มีพี่น้องโทรศัพท์เข้ามาสอบถาม รวมถึงได้ฝากคำถามทิ้งไว้ทางเวบนี้ว่า
ผมเขียนต้นฉบับทิ้งไว้ยังไม่ทันเอาขึ้นเวบ ก็ต้องไปคุตบะห์วันศุกร์เสียก่อน จนช่วงบ่ายแก่ๆ มีข่าวดังแว่วมาเป็นระยะๆว่า จะมีการยุบสภา จนกระทั่งข่าวเริ่มดังชัดขึ้นตอนช่วงเย็นว่านายกตัดสินใจยุบสภาแน่นอน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศอย่างหนักแน่นว่า ไม่ยุบ ไม่ลา เอาไว้ชาติหน้าตอนบ่ายๆ การเมืองก็อย่างนี้แหละ พลิกได้ทุกนาที นักการเมืองก็ใช้ภาษิตเดียวกับภาษาโจรที่ว่า ไม่มีสัจจะในหมู่โจร
นายกรีบชิงล้มกระดานซะก่อน เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง ขณะที่ยังเป็นรัฐบาลรักษาการ ขณะที่ยังสามารถใช้เครื่องมือและอำนาจรัฐ และขณะที่ประชาชนหลายคนยังไม่มีข้อมูลข่าวสารที่แท้จริง และขณะที่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่มีความพร้อม เป็นที่น่าแปลกว่าหลังจากประกาศยุบสภาโดยทันควัน ทาง กกต ก็ออกมาประกาศให้วันที่ 2 เมษายน เป็นวันเลือกตั้งชนิดเคี่ยนมาแบบควันดำ
จะอย่างไรก็ตามเสียงพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ก็ยังดังกระหึ่มอยู่ไม่ขาดสาย และยืนยันว่า วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ จะยังคงชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเช่นเดิม โดยเป้าหมายหลักมิใช่เพื่อยุบสภา แต่ให้ลาออก และเพื่อสร้างกติกาทางการเมืองใหม่ เราคงต้องดูกันต่อไป
บางคนยังไม่รู้ความด้วยซ้ำว่า นายกยุบสภาทำไม เขามีเหตุอันใด สภามีปัญหาอะไรกันหรือ เพราะอย่างที่ผมบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ประชาชนยุคนี้ถูกปิดหูปิดตา ไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวจากซีกตรงกันข้ามกับรัฐ ทั้งจากวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ จะมีชาวบ้านซักกี่คนที่สามารถเสาะหาข่าวจากแหล่งอื่นที่ว่ามาแล้ว นอกจากคนที่มีดาวเทียม หรือไม่ก็เล่นเน็ทอย่างพวกท่านนี่แหละ ที่พอจะสืบเสาะหาข้อมูลได้
ผมไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่ทายาททางการเมือง และไม่ได้สังกัดพักการเมืองใด แต่ก็พยายามติดตามความเคลื่อนไหว เพราะมักจะถูกสอบถามอยู่เสมอ แต่การเมืองเรื่องตัณหา ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร การใส่หน้ากากเข้าหากันนั้นเป็นวิถีทางที่ไกลจากหลักการของอิสลามเหลือเกิน
การกินบ้านโกงเมือง การขายสมบัติชาติ การทุจริตคอรัปชั่น เรื่องจริยธรรมของผู้นำ เขาว่ากันมาหลายเวทีแล้ว แต่ผมเป็นคนสอนศาสนา จะยืนอยู่ตรงไหนก็ต้องพิจารณาด้วยหลักการของศาสนาเป็นอันดับแรก ฉะนั้นผมจึงมองเน้นเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมุสลิมและอิสลามเสียมากกว่า
ถ้าท่านได้ติดตามข้อเขียนของผมในสกู๊ปพิเศษทาง www.moradokislam.org ก็คงจะทราบดีว่า ผมไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ผ่านมาในหลายเรื่อง เช่นกรณีส่งทหารไปอิรัค ในคอลัมน์ชักศึกเข้าบ้าน หรือกรณีกรือเซะ กับตากใบ ในคอลัมน์ก่อนที่ไฟจะลามทุ่ง หรือกรณีทนายสมชาย นีละไพจิตร และฯลฯ ผมเขียนคอลัมน์เหล่านี้ด้วยความอึดอัดใจ ในขณะที่ผู้อวุโสหลายคนเตือนว่าไม่เหมาะ ซึ่งบางครั้งก็ต้องมานั่งสกรีนเพื่อตัดข้อความบางประโยคออกไป เพราะเป็นเวปของมูลนิธิฯ แต่ที่นี่เป็นเวบส่วนตัวที่ผมรับผิดชอบแต่ผู้เดียว สถานที่ที่ผมสามารถจะใช้พูดเพื่อมุสลิมและอิสลามได้อย่างเต็มปาก หากใครต้องการปิดก็เชิญ
รัฐบาลทักษิณที่เพิ่งประกาศยุบสภาไปหยกๆ ทำตัวเป็นทาสรับใช้ต่างชาติ หรือพูดง่ายๆว่า ทำตัวเป็นลูกน้องอเมริกาอย่างออกหน้าออกตา โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนในชาติ ที่ประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติหลายเผ่าพันธุ์และหลายศาสนา ไม่ยินดียินร้ายที่จะประกาศตัวยืนเคียงข้างศัตรูมุสลิม
พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.