อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[นมใส]

ข้าพเจ้าเป็นชาวพุทธคนหนึ่ง
ที่สนใจศึกษาศาสนาอื่นๆ และความแตกต่าง ต่างๆ ของมนุษย์
เพื่ออยู่รวมกับคนต่างศาสนาอย่างสันติ

ขอถามว่า
คนรักเพศเดียวกัน ผิดหลักการศาสนาอิสลามหรือไม่

ทุกวันนี้มีข่าวเกี่ยวกับคนรักเพศเดียวกันออกมาเยอะแยะ

ทางศาสนาพุทธ เท่าที่รู้ ไม่ผิดหลักศาสนา

ถือว่า
สันติภาพ คู่กับ ความเข้าใจ ความรัก

ดังนั้น
เขาจะเป็นอะไร ก็ยังรักเขา
เพราะ สิ่งนั้นๆเป็นตัวตนของเขา
เราต้องรักตัวตนของเขา และเขาด้วย
ถึงจะเกิดสันติภาพ ค่ะ

ขอขอบคุณล่วงหน้า และมากๆค่ะ

[asan]

ขอถามว่า
คนรักเพศเดียวกัน ผิดหลักการศาสนาอิสลามหรือไม่

..................
ตอบ
ในศาสนาอิสลาม เชื่อว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์มา ให้เพศชาย คู่ กับเพศหญิง ซึ่งเหมือนกับสัตว์โลก ประเภทอื่นๆ เช่น วัว ควาย หมู หมา เป็ด ไก่ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้พวกเขาสืบทอดเผ่าพันธ์ซึ่งกันและกัน ดังที่พระเจ้าตรัสในพระคัมภีร์อัลกุรอ่านว่า


هُوَ الَّذِي خَلَقَكُم مِّن نَّفْسٍ وَاحِدَةٍ وَجَعَلَ مِنْهَا زَوْجَهَا لِيَسْكُنَ إِلَيْهَا فَلَمَّا تَغَشَّاهَا حَمَلَتْ حَمْلاً خَفِيفاً فَمَرَّتْ بِهِ فَلَمَّا أَثْقَلَت دَّعَوَا اللّهَ رَبَّهُمَا لَئِنْ آتَيْتَنَا صَالِحاً لَّنَكُونَنَّ مِنَ الشَّاكِرِينَ
[7.189] พระองค์นั้นคือผู้ที่ได้ทรงบังเกิดพวกเจ้าจากชีวิตเดียวและได้ทรงให้มีขึ้นจากชีวิตนั้น ซึ่งคู่ครองของชีวิตนั้นเพื่อชีวิตนั้นจะได้มีความสงบสุขกับนาง ครั้นเมื่อชีวิตนั้นได้สมสู่นาง นางก็อุ้มครรภ์อย่างเบา ๆ แล้วนางก็ผ่านมันไป ครั้นเมื่อนางอุ้มครรภ์หนัก เขาทั้งสองก็วิงวอนต่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าของเขาทั้งสองว่า ถ้าหากพระองค์ทรงประทานบุตรที่สมบูรณ์ให้ข้าพระองค์แล้ว แน่นอนข้าพระองค์ก็อยู่ในหมู่ผู้ขอบคุณ - อัลอะอฺรอฟ/189

และอีกโองการหนึ่งพระองค์ได้ตรัสไว้ว่า

وَمِنْ آيَاتِهِ أَنْ خَلَقَ لَكُم مِّنْ أَنفُسِكُمْ أَزْوَاجاً لِّتَسْكُنُوا إِلَيْهَا وَجَعَلَ بَيْنَكُم مَّوَدَّةً وَرَحْمَةً إِنَّ فِي ذَلِكَ لَآيَاتٍ لِّقَوْمٍ يَتَفَكَّرُونَ
[30.21] และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์คือ ทรงสร้างคู่ครองให้แก่พวกเจ้าจากตัวของพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความสุขอยู่กับนาง และ ทรงมีความรักใคร่และความเมตตาระหว่างพวกเจ้า แท้จริงในการนี้ แน่นอน ย่อมเป็นสัญญาณแก่หมู่ชนผู้ใคร่ครวญ
- อัรรูม/21


สถาบันครอบครัว เป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญ ในอันที่จะผลิตสมาชิกของสังคม ทดแทนสมาชิกเก่าที่ตายไป และ เป็นสถาบันที่มีหน้าที่ผลิตคนดีออกสู่สังคม
การรักร่วมเพศ ย่อมมีผลเสียต่อบทบาทของ สถาบนครอบครัว ดังที่กล่าวมาแล้ว และโรคเอดส์มหันตภัยร้าย ก็มีต้นตอมาจาก คนรักร่วมเพศ โปรดดู้อมูลข้างล่าง

โรคเอดส์พบครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ.2524) โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯได้รับรายงานจากนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ว่ามีชายหนุ่มรักร่วมเพศ 5 คนป่วยเป็นปอดบวมจากเชื้อแปลกๆ ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Pneumocystis Carinii Pneumonia ภายในอีก 1 เดือนต่อมา มีรายงานจากนิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนียว่ามีชายรักร่วมเพศอีก 26 ราย ป่วยเป็นโรคมะเร็ง Kaposi’s Sarcoma ซึ่งตามปกติเป็นในคนอายุมากหรือคนที่มีภูมิคุ้มกันของร่างกายเสียไป และยังมีผู้ป่วยอีกหลายราย เป็นโรคปอดบวม และติดเชื้อชนิดฉวยโอกาส ชายหนุ่มที่ป่วยทุกรายไม่มีรายใดที่มีโรคร้ายแรงประจำตัวมาก่อน และไม่มีรายใดที่เคยได้รับยาประเภทกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และทุกรายเมื่อได้รับการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการพบว่าการทำงานของเซลล์ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับภูมิต้านทานโรคเสียไปไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ และในที่สุดผู้ป่วยเหล่านี้ก็เสียชีวิตเพราะระบบภูมิคุ้มกันโรคบกพร่อง หลังจากนั้นการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ในขณะนั้นยังไม่มีใครทราบสาเหตุว่าเกิดจากเชื้อชนิดใด
http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-5/no49/kurmpenmaaids.html

ความเป็นมาของโรคเอดส์
..........โรคเอดส์พบครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2524 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยเป็นชายรักร่วมเพศป่วยเป็นปอดบวมจากเชื้อ นิวโมซีสตีส แครินิอาย (Pneumocystis Carinii) ทั้งที่เป็นคนแข็งแรงมากมาก่อน และไม่เคยใช้ยากดภูมิต้านทาน

ผลการตรวจทางห้องปฎิบัติพบว่าเซลล์ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติจากการศึกษาย้อนหลัง พบว่าโรคนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบอัฟริกาตะวันตกในปี พ.ศ. 2503 และต่อมาได้แพร่ไปยังเกาะไฮติ ทวีปอเมริกา ยุโรปและเอเซียรวมทั้งประเทศไทยด้วยสำหรับผู้ป่วยเอดส์รายแรกในประเทศไทยนั้นเป็นชายอายุ 28 ปีเดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกาและมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ เริ่มมีอาการในปี พ.ศ.2526ได้รับการตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอเมริกา พบว่าปอดอักเสบจากเชื้อ Pneumocystis Carinii แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นโรคเอดส์ จึงกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทยในปี พ.ศ.2527 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

http://www.mthai.com/scoop/aids/

อิสลาม ห้ามการมีพฤติกรรม ชายทำตัวเป็นกระเทยและหญิงทำตัวเป็นทอม

ท่านอิบนิอับบาส(สาวกคนหนึ่งของศาสดามุหัมหมัด) กล่าวว่า

لعن النبي صلى الله عليه وسلم المخنثين من الرجال، والمترجلات من النساء.


ศาสดามุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สาปแช่ง บรรดาผู้ชายที่มีพฤติกรรมเป็นกระเทยและบรรดาสตรี ที่มีพฤติกรรมเป็นทอม - รายงานโดย บุคอรี
คำว่า ผู้ชายที่มีพฤติกรรมเป็นกระเทยและบรรดาสตรี ที่มีพฤติกรรมเป็นทอม ในที่นี้ หมายถึง การจงใจแสดงออก พฤติกรรมดังกล่าว แต่ถ้าไม่แสดงออก คือ ชายยังคงปฏิบัติตัวแบบผู้ชาย และหญิงยังคงปฏิบัติเป็นหญิง อันนี้ ไม่ได้ถูกสาปแช่ง ส่วนทางด้านจิตใจนั้น ถือ ว่า เป็น สิ่งที่ต้องรักษาเยียวยา ตามที่สามารถจะทำได้.....................

[นมใส]

ขอบคุณมากๆ
ที่คุณ asan กรุณาตอบคำถามอย่างละเอียดจนเข้าใจแจ่มแจ้ง

มีคำถามใหม่อีกค่ะ
มีเพื่อนๆมุสลิมฝากถามมาว่า

1. ชาวมุสลิมสามารถ เปิดอินเตอร์เน็ตโดยเสรี หรือ มีข้อห้ามใดๆ หรือไม่
2. ชาวมุสลิมติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ไหม มีข้อกำหนดหรือไม่

เพื่อนๆไม่รู้ ไม่กล้าใช้คอม กลัวผิดหลักการอิสลาม เลยฝากมาทางข้าพเจ้าค่ะ

[asan]

มีคำถามใหม่อีกค่ะ
มีเพื่อนๆมุสลิมฝากถามมาว่า

1. ชาวมุสลิมสามารถ เปิดอินเตอร์เน็ตโดยเสรี หรือ มีข้อห้ามใดๆ หรือไม่

ตอบ

อินเตอร์เน็ตมีประโยชน์ อย่างมหาศาล ต่อการศึกษา ค้นคว้า และรับทราบข่าวสารต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนมีห้องสมุดอยู่ในบ้านและเหมือนกับเอาโลกทั้งโลกมาย่อให้เล็กวางไว้ตรงหน้า ส่วนโทษหรือข้อห้ามนั้น มันขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ใช้ ว่าจะใช้ในทางใด หากใช้ไปในทางที่ผิด เช่น ดูเว็บโป้ลามกอนาจาร ก็เป็นสิ่งต้องห้าม เป็นต้น

2. ชาวมุสลิมติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ไหม มีข้อกำหนดหรือไม่
ตอบ
อิสลามไม่ปิดกั้นในการศึกษาหาความรู้ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม หากความรู้นั้น นำมาซึ่งประโยชน์ต่อตนเองและสังคมส่วนรวม ดังคำสอนของพระเจ้า ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน เพื่อให้มนุษย์เห็นความสำคัญของวิชาความรู้

(قُلْ هَلْ يَسْتَوِي الَّذِينَ يَعْلَمُونَ وَالَّذِينَ لَا يَعْلَمُونَ)) ( الزمر : 9) .

เจ้าจงประกาศเถิดว่า บรรดาผู้ที่มีความรู้ และบรรดาผู้ที่ไม่มีความรู้ จะเหมือนกันหรือ


พระองค์ทรงสอนให้มุสลิมวิงวอนต่อพระองค์ เพื่อที่จะให้พระองค์ประทานให้เขามีความรู้เพิ่มขึ้น

((وَقُل رَّبِّ زِدْنِي عِلْماً)) (طه : 114

และจงกล่าวเถิดว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ได้โปรดเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด - ฏอฮา/117



عن أم سلمة أن النبي صلى الله عليه وسلم كان يقول إذا صلى الصبح حين يسلم اللهم إني أسألك علما نافعا ورزقا طيبا وعملا متقبلا * ( صحيح


รายงานจากอุมมิสะละมะฮ (ภรรยาคนหนึ่งของท่านศาสดา) ว่า แท้จริงท่านศาสดา ศอ็ลลัลลอฮุฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อละหมาดซุบฮิ ขณะที่ กล่าวสะลาม ท่านได้กล่าวขอพร(จากพระเจ้าว่า) โอ้อัลลอฮ ข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ท่าน ซึ่งความรู้ที่มีประโยชน์ ,ปัจจัยยังชีพที่ดี และ การประกอบศาสนกิจ ที่ได้รับการรับรอง - หะดิษเศาะเฮียะ
อิบนุมาญะฮ
และอีกประการหนึ่งคือ อิสลามสอนให้มีความรู้ควบคู่คุณธรรม

[seatar_9]

เชิญที่ มัสยิดต้นสน ทุกวันเสาร์ 9.30น มีพี่น้องชาวพุทธ มาศึกษา ชักถามหลายคน หวังว่าจะได้พบกันนะครับ