า คำว่า " เตาฮีต" มีใหม
คุณหักกุลยะกีนคะ...แสดงหลักฐานด้วยนะคะว่า คำว่า เตาฮีต คือนามของพระองค์อัลลอฮ์
โดยคุณ ซอบะห์ [18 Oct 2001 03:00] #3148 (109/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีชีอะฮ์ท่านใดที่กล้าเผชิญกับ ความจริง ทุกท่านที่เข้ามาต่างก็วิ่งหนีความจริงกันจ้าละหวั่น
ดิฉันได้ยินแต่เพียงลมปากว่าตามอะฮ์ลุลบัยต์ แต่ไม่มีใครสักคน (ไม่มีจริงๆ) ที่จะ เสนอหลักฐานว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของชีอะฮ์นั้น อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงให้
ดีใจคะที่ชีอะฮ์บอกว่าจะนำกระทู้ นี้ไปถ่ายแจกในงานเมาลิด ช่วยถ่ายไปแจกกันเยอะๆนะคะ จะได้ช่วยกันประจานว่า ชีอะฮ์ไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์
อย่าผิดคำพูดนะคะ จะตามไปดูในงานเมาลิด
แล้วก็อย่าลืมเสนอหลักฐานก่อนจะถ่ายแจกนะคะว่า
อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมา นหรืออุศูล 5 ประการให้ชีอะฮ์
โดยคุณ ซอบะห์ [18 Oct 2001 03:11] #3149 (110/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ ซอบะฮ์ขา
ที่ดิฉันถามหาหลักฐานจากฮะ ดิษบุคอรี ในเรื่อง
"รุกนอีมานมี 6 ประการ"
และ เรื่อง "ความดี ความชั่วมาจากอัลลอฮ์"
มิได้ เกี่ยวกับที่ดิฉันจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ดิฉันสงสัยว่าทำไมท่านทั้งหลายเองกลับไม่เชื่อฮะดิษบุคอรี ที่อุลามาซุนนีย์บอกว่าเป็นรองเพียงกุรอาน แต่กลับเชื่อ เรื่องสำคัญเช่นนี้จากฮะดิษมุสลิมที่มีฐานะด้อยกว่า มีขัดแย้งในริวายะฮ์ และขัดแย้งกับกุรอาน
ดิฉันก็ถามมาเท่านั้นเอง หาก ท่านอยากจะปกปิดจริง ดิฉันจะได้เปิดเผย
โดยคุณ ซัลมา [18 Oct 2001 11:16] #3151 (111/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอถามคุณซอบะฮ์ว่าถ้า
"ชีอะฮ์ไม่ใช่ แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์"
ตามที่ท่านใส่ร้ายดังประโยคด้านบนแล้ว
จะมีแนวทางใดอีกเล่า ที่เป็นแนวทางแห่งอะฮ์ลุ ลบัยต์ ที่ท่านศาสดา(ศ)ย้ำหนักแน่นว่าให้ยึดมั่นแล้วจะไม่หลงทาง(ลันตะฎิลลูบะอดี)
เพราะท่านก็อ้างแล้วว่ามุสลิมทั้งโลก หรือ 72 ใน 73 จำพวกเชื่อรุกนอีมาน 6 ประการนี้ ที่มาจากอุมัร บินค็อตต็อบ ที่อ้างว่ามาจากท่านนบี(ศ)
แต่มีชีอะฮ์เพียง 1เดียวที่ไม่เชื่อเรื่องดังกล่าว เพราะ เขาเชื่อในสิ่งที่มาจากอะฮ์ลุลบัยต์เท่านั้น
โดยคุณ ซัลมา [18 Oct 2001 11:18] #3152 (112/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในขณะที่หลักฐานเรื่องรุกนอีมานที่ท่านนำเสนอมานั้นมิ ได้มาจากอะฮ์ลุลบัยต์แน่นอน ไม่เพียงแต่มิได้มาจากอะฮ์ลุลบัยต์เท่านั้น แต่กลับมาจาก อุมัร บินค็อตต็อบ ผู้ซึ่งปฏิเสธซุนนะฮ์ของท่านศาสดา(ศ) โดยกล่าวว่า "กุรอานเล่มเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเรา" และเข่นฆ่าบีฑาลูกหลานท่านศาสดา(ศ) ด้วย ก็สมควรแล้วที่เราชาวชีอะฮ์ ไม่เชื่อเรื่องดังกล่าว
ท่านจะกล่าวโทษฝ่ายชีอะฮ์ได้อย่างไร ในเมื่อหลักฐานที่อ้างว่าเป็นซุนนะฮ์ดังกล่าวก็มิได้มาจากอะฮ์ลุลบัยต์ แต่ มาจากผู้ที่ประกาศการปฏิเสธซุนนะฮ์
โดยคุณ ซัลมา [18 Oct 2001 11:19] #3153 (113/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
และถ้าหากท่านทั้งหลายยังจะยืนยันในความเชื่อดัง กล่าวและมั่นใจว่าจะทำให้ท่านทั้งหลายได้รับทางนำและไม่หลงทางแล้ว โปรดพิจารณาคำสั่งของท่านศาสดา(ศ)ด้วยเถิด
และคำสั่งนี้ก็มี ปรากฏในตำราฮะดิษซอเฮียะฮ์ของฝ่ายซุนนะฮ์เอง ความว่า
เล่าจากเซดบินอัรฆอม จากท่านนบี(ศ) กล่าวว่า "ความจริง ข้าพเจ้าได้ทิ้งไว้กับท่าน ซึ่งถ้าหากท่านยึดกับมันแล้ว พวกท่านจะไม่หลงผิดหลังจากข้าพเจ้า(ได้จากไป) สิ่งแรกสำคัญกว่าสิ่งหลังนั่นคือ คัมภีร์ของ อัลลอฮ์ เป็นเชือกที่โรยจากฟากฟ้าสู่แผ่นดิน และผู้ที่สืบตระกูลจากข้าพเจ้า (อะฮ์ลุลบัยต์) ทั้งสองจะไม่แยกจากกัน จนกว่าทั้งสองสิ่งนั้นจะได้มาหา ข้าพเจ้าที่บ่อน้ำ ดังนั้นท่านทั้งหลายจงพิจารณาดูเถิดว่า ท่านทั้งหลาย(หมายถึงตั้งแต่บรรดาซอฮาบะฮ์ทั้งหมด ตั้งแต่ อบูบักร อุมัร อุสมาน มาจนถึง พวกเราทุกคนจนถึงวันกิยามะฮ์) ได้เจริญรอยตามข้าพเจ้าอย่างไรบ้างในสิ่งทั้งสองนั้น"
รายงานโดยติรมีซี,มุสลิม จากหนังสือ ฮะ ดิษซอเฮียะฮ์อัตตาจญ เล่ม 1 หน้า 18
ในขณะที่ฝ่ายชีอะฮ์เรียกร้องในการเชื่อฟังอะฮ์ลุลบัยต์และอ้างความรู้และความเชื่อจากอะฮ์ลุ ลบัยต์
เพราะอะฮ์ลุลบัยต์ถูกนำมาวางไว้คู่กุรอานตามบัญชาของอัลลอฮ์ ซึ่งพวกเขาจะอธิบายกุรอานและอธิบายฮะดิษจากท่านศาสดา(ศ) อย่างสมบูรณ์ และไม่มีทางผิดพลาด เพราะทั้งสองสิ่งนี้จะอยู่ด้วยกันและไม่แยกกันจนถึงวันกิยามะฮ์ พร้อมทั้งได้รับการประกันจากศาสดา(ศ)และอัล ลอฮ์ว่า "จะไม่หลงผิดหลังจากข้าพเจ้า(ได้จากไป)"
โดยคุณ ซัลมา [18 Oct 2001 11:20] #3155 (114/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่ท่านทั้งหลายกลับปฏิเสธ และกล่าวหาว่าฝ่ายชีอะฮ์ แอบอ้างอะฮ์ลุลบัยต์ ถ้าเช่นนั้นท่านซอบะฮ์ ท่านทนอ่าน และอุลามาฝ่ายซุนนะฮ์อ้างมาซิคะว่า อะฮ์ลุลบัยต์ ได้สอนเรื่อง "รุกนอีมานมี 6 ประการ" และ "ความดีความชั่วมาจากอัลลอฮ์" ที่ไหน เมื่อใด ?
ท่านอ้างมาซิคะว่าอะฮ์ลุลบัยต์สอนเรื่องดังกล่าว
และเมื่อเรื่องนี้มิได้มาจากอะฮ์ลุลบัยต์แต่มาจากอุมัร บินค็อตต็อบ เราก็มีสิทธิที่จะไม่เชื่อมิใช่หรือ
โดยคุณ ซัลมา [18 Oct 2001 11:21] #3156 (115/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
และที่ท่านซอบะฮ์กล่าวว่า
"อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีชีอะฮ์ท่านใดที่กล้าเผชิญกับความจริง ทุกท่านที่เข้ามาต่างก็วิ่งหนีความจริงกันจ้าละหวั่น"
เข้าใจผิดแล้วคะ ยังอยู่ครบ ไม่ได้หนีไปไหน
เราจะต้องกลัวอะไร หนีอะไร หนีความจริงอะไร หนีความจริงที่ท่านกล่าวหาอัลลอฮ์ว่าทำชั่วนะหรือคะ
แปลกไหมคะที่ ชาวมุสลิมทุกคน เขาเชื่อกันว่า
ศาสดามุฮัมมัด(ศ) ไม่ทำความชั่ว
มะลาอิกะฮ์ก็ไม่ทำชั่ว
แต่ท่านกลับจะให้เราเชื่อว่าอัลลอฮ์ เองกลับทำความชั่ว
ได้อย่างไรคะ เห็นท่านพูดกันเต็มๆ ปากว่า
"มินซัรริมาค่อลัก แปลว่า "จากความชั่วที่ อัลลอฮ์สร้างมา"
ช่วยอธิบายนิดได้ไหมคะ เพราะในอายะฮ์ดังกล่าวก็ไม่มีคำว่า "อัลลอฮ์" แต่คุณซอบะฮ์กลับแจ้ง ข้อหาแก่พระองค์
และกรุณาช่วยยกตัวอย่าง "ความชั่ว" แรก หรือ ความชั่วไหน ๆ ก็ได้ ที่พระองค์เคยกระทำมาให้ดู ด้วยนะคะ
อยากรู้เหมือนกันว่าอัลลอฮ์ที่ท่านศรัทธา เคยทำชั่วอะไรมาบ้างคะ ?
โดยคุณ ซัลมา [18 Oct 2001 11:38] #3159 (116/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนเรื่อง "เตาฮีด" นั้น มีพี่น้องชีอะฮ์ได้ ตอบไปแล้วทั้งจากกุรอานและฮะดิษ แต่ก็เกิดการไม่ยอมรับและถกเถียงทางด้านภาษา ก็ว่ากันไปคะ
แต่ ดิฉันจะขอยกคำอธิบายเรื่อง เตาฮีด ที่อุลามาฝ่ายซุนนะฮ์เองอธิบายไว้มาพิจารณากันนะคะ หากไม่ยอมรับก็ให้ท่านทั้งหลายไปเคลียร์กันเอง ความว่า
"เตา ฮีด แบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ คือ
1. ผูกพันในพระผู้เป็นเจ้า เรียกว่า "เตาฮีด อัรซูบูบียะฮ์ หมายถึงศรัทธามั่นในพระเจ้าองค์เดียวในสากล จักรวาล คือ พระองค์อัลลอฮ์
2. ผูกพันต่อการศรัทธามั่น เรียกว่า "เตาฮีดอัลอุลูซียัฮ์" หมายถึงการมุ่งมั่นว่าไม่มีสิ่งอื่นที่ ควรแก่การศรัทธา เว้นแต่อัลลอฮ์
3. ผูกพันในบรรดาพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ์ เรียกว่า "เตาฮีดอัสมาอ วัสซิ ฟัต" หมายถึงศรัทธามั่นว่า
ก. เราต้องไม่เรียกพระนามและกำหนกคุณสมบัติเป็นอย่างอื่น นอกจากที่พระองค์ และศาสนทูตของ พระองค์ได้กำหนดไว้
ข. ไม่มีสิ่งใดที่จะถูกกำหนดเรียกพระนามหรือคุณสมบัติของพระองค์ได้เช่น อัลกะรีม
ค. เราต้องยืนยันอย่างมั่มใจ ถึงคุณานุลักษณ์ของอัลลอฮ์ตามที่ปรากฏในกุรอานหรือรสูล(ศ) กล่าวถึงโดยไม่ไขว้เขว
4. ผูกพันที่ต้องปฏิบัติตามศาสนทูตแห่งอัล ลอฮ์ เรียกว่า
"เตาฮีดอัลอิตติบาอ" ข้อนี้รวมถึงคำว่า "ข้าขอปฏิญาณว่ามุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์" ด้วย กล่าวคือไม่มีบุคคลใดที่จะทรงสิทธิ์ในการชี้นำตามกุรอานเวันแต่มุฮัมมัดเท่านั้น
ดิฉันจึงมั่นใจในอุศุลนี้ เพราะแม้แต่อุละมาในฝ่ายซุน นะฮ์เองยังอธิบายได้ครอบคลุมและละเอียดละออขนาดนี้
แต่น่าเสียดายที่บางคนยังอยู่ในระหว่างถามหาหลักฐานอยู่นะคะ
โดยคุณ ซัลมา [18 Oct 2001 12:0] #3160 (117/175)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณซัลมาขา ทำไขสือเพราะอันใดหรือคะ
ผู้ที่ ติดตามเขาไม่ได้เข้าอ่านเฉพาะข้อความท้ายๆ หนอกนะคะ แต่เขาติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น เขาทราบดีว่าชีอะฮ์กำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ กลลวงของคุณ ซัลมาและเหล่าชีอะฮ์ที่เคยใช้มาในอดีตมันไม่ได้ผลเสียแล้วคะ ที่คุณซัลมาพูดว่า "แต่น่าเสียดายที่บางคนยังอยู่ในระหว่างถามหาหลักฐานอยู่ นะคะ"
ใช่คะ...การสนทนาเรื่องศาสนาต้องอิงหลักฐานซิคะ ในเมื่อชีอะฮ์ไม่มีหลักฐานนำเสนอว่า อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดรวบรวมเรียบเรียง รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการให้ เพียงแค่นี้ก็หมดท่าแล้วคะ ที่เที่ยวโพทนาว่า ชีอะฮ์เป็นแนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์ แต่ความจริงปรากฏแล้วไม่ใช่หรือคะ ว่าไม่ใช่ ไม่เฉพาะแค่เรื่องรุกนอีหมานหรืออุศูล 5ประการนี้หรอกนะคะ อีกทั้งเรื่องหลักอิสลาม 10 ประการที่ไม่มีเรื่อง กาลิมะฮ์ซะฮาดะฮ์ (คำปฏิญานตน) และเรื่องอื่นๆ ที่ห่างไกลจากศาสนาของอัลลอฮ์เหลือเกิน แต่ก็ใช้วิธีการแอบอ้างอะอ์ลุลบัยต์อีกตามเคย
คุณซัลมายกฮะดีษมาสำทับ ว่า
เล่าจากเซดบินอัรฆอม จากท่านนบี(ศ) กล่าวว่า "ความจริงข้าพเจ้าได้ทิ้งไว้กับท่าน ซึ่งถ้าหากท่านยึดกับมันแล้ว พวกท่านจะไม่ หลงผิดหลังจากข้าพเจ้า(ได้จากไป) สิ่งแรกสำคัญกว่าสิ่งหลังนั่นคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ์ เป็นเชือกที่โรยจากฟากฟ้าสู่แผ่นดิน และผู้ที่สืบตระกูลจาก ข้าพเจ้า (อะฮ์ลุลบัยต์) ทั้งสองจะไม่แยกจากกัน จนกว่าทั้งสองสิ่งนั้นจะได้มาหาข้าพเจ้าที่บ่อน้ำ"
เป็นการดีมากเลยคะที่ยกหลักฐาน เพื่อประจานตัวเองว่า
อัลกุรอานและอะฮ์ลุลบัยต์จะไม่แยกจากกัน แต่ชีอะฮ์แยกจากอัลกุรอานและแยกจากอะฮ์ลุลบัยต์ ใช้อะฮ์ลุลบัยต์มาอ้าง บังหน้าเท่านั้น ที่เห็นๆอยู่นี้ก็คือ เรื่องรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการที่ไม่ใช่แนวทางของอะฮ์ลุลบัยต์
ยังจะกล้าตบตา หลอกลวงผู้อื่นอยู่อีกหรือ คะ
ไม่ใช่ชีอะฮ์ไม่นำเสนอหลักฐานนะคะ แต่เพราะไม่มีหลักฐานจะนำเสนอ หมดท่าแล้วคะ
ผู้สัจจริงหงายหลังตีลังกา ล้มไม่เป็นท่าเลย
โดยคุณ ซอบะห์ [18 Oct 2001 14:38] #3162 (118/175)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นอกจากผู้สัจจริงจะหงายหลังตีลังกา ล้มไม่เป็นท่าแล้ว ยังพยายามที่จะลุกขึ้น เพราะที่นี่คือบ้านของตัวเอง ฉะนั้นจึงใช้ทุกกระบวนท่า ทุกวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นบิดเบือน ใส่ไคล้ผู้อื่น อย่างที่คุณซัลมาได้ทำให้ เห็นคือ พยามยามยัดเยียดความเชื่อให้ชาวซุนนะฮ์ว่า เชื่อว่าอัลลอฮ์ทำชั่ว ลองดูวิธีการของคุณซัลมาหน่อยนะคะ ที่กล่าวอ้างว่า
" แปลกไหมคะที่ชาวมุสลิมทุกคน เขาเชื่อกันว่า
ศาสดามุฮัมมัด(ศ) ไม่ทำความชั่ว
มะลาอิกะฮ์ก็ไม่ทำชั่ว
แต่ท่านกลับจะให้เรา เชื่อว่าอัลลอฮ์เองกลับทำความชั่ว
ได้อย่างไรคะ เห็นท่านพูดกันเต็มๆ ปากว่า
"มินซัรริมาค่อลัก แปลว่า "จาก ความชั่วที่อัลลอฮ์สร้างมา"
ข้อความที่คุณซัลมายกมาอ้างพร้อมให้ความหมายนี้ ไม่ใช่คำพูดของบุคคลใด แต่เป็น กะลามุลลอฮ์ คือคำ ของอัลลอ์ เป็นอัลกุรอานคะ สงสัยว่าอัลกุรอานของชีอะฮ์จะไม่มีอายะฮ์นี้
เวลาที่ให้ความหมายก็แปลเช่นเดียวกันเดียวคือ ความชั่วที่อัลลอฮ์ สร้างมา แล้วบิดเบือนไปว่า อัลลอฮ์ทำชั่วได้อย่างไร
ที่ชั่วสุดๆ ในขณะนี้ ระดับรองจากอิบลีสก็คือซัลมานี่แหละคะ ที่กล้าบิดเบือนคำของอัล ลเลาะฮ์
คำว่า อัลลอฮ์สร้างความชั่ว กับอัลลอฮ์ทำความชั่ว คนละความหมายนะคะ
คำว่า "สร้าง" มาจากคำว่า ค่อล่า ก้อ
คำว่า "ทำ" มาจากคำว่า อะมิล่า
แค่ความหมายภาษาไทยยังแยกไม่ออกระหว่างคำว่าสร้างกับคำว่า ทำ อย่างนี้คุณ "หักกุลยะกีล" ต้องถามคุณซัลมาเองเถอะคะว่า โง่จริงๆหรือแกล้งโง่
แม้ชีอะอ์จะพยายามกลบเกลื่อนเท่าใดก็ตาม ไม่มีผลแล้วคะ ตราบใดที่ชีอะฮ์ไม่สามารถ นำหลักฐานมายืนยันได้ว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของชีอะฮ์นั้น อะฮ์ลุลบัยต์ท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียง ให้
หงายหลังไม่เป็นท่าอีกแล้วคะ
โดยคุณ ซอบะห์ [18 Oct 2001 15:29] #3163 (119/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณซัลมาพยายามจะนำเอาความหมายของคำว่า "เตาฮีต" ในการอธิบายของชาวซุนนะฮ์มาพูด แต่ไม่ทราบว่า ไปจำๆ ใครเขามา เพราะ"เตาฮีด อัรซูบูบียะฮ์ " และ " เตาฮีดอัลอุลูซียัฮ์" ไม่มีนะคะ ชาวซุนนะอ์ไม่เคยสอนคำทั้งสองนี้ ที่มีและสอนและใช้กันจริงๆ ก็คือ เตาฮีต "รุบูบียะฮ์" และ " อุลูฮียะฮ์" สงสัยคุณซัลมาจะฟังผ่านๆแล้วจำผิด ไม่เป็นไรคะ
คำว่า "เตาฮีต" มีความหมายว่า การทำให้อัลลอฮ์เป็นหนึ่ง ในการอิบาดะฮ์ เป็นวิชาหนึ่ง ,เป็นวิธีการในการเรียนรู้จัก,เชื่อมั่น,ศรัทธาและการถวายอิบาดะฮ์แด่อัลลอฮ์
คำว่า "เตาฮีต" นี้เป็น วิธีการคะ..ไม่ใช่ต้นหลัก
ชาวซุนนะฮ์ขึ้นต้นการอีหมานด้วยสอนให้รู้ว่าจะศรัทธาต่อใคร (อัลลอฮ์) ส่วนเตาฮีตคือคำอธิบาย
ชาวชีอะฮ์ ขึ้นต้นการอีหมานด้วยการสอนว่า ศรัทธาอย่างไร(เตาฮีต) ส่วนศรัทธาต่อใครนั้นไม่ระบุ เพราะพื้นฐานการศรัทธาของชีอะฮ์คือ 1.เตาฮีต 2.อาดิ้ล 3.นุบู วะอ์ 4.อิมามะฮ์ 5.กิยามะอ์
ขึ้นต้นก็ไปกันคนละทางสองทางแล้วคะ ที่สำคัญคือ ไม่ใช่ทางของอัลลออ์ ไม่ใช่ทางของรอซูล และไม่ใช่ทางของ อะฮ์ลุลบัยต์
ความพยายามของชีอะฮ์ที่จะเอาว่า เตาฮีต แทนคำว่า ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ให้ได้ด้วยการลากเอาอัลกุรอ่านซูเราะฮ์อัลอิคลาศ มาเป็น หลักฐาน คือ
"กุลฮุวัลลอฮุอะฮัต"
ชีอะฮ์หยิบเอา อะฮัต ไปเป็นหลักฐานให้แก่คำว่าเตาฮีต แต่ในขณะที่คำทั้งสองนี้ไม่ เหมือนคือ
คำว่า "อะฮัต" แปลว่า เป็นหนึ่ง เป็นลักษณะนามหนึ่งของอัลลอฮ์
คำว่า "เตาฮีต" เป็นวิธีการ เรียนรู้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และไม่ใช่นามของอัลลอฮ์อีกด้วย ที่สำคัญคือ คำว่า "เตาฮีต" ไม่มีในอัลกุรอาน ชีอะฮ์จึงอาศัยคำว่า อะฮัต เป็น หลักฐาน แล้วชักลากไปสู่ความเชื่อของตน
และชีอะอ์ก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่า รุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการของชีอะฮืนั้น อะฮ์ลุลบัยท่านใดเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงให้
มีแต่เพียงคำพูดผ่าน เป็นแค่กลลวงที่บอกว่า เสนอแล้วแต่ท่านไม่เชื่อเอง
หลักฐานที่บอก ว่าอะฮ์ลุลบัยต์เป็นผู้รวบรวมเรียบเรียงรุกนอีหมานหรืออุศูล 5 ประการนี่หรือคะ ที่บอกว่าเสนอแล้ว
เสนอไว้ตรงใหน อย่างไร หาเท่าใหร่ก็ไม่พบ นำมาเสนอตรงนี้ซิคะ จะได้เห็นกันตรงนี้
เอาไปเสนอไว้ในถ้ำ ในก่อไผ่ คงไม่มีใครตามไปดูหรอกคะ
ถึงคุณ"หักกุลยะกีน" ช่วยนำหลักฐานมายืนยันด้วยนะคะว่า "เตาฮีต" คือนามของอัลลอฮ์
ผู้สัจจริงอย่าวิ่งหนีหลักฐานกันนะคะ อย่าเพิ่งโกย อย่าเพิ่งจ้ำ นำเสนอหลักฐานกันก่อน
โดยคุณ ซอบะห์ [18 Oct 2001 16:07] #3164 (120/175)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...อ่านต่อหน้าที่ 5.../
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.