ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
ชาริค มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/04/2007 ตอบ: 276
|
ตอบ: Sat Nov 17, 2007 9:55 am ชื่อกระทู้: ขอคำตอบ |
|
|
มีคนถามผมว่า อิสลามมีคำสอนว่า โกงคนที่ไม่ใช่มุสลิมไม่บาปจริงหรือ ผมก็ไห้คำตอบไปพอเข้าใจ อยากได้คำอธิบายพร้อมหลักฐานครับอัสาน |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Nov 17, 2007 10:16 pm ชื่อกระทู้: Re: ขอคำตอบ |
|
|
ชาริค บันทึก: | มีคนถามผมว่า อิสลามมีคำสอนว่า โกงคนที่ไม่ใช่มุสลิมไม่บาปจริงหรือ ผมก็ไห้คำตอบไปพอเข้าใจ อยากได้คำอธิบายพร้อมหลักฐานครับอัสาน |
..................
อิสลามสอนให้มุสลิมดำรงไว้ซึ่งหลักเมตตาธรรมและหลักแห่งความเป็นธรรม ดังนั้น การอธรรม หรือ การฉ้อฉล การละเมิดสิทธิ ไม่ว่า กับคนหรือ สัตว์ และไม่ว่าคนๆนั้น จะนับถือศาสานาใหนก็ตาม ถือเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะ
1. ศาสนาสอนให้มุสลิมมีความเป็นธรรมต่อคนต่างศาสนา(กาเฟร)ที่ไม่ใช่กาเฟรที่เป็นคู่สงคราม
อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
لَا يَنْهَاكُمُ اللَّهُ عَنِ الَّذِينَ لَمْ يُقَاتِلُوكُمْ فِي الدِّينِ وَلَمْ يُخْرِجُوكُمْ مِنْ دِيَارِكُمْ أَنْ تَبَرُّوهُمْ وَتُقْسِطُوا إِلَيْهِمْ إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الْمُقْسِطِينَ
อัลลอฮฺมิได้ทรงห้ามพวกเจ้าเกี่ยวกับบรรดาผู้ที่มิได้ต่อต้านพวกเจ้าในเรื่องศาสนาและพวกเขามิได้ขับไล่พวกเจ้าออกจากบ้านเรือนของพวกเจ้าในการที่พวกเจ้าจะทำความดีแก่พวกเขา และให้ความยุติธรรมแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักผู้มีความยุติธรรม (*1*) - อัลมุมตะหินะฮ/8
........
(1) คืออัลลอฮฺมิได้ทรงห้ามพวกเจ้าในการที่จะทำความดีและให้ความยุติธรรมกับบรรดาผู้ที่มิได้ต่อต้านพวกเจ้าในเรื่องศาสนา และมิได้ขับไล่บรรดาสตรีและเด็ก ๆ ของพวกเจ้าออกจากบ้านเกิดเมืองนอน
2. ศาสนานาห้ามกินทรัพย์สินของผู้อื่นโดยไม่เป็นธรรม ดังที่ตรัสไว้ว่า
وَلاَ تَأْكُلُواْ أَمْوَالَكُمْ بَيْنَكُمْ بِالْبَاطِلِ وَتُدْلُواْ بِهَا إِلَى الْحُكَّامِ لِتَأْكُلُواْ فَرِيقاً مِّنْ أَمْوَالِ النَّاسِ بِالإِثْمِ وَأَنْتُمْ تَعْلَمُونَ
และพวกเจ้าจงอย่ากินทรัพย์สมบัติของพวกเจ้า ระหว่างพวกเจ้าโดยมิชอบ และจงอย่าจ่ายมัน(ให้แก่ผู้พิพากษา เพื่อที่พวกเจ้าจะได้กินส่วนหนึ่งจากทรัพย์สินสมบัติของผู้อื่น ด้วยการกระทำสิ่งที่เป็นบาปทั้งๆ ที่พวกเจ้ารู้กันอยู่ - อัลบะเกาะเราะฮ/188
.......
อายะฮข้างต้นกล่าวโดยรวม คือ การกินทรัพย์สินมนุษย์ โดยไม่เป็นธรรมไม่ว่าศาสนาใหนก็ตามถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม
3. การขโมยหรือการข่มขู่ผู้อื่นเพื่อเอาทรัพย์สิน เป็นสิ่งต้องห้าม
عن المغيرة بن شعبة أنه كان قد صحب قوماً في الجاهلية ، فقتلهم وأخذ أموالهم ، ثم جاء فأسلم ، فقال النبي صلى الله عليه وسلم " أما الإسلام أقبلُ ، وأما المال فلستُ منه في شيء
รายงานจาก อัลมุฆีเราะฮ บิน ชุอฺบะฮ ว่า เขาเคยเป็นมิตรกับชนกลุ่มหนึ่งในสมัยญาฮิลียะฮ แล้วเขาได้ฆ่าพวกนั้น และเอาทรัพย์สินของพวกเขา ต่อมา เขาได้มารับอิสลาม แล้วท่านนบี กล่าวว่า " สำหรับอิสลามนั้น ฉันรับรอง และสำหรับทรัพย์สินนั้น ฉันไม่มีส่วนจากมันแม้แต่น้อย" - รายงานโดย บุคอรี หะดิษหมายเลข 2583
ท่านหาฟีซ อิบนุหะญัร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
قولـه ( وأما المال فلستُ منه في شيءٍ ) أي : لا أتعرض له لكونه أخذه غدراً ، ويستفاد منه : أنه لا يحل أخذ أموال الكفار في حال الأمن غدراً ؛ لأن الرفقة يصطحبون على الأمانة ، والأمانة تؤدَّى إلى أهلها مسلِماً كان أو كافراً ، وأن أموال الكفار إنما تحل بالمحاربة والمغالبة ، ولعل النبي صلى الله عليه وسلم ترك المال في يده لإمكان أن يسلم قومه فيرد إليهم أموالهم
คำพูดของท่านนบีที่ว่า (และสำหรับทรัพย์สินนั้น ฉันไม่มีส่วนจากมันแม้แต่น้อย") หมายถึง ฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้น เพราะ เขาได้เอามันมาโดยทุจริต และ บทเรียนที่ได้จากหะดิษนี้คือ ไม่อนุญาตให้เอาทรัพย์สินกาเฟร ในยามที่อยู่ในภาวะสงบ (ไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม)โดยการทุจริต เพราะความเมตตาธรรมนั้น ทำให้พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างมิตร บนอะมานะฮ และอะมานะฮนั้น มันจะถูกมอบให้แก่เจ้าของของมัน ไม่ว่าเขาจะเป็นมุสลิมหรือกาเฟรก็ตาม และแท้จริงบรรดาทรัพย์สินของกาเฟรนั้น อนุญาตเฉพาะผู้ทีทำสงครามกันและผู้ที่มีชัยเท่านั้น และท่านนบี ได้ละทิ้งทรัพย์สินในมือของเขา เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่า พวกของเขาจะเข้ารับอิสลาม แล้วจะได้คืนทรัพย์สินของพวกเขา ให้แก่พวกเขา" - ฟัตหุ้ลบารีย์ 5/341
........
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|