อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[มุสลิม72]

มีเสียงออกมาจาก สลาฟียูนว่า ในงานวันที่ 18/11 ที่ผ่านมา ที่หัวรอ นั้นหลักฐานที่ยกมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ คนที่จุดไฟในอายะห์ที่17 อัลบากอเราะห์เลย....ฉนั้นจึงขอความร่วมมือจากพี่น้องที่พอจะรู้แหล่งข้อมูลของ เชคริฎอ ว่า เอามาจากหนังสืออะไร? หน้าที่เท่าไหร่? เป็นของคนยุคใหน? โดยเฉพาะเล่มที่ คอลิด ไปขอดูจากเชค ...... เพื่อที่คนที่พอจะอ่านภาษาอาหรับเข้าใจจะได้ค้นคว้ากันต่อไป ว่าใครกันแน่ที่ "ยกเมฆ "
أعوذ بالله من الشيطان الر جيم ولاتلبسوا الحق بالباطل وتكتمون الحق وأنتم تعلمون

[มุสลิม72]

ได้ยินมาว่า อ้างถึงตัฟซีร อิบนิกะษีรด้วย เลยยกมาให้อ่านกัน
أَنْزَلَ مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَسَالَتْ أَوْدِيَةٌ بِقَدَرِهَا فَاحْتَمَلَ السَّيْلُ زَبَدًا رَابِيًا وَمِمَّا يُوقِدُونَ عَلَيْهِ فِي النَّارِ ابْتِغَاءَ

حِلْيَةٍ أَوْ مَتَاعٍ زَبَدٌ مِثْلُهُ كَذَلِكَ يَضْرِبُ اللَّهُ الْحَقَّ وَالْبَاطِلَ فَأَمَّا الزَّبَدُ فَيَذْهَبُ جُفَاءً وَأَمَّا مَا يَنْفَعُ النَّاسَ فَيَمْكُثُ فِي الْأَرْضِ كَذَلِكَ يَضْرِبُ اللَّهُ الْأَمْثَالَ

اِشْتَمَلَتْ هَذِهِ الْآيَة الْكَرِيمَة عَلَى مَثَلَيْنِ مَضْرُوبَيْنِ لِلْحَقِّ فِي ثَبَاته وَبَقَائِهِ وَالْبَاطِل فِي اِضْمِحْلَاله وَفَنَائِهِ فَقَالَ تَعَالَى " أَنْزَلَ مِنْ السَّمَاء مَاء " أَيْ مَطَرًا " فَسَالَتْ أَوْدِيَة بِقَدَرِهَا " أَيْ أَخَذَ كُلّ وَاحِد بِحَسَبِهِ فَهَذَا كَبِير وَسِعَ كَثِيرًا مِنْ الْمَاء وَهَذَا صَغِير فَوَسِعَ بِقَدْرِهِ وَهُوَ إِشَارَة إِلَى الْقُلُوب وَتَفَاوُتهَا فَمِنْهَا مَا يَسَع عِلْمًا كَثِيرًا وَمِنْهَا مَا لَا يَتَّسِع لِكَثِيرٍ مِنْ الْعُلُوم بَلْ يَضِيق عَنْهَا " فَاحْتَمَلَ السَّيْل زَبَدًا رَابِيًا " أَيْ فَجَاءَ عَلَى وَجْه الْمَاء الَّذِي سَالَ فِي هَذِهِ الْأَوْدِيَة زَبَد عَالٍ عَلَيْهِ هَذَا مَثَل وَقَوْله " وَمِمَّا يُوقِدُونَ عَلَيْهِ فِي النَّار اِبْتِغَاء حِلْيَة أَوْ مَتَاع " الْآيَة هَذَا هُوَ الْمَثَل الثَّانِي هُوَ مَا يُسْبَك فِي النَّار مِنْ ذَهَب أَوْ فِضَّة اِبْتِغَاء حِلْيَة أَيْ لِيُجْعَل حِلْيَة أَوْ نُحَاسًا أَوْ حَدِيدًا فَيُجْعَل مَتَاعًا فَإِنَّهُ يَعْلُوهُ زَبَد مِنْهُ كَمَا يَعْلُو ذَلِكَ زَبَد مِنْهُ " كَذَلِكَ يَضْرِب اللَّه الْحَقّ وَالْبَاطِل " أَيْ إِذَا اِجْتَمَعَا لَا ثَبَات لِلْبَاطِلِ وَلَا دَوَام لَهُ كَمَا أَنَّ الزَّبَد لَا يَثْبُت مَعَ الْمَاء وَلَا مَعَ الذَّهَب وَالْفِضَّة وَنَحْوهمَا مِمَّا يُسْبَك فِي النَّار بَلْ يَذْهَب وَيَضْمَحِلّ وَلِهَذَا قَالَ" فَأَمَّا الزَّبَد فَيَذْهَب جُفَاء " أَيْ لَا يُنْتَفَع بِهِ بَلْ يَتَفَرَّق وَيَتَمَزَّق وَيَذْهَب فِي جَانِبَيْ الْوَادِي وَيُعَلَّق بِالشَّجَرِ وَتَنْسِفهُ الرِّيَاح وَكَذَلِكَ خَبَث الذَّهَب وَالْفِضَّة وَالْحَدِيد وَالنُّحَاس يَذْهَب وَلَا يَرْجِع مِنْهُ شَيْء وَلَا يَبْقَى إِلَّا الْمَاء وَذَلِكَ الذَّهَب وَنَحْوه يُنْتَفَع بِهِ وَلِهَذَا قَالَ " وَأَمَّا مَا يَنْفَع النَّاس فَيَمْكُث فِي الْأَرْض كَذَلِكَ يَضْرِب اللَّه الْأَمْثَال " كَقَوْلِهِ تَعَالَى " وَتِلْكَ الْأَمْثَال نَضْرِبهَا لِلنَّاسِ وَمَا يَعْقِلهَا إِلَّا الْعَالِمُونَ " وَقَالَ بَعْض السَّلَف كُنْت إِذَا قَرَأْت مَثَلًا مِنْ الْقُرْآن فَلَمْ أَفْهَمْهُ بَكَيْت عَلَى نَفْسِي لِأَنَّ اللَّه تَعَالَى يَقُول " وَمَا يَعْقِلهَا إِلَّا الْعَالِمُونَ " قَالَ عَلِيّ بْن أَبِي طَلْحَة عَنْ اِبْن عَبَّاس فِي قَوْله تَعَالَى " أَنْزَلَ مِنْ السَّمَاء مَاء فَسَالَتْ أَوْدِيَة بِقَدَرِهَا " الْآيَة هَذَا مَثَل ضَرَبَهُ اللَّه اِحْتَمَلَتْ مِنْهُ الْقُلُوب عَلَى قَدْر يَقِينهَا وَشَكّهَا فَأَمَّا الشَّكّ فَلَا يَنْفَع مَعَهُ الْعَمَل وَأَمَّا الْيَقِين فَيَنْفَع اللَّه بِهِ أَهْله وَهُوَ قَوْله " فَأَمَّا الزَّبَد " وَهُوَ الشَّكّ " فَيَذْهَب جُفَاء وَأَمَّا مَا يَنْفَع النَّاس فَيَمْكُث فِي الْأَرْض " وَهُوَ الْيَقِين وَكَمَا يُجْعَل الْحُلِيّ فِي النَّار فَيُؤْخَذ خَالِصه وَيُتْرَك خَبَثه فِي النَّار فَكَذَلِكَ يَقْبَل اللَّه الْيَقِين وَيَتْرُك الشَّكّ وَقَالَ الْعَوْفِيّ : عَنْ اِبْن عَبَّاس قَوْله " أَنْزَلَ مِنْ السَّمَاء مَاء فَسَالَتْ أَوْدِيَة بِقَدَرِهَا فَاحْتَمَلَ السَّيْل زَبَدًا رَابِيًا " يَقُول اِحْتَمَلَ السَّيْل مَا فِي الْوَادِي مِنْ عُود وَدِمْنَة " وَمِمَّا يُوقِدُونَ عَلَيْهِ فِي النَّار " فَهُوَ الذَّهَب وَالْفِضَّة وَالْحِلْيَة وَالْمَتَاع وَالنُّحَاس وَالْحَدِيد فَلِلنُّحَاسِ وَالْحَدِيد خَبَث فَجَعَلَ اللَّه مَثَل خَبَثه كَزَبَدِ الْمَاء فَأَمَّا مَا يَنْفَع النَّاس فَالذَّهَب وَالْفِضَّة وَأَمَّا مَا يَنْفَع الْأَرْض فَمَا شَرِبَتْ مِنْ الْمَاء فَأَنْبَتَتْ فَجُعِلَ ذَاكَ مِثْل الْعَمَل الصَّالِح يَبْقَى لِأَهْلِهِ وَالْعَمَل السَّيِّئ يَضْمَحِلّ عَنْ أَهْله كَمَا يَذْهَب هَذَا الزَّبَد وَكَذَلِكَ الْهُدَى وَالْحَقّ جَاءَا مِنْ عِنْد اللَّه فَمَنْ عَمِلَ بِالْحَقِّ كَانَ لَهُ وَبَقِيَ كَمَا بَقِيَ مَا يَنْفَع النَّاس فِي الْأَرْض وَكَذَلِكَ الْحَدِيد لَا يُسْتَطَاع أَنْ يُعْمَل مِنْهُ سِكِّين وَلَا سَيْف حَتَّى يُدْخَل فِي النَّار فَتَأْكُل خَبَثه وَيَخْرُج جَيِّده فَيُنْتَفَع بِهِ فَكَذَلِكَ يَضْمَحِلّ الْبَاطِل فَإِذَا كَانَ يَوْم الْقِيَامَة وَأُقِيمَ النَّاس وَعُرِضَتْ الْأَعْمَال فَيَزِيغ الْبَاطِل وَيَهْلِك وَيَنْتَفِع أَهْل الْحَقّ بِالْحَقِّ وَهَكَذَا رُوِيَ فِي تَفْسِيرهَا عَنْ مُجَاهِد وَالْحَسَن الْبَصْرِيّ وَعَطَاء وَقَتَادَة وَغَيْر وَاحِد مِنْ السَّلَف وَالْخَلَف وَقَدْ ضَرَبَ سُبْحَانه وَتَعَالَى فِي أَوَّل سُورَة الْبَقَرَة لِلْمُنَافِقِينَ مَثَلَيْنِ نَارِيًّا وَمَائِيًّا وَهُمَا قَوْله " مَثَلهمْ كَمَثَلِ الَّذِي اِسْتَوْقَدَ نَارًا فَلَمَّا أَضَاءَتْ مَا حَوْله " الْآيَة ثُمَّ قَالَ " أَوْ كَصَيِّبٍ مِنْ السَّمَاء فِيهِ ظُلُمَات وَرَعْد وَبَرْق " الْآيَة وَهَكَذَا ضَرَبَ لِلْكَافِرِينَ فِي سُورَة النُّور مَثَلَيْنِ " أَحَدهمَا " قَوْله " وَاَلَّذِينَ كَفَرُوا أَعْمَالهمْ كَسَرَابٍ " الْآيَة وَالسَّرَاب إِنَّمَا يَكُون فِي شِدَّة الْحَرّ وَلِهَذَا جَاءَ فِي الصَّحِيحَيْنِ فَيُقَال لِلْيَهُودِ يَوْم الْقِيَامَة فَمَا تُرِيدُونَ ؟ فَيَقُولُونَ أَيْ رَبّنَا عَطِشْنَا فَاسْقِنَا فَيُقَال أَلَا تَرِدُونَ ؟ فَيَرِدُونَ النَّار فَإِذَا هِيَ كَسَرَابٍ يَحْطِم بَعْضهَا بَعْضًا ثُمَّ قَالَ تَعَالَى فِي الْمَثَل الْآخَر " أَوْ كَظُلُمَاتٍ فِي بَحْر لُجِّيّ " الْآيَة وَفِي الصَّحِيحَيْنِ عَنْ أَبِي مُوسَى الْأَشْعَرِيّ رَضِيَ اللَّه عَنْهُ أَنَّ رَسُول اللَّه صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ " إِنَّ مَثَل مَا بَعَثَنِي اللَّه بِهِ مِنْ الْهُدَى وَالْعِلْم كَمَثَلِ غَيْث أَصَابَ أَرْضًا فَكَانَ مِنْهَا طَائِفَة قَبِلَتْ الْمَاء فَأَنْبَتَتْ الْكَلَأ وَالْعُشْب الْكَثِير وَكَانَتْ مِنْهَا أَجَادِب أَمْسَكَتْ الْمَاء فَنَفَعَ اللَّه بِهَا النَّاس فَشَرِبُوا وَرَعَوْا وَسَقَوْا وَزَرَعُوا وَأَصَابَتْ طَائِفَة مِنْهَا أُخْرَى إِنَّمَا هِيَ قِيعَان لَا تُمْسِك مَاء وَلَا تُنْبِت كَلَأ فَذَلِكَ مَثَل مَنْ فَقِهَ فِي دِين اللَّه وَنَفَعَهُ اللَّه بِمَا بَعَثَنِي وَنَفَعَ بِهِ فَعَلِمَ وَعَلَّمَ وَمَثَل مَنْ لَمْ يَرْفَع بِذَلِكَ رَأْسًا وَلَمْ يَقْبَل هُدَى اللَّه الَّذِي أُرْسِلْت بِهِ " فَهَذَا مَثَل مَائِيّ . وَقَالَ فِي الْحَدِيث الْآخَر الَّذِي رَوَاهُ الْإِمَام أَحْمَد : حَدَّثَنَا عَبْد الرَّزَّاق حَدَّثَنَا مَعْمَر عَنْ هَمَّام بْن مُنَبِّه قَالَ : هَذَا مَا حَدَّثَنَا أَبُو هُرَيْرَة عَنْ رَسُول اللَّه صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهُ قَالَ " مَثَلِي وَمَثَلكُمْ كَمَثَلِ رَجُل اِسْتَوْقَدَ نَارًا فَلَمَّا أَضَاءَتْ مَا حَوْلهَا جَعَلَ الْفَرَاش وَهَذِهِ الدَّوَابّ الَّتِي يَقَعْنَ فِي النَّار يَقَعْنَ فِيهَا وَجَعَلَ يَحْجِزهُنَّ وَيَغْلِبْنَهُ فَيَقْتَحِمْنَ فِيهَا - قَالَ - فَذَلِكُمْ مَثَلِي وَمَثَلكُمْ أَنَا آخُذ بِحُجَزِكُمْ عَنْ النَّار هَلُمَّ عَنْ النَّار فَتَغْلِبُونِي فَتَقْتَحِمُونَ فِيهَا " وَأَخْرَجَاهُ فِي الصَّحِيحَيْنِ أَيْضًا فَهَذَا مَثَل نَارِيّ .

[มุสลิม72]

ตัวมันชิดกันไปหน่อยนะครับถ้าจะอ่านง่ายๆ ก็ตามลิงค์นี้ไปครับ
http://quran.al-islam.com/Tafseer/DispTafsser.asp?nType=1&bm=&nSeg=0&l=arb&nSora=13&nAya=17&taf=KATHEER&tashkeel=0 ใครมีความสามารถก็สรุปให้หน่อยก็ดี ส่วนผมความสามารถไม่ถึงครับ

[IRF]

ดิ้นเฮือกสุดท้ายรึเปล่าครับ?

คือถ้าครูหาก ยอมบอกว่า "ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าคุณดิเรกไม่ได้ให้ร้ายนบีว่าเป็นมุนาฟิก ส่วนใครจะให้ทรรศนะอายะฮฺ 17 ยังไงนั่นก็ว่ากันไป" เท่านี้ก็จบครับ ไม่เสียหายด้วย
แต่นี่แกเข้าใจว่าแกโดนล้มไง เข้าใจไปเองว่าชกแพ้ มันก็เลยไม่ยอมสิ โด่งดังขนาดนี้ ลูกศิษย์ลูกหาเป็นเบือ จะกลับลำก็ยังไงอยู่
ก็เลยต้องพุ่งไปข้างหน้าต่อไป .. แต่พุ่งครั้งนี้มันแย่ครับ มันทำลายตัวเอง

ไอตอนที่ประท้วงเดนมาร์ค ก็ไปยกเรื่องคอวาริจมาพูด (ทีอาจารย์ตัวเองและกลุ่มตัวเองไปหุก่มคนอื่นว่าเกเฟรฺ อันนี้ไม่เห็นเรียกตัวเองว่าคอวาริจ)
เหมาคนอื่นว่าเป็นอะฮฺลุลฮาวา นี่ก็วินิจฉัยแบบตกขอบ
ยังไม่พอ พอตัวเองโต้แพ้ ไม่ยอม แพ้แล้วพาล ก็เลยแก้เกี่ยวทำนองว่า โหย วันนั้นตามไม่ทัน มันยกหลักฐานปลอมหมดเลย ยกเมฆมาหมดเลย ไม่เกี่ยวกะเรื่อง!! นั่น.. ดิ้นเฮือกสุดท้าย

ผมขอบอกว่าไอ้พฤติกรรมอย่างเนี้ย อยู่ได้ไม่นาน .. จำสูตรไว้เลยครับ "หลอกคนโง่ หลอกได้ไม่นาน" เพราะแน่นอนครับ ว่าคนโง่ซักวันมันก็ต้องฉลาด และวันนั้นแหละมันจะรู้ว่ามันโดนหลอก

หลังโต้วาทีวันอาทิตย์ อ.แดงโกเมน ก็ออกวิทยุ บอกตัวแกก็ไม่ได้ไปฟัง ไม่รู้ว่าพูดอะไรไปบ้าง
แต่ก็พูดสรุปว่า "แท้จริงในการบัยยานนั้นมีไสยศาสตร์(เล่ห์กล)" ..แหม้ ยกหะดีษนบี
ถ้าไม่ได้ไปฟัง อย่างงี้เข้าใจได้สถานเดียวว่า ฟังคำบอกเล่ามาว่า ครูหากเสียท่า!! ทางนู้นอธิบายชัดเจน เอาอยู่หมัด.. ทำนองนี้ อ.แดงโกเมนก็เลยออกมาช่วยพ่นให้ (เสียงหวั่นๆเครือๆอยู่เหมือนกัน ..เทปมีครับ เค้าทำแจกด้วย)

จริงๆแล้วหะดีษข้างต้นยกมาก็ไม่ศึกษาชาเราะฮฺให้ละเอียด ..หะดีษนี้น่ะนบีชมคนที่บัยยาน(คนหนึ่งที่นบีเจอเข้า)ต่างหากครับ ไม่ได้ใช้ให้ระวัง

กลับมาเรื่องอายะฮฺ 17 ผมก็คิดเหมือนที่เชคพูดในวันโต้วาทีล่ะครับ ว่าจะเอาเรื่องนี้มาพูดทำไม มีเรื่องก็อดยานีย์อยากจะพูดล่ะไม่ให้พูด (ชาวบ้านจะได้รู้ว่า อะไรคือก็อดยานีย์? จะยัดคนๆหนึ่งให้เป็นก็อดยานีย์นั้น คนๆนั้นต้องมีหลักความเชื่ออย่างไร ..ทำนองนี้) แต่ก็ให้มาพูดเรื่องอายะฮฺ 17 ที่จะตีความทรรศนะไหนก็ได้

อย่างไอ้ "เขา"(พหูพจน์) เนี่ย จะเป็น มุนาฟิกก็ได้ ยิวก็ได้ นะศอรอก็ได้ มุชริกีนก็ได้ ..ไม่มีมันซูสกล่าวถึงมุนาฟิก แต่หลายคนจะเข้าใจต่อเนื่องว่า กุรอานกำลังกล่าวถึงมุนาฟิกอยู่ ฉะนั้น อายะฮฺนี้ก็กล่าวถึงมุนาฟิกต่อ ..เข้าใจแบบนี้ก็ไม่มีปัญหา และเป็นทรรศนะส่วนมาก และมีน้ำหนัก
แต่ส่วนของคนจุดไฟเนี่ย ที่ว่า"ชายคนหนึ่ง"(เอกพจน์) คนนี้ล่ะ กล่าวถึงใคร? กล่าวถึง "เขา" แรก(จุดไฟเอง) หรือกล่าวถึง "คนอื่น"ที่มาจุดไฟให้ ?

ถ้า "เขา" หมายถึงยะฮูดี กาเฟรฺอะไรต่างๆ อันนี้แสดงว่า คนจุดไฟไม่ได้หมายถึงคนพวกนี้ เพราะกาเฟรฺไม่ได้กล่าวชะฮาดะฮฺเข้ารับอิสลาม
แต่ถ้า "เขา" หมายถึงมุนาฟิก เออ อันนี้ตีความได้ว่า คนจุดไฟหมายถึงมุนาฟิก เพราะกล่าวกะลิเมาะฮฺ ทำทีเข้ารับอิสลาม แต่ก็ถูกดับไฟไป ..จะเข้าใจอย่างนี้ก็ได้ ไม่เสียหาย
ส่วนจะเข้าใจว่า คนจุดไฟ(มีคนเดียว) หมายถึงนบีมุฮัมมัด อย่างนี้ก็ไม่เสียหาย ..ก็หมายถึง นบีมาจุดไฟ(แสงสว่าง)ให้ แต่ยะฮูดไม่ได้รับ มุนาฟิกไม่ได้รับ มุชริกีนไม่ได้รับ ... ทำนองนี้

นี่ถ้าคนจับประเด็นเป็น จะรู้ทันทีว่าครูหากเสียท่าไม่ใช่ตอนโต้ เสียตั้งแต่สรรหาประเด็นนี้มาพูดแล้ว ..เพราะคนเรามันตึ๊บขนาดไหนล่ะที่จะไปเข้าใจว่า มีคนๆหนึ่งลบหลู่นบีมุฮัมมัด!! โดยกล่าวหาว่านบีเป็นมุนาฟิก! เออ..คนมีความรู้ก็หลงกันได้ง่ายๆเนอะ ..มีลัทธิไหนที่มันตัวว่าเป็นอิสลามแล้วมันด่านบีมุฮัมมัดมั่ง?? อยากรู้! ก็อดยานีย์ตัวจริงน่ะมันยังไม่กล้าด่านบีมุฮัมมัดเลย ..มันยกย่องนบีในฐานะที่ไม่ได้เป็นนบีคนสุดท้าย (นั่นขนาดลัทธิมุรตัด กาเฟรฺ)

ตัว อ.ดิเรกเองก็อธิบายอายะฮฺนี้ไว้ในบัยยานุลกุรอาน (ที่ครูหากชอบโจมตีเหลือเกิน) ประเด็นนี้ครูหากก็ไม่ตอบคำถามว่าทำไมไม่ยกคำอธิบายของเค้ามาประกอบ ปกปิดไว้ทำไม?
อ.ดิเรก อธิบายสองทรรศนะว่า ผู้จุดไฟ ทรรศนะที่หนึ่ง อาจหมายถึง มุนาฟิก ทรรศนะที่สอง อาจหมายถึง นบีมุฮัมมัด ..เค้าก็ละเอียด เพราะเค้าก็คัดจากหลายตำรา(อาหรับ อุรดู และอังกฤษ)มาใช้ในการอธิบายกุรอาน

เชคอาลี อีซา ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องอายะฮฺ 17 นี้เลย เพราะรู้ดีว่าไม่มีอะไรผิด (ต้องยอมรับว่าเชคอาลีกว้างขวางเรื่องตัฟซีรกุรอาน)

ความรอบครอบในการหุก่ม อันนี้ครูหากรอบครอบและระวังตัวกว่าเชคอาลี อาลีหุก่มโปร้งเลย ก็อดยานีย์!! แต่ครูหาก บอก เค้าเป็นไม่เป็นนั่นผมไม่รู้!! แต่เขามีกุฟรฺ!
แต่เรื่องการแขวะหา สรรค์หา ขุดคุ้ยมาโจมตี อันนี้ครูหากไม่รอบครอบ ..(และความมั่นใจนำมาสู่ความเจ๊ง)

ตอนแรกบอกจะคุยบะละเฆาะฮฺอาหรับ แต่พอโต้ไปโต้มาบอก "ผมพูดถึงภาษาไทย"!!
คำว่า "เช่น" กับ "คือ" เหมือนกัน ... !! (ไปใหญ่แล้ว) ..ไปเถียงอ.ดิเรก ซึ่งเป็นคนเขียนพจนานุกรมฉบับบัณฑิตสถาน

[IRF]

หลักฐานที่ถูกเชคนำเสนอเยอะแยะ คำโต้แย้งง่ายๆคือ ยกเมฆ! นอกประเด็น! เฮ่ย!! นี่หลอกคนโง่ชัดๆ ผมโตะใจโหมะเลย มามุขนี้

มิหนำซ้ำ เอกสารที่เชคให้ไปศึกษา ..ก็หลอกชาวบ้านว่านั่นไม่ใช่นักวิชาการ เป็นคนมาโพสต์ในเน็ตเฉยๆ (เหมือนเราๆท่านๆที่กำลังเล่นกระทู้อยู่นี่แหละ) ไม่ใช่ครับ ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าพึ่งโผลงผลาง
เชค มุฮัมมัด อับดุลลอฮฺ ดะรอซ เป็นนักวิชาการที่เชี่ยวชาญตัฟซีรกุรอานครับ (ที่แจกให้ไปอ่านน่ะ) และเว็บ www.tafsir.net ไม่ใช่เว็บที่เอาใครมาลงมั่วซั่วครับ นักวิชาการทั้งนั้น

.....

ครูหากบอก ถ้ามีนักมุฟัซซิรีนอธิบายเหมือนอ.ดิเรกซักคนเดียว ผมจะขอโทษออกวิทยุ .. นี่เชคยกมาตั้งหลายคน คนอื่นน่ะชัดๆทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ ท่านมุญาฮิด ซึ่งเป็นตาบิอีน ก็ได้ยกหะดีษ ที่ท่านนบีบอกเองว่าท่านเป็นคนจุดไฟ .. ท่านมุญาฮิดเอาหะดีษนี้มาอธิบายกุรอานอายะฮฺ 17 (เหมือน อ.ดิเรก และเหมือนมุฮัมมัด อาลี ที่ครูหากเข้าใจว่าเป็นต้นฉบับเดียวของอ.ดิเรก)
และครูหากโต้บนเวที ว่าอย่ายกหะดีษมา!! เอากุรอานอายะฮฺนี้ อย่าไปประเด็นอื่น!! ..เอ้า! ก็นักอธิบายกุรอานเขายกหะดีษมาอธิบายกุรอาน ผิดด้วยเหรอ? นี่คือหลักการตัฟซีร

...
เอาล่ะ เพื่อความเข้าใจง่ายๆ ในอิบนุ กะษีรเองนี่แหละ
ที่คุณมุสลิม 72 ยกมานี่แหละ

(แต่หายากหน่อยนะ) ใครเอยไปหาอิหม่ามการีมว่า หาไม่เจอ ร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าอิหม่ามการีม (ผมล่ะอุตส่าห์สงสารแล้วนะ) แต่พอไปออกวิทยุ บอก "อิหม่ามการีมมาร้องไห้กับผม" !! ดูสิ..คนเรา! แต่โทษครับ อิหม่ามอัดเทปไว้ครับ วันที่ท่านไปคุยกะแกน่ะ ...ผมเชื่อเหลือเกิน วันหนึ่งทุกอย่างจะจบโดยถูกแฉความจริง

ที่คุณมุสลิม72 ยกมา ซูเราะฮฺ อัรเราะอฺดฺ อายะฮฺ ที่ 17 นั่นก็คือการอธิบายอุทธาหรณ์ครับ

อุทธาหรณ์ของน้ำ ..กุรอานถ้ากล่าวเกี่ยวกับน้ำ จะกล่าวถึงเรื่องอะไร ...(ว่าไป) การประทานน้ำ ประโยชน์ของน้ำ ...
ส่วนอุทธาหรณ์ของไฟ ..กุรอานถ้ากล่าวถึงไฟ จะกล่าวถึงเรื่องอะไร .. (ถ้าเป็นอุปมานะ) จะหมายถึงแสงสว่าง, สัจธรรม
อิบนุ กะษีรใช้ไปดูนู่น ..ซูเราะฮฺอันนูรฺ มีกล่าวไว้ ..(โปรดอย่าลืมว่าจะเข้าใจกุรอาน ต้องใช้กุรอานอธิบาย)
และในตัฟซีรอัรเราะอฺดฺอายะฮฺนี้ ก็ได้อ้างกลับไปถึงต้นบะเกาเราะฮฺ ก็คืออายะฮฺ 17 ที่กล่าวถึงไฟ
مَثَلهمْ كَمَثَلِ الَّذِي اِسْتَوْقَدَ نَارًا فَلَمَّا أَضَاءَتْ مَا حَوْله (เจอมั้ยครับ) ก็คืออายะฮฺนี้แหละ مَثَلُهُمْ كَمَثَلِ الَّذِي اسْتَوْقَدَ نَارًا فَلَمَّا أَضَاءَتْ مَا حَوْلَهُ ذَهَبَ اللَّهُ بِنُورِهِمْ وَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَاتٍ لَا يُبْصِرُونَ
และได้อ้างถึงท่านมุญาฮิดและอัลบัสรี (ที่พวกท่านถามว่าเอามาจากไหน)
และในตอนท้ายอิบนุ กะษีรก็ได้ยกรายงานจากอิหม่ามอะหฺมัดเช่นเดียวกัน

ส่วนอันนี้เป็นตัฟซีรของบะเกาเราะฮฺ อายะฮฺ 17
http://quran.al-islam.com/Tafseer/DispTafsser.asp?nType=1&bm=&nSeg=0&l=arb&nSora=2&nAya=17&taf=KATHEER&tashkeel=0
ซึ่งอิบนุ กะษีรได้อธิบายถึงว่า ทำไมอัลลอฮฺถึงเอาแสงสว่างออกจากพวกเขา

...เอ่อ ไปดูตัฟซีรฺเหล่านี้หน่อยสิครับ คุณมุสลิม72 น่าจะอธิบายผมได้ ผมไม่เข้าใจอ่ะครับ
ดูซิว่าของใคร? เค้าอธิบายว่าไง?
http://www.altafsir.com/Tafasir.asp?tMadhNo=2&tTafsirNo=10&tSoraNo=2&tAyahNo=17&tDisplay=yes&UserProfile=0



{ أُوْلَـٰئِكَ ٱلَّذِينَ ٱشْتَرَوُاْ ٱلضَّلاَلَةَ بِٱلْهُدَىٰ } اختاروا الكفر على الإيمان وباعوا الهدى بالضلالة.

{ فَمَا رَبِحَتْ تِّجَارَتُهُمْ } لم يربحوا في تجارتهم بل خسروا { وَمَا كَانُواْ مُهْتَدِينَ } من الضلالة { مَثَلُهُمْ } مثل المنافقين مع محمد صلى الله عليه وسلم { كَمَثَلِ ٱلَّذِي ٱسْتَوْقَدَ نَاراً } أوقد ناراً في ظلمة لكي يأمن بها على أهله وماله ونفسه { فَلَمَّآ أَضَاءَتْ مَا حَوْلَهُ } استضاءت ورأى ما حوله وأمن بها على نفسه وأهله وماله طفئت ناره فكذلك المنافقون آمنوا بمحمد عليه الصلاة والسلام والقرآن فأمنوا به على أنفسهم وأموالهم وأهاليهم من السبي والقتل فلما ماتوا { ذَهَبَ ٱللَّهُ بِنُورِهِمْ } بمنفعة إيمانهم { وَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَاتٍ } في شدائد القبر { لاَّ يُبْصِرُونَ } الرخاء بعد ذلك ويقال مثلهم أي مثل اليهود مع محمد صلى الله عليه وسلم كمثل رجل أقام علمًا في هزيمة فاجتمع إليه منهزمون فقلبوا علمهم فذهبت منفعتهم وأمنهم به كذلك اليهود كانوا يستنصرون بمحمد صلى الله عليه وسلم والقرآن قبل خروجه فلما خرج كفروا به فذهب الله بنورهم برغبة إيمانهم ومنفعة إيمانهم لأنهم أرادوا أن يؤمنوا بمحمد عليه الصلاة والسلام فلم يؤمنوا وتركهم في ظلمات في ضلالة اليهودية لا يبصرون الهدى { صُمٌّ } يتصاممون { بُكْمٌ } يتباكمون { عُمْيٌ } يتعامون { فَهُمْ لاَ يَرْجِعُونَ } عن كفرهم وضلالتهم { أَوْ كَصَيِّبٍ مِّنَ ٱلسَّمَآءِ } وهذا مثل آخر، يقول مثل المنافقين واليهود مع القرآن كصيب كمطر نزل من السماء ليلاً على قوم في مفازة { فِيهِ } في الليل { ظُلُمَاتٌ وَرَعْدٌ وَبَرْقٌ } كذلك القرآن نزل من الله فيه ظلمات بيان الفتن ورعد زجر وتخويف وبرق بيان وتبصرة ووعداً { يَجْعَلُونَ أَصَابِعَهُمْ فِيۤ آذَانِهِم مِّنَ ٱلصَّوَاعِقِ } من صوت الرعد { حَذَرَ ٱلْمَوْتِ } مخافة البوائق والموت كذلك المنافقون واليهود كانوا يجعلون أصابعهم في آذانهم من الصواعق من بيان القرآن ووعده ووعيده حذر الموت مخافة ميل القلب إليه { وٱللَّهُ مُحِيطٌ بِٱلْكَافِرِينَ } والمنافقين أي عالم بهم وجامعهم في النار { يَكَادُ ٱلْبَرْقُ } النار { يَخْطَفُ أَبْصَارَهُمْ } يذهب بأبصار الكافرين كذلك البيان أراد أن يذهب بأبصار ضلالتهم { كُلَّمَآ أَضَآءَ لَهُمْ } البرق { مَّشَوْاْ فِيهِ } في ضوء البرق { وَإِذَآ أَظْلَمَ عَلَيْهِمْ قَامُواْ } بقوا في الظلمة كذلك المنافقون لما آمنوا مشوا فيما بين المؤمنين لأنهم تقبل إيمانهم فلما ماتوا بقوا في ظلمة القبر { وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ لَذَهَبَ بِسَمْعِهِمْ } بالرعد { وَأَبْصَارِهِمْ } بالبرق كذلك لو شاء الله لذهب بسمع المنافقين واليهود بزجر ما في القرآن ووعيد ما فيه وأبصارهم بالبيان { إِنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَيْءٍ } من ذهاب السمع والبصر { قَدِيرٌ يَا أَيُّهَا ٱلنَّاسُ } يا أهل مكة ويقال هم اليهود { ٱعْبُدُواْ رَبَّكُمُ } وحدوا ربكم { ٱلَّذِي خَلَقَكُمْ } نسماً من النطفة { وَٱلَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ } وخلق الذين من قبلكم { لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ } لكي تتقوا السخطة والعذاب وتطيعوا الله.

[IRF]

เอ้าเฮ่ย!! ทำไมวงเล็บมั่วเลย เรียงมั่วเลย .. คาดว่า คงเพราะเครื่องไม่มีฟร้อนท์มั้งครับ ผมก็อปจากเว็บมาใส่กระทู้เลย

ยังไงช่วยอ่านจากเว็บแล้วกันครับ

[IRF]

ครับ งั้นเท่านี้ก่อน เดี๋ยวว่างๆมาหาให้ต่อ (ผมก็อยากหาเหมือนกัน)
อยากหาเว็บของซุนนะฮฺเรานี่แหละ ถ้าคุณรู้จักเว็บตัฟซีรไหนอีก ช่วยบอกมาด้วยนะ เดี๋ยวจะช่วยกันค้นครับ

[มุสลิม72]

คุณIRF ถ้าคุณเข้าใจสิ่งที่คุณยกมา ช่วยเน้นสีหน่อย หรือยกมาให้เห็นจะๆ หน่อยเถอะ ว่าตรงใหนที่คุณอ้างว่า และได้อ้างถึงท่านมุญาฮิดและอัลบัสรี (ที่พวกท่านถามว่าเอามาจากไหน)
และในตอนท้ายอิบนุ กะษีรก็ได้ยกรายงานจากอิหม่ามอะหฺมัดเช่นเดียวกัน
ยังยืนยันนะครับ ว่า ไม่ได้บอกเลยว่าคนจุดไฟใน17อัลบากอเราะห์คือนบี
และลิงค์ที่สองนี่ เวปใครหว่า????? ตัฟซีรทึ่คุณยกมานี่ของใคร? คุณรู้จักรึเปล่า? ช่วยยกมาหน่อยนะ ยกมาเป็นหน้าๆอย่างนี้ ผมก็อ่านหมดแล้วยังหาไม่เจอเลยคุณเอ๋ย หรือท่านasan จะช่วยซะหน่อยก็ดีนะ อย่าหลงประเด็นนะ ตรงใหนบอกว่าคนจุดไฟในอายะห์ที่ 17 อัลบากอเราะห์คือนบี....

[มุสลิม72]

เอ่อ ไปดูตัฟซีรฺเหล่านี้หน่อยสิครับ คุณมุสลิม72 น่าจะอธิบายผมได้ ผมไม่เข้าใจอ่ะครับ
ดูซิว่าของใคร? เค้าอธิบายว่าไง?
ดูจากข้อความของคุณนี่ คุณนี่ก็กล้าเหมือนเชคคุณเลยนะ???

[asan]

[มุสลิม72]

ท่านasanครับ ประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นเก่านะครับ ประเด็นนี้สืบเนื่องมาจาก งานวันที่ 18/11 ที่หัวรอ
มีการอ้างว่ามี สลัฟหลายท่านก็อธิบายว่า คนที่จุดไฟในอายะห์ที่17 อัลบากอเราะห์ หมายถึงนบี และมีอยู่ในตัฟซีร อิบนิกะซีร ผมก็แค่ขอให้ลูกศิษย์ที่ไปร่วมช่วยเอามาเผยแพร่เป็นวิทยาทานหน่อยเถอะ ว่ามันอยู่ตรงใหน? แล้ว IRF ผู้กล้าก็ได้ยกมาให้ชม ผมก็อ่านแล้วก็ไม่พบว่ามันอยู่ใหนหว่า ถ้าท่านทราบ ท่านเห็นว่ามันมีอยู่ ก็ช่วยอธิบายหน่อยเถอะ ท่านasan แล้วผมจะยุติประเด็นนี้ทันที จริงผมก็ไม่ได้โพสต์มาหลายวันแล้วครับ

[dr]

السلام عليكم

ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับ ดีวีดี งานที่หัวรอ
ได้มาก็รีบเปิดดู ( คนที่ให้มาเขาบอกว่า อ.อิสหาก ย่อยยับเลย )
ผมนั่งดูอยู่นานมาก จนมาถึงจุดสำคัญ ตรงที่ เชคริฏอ นำหลักฐานมาเสนอ
เริ่มตั้งแต่ ท่าน มุยาฮิด ท่ายอิบนุ อะตียะห์ ท่านอะบู ฮัยยาน และ และ และ ฯ
หลักฐานเพรียบ งานนี้ อ,อิสหาก โดนน็อคแน่ แต่เพื่อความชัดเจนลองไปเปิดหนังสือดูซิว่ามันจริงอย่างที่เชค ริฏอ นำมาเสนอหรือไม่
เริ่มด้วยหนังสือตัฟซีร ของท่าน มุยาฮิด อ่านอยู่ 3 รอบตรง อายะห์ ที่ 17 ก็ไม่พบว่านบีเป็นผู้จุดไฟ . ท่าเชค ริฏอ คงลิ้นลื่นไปเอง
เล่มที่สองต่อด้วย ตัฟซีรของท่าน อิบนุ อะตียะห์ ตรงอายะห์ ที่ 17 ก็ไม่มีอีก . ผมเริ่มใจเสีย
เล่มที่สามตามด้วย อัลบะฮฺรุล มุฮีต ของท่าน อะบู ฮัยยาน อัล-อัลดะลุซีย์ เล่มนี้ อ่านนานหน่อยเพราะอธิบายกว้าง แต่ก็ไม่พบว่านบีเป็นผู้จุดไฟ . 3 เล่มแล้วนะ ที่เชค ริฏอ ของผมพลาด
น่าเสียดาย ที่หนังสือที่ท่านเชคริฏอ นำมาเสนอนั้น หลายเล่มผมไม่มี อ้อผมยังมีอีกเล่มนึง คือ ตัฟซีร อิบนุ กะซีร พอเปิดดูตามที่เชค ริฏอ บอก ปรากฏว่า มีจริง ๆ ผมใจชื้นขึ้นมาทันที .
แต่พออ่านในรายละเอียดแล้ว มันคนละเรื่องกัน เพราะในฮาดีษนั้นมีการเปรียบเทียบระหว่างซอฮาบะห์ที่อยู่ร่วมกับนบี เปรียบกับคนจุดไฟ แต่ในอายะห์ที่ 17 ของบะกอเราะห์ นั้นพูดถึงพวก
มุนาฟิกีน กับคนจุดไฟ .
สรุปแล้ว 4 เล่มที่เชค ยกมาอ้าง 3 เล่ม ไม่มีเรื่องนี้ อีกหนึ่งเล่ม มีจริง แต่ไม่ตรงประเด็น
อะไรเป็นอะไรคงเข้าใจนะครับ

[ชาริค]

ผมก็เช่นกันได้ยินคนเขาพูดกันอย่างคุณdr ดเหมือนกันแต่โทรศัพย์ถามเพื่อนๆที่อยู่นอกวงการหลายคนก็พูดเหมือนกันคือเชคริฎอมั่ว

[IRF]

ถามคุณ dr ครับ ช่วยอธิบายต่อด้วยนะ (เพราะแค่ที่คุณว่าทำนองว่าเชคยกเมฆนี้ มุขนี้ฟังกันเยอะและ)
แต่อยากให้อธิบายว่า ทรรศนะของอิบนุ อะตียะฮฺ, อบูฮัยยาน ที่เชคยกมามีข้อความว่าอะไรบ้างครับ?

[asan]

{ مَثَلُهُمْ } مثل المنافقين مع محمد صلى الله عليه وسلم { كَمَثَلِ ٱلَّذِي ٱسْتَوْقَدَ نَاراً } أوقد ناراً في ظلمة لكي يأمن بها على أهله وماله ونفسه { فَلَمَّآ أَضَاءَتْ مَا حَوْلَهُ } استضاءت ورأى ما حوله وأمن بها على نفسه وأهله وماله طفئت ناره فكذلك المنافقون آمنوا بمحمد عليه الصلاة والسلام والقرآن فأمنوا به على أنفسهم وأموالهم وأهاليهم من السبي والقتل فلما ماتوا { ذَهَبَ ٱللَّهُ بِنُورِهِمْ } بمنفعة إيمانهم { وَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَاتٍ } في شدائد القبر { لاَّ يُبْصِرُونَ } الرخاء بعد ذلك ويقال مثلهم أي مثل اليهود مع محمد صلى الله عليه وسلم كمثل رجل أقام علمًا في هزيمةمًا في هزيمة فاجتمع إليه منهزمون فقلبوا علمهم فذهبت منفعتهم وأمنهم به كذلك اليهود كانوا يستنصرون بمحمد صلى الله عليه وسلم والقرآن قبل خروجه فلما خرج كفروا به فذهب الله بنورهم برغبة إيمانهم ومنفعة إيمانهم لأنهم أرادوا أن يؤمنوا بمحمد عليه الصلاة والسلام فلم يؤمنوا وتركهم في ظلمات في ضلالة اليهودية لا يبصرون الهدى
อุปมาพวกเขา) อุปมาบรรดาพวกมุนาฟิกีน(พวกหน้าไหว้หลังหลอก) กับมุหัมหมัด (ดังเช่นผู้ที่จุดไฟขึ้นมา ) เขาจุดไฟอยู่ในความมืด เพื่อให้ครอบครัวของเขา,ทรัพย์สินของเขาและตัวของเขาเองปลอดภัยด้วยมัน (เมื่อไฟได้ให้แสงสว่างสิ่งที่อยู่รอบตัวเขา) คือ เมื่อไฟได้ให้แสงสว่าง และเขาได้มองเห็นสิ่งรอบๆตัวเขา และเขาทำให้ตัวของเขา,ครอบครัวของเขาและทรัพย์สินของเขาปลอดภัยด้วยมัน แล้วไฟของเขาก็ดับลง ,ดังกล่าวนั้น ดังเช่น บรรดามุนาฟิกีน พวกเขาได้ศรัทธาต่อ มุหัมหมัด อะลัยฮิสเศาะลาตุวัสสลาม และอัลกุรอ่าน แล้วพวกเขาทำให้ตัวของพวกเขา,ทรัพย์สินของพวกเขาและครอบครัวของพวกเขาปลอดภัยจากการถูกจับเป็นเชลยและปลอดภัยจากการถูกฆ่า แล้วเมื่อพวกเขาได้ตายลง( อัลลอฮได้นำเอาแสงสว่างของพวกเขาไป) หมายถึงทรงได้นำสิ่งที่เป็นประโยชน์ของการอีหม่านของพวกเขาไป(และปล่อยให้พวกเขาตกอยู่ในความมืด) หมายถึง ตกอยู่ในความรุนแรงแห่งการลงโทษในหลุมศพ (โดยที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็น) ความผาสุก หลังจากนั้นได้ และมีผู้กล่าวว่า "อุปมาพวกเขา หมายถึง อุปมา พวกยะฮูดี กับมุหัมหมัด อุปมัยดังเช่น ชายคนหนึ่ง ที่ปักหลักเครื่องหมายเอาไว้ ในสถานที่อันตราย บรรดาผู้ที่จะได้รับอันตราย ก็มาชุมนุมกัน ณ ที่เขา แล้วพวกเขาก็ได้เปลี่ยนหลักเครื่องหมายของพวกเขาเสีย แล้วสิ่งที่เป็นประโยชน์ของพวกเขาและ ความปลอดภัยของพวกเขาด้วยมันจึงหายไป ดังกล่าวนั้น อุปมาดังเช่น พวกยะฮูดี พวกเขาได้เป็นที่ประจักษ์(เข้าใจ)เกี่ยวกับมุฮัมหมัด และ อัลกุรอ่าน ก่อนที่นบีมุหัมหมัดได้ปรากฏออกมา แล้วเมื่อมุหัมหมัดปรากฏออกมา พวกเขาก็ปฏิเสธ ต่อเขา อัลลอฮจึงได้เอาแสงสว่างพวกเขา ด้วยการปราถนาการศรัทธาและประโยชน์ของการศรัทธาของพวกเขาออกไปเสีย เพราะพวกเขาเคยปราถนาที่จะศรัทธาต่อมุหัมหมัด แล้วต่อมาพวกเขาก็ไม่ศรัทธาต่อเขา(มุหัมหมัด)และทรงปล่อยพวกเขาให้อยู่ในบรรดาความมืด ในความหลงผิดแบบยะฮุดีย์ ซึ่ง พวกเขาก็จะไม่เห็นทางนำ - ตัฟสีร อัลกุรอ่านของอัลฟัยรูซ อาบาดีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 17 ซูเราะฮอัลบะเกาะเราะฮ
.........
จากคำอธิบายข้างต้น อยากจะถามว่า นักวิชาการที่อธิบายข้างต้น เขาเป็นกอ็ดยานีย์ไหมครับ
เพราะ อุปมาอุปมัยข้างต้น เขาได้ยกชื่อนบีมุหัมหมัดมาอุปมา หวังว่า คุณ มุสลิม 72 และสหายคงอธิบายได้นะครับ และอยากขอร้องว่าถ้าอ้างตัฟสีรที่เป็นภาษาอาหรับ ต้องถอดความภาษาไทย ให้ผู้อ่านเขารู้เรื่องด้วย เพราะคุณมุสลิม 72 และทีมงานล้วนเชี่ยวชาญในวิชาตัฟสีรทั้งนั้น โดยเฉพาะคุณ ดอ็กเตอร์ (dr) และในท้ายนี้ ถ้าผมแปลผิดยินดีให้แก้ไขครับ เพราะไม่ชำนาญเรื่องตัฟสีรอัลกุรอ่าน โดยเฉพาะเรื่อง กอ็ดยานีย์
.......
วัสสลาม