ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
sabrina มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/10/2007 ตอบ: 13
|
ตอบ: Mon Oct 22, 2007 2:23 pm ชื่อกระทู้: การเล่นหุ้นจะเป็นบาปหรือไม่ วานผู้รู้ช่วยตอบที |
|
|
อยากจะทราบเหลือเกิน ว่าเป็นบาปหรือเปล่า และเข้าข่ายการพะนันไหม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Oct 22, 2007 2:34 pm ชื่อกระทู้: Re: การเล่นหุ้นจะเป็นบาปหรือไม่ วานผู้รู้ช่วยตอบที |
|
|
sabrina บันทึก: | อยากจะทราบเหลือเกิน ว่าเป็นบาปหรือเปล่า และเข้าข่ายการพะนันไหม |
มาดูคำตอบของ อ.มุริด ทิมะเสน
(การสรรเสริญเป็นสิทธิแด่พระองค์อัลลอฮฺ) ก่อนอื่นผมต้องขอมะอัฟ (อภัย) คุณมารียาที่ตอบคำถามของคุณช้าไปหน่อย เนื่องจากผมต้องบรรยายหลายสถานที่ กอปรกับต้องเตรียมเนื้อหาที่ต้องบรรยายจึงมิได้เข้ามาตอบในเว็บไซต์นี้เลย ต้องขออภัยจริงๆ ครับ คำถามข้อแรก ก่อนอื่นผมขอหยิบยกหะดีษของท่านรสูลุลลอฮฺที่กล่าวว่า พระองค์อัลลอฮฺทรงสาปแช่ง (หมายถึงงดความเมตตา) แก่บุคคลที่กินดอกเบี้ย, บุคคลที่ให้ดอกเบี้ย, บุคคลที่เป็นพยานเกี่ยวกับดอกเบี้ย และบุคคลที่บันทึกเกี่ยวกับดอกเบี้ย , ทั้งหมดล้วนว่ามีความผิดเท่ากัน (บันทึกโดยมุสลิม) ฉะนั้นสิ่งใดก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยถือว่าต้องห้าม (หะรอม) ทั้งสิ้น อาทิเช่น เป็นบุคคลที่ปล่อยเงินกู้, เป็นบุคคลที่ยืมสตางค์คนอื่นโดยเสียดอกเบี้ยให้แก่เขา, เป็นบุคคลที่ไม่ได้รับหรือให้ดอกเบี้ย แต่เวลามีการตกลงกันในระหว่างสองคนซึ่งเรานั่งร่วมเป็นพยานว่าเขาทั้งสองตกลงยืมสตางค์กันโดยกำหนดดอกเบี้ยไว้เท่านั้นเท่านี้ หรือไม่ใช่เป็นบุคคลที่กิน หรือให้ดอกเบี้ย อีกทั้งมิได้เป็นพยานอีกด้วย แต่เขาทำหน้าที่บันทึก,เขียนเกี่ยวกับดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น นายสมชายยืมเงินจากนายสมบูรณ์จำนวน 10,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 , ซึ่งนายสมบัติเป็นบุคคลบันทึกรายละเอียดทั้งแต่ต้นจนจบ, ตัวอย่างข้างต้นที่หยิบยกมานั้นอยู่ในข้อห้าม (หะรอม) ของศาสนาทั้งสิ้น ดังนั้นงานใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย ศาสนาไม่อนุญาตให้กระทำ ดั่งที่คุณมารียาถามมานั้นก็ถือว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยชัดเจนครับ ผมขอแนะนำ ให้คุณมาริยาไปสมัครงานที่อื่นทิ้งไว้ หากได้งานที่เราสมัครทิ้งไว้ ก็ให้ลาออกจากที่ทำงานแห่งนั้น จากนั้นให้ขอลุแก่โทษ (เตาบะฮฺ) ต่อพระองค์อัลลอฮฺในสิ่งที่เราเคยกระทำความผิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ คำถามที่สอง การเล่นหุ้นในอิสลามอนุญาตให้เล่นหุ้นได้ในกรณีที่กิจการที่ทำนั้นหะลาลตามหลักการของศาสนา สอง ต้องไม่พัวพันกับดอกเบี้ย สาม การร่วมหุ้นต้องมีเงื่อนไขอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น มีการร่วมหุ้นทำกิจการปลากระป๋อง โดยมีหนึ่งพันหุ้น (สมมติว่า) ผลกำไรแบ่งเท่าๆ กัน การร่วมหุ้นเช่นนี้ หรือลักษณะใกล้เคียงจากตัวอย่างข้างต้น ถือว่าอนุญาต ส่วนกรณีที่ถามถึงการเล่นหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ในลักษณะที่มีการเก็งกำไร เช่นนี้ศาสนาไม่อนุญาต เพราะถือว่าคล้ายกับการเล่นการพนัน, ส่วนการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่มีลักษณะการลงทุน ก็ต้องมีเงื่อนไขที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจึงจะอนุญาตให้เล่นหุ้นนะครับ (วัลลอฮุอะอฺลัมบิศเศาะวาบ) วัสสลาม
http://www.mureed.com/mr_talk/b_sele.asp |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sabrina มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/10/2007 ตอบ: 13
|
ตอบ: Mon Oct 22, 2007 6:05 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ที่ ปากิสตาน มาเลเซีย และประเทสมุสลิมในตะวันออกกลาง มี ตลาดหุ้นทั้งนั้น ผู้บริหารก็เป็นมุสลิม
หุ้นก็มีหุ้นธนาคาร ทั้งธนาคารต่างประเทศที่มีดอกเบี้ยและธนาคารอิสลาม
เมื่อเป็นดังนี้ทำไมจึงมีตลาดหุ้นในประเทศมุสลิม
อยากจะให้ตอบตรง ๆว่า มุลลิมเล่นหุ้นได้หรือไม่ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sabrina มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/10/2007 ตอบ: 13
|
ตอบ: Mon Oct 22, 2007 6:10 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ที่บอกว่า ส่วนกรณีที่ถามถึงการเล่นหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ในลักษณะที่มีการเก็งกำไร เช่นนี้ศาสนาไม่อนุญาต
การเก็งกำไร หมายความว่ากำไร แปลว่าอยากได้กำไรได้ไหม
การทำการค้า ก็เป็นการอยากได้กำไร ทำไมต้องไปว่าเป็นการเก็งกำไรด้วย
อย่างขายเงาะ กิโลละ 20 บาท ก็เก็งไว้อยากจะได้กำไร เอาไปขาย 21 บาท 22 บาท บ้างเมื่อคนมาซื้อไม่ตอแยราคา อย่างนี้ผิดอีกหรือเปล่า เพราะเก็งเอากำไรมากเกินไป |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Oct 22, 2007 9:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอแนะนำบทความ ให้คุณsabrina อ่าน หวังว่าคงได้รับคำตอบนะครับ
แปลโดย : บรรจง บินกาซัน
ถาม การค้าหุ้นเป็นที่อนุมัติหรือไม่ในอิสลาม ?
ตอบ
ดร.มุนซิร คอฮ์ฟ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินอิสลามกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
?หุ้น (Stock/Share) โดยพื้นฐานแล้วมีสองประเภทด้วยกัน นั่นคือหุ้นทั่วไปและหุ้นบุริมสิทธิ์ ถ้าเป็นหุ้นบุริมสิทธิ์ในทางการเงิน เช่น หุ้นที่ได้รับหลักประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ ได้รับการจ่ายคืนเป็นเงินสดก่อนคนอื่นในตอนเลิกกิจการ หุ้นประเภทนี้ถือเป็นที่ต้องห้ามเพราะเจ้าของทุนบริษัทจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน อิสลามห้ามออก ซื้อขายและเป็นเจ้าของหุ้นประเภทนี้
หุ้นสามัญทั่วไปไม่เป็นที่ต้องห้ามจากทัศนะดังกล่าว แต่ในอีกมุมหนึ่ง หุ้นอาจเป็นของบริษัทที่ตั้งขึ้นมาดำเนินกิจการที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายอิสลาม เช่น ธนาคารอิสลาม เป็นต้น หุ้นประเภทนี้เป็นที่อนุญาตให้ซื้อขายหรือเป็นเจ้าของได้ ส่วนหุ้นของบริษัทที่ธุรกิจหลักหรือธุรกิจส่วนใหญ่เป็นที่ต้องห้าม เช่น ธนาคารระบบดอกเบี้ยหรือบริษัทที่ประกอบกิจการทางด้านบันเทิงและการพนันอย่างลาสเวกัส หรือเป็นของบริษัทที่ธุรกิจหลักหรือธุรกิจส่วนใหญ่เป็นที่อนุญาต แต่หนังสือบริคนธ์สนธิอนุญาตให้ดำเนินกิจการที่ต้องห้ามตามกฎหมายอิสลามและบริษัทก็ทำกิจการต้องห้ามนั้นจริงๆ อย่างเช่น หุ้นของบริษัทไมโครซอฟท์ อินเทล โซนี เจเนอรัลมอเตอร์ หุ้นประเภทนี้เป็นที่ต้องห้ามตามหลักการอิสลาม
แต่มีหุ้นอีกประเภทหนึ่งที่ค่อนข้างจะยุ่งยากและต้องการรายละเอียดบางอย่าง เราทราบกันดีแล้วว่าอิสลามห้ามมุสลิมตั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต้องห้าม ดังนั้น อิสลามจึงห้ามออกหุ้นขายแก่ประชาชนและห้ามประชาชนซื้อหรือเป็นเจ้าของด้วย เพราะการทำเช่นนั้นก็เท่ากับเจ้าของหุ้นได้กลายเป็นหุ้นส่วนในบริษัทที่คณะกรรมการบริษัทดำเนินกิจการต้องห้ามแทนเจ้าของหุ้นในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้แทนที่ได้รับการแต่งตั้ง พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคณะกรรมการบริษัทเป็นตัวแทนของคุณในการทำกิจการต้องห้าม
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีประเด็นสำคัญสองประการที่จะต้องพิจารณา ประเด็นแรกคือ ถ้าใครซื้อหุ้นเช่นนั้นด้วยเจตนา (และมีความสามารถ)ที่จะเปลี่ยนบริษัทนั้นให้หันมาดำเนินกิจการที่ถูกต้อง (ฮะลาล) โดยการเข้าไปมีเสียงส่วนใหญ๋ในคณะกรรมการหรือที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น การซื้อหุ้นในกรณีเช่นนี้ก็ถือเป็นที่อนุมัติเพราะว่ามันจะช่วยลดสิ่งต้องห้าม (ฮะรอม)ในโลกถึงแม้ว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงจะต้องใช้เวลาหลายเดือนหรืออาจเป็นปีหรือสองปีก็ตาม ประเด็นที่สอง (ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ถามมากกว่า) ก็คือ การซื้อและการเป็นเจ้าของหุ้นในฐานะผู้ลงทุนรายเล็กและเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเพื่อที่จะได้รับผลกำไรจากการขายหุ้นและจากเงินปันผลนั้น นักวิชาการมุสลิมกลุ่มน้อยให้เหตุผลว่าหุ้นประเภทนี้อาจซื้อหรือเป็นเจ้าของเพื่อเป็นการลงทุนได้ภายในเงื่อนไขบางอย่างที่สามารถสรุปได้อย่างแน่ใจว่ากิจการต้องห้ามของบริษัทนั้นจะต้องไม่ใช่กิจการส่วนใหญ่ของบริษัท เงื่อนไขดังกล่าวนี้รวมถึงบริษัทจะต้องไม่มีสัดส่วนของหนี้สิน/สินทรัพย์สูง กล่าวคือ บริษัทจะต้องไม่อยู่ได้ด้วยเงินกู้ จะต้องไม่หารายได้ส่วนใหญ่จากดอกเบี้ย จะต้องไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ทำลายผลประโยชน์ของมุสลิม เช่น การผลิตและการขายอาวุธที่มาโจมตีมุสลิม
โดยอาศัยเงื่อนไขดังกล่าวมา ดาวโจนส์ได้ร่วมกับนักวิชาการมุสลิมทำการศึกษาหุ้นที่จดทะเบียนและได้ลำดับรายชื่อของบริษัทเหล่านั้นไว้ภายใต้ชื่อ ?ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อิสลามดาวโจนส์? (Islamic Market Dow Jones Index)
http://www.muslimthai.com/main/thai/network.php?url=http://www.thaimuslimshop.com |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|