ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
f1 มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Wed Jan 12, 2011 4:01 pm ชื่อกระทู้: การกล่าวหาอีกฝ่าย |
|
|
การกล่าวหาอีกฝ่ายว่า"บิดอะอ์"ในประเด็นอิจติฮาร เป็นลักษนะนิสัยของชาวอลุซซุนะฮ์ฯหรือไม่ อย่างไร _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 12, 2011 5:49 pm ชื่อกระทู้: Re: การกล่าวหาอีกฝ่าย |
|
|
f1 บันทึก: | การกล่าวหาอีกฝ่ายว่า"บิดอะอ์"ในประเด็นอิจติฮาร เป็นลักษนะนิสัยของชาวอลุซซุนะฮ์ฯหรือไม่ อย่างไร |
..........
การเห็นต่างหรือ การมีความขัดแย้งนั้น มีหลายประเภท
1. ขัดแย้งกับหลักฐานที่ชัดเจนจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ กรณีนี้ควรได้รับการตำหนิ
2. การเข้าใจต่างกันในหลักฐานที่มาจากอัลกุรอ่านและหะดิษ ข้อนี้ ควรให้เกียรติกัน
3. การอิจญติฮาดที่ต่างกัน ในประเด็นไม่มีหลักฐาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับหลักความเชื่อและอิบาดะฮ แต่เป็นประเด็นทางศาสนาที่เกี่ยวกับทางสังคมข้อนี้ เป็นเรื่องธรรมดา
4. การละทิ้งสุนนะฮ ไปคิดบิดอะฮมาปฏิบัติข้อนี้ ควรตำหนิเป็นอย่างยิ่ง
อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وما اختلفتم فيه من شيء فحكمهُ إلى اللَّه،
และสิ่งใดที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน จงนำมันไปให้อัลลอฮตัดสิน
ชาวสุนนะฮ ต้องต่อต้านบิดอะฮ และชาวสุนนะฮ จะไม่ใช้อารมณ์แก้ปัญหา ชาวสุนนะฮ ควรติผู้อื่นเพื่อก่อ ไม่ใช่เพื่อทำลาย และไม่ใช่ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
f1 มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Wed Jan 12, 2011 6:12 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
การกูนูตละหมาดซุบฮิ การดูฮิลาล การยกมือขอดุอาอ์หลังละหมาาดฟัรดู ฯลฯ ที่กล่าวมานี้เข้าข่ายประเด็นอิญติฮาดหรือเปล่าครับบัง _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
f1 มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Wed Jan 12, 2011 6:22 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายเรื่อง เดี๋ยวจะค่อยทยอยนำเสนอครับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 12, 2011 7:20 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
1. การกุนูตจำกัดเฉพาะละหมาดศุบฮิ ข้อนี้ เถียงกันมาหลายร้อยปีแล้ว บ้างก็ว่าสุนัต บ้างก็ว่าบิดอะฮ ทั้งนี้เพราะมีหะดิษระบุไว้ แต่เป็นหะดิษเฎาะอีฟ
แต่..สิ่งที่ตามมา คือ มีหุกุมบอกว่า "ถ้าลืมอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิ ต้องสุญูดสะฮวีย์ ประเด็นนี้เอาหลักฐานมาจากใหน นี่คือ การเพิ่มหุกุมในอิบาดะฮ ในสิ่งที่ท่านนบีไม่ได้สอนไว้ มันเป็นเพียงความเห็น และกุนูตที่เอามาอ่านในละหมาดศุบฮิทุกวันนี้ คือ กุนูตละหมาดวิตริ แปลกไหม
2. การดูเดือนเป็นประเด็นการมองต่างมุมในหะดิษ อันนี้ ไม่น่าจะมาทะเลาะกัน
3. การอ่านดุอายกมือเป็นสุนนะฮ แต่ ไม่ใช่ทุกที่ และหลังละหมาดฟัรดู ท่านนบีเคยอ่านดุอายกมือแล้วเหล่าเศาะฮาบะฮ กล่าวอามีนพร้อมกันไหม ..ไม่มี เมื่อไม่มีเราจะดันทุรังทำไม ก็ไหนว่าตามสุนนะฮมิใช่หรือ
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 12, 2011 7:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
عَنْ أَبِي مَالِكٍ الْأَشْجَعِيِّ قَالَ قُلْتُ لِأَبِي يَا أَبَةِ إِنَّكَ قَدْ صَلَّيْتَ خَلْفَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ وَعُثْمَانَ وَعَلِيِّ بْنِ أَبِي طَالِبٍ هَا هُنَا بِالْكُوفَةِ نَحْوًا مِنْ خَمْسِ سِنِينَ أَكَانُوا يَقْنُتُونَ قَالَ أَيْ بُنَيَّ مُحْدَثٌ قَالَ أَبُو عِيسَى هَذَا حَدِيثٌ حَسَنٌ صَحِيحٌ وَالْعَمَلُ عَلَيْهِ عِنْدَ أَكْثَرِ أَهْلِ الْعِلْمِ وَقَالَ سُفْيَانُ الثَّوْرِيُّ إِنْ قَنَتَ فِي الْفَجْرِ فَحَسَنٌ وَإِنْ لَمْ يَقْنُتْ فَحَسَنٌ وَاخْتَارَ أَنْ لَا يَقْنُتَ وَلَمْ يَرَ ابْنُ الْمُبَارَكِ الْقُنُوتَ فِي الْفَجْرِ
รายงานจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า ฉันได้กล่าวแก่บิดาของฉันว่า โอ้บิดาของฉัน ความจริงท่านเคยละหมาดตามหลังรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ,อบีบักร์ ,อุมัร ,อุษมานและอาลี ทีเมืองกุฟะฮ ประมาณ 5 ปี พวกเขาอ่านดุอากุนูตไหม? เขา(บิดาของฉัน)กล่าวว่า โอ้ลูกเอ๋ย มันเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่(บิดอะฮ)
อบูอีซา กล่าวว่า หะดิษนี้ หะซัน เศาะเฮียะ นักวิชาการส่วนมากปฏิบัติตามหะดิษนี้ และ ซูฟยานอัษเษารีย์ กล่าวว่า
หากเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์ ก็เป็นการดี และถ้าไม่อ่านกุนูต ก็เป็นการดี และเขา(ซุฟยาน) เลือกที่จะไม่อ่านกุนูต และอิบนุอัลมุบารอ็กไม่เห็นว่า ให้อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์(ซูบฮี)
อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(محمد بن عبد الرحمن بن عبد الرحيم المباركفوري) กล่าวว่า
وَقَدْ تَقَدَّمَ أَنَّ الْقَوْلَ الرَّاجِحَ هُوَ أَنَّ الْقُنُوتَ مُخْتَصٌّ بِالنَّوَازِلِ ، وَأَنَّهُ يَنْبَغِي عِنْدَ نُزُولِ النَّازِلَةِ أَنْ لَا تُخَصَّ بِهِ صَلَاةٌ دُونَ صَلَاةٍ
และได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แท้จริงทัศนะที่มีน้ำหนัก คือ การอ่านกุนูตนั้น เฉพาะกับเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น(กับมุสลิม) และแท้จริงสมควรที่จะอ่านเวลาเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น ไม่จำกัดละหมาดหนึ่งโดยไม่อ่านในละหมาดอื่น
- ดูตัวะฟะตุลอะหวะซีย์ เรื่อง باب ما جاء في ترك القنوت
..................
ถ้าไม่ยึดติดกับมัซฮับ น่าจะพิจารณาหะดิษและคำอธิบายข้างต้น _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
kolis_mala มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Jan 12, 2011 9:43 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เพิ่มเติม จากบัง asan
ในเล่มที่ 7 ของฟัตวาคณะกรรมการถาวรเพื่อการวิฉัยวิชาการและตอบปัญหาศาสนา ของประเทศซาอุดีย์ หมายเลข 2452 ระบุว่า
لم يصح عن النبي صلى الله عليه وسلم أنه خص الصبح بالقنوت، ولا أنه داوم عليه في صلاة الصبح، وإنما الذي ثبت عنه صلى الله عليه وسلم أنه قنت في النوازل بما يناسبها، فقنت في صلاة الصبح وغيرها من الصلوات يدعو على رعل وذكوان وعُصَيَّة لقتلهم القراء الذين أرسلهم النبي صلى الله عليه وسلم إليهم ليعلموهم دينهم، وثبت في صلاة الصبح وغيرها يدعو للمستضعفين من المؤمنين أن ينجيهم الله من عدوهم، ولم يداوم على ذلك، وسار على ذلك الخلفاء الراشدون من بعده، فخير للإمام ) أن يقتصر على القنوت في النوازل اقتداءً برسول الله صلى الله عليه وسلم فيما ثبت عن أبي مالك الأشجعي قال : قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث) رواه الخمسة إلا أبا داود ( وصححه الألباني في الإرواء 435) ، وإن خير الهدي هدي محمد صلى الله عليه وسلم .
وبالله التوفيق وصلى الله على نبينا محمد وآله وصحبه وسلم
ไม่มีรายงานที่เศาะเฮียะจากท่านนบี ว่าท่านได้เจาะจงละหมาดศุบฮิด้วยการอ่านกุนูต และไม่มี(รายงานที่เศาะเฮียะ)ว่า ท่านนบีได้อ่านเป็นประจำในละหมาดศุบฮิ และความจริง ที่มีรายงานยืนยันจากท่านนบี นั้น คือ ท่านได้อ่านกุนูต ในภาวะที่ประสบกับเคราห์กรรม ด้วยสิ่งที่เหมาะสมกับมันเท่านั้น แล้วท่านนบีเคยอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิและละหมาดอื่นจากนั้น จากบรรดาละหมาดฟัรดูห้าเวลา โดยขอดุอาสาปแช่งพวกริอฺล ,พวกซักวานและพวกอุศียยะฮ ที่พวกเขาได้ฆ่า บรรดาผู้มีความรู้ในอัลกุรอ่าน ที่ท่านนบี ส่งไปยังพวกเขา เพื่อสอนศาสนาให้แก่พวกเขา และได้มีรายงานยืนยันว่า ท่านนบี ได้ขอดุอาให้แก่บรรดามุอฺมีนผู้อ่อนแอ ให้อัลลอฮทรงให้เขาปลอดภัยจากศัตรูของพวกเขา ในละหมาดศุบฮิ โดยที่ท่านไม่ได้ทำดังกล่าวนั้นเป็นประจำ และบรรดาเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน หลังจากท่านก็ได้ดำเนินตามนั้น ดังนั้นทางเลือกสำหรับผู้เป็นอิหม่ามคือ การให้จำกัดเฉพาะกุนูตนาซิละฮ(กุนูตในยามที่มุสลิมประสบกับเคราะห์กรรม) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามท่านรซูลุ้ลลอฮ ตามที่ปรากฏรายงานยืนยันจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث
ข้าพเจ้าได้กล่าวแก่บิดาของข้าพเจ้าว่า "โอ้บิดาของฉัน แท้จริงท่านเคยละหมาดตามหลังท่านรซูลุ้ลลอฮ ,อบูบักร,อุมัร,อุษมานและ อาลี ขออัลลอฮโปรดประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา ,พวกเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญริ(ละหมาดศุบฮิ )หรือเปล่าครับ? เขาจึงตอบว่า "โอ้ลูกของพ่อ มันคือ สิ่งที่ถูกประดิษขึ้นใหม่"- รายงานโดยนักรายงานห้าท่านยกเว้น อบูดาวูด(อัลบานีย์ระบุในอัล-อิรวาอ์ หะดิษหมายเลข 435 ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ ) และแท้จริงทางนำที่ดี คือ ทางนำของท่านนบีมุหัมหมัด |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
f1 มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 12:14 am ชื่อกระทู้: |
|
|
งั้นบังอะสันและkolisกำลังจะบอกว่ากูนูตละหมาดฟัจญร์เป็น"บิดอะฮ์"ใช่ไหมครับ แล้วกูนูตละหมาดฟัจญร์เข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาดหรือปล่าวล่ะครับ  _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
f1 มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 12:51 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อีกกลุ่มบอกว่ากูนูตฟัจญร์"ซอเฮียะฮ์"ไม่ใช่หรือครับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
kolis_mala มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 1:22 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | งั้นบังอะสันและkolisกำลังจะบอกว่ากูนูตละหมาดฟัจญร์เป็น"บิดอะฮ์"ใช่ไหมครับ แล้วกูนูตละหมาดฟัจญร์เข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาดหรือปล่าวล่ะครับ |
ผม kolis ขอตอบว่า เป็นการปฐิบัติ ซึ่ง ไม่มีที่มากรุอ่าน จากท่านนบี จากบรรดาศอฮาบะห์
แล้วการที่จะบอกว่า กุนูตในเวลา ซุบฮิ เป็นบิดอะห์ หรือไม่ ผมคงไม่ต้องตอบเองหรอกคับ
เพราะที่ผมได้นำเสนอมานั้น มันมีคำตอบในตัวแล้ว หากว่าคุณเข้าใจ
ส่วนคำว่าอิจญติฮาด
ฮิจญฺติฮาด ( اجتهاد ) ตามหลักภาษาหมายถึง การเพียรพยายาม ความเหนื่อยยาก ลำบาก แต่ตามหลักศาสนบัญญัติหมายถึง การนำเอากฎเกณฑ์ทางศาสนบัญญัติมาวิเคราะห์เพื่อวินิจฉัยความออกมาบนพื้นฐานของความรู้ ความสามารถ และความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ดังนั้น บุคคลที่มีคุณสมบัติตามที่กล่าวมาเรียกว่า มุจญ์ตะฮิด (ผู้วินิจฉัยบทบัญญัติอิสลาม)
หลักการ อิจติฮาด หมายถึงการนำเอากฎเกณฑ์ทางศาสนบัญญัติมาวิเคราะห์ เพื่อวินิจฉัยความออกมาโดยความรู้ ความสามารถและความเข้าใจจากพื้นฐานอันเป็นแหล่งที่มาของการวินิจฉัยทั้ง ๔ ได้แก่ อัลกรุอาน ซุนนะฮ (ฮะดีซหรือแบบฉบับของท่านศาสดา) อิจญะมะฮฺ (ความเห็นชอบและสอดคล้องกันของมุจญฺตะฮิดร่วมสมัยหรือสมัยก่อน) และอักล์ (สติปัญญา)
ประเด่นนี้เราคงไม่ต้องใช้การอิจญติฮาด เพราะคำตอบมันตรงตัว ว่าไม่มีจาก กรุอ่าน หะดีษ จึงไม่ใช่ประเด่นที่จะนำมา วินิชัย
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
kolis_mala มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 1:25 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | อีกกลุ่มบอกว่ากูนูตฟัจญร์"ซอเฮียะฮ์"ไม่ใช่หรือครับ |
กลุ่มไหนบอกคับ หรือว่าคุณเข้าใจคำว่า รายงานโดยนักรายงานห้าท่านยกเว้น อบูดาวูด(อัลบานีย์ระบุในอัล-อิรวาอ์ หะดิษหมายเลข 435 ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ ) และแท้จริงทางนำที่ดี คือ ทางนำของท่านนบีมุหัมหมัด
ตรงนี้ ไม่ได้หมายถึง หะดีษ ที่บอกว่าท่านนบี กุนูต ตลอดชีวิตของท่านในเวลาซุบฮิ
แต่ที่เชคอัลบานีย์ บอกว่าศอเฮียคือ ฮะดีษ ของ กอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ ที่ผมได้ยกมาคับ
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
kolis_mala มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 1:32 am ชื่อกระทู้: |
|
|
وأما ما ورد أن النبي صلى الله عليه وسلم داوم على القنوت في الفجر فليس بثابت عند أهل العلم ، والحديث الوارد في ذلك وهو عن أنس رضي الله عنه قال ما زال رسول الله صلى الله عليه وسلم يقنت في الفجر حتى فارق الدنيا ) فهو حديث ضعيف لا تقوم به الحجة . انظر السلسلة الضعيفة 3/384-388
และสำหรับสิ่งที่มีรายงานว่าท่านนบี อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร เป็นประจำ นั้น ไม่เป็นที่ยืนยันจากผู้ทรงความรู้ และหะดิษที่รายงานในเรื่องดังกล่าว คือ รายงานจากอะนัส(ร.ฎ)กล่าวว่า "รซูลุ้ลลอฮ อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร(ศุบฮิ)จนกระทั่งได้จากโลกนี้ไป) มันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้ - ดูอัสสิลสิละฮ อัฎเฎาะอีฟะฮ 3/384-388
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
f1 มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 3:32 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ถามทั้งบังอะสันและkolisว่าฮาดิษที่เกี่ยวกับกูนูตในละหมาดฟัจญร์เข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาดหรือปล่าวครับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 6:54 am ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | ถามทั้งบังอะสันและkolisว่าฮาดิษที่เกี่ยวกับกูนูตในละหมาดฟัจญร์เข้าข่ายประเด็นอิจญติฮาดหรือปล่าวครับ |
...........
ในเมื่อมีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว จะมีการอิจญติฮาดอีกได้อย่างไร
กฏนิติศาสตร์อิสลามระบุว่า
لا اجتهاد مع النص
ไม่มีการอิจญติฮาด พร้อมกับตัวบทที่เป็นหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว
เท่าที่คุยกันมาไม่เห็นน้องเอฟ 16 เอ้ย..เอฟ 1 ยกหลักฐานมาแสดงทางวิชาการเลยนะครับ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 13, 2011 9:58 am ชื่อกระทู้: |
|
|
สัยยิดสาบิกกล่าวว่า
وبالتقليد والتعصب للمذاهب فقدت الأمة الهداية بالكتاب والسنة، وحدث القول بانسداد باب
الاجتهاد، وصارت الشريعة هي أقوال الفقهاء، وأقوال الفقهاء هي الشريعة،
และด้วยการตักลิดและการยึดติดกับมัซฮับ อุมมะฮ ก็จะสูญเสียการได้รับฮิดายะฮ ดัวยคัมภีร์(อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ และ เกิดคำพูด(ทัศนะ) ที่ว่า ประตูการอิจญติฮาดได้ปิดแล้ว และศาสนบัญญัติ ที่เกิดขึ้น คือ บรรดาคำพูดของฟุเกาะฮาอฺ (นักวิชาการทางฟิกฮ) และบรรดาคำพูดของฟุเกาะฮาอฺ คือ ศาสนบัญญัติ ดูฟิกฮสุนนะฮ เล่ม 1 หน้า 10
ความจริง หลักการตามมัซฮับ คือ ตามคำพูดที่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักกว่า ไม่ใช่ตามอย่างไม่มีเงื่อนไข
ท่านหะสะนัยมัฟลูฟ กล่าวว่า
أن الاتباع المطلق لا يكون إلا لرسول الله صلى الله عليه وسلم
แท้จริง การตามอย่างไม่มีเงือนไข จะไม่มี ยกเว้นสำหรับการตามรซูลุลลอฮ เท่านั้น - ดู ฟะตาวากุบรอ เล่ม 5 หน้า 94 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|