ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
city มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 18/08/2012 ตอบ: 8
|
ตอบ: Thu Aug 23, 2012 11:45 am ชื่อกระทู้: ละหมาดตัสเบี๊ยะ |
|
|
การละหมาดตัสเบี๊ยะฮฺนั้น มีแบบอย่างจากท่านนบีหรือไม่ครับ แล้วจากคำกล่าวที่ว่า อย่างน้อยต้องละหมาด1คร้งในชีวิต ไม่ทราบว่าคำกล่าวนี้เท็จจริงแค่ไหนค่ะ เห็นที่กระบี่เขาชอบละหมาดกันทุกปีครับหลังบวช หกวัน แต่คนที่ทำก็มีหลักฐานแต่ไม่ทราบว่าซอแฮะหรือเปล่า |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
city มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 18/08/2012 ตอบ: 8
|
ตอบ: Thu Aug 23, 2012 11:47 am ชื่อกระทู้: หลักฐานนี้ถูกต้องหรือเปล่า |
|
|
ละหมาดตัซเบียะห์เป็นละหมาดสุนัตชนิดหนึ่งที่มีภาคผลบุญยอดเยี่ยม มีฮะดิซจากท่านน่าบี ซล. ได้กล่าวกับลุงของท่านคืออับบาส อิบนิอับดุลมุตตอลิบว่า
ฉันจะให้ท่านด้วยสิ่งหนึ่งซึ่งเมื่อท่านได้ปฏิบัติแล้วอัลเลาะห์ ซ.บ. จะให้อภัยแก่ท่านในบาปกรรมของท่านทั้งบาปเก่าและใหม่ ทั้งบาปที่ทำซ่อนเร้นและเปิดเผย ทั้งบาปเล็กและใหญ่ สิ่งนั้นคือท่านจงทำละหมาดตัซเบียะห์ หากท่านสามารถปฏิบัติได้ทุกวันก็จงกระทำเถิด หากไม่สามารถก็จงกระทำทุกศุกร์ (คือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง) หากยังไม่สามารถก็จงกระทำเดือนละครั้ง หากยังไม่สามารถก็จงกระทำปีละครั้ง หากยังไม่สามารถ ก็ให้ทำสัก 1 ครั้ง ในชั่วชีวิตที่อยู่
ละหมาดตัซเบียะห์มี 4 ร่อกะอัต ถ้าละหมาดกลางวันให้ละหมาด 4 ร่อกะอัตติดต่อกันแล้วให้สลาม ถ้าละหมาดกลางคืน ให้ละหมาด 2 ร่อกะอัตแล้วให้สลามแล้วจึงละหมาดอีก 2 ร่อกะอัตและให้สลามอีกครั้งหนี่ง
เนื่องจากเป็นการละหมาดที่ต้องมีคำอ่านมากกว่าปกติจำเป็นต้องใช้สมาธิมาก ดังนั้นจึงควรละหมาดกลางคืนเวลาที่สงบเงียบ โดยละหมาด 2 ร่อกะอัต ต่อหนึ่งสลาม ทำ 2 ครั้ง รวม 4 ร่อกะอัต
วิธีละหมาดตัซเบียะห์ ปฏิบัติดังนี้
1. อ่านนำว่า
อ่านว่า " อู้ซ้อลลี ซุนน่าตั๊ดตัซเบียะห์ ร๊อกอาตัยนี่ ลิ้ลลาฮีต้าอาลา "
เนียตว่า ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตตัซเบียะห์ 2 ร่อกะอัต เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
2. เนียต ตักบีร์ และอ่านฟาติฮะห์เหมือนละหมาดธรรมดา
3. หลังจากอ่านฟาติฮะห์แล้ว ใน 2 ร่อกะอัตแรก ร่อกะอัตที่ 1 ให้อ่านซูเราะห์ อัตตะกาซุร ร่อกะอัตที่ 2 ให้อ่านซูเราะห์ อัลอัสริ
4. ใน 2 ร่อกะอัตหลัง ร่อกะอัตที่ 1 ให้อ่าน กุ้ลยาอัยยู่ฮั้ลกาฟีรูน ร่อกะอัตที่ 2 ให้อ่าน กุ้ลฮู่วัลลอฮู่อะฮัด
5. ในสองร่อกะอัตแรก เมื่ออ่านฟาติฮะห์ และซูเราะห์ในร่อกะอัตที่หนึ่งแล้ว ให้อ่านตัซเบียะห์นี้ 15 ครั้ง คือ
ซุบฮานั้ลลอฮี่ วั้ลฮัมดู้ลิ้ลลาฮี่ ว่าลาอี้ลาฮ่า อิ้ลลั้ลลอฮู่ วั้ลลอฮู่อั๊กบัร ว่าลาเฮาล่า ว่าลากู้ว่าต้าอิ้ลลาบิ้ลลาฮิ้ลอาลียิ้ลอาซีม
หลังจากนั้นจึงก้มรู่กัวะอ์ อ่านเหมือนที่อ่านละหมาดประจำคือ ซุบฮาน่าร๊อบบี้ยั้ลอ้าซีม ว่าบี้ฮัมดิ้ฮี 3 ครั้ง แล้วจึงอ่านตัซเบียะห์ตามข้อ 5 อีก 10 ครั้ง
แล้วเงยขึ้นยืนอ่าน ซ่ามีอัลลอ...เหมือนที่เคยอ่าน แล้วจึงอ่านตัซเบียะห์นีอีก 10 ครั้ง
แล้วจึงก้มสุญูด อ่านตัซเบียะห์เหมือนเคย 3 ครั้ง แล้วจึงอ่านตัซเบียะห์อีก 10 ครั้ง
แล้วจึงนั่งระหว่าง 2 สุญู อ่านเช่นเคย แล้วจึงอ่านตัซเบียะห์อีก 10 ครั้ง
แล้วจึงสุญูดครั้ง 2 อ่านเหมือนเดิม 3 ครั้ง แล้วจึงอ่านตัซเบียะห์อีก 10 ครั้ง
หลังจากสุญูดครั้งที่ 2 แล้วจึงนั่งอีกอ่านตัซเบียะห์นี้อีก 10 ครั้งแล้วจึงยืนขึ้นเพื่อทำร่อกะอัตที่ 2 ต่อไป
ดังนั้นในร่อกะอัตที่ 1 นี้ จึงอ่านตัซเบียะห์นี้รวมทั้งหมด 75 ครั้ง
12. ในร่อกะอัตที่ 2 ก็ปฏิบัติเหมือนร่อกะอัตที่ 1 โดยเมื่อสุญูดครั้งที่ 2 แล้วจึงนั่งตะฮียัด ก่อนอ่านตะฮียัด ให้อ่านตัซเบียะห์ นี้ 10 ครั้ง แล้วจึงอ่านตะฮียัด เหมือนการละหมาดประจำ หลังจากนั้นจึงให้สลาม
รวมการอ่านตัซเบียะห์ทั้ง 2 ร่อกะอัตเป็นจำนวนทั้งสิ้น 150 ครั้ง
ต่อจากนั้นจึงลุกขึ้นยืนละหมาดตัซเบียะห์อีก 2 ร่อกะอัต โดยปฏิบัติเหมือนกับ 2 ร่อกะอัตแรก จนครบ 4 ร่อกะอัต รวมอ่านตัซเบียะห์ 300 ครั้ง
สำหรับผู้ที่อ่านตัซเบียะห์ไม่ครบถ้วนเพราะความหลงลืมให้เขาอ่านเพิ่มเติมส่วนที่ขาดไปในระหว่างละหมาด จะอ่านตอนไหนก็ได้ จนครบ 300 ครั้งก่อนให้สลาม
เมื่อละหมาดครบ 4 ร่อกะอัตแล้ว ควรอ่านดุอาด้วยก็จะดียิ่งขึ้น
หรือจะอ่านดุอาเหล่านี้ก็จะเป็นการสมควรยิ่งคืออ่าน
อ่านว่า " ยาอัลเลาะห์ ยาเราะห์มาน ยาร่อฮีม ยาฮัยยู่ ยาก็อยยูม ยาซั้ลย่าลาลี่ วั๊ลอิ๊กรอม "
อ่านอีก 5 ครั้ง คือ
อ่านว่า " ยาอะฮ์ลัตตั๊กวา ว่าอะฮ์ลั้ลเม้าฆ์ฟีร่อตี้ ยาซากี้ รอซฺซากี้รีน ตุ๊บอ้าลัยย่า เตาบาตันน่าซูฮา ว่าชิดนี บี้ฟัดลี่ เราะห์ม่าตี้ก้านูร็อน ว่าซฺฮูร็อน ว่าวู้ฎฮัน ยาอัรฺฮ่ามัรฺ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
city มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 18/08/2012 ตอบ: 8
|
ตอบ: Thu Aug 23, 2012 11:48 am ชื่อกระทู้: |
|
|
นบีเคยละหมาดบ้างหรือเปล่าครับละหมาดตัสเบี๊ยะ ตลอดชีวิตของท่าน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
abdooh มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 08/06/2012 ตอบ: 188
|
ตอบ: Wed Sep 26, 2012 7:26 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมขออนุญาตถ่ายทอดจากลิงก์ที่คุณอะสันระบุไว้ให้ครับ
ธนวิทย์
มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 09/10/2007
ตอบ: 51
ตอบ: Sat Oct 20, 2007 11:04 am ชื่อกระทู้: ละหมาด ตัสเบี๊ยะฮ์
ละหมาดตัสเบี๊ยะฮ์ เนี่ยะมีหรือป่าวตามหลักซุนน่ะหรือว่าเปนบิดอ่ะ
ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 2364
ตอบ: Sat Oct 20, 2007 1:05 pm ชื่อกระทู้: Re: ละหมาด ตัสเบี๊ยะฮ์
ธนวิทย์ บันทึก:
ละหมาดตัสเบี๊ยะฮ์ เนี่ยะมีหรือป่าวตามหลักซุนน่ะหรือว่าเปนบิดอ่ะ
ขอบคุณครับ
หะดิษที่เกี่ยวกับการละหมาดตัสเบียะนั้น เฎาะอีฟครับ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
وأما صلاة التسبيح فالصواب أنها ليست بسنة بل هي بدعة، والحديث الذي ذكرت عنها في سؤالك غير صحيح، قال الإمام أحمد رحمه الله -لا تعجبني صلاة التسبيح، قيل لم؟ قال ليس فيها شيء يصح، ونفض يده كالمنكر، وقال النوويحديثها ضعيف، وفيها تغيير لنظم الصلاة المعروفة، وقال العقيلي ليس فيها حديث يثبت، وقال أبو بكر ابن العربي ليس فيها حديث صحيح ولا حسن
และสำหรับการละหมาดตัสเบียะนั้น ที่ถูกต้อง มันไม่ใช่สุนนะฮ แต่ทว่า มันเป็นบิดอะฮ และหะดิษที่ท่านได้ระบุในคำถามของท่าน นั้น ไม่เศาะเฮียะ อิหม่ามอะหมัด ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้กล่าวว่า "การละหมาดตัสเบียะ ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าภูมิใจ " มีผู้ถามว่า "ทำไมหรือ? ท่านกล่าวว่า "ในนั้นไม่มีหะดิษเศาะเฮียะเลย และท่านได้สะบัดมือของท่าน เหมือนกับว่า มันเป็นสิ่งต้องห้าม และอิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวว่า หะดิษของมัน เฎาะอีฟ และในนั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงระเบียบการละหมาดที่เป็นที่รู้กัน และอัลอุกอยลีย์กล่าวว่า ในมัน(ละหมาดตัสเบียะ) ไม่มีหะดิษที่มั่นคง และอบูบักร อิบนุอะเราบีย์ กล่าวว่า " ในมัน ไม่มีหะดิษเศาะเฮียะ และไม่มีหะดิษหะซัน
..........
ฟะตะวา อิบนุอุษัยมีน เล่ม 14
http://www.al-eman.com/Islamlib/viewchp.asp?BID=353&CID=327#s23
กลับไปข้างบน
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 2364
ตอบ: Sat Oct 20, 2007 1:47 pm ชื่อกระทู้:
ليس في صلاة التسبيح حديث يثبت... والحق أن طرقه كلها ضعيفة، وإن كان حديث ابن عباس يقرب من شرط الحسن
ในการละหมาดตัสเบียะนั้น ไม่มีหะดิษที่มั่นคง และที่ถูกต้องนั้น สายรายงานของมันทั้งหมด เฎาะอีฟ แม้ปรากฏว่า หะดิษอิบนุอับบาส จะใกล้เคียงกับเงื่อนไขของหะดิษหะซัน(หะดิษที่อยู่ในระดับดี)ก็ตาม - ดู ตัลคีศุลหะบีร เล่ม 2 หน้า 482
กลับไปข้างบน
bashir
มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2007
ตอบ: 28
ตอบ: Sat Oct 20, 2007 11:07 pm ชื่อกระทู้:
ละหมาดตัสบีฮฺในมัสฮับชาฟิอีนั้นถือว่าสุนนะ
ในบุชรอกะรีมถือว่าหะดีษที่สอนลุงของท่าน อับบาสนั้นเป็นหะดีษที่หะสัน
ท่าน ตาจ สุบกีได้กล่าว่าไม่มีใครที่ได้ยินความยิ่งใหญ่ถึงผลบุญของมัน(ละหมาดตัสบีฮฺ)
และทิ้งมัน เว้นแต่ว่าเป็นผู้ที่เพิดเฉยต่อศาสนา
กลับไปข้างบน
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 2364
ตอบ: Sun Oct 21, 2007 2:38 am ชื่อกระทู้:
bashir บันทึก:
ละหมาดตัสบีฮฺในมัสฮับชาฟิอีนั้นถือว่าสุนนะ
ในบุชรอกะรีมถือว่าหะดีษที่สอนลุงของท่าน อับบาสนั้นเป็นหะดีษที่หะสัน
แต่ว่าท่านอิหม่ามนะวาวีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) ได้กล่าวไว้ในชัรหุลมุหัซซับว่า
وفي هذا الاستحباب نظر ; لأن حديثها ضعيف , وفيها تغيير لنظم الصلاة المعروف , فينبغي ألا يفعل بغير حديث , وليس حديثها بثابت
และในการอ้างว่ามันเป็นสุนัตนี้ในทัศนะของข้าพเจ้า ต้องพิจารณา เพราะว่า หะดิษของมันอ่อน และในนั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการละหมาดที่เป็นที่รู้จักกัน ดังนั้นจึงไม่สมควรปฏิบัติ ด้วยอื่นจากหะดิษ และหะดิษของมันนั้น ไม่แน่นอน - ดู ชัรหุมุหัซซับ เล่ม 3 หน้า 547
และท่านได้กล่าวไว้อีกว่า
وقد قال العقيلي : ليس في صلاة التسبيح حديث يثبت , وكذا ذكر أبو بكر بن العربي وآخرون , أنه ليس فيه حديث صحيح ولا حسن
และแท้จริง อัลอุกัยลีย์ กล่าวว่า "ในละหมาดตัสเบียะนั้น ไม่มีหะดิษที่แน่นอน และในทำนองเดียวกัน อบูบักร บิน อัลอัรบีย์และบรรดาคนอื่นๆ ระบุว่า ไม่มีหะดิษเศาะเฮียะและหะดิษหะซันในมัน(ในเรื่องละหมาดตัสเบียะ" - ชัรหุมุหัซซับ เล่ม 3 หน้า 547
bashir บันทึก:
ท่าน ตาจ สุบกีได้กล่าว่าไม่มีใครที่ได้ยินความยิ่งใหญ่ถึงผลบุญของมัน(ละหมาดตัสบีฮฺ)
และทิ้งมัน เว้นแต่ว่าเป็นผู้ที่เพิดเฉยต่อศาสนา
มันเว่อไปหรือเปล่า เพราะหะดิษนี้มีการขัดแย้งกันมากในบรรดาวิชาการ มาดูรายละเอียดข้างล่าง
1- الوضعฝ่ายทีว่าเป็นหะดิษปลอม)
ابن الجوزى, ابن تيمية فى منهاج السنة, ابن عبد الهادي, سراج الدين القزويني, الشوكاني فى السيل الجرار و تحفة الواعظين.
2- التضعيفฝ่ายที่ว่าเป็นหะดิษเฏาะอีฟ)
الترمذى, العقيلي, أبو بكر بن العربي فى العارضة, النووى فى شرح المهذب, الذهبي فى الميزان, ابن حجر فى تلخيص التحبير.
3- التحسينฝ่ายที่ว่าเป็นหะดิษหะซัน)
البغوي, المنذري, ابن الصلاح, النووي تهذيب الأسماء و اللغات و فى الأذكار, تقى الدين السبكي, وولده تاج الدين, و ابن حجر فى أمالى الظاذكار و فى الخصال المكفرة, و السيوطي فى المرقاة.
و للإمام مسلمكلام يشعر بتحسينه له.
4- التصحيحฝ่ายที่ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ)
ابن المبارك, أبو داود, الحاكم, ابن منده, الخطيب البغدادي, أبو بكر بن أبي داود, أبو على بن السكن, الآجري, أبو موسى المديني, الديلمي, أبو سعد السمعاني, أبو الحسن بن المفضل, أبو محمد عبد الرحيم المصري, البلقيني, العلائي, الزركشى, ابن ناصر الدين الدمشقى, ابن حجر العسقلاني, السيوطى, الزبيدي, البيهقي, أبو الحسن المقدسي, ابن شاهين, ابن الصلاح, أبو الحسن السندي, اللكنوى, المباركفوري.
و من المعاصرين و محدث ديار الشام الألباني و العلامة أحمد شاكر
و الإمام احمد وثق المستمر و حديث الثقة صحيح
.........
หะดิษเกี่ยวกับละหมาดตัสเบียะ มีการขัดแย้งกันในการให้น้ำหนักหะดิษ ดูรายละเอียดข้างล่างนี้
http://www.ahlalhdeeth.com/vb/showthread.php?t=18170
เพราะฉะนั้นที่อ้างว่า ใครทิ้งละหมาดตัสเบียะ เป็นผู้เพิกเฉยต่อศาสนา เป็นคำพูดที่ เว่อไป และไร้น้ำหนัก
กลับไปข้างบน
bashir
มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2007
ตอบ: 28
ตอบ: Sun Oct 21, 2007 5:46 am ชื่อกระทู้:
ยะซากัลลอฮุคอยรอน ครับบัง
ผม อับดุฮ์ มีข้อสงสัยครับ
................ คุณอะสันยังสงสัยอีกหรือว่า ท่านนบีซ.ล.เคยละหมาดตัสบีห์หรือไม่ ...ทั้งที่หะดีษนั้นซอเหี๊ยะห์ตามการตัดสินของนักวิชาการหะดีษจำนวนมาก ซึ่งเชคอัลบานีก็ตัดสินว่าซอเหี๊ยะห์
................ อะไรคือวิธีคิดของคุณอะสันในการเลือกว่า การตัดสินของนักวิชาการหะดีษท่านใดมีน้ำหนักมากกว่า ผมหวังว่าคุณคงไม่เลือกเอาเฉพาะที่ชอบนะครับ
............... หะดีษที่บ่งถึงเรื่องละหมาดตัสบีห์ เป็นหะดีษที่มีการขัดแย้งกันตามที่คุณอะสันถ่ายทอดมา ซึ่งถ้านับกันที่จำนวนแล้ว ฝ่ายที่ระบุว่าเป็นหะดีษซอเหี๊ยะห์นั้นมีมากกว่าอย่างชัดเจน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Sep 29, 2012 3:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
abdooh บันทึก: |
ผม อับดุฮ์ มีข้อสงสัยครับ
................ คุณอะสันยังสงสัยอีกหรือว่า ท่านนบีซ.ล.เคยละหมาดตัสบีห์หรือไม่ ...ทั้งที่หะดีษนั้นซอเหี๊ยะห์ตามการตัดสินของนักวิชาการหะดีษจำนวนมาก ซึ่งเชคอัลบานีก็ตัดสินว่าซอเหี๊ยะห์
................ อะไรคือวิธีคิดของคุณอะสันในการเลือกว่า การตัดสินของนักวิชาการหะดีษท่านใดมีน้ำหนักมากกว่า ผมหวังว่าคุณคงไม่เลือกเอาเฉพาะที่ชอบนะครับ
............... หะดีษที่บ่งถึงเรื่องละหมาดตัสบีห์ เป็นหะดีษที่มีการขัดแย้งกันตามที่คุณอะสันถ่ายทอดมา ซึ่งถ้านับกันที่จำนวนแล้ว ฝ่ายที่ระบุว่าเป็นหะดีษซอเหี๊ยะห์นั้นมีมากกว่าอย่างชัดเจน |
ตอบ
ในเมื่อหะดิษที่เกี่ยวกับ หะดิษละหมาดตัสเบียะ ยังมี่ปัญหาเห็นต่างในด้านความถูกต้อง(เศาะเฮียะ)ของหะดิษ ก็เท่านกับเป็นเรื่องที่ยังคลุมเครือ ผมเลือกที่จะไม่ปฏิบัติ เพราะนบี สอนว่า
دع ما يريبك ، إلى ما لا يريبك
จงทิ้งสิ่งที่ทำให้ท่านสงสัย ไปยังสิ่งที่ทำให้ท่านแน่ใจ
คุณอับดุฮบอกว่า "ถ้านับกันที่จำนวนแล้ว ฝ่ายที่ระบุว่าเป็นหะดีษซอเหี๊ยะห์นั้นมีมากกว่าอย่างชัดเจน" จึงยากถามว่า คุณมีมาตรฐานอะไรมาวัดว่า คนส่วนมากนั้นถูกต้อง และดีกว่า ในเรื่องหลักฐาน
ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ ซึ่งเป็นนักวิชาการสายชาฟิอีกล่าวไว้ว่า
يستحب صلاة التسبيح ؛ للحديث الوارد فيها ، وفي هذا الاستحباب نظر ; لأن حديثها ضعيف , وفيها تغيير لنظم الصلاة المعروف , فينبغي ألا يفعل بغير حديث , وليس حديثها بثابت , وهو ما رواه ابن عباس رضي الله عنهما
(เจ้าของหนังสือ อัลมุหัซซับกล่าวว่า) "ชอบให้ละหมาดตัสเบียะ เพราะมีหะดิษราย
ในมัน
ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวว่า " และในกรณีบอกว่าชอบให้ทำ(มุสตะหับบะฮ)นี้ ต้องพิจารณา เพราะแท้จริงมันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ และในมัน(การละหมาดตัสเบียะ) เป็นการเปลียนแปลงรูปแบบการละหมาดที่เป็นที่รู้กัน ดังนั้น จึงควรจะไม่ปฏิบัติ โดยไม่มีหะดิษมาสนับสนุน และหะดิษของมัน(ของการละหมาดตัสเบียะ) ไม่แน่นอน คือ หะดิษที่รายงานโดย อิบนุอับบาส (ร.ฎ) ........จนจบหะดิษ
- ดู อัลมัจญมัวะ ชัรหุลมุหัซซับ เล่ม ๓ หน้า ๕๔๗- ๕ถ๘
.............
เมื่อไม่แน่นอน แล้วจะให้มั่นใจอย่างไรละครับ ท่านครูอับดุฮ
จึงถามคุณครูอับดุฮ ว่าคุณมีหลักคิดอย่างไร ที่ยืนยัน 100 % ว่านบี เคยละหมาดตัสเบียะจริงๆ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
abdooh มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 08/06/2012 ตอบ: 188
|
ตอบ: Sun Sep 30, 2012 7:33 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เมื่อมีการขัดแย้ง เราก็พิจารณาที่หลักวิชาการนั้นๆ เมื่อวิเคราะห์ตามหลักวิชาการนั้นๆแล้ว ผลที่ออกมาคือผลลัพธ์
หะดีษนี้ เมื่อพิจารณาจากการตัดสินของเหล่านักวิชาการ วิธีการวิเคราะห์(ไม่ใช่การตาม) หะดีษนี้จึงอยู่ในระดับที่ซอเหี๊ยะห์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Sep 30, 2012 8:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
abdooh บันทึก: | เมื่อมีการขัดแย้ง เราก็พิจารณาที่หลักวิชาการนั้นๆ เมื่อวิเคราะห์ตามหลักวิชาการนั้นๆแล้ว ผลที่ออกมาคือผลลัพธ์
หะดีษนี้ เมื่อพิจารณาจากการตัดสินของเหล่านักวิชาการ วิธีการวิเคราะห์(ไม่ใช่การตาม) หะดีษนี้จึงอยู่ในระดับที่ซอเหี๊ยะห์ |
ผมได้ถามหลักคิดของท่านครูอับดุฮ ในทางวิชาการ ว่าเมื่อหะดิษมีปัญหา เห็นต่างในเรื่อง ความถูกต้อง ท่านมีหลักคิดอย่างไร และผลลับหะดิษนี้ ที่ท่านว่าเศาะเฮียะ ท่านมีข้อพิสูจน์อย่างไร _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
abdooh มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 08/06/2012 ตอบ: 188
|
ตอบ: Mon Oct 01, 2012 9:24 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณถามผมอีกแล้ว ทั้งที่ผมตอบไปแล้ว แล้วคุณหล่ะ ตัดสินหะดีษนี้อย่างไร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Oct 01, 2012 10:46 am ชื่อกระทู้: |
|
|
abdooh บันทึก: | คุณถามผมอีกแล้ว ทั้งที่ผมตอบไปแล้ว แล้วคุณหล่ะ ตัดสินหะดีษนี้อย่างไร |
เอ้า..คุณบอกว่าหะดิษเศาะเฮียะ คุณดูจากอะไร ส่วนผมก็อธิบายไปแล้วว่า เมื่อหะดิษมีปัญหาคลุมเคลือ ผมไม่นำมาปฏิบัติ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
abdooh มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 08/06/2012 ตอบ: 188
|
ตอบ: Tue Oct 09, 2012 9:26 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณอะสันไม่เตยนำหะดีษที่มีนักวิชาการตัดสินต่างกัน ระหว่าง ซอเหี๊ยะห์ กับ ดออีฟ เลยหรือ ??? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Oct 15, 2012 8:36 am ชื่อกระทู้: |
|
|
[quote="abdooh"]คุณอะสันไม่เตยนำหะดีษที่มีนักวิชาการตัดสินต่างกัน ระหว่าง ซอเหี๊ยะห์ กับ ดออีฟ เลยหรือ ???[/quote
อ่านข้างล่างดีกว่านะครับ ผมลิงค์ให้ เพราะชี้แจงไปคุณก็ยังคงเดิมๆ
http://islamqa.info/ar/ref/145112 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
abdooh มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 08/06/2012 ตอบ: 188
|
ตอบ: Mon Oct 15, 2012 11:13 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ใครกันแน่ครับที่เหมือนเดิม เหตุผลของคุณ คือ หะดีษนั้นมีการขัดแย้งกันระหว่าง แข็งแรง กับ อ่อนแอ คุณอ้างว่า มันคลุมเครือ แต่ตัวคุณเอง นำหะดีษที่่มีการขัดแย้งลักษณะเดียวกันนี้มาปฏิบัติ มาถ่ายทอดมากมาย แต่ไม่ยักจะสงสัย ไม่รู้สึกคลุมเครือ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว มันโดนใจคุณ ก็เลยเอาตามใจ
ผมขอถ่ายทอด หะดีษเรื่องนี้จากเว๊ปที่แปลไทยแล้ว ให้ผู้สนใจได้รับทราบข้อเท็จจริงที่คุณอะสันไม่เคยนำมากล่าว ดังนี้ครับ
หลักฐานการละหมาดอัตตัสบีหฺ
หะดีษที่กล่าวถึงการละหมาดตัสบีหฺนั้น ผู้ที่ได้รายงานจากท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็คือท่านอิบนุอับบาส, ท่านอัลฟัฎล์ บิน อัลอับบาส, ท่านอับบาส บิน อับดุลมุฏฏอลิบ, ท่านอะลีย์ บิน อะบีฏอลิบ, ท่านญะอฺฟัร บิน อะบีฏอลิบ, ท่านอัลอับบาส บิน ญะอฺฟัร, ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์, ชาวอัลอันศอรีย์คนหนึ่ง (ขออัลลอฮฺทรงพึงพอพระทัยต่อพวกเขาด้วยเถิด) และได้รายงานหะดิษแบบมุรซัล โดยท่านมุฮัมมัด บิน กะอับอัลกุรซีย์, ท่านอะบุลเญาซาอฺ, ท่านมุญาฮิด, ท่านอิสมาอีล บิน ร่อฟีอฺ, ท่านอุรวะฮ์ บิน รุวัยม์ และสายรายงานที่ดีที่สุดจากบรรดาสายรายงานเหล่านี้ คือหะดีษที่รายงานโดยท่านอิบนุอับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา
ท่านอิหม่ามมุสลิม ได้กล่าวว่า
لاَ يُرْوَى فِيْ هَذَا الْحَدِيْثِ إِسْنَادٌ أَحْسَنُ مِنْ هَذَا يَعْنِي إِسْنَادَ حَدِيْثِ عِكْرِمَةَ عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ
เกี่ยวหะดีษ (ละหมาดอัตตัสบีหฺ) นี้ไม่มีสายรายงานใดที่ดีที่สุดยิ่งไปกว่าสายรายงานของอิกริมะฮ์จากท่านอิบนุอับบาส9
และหะดีษของท่านอิบนุอับบาสนั้น มีสายรายงานมากมายซึ่งสายรายงานที่ดีที่สุดก็คือ ตัวบทหะดีษความว่า:
حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّحْمَنِ بْنُ بِشْرِ بْنِ الْحَكَمِ النَّيْسَابُورِيُّ حَدَّثَنَا مُوسَى بْنُ عَبْدِ الْعَزِيزِ حَدَّثَنَا الْحَكَمُ بْنُ أَبَانَ عَنْ عِكْرِمَةَ عَنْ ابْنِ عَبَّاس ٍأَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ لِلْعَبَّاسِ بْنِ عَبْدِ الْمُطَّلِبِ يَا عَبَّاسُ يَا عَمَّاهُ أَلَا أُعْطِيكَ أَلَا أَمْنَحُكَ أَلَا أَحْبُوكَ أَلَا أَفْعَلُ بِكَ عَشْرَ خِصَالٍ إِذَا أَنْتَ فَعَلْتَ ذَلِكَ غَفَرَ اللَّهُ لَكَ ذَنْبَكَ أَوَّلَهُ وَآخِرَهُ قَدِيمَهُ وَحَدِيثَهُ خَطَأَهُ وَعَمْدَهُ صَغِيرَهُ وَكَبِيرَهُ سِرَّهُ وَعَلَانِيَتَهُ عَشْرَ خِصَالٍ أَنْ تُصَلِّيَ أَرْبَعَ رَكَعَاتٍ تَقْرَأُ فِي كُلِّ رَكْعَةٍ فَاتِحَةَ الْكِتَابِ وَسُورَةً فَإِذَا فَرَغْتَ مِنْ الْقِرَاءَةِ فِي أَوَّلِ رَكْعَةٍ وَأَنْتَ قَائِمٌ قُلْتَ سُبْحَانَ اللَّهِ وَالْحَمْدُ لِلَّهِ وَلَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَاللَّهُ أَكْبَرُ خَمْسَ عَشْرَةَ مَرَّةً ثُمَّ تَرْكَعُ فَتَقُولُهَا وَأَنْتَ رَاكِعٌ عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ مِنْ الرُّكُوعِ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَهْوِي سَاجِدًا فَتَقُولُهَا وَأَنْتَ سَاجِدٌ عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ مِنْ السُّجُودِ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَسْجُدُ فَتَقُولُهَا عَشْرًا ثُمَّ تَرْفَعُ رَأْسَكَ فَتَقُولُهَا عَشْرًا فَذَلِكَ خَمْسٌ وَسَبْعُونَ فِي كُلِّ رَكْعَةٍ تَفْعَلُ ذَلِكَ فِي أَرْبَعِ رَكَعَاتٍ إِنْ اسْتَطَعْتَ أَنْ تُصَلِّيَهَا فِي كُلِّ يَوْمٍ مَرَّةً فَافْعَلْ فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ جُمُعَةٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ شَهْرٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي كُلِّ سَنَةٍ مَرَّةً فَإِنْ لَمْ تَفْعَلْ فَفِي عُمُرِكَ مَرَّةً
ได้เล่าให้เราทราบโดยอับดุรเราะห์มาน บิน บิชร์ บิน อัลฮะกัม อันนัยซาบูรีย์ ได้เล่าให้ทราบโดย มูซา บิน อับดุลอะซีซ ได้เล่าให้ทราบโดย อัลฮะกัม บิน อะบาน จาก อิกริมะฮ์ จากท่านอิบนุอับบาส ว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่ท่านอัลอับบาส บิน อับดิลมุฏฏอลิบ ว่า โอ้ ท่านอับบาส โอ้ น้าชายของฉัน ท่านพึงทราบเถิด ฉันจะมอบเป็นกำนัลแก่ท่าน? ท่านพึงทราบเถิด ท่านจะกระทำเพื่อ (เป็นความดีงามแก่) ท่าน? กับ 10 ประการ เมื่อท่านได้กระทำสิ่งดังกล่าว อัลลอฮฺก็จะอภัยโทษแก่ท่านซึ่ง (1)บาปแรกและ (2)บาปสุดท้าย (3)บาปที่ล่วงผ่านมาแล้วและ (4)บาปที่เพิ่งเกิดขึ้น (5)บาปที่ผิดพลาดและ (6)บาปที่เจตนา (7)เป็นบาปเล็กและ (8)บาปใหญ่ (9)เป็นบาปซ่อนเร้นและ (10)บาปที่เปิดเผย คือให้ท่านทำการละหมาดสี่ร็อกอะฮ์ ซึ่งในร็อกอะฮ์แรกให้ท่านอ่านอัลฟาติฮะฮ์และหนึ่งซูเราะฮ์ เมื่อเสร็จจากการอ่านในร็อกอะฮ์แรกในสภาพที่ท่านยืนอยู่นั้น ก็ให้ท่านกล่าว ซุบหานัลลอฮฺ วัลฮัมดุลิลลาฮฺ วะลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วัลลอฮุอักบัร จงกล่าวมัน 15 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่านทำการโค้งรุกูอฺแล้วทำการกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากรุกูอฺ ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านก้มลงสุญูด ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากสุญูด ก็ให้ท่านกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่านทำการสุญูดแล้วกล่าวมัน 10 ครั้ง หลังจากนั้นเมื่อท่านเงยศีรษะจากสุญูด ก็ให้กล่าวมัน 10 ครั้ง ดังกล่าวก็เป็น 75 ครั้งในทุกๆ ร็อกอะฮ์ โดยให้ท่านกระทำสิ่งดังกล่าวใน 4 ร่อกะอัต ดังนั้นหากท่านมีความสามารถที่จะละหมาดมันทุกวัน ก็จงกระทำเถิด และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้ท่านกระทำในทุกๆ วันศุกร์สักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้กระทำทุกๆ หนึ่งเดือนสักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้กระทำทุกๆ หนึ่งปีสักหนึ่งครั้ง และหากท่านไม่มีความสามารถ ก็ให้กระทำสักครั้งหนึ่งในชีวิตของท่าน10
บรรดาปราชญ์นักจำหะดีษ11 ที่ตัดสินหะดีษนี้ ศ่อฮีหฺ คือ ท่านอะหฺมัด บิน หัมบัล, ท่านอะบูดาวูด, ท่านอะบูอะลีย์ บิน สะกัน, ท่านอิบนุมันดะฮ์, ท่านอัลหากิม, ท่านอะบูบักร อัลอาญูรรีย์, ท่านอะบูบักร บิน อะบีดาวูด, ท่านอะบูมูซา อัลมะดีนีย์, ท่านอัดดัยละมีย์ เจ้าของหนังสือมุสนัด อัลฟิรเดาส์, ท่านอัลค่อฏีบ อัลบัฆดาดีย์, ท่านอะบูสะอัด อัสสัมอานีย์, ท่านอะบุลหะซัน บิน อัลมุฟัฎฎ็อล, ท่านอะบูมุฮัมมัด อับดุรร่อฮีม อัลมิศรีย์, ท่านสิรอญุดดีน อัลบุลกินีย์, ท่านศ่อลาหุดดีน อัลอะลาอีย์, ท่านบัดรุดดีน อัซซัรกาชีย์, ท่านอิบนุ นาศิรุดดีน อัดดิมิชกีย์, ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีย์, ท่านอัสสุยูฏีย์ และท่านอัซซะบีดีย์
และบรรดาปราชญ์นักจำหะดีษที่ตัดสินหะดีษนี้ หะซัน คือ ท่านอัลบะฆ่อวีย์, ท่านอัลมุนซิรีย์, ท่านอิบนุอัศศ่อลาห์, ท่านอันนะวาวีย์ ในหนังสือตะฮ์ซีบ อัลอัสมาอฺ วัลลุฆ็อต และหนังสืออัลอัซการ, ท่านตะกียุดดีน อัซซุบกีย์, ท่านตาญุดดีน อัซซุบกีย์, ท่านอิบนุหะญัร ในหนังสืออะมาลีย์ อัลอัซการ และท่านอัสสุยูฏีย์ ในหนังสือมิรกอฮ์ อัศศุอูด12
ดังนั้นหะดีษละหมาดอัตตัสบีหฺจึงอยู่ในระดับศ่อฮีหฺหรือหะซัน ซึ่งเป็นทัศนะที่มีน้ำหนักที่สุดตามหลักการพิจารณาหะดีษ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
abdooh มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 08/06/2012 ตอบ: 188
|
ตอบ: Mon Oct 15, 2012 11:17 am ชื่อกระทู้: |
|
|
วิชาการที่แท้จริง เกิดขึ้นจากการทุ่มเทศึกษาทั้งในมุมกว้างและมุมลึก เมื่อใดที่บุคคลหนึ่งขังตัวเองอยู่กับความคับแคบ ผู้นั้นจะมองไม่เห็นวิชาการที่แท้จริง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Oct 15, 2012 12:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
นึกว่า เป็นหลักฐานเด็ดที่แท้ก็เป็นหลักฐานเฏาะอีฟอีกตามเคยนะท่านครูอับดุฮ กอ็ปมาจากบทความของอารีฟีน ที่นี้ มาดูสายรายงานนะครับ
(1) عبد الله بن عباس
| (2) عكرمة
| | (3) حكم بن أبان
| | | (4) موسى بن عبد العزيز
| | | | (5) عبد الرحمن بن بشر
| | | | | (6) أحمد بن محمد
| | | | | | (7) أحمد بن محمد
| | | | | | | (8) الكتاب: الإرشاد في معرفة علماء الحديث لأبي يعلى الخليلي [الحكم: إسناده حسن رجاله ثقات عدا موسى بن عبد العزيز اليماني وهو صدوق سيء الحفظ]
ผู้รายงานคนหนึ่งในสายรายงาน ชื่อ มูซา บิน อับดุลอะซีซ อัลยะมานีย์ เป็นบุคคลที่มีสัจจะ ความจำไม่ดี
ท่านอิหม่ามมุสลิม ได้กล่าวว่า
لاَ يُرْوَى فِيْ هَذَا الْحَدِيْثِ إِسْنَادٌ أَحْسَنُ مِنْ هَذَا يَعْنِي إِسْنَادَ حَدِيْثِ عِكْرِمَةَ عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ
เกี่ยวหะดีษ (ละหมาดอัตตัสบีหฺ) นี้ไม่มีสายรายงานใดที่ดีที่สุดยิ่งไปกว่าสายรายงานของอิกริมะฮ์จากท่านอิบนุอับบาส
จึงอยากถามคุณอับดุฮว่า
1. หะดิษนี้อิหม่ามมุสลิมเอามาเป็นหลักฐานหรือไม่
2. แสดงว่าสายรายงานเกี่ยวกับหะดิษเฎาะอีฟทั้งหมด และสายรายงานในบทนี้ดีกว่าเพื่อน แต่ ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีจุดบกพร่องใช่ไหมครับ
เลยนักวิชาการจึงวิจารณ์ว่า
ليس في صلاة التسبيح حديث يثبت... والحق أن طرقه كلها ضعيفة، وإن كان حديث ابن عباس يقرب من شرط الحسن
ในการละหมาดตัสเบียะนั้น ไม่มีหะดิษที่มั่นคง และที่ถูกต้องนั้น สายรายงานของมันทั้งหมด เฎาะอีฟ แม้ปรากฏว่า หะดิษอิบนุอับบาส จะใกล้เคียงกับเงื่อนไขของหะดิษหะซัน(หะดิษที่อยู่ในระดับดี)ก็ตาม - ดู ตัลคีศุลหะบีร เล่ม 2 หน้า 482 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|
|
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้ คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
Powered by phpBB
ฉ 2001, 2002 phpBB Group
|