ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Wed Feb 01, 2006 5:29 pm ชื่อกระทู้: การแบ่ง |
|
|
คุณฟาอิส
ถึงตอนนี้แล้วคุณอย่าทำมาโอดครวญขอความเห็นใจเลยครับ ที่ผ่านมาสักกี่ครั้งแล้วที่พวกคุณทำตัวเป็นผู้รู้ ชอบอ้าง***ว่าการให้ความหมายอัลกรุอานในบรรดาอุลามะของอัชชาฟีอี หรืออีหม่ามทั้ง4 ว่าบิดเบือนบ้าง ไมถูกต้องบ้าง และฮาดีสในสายของอีหม่ามทั้ง4ที่นำมาดออีฟบ้างเมาดัวะบ้าง ***
ที่เวลาคุณอัชอารีนำหลักฐานการใส่ร้ายที่ไม่เป็นธรรมจากผู้มีความรู้ในทัศนะของคุณๆมาเปิดเผย คุณกลับไมพอใจและขอความเป็นธรรมให้กับถุคคลเหล่านั้นและกลับมองเห็นคุณค่าของบรรดาอุลามะในแนวที่คุณนับถือทั้งยังช่วยกันปกป้อง ขึ้นมาทันที
ที่ผ่านมาผู้รู้ที่คุณยกยอและนับถือของพวกคุณได้ดูถูกการมุตะญิดของอีหม่ามทั้ง4 ในอดีต มาสักเท่าไรแล้ว ทั้งที่เรื่องนี้ มันน่าจะจบตั้งนานแล้ว
ถ้าไม่มีมัสหับบิดอะที่ชอบอ้างว่าการมีมัสหับคือการทำบิดอะอุตริกรรม อ้างจากหนังสือ มุสลิมต้องสังกัด มัสหับหรือไม่ แปลจาก เชคมุฮำมัด ซุลฏอน อัลมะศูมีย์ เรียบเรียงโดย อ.มูฮำมัด เหมอนุกูล ..ยังมีอีกมากที่หนังสือเล่มนี้เขียนดูถูกและไม่ยอมรับในการตักลีด ของผู้ที่ไม่มีความรู้
ที่ยกมานี้คือตัวอย่างที่บิดเบือน ของพวกคุณ
และพอมีนักศึกษาจากอียิปต์มาแก้คำหักล้างได้อย่างขาวสะอาด
พวกคุณกลับมาโวยวายขอความเป็นธรรม ห้ามปรามพวกเราในการยกตัวอย่างหรือนำเสนอความจริงที่พวกคุณรับไม่ได้ ท คักๆๆๆๆ
เว็บนี้คือสิ่งที่เปิดโอกาสให้กับเราที่ได้มาชี้แจงความจริงครับ หลังจากที่ถูกใส่ร้ายเพียงฝ่ายเดียวอยู่นานพอสมควรว่าทุกอย่างที่คุณอัรีคุณมูฮำมัดนำมานั้นคือความจริงคและความถูดกต้องที่บริสุทธิ์...ครับพี่น้องที่รักความเป็นธรรมทั้งหลาย
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Wed Feb 01, 2006 6:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ คนอยากรู้กล่าวว่า
ถ้าไม่มีมัสหับบิดอะที่ชอบอ้างว่าการมีมัสหับคือการทำบิดอะอุตริกรรม อ้างจากหนังสือ มุสลิมต้องสังกัด มัสหับหรือไม่ แปลจาก เชคมุฮำมัด ซุลฏอน อัลมะศูมีย์ เรียบเรียงโดย อ.มูฮำมัด เหมอนุกูล ..ยังมีอีกมากที่หนังสือเล่มนี้เขียนดูถูกและไม่ยอมรับในการตักลีด ของผู้ที่ไม่มีความรู้
ที่ยกมานี้คือตัวอย่างที่บิดเบือน ของพวกคุณ
ผมขอยืนยันว่า
เป็นความจริงครับ คุณ คนอยากรู้ ที่ว่า หนังสือเล่มนั้นมีการบิดเบือนอย่างมาก ซึ่งหนังสือเล่มดังกล่าว ที่ มุหัมมัด ซุลฏอน อัลมะซูมีย์ อัลค๊อจนะดีย์ ได้แต่งขึ้นนั้น มันเป็นหนังสือที่มีการอ้างอิงบิดเบือน นี่ผมพึ่งทราบนะครับว่า หนังสือเล่มบิดเบือนดังกล่าวได้แปลเป็นภาษาไทยแล้ว ถ้าหากเป็นอย่างงั้นจริง ก็ดีเลยครับ เพื่อเราจะได้ทำการชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งความจริงแล้วน้องอัล-อัซฮะรีย์ได้มีได้หนังสือเล่มนั้นอยู่แล้ว และคุณอัล-ฟารูก ก็ขอไปตรวจทาน ซุบหานัลลอฮ์! มันบิดเบือนชัดๆ ถ้าหากเป็นอย่างนี้ วะฮาบีย์ที่ไม่รู้เรื่องอะไร ไม่หลงกันเป็นแถวหรือครับ พวกเราก็สะกิดตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้อ่านหนังสือเล่มดังกล่าว อัลมุซูมีย์ ได้อ้างคำกล่าวต่างๆของบรรดาอุลามาอ์ที่มีมัซฮับทั้งนั้น เพื่อจะทำการสนับสนุนแนวทางของตน แต่เมื่อคุณอัล-ฟารูก และน้องอัล-อัซฮะรีย์ ได้ตรวจสอบดู ปรากฏว่า การอ้างอิงไม่มีระบุไว้จริง ทำการบิดเบือนตัดทอนคำพูดของอุลามาอ์ และอื่นๆ ซึ่งเราจะนำเสนอหลังจากคุยเรื่องบิดอะฮ์เสร็จ เนื่องจากการที่เราคุยประเด็นเรื่องความเข้าใจของบิดอะฮ์แล้ว เราจะเปิดโอกาสให้วะฮาบีย์ถามเราเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขากล่าวหาผู้อื่นว่าเป็นบิดอะฮ์ และเราก็จะนำเสนอสิ่งบิดอะฮ์ต่างๆของวะฮาบีย์ที่พวกเขาไม่รู้ตัวด้วย แต่ที่แน่ๆ เหมือนกับที่น้องอัล-อัซฮะรีย์เคยบอกไปว่า "การแต่งหนังสือบิดเบือนนั้น มันเป็นบิดอะฮ์หรือเปล่า?" ยังไงเราก็ต้องพูดความจริงกัน โดยที่ไม่ใส่ไคร้นะครับ
คุณ คนอยากรู้ครับ การสนทนานั้น หากว่าคุณจะสรุปให้ชัดเจนให้กับผู้อ่านได้ ก็จะเป็นการดีมากเลยนะครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Wed Feb 01, 2006 7:01 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ฟาอิส กล่าวว่า
คุณยอมรับว่าพระองค์ อัลเลาะนั้นทรงเห็นจากอัลกุรอ่านอยางตรงไปตรงมาโดยไม่มีการ ตะวีล
และคุณก็ยอมรับว่าพระองค์ทรงได้ยินยิ่งจากอัลกุรอ่านอยางตรงไปตรงมาโดยไม่มีการ ตะวีล
ผมขอกล่าวว่า
คุณเปรียบเทียบไม่ตรงประเด็นแล้วครับ คุณพยายามเอาซิฟัต ค่อบะรียะฮ์ ตามเปรียบกับ ซีฟัตซาตฺ เพื่อจะให้ไปในแนวทางเดียวกัน เช่น เอาซีฟัต يد ไปเปรียบกับซิฟัต السمع คือคุณ ฟาอิส ต้องการจะเปรียบเทียบทั้งสองให้เหมือนกัน เพื่อให้เรายอมรับว่า การได้ยินของอัลเลาะฮ์ เราไม่ได้ทำการ ตีความ(ตะวีล) และซีฟัต يد ก็เช่นเดียว ก็ไม่ต้องการตีความ(ตะวีล) เช่นกัน แบบนี้มันไม่ตบตาไปหน่อยหรือครับ ซึ่งความจริงแล้ว เราก็มอบหมายทั้งหมดแหละ ไม่ว่าเราจะทำการตีความแบบรายละเอียด คือซีฟัต يد หมายถึง "พลังอำนาจ" แล้วมอบหมายความรู้ที่แท้จริงให้กับอัลเลาะฮ์ หรือว่า เราจะมอบหมายแบบสะลัฟ คือตีความแบบสรุป หมายถึง คำว่า يد นั้น ความหมายแบบผิวเผินแบบหะกีกัต ที่เป็นอวัยวะ นั้น ไม่ใช่ แต่ความหมายจะเป็นอย่างไรนั้น ขอมอบหมายให้กับอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) แต่วะฮาบีย์บอกว่า มันมีความหมายแบบหะกีกัตนี่แหละ (แล้วความหมายแบบหะกีกัตนั้นคืออะไรครับ ก็ลองไปถามคนทั่วไปดูว่า "มือ" คืออะไร? แล้วก็มอบหมาย ประเด็นนี้น้องอัล-อัซฮะรีย์เขาจะนำมาเสนอระหว่างแนวทางค่อลัฟและสะลัฟของอัล-อะชาอิเราะฮ์ และสะลัฟแบบวะฮาบีย์
เรามาเข้าประเด็นต่อ ซีฟัต อัลเลาะฮ์ทรงเห็น หรือ อัลเลาะฮ์ทรงได้ยินยิ่งนั้น เราไม่ได้ทำการตีความ(ตะวีล) หรอกครับ แต่การเห็นและการได้ยินของอัลเลาะฮ์นั้น เราปฏิเสธ ขอย้ำนะครับว่า เราปฏิเสธ ในการเห็นด้วยตาของอัลเลาะฮ์ และ เราปฏิเสธในการได้ยินด้วยใบหูและประสราทหูของอัลเลาะฮ์ เพราะมันไปเหมือนและคล้ายกับมัคโลค และเราก็เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงมี ซีฟัต يد แต่ความหมายจะเป็นอย่างไรนั้นเราไม่รู้ เราขอมอบหมายให้กับอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) แต่เราปฏิเสธในการที่อัลเลาะฮ์ทรงมี มือที่อยู่ในความหมายแบบหะกีกัต คือเป็นอวัยวะและมีซีฟัตนิ้วเป็นส่วนหนึ่งของซีฟัตมือ แบบที่วะฮาบีย์เขาอธิบาย แบบนี้เราปฏิเสธ หรือว่า คนเอาวามบางคนชอบจิตนาการ แม้เราไปอธิบายแล้วอธิบายอีก เขาก็ยังจิตนาการไปว่าเป็นอวัยวะอยู่อย่างนั้น และเป็นยุคสมัยที่ฟิตนะฮ์ มีอะกีดะฮ์อื่นเข้ามาแทรกในอิสลาม เราก็จะใช้การตีความว่า ซีฟัต يد ตีความหมายถึง "พลังอำนาจ" ซึ่งอยู่หมวดของซีฟัต القدرة "พระองค์ทรงอานุภาพ" เหมือนกับที่ท่านอิบนุอับบาสได้ทำการตีความเอาไว้ ดังนั้น การตีมอบหมาย(ไม่ใช่มอบหมายแบบวะฮาบีย)ก็มาจากสะลัฟ การตีความก็มีรากฐานมาจากสะลัฟ แล้วแบบนี้ อัลอะชาอิเราะฮ์ไม่ใช่ สะลัฟ หรืออย่างไร? หากต้องการรายละเอียด ก็ต้องรอน้องอัล-อัซฮะรีย์ แต่ที่แน่ๆ คือเขาไม่ค่อยว่างในช่วงนี้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Wed Feb 01, 2006 7:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างจากไออาเอฟ
แต่ที่แน่ อะกีดะฮฺสลัฟนี่หาหลักฐานให้ผมไม่เจอใช่ไหมครับ?
เพราะไม่มีไงครับ! ที่เขาเชื่อว่า มือ คืออำนาจ อรัช คือครองตำแหน่ง.. ไม่มีหรอก
ขอกล่าวว่า
ไอเอฟนี้ ไม่ใช่จะเป็นคนพาลอย่างเดียว เขายังงมโข่งอยู่อีกเหมือนเดิม ในการสนทนาภาคหนึ่ง คุณลองไปอ่านดูซิ ว่า يد คือ สะลัฟได้ตีความว่า พลังอำนาจ หรือเปล่า? หากคุณไม่ไปดู คุณก็ยังเป็นคนอวดรู้งมโข่งอยู่อย่างนี้แหละครับ เพราะมันมีคุณคนเดียวนี่แหละ ที่ถามงมโข่งอยู่ คุณอะสัน คุณฟาอิส เขาไม่ถามแล้ว เพราะเขาได้ทำการสนทนา และรู้สิ่งที่เราได้ชี้แจงไปแล้ว แต่ยังเหลือไออาเอฟจมโข่งและอวดรู้ใส่คนอื่นร่ำไป น่าอายจริงๆ
อ้างจากไออาเอฟ
ดังนั้นการโจมตีเรื่องการแบ่งเตาฮีด ไม่มีประโยชน์ครับ ไม่รู้ไปตักลีดวิธีการโจมตีของใครมาอีก
หัดคิดเองซะมั่งครับ
ผมขอกล่าวว่า
ประเด็นเรื่องแบ่งเตาฮีดนั้น คุณก็ทำอวดรู้ และงมโข่งยังกิยามะฮ์แหละครับ น่าสมเพศแท้ๆ ประเด็นเรื่องการแบ่งเตาฮีดนั้น เขาคุยไปแล้ว และเราก็รอการรื้อฟื้นของวะฮาบีย์อยู่ คุณอะสันไม่ถามแบบคุณ เพราะเขาได้ทำการสนทนาแล้วและรู้ว่าเป็นอย่างไร? และเราก็ยังมีข้อมูลที่บอกว่าการแบ่งเตาฮีดแบบวะฮาบีย์นั้นเป็นบิดอะฮ์อีก แต่ไออาเอฟกลับงมโข่ง อวดรู้ใส่คนอื่น ดังนั้น การที่เราไม่แบ่งเตาฮีดแบบวะฮาบีย์นั้น เพราะว่าเราตามสะลัฟ เนื่องจากสะลัฟไม่ได้ทำการแบ่ง และการแบ่งแบบวะฮาบีย์นั้น ก็ไม่ถูกต้อง ตามหลักการ แต่คุณนะซิ ไปตามการแบ่งมาจากสะลัฟหรือเปล่า? หรือไปแบ่งตามอิบนุตัยมียะฮ์ แล้วนำการแบ่งมาหุกุ่มบรรดามุสลิมมีนว่า บางคนเป็นพวกมุชริกีน เพราะไม่มีเตาฮีดอุลูฮียะฮ์ ทั้งที่ไม่มีสะลัฟสักคนที่พูดอย่างนี้ นีแหละครับ ที่เขาเรียกว่าบิดอะฮ์งมโข่งอวดรู้ใส่คนอื่น?
อ้างจากไออาเอฟ
อ้อ.ไม่ต้องกล่าวว่า ..
ไออาเอฟ.กล่าวว่า ..
ผมขอกล่าวว่า.. "พวกวะฮาบีย์นั่นแหละที่ให้อุละมาอฺวะฮาบีย์จูงจมูก เพราะวะฮาบีย์ไม่เคยฟังใคร.." ผมรู้ครับ นี่คือนิสัยและแนวทางการพูดจาพาลของท่าน
ผมขอกล่าวว่า
(เนี่ย คงทราบดีนะว่าทำไมผมจึงบอกว่า อ้างจากไออาเอฟ เพราะเขาบอกว่า อ้อไม่ต้องกล่าวว่า..) ดูซิครับท่านผู้ พอไออาเอฟ หาถ้อยคำที่ไม่สุภาพของพวกเราไม่ได้ เขาก็สมุติคำพูดที่สกปรกที่มาจากจิตใจและจิตสำนึกของเขา แล้วมาอ้างเหมือนกับเป็นคำพูดของเรา แล้วเราสรุปแบบสกปรกที่มาจากจิตใจของเขาว่า " ผู้รู้ครับ นี่คือนิสัยและแนวทางการพูดจาพาลของท่าน" ฮ่าๆ น่าสงสารชมัด ที่หาคำพาลคำไม่สรุปของเราไม่ได้ ก็เลยต้องสมุติมาเอง แล้วก็วิจารณ์แบบสกปรกที่มาจากหัวใจของเขาเอง น่าสมเพสแท้ๆ ผมไม่รู้ว่า น้องอัล-อัซฮะรีย์ปล่อยให้ความสกปรกจากความเท็จผ่านไปได้อย่างไร?
อ้างอิงจกไออาเอฟ
ดังนั้นไปหาคำตอบมาอุดช่องโหว่ของตนดีกว่าครับ ว่าอะชาอิเราะฮฺไปเอาหลักฐานเรื่องอะกีดะฮฺมาจากไหน?
ดีกว่ามาใช้เหตุผลทางปัญญา ..หลักฐานน่ะ ที่เขาขอนานแล้วน่ะ หลักฐาน!
ผมขอกล่าวว่า
ดูซิครับท่านผู้อ่าน น้องอัล-อัซฮะรีย์เขาจะตอบไปเรื่อยๆแบบเชิงการสนทนา แล้วก็ตั้งคำถามถึง 7 คำถามด้วยกัน แต่ไออาเอฟเงียบฉี่ แล้วดันมาทำตัวอวดรู้ ว่าอัลอะชาอิเราะฮ์ไปเอาอะกีดะฮ์มาจากใหน? แล้วดันมาทวงถาม ทั้งเขาน้องเขาว่าจะสนทนาตอบเรื่อยๆ โดยที่ไออาเอฟงมโข่งและอวดรู้ หลีกเลี่ยงคำถามของน้องอัล-อัซฮะรีย์ และผมคิดว่า ไออาเอฟไม่กล้าตอบหรอก เพราะว่า เขากลัวไปจะไปหุกุ่มอุลามาอ์วะฮาบีย์ว่าเป็นกาเฟรโดยทางอ้อมเสียเอง ฮ่าๆๆ ผมน่ะ ก็เคยสังเกตุดูเหมือนกันแหละครับ ว่าไออาเอฟ มันจะสักแค่ใหน เห็นวะฮาบีย์เขายกยอ ยกย่องกันเหลือเกิน(เพื่อปกปิดข้อตำหนิที่มีต่อน้องอัล-อัซฮะรีย์ในเวปมูรีด) แต่เอาเข้าใจจริง น้องเขาวิจารณ์สิ่งที่ไออาเอฟนำเสนอเกี่ยวกับอากิดะฮ์ของตนเอง เป็นฉาก เป็นฉาก ชัดเจน ไออาเอฟกับแผ่นหลีกเลี่ยงกับถามของน้องอัล-อัซฮะรีย์
อ้างจากไออาเอฟ
แต่จากการนำเสนอของอัซฮารีที่ว่า
"ก่อนหน้า(อัลลอฮฺจะสถิตบนอรัชนั้น)อัลลอฮฺอยู่ไหน"
ผมทราบว่าผมอธิบายไปตั้งแต่ปีที่ชื่อมะโว้แล้ว(ไปดูกระทู้อะกีดะฮฺสลัฟแบบฉบับผู้ศรัทธา)ว่า
อัลลอฮฺ ทรงสถิตย์บนอรัช โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องสถิตย์แต่ประการใด
ดังนั้นการที่ใครเข้าใจว่าวะฮาบีย์เชื่อว่าอัลลอฮฺจำเป็นต้องสถิตย์บนอรัชนั้นก็ถือว่าเขาไม่รู้หลักอะกีดะฮฺของวะฮาบีย์นั่นเอง
และเขาก็โจมตีโดยที่ไม่รู้ หรือเรียกง่ายๆว่าโกหกใส่ไคล้วะฮาบีย์
วะฮาบีย์ไม่เคยบอกทำนองว่าอัลลอฮฺต้องพึ่งพาอรัช
ผมขอกล่าวว่า
อันนี้ไออาเอฟก็งมโข่ง ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับการกระเดียด พูดมาได้ว่า "ก่อนหน้า(อัลลอฮ์จะสถิตบนอรัชนั้น) อัลลอฮฺอยู่ใหน" ทั้งที่น้องอัล-อัซฮะรีย์กลับบอกว่า" หากพระองค์ทรงอยู่(ใน)บนฟากฟ้าและนั่ง(ประทับสถิต)อยู่บนอะรัช นั้น ก่อนที่พระองค์ทรงสร้างฟากฟ้าและอะรัช พระองค์ทรงอยู่ที่ใหน? " ซึ่งน้องเขาไม่ได้พูดว่าอัลเลาะฮ์ทรงต้องการหรือพึ่ง อะรัช? หรืออัลเลาะฮ์จำเป็นต้องสถิตบนอะรัช และฟากฟ้าอีกประเด็นที่เขาไม่นำเสนอ แต่น้องเขาพูดประเด็นการการนั่งบนอะรัชของอัลเลาะฮ์และอยู่ฟากฟ้า แต่ไออาเอฟ ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียดว่า เราได้บิดเบือนและใส่ไคล้วะฮาบีย์ ฮ่าๆ น่าสมเพชแท้ๆ ทั้งที่คำถามแบบที่น้องอัล-อัซฮะรีย์นำมาเสนอนั้น เป็นคำถามตามนัยยะของท่านอบูหะนีฟะฮ์(ร.ฏ.) ที่เป็นสะลัฟ ไออาเอฟเอ๋ย เลือกทำตัวอวดรู้และงมโข่งเสียที และไปเตาบะฮ์เสียบ้าง ก็ไม่เสียหายนะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Wed Feb 01, 2006 8:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณฟาอิสกล่าวว่า
บางครั้งท่านรอซูล ซล.กล่าวว่าอยู่บนฟากฟ้า บางครั้งท่านรอซูลกล่าวว่าได้ลงมาบางครั้งอยู่ข้างหน้า
และบางครั้งท่านรอซูลกล่าวว่าอยู่ข้างขวา และอื่นๆ นี่ก็อีกหลักฐานหนึ่งที่คุณยกมาที่แสดงว่า
พระองค์อัลเลาะห์ ซบ.ليس كمثله شىء، คุณคิดออกมั้บครับ คุณไม่ต้องไปคิดว่าพระองค์ทรงไม่มีทิศ
เพราะพระองค์ ซบ.ไม่เคยตรัสอย่างนั้นในอัลกุรอ่านและท่านรอซูล ซล.ก็ไม่เคยบอกให้ใครรู้ว่าเป็นอย่างนั้น
ถ้าหากว่าพระองค์จะกำหนดให้มีทิศ พระองค์ก็ยอมที่จะกระทำได้ ใช้มั้ยครับ
ในเมื่อ แนวสาลัฟเป็นแนวของซอฮาบัต อย่างไม่มีข้อสงสัย แล้วคุณยังจะคิดว่าแนวคอลัฟนั้นจะดีกว่าหรือ?
ผมขอกล่าวว่า
แนวทางของสะลัฟนั้นย่อมดีกว่าแนวทางของค่อลัฟครับ แต่บางยุคสมัย แนวทางของสะลัฟจะมีน้ำหนักมากกว่า สำหรับการนำมาใช้ปกป้องอากิดะฮ์อิสลาม จากกลุ่มศาสนาอื่นๆ แต่สะลัฟที่ดีกว่าค่อลัฟนั้น ไม่ใช่สะลัฟแบบวะฮาบีย์นะครับ โปรดอย่าตะกียะฮ์อำพรางผู้อ่าน
แต่คุณก็ยังพูดแบบค้านกันเองอยู่เสมอ
เช่นคุณพูดว่า
นี่ก็อีกหลักฐานหนึ่งที่คุณยกมาที่แสดงว่า
พระองค์อัลเลาะห์ ซบ.ليس كمثله شىء،
แต่หลังจากนั้นคุณกลับมาพูดค้านกันว่า
คุณคิดออกมั้บครับ คุณไม่ต้องไปคิดว่าพระองค์ทรงไม่มีทิศ (คือคุณพยามให้เราคิดว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีทิศ ทั้งที่มันคล้ายกับมัคโลค ทิศ นั้นถือว่าเป็นมัคโลค หากอัลเลาะฮ์อยู่ในทิศ หรือมีทิศ ก็แสดงว่าพระองค์ทรงอยู่ในมัคโลค (ทิศ)
แล้วคุณก็พูดมาค้านตนเองอีกว่า
"เพราะพระองค์ ซบ.ไม่เคยตรัสอย่างนั้นในอัลกุรอ่านและท่านรอซูล ซล.ก็ไม่เคยบอกให้ใครรู้ว่าเป็นอย่างนั้น"
ดูซิครับ คุณฟาอิสลามบอกว่า อัลเลาะฮ์ไม่เคยตรัส ร่อซูลไม่เคยบอกว่า "อัลเลาะฮ์ทรงมีทิศ" (อันนี้เป็นคำพูดที่ถูกต้องครับ) เมื่ออัลเลาะฮ์และร่อซูลไม่ได้กล่าวว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีทิศ ซึ่งเป็นมติอิจญฺมาอ์ (ที่อัลเลาะฮ์และร่อซูลไม่ได้กล่าวว่าพระองค์ทรงมีทิศ) เราจึงยึดและเชื่อว่า "อัลเลาะฮ์ไม่ทรงมีทิศไง" เพราะอัลเลาะฮ์ไม่ได้บอก ไม่ได้พรรณาก็กับพระองค์เองไว้ว่า "อัลเลาะฮ์ทรงมีทิศ" ใหนล่ะครับ ที่วะฮาบีย์ทั้งหลายอ้างกันเหลือเกินว่า "เราจะเชื่อคุณลัษณะของอัลเลาะฮ์ที่พระองค์ทรงพรรณาไว้ให้กับพระองค์เองเท่านั้น " แต่วันนี้ วะฮาบีย์กลับไปพรรณาว่า อัลเลาะฮ์ "มีทิศ" ซึ่งการมีทิศนี้ มันเป็นความเข้าใจจากวะฮาบีย์ แต่ไม่ได้เป็นคำพูดของอัลเลาะฮ์โดยตรงชัดๆที่พระองค์ทรงพรรณาไว้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 02, 2006 1:44 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ konyakroo กล่าวว่า
และพอมีนักศึกษาจากอียิปต์มาแก้คำหักล้างได้อย่างขาวสะอาด
พวกคุณกลับมาโวยวายขอความเป็นธรรม ห้ามปรามพวกเราในการยกตัวอย่างหรือนำเสนอความจริงที่พวกคุณรับไม่ได้ ท คักๆๆๆๆ
..........................
เมื่อเห็นถ้อยคำข้างต้น รู้สึกทุเรศ สิ้นดี คุณและนักศึกษาจากดินแดนฟาโรห์ศัตรูหมายเลขหนึ่งของอัลลอฮ ไม่ได้ทำให้ศาสนาสะอาดหรอกครับ แต่ พวกคุณมาทำให้ศาสนามัวหมอง และแปะเปื้อนไปด้วย การตีความตามอารมณ์ ชิริกและบิดอะฮที่พวกคุณอุตริขึ้นมาแอบอ้างว่า มันคือ ศาสนา
ผมเบื่อหน่าย เต็มตนแล้ว ผมพูดแต่ต้น แล้วว่า หะดิษ อธิบายอัลกุรอ่าน แต่พวกคุณ ไม่เคยนำหะดิษหรือคำพูดของท่านนบี หรือ เคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน เมาเป็นหลักฐานในการอ้างอิงเลย เอาอุลามาอคนนั้น คนนี้มาอ้างจนมั่วไปหมด และไม่มีทีท่าว่าจะจบ เพราะยังมีอุลามาอที่อยู่ในกรุอีกมาก ที่พวกคุณจะขุดขึ้นมาอ้างอีกมาก เวียนไปมาก็อยู่ที่คำว่า อิสติวาอ ถ้าจะให้จบได้ข้อสรุปก็กลับไปหากติกาของอัลลอฮ ตามที่ผมเคยบอกไว้หลายครั้ง พวกคุณคิดหรือว่า พวกคุณจะเอาความสกปรกที่เกิดจากอุลามาอปัญญานิ่มบางคน มาล้าง ความหมายที่แท้จริงในอัลกุรอ่านและหะดิษได้
คุณมุหัมหมัดอ้างว่า
(ที่อัลเลาะฮ์และร่อซูลไม่ได้กล่าวว่าพระองค์ทรงมีทิศ) เราจึงยึดและเชื่อว่า "อัลเลาะฮ์ไม่ทรงมีทิศไง" เพราะอัลเลาะฮ์ไม่ได้บอก ไม่ได้พรรณาก็กับพระองค์เองไว้ว่า "อัลเลาะฮ์ทรงมีทิศ" ใหนล่ะครับ ที่วะฮาบีย์ทั้งหลายอ้างกันเหลือเกินว่า "เราจะเชื่อคุณลัษณะของอัลเลาะฮ์ที่พระองค์ทรงพรรณาไว้ให้กับพระองค์เองเท่านั้น " แต่วันนี้ วะฮาบีย์กลับไปพรรณาว่า อัลเลาะฮ์ "มีทิศ" ซึ่งการมีทิศนี้ มันเป็นความเข้าใจจากวะฮาบีย์ แต่ไม่ได้เป็นคำพูดของอัลเลาะฮ์โดยตรงชัดๆที่พระองค์ทรงพรรณนาไว้
.................................................
ตอบ
(أَأَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ أَنْ يَخْسِفَ بِكُمُ الْأَرْضَ فَإِذَا هِيَ تَمُورُ) (الملك:16)
แล้วคำว่า "السماء " มันอยู่เบื้องบน หรือ เบื้องล่าง ล่ะครับ ท่านปํญญานิ่ม
แล้วคำว่า "من في السماء คำว่า من คือ ใครละครับ ท่านหัวหมอ
แล้วคำว่า "ทิศ" หรือ جهة ช่วยบอกนิยามมาหน่อยดิ คนเก่งแห่งสำนักบดอ.
ทิศ แปลว่า ด้าน , ข้าง , ทาง , แถบ แล้วเมื่อแปลว่า แล้วคำว่า "ทิศเบื้องบน" คำนี้ใช้ได้ไหมครับ ท่าน
.............................
ผมชักเอียนเต็มตนแล้วครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 02, 2006 9:54 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณมุหัมหมัด และสหายครับ
ผมอยากจะถามว่า มันมีความจำเป็นอะไรหรือครับ ที่อัลลอฮ(ซ.บ)ทรงพรรณาคุณลักษณะของพระองค์ ในสิ่งที่นำความสับสนให้แก่มวลมนุษย์ โดยใช้คำที่ไม่ใช่ความหมายที่แท้จริง แต่..มอบภาระให้พวกอัล-อัชอะรีตีความ เพราะกลัวคนจะเข้าใจผิด และอยากจะถามว่า หน้าที่รอซูลของพระองค์คืออะไร และทำไมรอซูล (ศอลฯ)ก็พรรณาคุณลักษณะของอัลลอฮ ในถ้อยคำที่ไม่ใช่ความหมายจริง จนคนรุ่นหลังสับสน แล้วมอบภาระให้พวกอัล-อัชอะรี มาตีความ พวกคุณ มีสิทธิพิเศษอะไร ที่ไปบังอาจตีความโดยเปลี่ยนความหมายเดิมไปเป็นความหมายอย่างอื่นตามความคิดเห็นของตน ในสิ่งที่ท่านนบี ศอลฯเองก็ไม่ได้ตีความ
فَأَمَّا الَّذِينَ فِي قُلُوبِهِمْ زَيْغٌ فَيَتَّبِعُونَ مَا تَشَابَهَ مِنْهُ ابْتِغَاءَ الْفِتْنَةِ وَابْتِغَاءَ تَأْوِيلِهِ
ส่วนบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีความเอนเอียงออกจากความจริงนั้น เขาาจะติดตามโองการที่มีข้อความเป็นนัยจากคัมภีร์ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาความวุ่นวาย (เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายในหมู่ศรัทธาด้วยการตีความโองการที่เป็นนัยให้เฉออกไปจากความเป็นจริงที่พวกเขาเคยได้รับมาก่อน) และเพื่อการแสวงหาการตีความในโองการเท่านั้น
..................
พวกคุณสร้างฟิตนะฮ มากกว่า สร้างความเข้าใจในศาสนา เพราะอัลลอฮ ก็ตรัสไว้แล้วว่า " ไม่มีสิ่งใดมาเสมอเหมือนอัลลอฮ" แต่ พวกคุณกล่าวหาว่า คนที่เขาเชื่อตามความหมายเดิมที่ปรากฏในอัลกุรอ่านและหะดิษ นั้น เป็นพวกที่มีความเชื่อผิดๆในอะกีดะฮ ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้ออ้างในการตีความ และเป็นการลบหลู่ท่านนบี ศอลฯ ว่า ไม่มีวิสัยทัศน์ เพราะพวกคุณอ้างว่า "ถ้าไม่ทีความคนก็จะเข้าใจผิด ว่าอัลลอฮเหมือนมัคลูค แล้วท่านนบี ศอลฯ ไม่รู้หรือครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากปล่อยไว้โดยไม่ตีความ พอเถอะครับ .. หลักฐานทั้งหมดจากความคิดเห็นที่พวกคุณขุดมาจากกรุ มันไร้สาระสิ้นดี หวังว่า คงเข้าใจ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Konyakroo มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006 ตอบ: 244
|
ตอบ: Thu Feb 02, 2006 10:28 am ชื่อกระทู้: การแบ่ง |
|
|
บังฮะซัน
บังกล่าวว่าคุณ konyakroo กล่าวว่า
และพอมีนักศึกษาจากอียิปต์มาแก้คำหักล้างได้อย่างขาวสะอาด
บังครับผมไม่ได้กล่าวว่าคุณมูฮำมัดและคุณอัชอารีเป็นผู้มีความสามารถที่จะทำให้ศาสนาอิสลามขาวสะอาด อย่างไงก็มัวหมอง วันยังค่ำและครับ ถ้ามีคนมีความคิดแบบบัง...
เหมือนที่บังเข้าใจ โปรดกลับไปอ่านเนื้อหาใหม่ครับ.
ใจเย็นๆครับอย่าเพิ่งอารมณ์เสีย เพราะเรากำลังถกอยู่ในเรื่องอากีดะห์ของบังและสหายที่ยึดถือกันอยู่และเราก็ชี้แจงที่บังฯกล่าวว่าอากีดะอาชาอีเราะ ของมัสหับชาฟีอีนั้นว่าเป็นบิดอะ และผิดพลาด อย่าลืมคำพูดเก่าๆซิครับผมนั้นจำได้เสมอเรื่องอดีตนะ
บังว่าเมื่อเห็นถ้อยคำข้างต้น รู้สึกทุเรศ สิ้นดี [I]คุณและนักศึกษาจากดินแดน[/Iฟา]รห์ศัตรูหมายเลขหนึ่งของอัลลอฮ อัลลอฮูอักบัร ***ขอให้สิ่งนี้กลับไปสู่ผู้ที่กล่าวด้วยเถิด****
บังครับ ซอบัซร์บ้างอย่าเอานัฟซูตัวเองมาตัดสินซีครับ บางครั้งการชี้แจงและเสนอความจริงในทัศนะของเราอาจจะไม่ทำให้บังและสหาย บังไม่พอใจบ้างแต่ถ้าเราไม่หักล้างคำใส้ร้าย คนอื่นๆคนเอาวาม เขาก็จะได้ข้อมูลและทำให้เข้าใจแบบผิดๆนะบัง ดังนั้นมันจำเป็นอย่างยิ่งยวดครับที่จำต้องใช้สื่อของเน็ทของเว็ป มรดกฯเป็นที่ชี้แจงความจริงครับ
แม้นว่า บังว่าการชี้แจงของเรามันไม่ได้ทำให้ศาสนาสะอาดหรอกครับ
แต่ มันป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งที่นักศึกษาฯที่เรียนรู้ตำรับตำราอุลามะของอัลลออ์แล้วนำมาถ่ายทอดให้บังและคนอื่นๆได้เข้าใจ ไม่ว่าแนวทางใดของของมัสหับทั้ง4 ที่พวกคุณชอบใส่ไล้และบิดเบือนซึ่งโจมตีจากหนังสือที่นำมาแปล ดดยเอาความคิดเหก็นของฝ่ายตนมาอ้างในความชอบธรรม
หลายสือๆที่ผมติดตาม ไมว่า วิทยุ เทป ซีดี วีซีดี วีดีโอ นสพ. การบรรยาย ฯลฯและการ _PR
ของพวกคุณนีแหละมาทำให้ศาสนามัวหมอง และแปะเปื้อนไปด้วย การไม่ยอมรับการมุตะญิดของอุลามะในอดีต ซ้ำยึดตามอารมณ์ ตัวเอง ในการนำเสนอความเข้าใจของตนมาเผยแพร่ ทั้งที่อัลลอฮ์นั้นสูงส่งยิ่ง นัก แต่ก็ไม่วายที่พวกคุณและสหายพยายามดึงพระองค์ให้ลงมาอยู่เบื้องต่ำ ด้วยการบิดเบือนตัวบท และพยายามสร้างมัคโลก(อารัชหรือบัลลังก์)เพื่อเป็นรองรับก้นของพระองค์และเพื่อให้พระองค์ได้พึงพาสิ่งเหล่านั้น มาสนับสนุนว่าพระองค์ทรงสถิตย์หรือทรงนั่งบนบัลลังก์ โดยที่เพิ่มชิริก มานะวียะและบิดอะฮที่พวกคุณอุตริขึ้นมา
และเมื่อเราไม่ยอมรับการตีความของบังและสหายว่า พระองค์นั้นไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้
บังและสหายก็หาว่าเรา เป็นพวดบดอ โง่
มันยุติธรรมหรือ ที่คุณเล่นสาดโคลนเหม็นให้ฝ่ายเราก่อนและพอเราตอบโต้ คุณก็หาอ้างมาว่าผมเบื่อหน่าย เต็มตนแล้ว ผมพูดแต่ต้น แล้วว่า หะดิษ อธิบายอัลกุรอ่าน แต่พวกคุณ ไม่เคยนำหะดิษหรือคำพูดของท่านนบี หรือ เคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน เมาเป็นหลักฐานในการอ้างอิงเลย
ผมถามกลับบังบ้าง อุลามะนี้เขาไม่ยกมาตัวบทมาจากอัลกรุอานหรืออัลฮาดีสมาอ้างอิงหรือครับบัง หรือบังไม่ยึดตามอุลามะ แต่ผมเห็นคุณฟาอิสเขาออกมาปกป้องอุลามะนะ เอมันยังไง คักๆๆๆๆ
หรือก่อนหน้านั้นว่าบังฮะซันไม่เอาอุลามะเช่น อัลบนี อะศูมีย์ ฯลฯของบังมาอ้างเลยหรือกระไรที่บังว่า เอาอุลามา[/U]คนนั้น คนนี้มาอ้างจนมั่วไปหมด และไม่มีทีท่าว่าจะจบ เพราะยังมีอุลามาอที่อยู่ในกรุอีกมาก ที่พวกคุณจะขุดขึ้นมาอ้างอีกมาก เวียนไปมาก็อยู่ที่
คำว่า อิสติวาอ ถ้าจะให้จบได้ข้อสรุปก็กลับไปหากติกาของอัลลอฮ ตามที่ผมเคยบอกไว้หลายครั้ง
แล้วที่พูดมานี้ ไม่ได้มาจากการตีความกีตาบุลลออ์หรอกหรือ ที่บังว่า หลังจากนั้นอัลลออ์ทรงนั่งหรือสถิตย์บนอารัชหรือบัลลลังก์
เรากำลังให้ความหมายตรงนี้ไม่ใช่เหรอ พี่บ่าวอย่ามั่วนิ่มซิ
คำว่า อิสติวาอ นี้เเป็นศัพท์ทางภาษา มันจึงถูกนำมาใช้ในการให้ความหมายในเรื่องที่เรากำลังถกกันอยู่ ไมใช่หรือครับ บัง คักๆๆๆๆ
บังนี้ยิ่งเลอะเลือนไปกันใหญ่แล้วแถมขี้อารมร์เสียด้วย ไม่เอาน่า ยังมีเรื่องชี้แจงอีกเยอะ คุณผู้อ่านกำลังจะถึงจุดไคลแมกซ์แล้วนะครับบัง อย่าเพิ่งหนีละ ฮิๆๆๆๆ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
adeel มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 172
|
ตอบ: Thu Feb 02, 2006 1:40 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เมื่อไหร่จะเลิกตีความอัลกุรอานด้วยปัญญาซะที
โดยเฉพาะเรื่องอัลอลฮฺ
อะเล่มภาษานักหรือนักเรียนไคโรเอ้ย
แค่คำว่า บนฟ้า กับ ในฟ้า ก็ยังไม่เข้าใจ
กลับมากินแกลบที่เมืองไทยดีกว่ามั้ง
บนฟ้า หรือในฟ้า มันก็คือด้านบน หรือ ทิศบน
เวลามองฟ้า เขาแหงนหน้าดู หรือ ก้มหน้าดูละ
เฮ้อ เอือมระอาเต็มทน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 02, 2006 2:49 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อความของน้อง konyakroo
ผมถามกลับบังบ้าง อุลามะนี้เขาไม่ยกมาตัวบทมาจากอัลกรุอานหรืออัลฮาดีสมาอ้างอิงหรือครับบัง หรือบังไม่ยึดตามอุลามะ แต่ผมเห็นคุณฟาอิสเขาออกมาปกป้องอุลามะนะ เอมันยังไง คักๆๆๆๆ
........................
ตอบ
การตามอุลามาอ ไม่ได้หมายถึงการตามแบบตามอัลลอฮและท่านรอซูล แต่เราตามในสิ่งที่มีหลักฐานอ้างอิง ไม่ใช่ความเห็นเพียวๆ การตีความโดยไม่มีหลักฐานจากท่านนบี ศอลฯ ก็จะทำให้เจตนารมณ์ของอายะฮ เปลี่ยนไปได้ เพราะผู้ที่เข้าใจอัลกุรอ่านดีที่สุดคือ ท่านนบี ศอลฯ
การอุปมาอุปมัยในอัลกุรอ่านและหะดิษนั้น มีจริง แต่ไม่ได้หมายถึงการที่คุณจะต้องเปลี่ยนความหมายของคำต่างๆที่อัลกุรอ่านระบุไว้ไปเป็นอย่างอื่น
เช่น สมมุติว่า มีคนกล่าวว่า "คุณ คือลูกไก่อยู่ในกำมือของผม" อันนี้ คือ การอุปมา แต่อยากจะถามว่า คำว่า"ลูกไก่" และ คำว่า"มือ" มันมีของจริงไหม คุณจะไปเปลี่ยนความหมายคำว่า "ลูกไก่ ไปเป็นอย่างอื่น แล้วปฏิเสธว่า ลูกไก่ ไม่มีจริงในโลกนี้ อย่างนั้นหรือ แบบนี้ ปัญญาอ่อนไหม
..........................................
ผมเบื่อหน่ายกับ อ้างความเห็นอุลามาอ จนไม่รู้จักจบ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับหะดิษ และผมได้ใช้อารมณ์โดยปราศจากสติ แต่.. ผมเกลียดมากๆ ที่เอาความเห็นเป็นศาสนา จนทุกวันนี้ ชาวบ้านบางคนเกือบจะไม่รู้เลยว่า แก่นแท้ของศาสนา คือ อะไร ได้แต่อ้าง เขาว่า...เขาว่าไว้...เสียงเขาว่า แล้วก็ทำบิดอะฮ โดยเข้าใจว่าสุนนะฮ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 02, 2006 2:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แก้ไข
ผมเบื่อหน่ายกับ อ้างความเห็นอุลามาอ จนไม่รู้จักจบ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับหะดิษ และผมไม่ได้ใช้อารมณ์โดยปราศจากสติ แต่.. ผมเกลียดมากๆ ที่เอาความเห็นเป็นศาสนา จนทุกวันนี้ ชาวบ้านบางคนเกือบจะไม่รู้เลยว่า แก่นแท้ของศาสนา คือ อะไร ได้แต่อ้าง เขาว่า...เขาว่าไว้...เสียงเขาว่า แล้วก็ทำบิดอะฮ โดยเข้าใจว่าสุนนะฮ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Thu Feb 02, 2006 7:55 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณอะสันกล่าวว่า
ผมเบื่อหน่าย เต็มตนแล้ว ผมพูดแต่ต้น แล้วว่า หะดิษ อธิบายอัลกุรอ่าน แต่พวกคุณ ไม่เคยนำหะดิษหรือคำพูดของท่านนบี หรือ เคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน เมาเป็นหลักฐานในการอ้างอิงเลย เอาอุลามาอคนนั้น คนนี้มาอ้างจนมั่วไปหมด และไม่มีทีท่าว่าจะจบ
ผมขอกล่าวว่า
คุณอะสันอย่าตบตาคนอื่นดีกว่า อัลกุรอาน หะดิษ คำกล่าวของท่านอลี(ร.ฏ.) การตีความของท่านอิบนุอับบาส คำกล่าวของท่านอิมาม อัชชาฟิอีย์ อิมาม อบูหะนีฟะฮ์ น้องอัล-อัซฮะรีย์ เขาก็อ้างมาแล้วทั้งนั้น และความจริงมันจบอยู่ในตัวอย่างอยู่ แต่ที่ยังคุยต่อไปเรื่อยๆแล้วคุณอะสันบอกว่า พูดยังไงก็ไม่จบนั้น มันเป็นคำพูดของคนไม่มีทางสู้ คุณยกอายะฮ์และยกหะดิษใหนมา ยกคำกล่าวของซอฮาบะฮ์เท่าใด เราก็ชี้แจงให้ได้ทั้งหมด แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ ตรงที่หลักฐานต่างๆ ที่เรานำเสนอมานั้น พวกคุณวิจารณ์มันไม่ได้ ปล่อยให้อยู่อย่างนั้น ซึ่งแบบนี้มันก็จบอยู่ในตัวแล้ว แต่ความดันทุรังไงครับ ที่มันทำให้ดูเหมือนว่าไม่จบ
ก็จะไม่จบอย่างไงล่ะครับ ในเรื่องน้องอัล-อัซฮะรีย์ได้สนทนาครอบคลุมแล้ว คุณอะสันก็สนทนาแบบวนไปก็เวียนมา หาทางออกไม่ได้อยู่อย่างนั้น และอีกปัญหาหนึ่งก็คือ คุณอะสันไม่ยอมอ่าน สิ่งที่น้องอัล-อัซฮะรีย์นำเสนอไปอย่าง่เข้าใจ จึงทำให้คำสนทนาของคุณอะสันเวียนเทียนอยู่อย่างนี้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Feb 03, 2006 2:20 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อความของมุหัมหมัด
คุณอะสันอย่าตบตาคนอื่นดีกว่า อัลกุรอาน หะดิษ คำกล่าวของท่านอลี(ร.ฏ.) การตีความของท่านอิบนุอับบาส คำกล่าวของท่านอิมาม อัชชาฟิอีย์ อิมาม อบูหะนีฟะฮ์ น้องอัล-อัซฮะรีย์ เขาก็อ้างมาแล้วทั้งนั้น และความจริงมันจบอยู่ในตัวอย่างอยู่ แต่ที่ยังคุยต่อไปเรื่อยๆแล้วคุณอะสันบอกว่า พูดยังไงก็ไม่จบนั้น มันเป็นคำพูดของคนไม่มีทางสู้
........................................
ตอบ
โอะโอ๋.....พูดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า ใคร..หรือบอกว่าคุณและสหายชนะ ใครตัดสินให้คุณ ชัยฏอนหรือ มันทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นหรือครับท่าน
عَنْ عَبْدِ اللهِ بْنِ عُمَرَ رَضِىَ اللهُ عَنْهُمَا قَالَ : قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : اِتَّقُوْا دَعْوَةَ الْمَظْلُوْمِ فَاِنَّهَا تَصْعَدُ اِلَى اللهِ كَاَنَّهَا شِرَارَةٌ . وَفِى لَفْظٍ اِلَى السَّمَآءِ.
คุณมุหัมหมัด คำว่า
فَاِنَّهَا تَصْعَدُ اِلَى اللهِ
แท้จริงมันขึ้นไปยังอัลลฮ
แบบนี้ อยู่ทิศใหนครับ ท่าน ผู้เชี่ยวชาญด้านทิศ
หรือ
اِلَى السَّمَآءِ
(มันขึ้น)ไปยังฟากฟ้า
มันขึ้นไปทำไมครับ
...............................................
ท่านผู้เก่งกาจในการตีความ อย่าได้ทะนงตนว่าเป็นผู้ชนะนะครับ ลองมาดู พฤติกรรมของพวกที่เปลี่ยนคำพูดของอัลลอฮนะครับ
وَإِذْ قِيلَ لَهُمُ اسْكُنُواْ هَـذِهِ الْقَرْيَةَ وَكُلُواْ مِنْهَا حَيْثُ شِئْتُمْ وَقُولُواْ حِطَّةٌ وَادْخُلُواْ الْبَابَ سُجَّداً نَّغْفِرْ لَكُمْ خَطِيئَاتِكُمْ سَنَزِيدُ الْمُحْسِنِينَ
[7.161] และเมื่อถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า จงอยู่ในเมืองนี้เถิด และจงบริโภคจากเมืองนั้น ณ ที่ใดก็ได้ที่พวกเจ้าประสงค์ และจงกล่าวว่า ฮิฏเฏาะฮ์และจงเข้าประตูนั้นไปในสภาพผู้โน้มศรีษะลงด้วยความนอบน้อม เราก็จะอภัยโทษให้แก่พวกเจ้าซึ่งบรรดาความผิดของพวกเจ้า และเราจะเพิ่มพูนแก่บรรดาผู้กระทำความดี
فَبَدَّلَ الَّذِينَ ظَلَمُواْ مِنْهُمْ قَوْلاً غَيْرَ الَّذِي قِيلَ لَهُمْ فَأَرْسَلْنَا عَلَيْهِمْ رِجْزاً مِّنَ السَّمَاءِ بِمَا كَانُواْ يَظْلِمُونَ
[7.162] แล้วบรรดาผู้อธรรมเหล่านั้นได้เปลี่ยนเอาคำพูดหนึ่ง***ซึ่งมิใช่คำพูดที่ถูฏกล่าวแก่พวกเขาดังนั้นเราจึงได้ส่งการลงโทษจากฟากฟ้ามายังพวกเขาเนื่องจากที่พวกเขาละเมิด
*** คือเปลี่ยนคำว่า ฮินเฎาะฮ์ กล่าวแทนคำว่า ฮิฏเฏาะฮ์โดยอ้างว่า ฮิฏเฏาะฮ์ ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร เอาฮินเฏาะฮ์ดีกว่าแปลกว่า เมล็ดข้าวสาลี
.............................
ระวังนะครับ ท่าน ผู้ชอบเปลียนความหมายหรือตีความ ตามอารมณ์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Feb 03, 2006 1:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อความของมุหัมหมัด
ดูซิครับ ไม่ทันไร คุณอะสันของเราก็เวียนเทียนหัวชนฝาเหมือนเดิม อุตาสาห์ยกหะดิษมาอ้างทัศนะของตนอีก ทั้งที่น้องอัล-อัซฮะรีย์เขาได้ชี้แจงประเด็นที่คุณอ้างไปแล้ว ลองไปทบทวนที่ภาคหนึ่งซิครับ แล้วก็นำคำที่เขาเสนอมาวิจารณ์ ไม่ใช่มายกอ้างแบบวนอยู่แบบนี้
.................
ตอบ
ตีงูครั้งเดียวไม่ตาย ต้องตีซ้ำครับ ที่น้องอัล-อัซฮารีเสนอไปแล้วนั้น ผมอ่านแล้วครับ แต่..เป็นความเห็นหักล้างหะดิษแล้วให้เฉไปเข้าปากตัวเองตามอารมณ์ และต้องการจะบอกว่า จุดยืนของผม คือ อัลกุรอ่านและหะดิษกล่าวอย่างไร ผมเชื่อตามนั้น เกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮ เมื่อพระองค์บอกอย่างไรผมเชื่ออย่างนั้น สิ่งใดปัญญาเข้าไม่ถึง ผมมอบความรู้นั้นกลับไปยังอัลลอฮ และขอยืนยันว่า ไม่ว่าพระองค์จะกล่าวด้วยถ้อยคำอย่างไร เกี่ยวกับคุณลักษณะของพระองค์ พระองค์ย่อมไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนอย่างแน่นอน
..........................
เพราะฉะนั้น ตีความไปเถอะสหายเอ๋ย ข้าไม่เล่นด้วยหรอก หากสิ่งนั้นมาจากอารมณ์และความคิดเห็นของมนุษย์ที่ไม่ใช่รอซูล |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|