ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
u มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 114
|
ตอบ: Mon Jan 15, 2007 10:37 am ชื่อกระทู้: ประโยคซ้ำๆ ของบรรดานบี |
|
|
ประโยคซ้ำๆ ของบรรดานบี
ไม่มีใครสามารถแสดงความกตัญญูต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺได้ดีไปกว่า
ผู้ที่แบ่งความโปรดปรานนั้นกับผู้อื่น
นบีอิดรีส อะลัยฮิสลาม
คำพูดนี้บ่งบอกถึงอุดมการณ์ของผู้พูดได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องขยายความอีกแต่อย่างใด
มีเรื่องน่าแปลกเรื่องหนึ่ง ถ้าสังเกตุดีๆบรรดานบีหลายต่อหลายท่านจะกล่าวประโยคเดียวกันซ้ำๆ
นั่นหมายถึงปัญหาที่ท่านนบีตักเตือนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ บนหน้าแผ่นดิน
ท่านนบีนูฮฺเรียกร้องผู้คนของท่านให้เลิกกราบไหว้รูปเคารพบูชาตามบรรพบุรุษ
ให้หันกลับมาสักการะอัลลอฮฺพระเจ้าที่เที่ยงแท้แต่เพียงองค์เดียว
ท่านนบีอิดรีสก็เชิญชวนให้ชาวบาบิโลเนียน
และชาวอิยิปต์โบราณหันหลังให้ศาสนาบรรพบุรุษที่ฟอนเฟะสู่ศาสนาของอัลลอฮฺอันบริสุทธิ์
ชาวอ๊าดชนชาติที่ยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองในเยเมนซึ่งตะกับบุร ปฏิเสธแนวทางของอัลลอฮฺกันเรื่อยมาหลายชั่วอายุคน ก็ถูกท่านนบีฮูดเชิญชวนกลับสู่ศาสนาของอัลลอฮฺอีกครั้ง
แต่พวกเขายืนกรานจะดำเนินตามศาสนาดั่งเดิมจึงถูกอัลลอฮฺลงโทษในเวลาต่อมา
และเหตุการณ์แบบพวกอ๊าดก็เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกโดยชาวสะมูด
ท่านนบีซอลีฮฺก็ถูกส่งลงมาทำหน้าที่แบบเดียวกับท่านนบีฮูด
หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นการทำงานของท่านนบียูนุสอิบนุมัตตากับชาวเมืองนิเนเวห์ หรือท่านนบีมูฮัมหมัดกับชาวกุเรชมักกะฮฺ ก็ยังคงใช้คำพูดเดิมๆ กับมนุษยชาติ จงละทิ้งศาสนาของบรรพบุรุษ และจงหันเข้าสู่การยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ ราวกับว่าบรรดานบีและร่อซูลได้ชี้ให้เห็นทางแยกสองทาง ทางหนึ่งสำหรับศาสนาของบรรพบุรุษ อีกทางหนึ่งสำหรับศาสนาจากอัลลอฮฺ
จากตัวอย่างเหล่านี้จะเห็นว่า เมื่อถึงยุคที่โลกร้างศาสนฑูตเป็นเวลานาน ความเคร่งครัดในศาสนาไม่ได้เป็นปัญหา ความรักในศาสนาก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน ผู้คนยังรักยังหวงแหนศาสนาของเราเป็นอย่างมากและยังคงเอาจริงเอาจังกับเรื่องศาสนกิจที่ถูกทำสืบต่อกันมา แต่ปัญหาอยู่ตรงศาสนาถูกเข้าใจผิดทีละเล็กทีละน้อย จากรุ่นสู่รุ่น เมื่อผ่านหลายชั่วอายุคนความเข้าใจผิดก็สะสมเพิ่มพูนขึ้นจนเกือบไม่เหลือเค้าเดิม
โลก ณ วันที่ผมกำลังเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ได้ร้างราศาสนฑูตจากอัลลอฮฺเป็นเวลาถึงหนึ่งพันสี่ร้อยกว่าปีแล้ว ไม่แปลกเลยที่ปัญหาเดิมๆ จะเวียนมาเกิดอีกครั้งคือ การยึดศาสนาเอาจากบรรพบุรุษ
แต่กระนั้น นับเป็นความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ที่ทิ้งสิ่งมหัศจรรย์อันถาวรไว้กับพวกเรา และทรงปกปักษ์รักษามันไว้จนถึงวันนี้ นี่คือคุณค่ามหาศาลของกุรอาน
ทำให้ปัญหา การยึดศาสนาเอาจากบรรพบุรุษ ในยุคสมัยของเราไม่หนักหนาเหมือนสมัยนบีท่านก่อนๆ นั่นเพราะตราบใดที่ยังถือคัมภีร์ที่เป็นพระดำรัสของอัลลอฮฺอยู่ และมีแบบอย่างของท่านร่อซูลอรรถาธิบายกุรอานอีกคำรบหนึ่ง ก็ราวกับว่าสายเชือกระหว่างมนุษย์กับอัลลอฮฺยังไม่ถูกตัดขาดเสียหมดทุกประการ แต่นั่นก็ไม่ได้ความว่าการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนแบบรุ่นสู่รุ่นจะไม่เกิดขึ้น
ถึงอย่างไรหน้าที่ของนบีก็ต้องมีผู้สืบทอด เพราะจะไม่มีนบีคนใดลงมาสั่งสอนพวกเราอีกแล้ว
ถ้าจะมีใครอาสาทำหน้าที่ของนบีในยุคนี้ ก็คงไม่พ้นที่จะต้องกล่าวประโยคซ้ำๆ ของบรรดานบีเรื่อยไป ตามบรรพบุรุษได้ในสิ่งที่ถูก แต่ถ้าจะยึดมั่นในสิ่งใด อย่ายึดบรรพบุรุษ จงยึดเอาอัลลอฮฺเถิด _________________ http://spaces.msn.com/members/unussorn/
............................................
i love islam
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ali มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Thu Jan 18, 2007 8:21 am ชื่อกระทู้: |
|
|
น่าสนใจ มีต่อไหมครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
IRF มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005 ตอบ: 155
|
ตอบ: Thu Mar 08, 2007 12:30 am ชื่อกระทู้: |
|
|
กลุ่มนี้เค้าทีเด็ดครับ
เคยอ่านโรตีมะตะบะมั๊ย อ่านผิวเผินนี่ไม่รู้ว่าเค้าพูดเรื่องอะไรนะ
แต่พิจารณาดีๆพวกนี้เค้าสุขุมลุ่มลึก |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Fri Mar 09, 2007 8:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ถ้าจะมีใครอาสาทำหน้าที่ของนบีในยุคนี้ ก็คงไม่พ้นที่จะต้องกล่าวประโยคซ้ำๆ ของบรรดานบีเรื่อยไป ตามบรรพบุรุษได้ในสิ่งที่ถูก แต่ถ้าจะยึดมั่นในสิ่งใด อย่ายึดบรรพบุรุษ จงยึดเอาอัลลอฮฺเถิด
ในยุคนี้ ผู้ที่อาสาทำหน้าที่ ของ นบี ก็คือ บรรดา ครูบาอาจารย์ ที่ทำการสอนหลักการ ของอิสลาม แก่เยาวชนรุ่น หลังๆ และทำการเผยแพร่ศาสนาอิสลาม
จาก คำเตือนของ ท่านนบีทุกๆท่าน จะกล่าวประโยคเดียวกันซ้ำๆ คือ สอนให้เลิกกราบไหว้ รูปเคารพบูชา ตาม บรรพบุรุษ ให้หันกลับมาสักการะอัลลอฮฺพระเจ้าที่เที่ยงแท้แต่เพียงองค์เดียว แต่บรรดาอาจารย์ ผู้สอนหลักการ ของศาสนาอิสลาม ในสมัยนี้ ส่วนมากแล้ว ไม่ได้สอนตาม คำเตือน ของ ท่านนบีเหล่านั้น โดย เฉพาะอย่างยิ่ง คำเตือนข้อที่ว่า อย่ายึดบรรพบุรุษ จงยึดเอาอัลลอฮฺเถิด
ในสมัยนี้ อินเตอเนท เป็น อุปกรณ์ ในการเรียนการสอน ที่ให้ผู้เรียนผู้สอนได้แสดงความคิดเห็น ได้ อย่าง รวดเร็ว และ อย่างกว้างขวาง โดยไม่มี เขตจำกัด ของ ความคิดเห็น ของ ทั้งผู้เรียน และผู้สอน โดยเหตุนี้ การสอนที่แพร่สะพัด ไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ จะต้องระวัง ถึงผลกระทบกระเทือน ของการอยู่ร่วม กันอย่าง สงบ ในสังคม ซึ่ง เป็น จุดมุ่งหมายที่สำคัญ ของ กฏบัญญัติ ของ ศาสนา โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ในหลักการ ของอิสลาม ที่ องค์พระผู้เป็น พระเจ้า ประทาน อิสลาม มาเพื่อ ให้ มนุษย์อยู่รวมกัน อย่าง สันติ
ในทางตรงกันข้าม ต่อการเตือน จากประโยค ที่ซ้ำๆกันของบรรดา นบีทั้งหลาย การสอนส่วนใหญ่ ในปัจจุบัน การสอนศาสนาอิสลามยังเป็นการสอนอย่างสอนให้ยึด บรรพบุรุษแต่เพียงส่วนเดียว คือสอน หนัก ไปในการ ให้ มุสลิม ตามบอย่าง และการกระทำของพรรพบุรุษ แต่ หย่อน การสอน ที่ว่า อย่ายึดบรรพบุรุษ จงยึดเอาอัลลอฮฺเถิด
ถ้ามุสลิมเรา เชื่อในคำเตือนหรือเอา คำเตือน ของท่านบีเหล่านั้นมาใส่ใจแล้ว หน้าแรก ของเวบนี้ คง ไม่มีเรื่อง ราวที่ ประนาม ผุ้ที่เขา เชื่อว่า เขาเป็นมุสลิม เช่นเดียวกับเรา เช่น มุสลิมชีอะห์ และผู้ที่ ยึดถือ พระเจ้าองค์เดียว (อัลลอฮ์) แต่ไม่ได้อยู่ในลัทธิซุนนีย์
การจองล้างจองผลาญ กันระหว่าง ลัทธิ ของ ศาสนา ที่ ยัง ยึดถือ ความแตกร้าว กัน ของพรรพบุรุษ หรือตัวบุคคล เป็นหลัก ยังเรียกตัวเอง ว่า เป็นผูรักอิสลาม ไม่ได้ ทั้งนี้เพราะว่า การแตกร้าวและ อาฆาตจองเวร ล้าง พลาญ กัน เช่นนี้ ไม่อาจจะก่อให้ เกิดความสงบ กันได้ ในสังคม มุสลิม และ สังคมมนุษย์ด้วยกัน จากตัวอย่างที่เราเห็นได้ ในสงคราม ในภาคตะวันออกกลาง
เมื่อเห็นการโจมตี ชาวชีอะห์ ของมุสลิมซุนนีย์ และในทำนองเดียวกัน ที่ชีอะห์ ทำกับซุนนีย์ แล้วเศร้าใจจริงๆ บางท่านอาจจะมองไม่เห็น และมีความ รู้สึกเช่นที่ผมกล่าวมา ทั้งนี้ เพราะส่วนมา แล้ว มุสลิม เรา ยึดบรรพบุรุษ แต่ไม่ยึดเอาอัลลอฮฺ ตามคำตักเตือน
ของท่านนบีเหล่านั้น และต่างกลุ่ม ก็แตกแยก กัน โดยยึด เอาตัวอาจารย์ ผู้สอนศาสนา เป็นหลัก
การคร่ำครวญว่า เป็นผู้รักอิสลาม ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อะไรต่อ สังคมมุสลิม นอกเสียจากว่า เราจะต้องเอาคำเตือนของ ท่าน นบีเรานั้น มาไตร่ตรอง และสำรวจ ตัวของเราว่า ปัจจุบันนี้ เรา ยึดบรรพบุรุษ หรือไม่ยึดเอาอัลลอฮฺ ในการมี ศรัทธา ต่อ อิสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|