อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[ฟาติมะ_2]

อยากจะขอถามผู้รู้ให้ช่วยตอบหน่อยค่ะว่า การใส่เสื้อสีเหลืองผิดหรือไม่อย่างไรแล้วถ้าทางกระทรวงบังคับให้ใส่เราจะใส่ได้หรือไม่ค่ะช่วยตอบด่วนค่ะ

[asan]

อยากจะขอถามผู้รู้ให้ช่วยตอบหน่อยค่ะว่า การใส่เสื้อสีเหลืองผิดหรือไม่อย่างไรแล้วถ้าทางกระทรวงบังคับให้ใส่เราจะใส่ได้หรือไม่ค่ะช่วยตอบด่วนค่ะ
..................
ตอบ
การใส่เสื้อสีอะไรนั้น ไม่มีข้อห้ามหรอกครับ ยกเว้น ที่มีบัญญัติห้ามไว้
الأصل في كل ما يلبس أنه حلال جائز ، إلا ما ورد نصٌّ بتحريمه

หลักเดิมในทุกสิ่งที่ใช้สวมใส่นั้น หะลาล อนุญาต นอกจากสิ่งที่ปรากฏตัวบท ว่ามันต้องห้าม
.................
ส่วนเสื้อสีเหลือ หรือ สีอะไรก็ตาม ที่ใช้เป็นชุด ยุนิฟอร์มหรือ เครื่องแบบ ประจำศาสนาอื่นโดยเฉพาะ ก็ถือว่าต้องห้าม

[natee]

รายละเอียดเรื่องนี้อยากให้ไปหาคำตอบจากการบรรยายของท่านเชคริฏอ อะหมัด สมะดี ในเวปริฎอ อะหมัด สมะดี หัวข้อการบรรยายล่าสุด เรื่อง"ฟะมัยยักฟุร บิฏฏอฆูต" ที่บ้านตานีพันธ์ วันที่ 18-06-2549

[asan]

บางเรื่องนั้น มีข้อจำกัด ที่เราไม่สามารถจะกล่าวในที่สาธารณะได้ จึงควรระวัง เพื่อ เว็บนี้จะได้อยู่ ทำหน้าเผยแผ่ศาสนาต่อไป ถึงจะมีข้อจำกัด ก็ดีกว่าถูกปิด หวังว่าคงเข้าใจ

[natee]

ด้วยความเคารพค่ะ อาจารย์ asan เรื่องที่ดิฉันแนะนำให้ฟังนั้น สำหรับดิฉันคิดว่า เป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนคิดไม่ถึงว่าจะขนาดนั้นเชียว ถ้าเป็นเรื่องของอากีดะห์ มุสลิมทุกคนจำเป็นต้องทราบไม่ใช่หรือคะ และดิฉันก็เห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาตามที่ท่านเข้าใจนะคะ เป็นเรื่องราวศาสนาที่นำเสนอได้ดีมากๆ ค่ะ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดิฉันพบในการเสวนาที่muslimthai ขอนำมาฝาก ค่ะ

"เคยลองถามทหาร ตำรวจ ว่าทำไมไม่ใส่เสื้อเหลืองมั้ยล่ะ เค้าจะตอบมาง่ายๆ ก็มีกติกา มีกฎให้ไม่ใส่
เคยถามพระสงฆ์มั้ย ว่าทำไมไม่ไหว้ ไม่กราบ กษัตริย์ เจ้าชาย เค้าก็จะตอบมาว่า จะไหว้ได้ไง มันเรื่องของศาสนา

เช่นกันครับ ทำไมมุสลิมไม่ใส่เสื้อเหลือง "

[u]

เห็นด้วยกับคุณ natee ครับ
บางเรื่อง(อย่างเรื่องอะกีดะฮฺ) ก็คุ้มค่าที่จะแสดงออกบ้าง
ถ้าเงียบกันหมด ไม่มีใครพูดเลย ก็คงไม่ดี

[asan]

วะอะลัยกุมุสสลาม หนู natee
ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ คือ เกรงว่า จะมีคนมาโพสต์จาบจ้วงถึงสถาบัน ซึ่งเราก็รู้กันอยู่ว่า มันจะมีผลกระทบอย่างไร แค่นี้เองจ้า

[matt]

ผมเชื่อว่าอะไรก็ตามที่ผมออกคววามเห็น ในเรื่อง หลักการของอิสลาม ในเวบนี้ และ เวบต่างๆ ในสังคมไทยมุสลิมแล้ว มุสลิมไทยส่วนใหญ่ จะ ไม่ เห็น ด้วย ซึ่ง เป็น ความ ต้อง การ ของผม, ทั้งนี้ เพราะ ผมไม่ ต้อง การ จะ เขียน ขึ้น มา เพื่อ เปลี่ยน แปลง หลัก ความ เชื่อ ที่ เรา เคย ถือ ปฏิบัติ กัน มา แต่ผมต้องการ ให้ เราใช้ เหตุผล ในการ มีศรัทธา ต่อศาสนาอิสลาม ซึ่ง พระเจ้าประทานมา เพื่อ เป็นแนว ทาง ในการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่าง ถูกทำนอง ครองธรรม และมีสิ่งยึด เหนี่ยว ทาง จิตใจ เพียง สิ่ง เดียว นั้นก็คือ “พระเจ้า หรือภาษาอรับ เรียกว่า “อัลลอฮ์” เมื่อเราถือพระเจ้าองค์เดียว แล้ว จะทำให้มนุษย์ ทุกๆ คน ไม่ลดเกียรติ ของความเป็นมนุษย์ พระเจ้าให้อิสลามมาเพื่อ ความง่าย ต่อการปฏิบัติ ไม่ใช่ให้มาเพื่อให้เราทำความยาก ลำบาก ต่อ ชีวิตเรา

ไม่มีศาสนาใดๆ ในโลกนี้ ที่ มีกฎบังคับให้ มนุษย์ กราบไหว้ วัตถุ แต่ เนื่องจาก ความรักหรือ เคารพ ศาสดา อย่าง มาก มาย ทำ ให้ มนุษย์ สร้าง รูป ต่างๆ ขึ้น มากราบไหว้ ตาม ความ รักความรู้สึก ของ มนุษย์ ที่จะ ต้อง มองเห็น จึงจะเชื่อ หรือ ศรัทธา แม้แต่ใน สังคมมุสลิมก็เช่น กัน ซึ่งเรา จะเห็น ว่า ท่าน รอซูล จะ สั่งห้ามอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้ ผู้ใด ยกย่องท่านจนเลิศเลอ และ แม้ แต่ ในอัลกุรอาน ก็ ย้ำ อยู่ เสมอ ว่า ท่านรอซูล เป็น มนุษย์ ธรรมดา แม้กระนั้น มุสลิมบางท่าน ยังโกรธถ้า มีใครกล่าวว่า ท่าน รอซูลเป็นมนุษย์ ธรรมดา เช่นเดียว กับเรา

ศาสนาอิสลาม ไม่มีสิ่งใดที่ศักสิทธิ์ นอกเหนือไปจาก อำนาจของ พระองค์อัลลออฮ์ ดังนั้นสิ่งต่างๆ หรือ ชีวิตต่างๆ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น ไม่ใช่สิ่ง ที่ มุสลิม จะ ยกขึ้น “บูชา” เทียบเคียงกับพระเจ้า การทำเช่นนั้น เป็น “ชิริก”

การแสดงความเคารพ ความรัก ต่อ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ของเรา “ไม่ถือว่าเป็นการบูชาด้วยความศรัทธา เช่นเดียวกับการบูชาพระเจ้า” และ ศาสนา อิสลาม พระองค์อัลลอฮ์ ทรงบัญญัติ ไว้ให้ เคารพบิดามารดา ในอะหะดีษก็มีอยู่อย่างมากมาย ในเรื่องการเคารพและรู้จักในบุญคุณ ของ บุคคลที่ ให้ความเอื้อเฟื้อแก่เรา และครอบครัวของเรา, แต่ที่สำคัญที่สุดคือ มุสลิมจะต้อง แยกการเคารพ มนุษย์ ให้แตกต่างออกจากการ “เคารพบูชา” พระเจ้า จึงจะไม่ขัดกับ หลัก “อะกีดะฮฺ” ของอิสลาม

เมื่อเรา ขับรถ ไปถึง สี่แยกไฟแดง เมื่อ เรา เห็น ไฟ “สีเหลือง” เราจะต้อง ชลอความเร็วให้ช้า ลง และ พร้อมเสมอ ที่จะต้อง หยุดเมื่อใดก็ตาม แต่พอเราเห็น “ไฟแดง” เราจะต้อง หยุด และเมื่อ ไฟแดง ปิดลง และ“ไฟเขียว” เปิดขึ้น เราจึง จะขับ รถผ่านไปได้ เราจะเห็นว่า ที่เราปฏิบัติตาม สัญญาน ไฟ นั้น เพราะ ว่า มีกฏหมายอยู่เบื้อง หลัง ให้เรา เชื่อฟัง และปฏิบัติตาม โดย ใช้ “สี ของแสงไฟเป็น สัญญาน แทน “ข้อความในกฏหมาย จราจร” “ สีเหลือง” ที่ใช้ใน สัญญาณ จราจร นั้น ไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง กับ ศาสนาหรือความศรัทธาแม้แต่นิดเดียว เลย แต่ มุสลิม ผู้ ขับรถเก๋ง ทุกๆท่าน ปฏิบัติตาม อย่าง ไม่ มีข้อขัดข้อง

สีเหลือง, สีส้ม, สีแสด, สีม่วง, สีขาว, สีดำ และสีต่างๆ ถูกนำมาใช้ เป็นสีของเครื่อง นุ่งห่มทางศาสนา ต่างๆ และ ในขณะ เดียวกัน ก็ถูก นำมาใช้ เป็น เครื่อง แบบ สำหรับ นักโทษ ตาม คุก ในประเทศต่างๆ ซึ่งจะเห็นว่า การใช้สีต่างๆ นั้น แล้วแต่ ความหมาย ที่เรา จะ กำหนด ขึ้น เพียงเท่านั้น

เราโชคดีที่ได้เกิดเป็น ประชาชนชาวไทย ประเทศที่มีองค์พระมหากษัตริย์ เป็น ประมุข ถ้าเราจะ ศึกษาตามประวัติศาสตร์แล้ว ก่อนที่จะเป็นประเทศไทยและ เป็น ประเทศประชาธิปไตย และมีเอกราชอยู่จนทุกๆวันนี้ ผู้นำของประเทศ จะต้อง เป็นผู้ที่เสียสละ ทั้งชีวิต และ เลือดเนื้อ เพื่อ ปกป้อง ความเป็น อิสระภาพ ของแผ่นดิน หรือกล่าวอย่าง รวบรัด ก็คือ พระมหากษัตริย์ เป็น ผู้ที่มีบุญคุณ ต่อ ประชาชน ชาวไทย ทุกๆคน ที่อาศัย อยู่ บน แผ่นดินไทย การเคารพรัก พระมหากษัติย์ แตกต่าง จากการ “กราบเคารพบูชาพระเจ้า” ซึ่งเป็นเรื่องของความศรัทธา

การทีมุสลิมจะแสดงความรักต่อ พระมหากษัตริย์ ของ ประเทศชาติไทย ประเทศของ คนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม จึงไม่เป็นการขัดต่อ หลักการ ของ ศาสนาอิสลาม เนื่องใน โอกาศวัน เฉลิม ฉลอง ครบรอบ 60 ปึ แห่งการ ครอง ราช ของ พระมหากษัตริย์ ของไทย เพื่อแสดง ความรักต่อ พระมหากษัตริย์ ไทยเราอย่างพร้อม เพรียง โดยใช้“สีเหลือง” เป็น เครื่อง หมาย ว่า ถ้า คนไทย สวมเสื้อ “สีเหลือง” ในช่วงนีแล้ว แสดงความรู้สึก ว่า เรา รักในหลวง ของเรา โดยไม่ต้อง ออกปาก หรือ เปล่ง คำพูด ใดๆ ทั้งสิ้น เสื้อเหลือง หรือ สีเหลือง ของเสื้อ ก็เช่นเดียว เป็นแค่เครื่อง หมายแสดงความพร้อมเพรียงกัน ว่าคนไทย เรา รัก ในหลวง เช่นเดียว กับ เรา “นำของขวัญ” ไปให้ บิดามารดาเรา หรือ ภรรยา หรือ คู่รัก เพื่อแสดง ความรัก ต่อ เขา เหล่านั้น ซึ่งไม่น่าจะขัดกับ หลัก “อะกีดะฮฺ” ของอิสลาม เลย

ดังนั้น มุสลิมจึงไม่สมควรจะหาข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ถ้าเราไม่แน่ใจ ว่าจะผิดหลัก“อะกีดะฮฺ” ของอิสลาม หรือไม่? เราก็ควรนิ่งเฉยเสีย และ แสดงความรัก ต่อ ในหลวง ของ เรา โดยวิธี การอื่น เช่น ให้ถวายของ ขวัญแก่พระองค์ หรือ บริจาคเงิน บำรุงการกุศล ร่วม กับ พระองค์ เนื่อง ในโอกาศนี้ด้วย นอกจากนี้เราจะเห็นว่า ผู้นำในกลุ่ม อรับ ได้มาร่วม ในพิธีเฉลิมฉลอง ในโอกาส นี้ด้วยเช่นกัน และเขาเหล่านั้น ก็แสดงความรักในหลวงของเรา อย่าง ซาบซึ้ง ในทัศนของผม การใส่เสื้อสีเหลือง หรือ สีอะไรที่เรากำหนดขึ้น เพื่อแสดงความรัก ต่อในหลวง ไม่มี อะไร เกี่ยวข้องกับ หลัก “อะกีดะฮฺ” ของอิสลาม เลย ถ้าเราเข้าใจ หลัก “อะกีดะฮฺ” ของอิสลาม อย่างถูกต้อง

ถ้าไม่เช่นนั้น มุสลิมเรา จะใช้ธนบัตร ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ ของในหลวง ในการ แลกเปลี่ยน ซื้อขาย และ เลี้ยงดูครอบครัวไม่ได้ “ถ้าการใส่เสื้อเหลือง” เป็นการขัดกับ หลัก “อะกีดะฮฺ” ของอิสลาม แล้ว การสะสม ธนบัติไทย จะไม่รุนแรงกว่า การใส่เสื้อ เหลือง ดอกหรือ? ทั้งนี้เพราะว่า ธนบัตร มีพระบรมฉายาลักษณ์ ของในหลวง ประดับอยู่ ซึ่งขัดต่อ “อะหะดีษ” ในเรื่องการเก็บรูปถ่ายไว้ในบ้าน, ทำไมมุสลิมจึงไม่ละอายที่จะมี ธนบัตร ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ ของในหลวง เป็นจำนวนมากๆ

ผมจึงขอเชิญชวนไทย มุสลิมเรา ให้แสดงความรัก ต่อในหลวงของเรา โดยพร้อมใจ แสดงความรัก โดยการสวมเสื้อเหลือง หรือ ร่วม การกุศล สละเงิน บริจาค สมทบทุน ช่วยเหลือ เพื่อนไทยที่ตกยาก อย่างพร้อมเพรียงกัน




แมทท์

[dabdulla]

จากข้อความคุณแมทท์

ผมจึงขอเชิญชวนไทย มุสลิมเรา ให้แสดงความรัก ต่อในหลวงของเรา โดยพร้อมใจ แสดงความรัก โดยการสวมเสื้อเหลือง หรือ ร่วม การกุศล สละเงิน บริจาค สมทบทุน ช่วยเหลือ เพื่อนไทยที่ตกยาก อย่างพร้อมเพรียงกัน

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าคุณต้องการเสื้อไปขายที่นิวยอร์คบอกนะครับ ผมมีเพื่อนชาวไทย ที่ดัลลัส ซึ่งนำเสื้อมาขาย
สนนราคา ตัวละ 20 เหรียญ

ถ้าหากต้องการเสื้อกรุณาติดต่อผมนะครับ จะให้ขับไปให้ที่ฮิวสตันก็ได้
ที่บอกก็เพราะว่า แกรับมาเยอะ และก็ขายไม่หมด ก็เลยอยากจะช่วยเหลือเพื่อนไทย ที่ตกยาก

[u]

นั่นเป็นเพราะอะกีดะฮฺอิสลามแบบของคุณแมทท์
ต่างจากอะกีดะฮฺอิสลามของในแบบผม..
ที่มีพระเจ้าแผ่นดินซึ่งคู่ควรต่อการกราบไหว้เพียงพระองค์เดียว

ความคิดเราในเรื่องนี้ จึงต่างกัน
......................................................................................................................



ขอมะอัฟครับที่ไม่ได้คุยด้วยยาวๆ
ถึงที่สุดแล้วต่างคนต่างก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเลือก
ที่เราแบ่งปันกันได้ในตอนนี้ก็คือ "การตักเตือน"

[yoohoo]

แหมอาจารย์แมทท์ตอบได้มีเหตุมีผลดี เห็นด้วยคร๊าบ

[zda98]

การใส่เสื้อเหลืองโดยทั่วไป จะเป็นการเข้าใจได้ว่า คือการถวายพระพร
ดังนั้นสิ่งที่เราต้องกลับมาคิดว่า มุสลิมทำอะไรได้บ้าง
โดยการเปรียบเทียบ(อย่างคร่าวๆ)ในขั้นตอนของการใส่เสื้อดังต่อไปนี้
1.การซื้อเสื้อสีเหลือง -ไม่น่าจะมีปัญหาในการซื้อสินค้าต่างๆมาอย่างถูกต้องในหลักการของอิสลาม
2.การใส่เสื้อสีเหลือง -ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆเช่นกันในการสวมใส่เสื้อผ้าสีต่างๆ ยกเว้นก็เพียงมุสลิมะฮฺที่ไม่สามารถใส่เสื้อแขนสั้น ควรระมัดระวังในจุดนี้
3.ความหมายของเสื้อ -.....อันนี้เสื้อของสีเหลือง ณ เวลานี้นั้น เข้าใจโดยทั่วกันว่าเป็นการถวายพระพร และเป็นสีของในหลวง โดยมีการใส่สัญลักษณ์ ภปร ลงไปในเสื้อเพื่อย้ำให้ชัดเจนว่า เป็นสัญลักษณ์ของ ร 9 จริง และสัญลักษณ์นั้นแบ่งออกเป็น 4 ส่วนในการแสดงความหมายดังต่อไปนี้
3.1. -1.อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ อยู่ตรงกลางตราสัญลักษณ์ฯ ประดิษฐานอยู่ เหนือพระที่นั่งอัฐทิศ เป็นการแสดงความหมายว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจ ของคนไทยทั้งชาติ ทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยว และเป็นที่เคารพบูชาอย่างสูงสุด ของประชาชน สีเหลืองของอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. เป็นสีประจำวันพระราชสมภพ อยู่บนพื้นวงกลมสีน้ำเงิน ซึ่งหมายถึงพระมหากษัตริย์ ล้อมรอบด้วยตราพระแสงจักร และมีเลข ๙ บนอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ซึ่งหมายถึงทรงเป็น พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ มีสัปตปฎลเศวตฉัตร ประกอบอยู่ ๒ ข้าง ซ้าย-ขวา และมีนพปฎลมหาเศวตฉัตร ประดิษฐานอยู่เบื้องบนสุด
3.2 -2.เส้นกรอบรอบนอก ที่ออกแบบให้มีลักษณะ เป็น ๔ แฉก หรือ ๔ ส่วน แทนประชาชนชาวไทย ทั่วทุกภาคของประเทศ ที่อยู่ภายใต้ พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข สีพื้นที่ใช้จึงเป็นโทนสีเขียว อันแสดงถึงความสงบร่มเย็น และอุดมสมบูรณ์ มีดอกบัว ๔ ดอก แทรกตรงกลางระหว่างแฉกทั้ง ๔ แสดงความหมาย เป็นการเทิดทูนบูชา ในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ
3.3 -3.รัศมีสีทอง โดยรอบตราสัญลักษณ์ฯ เปรียบได้ดังพระบุญญาบารมี พระมหากรุณาธิคุณ และน้ำพระราชหฤทัย ที่แผ่ไพศาลไปทั่วทุกทิศ ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ยังความปลาบปลื้ม มาสู่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
3.4 -4.เบื้องล่างตราสัญลักษณ์ฯ ออกแบบเป็นแพรแถบสีน้ำเงิน แสดงข้อความพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒

.......................................................................

-----ไม่ธรรมดานะครับ หากคนที่รู้ความหมายในตรานี้แล้วยังใส่ด้วยความสบายใจ ไม่รู้สึกอะไรในความหมายต่างๆ นั้น คงต้องมีเวลาให้กับตัวเองให้มากๆนะครับ-----

---

แถมๆ ถวายพระพร = การขอดุอาอฺ,การขออภัยโทษ ทำได้มั๊ย?
[9.113] ไม่บังควรแก่นบีและบรรดาผู้ศรัทธาที่จะขออภัยโทษให้แก่พวกตั้งภาคี และแม้ว่าพวกเขาจะเป็นญาติใกล้ชิดกันก็ตาม ทั้งนี้หลังจากเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว แน่นอนพวกเหล่านั้นเป็นชาวนรก (ซูเราะห์ เตาบะฮฺ/113)

[romlie]

"อัลลอฮฺนั้นคือไม่มีผู้ที่ถูกเคารพสักการะใดๆที่เที่ยงแท้ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงมีชีวิต ผู้ทรงบริหารกิจการทั้งหลาย โดยที่การง่วงนอน และการนอนหลับใดๆ จะไม่เอาพระองค์ สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นของพระองค์ ใครเล่าคือผู้ที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้วยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ล้อมสิ่งใด จากความรู้ของพระองค์ไว้ได้ นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์เท่านั้น"

"ไม่มีการบังคับใดๆ (ให้นับถือ) ในศาสนาอิสลาม แน่นอน ความถูกต้องนั้นได้เป็นที่กระจ่างแจ้งแล้วจากความผิด ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธศรั่ทธาต่ออัฏ-ฏอฆูต และศรัทธาต่ออัลลอฮฺแล้ว แน่นอนเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว โดยไม่มีการขาดใดๆ เกิดขึ้นแก่มัน และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้"

"และอัลลอฮฺนั้นคือผู้ทรงช่วยเหลือบรรดาผู้ที่ศรัทธา โดยทรงนำพวกเขาออกจากบรรดาความมืดสู่แสงสว่าง และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น บรรดาผู้ช่วยเหลือของพวกเขาก็คือ อัฏ-ฏอฆูต โดยที่พวกมันจะนำพวกเขาออกจากแสงสว่างไปสู่ความมืด ชนเหล่านี้แหละคือชาวนรก โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล"

(อัล-บะเกาะเราะฮฺ 255-256-257)


"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า โอ้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเอ๋ย"

"ฉันจะไม่เคารพภักดีสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดีอยู่"

"และพวกท่านก็ไม่ใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี"

"และฉันก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดี"

"และพวกท่านก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี"

"สำหรับพวกท่านก็คือศาสนาของพวกท่าน และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน"

(อัลกาฟิรูน)

------------------------------------------------------------------------------------------

เตาฮีดของใคร ผู้นั้นก็รักษากันเอาเอง
ส่วนผล...อัลลอฮฺทรงเป็นผู้ตัดสินที่ยุติธรรมยิ่ง

------------------------------------------------------------------------------------------

[อารัช]

ท่านทั้งหลายทราบกันหรือไม่ครับว่าคนไทยเราที่ไม่ใช่ มุสลิมเขาเคารพบูชากษัตริย์ของพวกเขากันอย่างไร ท่านไม่ทราบหรอกหรือว่ากษัตริย์ในทัศนะของพวกเขานั้นเขาเคารพบูชากษัตริย์ในฐานะองค์สมมุติเทพ หรือ เป็นปางหนึ่งของเทวดาผู้ซึ่งมีบุญญาทิการมาเกิดเป็นกษัตริย์ และพวกเขาก็เคารพบูชาอยู่ในรูปของการบูชาเทพเจ้า หาใช่ให้ความเคารพบูชาอย่างเช่นที่คนทั่วไปเขาเคารพบูชากษัตริย์ผู้ปกครองนครไม่ แล้วการเคารพบูชาบุคล คนหนึ่งคนไดในลักษณะเช่นนี้ไม่ทราบว่ามุสลิมเรากระทําได้อย่างนั้นหรือ แน่นอนครับไม่ได้ ถึงแม้บางท่านบอกว่าก็ช่างคนอื่นเขาซิที่เขาเคารพบูชากันในรูปแบบนั้น เราไม่ได้มีความคิดเหมือนเขาซักหน่อย ใช่ครับคุณหนะอาจจะไม่คิด แต่ในเมื่อลักษณะภายนอกคุณแสดงออกมาเหมือนพวกเค้า ก็เท่ากับว่าคุณได้ให้การสนับสนุนแนวความคิดการเคารพ บูชาในรูปแบบดังกล่าวไปโดยปริยายครับ สมมุตนะครับก็คล้ายกับการที่เขามีการประกอบพิธีกรรมซึ่งเป็นชิริก แล้วคุณไปร่วมพิธีชิริกนั้นด้วย แล้วคุณมาอ้างว่าคุณไม่ได้มีเนี๊ยดเหมือนพวกเขา แล้วมันจะได้หรือ แน่นอนครับไม่ได้อย่างแน่นอน อย่าคิดตื้นๆนะครับ ขอร้องอย่าล้อเล่นกับศาสนา ขอร้อง

[IRF]

หลายๆอย่างที่คุณ matt กระทำก็ดีอยู่ เช่นเห็นของผิด(ในทัศนะคุณ matt)คุณก็บอกว่าผิดเลย เห็นของถูกของบอกว่าถูกเลย ข้อนี้เป็นสิ่งที่ดี

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงผิดพลาดติดตัวคุณ matt อยู่ก็คือยังเข้าใจแบบเดิมๆว่าการเคารพเชื่อฟังท่านนบีนั้นเป็นชีริก!! -*- คืออย่างที่มุสลิมทั่วโลกเข้าใจกันอยู่เนี่ยเป็นชีริก! เพราะพวกนี้มีแต่เรียนตรามๆกันตามครูตามอุละมาอฺ ตามประเพณี หลับหูหลับตาตาม ไม่ยอมดูกุรอานด้วยตัวเอง มีแต่ฉัน(matt) นี่ที่เข้าใจศาสนาอย่างแท้จริง ซึ่งนักวิชาการมุสลิมส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ..(นี่แหละครับความเข้าใจของคุณ matt)
หวังคุณ matt คงจะรับคำชี้แนะตักเตือนตรงนี้เพื่อรับไปคิดไตร่ตรอง ด้วยปัญญาอันล้ำเลิศที่อัลลอฮฺให้ทุกมานะครับว่า เอ๊ะ..อย่างของเรานี่เราเข้าใจถูกหรือ?

ข้อแรกที่ต้องตั้งสมมุติฐาน
1. ซอฮาบะฮฺและคุณยุคสลัฟ เขาไม่เข้าใจศาสนา หรือว่าง่ายๆเข้าใจศาสนาอย่างผิดๆใช่หรือไม่? (ตอบตัวเองตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน)

และถ้าตอบว่าใช่ คนยุคแรกเขาเข้าใจศาสนาผิด ข้อสองที่ต้องตั้งสมมุติฐาน
2. นบีมุฮัมมัด ซึ่งเป็นผู้นำสาส์นมา ท่านเข้าใจศาสนาถูกต้องหรือไม่? (ตรงนี้ตอบตัวเองให้ชัดเจน อย่าครุมเครือ)

ถ้าตอบว่าไม่หรอก ท่านนบีไม่เข้าศาสนา ท่านแค่เป็นคนที่อัลลอฮฺฝากกุรอานมาประกาศเฉยๆ ท่านไม่รู้เรื่องอะไรเลย อย่างอื่นอัลลอฮฺไม่ได้ให้ท่านรู้ ก็จะมีข้อสมมุติฐานที่สาม
3. ตกลงนบีก็ไม่เข้าใจศาสนา คนยุคแรกก็ไม่เข้าใจ แต่น่าแปลกใจไหมที่มีคุณ matt เท่านั้น(และคนส่วนน้อยบางคน)เท่านั้นที่เข้าใจ ตรงนี้แสดงว่าคุณ matt ต้องเป็นบุคคลสำคัญตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเท่านั้นแหละ

และหากคุณ matt เข้าใจว่านบีมุฮัมมัดไม่เข้าใจศาสนา ที่ท่านสอนน่ะไม่ต้องไปฟังหรอก รับฟังแค่กุรอานก็พอ ข้อสี่ที่ต้องสุมมติฐาน
4. ตกลงที่ท่านนบีสอนๆมานับหมื่นนับแสนหะดีษ ท่านโกหกใช่หรือไม่? แอบอ้างตัวเองว่ารู้ศาสนาใช่หรือไม่? ท่านนบี่นั่งเทียนสอนใช่หรือไม่?

แต่ถ้าหาก 4 ข้อสมมติฐานนี้คุณ matt ปฏิสธหมด คุณ matt เชื่อว่าท่านนบีรู้ศาสนาดีที่สุด เชื่อว่าสลัฟเข้าใจศาสนาดี เชื่อว่าท่านนบีไม่ได้สอนมั่วๆ เชื่อว่าตัวคุณ matt ไม่ใช่แหล่งความรู้ที่ถูกต้อง ตรงนี้แหละถึงจะยกหลักฐานมาคุยกันได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว หากเรายึดอะกีดะฮฺต่างกัน ยึดธรรมนูญตัวบทหลักฐานที่ต่างกัน มันก็อธิบายกันยากอย่างแน่นอน เหมือนกับคนนึงถือประมวลกฎหมายไทย อีกคนถือกฎหมายญี่ปุ่น จะมาตัดสินเรื่องมรดกในประเทศลาว! อันนี้หาที่จบไม่ได้แน่นอน