ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
ขอเชิญร่วมสร้างมัสยิด
มูลนิธิอนุรักษ์มรดกอิสลาม
ขอเชิญท่านบริจาคสมทบทุน
โครงการก่อสร้างอาคาร
มัสยิดอนุรักษ์



โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร

ชื่อบัญชี
มูลนิธิอนุรักษ์มรดกอิสลาม
ธนาคาร
กรุงไทย สาขาย่อยประเวศ
ประเภท กระแสรายวัน
เลขที่ 188 – 6 – 00316 – 5

>>>..ร่วมบริจาคคลิ๊ก!..<<<

ญะซากุมุ้ลลอฮุคอยร็อน


เมนูหลัก
 หน้าแรก(ข่าวสาร) :
 หน้าแรก
 ค้นหา
 หัวข้อเรื่องที่น่าสนใจ
 สำหรับสมาชิก :
 รายนามสมาชิก
 เข้าสู่ระบบ(สมัครสมาชิก!)
 ร่วมด้วยช่วยกัน :
 แนะนำบอกต่อ
 กระดานเสวนา
 
 สถิติของผู้เข้าชม :
 ยอดฮิตติดอันดับ
 แบบสำรวจ
 คู่มือและเอกสาร :
 ถาม-ตอบ
 วารสารประจำเวบ
 บริการอื่นๆ :
 ติดต่อลงโฆษณา
 ติดต่อเรา
 ห้องแสดงภาพ
 ดาวน์โหลด
 Mozaks_News

 เมนูทั่วไป :
เนตคุณแรงแค่ไหน!
ล้อเลียนการเมือง
เพิ่มเว็บนี้ใน Favourites !
เมล์ด่วนสายตรง
19:31:25
วัน : 21-12-2024
GMT : +0700

สาระวิชาการ
วิชาการ :
ศรัทธาและยึดมั่น
อัลฮะดีษ
จริยธรรมอิสลาม
ประเพณีและความเชื่อ
ประวัติศาสตร์อิสลาม
เหตุแห่งการประทานอัลกุรอาน
อุลูมุ้ลฮะดีษ
ตัฟซีรอัลกุรอาน
คอลัมน์ประจำ :
บทความทั่วไป
ตรรกวิทยา

ดาวน์โหลด

  1: ถาม-ตอบ
ดาวน์โหลด 299 ครั้ง

  2: ขุดโคตรชีอะ
ดาวน์โหลด 184 ครั้ง

  3: การทำแทน
ดาวน์โหลด 108 ครั้ง

  4: ศรัทธาแบบอิสลาม
ดาวน์โหลด 209 ครั้ง

  5: สัญญาณวันสิ้นโลก
ดาวน์โหลด 250 ครั้ง

  6: หลักยึดมั่น
ดาวน์โหลด 146 ครั้ง

..ดูทั้งหมด..

เว็บไซต์อนุรักษ์ซุนนะห์

เผยข้อเท็จจริงลัทธิชีอะห์:





แนวร่วมต่อต้านรอฟิเฏาะ

ภาษาอาหรับ

www.d-sunnah.net
www.fnoor.com
www.albrhan.com
www.wylsh.com
www.khominy.com
http://dhr12.com
www.albainah.net
www.ansar.org
www.almanhaj.com
www.almhdi.com

ภาษาอังกฤษ

www.ahlelbayt.com


หนังสือใหม่
ผลงานล่าสุด
ของ อ.ฟารีด เฟ็นดี้


รู้ทันชีอะฮ์



เผยกลลวงของชีอะห์ในการดึงมุสลิมออกจากอิสลาม
ตอบโต้ข้อกล่าวหา,ใส่ร้าย,ประณามศอฮาบะห์
ติดต่อและสั่งซื้อได้ที่
คุณยะอ์กู๊บ น้อยนงค์เยาว์
084 0004619


ข่าวสาร
หนังสือพิมพ์ไทย :
ไทยรัฐ
เดลินิวส์
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ผู้จัดการออนไลน์
มติชน
ประชาไทย
ไทยนิวส์
ศูนย์ข่าวอิศรา
หนังสือพิมพ์อาหรับ :
الاهرام
الجمهورية
الوطن
القبس
البيان
الاتحاد
الرأي العام
الشرق الأوسط
السياسة
دار الخليج
ตำราศาสนาภาษาอาหรับ :
almeshkat
almaktba
kribani
sahab
internet radio
จส.100
คลื่นประชาธิปไตย


บทความเรื่อง ฟิร๊อก กลุ่มแนวคิดบิดเบือน
ตอนชีอะห์อิหม่ามสิบสอง

อย่าให้กะลิมะห์ชะฮาดะห์ของผู้ใดมาล่อลวงเรา
อิสลามไม่มีนิกาย
ข้อแตกต่างด้านโครงสร้างศาสนาของซุนนะห์กับชีอะฮ์
อัลกุรอานและฮะดีษตามความเชื่อของชีอะฮ์
อายะห์อัลกุรอานที่ขาดหาย
"อะฮ์ลุ้ลบัยต์" ครอบครัวและวงศ์วานของท่านนบี
ภรรยาของนบีคือ"อะฮ์ลุ้ลบัยต์"
ฮะดีษซะก่อลัยน์ สิ่งหนักทั้งสอง
ใครคือ"อะฮ์ลุ้ลบัยต์" ที่ระบุในซูเราะห์อัลอะห์ซาบ อายะห์ที่ 33
ฮะดีษกิซาอ์
ท่านอาลีและครอบครัว จากซูเราะห์อัซชุอะรออ์ อายะห์ที่ 23
"อิมามะห์"การศรัทธาต่ออิหม่าม
คำสั่งแต่งตั้งอิหม่าม
หลักฐานแต่งตั้งอิหม่าม จากซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ 55
อายะห์"อัตตับลีฆ" ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ 67
มุบาฮะละห์
ฮะดีษ "มันซีละห์" เปรียบท่านนบีกับอาลีดั่งมูซากับฮารูณ
ละครฉากนี้ที่ "ฆ่อดีรคุม"
คำตอบจากท่านอาลี
อาลีช่วยด้วย !!
อาลี หรือ เยซู
นครแห่งความรู้
ฮุเซนมาจากฉันและฉันก็มาจากฮุเซน
ศอฮาบะห์ในมุมมองของชีอะห์
"อัศฮาบีย์" ประชาชาติของฉัน
ชีอะห์ใส่ร้ายศอฮาบะห์ว่าเป็นมุนาฟิก
พฤหัสบดีวิปโยค
จุดยืนของท่านอาลีที่มีต่อท่านอบูบักร์และท่านอุมัร
เมื่อท่านอาลีประณามและสาปแช่งชีอะฮ์

รายงานความคืบหน้าการนัดสนทนาระหว่างซุนนะห์กับชีอะฮ์


Moradokislam.org FAQ (ถาม/ตอบ)



ประเภท: หน้าแรก ->

คำถาม
·  คำถามที่ 1 ผมมีอาชีพทำบ่อปลา โดยเก็บเศษอาหารจากร้านขายอาหารมาให้ปลากิน อิหม่ามที่บ้านผมบอกว่า ใช้ไม่ได้เพราะเศษอาหารมีทั้งไก่ไม่ได้เชือดและเนื้อหมู ผมกลุ้มใจมาก ไม่มีทุนจะซื้ออาหารปลา จะเลิกเลี้ยงกลางคันก็หมดตัวแน่ อาจารย์มีวิธีชี้แนะไหมช่วยต
·  คำถามที่ 2 ขอถามอาจารย์เรื่องปลาฉลาม กินได้หรือไม่เพราะเป็นสัตว์ดุร้าย เคยถามอาจารย์หลายท่านแล้วตอบไม่เหมือนกัน
·  คำถามที่ 3 คนข้างบ้านมีอาชีพเป็นหมอดู ทำเสน่ห์ แต่ภรรยาเขาเป็นคนดี เวลาเขาทำกับข้าวก็จะแบ่งมาให้ที่บ้านเป็นประจำ แต่ก็กินไม่สนิทใจ อยากให้อาจารย์ชี้แจงด้วยว่า อาหารที่เขาเอามาให้กินได้หรือเปล่า ?
·  คำถามที่ 5 อาชีพในตลาดหลักทรัพย์ และการซื้อหุ้น
·  คำถามที่ 4 เกี่ยวกับดอกเบี้ย
·  คำถามที่ 6 เอาข้าวแช่เหล้าให้นกกินได้ไหม?
·  คำถามที่ 7 แอลกอฮอลผสมน้ำหอม?
·  คำถามที่ 8 ทำแท้งได้หรือไม่?
·  คำถามที่ 9 กุนเชียงหรือไก่เชียง
·  คำถามที่ 10 ไฟแนนซ์
·  คำถามที่ 11 ทองคำขาว

คำตอบ
·  คำถามที่ 1 ผมมีอาชีพทำบ่อปลา โดยเก็บเศษอาหารจากร้านขายอาหารมาให้ปลากิน อิหม่ามที่บ้านผมบอกว่า ใช้ไม่ได้เพราะเศษอาหารมีทั้งไก่ไม่ได้เชือดและเนื้อหมู ผมกลุ้มใจมาก ไม่มีทุนจะซื้ออาหารปลา จะเลิกเลี้ยงกลางคันก็หมดตัวแน่ อาจารย์มีวิธีชี้แนะไหมช่วยต


คำตอบ.....โดยอาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

เสียดาย...ที่ผู้ถามไม่ได้บอกมาด้วยว่า ปลาที่เลี้ยงนั้นเป็นปลามุสลิมหรือปลากาเฟร เคยเห็นมันละหมาดหรือเปล่า และเมื่อมันตายต้องเอามันไปอาบน้ำ,ห่อ,ละหมาด,ฝัง ด้วยหรือเปล่า

ความจริงข้อบัญญัติของศาสนานี้ พระองค์อัลลอฮ์สั่งใช้และสั่งห้ามแก่คน และเฉพาะแก่คนมุสลิมเสียด้วย หากจะถามว่า “กาเฟรกินซากสัตว์ที่ตายเองจะบาปไหม” ก็ต้องตอบว่า เป็นเรื่องของกาเฟร ไม่เกี่ยวกับข้อบัญญัติของอิสลาม หรือจะถามว่า “ปลากินเนื้อหมูจะบาปไหม” ก็ต้องตอบว่า อัลลอฮ์ ไม่ได้สั่งใช้หรือสั่งห้ามแก่สัตว์
พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า

حرمت عليكم الميتة والدم ولحم الخنزير وما أهل لغير الله به


“ถูกห้ามแก่พวกเจ้าซึ่งซากสัตว์ที่ตายเอง เลือด เนื้อหมู และที่กล่าวนามอื่นจากอัลลอฮ์ด้วยกับมัน” ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 3

ปัญหาที่ตามมาอีกประการหนึ่งก็คือ ขณะที่ปลากินเนื้อหมู และเราก็เอาปลาตัวนั้นมากินจะบาปไหม ตอบว่า ไม่บาป เพราะเราไม่ได้กินหมูแต่เรากินปลา แต่ก็มีข้อเสนอแนะของนักวิชาการดังนี้ครับ

ในกรณีที่สัตว์กินของฮารอมสำหรับมุสลิม ก็อย่าเพิงนำสัตว์นั้นมากินโดยทันที ทิ้งระยะเวลาให้มันย่อยสลายเสียก่อน ซึ่งก็มิได้กำหนดระยะเวลาว่าจะทิ้งไว้ กี่เดือน กี่ปี กี่วัน หรือกี่ชั่วโมง แต่ให้ดูสภาพของมัน โดยพิจารณาถึง กลิ่น,สี,หรือรส อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างเช่น บางคนทำส้วมไว้ในบ่อปลาสวาย เมื่อถ่ายลงไปก็เป็นอาหารปลาได้เป็นอย่างดี และเมื่อถ่ายเสร็จก็อย่าเพิ่งจับปลาตัวนั้นมากินโดยพลัน รอให้มันย่อยสลายเสียก่อน

แต่บางคน...แม้จะทิ้งระยะเวลาให้มันย่อยสลายนานแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่มีนัฟซูที่จะกิน อันนี้เป็นเรื่องของ นัฟซู ละครับ ผมเองก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน

แต่ถ้าไม่รู้.....กินเรียบ


........................................................................................................................

[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 2 ขอถามอาจารย์เรื่องปลาฉลาม กินได้หรือไม่เพราะเป็นสัตว์ดุร้าย เคยถามอาจารย์หลายท่านแล้วตอบไม่เหมือนกัน


คำตอบโดย...อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

ขอทำความเข้าใจก่อนว่า...เรื่องของฮาลาล-ฮารอมนี้โต๊ะครูออกฮุก่มเองไม่ได้ จะฮาลาลหรือฮารอมไม่ได้อยู่ที่การรับรองของอาจารย์ท่านใด เมื่ออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์กำหนดอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น
และก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่นัฟซูของผู้รู้ท่านใดอีกด้วย หากผู้รู้ไม่มีนัฟซูจะกิน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะฮารามสำหรับบุคคลอื่น ถ้าอัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์บอกว่าเป็นที่อนุมัติ

ปลาฉลาม คือสัตว์ทะเล มีหลายพันธ์ มีทั้งดุร้ายโดยสัญชาติญาณ และไม่ดุร้าย มีทั้งที่กินสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ขวางหน้า และมีทั้งที่กิน แพลงค์ตอน และสัตว์ทะเลเล็กๆ เป็นอาหาร
แต่ไม่ว่ามันจะกินอะไร หรือมันจะดุร้ายหรือไม่ มันก็คือสัตว์ทะเลประเภทหนึ่ง
พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า

أحل لكم صيد البحر وطعامه متعا لكم وللسيارة


“เป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้าซึ่งสัตว์ทะเลที่ถูกล่าและอาหารจากทะเล เพื่อเป็นปัจจัยแก่พวกเจ้าทั้งที่อยู่โดยปกติและทั้งผู้ที่เดินทาง” ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 96

อบูฮุรอยเราะห์ รอฏิยัลลอฮุอันฮุ รายงานว่า มีชายผู้หนึ่งถามท่านนบีว่า โอ้รอซูลของอัลลอฮ์ พวกเราเดินทางในทะเลโดยที่มีน้ำจืดน้อย ถ้าเราจะนำมันมาทำน้ำละหมาดก็จะไม่มีดื่ม พวกเราจะเอาน้ำทะเลทำน้ำละหมาดได้หรือไม่
ท่านนบีมูฮัมหมัด ได้กล่าวว่า

هو الطهور ماؤه الحل ميتته


“น้ำทะเลนั้นสะอาด สัตว์ทะเลที่ตายก็เป็นที่อนุมัติ” บันทึกโดยติรมีซีย์ กิตาบุตตอฮาเราะห์ ฮะดีษที่ 63

ขอทำความเข้าใจต่ออีกนิด
บางท่านให้ความหมายฮะดีษข้างต้นว่า الحل ميتته หมายถึงสัตว์ที่ตายในทะเล ซึ่งคำพูดนี้ดูจะไม่ตรงตามเป้าหมายของฮะดีษสักเท่าไหร่ เพราะคำว่า

สัตว์ทะเลที่ตาย กับคำว่า สัตว์ที่ตายในทะเล

มีความหมายแตกต่างกัน
หากหมูวิ่งลงไปตายในทะเล ก็ไม่ฮะลาลครับ หรือไก่ที่เขาเอาไปทิ้งทะเล โดยไม่ได้เชือดก็ไม่ฮาลาลเช่นเดียวกัน เพราะนบีไม่ได้พูดว่า สัตว์ที่ตายในทะเล
แต่หมายถึงสัตว์ทะเลที่ตายต่างหาก และไม่ว่ามันจะตายในทะเล หรือจะตายบนบก มันก็คือสัตว์ทะเลอยู่วันยังค่ำ ฮาลาลครับ....สัตว์ทะเลทุกชนิดเป็นที่อนุมัติ


........................................................................................................................

[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 3 คนข้างบ้านมีอาชีพเป็นหมอดู ทำเสน่ห์ แต่ภรรยาเขาเป็นคนดี เวลาเขาทำกับข้าวก็จะแบ่งมาให้ที่บ้านเป็นประจำ แต่ก็กินไม่สนิทใจ อยากให้อาจารย์ชี้แจงด้วยว่า อาหารที่เขาเอามาให้กินได้หรือเปล่า ?


คำตอบโดย...อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

การดูหมอ ทำเสน่ห์ยาแฝด นำมาเป็นงานอาชีพหรืองานอดิเรกไม่ได้ เป็นอวิชชา เป็นที่ต้องห้ามในอิสลาม ถือเป็นซิริก และเป็นบาปใหญ่
รายได้จากการประกอบอาชีพนี้ถือว่าเป็นรายได้ที่ต้องห้าม (ฮารอม) ไม่ว่าจะนำมากินเอง เลี้ยงครอบครัว หรือนำเอาไปแจกจ่ายแก่ผู้อื่นก็ตาม
ท่านอะบีมัสอู๊ด อัลอันศอรีย์ รอฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้รายงานว่า

أن رسول الله صلى الله عليه وسلم نهى عن ثمن الكلب ومهر البغى وحلوان الكاهن


“ท่านรอซูลุลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ห้ามราคาซื้อขายหมา,เงินได้ของหญิงขายตัว และรายได้ของหมอดู” ศอเฮียะห์บุคคอรี ฮะดีษเลขที่ 2083

หากมุสลิมคิดจะยึดอาชีพดูหมอ หรือทำเสน่ห์ ก็น่าจะยึดอาชีพขายหมาและเปิดซ่องขายบริการด้วย เพราะรายได้ทั้งหมดเป็นที่ต้องห้ามเหมือนกัน
การที่คนข้างบ้านที่ประกอบอาชีพนี้ ได้นำเอาอาหารมาให้ ก็ไม่ต้องกิน และไม่ต้องรับ เพราะเขากินเองก็ฮะราม เอามาให้เราก็ใช่ว่าจะฮาลาล อย่าเกรงใจในเรื่องฮะรามเลยครับ

แต่แปลกใจอยู่อย่างหนึ่งก็คือ.....

เมื่อเขาทำบุญทีไร ก็เห็นอิหม่ามหรือท่านครูบางคนเป็นหัวขบวนเดินนำหน้าไปกินกันอย่างไม่สะทกสท้าน


........................................................................................................................

[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 5 อาชีพในตลาดหลักทรัพย์ และการซื้อหุ้น

1 - อาชีพในตลาดหลักทรัพย์ หะล้าลหรือหะรอมครับ

2 - ขอเพิ่มอีกประเด็นหนึ่งค่ะ มีเพื่อนฝากถามมาว่า ถ้าซื้อหุ้น เช่น หุ้นที่เกี่ยวกับน้ำมัน และหุ้นโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เหมือนกันจะซื้อได้หรือไม่

คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

คำถามข้อที่ 1 กว้างไปหน่อย ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ผมคงให้คำตอบไม่ได้ ขอข้อมูลเพิ่มเติมและสอบถามมาอีกครั้งครับ

ส่วนคำถามที่ 2 เกี่ยวกับการซื้อหุ้นนั้น หากเป็นการร่วมหุ้นลงทุนในกิจการที่ฮะล้าลถือว่าเป็นที่อนุมัติ ยกเว้นการร่วมหุ้นลงทุนในกิจการที่ฮะรามเช่น กิจการโรงเหล้า อย่างนี้เป็นที่ต้องห้าม แต่การร่วมหุ้นลงทุนนั้นต้องเป็นกิจการที่มีตัวตนจริง และต้องปันผลกำไร และผลขาดทุนตามสัดส่วนที่ลงหุ้นไว้ อย่างนี้เรียกว่า มุฏอร่อบะห์ หมายถึงการร่วมลงทุนในกิจการ ไม่ว่ากิจการนั้นจะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ก็ตาม

แต่การเล่นหุ้น เพื่อเก็งกำไรจากมูลค่าหุ้นที่ราคาขึ้นลงในตลาดหลักทรัพย์นั้น เป็นคนละกรณีกับที่กล่าวไว้ข้างต้น คือเป็นการค้ากำไรจากมูลค่าหุ้น ไม่ใช่กำไรจากการดำเนินกิจการ อันนี้เข้าข่ายการค้าเงิน เป็นที่ต้องห้าม

........................................................................................................................


[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 4 เกี่ยวกับดอกเบี้ย

คำถามที่ 4

มีมุสลิมมะห์คนหนึ่งให้มีการกู้ยืมเงิน โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และผมรู้ว่าดอกเบี้ยเป็นสิ่งต้องห้ามของอิสลาม แต่ผมจะทำอย่างไรดีกับมุสลิมมะห์คนนั้น เค้าไม่ใช่ญาติผมหรอกน่ะ
คือว่าอยากให้มุสลิมมะห์คนนั้นเห็นว่าการกินดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่ผิด และอยากทราบด้วยว่าต้องถูกลงโทษอย่างไรหากคนนั้นกินดอกเบี้ย
มุสลิมมะห์คนนี้เป็นมุสลิมตั้งแต่กำเนิดด้วยน่ะครับ จากคุณอับดุลลอฮ์ สมาชิก moradokislam

คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

ดอกเบี้ยไม่ว่าจะเป็นในระบบหรือนอกระบบเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในอิสลาม เรื่องนี้มุสลิมทุกคนทราบดี แต่ก็ยังมีมุสลิมบางคนที่ยังไม่ละเลิก ในการจ่ายและรับ ไม่ว่าจะด้วยความละโมบ หรือในภาวะขับขัน
นอกจากจะรู้ว่าดอกเบี้ย ฮาราม แล้วก็ยังมีมุสลิมบางคนกระทำการอย่างไม่สะทกสะท้าน เช่นบางคนประกาศว่า ถ้ากินไม่ได้เอามาให้ซะยอ
ผมเคยผ่านไปย่านประชาอุทิศ ริมถนนเป็นตึกแถว มีป้ายติดหราว่า บังซบเงินกู้ อย่างนี้ต้องพูดว่า ความอายมันไม่มียาง

ในเมื่อคำของอัลลอฮ์และคำของรอซูลไม่ยังประโยชน์ให้แก่เขาแล้ว คำพูดของผมหรือของใครก็คงจะไร้ค่า แต่อาจเป็นไปได้ว่า.... ยังมีชาวบ้านบางคนที่ไม่รู้ว่าดอกเบี้ยเป็นที่ต้องห้าม เพราะเห็นท่านครูบางคนก็ยังรับดอกเบี้ย และอิหม่ามบางคนยังปล่อยเงินกู้ ถ้าเช่นนั้นเราก็ต้องบอกกล่าวตักเตือนกันเรื่อยไป
พระองค์อัลลอฮ์ได้กล่าวว่า

“บรรดาผู้กินดอกเบี้ยนั้น เขาจะยืนทรงตัวดั่งคนปกติไม่ได้ เขาจะเป็นเหมือนผู้ที่ชัยตอนคอยทำร้ายการทรงตัวของเขา เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาอ้างว่า ผลของการค้าก็เหมือนกับดอกเบี้ย แต่อัลลอฮ์นั้นทรงอนุมัติเรื่องการค้าขายและทรงห้ามเรื่องดอกเบี้ย ฉะนั้นผู้ใดที่คำเตือนจากองค์อภิบาลของเขามาถึงแล้วเขาได้ละเลิก สิ่งที่ผ่านก็สิทธิที่ชอบธรรมของเขา และกิจการของเขามี ณ.ที่อัลลอฮ์ และผู้ใดที่หวนกลับไปกระทำอีก พวกเขานี่แหละคือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล
อัลลอฮ์จะทรงทำให้ดอกเบี้ยล่มจมแต่จะให้การบริจาคเพิ่มพูน และอัลลอฮ์นั้นไม่รักผู้เนรคุณและผู้ที่จงใจกระทำบาปทุกคน”
ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 275 – 276


………………………………………………………………………….

[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 6 เอาข้าวแช่เหล้าให้นกกินได้ไหม?

คำถาม แถวบ้านผมเขาจับนก ด้วยการเอาข้าวเปลือกมาแช่เหล้า แล้วไปโปรยให้นกกิน จะจับนกได้ครั้งละมากๆ เพราะนกเมาบินไม่ไหว ถ้าเราจะซื้อนกที่เขาจับด้วยวิธีนี้มากิน จะบาปใหมครับ

คำตอบโดยอาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

มนุษย์นี่ช่างสรรหาวิธีการพิศดารกันจัง ผมเคยเห็นคนเอาบุหรี่ให้คางคกสูบ ผลก็คือหงายท้องตีลังกา หัวทิ่มหัวตำ แล้วก็สนุกสนานกันใหญ่ บางคนก็เอาฟางผูกหางนก แล้วจุดไฟเผาฟาง เป็นที่ตลกขบขัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวิธีที่ต้องห้าม

ที่จริงแล้วนกกินเหล้า ไม่บาปครับ เพราะไม่มีคำสั่งห้ามนก

แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า มุสลิมจะเอาเหล้าไปให้นกกินได้อย่างไร ในเมื่อซื้อขายเหล้าไม่ได้ หรือจะให้จะขอกันก็ไม่ได้ นั่นแสดงว่า เมื่อเราไปหามันมาจะด้วยวิธีใดก็ตาม เราฮารามก่อนแล้ว ก่อนที่นกมันจะกินเสียอีก

ถ้าจะถามต่อว่า เราไม่ได้ทำ แต่กาเฟรเขาทำ แล้วเขาก็เอานกนั้นมาขาย เราจะกินได้ไหม

ผมว่าอย่าซื้อดีกว่าครับ อย่าไปสนับสนุนการจับสัตว์ด้วยวิธีการทรมานมันเลย แต่ถ้าจะเอานกนั้นมากินจริงๆ ก็ให้มันสร่างเมาเสียก่อน แล้วค่อยเชือด

แต่ขอย้ำนะครับว่า....... มุสลิมเอาเหล้าให้นกกินไม่ได้


[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 7 แอลกอฮอลผสมน้ำหอม?

คำถาม ขอเรียนถามอาจารย์ฟารีด เรื่องการใช้น้ำหอม หรือของหอม พวกเครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์น่ะคะ ว่าตามซุนนะห์เราสามารถใช้ได้หรือไม่ เพราะหากเป็นน้ำหอมเราฉีดที่เสื้อผ้า ไม่สามารถซึมเข้าผิวได้ อันนี้เราสามารถใช้ได้หรือไม่
หรือหากเป็นจำพวกเครื่องสำอางค์ อันนี้เราทาที่ผิวหนัง ได้หรือไม่ค่ะ ถ้าเช่นนั้นหากเปื้อนเสื้อผ้าหรือผิวหนัง เราก็ไม่สามารถละหมาดได้ ต้องไปล้างออกให้สะอาดหมดจดก่อนเช่นนั้นหรือค่ะ

คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

มุสลิมเราส่วนใหญ่จะเคร่งรัดในภาคปฏิบัติ คอยระมัดระวังว่า อะไรได้หรือไม่ได้ เพราะไม่อยากให้การทำอะมัลของเราสูญเปล่า เหมือนอย่างกรณีที่ถามนี้ เป็นห่วงว่าถ้าแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในน้ำหอมมันเป็นนะยิส ก็จะทำให้การละหมาดใช้ไม่ได้ แต่ผมให้แง่คิดนะครับว่า ถ้ามันของฮาราม ก็ใช้ไม่ได้ทั้งในละหมาดและนอกละหมาด

ความจริงแอลกอฮอล์ มี 2 ชนิด (เอททีล และเมททิล) คือชนิดที่ใช้บริโภค ซึ่งเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มประเภทมึนเมา เช่น เหล้า, เบียร์, กระแช่,สาโท และ ฯลฯ เหล่านี้ฮารอมแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติของการหมัก หรือจากการสกัดแล้วเอาไปผสมในเครื่องดื่ม, อาหาร หรือยารักษาโรคบางชนิด เช่นยาแก้ไอ หรือยาขับน้ำคาวปลา (บางยี่ห้อ )

แต่อีกชนิดหนึ่ง ใช้ฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดบาดแผล, ผสมในสี หรือนำมาเป็นส่วนผสมของน้ำหอม, เครื่องสำอางค์ อันนี้ไม่ใช่นะยิส และไม่ฮาราม ไม่ว่าจะซื้อ ขาย หรือใช้ก็ตาม

ปัจจุบันสภาวะขาดพลังงานเกิดขึ้นอย่างมาก จึงมีการนำเอาแอลกอฮอล์มาเป็นเชื้อเพลิง หรือเป็นส่วนผสมของเชื้อเพลิง อันนี้ใช้ได้ ไม่ฮะรามเช่นกัน

........................................................................................................................


[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 8 ทำแท้งได้หรือไม่?

คำถาม

ขอเรียนถามปัญหาอาจารย์ว่า การทำแท้งด้วยความจำเป็นจะบาปหรือไม่ เช่นแม่มีโรคประจำตัว ขอให้อาจารย์ช่วยตอบด่วนด้วย ขอบคุณคะ

คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

กว่าจะตอบมาถึงคำถามนี้ อาจทำให้ต้องรอนานหน่อย คงไม่ด่วนอย่างที่ผู้ถามต้องการ อย่าเพิ่งน้อยใจนะครับ...

โดยพื้นฐานเดิมๆ แล้วอิสลามห้ามฆ่าชีวิตใดๆ ที่ไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดของศาสนา เหมือนอย่างที่พระองค์อัลลอฮ์ได้กล่าวว่า

ولا تقتلوا النفس التى حرم الله الا بالحق


“และพวกเจ้าอย่าได้ฆ่าชีวิตใดที่อัลลอฮ์ทรงห้าม นอกจากด้วยความเป็นธรรม” ซูเราะห์อัลอันอาม อายะห์ที่ 151


คำว่าด้วยความเป็นธรรมนั้น หมายถึงอนุญาตให้ฆ่าได้เฉพาะที่เป็นไปตามข้อกำหนดของศาสนานั้น เช่นเพชรฆาตที่ต้องสังหารตามคำพิพากษา อย่างนี้เป็นต้น

ส่วนการทำแท้ง ก็ถือว่าเป็นการฆ่าชีวิตด้วยเช่นกัน ไม่ว่าเด็กในท้องจะมีอายุน้อยกว่าหรือมากกว่าสีเดือนก็ตาม นอกจากด้วยเหตุของความจำเป็น เช่นแม่มีโรคประจำตัว หรือครรภ์เป็นพิษ ที่แพทย์วินิจฉัยด้วยความรอบคอบแล้วว่า ถ้าเอาเด็กไว้แม่อาจเสียชีวิต หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง จึงจะถือว่าเป็นที่อนุมัติให้กระทำได้ แต่ขอบเขตของความจำเป็นนี้ต้องถึงขั้น ชีวิตแลกด้วยชีวิต

........................................................................................................................


[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 9 กุนเชียงหรือไก่เชียง

คำถามโดย เอกมัย 30

                 สลามครับ ไม่ทราบว่า อ.รู้เรื่อง......................ไก่เชียงเป็นกุนเชียงหรือเปล่า ไม่สบายใจเลย เพราะกินประจำ เท่ากับกินหมูไปหลายตัว จะทำยังไรดี

คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

                 ขออนุญาตที่จะไม่วิจารณ์ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ถามเอ่ยนามมา เพราะทราบว่า ดร.วินัย ดะห์ลัน ได้ทำการตรวจสอบแล้ว จะจริงเท็จอย่างไรก็ติดตามข่าวกันเอง แต่จะขอชี้แจงบนพื้นฐานของศาสนาให้ท่านทราบดังนี้
                 สินค้าจะฮาลาลหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหรือตราฮาลาลที่ติดไว้ที่สินค้า แต่ขึ้นอยู่กับตัวสินค้าเอง หากสินค้านั้นมีความฮาลาลโดยตัวมันเองแล้วแม้กาเฟรจะเป็นผู้ขาย  สินค้านั้นมันก็ยงคงความฮาลาลอยู่ดี และในทางตรงกันข้าม หากสินค้านั้นฮารอม ถึงมุสลิมจะขายก็ไม่ได้ทำให้สินค้านั้นกลายสภาพเป็นฮาลาลได้ เพราะฉะนั้นสินค้าจะฮาลาลหรือฮะรอมจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต,ผู้ขาย หรือตราฮาลาลที่ติดอยู่
                แต่การที่มุสลิมเป็นผู้ผลิตหรือเป็นผู้จำหน่าย ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับหนึ่ง เพราะมุสลิมจะกินเองก็ต้องเป็นของฮะลาล และจะขายก็ต้องเป็นของฮาลาลด้วยเช่นกัน สภาพเช่นนี้ทำให้เกิดความมั่นใจแก่มุสลิมผู้บริโภคเป็นขั้นพื้นฐาน ฉะนั้นเมื่อเราซื้ออาหารยี่ห้อมุสลิม หรือรับประทานอาหารที่มุสลิมขายจึงทำให้ไม่เกิดความตะขิดตะขวงใจ เพราะพื้นฐานโดยทั่วไปนั้นฮะลาล   แต่หากมุสลิมที่ไม่มีอะมานะห์ก็มุ่งหวังหารายได้ ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ โดยไม่คำนึงถึงว่าจะฮาลาลหรือฮะรอมสำหรับตัวเองหรือผู้บริโภคหรือไม่
                สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารดังพื้นฐานข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว มิได้มีความผิดแต่อย่างใด ถึงแม้ว่า เขามารู้ในภายหลังว่า อาหารที่เขาบริโภคไปก่อนหน้านี้เป็นของฮะรอมก็ตาม เพราะเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือมิได้มีเจตนาละเมิดข้อบัญญัติ ต่างกับคนที่จงใจรับประทานอาหารที่ฮะรอมในสภาพรู้ดี แต่ที่หนีความผิดไม่พ้นก็คือผู้ผลิตหรือผู้ขายของฮะรอมให้ผู้อื่นบริโภคในสภาพที่เขารู้ดีว่าสิ่งนั้นเป็นของฮะรอม ซึ่งเขาต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเองและรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วยในอาคิเราะห์
   
             คนสมัยก่อนเขาอบรมบ่มเพาะลูกหลานให้รู้จักกินรู้จักแยกแยะว่าอันไหนกินได้และกินไม่ได้ จึงทำให้เกิดจิตสำนึกและภูมิคุ้มกันด้วยตัวเองมาทุกยุคทุกสมัย  แต่ในระยะหลังภูมิคุ้มกันที่ว่านี้ได้เลือนหายไปจากสังคมมุสลิม เนื่องด้วยความไว้ใจในตราฮาลาลที่ติดอยู่ที่ข้างผลิตภัณฑ์ ทำให้คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าอย่างไรถึงจะฮาลาล และอย่างไรฮะรอม
                ที่กล่าวมานี้ไม่ได้หมายความว่าผมต่อต้านตราฮาลาล แต่หากต้องการให้มุสลิมรุ่นใหม่ได้รู้จักแยกแยะฮาลาลหรือฮะรอมได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ที่ตราฮาลาล เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ไก่ที่ตายเองหรือไก่ที่มุสลิมไม่ได้เชือดแต่ถูกติดตราฮาลาล จะกลายเป็นสิ่งอนุมัติไปในที่สุด และก็จะถึงวันที่หมูถูกตีตราฮาลาล คิดแล้วสยองครับ 

[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 10 ไฟแนนซ์

คำถามโดย คุณรอยยา

                อาจารย์คะ เพื่อนของหนูเล่าให้ฟังว่า อาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า เราผ่อนกับไฟแนนซ์ได้ถ้าไม่ผิดสัญญา แต่ถ้าผิดสัญญาไม่ได้เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ย

 คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

                 ไฟแนนซ์คือธุรกิจที่แสวงหากำไรจากดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยที่ผ่อนชำระปกติพร้อมเงินต้นหรือดอกเบี้ยปรับล่าช้า จากการผิดนัดชำระตามวันและเวลาที่กำหนดกันไว้ ฉะนั้นการทำนิติกรรมใดๆ กับไฟแนนซ์ก็คือการเอาตัวเข้าไปผูกพันกับดอกเบี้ยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
                พระองค์อัลลอฮ์ ได้ทรงกล่าวว่า

 وَأَحَلَّ اللهُ البَيْعَ وَحَرَّمَ الرَبَا 

และพระองค์อัลลอฮ์นั้นทรงอนุมัติการค้าขาย แต่ห้ามเรื่องดอกเบี้ย ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 275 

                 การที่ผู้ถามอ้างว่าถ้าผ่อนชำระปกติโดยไม่ผิดสัญญาก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าไม่เป็นดอกเบี้ยนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะการชำระปกตินี้มีดอกเบี้ยที่ควบรวมกับเงินต้นไว้แล้ว ตัวอย่างเช่น
                นาย ก ซื้อรถยนต์คันหนึ่งราคา 300,000.- บาท โดยชำรำเงินสดให้กับบริษัทรถยนต์เป็นเงิน 50,000 บาทและยังคงเหลือยอดค้างชำระที่นาย ก ต้องจ่ายให้แก่บริษัทรถยนต์อีก 250,000.- บาท (นี่คือยอดเงินต้นของกรณีนี้) ดังนั้นบริษัทรถยนต์จึงให้ทำการจดนิติกรรมกับบริษัทไฟแนนซ์ หรือพูดง่ายๆว่า กู้เงินไฟแนนซ์ 250,000.- บาทเพื่อชำระให้แก่บริษัทรถยนต์ ด้วยวิธีการเช่าซื้อและถูกบังคับประกัน
                การเช่าซื้อ หมายถึง รถยนต์คันดังกล่าวนี้จะถูกจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อบริษัทไฟแนนซ์  (คือไฟแนนซ์เป็นเจ้าของ) ส่วนนาย ก ผู้เช่าซื้อนั้นได้รับสิทธิ์ครอบครอง จนกว่านาย ก จะผ่อนชำระให้แก่ไฟแนนซ์จนครบถ้วนเสียก่อน จึงจะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เป็นของ นาย ก อย่างถูกต้อง
                เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ แน่นอนว่า เขาต้องบังคับให้ผู้เช่าซื้อทำประกันภัย ในระหว่างการผ่อนชำระ โดยผู้เอาประกันก็คือไฟแนนซ์ ผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์นั่นเอง
                วิธีการคิดคำนวณเงินต้นและดอกเบี้ยจากการเช่าซื้อในครั้งนี้คือ เงินต้นคูณด้วยดอกเบี้ย คูณด้วยจำนวนปีที่ต้องการผ่อนชำระ หารด้วยจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระดังนี้
               
เงินต้น 250,000.- บาท คูณด้วย ดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี (โดยประมาณ)  เท่ากับปีละ 20,000 บาท ระยะเวลาผ่อน 3 ปีเท่ากับดอกเบี้ยทั้งหมด 60,000.-บาท รวมเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดเป็นเงิน 310,000.- บาท หลังจากนั้น หารด้วยจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระคือ 36 เดือน จะได้ยอดผ่อนชำระเดือนละ 8,612.- บาท
               ในยอดผ่อนชำระรายเดือนจำนวน 8,612.- บาทนี้ มีเงินต้นอยู่ 6,945.- บาท และดอกเบี้ย 1,667.- บาท จะเห็นได้ว่าอัตราดอกเบี้ยนี้ เป็นอัตราคงที่ตั้งแต่เดือนแรกจนถึงเดือนสุดท้ายที่ผ่อนชำระ แม้จะผ่อนชำระไปแล้ว 10 เดือนก็ไม่ทำให้อัตราดอกบี้ยลดลงแต่ประการใด เนื่องจากว่าได้นำเอาดอกเบี้ยทั้งหมดไปควบรวมกับเงินต้นไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หรือกล่าวได้ว่า ต้นลดแต่ดอกไม่ลด โหดกว่าดอกเบี้ยธนาคารหลายเท่านัก
                ที่กล่าวมานี้คืออัตราการผ่อนชำระปกติโดยไม่ได้ผิดสัญญาเช่าซื้อ ที่ผู้ถามได้ฟังมาว่าถ้าไม่ผิดสัญญาก็ไม่เป็นไร แต่ที่จริงแล้วการไม่ผิดสัญญานี้มันมีทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรวมกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องฮารอม แน่นอน
                แต่หากผิดสัญญาเช่าซื้อ ก็ต้องเจอเบี้ยปรับล่าช้าอีก อย่างนี้คือ ฮารอม ซ้ำซ้อน                  
  

[ กลับไปข้างบน ]

·  คำถามที่ 11 ทองคำขาว

คำถามโดย ไม่ระบุชื่อ
 

                ผมร้อนใจมากครับอาจารย์ เถียงกับเพื่อนเกี่ยวกับทอง รบกวนอาจารย์ตอบด่วนนะครับ  เรื่องมีอยู่ว่า ผมใส่แหวนทองคำขาว เพื่อนบอกว่าใส่ไม่ได้ อิสลามห้ามผู้ชายห้ามใส่ทอง แต่ผมเคยเรียนมา ห้ามใส่ทองสีเหลืองใช่ไหมครับ แล้วทองคำขาวห้ามด้วยหรือ

 คำตอบโดยอาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้
 

                ปัญหาของผู้ถามมิได้สงสัยเรื่องทองคำ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เครื่องประดับที่เป็นทองคำนั้นอนุญาตสำหรับมุสลิมะห์ และเป็นที่ต้องห้ามสำหรับมุสลิมชาย แต่ที่สงสัยก็คือ ทองคำขาว จะเป็นที่ต้องห้ามด้วยหรือไม่

                ความจริงแล้วทองคำ (เหลือง) กับทองคำขาว เป็นแร่คนละตระกูล ซึ่งมีที่มาและมีลักษณะแตกต่างกัน โดยทองคำ (เหลือง) นั้นเป็นแร่ที่พบจากใต้ดิน ส่วนทองคำขาวนั้นไม่ทราบแหล่งกำเนิดที่แน่นอน   เพียงแต่สันนิฐานกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของอุกาบาต ที่ตกลงมาจากฟ้าดังเช่นดาวตกหรือผีพุ่งใต้ ค้นพบในแถบอัฟริกา มีชื่อเรียกเฉพาะว่า พลาตินั่ม    ลักษณะที่โดดเด่นคือสีขาวบริสุทธิ์ มีความคงทนแข็งแรง

                ชาวยุโรปได้นำ พลาตินั่มมาจากอัฟริกา โดยเอามาหลอมเป็นภาชนะ เป็นของใช้ในพระราชวัง และที่สเปนก็เคยประกาศให้ พลาตินั่มเป็นของใช้สำหรับพระราชาโดยเฉพาะ

                ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของ พลาตินั่ม ก็คือ น้ำหนักเพียงหนึ่งกรัมสามารถนำมารีดเป็นเส้นได้ยาวถึงสองเมตร ประกอบกับที่มีความขาวบริสุทธิ์คงที่ ดังนั้นพลาตินั่มจึงเป็นที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับอีกด้วย และเหตุที่เป็นของมีค่าหายากจึงทำให้ พลาตินั่ม มีราคาแพงกว่าทองคำ (เหลือง) ถึงแปดเท่า และถูกขนานนามว่า ทองคำขาว

                เมื่อทั้งสองเป็นแร่คนละชนิด มีแหล่งที่มาและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน จึงทำให้ทองคำ (เหลือง) และพลาตินั่ม หรือทองคำขาว มีหุก่มที่แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งผมเองก็ยังไม่พบว่านักวิชาการท่านใดได้นำเอาแร่ทั้งสองชนิดนี้มากิยาส (เปรียบเทียบเพื่อให้ได้หุก่มเดียวกัน) ดังนั้นผู้ชายใส่แหวนที่ตัวเรือนทำมาจากทองคำขาว จึงไม่เป็นที่ต้องห้าม       


[ กลับไปข้างบน ]










ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.28 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ