ประเทศเกาหลีใต้คือหนึ่งในประเทศที่จำเป็นต้องพึ่งพารัฐบาลสหรัฐมาโดยตลอด เนื่องจากเกาหลีใต้เองนั้นมีปัญหาด้านการเมืองอย่างรุนแรงกับเกาหลีเหนือ และบ่อยครั้งจะมีการเผชิญหน้ากันด้วยกำลังทางด้านชายแดนของทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นรัฐบาลเกาหลีใต้จึงจำเป็นต้องเรียกร้องเชิญชวนทหารสหรัฐให้มาเป็นเกราะป้องกันและคอยควบคุมความประพฤติของทหารเกาหลีเหนือ
แต่หลังจากที่สหรัฐบุกเข้ายึดครองประเทศอีรักมากกว่า 1 ปี ทหารสหรัฐและพันธมิตรกลับถูกตอบโต้จากกลุ่มติดอาวุธในอีรักอย่างบอบช้ำ โดยสหรัฐก็ไม่คาดคิดว่าจะถูกตอบโต้รุนแรงถึงขนาดนี้ จนทำให้พันธมิตรบางประเทศถึงกับประกาศถอนทหารออกจากอีรัก
จากเรื่องราวดังกล่าวทำให้สหรัฐจ้องมองไปที่เกาหลีใต้ และเรียกร้องให้เกาหลีใต้ต้องส่งทหารเข้าสู่อีรักโดยด่วน เพื่อช่วยเหลือทหารสหรัฐที่กำลังย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้เองก็รู้ทันและพยายามผัดผ่อนการส่งทหารเรื่อยมา โดยให้เหตุผลว่า สถานการณ์ในอีรักยังไม่ปลอดภัยบ้าง ทหารยังไม่พร้อมบ้าง หรือขอเลือกสถานที่ๆ ทหารเกาหลีใต้จะไปบูรณะ
แต่ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐก็รู้เชิงรีบประกาศกดดันใช้ไม้ตายว่า หากเกาหลีใต้ไม่ยอมส่งทหารเข้าอีรัก ก็อาจจะทำให้กองทัพทหารสหรัฐที่เข้าไปช่วยในเกาหลีใต้จำนวน 37,000 นาย มีปัญหา (อาจถอนกลับนั่นเอง)
จากตรงนี้ที่ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องยอมจำนนประกาศเตรียมส่งทหารจำนวน 3,600 นายเข้าสู่อีรัก และในจำนวนนั้นมีทหารเกาหลีใต้ประกาศรับนับถือศาสนาอิสลามจำนวน 37 นาย ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปอีรัก ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าทหารทั้ง 37 นาย ถูกส่งเข้าเรียนด้านศาสนาอิสลามโดยเฉพาะ รวมถึงภาษา, ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวอาหรับอีกด้วย เพื่อที่จะได้นำไปใช้ประโยชน์ให้กับกองทัพเกาหลีใต้ในการเข้าไปบูรณะประเทศอีรัก
สงวนลิขสิทธิ์โดย © Moradokislam.org All Right Reserved.