แต่ในข้อเท็จจริงนั้น สหรัฐมีแผนการณ์ที่จะเข้าควบคุมตะวันออกกลางก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ยังหาเหตุและหาข้ออ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่สายตาของชาวโลกไม่ได้
ฉะนั้นเหตุการณ์ 11 กันยายน จึงเป็นละครฉากหนึ่งที่สหรัฐสร้างขึ้นเพื่อเป็นเงื่อนไขในการยึดครอง รุกราน กลุ่มประเทศมุสลิมโดยเฉพาะอาหรับ
นอกจากเหตุที่อ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่ชาวโลกแล้ว ยังมีเบื้องหลังลึกๆ ที่สหรัฐและพวกไม่กล้าเอ่ยปาก แต่ชาวโลกก็ทราบกันโดยถ้วนหน้าว่า สหรัฐต้องการยึดครองบ่อน้ำมัน และนั่นก็หมายถึงการกุมเศรษฐกิจของโลกไว้ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
หลังจากที่สหรัฐเข้ายึดครองประเทศอิรัคได้ตามเป้าหมาย แผนการณ์ทำลายล้างต่อมาก็คือ การเข้ายึดครองกลุ่มประเทศตะวันออกกลางไว้ทั้งหมด ทั้งนี้นายจอรจ์บุช ผู้นำสหรัฐ ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อสันนิบาตอาหรับว่า ในภูมิภาคตะวันออกกลางน่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงนโยบายการปกครองให้โลกเป็นหนึ่งเดียว บนหลักการประชาธิปไตย แต่ข้อเสนอดังกล่าวถูกตอบโต้โดยแกนนำของอาหรับหลายประเทศ ในขณะที่สหรัฐยังคงยืนกรานว่า จะต้องเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของอเมริกาให้จงได้
ฉะนั้นจึงมีการข่มขู่และกดดันจากรัฐบาลสหรัฐต่อประเทศตะวันออกกลางมาโดยตลอด โดยมีผู้นำประเทศอาหรับบางประเทศ อธิเช่น ฮุสนีมุบาร็อก ผู้นำอียิปต์ ผู้นำบาห์เรน จอร์แดน และผู้นำของประเทศคูเวต
ที่ทำตัวเป็นลูกสมุนของสหรัฐ คอยตะล่อมผู้นำอาหรับชาติอื่นๆให้คล้อยตามนโยบายดังกล่าว
จากการข่มขู่และการกดดันของนายบุช กับพวก เป็นเหตุให้สันนิบาตอาหรับออกมารับลูกทันที โดยจัดให้มีการประชุมเรื่องนี้ขึ้นที่ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์
หาใช่ว่า....ผู้นำกลุ่มประเทศตะวันออกกลางทั้งหมดจะไม่รู้ว่า อเมริกานั้นหวังผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้เพียงใด แต่ก็ไม่สามารถที่จะคานอำนาจได้ เพราะถ้าปฏิเสธก็เท่ากับเป็นการยอมรับขบวนการก่อร้ายร้าย และในบั้นปลายผู้นำประเทศเหล่านั้นอาจจะมีชะตากรรมเหมือนกับชัดดัม ฮุเซน อดีตผู้นำอิรัค ก็เป็นได้
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.