ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
takahashi มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: Oct 13, 2004 ตอบ: 9
|
ตอบ: Tue Nov 02, 2004 9:42 pm ชื่อกระทู้: พี่น้องของเรา....เห็นแล้วหรือยัง? |
|
|
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ พี่น้องผู้ร่วมศรัทธาที่รักทุกท่าน ในฐานะที่เราเป็นมุสิมที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺซุบฮานะฮุว่าต้าอาลาและร่อซูลของพระองค์ ท่านยอมไหมครับที่ให้คนต่างศาสนิกมาด่าอิสลาม ท่านยอมไหมทีให้พวกเขามาดูถูกอิสลาม มาดูถูกมุสลิม มาดูถูกหลักการแห่งอัลอิสลามที่อัลลฮฺทรงบัญญัติลงมาโดยผ่านร่อซูลของพระองค์
๐๐๐พี่น้องครับ เราเคยเปิดไปเวปไซท์ www.muslimcampus.com บ้างหรือเปล่าครับ หากเราเปิดไปแล้วเราเห็นอะไรไหมครับในเวปนั่น ท่านลองไปมองที่กระทู้สิครับของเวปไซท์เนี๊ยะว่ามันเป็นอย่างรัย มันมีอะไรบ้าง นี่คือเวปไซท์ของมุสลิม(มั๊ง)ขอให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นนะครับ๐๐๐๐๐๐๐๐๐อยากรู้ว่าพี่น้องของผมคิดเห็นอย่างรัย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Thu Nov 04, 2004 9:11 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมเป็นคนหนึ่งในสมาชิกของเวบนี้เป็นอย่างเช่นนั้นจริงๆ
ผมได้เข้าไปแล้ว เสียอารมร์จริงๆ นับเป็นที่ ฟิตนะฮฺ อีกเวบหนึ่ง
ผมเข้าไปแล้วอ่านพบหลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปนานแล้ว
ครั้งสุดท้านที่เข้าไปเห็นว่ากำลังมีการแก้ไขให้ดีขึ้น
เวบมุสลิมเปลียบเหมือนบ้านของมุสลิม
ผู้ดูแลจะต้องให้ความใกล้ชิดในสิ่งที่ตนรับผิดชอบ
จะอ้างว่าเป็นที่หรือข้อเขียนสาธารณะชน ก็ไม่ถูก
ผมก็เป็นสมาชิกเวบแห่งแรกในประเทศไทยด้วยก็พบเหมือนกัน
แต่มีน้อย ยังไงก็ต้องขอชมเชยเวบของมูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
ซึ่งผู้ดูแลได้ดีมาก อัลฮัมดุลิลลาฮฺ ในสิ่งที่ท่านได้ทำไป
อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
เจ้าทั้งหลายอย่าได้เข้าไปในที่ชั่วร้ายเพราะนรกจะกินเจ้า
เรามุสลิมก็ต้องทำตามนั้น
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
takahashi มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: Oct 13, 2004 ตอบ: 9
|
ตอบ: Mon Nov 29, 2004 8:11 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
http://bloodsiam.tripod.com/ นี่ก็เวปเลวอีกเวปหนึ่งที่ ผู้ที่ทำเป็นพวกที่ฝ่าฝืนอัลลอฮิอย่างชัดเจน มันดูถูกอิสลาม มันดูถูกมุสลิม และเหนือสิ่งอื่นใด มันด่าพระผู้เป็นเจ้าของเรา มันดูถูกพระองค์ เราขอเรียนเชิญผู้ที่สามารถแฮกได้ เล่นมันทีดิ๊ ถือว่าเป็นการขจัดความชั่วร้าย ความวุ่นวาย(ฟิตนะฮฺ)ออกจากหน้าแผ่นดิน ของอัลลอฮฺ ผู้ทรงสูงส่งเหนือสิ่งอื่นใด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
fura มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: Aug 23, 2004 ตอบ: 10
|
ตอบ: Wed Dec 22, 2004 3:22 pm ชื่อกระทู้: Re: พี่น้องของเรา....เห็นแล้วหรือยัง? |
|
|
มันเป็นหนทางของผู้อธรรม เขาก็ยืนหยัดที่จะปฏิเสธโดยสำนึกที่มืดบอด
เราก็มีหน้าที่ในการยืนหยัดไว้ซึ่งสัจธรรม ด้วยจิตใจที่ยึดมั่น
แห่ง ศรัทธ และ สายเชือกเดียวกัน
_________________ Everything depends on Allah |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
NOKIA3310 มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 05/01/2005 ตอบ: 4
|
ตอบ: Fri Jan 14, 2005 10:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แนะนำเว็บ www.manussaya.com ครับ
สำหรับผู้ที่คอนเน็คจากต่างประเทศ
เพราะโดนไอซีทีแบนไปเรียบร้อยแล้ว |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
hasan มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 30/01/2005 ตอบ: 19 ที่อยู่: อ่อนนุช กรุงเทพฯ
|
ตอบ: Sun May 08, 2005 10:32 pm ชื่อกระทู้: Re: พี่น้องของเรา....เห็นแล้วหรือยัง? |
|
|
อื้มๆๆ _________________ ..hasan.. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Mon May 09, 2005 1:04 pm ชื่อกระทู้: Re: พี่น้องของเรา....เห็นแล้วหรือยัง? |
|
|
กาฟีรมุชริกีนไม่เคยหยุดยั่งที่จะร่วมกันวางแผนการณ์ชี่วทำร้ายมุสลิมทุกวิถีทาง
ทุกด้านในชีวิตประจำวันของเรา นอกจากสื่อแลวๆแล้วยังด้านอุปโภคบริโภคในแต่ละวันที่เราต้องเสี่ยงจากการให้ร้ายกลี่นแกล้งอยู่24 ชม. เมื่อวานผมไปเจออีเมล์เก่าแผ่นหนึ่งจะขอนำมาลงหน่อยถ้าบางท่านทีมีอยู่แล้วจะช่วยเพิ่มเติมก็จะกียิ่งขึ้น
ในขนมอาหารและยา จะมีน้ำมันหมูเข้าไปมีส่วนผสมอยู่หลายตีวเช่น ใน ยาสีฟัน
ครีมที่ใช้โกนหนวด หมากฝรั่ง ชอคโกเลต ขนมหวาน บิสกิต คอร์นแฟล็ก ทอฟฟี่
อาหารบรรจุถุงเคลือบหรือเป็นกล่องโลหะ ผลไม้ที่บรรจุวัสดุถุงเคลือบ ยาวิตามินต่างๆ
เราจะพบรหัสโค้ดต่างๆที่มีส่วนผสมของน้ำมันหมูซึ่งบางครั่งมันจะแกล้งเปลี่ยนชื่อว่าเป็นไขมันสัตว์อยู่ด้วยคือ
E100 E110 E120 E140 E141 E153 E210 E213 E214 E216 E234 E252 E270 E280 E325 E326 E327 E334 E335 E336 E337 E422 E430 E431 E433 E434 E435 E436 E440 E470 E471 E472 E473 E474 E475 E476 E477 E478 E481 E482 E483 E491 E492 E493 E494 E495 E542 E570 E572 E635 E904
แม้แต่น้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์น้ำมันเครื่องบิน กาฟิรก็ไม่ยอมลดละที่จะหาทางเอาน้ำมันหมูให้เข้าไปมีส่วนผสมอยู่ด้วย โปรเจ็ค ญะฮํนนัมเหล่านี่ พวกอังกฤษเคยใช้ น้ำมันหมูทาที่กระบองรังเำพิลงบรรจุลูกกระสุนปืนเมื่อยิงกระสุนปืนก็จะเข้าร่างกายของมุสลิม กระดาษพิมพ์เครื่องพิมพ์ กาวแสตมป์ เมื่อเอาแตะลิ้นมันก็หวังว่าจะให้น้ำมันหมูเข้าสู่ร่างกายของเราด้วย เคยอ่านพบมาว่าเครื่องดื่มโคลา น้ำปลาบางยี่ห้อ ก็มีหนังหมู
ผสมอยู่ด้วย และผงชูรสที่อินโดนีเซียก็เคยมราข่าวครึกโครมมาก่อน มุชริกีนรู้สึกเป็นสุขถ้ามันได้แกล้งเราอย่างนี้ ดังที่เมืองไทยเราเคยเป็นข่าวว่านักการเมืองไทยเคยเสนอทำระเบิดน้ำมันหมู ขนาดเคยส่งอีเมล์ไปเสนอยอจบุชมาแล้ว หรือที่อิสราเอลเคยแขวนเนื้อหมูในรถบัส เพื่อให้พวกปาเลสไตน์กลัวตอนไประเบิดพลีชีพ _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sirikan มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 03/02/2007 ตอบ: 3
|
ตอบ: Sat Feb 03, 2007 1:59 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ไม่ชอบพวกกาเฟรเลย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ลี มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 13/12/2006 ตอบ: 3
|
ตอบ: Mon Feb 19, 2007 10:07 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แล้วลองสังเกตไห้ดี ข้อความที่ด่าศาสนาอิสลามของเราอย่างรุนแรงกลับไม่โดนลบ
แต่เวลาเราได้อธิบายโดยใช้เหตุผลไม่ได้ใช้คำพูดที่รุนแรงหรือหยาบคายกลับโดนลบเฉยเลย แค้นสุดๆ มันน่าโมโหไหมละ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Mon Mar 12, 2007 10:50 am ชื่อกระทู้: |
|
|
พระเจ้าผู้เป็นเอกพระองค์เดียว เท่านั้น ซึ่งตรงกับความหมายในภาษาอรับ ว่า อัลลอฮ์ และคำว่าอัลลอฮ์นี้ เป็นศัพท์อรับ สากลซึ่ง ใช้ใน คัมภีร์ ไบเบิล ภาษาอรับ, ใน ศาสนาคริสตร์ ชนชาติ คริสเตียน นั้น เชื่อในอัลลอฮ์ เช่นกัน แต่ ข้อผิดพลาดของชาวคริสเตียน ตามหลักการ ในการนับถือพระเจ้าองค์เดียว นั้น ปฏิบัติ ผิดหลักการ โดย เทอดทูล ยกย่อง บุคคล ขึ้น เป็น ส่วนหนึ่งของพระเจ้า ผู้ เป็น เอก (พระองค์อัลลอฮ์) แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งคริสเตียนและมุสลิม มีความศรัทธาว่า พระเจ้าผู้เป็นเอกพระองค์เดียว เท่านั้น เป็นผู้สร้าง สรรพสิ่ง รวมทั้ง ชีวิตต่างๆใน โลกนี้ และ ในโลกอื่นๆ ที่ มนุษย์ ยังไม่สามารถ จะค้นพบได้ ในปัจจุบัน
มนุษย์ทุกๆคน ไม่ว่าจะเชื้อชาติอะไรก็ตาม มีกำเนิดมาจาก การสร้าง ของพระเจ้าด้วยกันหมดทั้งนั้น และเป็นลูกหลานของ นบีอดัม ด้วยกันทั้งนั้น ถ้าย้อนกลับไปเป็น ระยะเวลา นานกว่า 2500 – 3000 ปี มนุษย์ ยังไม่รู้จักศาสนาอิสลาม ซึ่งหมายถึง การ ยอมจำนน ทั้ง กาย, วาจา, ใจ ต่อพระประสงค์ ของพระผู้เป็นเจ้า โดยเฉพาะ ในแถบ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง เป็น
แหล่งกำเนิด ของศาสนา พราหมณ์และ ศาสนาพุทธ ซึ่งทั้งสองศาสนานี้ เชื่อใน อำนาจเบื้องบนผสมผสานไปกับ ความเขื่อในสิ่งต่างๆ ที่ เกิดขึ้น ตามธรรมชาติ โดยไม่เข้าใจว่า “ใครเป็นผู้สร้าง และควบคุม ปรากฏการตามธรรมชาติเหล่านั้น .”
ตามประวัติศาสตร์ หลักการในความศรัทธาต่อพระเจ้าองค์เดียว (พระองค์อัลลอฮ์) ได้ถูกประกาศขึ้นโดย ท่านนบีอิบรอฮีม ที่เรียกชื่อ ศาสนา ของนบีอิบรอฮีม ว่า “อิสลาม” ซึ่งหมายถึง การ ยอมจำนน ทั้ง กาย, วาจา, ใจ ต่อพระประสงค์ ของพระผู้เป็นเจ้า องค์ ดียว (พระองค์อัลลอฮ์) เท่านั้น และ เรียกผู้ ที่นับถือศรัทธา ในอิสลามว่า “มุสลิม” สืบต่อมาจนถึงท่านศาสนฑูตมูฮัมมัด เหตุการณ์ ทั้งหมดนี้เกิด ใน ท่ามกลาง ประชาชาติในภาคตะวัน ออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มชนรุ่นแรก ที่ รู้จัก และศรัทธา ต่อพระเจ้า พระองค์เดียว
ต่อมาศาสนาอิสลาม ก็เผยแพร่ เข้ามาถึงเอเชีย แต่ยังไม่แพร่หลายมากนัก เพราะยังมี มวลชนที่ยัง ไม่รู้จัก หลักการ ของ ศาสนาอิสลาม อีกเป็นจำนวนมาก เราเรียกผู้ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ใน หลัก การของ ศาสนาอิสลามอย่างถูกต้องนี้ว่า “กาเฟร” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ยังขาดความเข้าใจใน หลักศรัทธา ของพระเจ้าองค์เดียว และยอมรับศรัทธาต่อพระองค์ มุสลิมทุกๆท่าน มีความรับผิดชอบโดยตรงที่ จะต้อง ประกาศและสอนหลักการของอิสลาม ให้แก่ “กาเฟร” หรือ ผู้ที่ ยังขาดความเข้าใจใน หลักศรัทธา ของพระเจ้าองค์เดียว และยอมรับศรัทธาต่อพระองค์
แต่เป็นที่น่าแปลก การสอนศาสนาอิสลาม ในประเทศไทย ทำกันอยุ่ในเฉพาะ สังคมมุสลิมเท่านั้น กับทั้งยังสอนมุสลิมไม่ให้ สังคมกับ “กาเฟร” และ บรรดาครูอาจารย์ ผู้สอนศาสนาอิสลาม ในประเทศ ไทยเรา บางท่าน กลับใช้ คำว่า “กาเฟร” ไปในทางหยาบคาย ใช้ ด่าทอ หรือ ประนาม ผู้ที่ไม่เข้า ใจ อิสลาม หรือ ผู้ ที่ ติเตียนการสอน ว่าไม่ถูกต้อง และใช้เรียก ผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ หรือแม้แต่ใน ศาสนา เดียวกัน แต่ต่างนิกาย กันว่า “กาเฟร”
อัน ที่จริงแล้ว บรรดา “กาเฟร” ทั้งหลายคือเป้าหมาย ของมุสลิมที่ จะต้อง สอนและแนะนำเขา เหล่านั้น ให้รู้จัก และศรัทธา ในองค์ “อัลลอฮ์” (พระเจ้า พระองค์ เดียว เท่านั้น) แทนที่จะทำงานให้ พระเจ้า ในการ เผยแพร่อิสลาม แต่กลับมา สอนให้ มุสลิมถอยหลังจากความเจริญ โดยให้เหตุผล ว่า มุสลิมจะต้อง สังคมกับมุสลิมเท่านั้น และไม่แต่ เพียง เท่านั้น บรรดาลูกศิษย์ ลูกหา ก็พลอยด่าว่า “กาเฟร” ไปด้วย
มุสลิมจะต้องเข้าใจว่า ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ไม่ใช่เขาเหล่านั้น จะเป็นคนเลวที่ มุสลิมจะสังคมด้วยไม่ได้ และคำว่า “กาเฟร” ในความหมายของมุสลิม ที่ใช้เป็นภาษา สะแลง หมายถึง “กลุ่มคนเลวที่ไม่ สะอาดพอ ที่มุสลิม สมควร จะ คบค้าสมาคมได้” การใช้ภาษาในความหมายเช่นนี้ เป็นการไม่เหมาะ สม และ เป็น การแสดง มรรยาทที่เลว และ ขาดความเข้าใจ ในหลักการของอิสลาม
บรรดาเรื่องราวต่างๆ ที่ผู้ต่าง ศาสนา จากอิสลาม กระทำ ต่ออิสลามหรือมุสลิม อาจจะเป็นการ กระทำที่ ขาด ความเข้าใจ ในหลักการของอิสลามที่แท้จริง โดยที่เขาเหล่านั้น เห็นความไม่สามัคคี ของมุสลิม และ การสอนที่แตกต่างกัน ของมุสลิมกลุ่มต่างๆ แต่ละกลุ่ม ในสังคมมุสลิม, ด้วยเหตุนี้ มุสลิม ไม่มีความจำเป็นจะต้องร้อนเนื้อร้อนตัวในเรื่อง การกระทำที่เราคิดว่า “ถูกกลั่นแกล้ง “
มุสลิมจะต้องทำตัวให้สูงในศักดิ์ ให้สมกับที่ ถูกสร้าง มาโดยพระเจ้า คือ พระองอัลลอฮ์ เมื่อมีสิ่งเลวร้าย มากระทบกระเทือน จิตใจเรา เราจะต้องสลัดทิ้ง ไป และไม่ต้อง ให้สิ่งเหล่านั้น มา กังวลอยู่ ในหัวใจ เรา จนลืม ความกรุณาของอัลลอฮ์ ที่พระองค์ทรงสร้างเรา มา ให้มีจิตใจแข็งแรง พอที่จะ อดทนต่อสิ่ง เหล่านั้น การกระทำกลั่นแกล้ง หรือคำด่าของ ผู้ที่ไม่เข้าใจ ศาสนาอิสลาม ก็เช่นเดียว กัน กับ เศษ อุจจาระ ที่กระเด็นมา ติดใบหน้าเรา ถ้าเรา ไม่ล้างมันออกหรือทำความสะอาด มัน ก็จะส่งกลิ่น สกปรก เลอะเทอะ ใบหน้าของเราอยู่ตลอดเวลา
เช่นเดียวกันมุสลิมที่ดีจะต้องสลัด สิ่งที่มา กระทบความรู้สึก ของเรา ให้หลุดไปจากความทรงจำ แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำแต่หน้าที่ ของมุสลิมต่อไป อย่าให้ สิ่งเหล่า นั้น มา เกาะในหัวใจเรา พระองค์อัลลอฮ์พระองค์ทรงอานุภาพที่ จะ ชี้แต่ในมางที่ถูกต้อง ให้แก่เราได้ ผุ้ที่กล่าวติฉินเรา เมื่อเขามีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องพระเจ้า และ หลัก การ ของอิสลาม แล้ว เขาก็จะหยุดไปเอง, พระองค์เท่านั้นที่ จะ ทำให้เรามีอำนาจเหนือจาก คำติฉินนินทา เหล่านั้น
ถ้าเรามีความศรัทธาต่อระเจ้าว่าพระองค์ทรงสร้าง มวลมนุษย์ขึ้นมาแล้ว เราจะต้องช่วยกันให้บรรดา มวลชน ที่ยังไม่รู้จัก พระเจ้าได้เข้าใจและศรัทธาต่อพระองค์ อัลลอฮ์ การที่เขาเอา คำว่า “พระเจ้า (อัลลอฮ์) ใส่ไว้ในเพลง หรือ กล่าวในที่ใดก็ตาม เขาอาจจะไม่มีเจตนา จะดูถูกดูแคลนอิสลาม ทั้งนี้ เพราะ ว่า พระองค์อัลลอฮ์ เป็นผู้สร้างของ มนุษย์ทุกๆเชื้อชาติและเผ่าพัน ถ้าพวกเขาเริ่มกล่าวถึง หรือ มีความเกี่ยวพันธ์ สัมพันธ์ต่อพระเจ้ามากขึ้น เขาก็อาจจะ, ในที่สุด, สนใจในความศรัทธาต่อ พระ เจ้า ได้ เรื่องนี้เป็น เรื่องของพระองค์อัลลอฮ์
พระองค์ทรงล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าผู้กระทำความชั่วแล้ว พระองค์จะจัดการ ชี้ทางที่ถูกต้อง ให้เขาเหล่านั้น ในที่สุด, พระองค์อัลลอฮ์ พระองค์คงจะไม่ทรงยินดีด้วย ที่มุสลิมจะไปทำลายล้าง สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น มา, มนุษย์ไม่มีสิทธิที่จะตัดสิน หรือ “ฮุก่ม” ผู้ใดได้ ถ้ามุสลิมผู้ใดก็ตาม “ฮุก่ม” หรือ ตัดสินผู้ใด ให้หลุดจากการเป็นมุสลิม เขาผู้นั้นจะต้องเสียใจ ทั้งนี้เพราะเขา ได้ล่วงเกินอำนาจของพระองค์อัลลอฮ์ ไปเสียแล้ว ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่ปากไวกว่า ความคิด แล้ว โปรดจงระวังว่า การกระทำเช่นนั้นอาจจะล่วงเกินอำนาจของพระองค์อัลลอฮ์
สำหรับเรื่องเหลวไหล ต่างๆเช่น
“ แม้แต่น้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์น้ำมันเครื่องบิน กาฟิรก็ไม่ยอมลดละที่จะหาทางเอา น้ำมันหมูให้เข้าไปมีส่วนผสมอยู่ด้วย โปรเจ็ค ญะฮํนนัมเหล่านี่ พวกอังกฤษเคยใช้ น้ำมันหมูทาที่ กระบองรังเพิลงบรรจุลูก กระสุนปืนเมื่อยิงกระสุนปืน ก็จะเข้า ร่างกาย ของมุสลิม กระดาษพิมพ์ เครื่องพิมพ์ กาวแสตมป์ เมื่อเอาแตะลิ้นมันก็หวังว่าจะให้ น้ำมันหมูเข้าสู่ร่างกายของเราด้วย เคยอ่านพบมาว่าเครื่องดื่มโคลา น้ำปลาบางยี่ห้อ ก็มีหนังหมู”
เรื่องเหลวไหลเช่นนี้มุสลิมไม่ควรเชื่อถือเลย ถ้าเราใช้ควาามพิจารณา แล้ว ตัวอย่างเช่นแสตมป์ เขาพัฒนาขึ้นมากแล้ว ไม่จำเป็นต้อง ใช้ลิ้นเลียแล้ว แต่ มีกาวติดได้เองเลย, ส่วนเรื่องลูกปืน ถ้าเป็นจริง น้ำมันหมูหนังหมู จะเผาไหม้ด้วยความร้อนที่สูงมาก จนไม่มีสภาพทางเคมีหรือชีวะวิทยา ว่า เป็น “น้ำมันหมู” เรื่องเช่นนี้อย่าไปเชื่อเป็นเรื่องเหลวไหล,
ถ้าคุณๆกลัว มากเช่น นี้แล้ว เศษสตางค์หรือ ธนบัตร ที่หมุนเวียน อยู่ใน ธณาคาร ทั้ง มุสลิม และไม่ใช่มุสลิม นั้น สัมผัส กับ “นายิส” ทั้งนั้น พ่อค้าหมูแลกเปลี่ยนเงินทองในตลาด หมุนเวียน กับแม่ค้าปลา, พ่อค้าเนื้อวัว แลกเปลี่ยนเงินทองกันอยู่ทุกๆวัน ในตลาดสด นี่คือความจริง ที่มุสลิมทุกๆท่านทราบ แต่ไม่เคยมีท่านผู้ใดบ่น เลยเมื่อเวลารับเงินทอนจากแม่ค้าพ่อค้าในตลาด
ธนบัตรบางฉบับ มีคราบน้ำมันและกลิ่น “หมู” ติดอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วมุสลิม จะทำอย่างไร คุณลอง สอบถามอาจารย์ ดูซิว่า ถ้ามีธนบัตรอยู่ในกระเป๋ากางเกง จะทำละหมาด ได้หรือไม่? เพราะ ธนบัตร เป็นสื่อของ สิ่งสกปรกทุกอย่างทั้ง ในด้าน ตัวธนบัตร เองและทางศีลธรรม (ฉบับที่ผ่านมือพ่อค้าหมู, เงินที่จากซ่องโสเภณี, โรงนวด, เงินจาก ดอกเบี้ย, จากวงการพนัน, จากการค้ากับพวกชาวยิวในซาอุ ฯลฯ)
จากตัวอย่างนนี้ จะเห็นว่า ถ้าเราคิดแต่ว่าเขาแกล้งเรา มุสลิมจะกลายเป็นโรคจิตหวาดหวั่น ตกใจ อยู่ตลอดเวลา และเกาะกันอยู่ในกลุ่มแต่ละกลุ่ม โดย ไม่ พยายามที่จะ เข้าใจ ให้ถูกต้องว่า ถ้าเรามีความศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ อย่างแท้จริงแล้ว แล้ว พระองค์จะชี้ทางที่ถูกต้องแก่เราเสมอ และพระองค์จะทำให้เราหลุดพ้นจากความหวาดระแวงต่อสิ่ง เหลวไหล ดังกล่าว
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|