สถานการณ์ในซาอุดิอาราเบียร้อนฉ่าขึ้นทันที หลังจากกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายใช้ระเบิดปาเข้าใส่สถานกงสุลสหรัฐประจำกรุงญิดดะห์ เมืองท่าของซะอุดิอาราเบีย เมื่อวานนี้ (6 /12/47) และจี้จับเจ้าหน้าที่ในสถานกงสุล 18 คนไว้เป็นตัวประกัน
หลังเกิดเหตุการณ์ไม่นาน รัฐบาลซาอุดิอาราเบียตัดสินใจส่งหน่วยคอมมานโดเข้าคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมกำลังสนับสนุนทางอากาศ และหลังจากการยิงประทะกันนานกว่า 3 ชั่วโมง ล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วจำนวน 12 ราย โดยกลุ่มติดอาวุธถูกยิงเสียชีวิต 3 ราย และถูกจับ 2 คน
แม้ทางรัฐบาลซาอุดิอาราเบียจะออกแถลงการณ์ในช่วงแรกว่า ตัวประกันทั้ง 18 คนปลอดภัย แต่ล่าสุด สำนักข่าวฝรั่งเศส รายงานว่า เจ้าหน้าที่ในสถานกงสุลที่ถูกจับเป็นตัวประกันเสียชีวิตแล้ว 5 ราย แหล่งข่าวกล่าวว่า อาจเป็นไปได้ว่าการที่ทางรัฐบาลซาอุดี้ไม่แถลงเรื่องตัวประกันเสียชีวตินั้น เพราะผู้เสียชีวิตเป็นคนต่างชาติที่ทำงานในสถานกงสุล (ไม่ใช่คนอเมริกันหรือคนซาอุดี้)
ส่วนทางด้านวอชิงตัน นายจอร์ช บุช ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลซาอุดิอาราเบีย ที่ระงับเหตุการณ์ได้โดยฉับพลัน นายบุชกล่าวว่า สถานการณ์นี้เป็นสิ่งยืนยันว่า การก่อการร้ายยังคงมีอยู่....พวกเขาต้องการให้สหรัฐถอนตัวออกจากซาอุดี้ และในอิรัค
และหลังเกิดเหตุการณ์ไม่นาน กลุ่มอบู อนัส อัชชามี ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มอัลกออิดะห์ ในซาอุดิอาราเบีย ได้ประกาศผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ทว่า เขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และเขาพร้อมทุกเมื่อที่จะทำสงครามครูเซด เพื่อขับไล่ศัตรูของอิสลามออกจากแผ่นดินฮารอม และการก่อเหตุครั้งนี้เพื่อเป็นการเตือนรัฐบาลซาอุดี้ว่า อย่าบิดพลิ้วต่อมุสลิม
กล่าวได้ว่า รัฐบาลซาอุดิอาราเบีย ต้องลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง แม้ฉากหน้าจะแสดงตนเป็นอริกับกลุ่มอัลกออิดะห์ก็ตาม แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ให้การสนับสนุนรายใหญ่ต่อกลุ่มอัลกออิดะห์ก็คือ ซาอุดิอาราเบีย นั่นเอง
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.