hameedah มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/09/2005 ตอบ: 4
|
ตอบ: Mon Sep 19, 2005 8:02 pm ชื่อกระทู้: มนุษย์ในวันฟื้นคืนชีพ |
|
|
ในคัมภีร์กุรอานมีการนำอุทธาหรณ์ของคนกลุ่มหนึ่งที่นอนหลับอยู่ในถ้ำเป็นเวลา 300 ปีและตื่นขึ้นมาโดยคิดว่าตัวเองหลับไปเพียงไม่สองสามชั่วโมง ดังนั้น พวกเขาจึงให้ใครคนหนึ่งนำเงินออกไปซื้อของมากิน แต่เมื่อออกจากถ้าไปถึงตลาด เขาก็พบว่าเหรียญเงินที่พวกเขามีอยู่นั้นล้าสมัยไปแล้วโดยที่พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย
สภาพดังกล่าวนี้ก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากสภาพของมนุษย์ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ มนุษย์แต่ละคนจะคิดว่าตัวเองหลับไปชั่วครูหนึ่งและจะถกเถียงกันเพราะความไม่แน่ใจ คัมภีร์กุรอานได้พูดถึงสภาพดังกล่าวไว้ว่า : และในวันที่ยามนั้นเกิดขึ้น ผู้ทำความผิดทั้งหลายจะสาบานว่าพวกเขาพักอยู่เพียงชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น นั่นแหละที่พวกเขาคิดผิด แต่บรรดาผู้ที่ได้รับความรู้และความศรัทธาจะกล่าวว่า
ความจริงแล้ว พวกท่านได้พำนักอยู่ตามกำหนดของอัลลอฮฺจนกระทั่งวันแห่งการฟื้นคืนชีพ นี่เป็นวันแห่งการฟื้นคืนชีพแล้ว แต่พวกท่านไม่รู้ (กุรอาน 30:55-56)
ดังนั้น มนุษย์จะอยู่ในภาพลวงตาว่าพวกเขายังคงอยู่ในโลกนี้ แต่ความน่าสะพรึงกลัวของวันนั้นจะตัดความสัมพันธ์และความเกี่ยวดองกันทั้งหมดของมนุษย์ออกไปจนหมดสิ้น
หลังจากนั้น ผู้ใดที่ตราชูของเขามีน้ำหนัก พวกเขาก็เป็นผู้ประสบความสำเร็จ (กุรอาน 23:102)
คนผู้หนึ่งอาจจะเห็นเพื่อนรักของเขา แต่เขาก็จะไม่พูดกับเพื่อนและเพื่อนก็จะไม่พูดกับเขา แต่ละคนจะสาละวนอยู่กับตัวเอง เขาจะหนีออกจากพี่น้อง พ่อแม่ ภรรยาและลูกๆของเขา ความจริงแล้ว เขาจะเอาพี่น้อง พ่อแม่และลูกๆของเขาเป็นค่าไถ่โทษของเขาเสียด้วยซ้ำถ้าหากว่าในวันนั้นเปิดให้มีการไถ่โทษ มนุษย์จะถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในสภาพเช่นนั้นจนกระทั่งถึงวันที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกนำมารวมกัน
มนุษย์ทุกคนเริ่มตั้งแต่อาดัมไปจนกระทั่งมนุษย์คนสุดท้าย ทั้งคนที่นอนตายอยู่บนเตียง จมน้ำตายในทะเล ถูกสัตว์ร้ายกัดกินตายเพราะเครื่องบินตกหรือถูกเผาในกองไฟจนกลายเป็นเถ้าถ่าน ทั้งหมดจะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้งหนึ่งโดยอัลลอฮฺผู้ทรงสร้างเขามาจากที่ไม่มีอะไร พระองค์จะรวมพวกเขาไว้ด้วยกันกับพวกญิน ชัยฏอนและสัตว์ร้าย บรรดาผู้ปฏิเสธจะรีบวิ่งไปยังผู้ที่เรียกพวกเขาพร้อมกับกล่าวว่า
นี่เป็นวันที่ยากลำบาก
หลังจากนั้น อัลลอฮฺก็จะทรงบัญชาให้นรกปรากฏขึ้นไกลๆเพื่อให้มนุษย์ได้เห็นและพระองค์จะทรงกล่าวว่า :
โอ้ลูกหลานของอาดัม ฉันมิได้บัญชาสูเจ้าหรือว่าอย่าได้เคารพภักดีมารร้าย เพราะมันเป็นศัตรูตัวฉกาจของสูเจ้า แต่จงเคารพภักดี ? นี่คือแนวทางที่ถูกต้อง แต่มันได้ทำให้สูเจ้าจำนวนมากหลงผิด แล้วสูเจ้ายังไม่คิดอีกหรือ ? นี่คือนรกที่สูเจ้าได้ถูกสัญญาไว้ (ถ้าหากสูเจ้าปฏิบัติตามมัน) (กุรอาน 36:60-63)
และผู้ทำความผิดจะถูกพระพระผู้อภิบาลของเราสั่งให้ยืนห่างกันเพื่อที่จะได้รู้ว่าใครเป็นใครและในเวลานั้นผู้ทำผิดทุกคนก็ไม่อยากที่จะเกิดเป็นมนุษย์ เขาจะกล่าวว่า โอย ถ้าอย่างนี้ฉันเป็นฝุ่นธุลีเสียได้ก็จะดี (กุรอาน 78:40)
หลังจากนั้น อัลลอฮฺก็จะส่งบรรดาผู้ไม่ศรัทธาพร้อมกับพวกญินและชัยฏอนที่พวกเขาถือว่าเป็นพระเจ้าและเคารพบูชามัน เช่น เซอุสและอะโฟรไดท์ของพวกกรีก จูปิเตอร์และวีนัสของพวกโรมัน ฮุรมุซและอะเฮรมานของชาวเปอร์เซีย ฮะบีของชาวอียิปต์ บาลของชาวโฟนีเซีย ลาตและอุซซาของชาวอาหรับ พวกเขาตั้งสิ่งเหล่านี้ขึ้นเป็นหุ้นส่วนของอัลลอฮฺ พวกกรีกและโรมันได้ตั้งเทพเจ้าต่างๆขึ้นเพื่อสิ่งต่างๆ เช่น อพอลโล เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์และศิลปะ บาชูส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น ไดอานาหรืออาร์เธมีส เทพเจ้าหญิงแห่งปัญญาและเนปจูนเทพเจ้าแห่งทะเล
อัลลอฮฺจะบอกพวกเขาว่า : จงเรียกหุ้นส่วนของฉันที่สูเจ้ากล่าวอ้างมา แล้วพวกเขาก็ร้องเรียกหาพวกมัน แต่พวกมันไม่ได้ยินเสียงเรียกร้องของพวกเขา และเราได้กำหนดให้มีช่องแห่งความพินาศระหว่างพวกมัน (กุรอาน 18:52) และอัลลอฮฺทรงกล่าวว่า เกิดอะไรขึ้นกับสูเจ้าล่ะ ทำไมถึงไม่ช่วยเหลือกัน ? (กุรอาน 37:25)
คนอ่อนแอจะมองไปยังคนที่มีอำนาจและคนที่แต่งตั้งตัวเองเป็นผู้นำและผู้คุ้มครองผู้คนและชักนำพวกเขาไปสู่การเคารพบูชาเทวรูป ในยามวิกฤตนั้น บรรดาผู้ถูกชักนำให้หลงผิดจะถามผู้นำของพวกเขาว่า :เราเป็นผู้ปฏิบัติตามท่าน พวกท่านจะช่วยเราให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮฺได้ไหม? (กุรอาน 14:21)
แต่พวกผู้นำเหล่านั้นไม่มีคำตอบนอกจากจะพูดอย่างไม่เต็มปากเต็มคำโดยสารภาพว่าไม่สามารถที่จะช่วยคนที่พวกเขาชักนำให้หลงผิดหรือแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่สามารถที่จะช่วยได้ ดังนั้น ทั้งหมดจึงยืนคอตกยอมจำนนด้วยความสิ้นหวังต่อหน้าพระผู้อภิบาล วิหารที่ประดิษฐานเทวรูปบูชาทั้งหลายก็จะถูกทำลาย ผูนำจอมปลอมก็จะถูกลบล้าง ความผูกพันระหว่างบรรดาผู้ปฏิเสธพระเจ้าและวัตถุบูชาทั้งหลายก็จะหมดสิ้น สิ่งที่ผู้คนเคารพบูชาก็จะแก้ตัวโดยโยนความผิดไปให้แก่ผู้ที่เคารพบูชามันและชัยฏอนเองก็จะยอมรับว่ามันทรยศต่อผู้ปฏิบัติตามมัน : และเมื่อทุกสิ่งได้ถูกตัดสิน ชัยฏอนจะกล่าวว่า จงระวังให้ดี อัลลอฮฺได้ทรงสัญญาไว้กับพวกท่านถึงสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นจริง ฉันก็เช่นกันที่ให้สัญญาพวกท่าน แต่ฉันหลอกลวงพวกท่าน (กุรอาน 14:22)
ชัยฏอนจะปัดความรับผิดชอบและจะโยนความผิดไปให้แก่ผู้ปฏิบัติตามมัน มันจะเปิดเผยว่ามันไม่สามารถที่จะทำอะไรได้นอกไปจากการเผยแพร่ความคิดที่ชั่วร้ายและล่อลวงผู้คนเท่านั้น และมันจะบอกว่า ฉันไม่มีอำนาจใดๆเหนือพวกท่านนอกจากเรียกร้องเชิญชวนพวกท่าน และพวกท่านก็ตอบสนองฉัน ดังนั้น พวกท่านอย่าได้ประณามฉัน แต่จงประณามตัวท่านเอง (กุรอาน 14:22)
|
|