ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Sun Jan 13, 2008 2:13 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอะลัยกุม ทุกท่าน
1. ถ้าหากวิทยากรมูลนิธิมรดกอิสลามติดตามผมมาตลอดมีตอนไหนที่ผมเอาการคำนวนทางดาราศาสตร์มาหักล้างการเห็นฮิลาลจริงๆซึ่งได้ปรากฏในท้องฟ้าของเมืองใดๆ อันไหนที่ว่าอยู่นอกกรอบอัลอิสลาม แต่แท้จริงผมกลับเอากรอบแห่งอิสลามมาเสนอให้ต่างหาก จากการที่เราจะหันมาสนใจดาราศาสตรฺอิสลาม และพยายามบอกผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้ว่าให้ทำตามสุนนะฮฺ
ของเราะสูลุลลอฮฺ โดยการออกไปดูเดือนด้วยตาตนเองจริงๆต่างหาก.
ในช่วงปลายเดือนทางจันทรคติ เมื่อครบ 29 วัน หรือค่ำที่30 และผมจะบอกอยู่เสมอว่านี่คือสุนนะฮที่ท่านให้เรานับวันแบบง่ายๆธรรมดา ถ้าหากไม่เห็นฮิลาล
ก็นับให้ครบ 30วัน
صُوْمُوا لِرُؤْيَتِهِ وَأفْطِرُوا لِرُؤْيَتِهِ فَاِنْ غُمِّيَ عَليْكُمُ الشَهْرُ فَعُدُّوا ثَلاَثِيْنَ
พวกเจ้าทั้งหลายจงถือศีลอด (เข้ารอมฏอน) เนื่องจากเห็นเดือนเสี้ยว และจงออกจากศีลอด (ออกจากรอมฏอน) เมื่อเห็นเดือนเสี้ยว แต่หากเดือนนั้นถูกบดบังพวกเจ้าจงนับให้ครบ 30 วัน บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม
ตามหะดีษที่ว่า ศูวมูวลิรุอฺยะติฮิ วะอิฟฏิรุ ลิรุอยะติฮ พวกท่านจงถือศีลอด(เริ่มนับเข้าวันของเราะมะฎอน) เมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว และละศีลอด(นับเข้าเดือนเชาวาล)เมื่อท่านเห็นจันทร์ปรากฏ ฟะอินฆุมมะอะลัยกุมเมื่อท้องฟ้ามีเมฆหมอกมืดมาปกคลุม
ไม่เห็นจันทร์เสี้ยว ก็กำหนดนับเดือนนั้นให้ครบ 30วัน
และท่านนบีฯศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทราบดีว่าความมืดครึ้ม เมฆหมอกไม่ได้คลุมไปทุกพื้นที่ บางเมืองบางพื้นก็มีทั้งมืดและสว่าง เมืองไหนเมฆหมอกปกคลุมมองไม่เห็นก็นับ ให้ครบ 30 เมืองใดไม่มืดมัวก็เห็นจึงนับเดือนนั้นเพียง29วัน
และท้ายเดือนก็จะเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ว่า ท่านสั่งเราให้ไปตามบ้านเมืองประเทศไหนที่เขาสว่าง ตอบอย่างนี้บางท่านก็จะมาทักว่าอ้าวแล้วกองคาราวานหรืออรับบ้านนอก
ที่อยู่ชานเมืองนอกเมืองมะดีนะฮฺได้รายงานว่าเห็นละ นั้นเป็นขอบเขตชานเมืองที่ไม่ไกลสุดกู่เดินเทางด้วยอูฐเพียงไม่กี่ ชั่วโมง เช้าถึงเย็น และท่านนบีฯก็สอบสวนด้วยตัวท่านเอง แล้วที่ท่านตามประเทศสอูดีที่อยู่ไกล5000 กม
ใครขี่อูฐมาบอกท่าน บางครั้งไปตาม รายงานว่าเห็นที่ประเทศจีนเลยเข้าไม่ตรงเดือนเสี้ยวในประเทศไทย พอออกอีดก็ไปตามรายงานว่ามีคนเห็นเดือนที่โมสุล ประเทศอิรัค ไอ้ที่มั่วๆรายงาน ว่ามีเพื่อนโทรศัพท์จากโซโก เลยทำให้มัสญิดอัลอตีก
ถือศีลอดเพียง 28 วัน การมีจุดยืนโลเลไม่ตามการเห็นแบบสุนนะฮฺอย่างอิบนุอับบาสกล่าวถึง จะทำให้เราสับสนตลอดไป.
แล้วการเขียนของผมอย่างนี้กลับว่าอยู่นอกกรอบอิสลาม ผมมีแต่นำข้อมูลรายงานการคำนวนทางดาราศาสตร์ การคำนวนเรื่องนมาซ เรื่องดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ขึ้น ตก
มาข่วยบอก เพื่อให้ง่ายในการออกไปดูเดือน
ผมได้เข้ามาบอกว่าปฏิทินของเว็บไซท์เขียนผิดพลาด แทนที่จะขอบใจกลับบอกว่า
ไม่ ถูก นายมะฮฺดีสอูดีเล่นนอกกรอบ แทนที่จะไปพิจารณาว่าปฏิทินที่คำนวนไว้นั้นผิดพลาด หรือว่าผิดในการดูเดือน เพราะ เมื่อท่านเริ่ม ซุลหิจญะฮฺในวันที่ 10 มค.50
แล้วมาเริ่มเดือนมุหัรรอม ในวันที่10 มค.51 ฉนั้น 9 มค.51 ต้องเป็นวันที่31 ซุลหิจญะฮฺ อย่างเดียวที่คุณ Goddut และคุณ มุหัมมัดยาสีนทักท้วง
2.- คำว่า ลา- ฮากะซา -อะมะเราะนา เราะสูลุลลอฮฺ (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ไม่ แบบอย่างนี้แหละ ที่เราะสูลสั่งใช้เรา
คำว่า ลา มาก่อน ฮากะซา นั้นมีความสำคัญ เพราะท่านปฏิเสธไม่ตามการนับวันของมุอาวียะฮฺและชาวเมืองชาม มาเป็นการนับวันของเมืองมะดีนะฮฺ
ท่านอับดุลลอฮฺไม่ได้บอกว่าชาวเมืองที่ดะมัชกัทเข้าเดือนเราะมะฎอนผิด
ท่านทราบว่าชาวเมืองดะมัชกฺ หุมซฺ อะลิปโปที่ซูเรียเห็นฮิลาลก็ถูกของเขา ถ้าชาวอิรัคเห็นฮิลาลวันใดก็ถุกของเขา ชาวฟิลัสฏีนเห็นฮิลาลที่เมืองเขาก็ถูกของเขา และที่มะดีนะฮฺเห็นก็ถูกต้องของเขาชาวมะดีนะฮฺ จะเห็นที่ใดนั่นก็คือวันเข้า 1 ค่ำของเขาชาวเมืองนั้นๆ ท่านอิบนุอับบาส จะไม่เอาการเห็นที่ห่างไกลกันมากของชาวเมืองอื่นมาเป็นการนับเข้าวันของมะดีนะฮฺ
ต่างหาก และท่านบอกว่าอย่างนี้แหละที่เราะสูลสั่งใช้เรา คือให้บรรดามุสลิมีนในที่ต่างใช้แบบอย่างง่ายๆอย่างนี้นั่นเอง
บรรดามุสลิมทั้งหลายทราบดีว่าใครจะมากล่าวอ้างลอยๆโดยไม่มีหลักฐานสั่งใช้สั่งห้ามนั้นไม่ได้ ถ้าใครโกหก ว่าเป็นคำพูดของท่านนบีฯ ก็จะถูกมีที่อยู่ของเขาในไฟนรก . ที่ท่านอิบนุอับบาสกล่าวนั้นจึงเป็นคำสั่งและเป็นแบบอย่างของเราะสูลุลลอฮฺจริง ไม่มีผู้ใดจะเข้าใจไปกว่าศอหาบะฮฺที่ใกล้ชิด อย่างอิบนุอับบาสอีกผู้หนึ่งได้ ขนาดอัลกุรอานที่ลงมา ท่านคอลีฟะฮฺอุมัร ยังให้อิบนุอับบาส อธิบาย
เมื่อตอนอายะฮฺในช่วงท้ายๆได้วะหี้ลงมาถึงอิสลามที่สมบูรณ์ และการจะจากไปของท่านเราะสูลุลลอฮฺ และเรื่องที่ศอหาบะฮฺเข้าใจปฏิบัตกันอยู่นั้น ไม่มีใครจะมาคัดค้านบรรดาศอหาบะฮฺที่ได้เข้าถึงเบื้องหลังของคำสั้งต่างๆเหล่านั้น _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Mhd_Yaseen มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 21/01/2004 ตอบ: 27 ที่อยู่: ทุ่งครุ กทม.
|
ตอบ: Sun Jan 13, 2008 10:03 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณmahdisaudi ครับผมขออนุญาตแก้คำผิดของคุณด้วย คือคำว่า "เมื่อท่านเริ่ม ซุลหิจญะฮฺในวันที่ 10 มค.50 " แก้เป็น "เมื่อท่านเริ่ม ซุลหิจญะฮฺในวันที่ 10 ธ.ค.50 " แก้เดือน ม.ค.50 เป็นเดือน ธ.ค.50 อย่างนี้ถูกต้องไหมครับ
ผมยิ่งอ่านกระทู้ของคุณ ผมก็ยิ่งมีความรู้เพิ่มมากขึ้นทั้งเรื่องประวัติศาสตร์อิสลาม อัลหะดิษ และดาราศาสตร์ด้วย
ผมอยากฝากถามมายังมูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม ผ่านตรงนี้เลยว่า แล้วเราจะถือศีลอดสุนัตวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม ตรงกับวันอะไรที่เท่าไรของเดือนมกราคม 2551 เพราะถ้าเอาตามวันที่ที่แสดงตามเวปของมูลนิธิฯ เดือนซุลหิจญะฮฺ จะมี 31 วันนะครับ
ผมเลยตั้งเจตนาว่าจะถือศีลอดสุนัตทั้ง 3 วันเลย คือวันพฤหัสบดีที่ 17 วันศุกร์ที่ 18 และวันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2551
ป.ล.ผมเข้าไปดูเวปไซ้ท์ ของ mureed.com ไม่มีบอกวันที่ของเดือนอิสลาม เห็นมีบอกแต่วันที่ทางเดือนสากล มีผู้ถามว่าวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม ตรงกับวันที่เท่าไร อาจารย์มุริด ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน เวลาเข้าบวชออกบวชประกาศได้ทันที ไม่เกิน 10 ช.ม. (หากผมกล่าวพาดพิงล่วงเกิน ผมขอมะอัฟด้วย) เวปไซ้ท์ ของ mureed.com น่าจะมีบอกวันที่ของเดือนอิสลามด้วยนะครับ (เพราะเวปไซ้ท์ของเราเกี่ยวกับอิสลาม)
วัสลามุอะลัยกุม _________________ Mhd_Yaseen |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
BilalThai มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 10/01/2008 ตอบ: 17
|
ตอบ: Sun Jan 13, 2008 9:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มีอีกหะดีษหนึ่งปรากฏอยู่ในมุซันนัฟ อิบน อบี ชัยบะอฺปรากฏข้อความยืนยันหะดีษกุรอยบ์ อิครีมะฮฺและซาลิมขอให้ประชาชนในเมืองมะดีนะฮฺเพิกเฉยต่อข่าวการเห็นเดือนในสถานที่ใกล้เคียง เพราะไม่มีการเห็นเดือนในเมืองมะดีนะฮฺ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Mon Jan 14, 2008 3:24 am ชื่อกระทู้: |
|
|
[quote="Mhd_Yaseen"]
คุณmahdisaudi ครับผมขออนุญาตแก้คำผิดของคุณด้วย คือคำว่า "เมื่อท่านเริ่ม ซุลหิจญะฮฺในวันที่ 10 มค.50 " แก้เป็น "เมื่อท่านเริ่ม ซุลหิจญะฮฺในวันที่ 10 ธ.ค.50 " แก้เดือน ม.ค.50 เป็นเดือน ธ.ค.50 อย่างนี้ถูกต้องไหมครับ
********************
ขอบคุณครับที่แก้ที่ผืดให้
********************************
สำหรับการเริ่มต้น 1 มุหัรรอม 1429 ในเมืองไทยนั้นควรเป็นวันพฤหัสบดี ที่ 10-หรือศุกร์ที่11 มค.51
เพราะวันพุธที่9 มค. ตรงกับ 29 ของซูลหิจญะฮฺ 1428
ถ้าเห็นฮิลาล วันที่ 10 มค.ก็เริ่มมุหัรรอม
ถ้าหากไม่เห็น วันที่ 11 มค. เริ่ม 1 มุหัรรอม
ผมรับหน้าที่จัดหาคนดูเดือนทางภาคใต้ แต่ผมออกเดินทางไปต่างประเทศ
อ. ชาฟิอี มีฮะ รองประธานดาราศาสตร์อีกท่านหนึ่งอยู่ ที่หนองจอก รับหน้าที่ดูเดือนของภาคกลาง
ท่านจะไปสังเกต จันทร์เสี้ยวทุกเดือนที่ชลบุรี ทุกปลายเดือน วันที่ 8และ9มค. อ.ชาฟิอีบอกว่าไม่เห๋น
วันที่9มค. ใน จว.สตูลและ ที่สงขลาบ้าน อ. อะสาน
ตรงสพานเปรม น่าจะเห็นชัดมากในวันที่ 9 มค. ที่ภูเก็ต ก็มีสิทธิ์เห็นได้ ในวันที่ 9
เพราะดวงจันทร์ตกหลังดวงอาทิตย์ 47 นาที
ดวงจันทร์อยู่สูงจากดวงอาทิตย์ประมาณ 11องศา45ลิบดา
ทางภาคใต้มีโอกาศเห็นจันทร์เสี้ยวมากกว่าทางเหนือ เพราะปูมทางเดินของดวงจันทร์
สองเดือนนี้ยังเฉียงอยู่ทางทิศใต้ ทางมาเลย์อินโดนีเซียยิ่งจะเห็นได้ดีกว่า
ถือศีลอด ก็เป็น 19-20 มค. _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Mon Jan 14, 2008 4:08 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ไม่ใช่ไทยเราเท่านั้น นสพ. อัลอรอเบียก็ บอก ว่าวันที9 มค. ตรงกับ วันที่ 31 ซุลหิจญะฮฺ
http://www.9m.com/preview/63853626/-------------.jpg.html
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น........ _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
BilalThai มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 10/01/2008 ตอบ: 17
|
ตอบ: Mon Jan 14, 2008 7:26 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอกลับมาพูดถึงสาระที่เกี่ยวข้องกับหะดีษกุรอยบ์อีกครั้งหนึ่ง
มีบางท่านวิเคราะห์ว่า ตัวกุรอยบ์เองไม่น่าเชื่อถือ ดูเหมือนคนวิเคราะห์จะลืมไปว่ากุรอยบ์เป็นบุคคลในกลุ่มผู้รายงานหะดีษ ท่านเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่เศาะหาบะฮฺ ขนาดมีคนไหว้วานให้ไปพบกับท่านมุอาวิยะฮฺ รอฎิฯ เพื่อจัดการกับธุระบางอย่าง ในส่วนตัวกุรอยบ์คือ อดีตทาส ที่ท่านอิบนิ อับบาสปล่อยให้เป็นอิสระ ท่านอิบนิ อับบาสจึงเข้ามาสอบถามและสนทนาด้วย ถ้าท่านอิบนิ อับบาสไม่รู้จักและไว้วางใจไม่ได้แล้ว ทำไมเฝ้าถามเรื่องการเห็นฮิลาลในชามจากบุคคลที่ท่านไม่ไว้วางใจ
รายงานเรื่องนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าพยานยืนยันเรื่องนี้มีกี่คน ถ้าเป็นเรื่องนี้ ท่านอิบนิ อับบาส คงจะตอบปฏิเสธคำพูดของกุรอยบ์ไปว่า เราเปลี่ยนการถือบวชตามกำหนดวันที่ท่านพูดมาไม่ได้ เพราะท่านเองเป็นพยานอยู่คนเดียว ยังไม่พอเพียงตามหลักการเป็นพยานที่พวกเรายึดถือ ขณะนั้นในใจ ท่านอิบนิ อับบาส คงจะไม่ได้อยู่ที่เรื่องจำนวนผู้รู้เห็นเหตุการณ์ ถ้าเรื่องนี้เป็นปัญหา แล้วยังเฝ้าถามไปทำไม? ประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่เรื่องพยาน แต่อยู่ที่การเห็นเดือนต่างหาก คือเห็นจริงหรือไม่ และเห็นเมื่อไร
การนำหะดีษเรื่องจำนวนพยานเข้ามาผนวกในการตีความหะดีษกุรอยบ์เป็นเพียงความต้องการที่จะ ตีความ ตัวหะดีษให้เป็นไปในทางที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ทั้งๆ ที่ปริบทรวมของหะดีษ ไม่ได้มีอะไรส่อเค้า หรือบ่งบอกถึงเรื่องพยานเลย
ดังนั้น หะดีษกุรอยบ์เราจึงเข้าใจและอธิบายได้เพียงว่า ท่านอิบนิ อับบาสในขณะนั้นยอมรับ เฉพาะ การดูเดือนในเขตท้องฟ้าของมะดีนะฮฺเท่านั้น อธิบายได้เท่านั้น
ท่านเองก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าแผ่นดินปกครองของมุอาวิยะฮฺไม่ได้เห็นเดือน แต่ท่านปฏิเสธที่จะเปลี่ยนกำหนดการถือศีลอดของท่านและของชาวเมืองมะดีนะฮฺ ให้ไปตรงกับกำหนดการถือศีลอดของเขตอำนาจการปกครองของท่านมุอาวิยะฮฺ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ท่านไม่ยอมทิ้งปฏิทินรอมฎอนของมะดีนะฮฺ แล้วหันไปใช้ปฏิทินรอมฎอนของดามัสกัสแทน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Osaku มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 25/06/2007 ตอบ: 15
|
ตอบ: Mon Jan 14, 2008 8:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
1- ไม่ทราบว่านักดาราศาสตร์สมัยปัจจุบันเคยคำนวณและวินิจฉัยไหมว่าระหว่างมะดีนะฮฺกับดะมัสกัสอยู่ในมะฏอลิอฺเดียวกันหรือต่างกันอย่างไร เท่าที่ทราบระยะทางระหว่างทั้งสองพอๆกับระยะทางระหว่างกรุงเทพไปยะลาคือประมาณ 1200 กว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง
2- ปัจจุบัน (โดยเฉพาะในแถบอาเซี่ยนที่อยู่ในมะฏอลิอฺเดียวกันเกือบทั้งหมด) การประกาศดูเดือนไม่ได้ยึดเอามะฏอลิอฺมาเป็นหลักเกณท์อย่างที่บรรดาผู้ยึดถือมะฏอลิอฺชอบอ้างแต่อย่าใด แต่จะยึดเอาตามประเทศใครประเทศมันมากกว่า ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่ค้านกับทัศนะของอุละมาอ์เก่าอย่างสิ้นเชิง
3- ตามทัศนะของมัซฮับชาฟิอีย์ที่มีเพียงมัซฮับเดียวที่ยึดเอาหะดีษกุเรบเป็นสำคัญ ระบุว่าระยะทางของอิตติหาดมะฏอลิอฺ (เอกภาพของมะฏอลิอฺ) คำนวณได้เพียงระยะทางละหมาดเกาะศ็อร หรือประมาณ 120 กิโลเมตรเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนี้ แสดงว่า ภาคกลางก็สามารถประกาศดุเดือนต่างหาก ภาคใต้ก็ประกาศดูเดือนตามประสาของเขา และภาคเหนือก็ประกาศดุเดือนที่ภาคเหนือโดยไม่จำเป้นต้องให้สอดคล้องกันทั้งหมด ถึงแม้จะอยู่ในประเทศเดียวกันใช่หรือไม่
4- มีคนชอบอ้างว่าเราอยู่ในประเทศไทยมีผู้นำเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือท่านจุฬา ดังนั้นการประกาศของท่านจึงเป็นใหญ่จำเป็นต้องน้อมรับ เพราะอิสลามไม่อนุญาตให้ปฏิบัติที่ค้านกับผู้นำ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะถือว่าอิบนุอับบาสก็เป็นฝ่ายผิดด้วยหรือไม่ที่ปฏิบัติค้านกับมุอาวิยะฮฺซึ่งเป็นเคาะลีฟะฮฺอยู่ในตอนนั้นและประกาศการเห็นเดือนก่อนหน้ามะดีนะฮฺหนึ่งวัน
ปล. อยากได้คำชี้แจงจากนักดาราศาสตร์และผู้ที่ยึดเอาทัศนะที่ว่า มะฏอลิอฺใครมะฏอลิอฺมัน ญะซากุมุลลฮฺค็อยร่อน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Goddut มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 04/10/2007 ตอบ: 9
|
ตอบ: Mon Jan 14, 2008 11:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
asan บันทึก: | Goddut บันทึก: | อธิบายวันเวลาด้านบน
เพราะอิสลาม เข้าวันเมื่อ ดวงอาทิตย์ตก มิใช่ เที่ยงคืน
จากฮะดีส
خُذُواعَنِّي مَنَاسِكَكُم
ความว่า ท่านทั้งหลายจงยึดถือพิธีกรรมต่าง ๆ ของพวกท่านจากฉันเท่านั้น |
ผมว่าคุณ Goddut ดูไปดีกว่านะครับ เพราะของคุณชักมั่วๆนอกประเด็น |
ไม่ได้มั่วครับอาบัง
เพราะเวปไซต์นี้บอกว่าเดือน ซุลฮิจยะ มี 31 วัน
และฮุจยาด ไปขว้างเสาหิน ในหนึ่งวัน 2 ครั้ง หรือ 6 ต้น
เนื่องมากจาก ไม่รู้เรื่องฟะลัก
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 12:03 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ท่านนบี กล่าวว่า
لا تصوموا حتى تروا الهلال، ولاتفطروا حتى تروه، فإن غم عليكم فاقدروا له
พวกท่านอย่าถือศีลอดจนกว่า พวกท่านจะเห็นเดือนเสี้ยวและพวกท่านอย่าละศีลอด จนกว่าพวกท่านจะเห็นมัน ดังนั้นเมื่อมีเมฆหมอกมาบัง พวกท่านก็จงคำนวนสำหรับมัน -รายงานโดยบุคอรี
......
หะดิษกล่าวกับมวลมุสลิมทั้งหลาย ,อักษรวาว ในคำว่า( (صوموا... افطروا) เป็นสรรพนาม แทนญะมาอะฮมุสลิม และไม่มีหลักฐาน มาเป็นข้อยกเว้นว่า เฉพาะมุสลิมที่อยู่ในมะฏอเลียะเดียวกัน หรือโซนเดียวกัน เพราะคำสั่งให้ถือศีลอดและให้ละศีลอด เนื่องจากการเห็นเดือนเสี้ยว ซึ่งครอบคลุมบรรดามุสลิมทั้งหมด
ส่วนหะดิษอิบนุอับบาส ที่กล่าวถึง การถือศีลอดของชาวเมืองชาม แตกต่างจากชาวเมืองมะดีนะฮ นั้น ก็ไม่ได้แสดงบอกว่า ให้พิจารณาเรื่อง ความแตกต่างการขึ้นของจันทร์เสี้ยว( اختلاف المطالع ) เพราะคำพูดของอิบนุอับบาสที่ว่า (هكذا أَمَرَنا رسول الله صلى الله عليه وسلم) อย่างนี้แหละที่รซูลุลลอฮ เคยใช้พวกเรา" นี้ไม่ใช่คำพูดที่สืบไปถึงท่านนบี แต่ทว่า มันเป็นเพียงคำพูดของอิบนุอับบาส และมันคือ การอิจญติฮาดของเศาะหาบะฮ ,นักนิติศาสตร์อิสลาม กล่าวว่า " การอิจญติฮาดของเศาะหาบะฮ นั้น ไม่ใช่หลักฐานทางศาสนบัญญัติ และการอิจญติฮาด(การวินิจฉัย)ของเศาะหาบะฮนั้น ไม่ได้ทำหน้าที่จำกัด(ตัคศีศ)สำนวนหะดิษที่กล่าวไว้โดยรวม(عموم الحديث) ที่ว่า صوموا لرؤيته(พวกท่านจงถือศีลอด เมื่อเห็นมัน(จันทร์เสี้ยว) การอิจญติฮาดของ อิบนุอับบาส มันก็คือ ความเห็นและความเข้าใจของท่านเท่านั้น.
........
วัสสลาม _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 12:23 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เพิ่มเติม
والراجح أن مذهب الصحابى ليس حجة، ولا يكون دليلا شرعيا مستقلا فيما يكون بالاجتهاد المحض، لأن المجتهد يجوز عليه الخطأ، ولم يثبت أن الصحابة ألزموا غيرهم بأقوالهم، فمرتبة الصحبة وإن كانت شرفا عظيما لا تجعل صاحبها معصوما عن الخطأ
และ(ทัศนะ)ที่มีน้ำหนักนั้น แท้จริง มัซฮับ(ทัศนะ)ของบรรดาเศาะหาบะฮ นั้น ไม่ใช่หลักฐานอ้างอิง และไม่เป็นหลักฐานทางศาสนบัญญัติที่เป็นเอกเทศ ในสิ่งที่เป็นการอิจญติฮาดล้วนๆ เพราะมุจญตะฮิด ย่อมมีการผิดพลาดได้ และไม่มีรายงานยืนยันว่าเหล่าเศาะหาบะฮ ยึดติด(หรือสังกัด)บรรดาคำพูด(ทัศนะ)ผู้อื่นจากพวกเขา เพราะตำแหน่งของเหล่าเศาะหาบะฮ ถึงแม้จะมีเกียรติและสำคัญเพียงใดก็ตาม การเป็นเศาะหาบะฮนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ได้รับการปกป้องจากความผิดพลาด(1)
...........
(1) أصول الفقة الإسلامى د/وهبة الزحيلى 2 /850 ومابعدها ط1 ، دار الفكر 1986 م ، تيسير أصول الفقة ، محمد أنور البدخشانى ، 162 ، ومابعدها. ط كراتشى باكستان 1990م
......
เพราะฉะนั้น การอ้างคำพูดของอิบนุอับบาสแบบหัวชนฝา ก็ควรจะทบทวนกันใหม่ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Goddut มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 04/10/2007 ตอบ: 9
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 12:30 am ชื่อกระทู้: |
|
|
แทนที่บังจะถามว่า เป็นมะฏอลิอฺเดียวกันไหม
หรือจะถามว่า ใครค้านกับอะไร
บัง Osaku น่าจะถามอย่างแรกก่อนว่า
โลกหมุนทางไหน แล้วเส้นแนวไหนมีเวลาเท่ากัน ?
เราต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อมีเลข 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 แล้วนับเรียงไปเรื่อยๆ
เมื่อเรากล่าวว่า เลข 5 นั้นคือ จุดเริ่มของวันใหม่
มันเป็นไปไม่ได้หรอกว่า เลข 0 1 2 3 4 จะเปลี่ยนตามเลข 5 ที่เวลามาก่อนทีหลัง
แต่มันเป็นไปได้ว่าเลข 6 7 8 และ 9 นั้น จะเปลี่ยนเป็นวันใหม่ด้วย ตามเลข 5
จากตรงนี้อธิบายได้ว่า
เมื่อประเทศไทยเข้าเวลามักริบ หมายถึงเริ่มวันใหม่แล้วนั้น
อีก 4 ชม ประเทศแถบอาหรับ จึงเข้าเวลามักริบ อันหมายถึงเข้าวันใหม่ตามมาเช่นกัน
แต่หากประเทศแถบอาหรับเข้าเวลามักริบ หมายถึงเริ่มวันใหม่แล้ว
ประเทศไทยซึ่งผ่านเวลามักริบไปแล้ว จะเข้าเวลามักริบ หรือเริ่มวันใหม่ได้อย่างไร ?
มันสมควรที่จะต้องรออีก 20 ชม. มิใช่หรือ ?
หากเป็นประเทศที่มีเวลาต่างกันมากๆ ถึง 10-12 ชม. แล้ว
การที่ประเทศหนึ่งเข้าเวลามักริบ หรือเริ่มวันใหม่ก่อนอีกประเทศ
เราจะตามเข้าวันใหม่ กับประเทศเหล่านั้นได้อย่างไรหรือ
เพราะหากเราอยู่ก่อนเขา หากเวลาละหมาดมักริบ คือ 6 โมงเย็น
นั่นก็ย่อมหมายถึงเราอยู่ ณ เวลาประมาณ ตี 5 หรือ 6 โมงเช้า
ซึ่งหากเป็นการเข้า 1 รอมดอน ก็ย่อมหมายความว่า รับประทานอาหารซุโฮรไม่ทันแน่นอน
เราอย่าลืมว่า
อัลกุรอานกล่าวไว้ว่า ดังนั้นผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้นและผู้ใดป่วย หรืออยู่ในการเดินทางก็จงถือใช้ในวันอื่นแทน อัลลอฮฺทรงประสงค์ให้มีความสะดวกแก่พวกเจ้า และไม่ทรงให้มีความลำบากแก่พวกเจ้า และเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ให้ครบถ้วน ซึ่งจำนวนวัน(ของเดือนรอมฎอน) และเพื่อพวกเจ้าจะได้ให้ความเกรียงไกรแด่อัลลอฮฺในสิ่งที่พระองค์ทรงแนะนำแก่พวกเจ้าและเพื่อเจ้าจะขอบคุณ ( อัลบะเกาะเราะฮฺ 2:185)
* อนึ่งการเข้าวันใหม่นั้น ก็คือเริ่มเข้าเดือนใหม่เช่นกัน เมื่อวันใหม่ที่เริ่มนั้นเป็นวันที่ 1 ของเดือน
ถามว่าเป็นการยากลำบากหรือไม่ ?
กับที่เราต้องอดหลับอดนอน คอยฟังประกาศจากทางประเทศซาอุ ตอนเวลาประมาณ ตี 1 - ตี 3
หรือหากเป็นประเทศไกลกว่าเรา เช่นญี่ปุ่น จะเป็นการลำบากหรือไม่ที่เขาต้องอดหลับอดนอน รอประกาศจากทางซาอุ ตอนเวลาประมาณ ตี 5 หรือ 6 โมงเช้า ?
ดังนั้นจากคำถามที่บังถาม
ประเทศที่มีแนวเดียวกัน มีเวลาเดียวกันนั้น ก็ย่อมหมายถีงเป็นมะฏอลิอฺเดียวกันนั่นเอง
เช่น ประเทศเวียดนามเห็นเดือนประเทศไทยก็เข้าเดือนตามได้ เป็นต้น
จากคำถามที่กล่าวว่า ดูเดือนประเทศใครประเทศมัน นั้นก็เพราะ
จะทำให้เกิดความยุ่งยากตามมา แล้วบางประเทศก็ใช้คำฟัตวาของ เชตอัลอุซัยมีนที่กล่าวว่า
ประเด็นดังกล่าวนี้จะต้องจะอ้างกลับไปยังผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้ หากดวงจันทร์ขึ้นตำแหน่งเดียวกันสำหรับสองประเทศ ถือว่าพวกเขาเป็นเสมือนประเทศเดียวกัน ดังนั้นประเทศใดประเทศหนึ่งจากทั้งสองดังกล่าวมองเห็นจันทร์เสี้ยวกฎนี้จะใช้กับอีกประเทศหนึ่งด้วย แต่หากตำแหน่งที่ขึ้นของดวงจันทร์แตกต่างกัน แต่ละประเทศก็จะใช้กฎของแต่ละประเทศ
( โดย มุฮัมมัด อัลศอลิหฺ อัลอุษัยมีน 28/8/1420 ฮ.ศ. มัจญมูอฺ อัลฟะตาวา 19 )
ซึ่งได้อธิบายเช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 1:23 am ชื่อกระทู้: |
|
|
Goddut บันทึก: | ประเด็นดังกล่าวนี้จะต้องจะอ้างกลับไปยังผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้ หากดวงจันทร์ขึ้นตำแหน่งเดียวกันสำหรับสองประเทศ ถือว่าพวกเขาเป็นเสมือนประเทศเดียวกัน ดังนั้นประเทศใดประเทศหนึ่งจากทั้งสองดังกล่าวมองเห็นจันทร์เสี้ยวกฎนี้จะใช้กับอีกประเทศหนึ่งด้วย แต่หากตำแหน่งที่ขึ้นของดวงจันทร์แตกต่างกัน แต่ละประเทศก็จะใช้กฎของแต่ละประเทศ
( โดย มุฮัมมัด อัลศอลิหฺ อัลอุษัยมีน 28/8/1420 ฮ.ศ. มัจญมูอฺ อัลฟะตาวา 19 )
ซึ่งได้อธิบายเช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม... |
.........
คำว่า "แต่หากตำแหน่งที่ขึ้นของดวงจันทร์แตกต่างกัน แต่ละประเทศก็จะใช้กฎของแต่ละประเทศ
....
ข้อความข้างต้นใช้หะดิษใหนเป็นบรรทัดฐานครับ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 4:37 am ชื่อกระทู้: |
|
|
มาชาอัลลอฮฺ คำถามคำตอบของแต่ละท่านที่เข้ามาร่วมเสวนา น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ทั้ง ท่าน บิลาล ถามและตอบ ..ท่านก๊อดดัรกล่าวเรื่องรอบวันของดวงจันทร์ที่เรามักมองข้าม
ท่านโอซากุ ถามเรื่องโซนที่จะแยกหรือรวมได้อย่างไรและคาดว่าในเวลาไม่นาน
คงจะมีการประชุมเรื่องขอบเขตของดาราศาสตร์ในอิสลามและปัญหาเรื่องมัฏละ
เรื่องการตามผู้นำ ที่ศูนย์กลางคลองตันคงมีโอกาศได้จัดวันประชุมแน่ๆครับท่านโอซากุ..
ส่วน อ. อะสาน ก็ให้คำตอบที่น่าติดตามและกล่าวถึงทัศนะท่านอิบนุอับบาสว่าเป็น
การอิจญติฮาดของ อิบนุอับบาส มันก็คือ ความเห็นและความเข้าใจของท่านอิบนุอับบาส เท่านั้น. ประโยคนี้ระทึกใจมากครับ
ผู้ถามผู้ตอบและผู้สนใจที่เข้ามาอ่าน อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ
และผมก็มีคำตอบมาให้ด้วยตามความรู้อันน้อยนิดถือว่าเรามาแลกเปลี่ยนทัศนะความรู้ซึ่งกันและกัน _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|