ประมาณ 1 อาทิตย์(กลางเดือนรอมดอนที่ผ่านมา) ก่อนที่ทหารสหรัฐจะบุกขยี้กลุ่มติดอาวุธในเมืองฟัลลูยะห์ประเทศอิรัก กลุ่มอุลามาอ์ระดับแนวหน้าหัวกระทิในประเทศซาอุดิอารเบียจำนวน 26 คน ได้ฟัตวาแถลงการณ์ร่วมกันว่า การออกมาสู้รบของกลุ่มต่อต้านทหารสหรัฐและพันธมิตรในอิรักถือว่าเป็นการญิฮาดต่อสู้ด้วยความชอบธรรมตามหลักศาสนาอิสลามและทางโลกอีกด้วย จากการฟัตวาดังกล่าวเท่ากับเป็นการตบหน้ารัฐบาลคูเวตฉาดใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลคูเวตคือผู้ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้ความสะดวกกับกองทัพทหารสหรัฐและยังเห็นด้วยกับการปราบปรามกลุ่มต่อต้านในอิรักมาโดยตลอด ฉะนั้นการตอบปัญหาของอุลามาอ์ทั้ง 26 คนนั้นแน่นอนย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลคูเวตเป็นอย่างมาก ล่าสุดมีการตอบโต้จากรัฐบาลคูเวต
ที่ร่วมกับเชค อะหมัด อั้ลเก๊าส์ ซึ่งเป็นอุลามาอ์จากสมาคมฟื้นฟูมรดกอิสลามในคูเวตออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ทางการคูเวตมีคำสั่งห้ามให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติแก่อุลามาอ์ทั้ง 26 คน หากพวกเขาเดินทางเข้าประเทศคูเวต และห้ามเชิญบุคคลดังกล่าวร่วมประชุม,สัมนา,คุตบะห์หรือแสดงความเคลื่อนไหวทางด้านวิชาการทั้งสิ้น
หลังจากรัฐบาลคูเวตออกมติดังกล่างอย่างเป็นทางการ ทำให้อุลามาอ์หลายคนจากองค์กรการศึกษานิติศาสตร์อิสลามในประเทศคูเวตแสดงความไม่สบายใจต่อมติดังกล่าว ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้รัฐบาลคูเวตตั้งสติทบทวนมติการคว่ำบาตรต่ออุลามาอ์จากซาอุดิอารเบียทั้ง 26 คน เพราะคำฟัตวาของพวกเขานั้นได้มาจากหลักการนิติศาสตร์ตามหลักศาสนาอิสลามอย่างถูกต้อง แต่ถ้ารัฐบาลคูเวตคิดจะโต้ตอบคำฟัตวาดังกล่าว รัฐบาลคูเวตก็ต้องใช้หลักการนิติศาสตร์ตามหลักศาสนาอิสลามเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ใช้อารมณ์และรีบด่วนออกมติดังกล่าว
ส่วนทางด้านเชคตอริค อัตต้อวารี อุลามาอ์ชาวคูเวตได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวชาวคูเวตว่า คำฟัตวาของอุลามาอ์ในซาอุดิอารเบียทั้ง 26 คนนั้น ถือว่ามีเหตุผลน่ารับฟัง และสอดคล้องตามหลักการศาสนาอิสลามในการปกป้องตนเองจากศัตรูที่เข้ามารุกราน เชค อัตต้อวาริก ยังยกตัวอย่างสงครามในอดีตที่ผ่านมาอีกว่า เวียดนามก็มีสิทธิอันชอบธรรมในการต่อสู้กับทหารสหรัฐที่บุกยึดครอง และชาวอียิปต์ต้องต่อสู้กับทหารอังกฤษที่บุกรุก
ฉะนั้นการที่รัฐบาลคูเวตออกมติคว่ำบาตรต่ออุลามาอ์ชาวซาอุดิอารเบียทั้ง 26 คนนั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.