ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
หล่อเสมอ มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 20/02/2004 ตอบ: 6
|
ตอบ: Wed Mar 24, 2004 1:45 am ชื่อกระทู้: |
|
|
สลามถึงท่านที่มีรักเดียวใจเดียว
อยากทราบว่าความยุติธรรมอย่างไหน ที่ศาสนาจะอนุมัติ มีกฎกติกาอย่างไรบ้าง
เพราะถ้าจะฟังพวกคุณแล้ว ดุนยานี้มีเมียคนเดียวแน่นอน
บางคนบอกว่าต้องขออนุญาติภรรยาคนแรกก่อนก่อน...........แกจะบ้าหรืออย่างไร
อยากโดนมันก่นด่าหรือไง
การนิกะห์ไม่จำเป็นต้องขออนุญาติจากภรรยาคนแรกไม่ใช่ดอกหรือ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
รอยยา มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/02/2004 ตอบ: 78
|
ตอบ: Wed Mar 24, 2004 4:26 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เมื่อไหร่เวมาสเตอร์จะปิดกระดานนี้ซะที
ปล่อยให้พวกเห็นแก่ตัวพล่ามแต่จะเอาเมียใหม่อยู่ได้
ทั้งหนุ่มทั้งแก่มีแต่งูเต็มหัว
รำค้าน รำคาญ จริงๆนะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Mhd_Yaseen มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 21/01/2004 ตอบ: 27 ที่อยู่: ทุ่งครุ กทม.
|
ตอบ: Mon May 31, 2004 8:38 am ชื่อกระทู้: |
|
|
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
จะรีบปิดทำไม เรามาช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันน่ะดีแล้ว ความคิดที่สร้างสรรค์นะ ไม่เอาอารมย์เป็นที่ตั้ง
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته _________________ Mhd_Yaseen |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
maJnoon มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 24/01/2004 ตอบ: 27 ที่อยู่: ไม่..ที่บ้านก็มัสยิด..
|
ตอบ: Wed Jun 02, 2004 11:14 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมคนนึง..ที่ไม่เห็นด้วยกับการมีภรรยาน้อย..
แต่เราควรมีภรรยากันเยอะๆ...(อย่าเกิน 4 นะจ้ะ)
อิอิ..... :P _________________ "..อัลลอฮฺมิทรงมองดูที่ลักษณะทางร่างกายของท่านหรือที่ทรัพย์สิน
ของท่าน แต่พระองค์จะทรงมองที่หัวใจและการกระทำของท่าน.."
(มุสลิม) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Mhd_Yaseen มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 21/01/2004 ตอบ: 27 ที่อยู่: ทุ่งครุ กทม.
|
ตอบ: Mon Jun 07, 2004 9:12 am ชื่อกระทู้: re: ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการมีภรรยาน้อย....คุณเห็นด้วยหรือไม่ |
|
|
ผมเห็นด้วยที่ผู้ชายจะมีภรรยาน้อย
ถ้าครอบครัวไม่ลงตัวจากสาเหตุหลายประการ เช่นภรรยาให้ความสุขสามีไม่ได้
การมีภรรยาน้อยไม่ได้ทำให้ครอบครัวแตกแยกเสมอไป ถ้าคุยกันให้เข้าใจในความต้องการก่อน
สามีต้องมีหลักการ เคร่งครัดในศาสนา สามารถให้ความยุติธรรมได้ มีไปเถอะครับเพื่อความสุข _________________ Mhd_Yaseen |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ali มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jun 10, 2004 12:02 am ชื่อกระทู้: |
|
|
แต่ผมไม่เห็นด้วยที่มีภรรยาน้อย
ต้องมีภรรยาเยอะๆ
แต่อย่าเกิน 4 ครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
muslimthaihealth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 26/05/2004 ตอบ: 2
|
ตอบ: Fri Jun 11, 2004 3:42 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เท่าที่อ่านแสดงว่าคนแถวนี้มีเมียแล้วทั้งนั้น
ว้า......อดเลยเรา.....
นึกว่าจะหาหนุ่มๆ หล่อๆ ล้ำ ได้แถวนี้
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
upaporn มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/05/2004 ตอบ: 13 ที่อยู่: ที่บ้าน
|
ตอบ: Fri Jun 11, 2004 10:19 pm ชื่อกระทู้: ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการมีภรรยาน้อย คุณเห็นด้วยหรือไม่ |
|
|
อัสลามมุอะลัยกุม
ถ้าคิดถึงภาพลักษณ์ ภรรยาน้อย จะรู้สึกออกมาในทางลบ
แต่ถ้าคิดถึงหลักความเป็นจริง ที่ผู้หญิง(จริง ๆ)จำนวนมากในโลกนี้มีมากกว่าผู้ชาย
จะให้เธอยืนรอไปจนตายเลยรึไง ยิ่งสมัยนี้ผู้ชายมาแข่งกันเป็นผู้หญิงก็เยอะน้อยเสีย
เมื่อไหร่ แล้วผู้ชายที่กลัวโน่นกลัวนี่มีเยอะไป ความยุติธรรมที่เปี่ยมล้นด้วยความปราณี
ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอยู่ไหนหรือ
วัสสลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sat Jun 12, 2004 8:11 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามมุอะลัยกุมท่านสมาชิกทุกๆท่าน
เมื่อผม เห็นหัวข้อกระทู้ลองอ่านดูแล้ว ผมขอนำข้อความที่ผมเคยลงคุยกันใน Pantip ซึ่งอาจจะมีประโยชน์ บ้างไม่มากก็น้อย......
Pantip Polygamy
ขอความสันติจงมีแด่สมาชิกทุกๆท่าน
ก่อนที่จะสนทนากับคุณ kheedes ในเรื่อง ผู้รู้ นั้น ผมขอ แวะอธิบายเรื่องการมี ภรรยา สี่คน เพียงสั้น แก่คุณ ผู้หญิงคน1 ก่อนนะครับ เพราะปัญหานี้เป็นที่น่าสนใจ ของ ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมมาเป็นเวลานาน...
ในข้อ 6. ที่ คุณที่คุณมุสลิมคน1 นำมาเสนอ รวมอยู่ในสิ่งมหัศจรรย์ ยุคใหม่ของโลกนั้น..ว่า
ทำไมการทำชู้ โสเภณีและการรักร่วมเพศ
ถูกถือว่าเป็นเพียงเสรีภาพทางเพศในตะวันตก ...
แต่เมื่อมีการพูดว่าในอิสลาม ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งคนกลับมีคนถือว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ?
การเปรียบเทียบ เรื่อง ปัญหาโสเภณี, การมีภรรยาน้อย และการคบชู้ กับ การที่ศาสนาอิสลามอนุญาตให้มีภรรยา ได้ไม่เกิน 4 คน นั้น เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ถูกต้องของ ผู้ตั้ง ปัญหาใน ข้อที่ 6.
ผมเข้าใจความรู้สึกของ คุณผู้หญิง คน 1 เป็นอย่างดี.....
ในสังคมต่างๆ รวมทั้ง ในสังคมมุสลิมไทยและใน ต่างประเทศ นั้น การกระทำเช่นนั้น เป็นสิ่งที่เลวและไม่ถูก ต้อง ไม่ ว่าจะตามหลักการของในศาสนาใด, แม้แต่ในศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ และในพุทธศาสนาก็ตาม
การเข้าใจหลักการอันนี้ มันเป็นการจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจว่า ในยุค ก่อน Civilization ของสังคมมนุษย์ นั้น ผู้หญิง ไม่มี เสรีภาพในตัวเองเลย เปรียบเสมือน สิ่งของ หรือ ปศุสัตว์ (ผมต้องขออภัยท่านสุภาพสตรีด้วย ในความจำเป็นต้อง อ้างประวัติศาสตร์เช่นนี้) มีการซื้อขาย และแลกเปลี่ยน และยกให้เป็นของ กำนัล ในระหว่าง ชายและเพื่อน ชายที่มี อำนาจ ด้วยกัน
ดังนั้นการมีภรรยาหลายคนในยุคก่อน Civilization จึงเป็นที่ยอมรับใน สังคม สมัยนั้น ในกลุ่มประเทศตะวันตก, ตะวันออก, เอเชีย และในประเทศกลุ่ม อรับทั้งหลาย......
การมีภรรยาหลายคน เป็นแนวการดำเนินชีวิต ของ ชาวอาหรับ และ ประชา ชาติ อื่น ๆ มา เป็นเวลานาน ก่อน สมัย ที่ ศาสนาอิสลาม ถูกประทาน มา สู่ มนุษยชาติ
หมายเหตุ:
การอธิบายต่อไปนี้ผมจะขอ อธิบาย ตาม ความเข้าใจของผม ในฐานะที่ มีความศรัทธา ในพระเจ้าองค์เดียว ซึ่งตรงกับภาษา อรับ ว่า อัลลอฮ์ โดยอาศัย อัลกุรอาน
ประมานกว่า 1400 ปีล่วงมาแล้ว สมัยที่โลกยัง มีอายุน้อย และยังมีประชากรของโลกไม่มากนัก การมีภรรยาหลายคนเป็น การช่วยเพิ่มจำนวนประชากร ของโลก เพื่อที่จะ มา สนองรับใช้ พระองค์ อัลลอฮ์ ในการที่พระองค์ อัลลอฮ์ ได้วางแผนไว้ให้แล้ว เมื่อตอนถึงเวลา ที่ อัลลอฮ์ ประทานอัลกุรอาน ในเวลานั้น ประชากร ในผืนโลกมีมากพอสมควร และประกอบทั้ง สภาพสังคมอยู่ในสภาวะสงคราม มีชายมุสลิมถูฆ่าตายเป็นจำนวนมาก และ มีแม่หม้ายและ เด็กกำพร้า เพิ่มขึ้น ในสังคมมากขึ้น ในขณะนั้น พระองค์ อัลลอฮ์ ได้ส่งกฎบัญญัติลง มาห้ามการมี ภรรยา หลายคน เป็นครั้งแรกในสังคมมนุษย์ การมี ภรรยามากกว่า หนึ่งคน ได้รับการอนุญาต ให้กระทำได้ ใน อัลกุรอาน ภายใต้ สถานการณ์และเงื่อนไขที่เข้มงวด ถ้าผู้ใดก็ตามที่นำบัญญัติ ข้อ นี้ ไปใช่ ในทางที่ผิด จะ ได้รับ การ ลง โทษ อย่างรุนแรง
ดังนั้น ถึงแม้ว่า การมีภรรยามากกว่า หนึ่งคน ที่ได้รับการอนุญาต จากพระองค์อัลลอฮ์, เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ ของเราที่จะต้อง พิจารณา สถานการณ์และหลักการ เงื่อนไข ต่างๆ อย่าง รอบคอบ ก่อนที่เราจะกล่าวว่า การมีภรรยามากกว่าหนึ่ง คนนั้น ได้รับ การอนุญาต จากพระองค์ อัลลอฮ์ ให้เรา กระทำได้
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ศาสดาฮัมมัด) เป็นตัวอย่างที่ดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าท่านปฏิบัติ ตาม กฎที่อัลลอฮ์ ทรงบัญญัติไว้ ในเรื่อง การ มีภรรยามากกว่า หนึ่ง คน ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่งงาน กับ นาง คอดิญะห์ และอยู่กับ นาง มีลูกด้วยกันหลายคน, ภรรยาของท่านร่อซูล (นางคอดิญะห์) คนนี้ อยู่กับท่านรอซูล อย่าง ผัวเดียว เมียเดียว มาเป็นเวลา 25 ปี จนกระทั้ง นาง สิ้น ชีวิตลง ท่านรอซูล ให้ความดูแลเธอและ ลูกๆของท่าน อย่าง มีความสุขสบาย ในระหว่างที่นางมีชีวิตอยู่
ตัว อย่างนี้แสดงให้เห็นว่า เพื่อความ สุขที่แท้จริง การแต่งงานกับผู้หญิงที่เรารัก และต้องการให้เป็นภรรยา คู่ชีวิตของเรานั้น ในทางปฏิบัติ ที่ถูกต้องแล้ว คือมีเพียง คนเดียว ดังเช่นตัวอย่างที่ท่านรอซูล แสดงให้เห็นว่า ท่านรอซูล มีภรรยา คนเดียว ตั้งแต่อายุ 25-50 ปี ในระหว่างชีวิติที่ท่านเหลืออยู่ 13 ปีนั้น ท่านรอซูล แต่ง งานกับ หญิงหม้ายผู้มีอายุ ซึ่งเป็นแม่หม้าย ของ เพื่อนท่านที่เสียชีวิต และทิ้ง ลูกไว้หลายคน เนื่องจากเด็กกำพร้า เหล่านั้น ต้องการ ครอบครัวที่อบอุ่น และมีบิดาที่เป็น หัวหน้าครอบ
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ช่วยเหลือเด็กเหล่านั้น โดยการ แต่งงาน กับหญิงหม้ายผู้นั้น และดูแล ลูกของเธอให้ความอบอุ่น แก่เด็กกำพร้า เหล่านั้น การให้การเลี้ยงดูเด็กกำพร้า โดยวิธีที่ท่าน รอซูล ปฏิบัตินี้ ตรงตามที่ อัลกุรอาน ซูเราะห์ อนิสา อายะห์ 3 ซึ่งเป็นสถานการสิ่งแวดล้อม ที่ อัลลอฮ์ ทรงอนุมัติ ให้ กระทำได้
ซูเราะห์อนิสา อายะห์ 3 พระองค์อัลลอฮ์ทรง บัญญัติว่า ถ้าเจ้าไม่แน่ใจว่าเจ้า จะมีความ สามารถที่ จะให้ความ ยุติธรรมกับ บรรดาลูกกำพร้า. จงแต่งงานกับ หญิงที่เจ้าเลือกแล้ว 2 หรือ 3 หรือ 4 คน; แต่ถ้าเจ้าไม่คิดว่าจะให้ความยุติธรรม กับ ภรรยาทุกๆคนได้ ดังนั้น เจ้า จงแต่งงานกับ หญิงเพียงคนเดียว หรือ จะแต่งกับ หญิงเชลยที่อยู่ในความครอบครองของเจ้า, ทั้งนี้จะเป็นการสมควร เพื่อป้องกัน ตัวเจ้าเองจากการกระทำ ความ อยุติธรรม
นอกจากการแต่งงาน กับแม่หม้าย เพื่ออุปการะลูกกำพร้า ดังกล่าว ข้างต้นแล้ว ท่าน รอซูล ได้ แต่ง งาน อีก 3 ครั้ง ในระยะเวลา 13 ปี ในช่วงหลังของชีวิตของท่าน คือ
1. ท่านแต่งงาน กับ ลูกสาวของ เพื่อนสนิท ของท่าน คือ นางอาอิชะฮ์
2. ท่านแต่งงาน กับ ลูกสาวของเพื่อน สนิท ของ ท่าน อีก คน หนึ่ง คือ นางฮัฟเซาะอ์
3. ท่านแต่งงาน กับ หญิงชาวอียิปต์ มาเรีย ซึ่ง ผู้ปกครอง ของอียิปต์ ยกให้เพื่อเป็น การสร้าง
สัมพันธ์ ทางการเมือง
จะเห็นว่า ท่านรอซูล แต่งงานในระหว่างระยะเวลา 13 ปี ช่วงหลังของ ชีวิตของท่าน นี้ ใน (1) และ (2) ท่านแต่งงานเพื่อสร้าง ความสัมพันธ์ กับหญิงที่เป็น ลูกสาว ของเพื่อนสนิท ของท่าน คือ อาบูบัคร์ และ อูมัร ที่ เขาทั้งสองขอร้อง ให้ท่านรอซูลแต่ง งาน กับ ลูกสาว ของเขา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ ตามประเพณี ของครอบครัว (แต่งด้วยความยินยอมของ บิดาของหญิง ตามประเพณี อรับ ซึ่ง ถือว่า เป็นการ ให้เกียรติ ด้วยความรักระหว่างเพื่อน เพื่อ ที่จะได้รวมเป็นครอบครัวเดียวกัน)
การแต่งงานในข้อ (3) เนื่องจากหญิงชาวอียิปต์นางมาเรีย เป็น กรรมสิทธิ์ ของท่านรอซูลที่ผู้ครองประเทศอียิปต์ยก นางให้ท่าน, แต่งงานเพื่อยกนางมาเรีย ให้พ้นจากการ เป็นทาส เพื่อจะได้ มีความเสมอ ภาค กับภรรยาคนอื่นๆ (จากหนังสือชีวประวัติของท่านศาสดา)
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ ที่แสดง ให้เห็นว่า ชายผู้เป็นสามี จะต้องให้ความสนใจและให้เกียรติ ต่อภรรยาและครอบครัว อย่าง เต็มที่ เพื่อ ที่จะนำ มาเพื่อ ความ สุข ในครอบครัว
อัลกุรอาน ย้ำในเรื่องการจำกัด จำนวน มีภรรยาหลายคน ให้ จำกัดอยู่ ที่ไม่เกิน 4
คน และ กำหนด ไว้ด้วย โองการ ที่เฉียบขาดว่า,
ถ้าเจ้ากลัวว่าเจ้าจะไม่สามารถให้ความยุติธรรมแก่ภรรยา ในการที่เจ้า มีมากกว่า
1 คน ดังนั้น เจ้าจง มีความพอใจ ต่อ การมีภรรยา เพียง คนเดียว เท่านั้น (4:3)
พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวเตือน ไว้อีกว่า,
เจ้าไม่มีทางที่จะให้ความยุติธรรม (แก่หญิง) ในการมีภรรยาหลายคน ได้ ไม่ว่า
เจ้าพยายามอย่างมากเท่าใดก็ตาม (4:129)
อัลกุรอาน จำกัดการมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน โดยชี้ ให้เห็นว่า ในการปฏิบัติเช่นนั้น มีทางที่จะใช้ กฎบัญญัติ(4:3) ในทางที่ผิดได้ ดังนั้น เราควรทำความเข้าใจความหมายของ กฎเกน ในอายะ (4:3) อย่าง ชัดเจน และแน่ใจว่าเราสามารถที่จะ ทำตามและมีคุณสมบัติ ครบทุกอย่าง ตามที่อัลลอฮ์ บัญญัติไว้ โดยไม่ใช้ บัญญัติของพระองค์ ในทางที่ผิด เพื่อประโยชน์ ของ ตัวเอง หรือ ใช้ ในการเอาเปรียบ เพศตรงข้าม เพราะ ความมักมาก ในกามคุณ
แต่เพื่อให้แน่ใจที่สุดว่า เรา จะไม่ หมิ่นเหม่ ในการประพฤติผิด กฎ ของอัลลอฮ์ เรา ควร จะหนีห่าง จากความคิด หรือ การพยายามที่จะ มีภรรยา มากกว่า 1 คน, โดยการอดทนต่อความใคร่และความ ละโมบ ของเรา, ถ้าเหตุการณ์(สถานการณ์) และ สิ่งแวดล้อม ของ สังคม ไม่บีบคั้น ให้เรา จำเป็น ต้อง มีภรรยา มากกว่า 1คน
สิ่งที่ดีที่ควรทำที่สุดก็คือ ทุ่มเทความสนใจ ของเราต่อ ภรรยาคนเดียว และลูกๆ ในครอบครัวของเรา ให้มาก ที่สุด เท่าที่ความสามารถ ของจะทำได้ ให้มีความอดทน ต่อ สิ่งเย้ายวนต่างๆ พระองค์อัลลอฮ์ ได้เตรียมการ ให้ชายมีความอดทน ในเรื่อง ความมักมากในกามรมย์ ไว้ เรียบร้อยแล้ว ในอายะ(24:30) โดยเฉพาะในสังคมและประเทศที่มีกฎหมายห้ามการ มีภรรยา มากกว่า 1 คน
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดแก่บรรดาชายมุสลิม ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษา ความ บริสุทธิ์ของพวกเขา, นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ (24:30)
ดูตัวอย่างของท่านรอซูล ที่ท่าน ใช้ชีวิตครอบครัวอยู่กับภรรยาคนแรกของท่านจนสิ้น ชีวิตจากท่านไป เป็นเวลานานถึง 25 ปี โดยที่ไม่มีประวัติว่า ท่านรอซูล ทำการนอกใจ ท่านหญิง คอฮ์ดิยะฮ์ สักครั้งเดียว
ในสังคม อรับ และ ในประเทศ ที่อนุญาต ให้ชายมีภรรยามาก กว่า 1 คนได้ มีหลักการ เบื้องต้น ที่ ชาย มุสลิม ที่อยู่ใน สังคมนั้น จะ ต้องรำลึก ก่อนที่จะตัด สิน ใจ มี ภรรยา มาก กว่า 1 คน ดังนี้:
1. สิ่งแวดล้อม และสถานการ ในสังคม บีบบังคับ ให้ต้องกระทำ เช่น ในสภาวะที่สังคมนั้น ไม่มี
หลักการ หรือกฎหมาย ในการ ป้องกัน และ คุ้มครอง หญิงหม้าย และ เด็กกำพร้า เช่น ใน
สภาวะ สงคราม ที่กรุง มะดีนะ ในสมัย ท่านรอซูล
2. การมีภรรยามากกว่า 1 คน สร้าง ความปวดร้าวในจิตใจ ให้แก่ภรรยา และ ลูกๆ ใน
ครอบครัว ดังนั้นชาย จึงไม่ควร อ้าง เอา อายะ4:3 มาอ้างเพื่อ หลอก ลวง ภรรยา ว่า เป็น
ซุนนะห์ ที่จะต้องทำ ตามท่านศาสดามูฮัมมัด และ ภรรยาคนแรกจะได้ บุญด้วย เพราะแสดง
ถึงเป็นคน มีใจกว้าง ที่ อนุญาต ให้สามีทำตามซุนนะห์
ท่านมุสลิมะห์ (สุภาพสตรีมุสลิม) ทั้งหลาย โปรด ให้ความสนใจ ข้อ นี้ เป็นพิเศษ อย่า ให้ สามี, ครูสอนศาสนา อิสลาม, และ บรรดาอิหม่ามต่างๆ หรือ แม้แต่พี่น้อง ในครอบครัว ของ คุณ และของ สามี นำเอา ฮาดีษ และ ซุนนะห์ ต่างๆ มาหลอก ลวงว่า ถ้าคุณ อนุญาต ให้ สามี มีภรรยา คนที่ สอง ได้ ไม่ ว่า จะมีเหตุผล ในทางสุขภาพ และ ทางศาสนาอย่างไรก็ตาม
คุณจะได้บุญ อย่างมหาศาล
3. ถ้าชายที่เริ่มตั้งครอบครัวใหม่, การมีภรรยามากกว่า 1 คน เป็นการนอกใจภรรยา และเป็นการ
ใช้หลักการบิดเบือน บทบัญญัติ ของอัลลออ์ ในทางที่ผิด อย่างแน่นอน
4. การมีภรรยาคนที่สอง ที่มีอายุน้อยกว่า ภรรยา คนแรก หรือ มีภรรยาคนที่สอง เพื่อเอา มาแทน ภรรยา คนแรก ที่หมดความงาม และ แก่ แล้ว เป็นการ ผิดหลักการ ของ อิสลาม และ ดื้อดึง ต่อ บัญญัติ ของ อัลลอฮ์
ผมจะขอสรุปให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายทราบว่า ใน อัลกุรอาน บทที่ 4 บัญญัติที่ 3 (4:3) นั้น พระเจ้า(อัลลอฮ์) ทรงประทานโองการนี้ มาให้ มนุษย์ชาติ ในสมัย ที่ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตกต่ำมาก และผู้หญิง ถูก กดขี่ข่มเหง เหมือน สิ่งของ (ไม่ใช่มนุษย์ ขาด สิทธิเสรีภาพ) ท่านประทานโองการนี้มาสำหรับแก้ปัญหาสังคมที่ตกต่ำที่ไม่มี กฎหมายของมนุษย์ในการป้องกันสิทธิของเด็กและ ผู้หญิง ในสมัยนั้น และเพื่อเป้นการยกสิทธิของหญิงให้เท่าเทียมกับชาย , แต่ไม่ได้หมายความว่า เรา จะ นำ บัญญัติ 4:3 มาใช้ในปัจจุบันได้ เนื่องจาก มนุษย์ได้เรียนรู้จาก บัญญัติของ อัลลอฮ์ แล้วนำมาประยุกต์ ใช้ออกเป็นกฎหมายสากล ใช้อยู่ ในปัจจุบันี้
ขอย้ำในที่นี้ว่า ข้อความข้างบนนี้ ไม่ได้หมายความว่า อัลกุรอาน บทที่ 4 บัญญัติที่ 3 (4:3) นั้นล้าสมัย และหมดสภาพไปแล้ว, แต่ในทางตรงกันข้าม อัลกุรอาน บทที่ 4 บัญญัติที่ 3 (4:3) นี้ ยังคงทันสมัยอยู่เสมอ ในกรณีที่สังคมมนุษย์ ตกต่ำ และทั้งเด็กและผู้หญิง ตก อยู่ ในสภาพเช่นเดียว กับ ในสมัยก่อน 1400 กว่า ปีที่ผ่านมา มุสลิม รวมทั้ง มนุษย์ ชาติ ไม่ว่าจะ มีความศรัทธาในศาสนาใด, อัลกุรอาน บทที่ 4 บัญญัติที่ 3 (4:3) จะต้องถูกนำมาใช้อีก เพื่อแก้ปัญหาสังคม
ปัญหา โสเภณี และการค้าขายประเวณีทั้งชายและหญิง, มีอยู่ทั่วไป ทั้ง ในสังคมไทยและในสังคมต่างประเทศ รวมทั้งประเทศในภาคตะวันออกกลาง ที่มี ผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่, ปัญหานี้ อยู่ที่ผู้บริหารประเทศ ไม่ได้อยู่ที่หลักการของศาสนาใดๆทั้งสิ้น ผู้บริหารประเทศ ในเอเชีย ต้องการดึงดูด นักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศ, ประชาชนในประเทศตะวันตกบางประเทศ ที่มีกฎหมาย โสเภณี รุนแรง ก็หลบมาหาความสำราญทางเพศในเกือบทุกประเทศในเอเซีย รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง
ทุกๆศาสนาใหญ่ๆ ในโลก มีพื้นฐานในจริยาธรรมเช่นเดียวกัน คือ มีหลักของ ข้อห้าม 5 ประการ ของ มนุษยชาติ หรือ ศีล 5 , ศีลห้าเป็นข้อห้ามใหญ่ที่เฉียบขาด ไม่มีข้ออนุโลม ศาสนิกชน ในทุกๆ ศาสนา จะปฎิเสทไม่ได้ ว่า ถ้าทุกคนปฏิบัติตามศีล 5ได้ ครบ สังคมจะสงบ ทุกๆคนจะเป็นคนดีได้
สำหรับผู้ที่นัถือศาสนาอิสลามจะต้องเข้าใจว่า ศีล 5 เป็นหลักปฏิบัติ ไม่ได้เป็นหลักศรัทธา, ในหลักการของ พุทธศาสนา, ผู้ที่มีความศรัทธา ในองค์พระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง จะต้อง ปฏิบัติ ตามกฏของ ศีล 5 อย่างเคร่งครัด.
ดังนั้น มุสลิมจะนำเอา อัลกุรอาน บทที่ 4 บัญญัติที่ 3 (4:3) การมีภรรยาสี่คน มาใช้ในสมัยนีไม่เป็นการถูกกาละเทศะ และไม่สามารถจะเอามาเปรียบเทียบ กับ ความศรัทธาของศาสนาอื่นได้ เพราะทุกๆศาสนา มีข้อห้าม ในการ ประพฤติ ผิด ในการคบชู้ (สาว/ชาย) ด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้การมีเมียน้อย ไม่ว่าทั้ง มุสลิม หรือ ศาสนิกชน ใด ก็ตาม ไม่ถือเป็นการ ผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ตาม, แต่หลักการของมุสลิมๆ จะต้องยกฐานะและ สิทธิของภรรยาคนที่สอง ให้เท่ากับคนแรก ซึ่งกฎหมาย สากลรวมทั้งกฎหมายไทย ไม่ยอมรับ ดังนั้น ข้อ แตกต่าง ในหลักการของ อัลกุรอาน บทที่ 4 บัญญัติที่ 3 (4:3) กับ กฎหมายสากลจึงผิดกันตรงนี้อย่างเห็นได้ชัด และอัลกุรอาน บทที่ 4 บัญญัติที่ 3 (4:3) นี้ ไม่อาจ นำมาใช้ ในประเทศไทย ใน ยุคปัจจุบันได้ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาก่อนแล้ว
ผมหวังว่า คุณมุสลิมคน 1 และ คุณผู้หญิงคน 1 คงทำความเข้าใจกันได้ จากคำอธิบายของผม
ผมอยากจะกล่าวอีกครั้ง ที่ผมเข้ามาเสวนาที่นี้ ไม่มีวัตถุประสงค์ จะสร้าง ศาสนาใหม่ หรือ ต้องการ ให้ผู้ใดปฏิบัติตามความคิดของผม ผมเพียงแต่อธิบายความเข้าใจของผมจากการศึกษาศาสนา อิสลาม โดยใช้ บัญญัติ ในอัลกุรอานเป็นพื้นฐาน แต่เพียงอย่างเดียว (6:114) เพื่อให้เพื่อนชาวไทยในสังคมไทยเข้าใจศาสนาอิสลามดีขึ้น เท่านั้น
วัสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
yoohoo มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 17/02/2004 ตอบ: 65
|
ตอบ: Sat Jun 12, 2004 9:13 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสสลามุอฺลัยกุม
แหม! เล่าเรื่องมาซะยืดยาวเชียว ไม่ยักกะทราบว่าคุณ Matt ก็เชื่อเรื่องที่คนอื่นเล่าต่อ ๆ กันมาเหมือนกัน ทีนี้ก็อย่ามาว่าหรือดูถูกคนมุสลิมที่เค้าเชื่อเรื่องที่มีสายสืบที่แข็งแรงที่ได้รับรายงานต่อ ๆ กันมาก็แล้วกันนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นการเขวี้ยงงูไม่พ้นคอ หรือประเภทปากว่าตาขยิบซะเองนะขอรับจะบอกให้ เพราะรายละเอียดเนื้อเรื่องประวัติของท่านร่อซูล (ซ.ล.) คงไม่มีบรรจุอยู่ในอัลกุรอานกระมังครับ
วัสสลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sat Jun 12, 2004 9:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอะลัยกุม คุณยาฮู(Yahoo)
คุณเข้าใจผิดครับ
การบันทึกอัลกุรอาน, การบันทึกประวัติศาสตร์ , และการบันทึก "อะฮาดีษ", นั้น มีวิธ๊การต่างกันมาก ผมไม่มีเวลาจะอธิบาย, แต่คุณ ไปหาหนังสือ หลักวิชาการ ทางการจดบันทึกและ วิจัยทางประวัติศาสตร์ ศึกษาเอาเอง การจะรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ต้องศึกษาครับ ผมไม่อยากจะ ทำให้กระทู้เขาหันเห แต่ ถ้าคุณต้องการความรู้ทางด้านนี้ โปรด อีเมลล์ ถึงผม matt_tn90@hotmail.com ผมยินดีที่จะช่วยเหลือคุณ
วัสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Nirwana มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 13/06/2004 ตอบ: 8
|
ตอบ: Sun Jun 13, 2004 9:37 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เห็นด้วยกับการมีภรรยาน้อย เพราะจะได้มีเวลาดูแลลูกหลานเต็มที่
แต่ไม่เห็นด้วยกับการมีภรรยามาก โดยเฉพาะเพื่อสนองอารมณ์ตนเอง
และอะไรที่เราตอบไม่ได้ ก็ขอให้บอกไปเลยว่าฉันตอบไม่ได้เจ้าค่ะ
เพราะนี้คือสุภาพบุรุษที่แท้จริง ไมไช่เลี่ยงไปทางอื่นเสีย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
wahidah มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 23/04/2005 ตอบ: 4
|
ตอบ: Sat Apr 23, 2005 12:22 pm ชื่อกระทู้: Re: ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการมีภรรยาน้อย....คุณเห็นด้วยหรือไม่ |
|
|
ผู้ชายส่วนใหญ่ที่มีภรรยาคนที่ 2 เพราะไม่มีความสุขในชีวิตสมรสกะภรรยาแรก ไม่ได้รับการปรนนิบัติที่สมบูรณ์ อีกอย่างมีแล้วจะต้องมีความสามารถในการเลี้ยงดูด้วยนะคะ ไม่ใช่สักแต่ว่ามีแล้วสร้างปัญหา ฉะนั้นภรรยาคนแรกควรปรนนิบัติสามีให้ดีอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะคะ แค่นี้สามีก็อบอุ่นไม่คิดมีภรรยาเพิ่มแล้วล่ะค่ะ เรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
อิลยาส มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/04/2005 ตอบ: 279
|
ตอบ: Sat Apr 23, 2005 2:36 pm ชื่อกระทู้: Re: ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการมีภรรยาน้อย....คุณเห็นด้วยหรือไม่ |
|
|
อัสลามุอลัยกุม เอาเปนว่า "ยังไม่สามารถปติบัดได้" ดีมะ ยอมรับหลักการก่อน ที่เหลือค่ยว่ากัน แต่ถึงขึ้นไม่เหนด้วย (ความหมาย คือ ไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติ ของอัลลอฮ์ ) อันนี้ลำบากหลายเด้อ ใจเย็นๆก่อน (ดึงๆๆ) คุณ อาซานลุยดิ อย่าแอบหลับ
วัสลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
wahidah มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 23/04/2005 ตอบ: 4
|
ตอบ: Sat Apr 23, 2005 9:30 pm ชื่อกระทู้: Re: ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการมีภรรยาน้อย....คุณเห็นด้วยหรือไม่ |
|
|
ก่อนอื่นต้องเชื่อในคำของอัลเลาะห์ ที่มีคำสอนเกี่ยวกับหน้าที่ของสามี และภรรยาที่ดี แค่นี้ก็จะไม่มีปัญหาสามีมีภรรยาเพิ่มแล้วล่ะค่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|