ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Jan 02, 2006 12:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เรียน ท่านผู้ที่มีความประสงค์ที่จะทำลายความเชื่อถือของอิบนุตัยมียะฮทั้งหลาย ขอให้ท่านโปรดอ่านประวัติของ
ชัยคุล อิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺ
นักปฏิวัติความคิดและผู้นำการญิฮาด
อบู ชุบบาน เรียบเรียง
ชัยคุล อิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺ มีชื่อเต็มว่า ตะกียุดดีน อะหฺมัด บิน อับดุลฮะลีม เกิดที่เมืองฮัรรอน(ตอนเหนือของอิรักในปัจจุบัน) วันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1263(ประมาณ 150 ปี หลังจากการเสียชีวิตของอีหม่ามฆอซาลี) ท่านเกิดในครอบครัวของผู้รู้ พ่อของท่านชื่อว่า อับดุล ฮะลีม อาชื่อว่า ฟัครุดดีน และปู่ชื่อว่า มัจญดุดดีน ล้วนแต่เป็นอุละมาอ์คนสำคัญของมัซฮับฮัมบะลียฺ และได้เขียนหนังสือไว้จำนวนมาก
ในปี 1269 ครอบครัวของท่านถูกบังคับให้ออกจากที่อยู่อาศัย ก่อนที่กองทัพมองโกลจะเข้ามายึดครอง ทำให้ครอบครัวของท่านต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยที่ต้องอพยพไปอยู่นครดามัสกัส ตอนนั้นท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ อายุได้ 7 ขวบ
พ่อของท่านคือ อับดุล ฮะลีม ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์และเป็นหัวหน้าของมัดรอซะฮฺ ซุกกะรียะฮฺ ในดามัสกัส ในตอนนี้เองที่อิบนุ ตัยมียะฮฺได้รับการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ ไม่ว่าการท่องจำอัลกุรอานและอัลฮะดีษ การศึกษาทุกสาขาของวิชาฟิกฮฺ ตรรกวิทยาและคณิตศาสตร์ ด้วยสติปัญญาที่เฉียบแหลมและด้วยความจำทีดีเลิศ ท่านสามารถครอบครองศาสตร์ต่างๆเหล่านี้ได้อย่างลึกซึ้ง
ครูของอิบนุ ตัยมียะฮฺ มีมากกว่า 200 ท่าน ในจำนวนนี้มีครูที่มีชื่อ ซึ่งท่านได้ศึกษาอยู่หลายปี นั่นคือ ท่านซัยนุดดีน อัล มุก็อดดีซียฺ ท่านนัจญมุดดีน อะซากิร และปราชญ์ที่เป็นสตรีท่านซัยนับ บินติ มักกียฺ
ด้วยวัยเพียง 17 ปี อิบนุ ตัยมียะฮฺ จึงมีความสามารถในการฟัตวา และเปิดการเรียนการสอนวิชาการต่างๆได้แล้ว ท่านจึงถูกจัดให้เป็นอุละมาอ์ชั้นนำคนหนึ่งของนครดะมัสกัชตั้งแต่วัยหนุ่ม
แม้ว่า อิบนุ ตัยมียะฮฺ จะได้รับการฝึกฝนทางความรู้มากับมัซฮับ(สำนักฟิกฮฺ) ฮัมบะลียฺ แต่ความรู้ของท่านได้ก้าวข้ามมัซฮับที่ท่านสังกัดไปสู่มัซฮับอื่นๆ(ในกลุ่มอะหฺลุซซุนนะฮฺ วัล ญะมาอะฮฺ) จุดเด่นที่ยากจะหาจากอุละมาอ์ท่านอื่นๆก็คือ ท่านไม่อคติกับมัซฮับฮะนาฟี ชาฟิอี และมาลิกี การฟัตวาของท่านยังอ้างอิงถึงมัซฮับอื่นๆอีกด้วย งานเขียนของท่านยังยกทรรศนะมาจากมัซฮับทั้งสี่อยู่บ่อยๆ วิธีการของท่านเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนักวิชาการในทุกวันนี้ แต่สำหรับยุคนั้นกลายเป็นเรื่องที่แปลกอยู่ไม่น้อย จนบางครั้งนำไปสู่การบิดเบือนให้ร้ายต่อท่าน
นอกจากนี้ ท่านยังเข้าไปศึกษาตำรับตำราของกลุ่มบิดเบือนต่างๆและแนวคิดที่มิใช่อิสลามอย่างมากมาย จนเป็นที่มาของความปราดเปรื่องในการเข้าถึงวิธีคิดที่หลากหลายรูปแบบของท่าน
เมื่ออายุได้ 30 ปี ท่านถูกเสนอให้เป็นผู้พิพากษาใหญ่จากทางการ แต่ท่านปฏิเสธ เนื่องจากไม่ต้องการให้การทำงานของท่านถูกจำกัดด้วยทางการ
อิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่วิกฤติของโลกมุสลิม ด้านหนึ่งศัตรูภายนอกอย่างพวกตาร์ตาร์กำลังรุกรานโลกมุสลิม อีกด้านหนึ่งกลุ่มบิดเบือนกำลังเติบโตภายในโลกมุสลิมเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ความเป็นเลิศทางวิชาการของท่านจึงไม่จำกัดอยู่ในสนามทางความคิดอีกต่อไป ท่านได้เข้าไปสู่กิจกรรมทางการเมืองและปัญหาของโลกมุสลิม ท่านไม่กำหนดตัวเองเป็นเพียงนักวิชาการ นักเขียน หรือนักพูด แต่ได้ก้าวไปสู่การเป็นนักต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและนักรบในสมรภูมิญิฮาดอีกด้วย
ในปี 1300 พวกมองโกล ภายใต้การนำของกษัตริย์ฆอซาน ได้รุกรานซีเรีย ท่ามกลางนักวิชาการที่ได้ลี้ภัยไปอยู่อิยิปต์ ท่านอิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ได้ออกไปปราศรัยเรียกร้องประชาชนสู่สมรภูมิญิฮาด โดยท่านได้ออกเดินทางปลุกเร้าไปตามเมืองต่างๆ และเมื่อถึงเวลามองโกลบุกซีเรีย ท่านได้นำนักรบเข้าปะทะกับกองทัพมองโกลอย่างกล้าหาญที่สมรภูมิชักฺฮับ และกองทัพมุสลิมก็มีชัยในสงครามครั้งนั้น สงครามครั้งนี้สามารถหยุดกองทัพมองโกลในการรุกรานโลกมุสลิมได้สำเร็จ
นอกจากนี้ อิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ยังได้เข้าร่วมกับสงครามย่อยๆกับกองทัพของพวกมัมลูก(กลุ่มผู้ปกครองมุสลิมแห่งอิยิปต์)อีกหลายครั้ง
ตลอดเวลา ท่านอิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ได้ใช้เวลาไปกับการฟื้นฟูคำสอนอิสลาม การสอนหนังสือของท่านมีทั้งโวหารที่ดึงดูดใจคน และการอ้างอิงหลักฐานที่คมชัด ท่านได้ใช้ความรู้ในการคัดค้านความหลงผิดต่างๆ จนถูกผู้ปกครองอธรรมจับคุมขังหลายครั้ง
ท่านเมาลานา ซัยยิด อบุล ฮะซัน อลี อัน นัดวียฺ ได้เขียนถึงอิบนุ ตัยมียะฮฺ ในแง่มุมต่างๆไว้ในหนังสือเล่มใหญ่ของท่านชื่อว่า อัล ฮาฟิซ อะหฺมัด อิบนุ ตัยมียะฮฺ โดยท่านได้กล่าวถึงหลักการในการฟื้นฟูอิสลามของอิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ไว้ว่ามี 4 ประการ สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.การฟื้นฟูแก่นแท้ของคำสอนอิสลาม ได้แก่ การฟื้นฟูเตาฮีด และขจัดแนวคิดชิรกฺ
2.การวิพากษ์แนวคิดที่ครอบงำโลกมุสลิม ได้แก่ การวิพากษ์ตรรกวิทยาและปรัชญาของกรีก พร้อมๆกับนำเสนอวิธีการของอัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺเข้าแทนที่ทุกสนามของอิสลาม
3.การใช้วิธีการทางวิชาการชี้แจงกลุ่มที่ออกนอกกรอบคำสอนอิสลาม เป็นการตอบโต้กลุ่มบิดเบือนต่างๆ และคัดค้านแนวคิดและอิทธิพลของมัน
4.การฟื้นฟูศาสตร์ต่างๆของอิสลาม และการนำแนวคิดอิสลามกลับมาใหม่
การเป็นครูที่อุทิศตัวของท่าน ทำให้ท่านมีลูกศิษย์มากมาย ตั้งแต่ซีเรียถึงอิยิปต์ และที่ไกลออกไปจากนี้ก็มีมาก ที่สำคัญกลุ่มศิษย์ของท่านได้เข้าร่วมการสอนและพัฒนาแนวทางการฟื้นฟูของท่าน กล่าวได้ว่าจุดเด่นของท่านคือการที่มีศิษย์ที่มีความสามารถมากมายร่วมงานด้วย คนที่สำคัญคนแรกคือ ท่านอิบนุ กอยยิม อัล เญาซียะฮฺ(ตายปี 1350) นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ นักปฏิรูปแนวทางซูฟีให้อยู่ในแนวทางสลัฟ ซึ่งถือว่าเป็นศิษย์ที่สะท้อนแนวคิดของอาจารย์ได้มากที่สุด
ศิษย์ที่โดดเด่นคนอื่นๆ เช่น ท่าน อิบนุ อับดุล ฮาดียฺ(ตาย1343) เสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 40 ปี มีความรอบรู้มาก และได้ทิ้งงานเขียนที่มีค่าไว้ชุดหนึ่ง, ท่านอิบนุ กะษีร(ตาย 1373)เป็นศิษย์ที่มีชื่อเสียงอีกท่านหนึ่ง เป็นนักประวัติศาสตร์(งานที่โด่งดังด้านนี้คือ อัล บิดายะฮฺ วัล นิฮายะฮฺ)และเป็นนักตัฟซีร(ตัฟซีร อิบนุ กะษีร อันโด่งดัง) ท่านผู้นี้สังกัดมัซฮับชาฟิอียฺ(โดยไม่อคติกับมัซฮับอื่นเช่นครูของท่าน), ท่านฮาฟิซ อัซ ซะฮาบียฺ(ตาย 1348) โดดเด่นทางด้านฮะดีษ โดยได้แต่งหนังสือไว้หลายเล่มในสาขานี้, ท่านมุฮัมมัด บิน มุฟลิหฺ(ตาย 1362) นักเขียนหนังสือหลายเล่ม, ท่านอบู ฮัฟซฺ อัล บัซซาร(ตาย 1349) เป็นผู้เขียนประวัติอิบนุตัยมียะฮฺ, ท่านอิบนุ อัล วัรดี(ตาย 1348) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมและไวยากรณ์อาหรับ, ท่านกอฎียฺ อิบนุ ฟัฎลุลลอฮฺ(ตาย 1349)นักเขียนผู้โด่งดัง เป็นต้น
ท่านอิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ไม่เพียงผลิตศิษย์ที่ได้สร้างสรรค์งานวิชาการอย่างมากมาย ตัวท่านเองได้เขียนหนังสือไว้เป็นจำนวนมากกว่า 500 เล่ม แต่ว่าส่วนใหญ่จะสูญหายไป คงเหลือ 64 เล่ม งานฟัตวา 37 เล่มใหญ่ของท่านเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ถูกรวบรวมไว้ในชื่อ มัจญมูอฺ ฟะตาวา ซึ่งเป็นงานที่เป็นเหมือนคลังความรู้ให้แก่นักวิชาการรุ่นหลัง
ท่านซัยยิด อบุล อะอฺลา อัล เมาดูดียฺ ได้กล่าวไว้ ในหนังสือ A Short History of the Revivalist Movement in Islam ถึงความสามารถในการเป็นนักฟื้นฟูที่โดดเด่นของอิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ไว้ด้วยผลงาน 4 ประการ ซึ่งมีทั้งสนามทางความคิดและสนามการต่อสู้ พอที่จะสรุปได้ดังต่อไปนี้
1.ความสามารถในการวิพากษ์ตรรกวิทยาและปรัชญาของกรีกที่ครอบงำวิชาการด้านอะกีดะฮฺอิสลาม แม้ว่าอีหม่ามฆอซาลียฺจะทำไว้ก่อนหน้านี้ แต่อิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ ทำได้จริงจังและหนักแน่นกว่า และส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง
2.การนำเสนออะกีดะฮฺอิสลามและกฎเกณฑ์อิสลาม พร้อมข้อโต้แย้งที่หนักแน่นและสมเหตุสมผล โดยสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของอิสลาม ด้วยการนำเสนอจากอัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺที่บริสุทธิ์โดยตรง
3.ความสามารถในการ อิจญติฮาด(การวินิจฉัยตัวบทเข้ากับความเป็นจริง) พร้อมๆกับการเข้าถึงสำนักนิติศาสตร์ที่หลากหลาย และยังแสดงให้เห็นถึงวิธีใช้อิจญติฮาดอย่างแม่นยำ
4.การลงไปสู่สนามแห่งการปฏิบัติ ด้วยการคัดค้านชิรกฺและประเพณีที่หลงผิดต่างๆ ความกล้าหาญของท่านในเรื่องนี้ทำให้ท่านต้องถูกจำคุกหลายครั้ง นอกจากนี้ ท่านยังได้ประกาศญิฮาดกับพวกตาร์ตาร์ที่รุกรานโลกมุสลิม โดยท่านได้เป็นผู้นำคนหนึ่งในการต่อสู้อย่างกล้าหาญ
ท่านอิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ เสียชีวิตในป้อมปราการอันเป็นที่คุมขังท่านในเมืองดามัสกัส เมื่อวันที่ 26 กันยายน 1328 หลังจากถูกจับขังกว่าสองปีสามเดือน อันเป็นการจับกุมครั้งสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านถูกจับมาแล้วหลายครั้งจากผู้ปกครองมุสลิมที่อธรรม ซึ่งรวมเวลาอยู่ในคุกแล้วมากกว่าห้าปี
วันที่ท่านเสียชีวิต ผู้คนจำนวนมาก ทั้งผู้เห็นด้วยกับท่านและผู้ไม่เห็นด้วยกับท่าน ได้ร่วมในพิธีศพของท่านอย่างล้นหลาม
เป็นที่ยอมรับกันว่า อิหม่ามอิบนุ ตัยมียะฮฺ มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งกับนักฟื้นฟูอิสลามรุ่นหลัง ทั้งในคาบสมุทรอาหรับ แอฟริกาเหนือ จนถึงอินเดีย ตลอดจนถึงขบวนการเคลื่อนไหวเพื่ออิสลามจำนวนมากในทุกวันนี้
http://www.muslimthai.com/network.php?url=http://www.fityah.com
...................................
และขอฝากอีกหนึ่งโองการแห่งอัลกุรอ่าน พระองค์ทรงตรัสในซูเราะฮฺอัลอะฮฺซาบ อายะฮฺที่ 57 ว่า
{ وَالَّذِينَ يُؤْذُونَ الْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ بِغَيْرِ مَا اكْتَسَبُواْ فَقَدِ احْتَمَلُواْ بُهْتَاناً وَإِثْماً مُّبِيناً }
แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ให้ร้ายต่อศรัทธาชนทั้งชายและหญิง ด้วยสิ่งที่พวกเขาไม่ได้กระทำนั้น พวกเขาได้แบกรับเรื่องโกหกอันชั่วช้า และบาปอันชัดแจ้งเอาไว้แล้วอย่างแน่นอน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Mon Jan 02, 2006 1:47 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สำหรับ ท่านชัยค์ อิบนุตัยมียะฮ์ (ร่อฮิมะหุลเลาะฮ์) นั้น ตามทัศนะของเราแล้ว ท่านเป็นอุลามาอ์ของอัลอิสลามท่านหนึ่ง ซึ่งในส่วนลึกแล้ว เรา نحسن الظن به คิดในแง่ที่ดีกับตัวท่าน
แต่ปัจจุบันวะฮาบีย์ใช้แนวคิดของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ มาโจมตีแนวทางอื่น เช่น อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ อัลอะชาอิเราะฮ์ โดยวะฮาบีย์คิด (แต่บางคนอาจจะไม่พูด) ว่า แนวทางของพวกเขาเท่านั้นที่ถูกต้อง แนวทางอื่นไม่ได้เดินตามแนวทางของสะละฟุสศอลิห์ และทำการวิจารณ์แนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่แปลก ที่เราจะนำเสนอทัศนะ แนวคิดของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ที่วะฮาบีย์พยายามไม่กล่าวถึง เพื่อที่จะให้วะฮาบีย์ทราบและรู้สึกบ้างว่า การที่ตนเองถูกวิจารณ์บ้างนั้น มันจะรู้สึกอย่างไร? การไปหุกุ่มแนวทางอื่น โดยที่ตนเองถูกวิจารณ์บ้างนั้น มันเป็นอย่างไร? การที่อุลามาอ์ที่ตนนับถือนั้น ถูกกล่าวว่า เขามีบางหลักการอากิดะฮ์ที่ชิริกนั้น มันเป็นอย่างไร?
และการยกอ้างอิงคำพูดต่างๆของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น ย่อมเป็นการกล่าวให้ร้ายและกล่าวหาท่านอิบนุตัยมียะฮ์ เนื่องจากสิ่งที่ต่างที่ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ได้ประพันธ์ไว้นั้น ท่านก็ไม่ได้ใช้ให้เราทำการปกปิดซ่อนเร้น แต่หากเรายกเมฆโกหกใส่ท่าน โดยที่ท่านไม่ได้เคยพูดหรือกล่าวให้ทัศนะไว้นั้น อันนี้เราขอห่างไกล
และสิ่งที่บังอะสันก๊อบนำมาเสนอเกี่ยวกับประวัติท่านอิบนุตัยมียะฮ์ จากเวปฟิตยะฮ์นั้น ไม่มีหนังสืออ้างอิง ไม่ได้อยู่ในเชิงวิชาการ
โปรดรอผมนำเสนอไปเชิงวิชาการน่ะครับ อินชาอัลเลาะฮ์ _________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Mon Jan 02, 2006 1:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แก้คำผิด
สำหรับ ท่านชัยค์ อิบนุตัยมียะฮ์ (ร่อฮิมะหุลเลาะฮ์) นั้น ตามทัศนะของเราแล้ว ท่านเป็นอุลามาอ์ของอัลอิสลามท่านหนึ่ง ซึ่งในส่วนลึกแล้ว เรา نحسن الظن به คิดในแง่ที่ดีกับตัวท่าน
แต่ปัจจุบันวะฮาบีย์ใช้แนวคิดของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ มาโจมตีแนวทางอื่น เช่น อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ อัลอะชาอิเราะฮ์ โดยวะฮาบีย์คิด (แต่บางคนอาจจะไม่พูด) ว่า แนวทางของพวกเขาเท่านั้นที่ถูกต้อง แนวทางอื่นไม่ได้เดินตามแนวทางของสะละฟุสศอลิห์ และทำการวิจารณ์แนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่แปลก ที่เราจะนำเสนอทัศนะ แนวคิดของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ที่วะฮาบีย์พยายามไม่กล่าวถึง เพื่อที่จะให้วะฮาบีย์ทราบและรู้สึกบ้างว่า การที่ตนเองถูกวิจารณ์บ้างนั้น มันจะรู้สึกอย่างไร? การไปหุกุ่มแนวทางอื่น โดยที่ตนเองถูกวิจารณ์บ้างนั้น มันเป็นอย่างไร? การที่อุลามาอ์ที่ตนนับถือนั้น ถูกกล่าวว่า เขามีบางหลักการอากิดะฮ์ที่ชิริกนั้น มันเป็นอย่างไร?
และการยกอ้างอิงคำพูดต่างๆของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น ย่อมไม่เป็นการกล่าวให้ร้ายและกล่าวหาท่านอิบนุตัยมียะฮ์ เนื่องจากสิ่งที่ต่างที่ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ได้ประพันธ์ไว้นั้น ท่านก็ไม่ได้ใช้ให้เราทำการปกปิดซ่อนเร้น แต่หากเรายกเมฆโกหกใส่ท่าน โดยที่ท่านไม่ได้เคยพูดหรือกล่าวให้ทัศนะไว้นั้น อันนี้เราขอห่างไกล
และสิ่งที่บังอะสันก๊อบนำมาเสนอเกี่ยวกับประวัติท่านอิบนุตัยมียะฮ์ จากเวปฟิตยะฮ์นั้น ไม่มีหนังสืออ้างอิง ไม่ได้อยู่ในเชิงวิชาการ
โปรดรอผมนำเสนอไปเชิงวิชาการน่ะครับ อินชาอัลเลาะฮ์ _________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Jan 02, 2006 2:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
น้องอัลอัซฮารีกล่าวว่า
และสิ่งที่บังอะสันก๊อบนำมาเสนอเกี่ยวกับประวัติท่านอิบนุตัยมียะฮ์ จากเวปฟิตยะฮ์นั้น ไม่มีหนังสืออ้างอิง ไม่ได้อยู่ในเชิงวิชาการ
.................
ตอบ
แฮะๆๆ ไม่อยู่ในเชิงวิชาการอีกแล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน น้องบ่าวช่วย เอาประวัติของท่านอบูฮะซัน อัลอัชอารีย มาโพสต์ให้บังอะสันอ่านบ้าง เอาที่แบบวิชาการนั้นแหละ อย่าลืมนะครับ น้อง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
fais มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005 ตอบ: 84
|
ตอบ: Tue Jan 03, 2006 11:25 am ชื่อกระทู้: |
|
|
บังASAN ช่วยตรวจสอบ ฮะดิษนี้ด้วยครับ รายงานโดยอบูดาวูด"วัลอัรซี เฟาว์กอลมะอ์ วัลเลาะห์ เฟาวกอลอัรซี วาฮูวายะลามู มาอันตุม อาลัยฮี"
ถ้าฮะดิษนี้ซิเฮียะ คำว่า เฟาวก ยังมีคำแปลเป็นอย่างอื่นนอกจาก บน อีกมั้ย
ถ้าหากอัลกุรอ่านและฮะดิษได้กล่าวคำว่า บน ล่าง นัง ยืน นอน ขา มือ หรืออะไรก็ตามที่เกิ่ยวกับ ซีฟัตของอัลเลาะห์ ซ.บ ก็จงรับไว้ แต่อะไรแว๊บ ๆ เข้ามาในจินตนาการของคุณนั้นมันคือไม่ใช่
เพราะพระองค์ ลัยสา กามิสลีฮี ซัยอน และหากว่าในอัลกุรอ่านและฮาดิษได้กล่าวคำว่า ขึ้น ลง หรืออะไรก็ตามที่เป็นการเลื่อนย้ายของมัคลุค แต่อะไรแว๊บ ๆ เข้ามาในจินตนาการของคุณนั้นมันคือไม่ใช่ โดยที่ จะขึ้น จะลง โดยไม่เคลื่อนย้ายพระองค์ก็ย่อมกระทำได้ เพราะพระองค์ ลัยสา กามิสลีฮี ซัยอน
ผมได้อ่านการสนทนาของ ทุกท่านในแวบนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นการออกความคิดเห็นของอูลามะห์ เป็นส่วนใหญ่ จะตีความ กีตาบ และฮะดิษไปตามความคิดของตนเอง ทั้งหมดนี้จะเป็นฮีดายะห์ตามความประสงค์ของพระองค์ อัลเลาะห์ ซบ. ถ้าจะเอาคำกล่าวชองอูลามะห์มาอ้างอิงกัน
ผมคิดว่าคุณจะสนทนากันจนตายก็ยังไม่หมดอูลามะห์ ทั้งเก่าทั้งใหม่ เหมือนกับดวงดาวเยอะแยะเต็มไปหมด
คุณ azhary คำว่า วาฮาบีนั้น ผมขอเถอะ อย่าสร้างความแตกแยกกันเลย และในอัลกุรอ่านก็ เตือนไว้เช่นนั้น . และพวกเจ้าอย่าได้ขัดแย้งกัน แล้วพวกเจ้าจะล้มเหลว แล้วพลังของพวกเจ้าจะหมดไป และพวกเจ้าจงอดทน แท้จริงอัลลอห์อยู่กับบรรดาผู้อดทน (อัลอัมฟาล -46)ถ้าหากว่าคุณยังดื้อดึงนำเสนออีก ผมจะคิดว่า คุณคือบ่อนทำลาย ศาสนา โดยจะได้รับค่าจ้างจาก ยาฮูดี ซึ่งในประเทศอียิปต์คนพวกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย
และใน ม.อัลอัซฮัรเอง เมื่อก่อนเคยเป็นอิสระจากการปกครอง แต่เดียวนี้ คำฟัตวาต่างๆ ก็จะตามเอาใจรัฐบาลกันไปหมด
กรุงไคโรผมก็เคยใช้เป็นสถานที่เรียนรู้ แต่ไม่ใช่อัลอัซฮัร ในหอบูอุส ผมก็เคยเข้าไปนอน
สมาคมนักเรียนไทยไคโร ผมก็เคยเป็นคณะกรรมการ อย่านึกว่าผมไม่รู้จัก อัลอัซฮัร ที่คุณอ้างถึ่ง
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-azhary มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005 ตอบ: 573 ที่อยู่: อียิปต์
|
ตอบ: Tue Jan 03, 2006 2:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้างอิงจากคุณฟาอิส
กรุงไคโรผมก็เคยใช้เป็นสถานที่เรียนรู้ แต่ไม่ใช่อัลอัซฮัร ในหอบูอุส ผมก็เคยเข้าไปนอน
สมาคมนักเรียนไทยไคโร ผมก็เคยเป็นคณะกรรมการ อย่านึกว่าผมไม่รู้จัก อัลอัซฮัร ที่คุณอ้างถึ่ง
ตอบ
คุณรู้หรือป่ะว่า ผมหามานาน กับการสนทนากับเด็กไคโรด้วยกันเนี่ย เพราะมันจะเข้าใจได้ง่ายหน่อย แต่เสียดาย ที่ไม่ได้เรียนที่ อัลอัซฮัร กลัวโดน(มัฟซูล)รีทายอ่ะดิ่ หุหุหุ แต่เท่าที่ดูการสนทนาของคุณนั้น คุณไม่น่ามาเหยียบที่ไคโรเลยน่ะครับ ได้อะไรกลับไปบ้างหรือครับ? เห็นหะดิษที่รายงานโดยอบูดูวูด ยังไม่รู้เรื่องอีก จะรับอัลกุรอานและหะดิษนั้น ต้องรับให้หมดน่ะครับ ไม่ใช่เลือกจะรับตามที่ตนจะเอา
และการที่ผมจะสนทนานั้นกับใครนั้น ผมไม่ได้คำนึงเลยว่า ผู้สนทนาจะรู้จัก อัลอัซฮัรมากแค่ใหน ? แต่ยิ่งไปกว่านั้น ผมต้องการจะคุยกับ เด็กใคโรมากกว่าเสียอีก
อ้างอิงจากคุณฟาอิส
และใน ม.อัลอัซฮัรเอง เมื่อก่อนเคยเป็นอิสระจากการปกครอง แต่เดียวนี้ คำฟัตวาต่างๆ ก็จะตามเอาใจรัฐบาลกันไปหมด
ตอบ
โอ้...คำพูดนี้ โกหกแต่จริง สงสัยถูกสอนตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือเปล่า?? คำฟัตวาต่างๆนั้น อะไรบ้างหรือที่ตามรัฐบาล ลองว่ามาหน่อยซิ ? และคำพูดที่น่าเกียจและผู้ที่รู้เขาไม่พูดกันนั้น คือคำว่า "ตาม....กันไปหมด" โอ่ะๆๆ มักง่ายจัง ตอนนี้ ท่านชัยคฺ ด๊อกเตอร์ อลี ญุมอะฮ์ เป็นมุฟตีของอียิปต์ ผมอยากถามหน่อยว่า ประเด็นใหนบ้างที่ตามรัจบาล ลองยกมาหน่อยซิ เอ้าเชิญดูได้ที่เวปนี้
www.dar-alifta.org
www.dar-alifta.com
หรือเข้าไปในเวป อัล-อัซฮัรก็ได้น่ะ www.alazhr.org เข้าไปที่ موسوعة القتاوى ซึ่งมีฟัตวาต่างๆ ตั้งแต่ 100 ปี จนถึงปัจจุบัน และมีฟัตวาของมุฟตีปัจจุบันด้วย ลองหามาสักประเด็นน่ะ ที่บอกว่าฟัตวาเอาใจรัฐบาล
อ้างอิงจากคุณฟาอิส
ผมจะคิดว่า คุณคือบ่อนทำลาย ศาสนา โดยจะได้รับค่าจ้างจาก ยาฮูดี ซึ่งในประเทศอียิปต์คนพวกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย
ตอบ
หากคุณไม่พูดคำๆนี้ คุณจะดูดีกว่าน่ะครับ คุณกล่าวว่า
1- ผมเป็นคนบ่อยทำลายศาสนา
2- รับค่าจ้างจาก ยาฮูดี
3- อียิปต์มีคนยิวอยู่ไม่น้อย
สงสัยคุณคงจะแค้นเคืองผมมากซิน่ะครับเนี่ย ที่อุตสาห์พูดมุสาออกมาอย่างนี้
والله يشهد إن المنافقين لكاذبون
" และอัลเลาะฮ์ ทรงเป็นพยานว่า แท้จริง บรรดาพวกมุนาฟิก คือจอมโกหกมุสา " _________________ นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 03, 2006 9:59 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
fais
มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005
ตอบ: Tue Jan 03, 2006 2:25 pm ชื่อกระทู้:
--------------------------------------------------------------------------------
บังASAN ช่วยตรวจสอบ ฮะดิษนี้ด้วยครับ รายงานโดยอบูดาวูด"วัลอัรซี เฟาว์กอลมะอ์ วัลเลาะห์ เฟาวกอลอัรซี วาฮูวายะลามู มาอันตุม อาลัยฮี"
ถ้าฮะดิษนี้ซิเฮียะ คำว่า เฟาวก ยังมีคำแปลเป็นอย่างอื่นนอกจาก บน อีกมั้ย
ถ้าหากอัลกุรอ่านและฮะดิษได้กล่าวคำว่า บน ล่าง นัง ยืน นอน ขา มือ หรืออะไรก็ตามที่เกิ่ยวกับ ซีฟัตของอัลเลาะห์ ซ.บ ก็จงรับไว้ แต่อะไรแว๊บ ๆ เข้ามาในจินตนาการของคุณนั้นมันคือไม่ใช่
ตอบ
หะดิษนี้คือ
عن ابن مسعود قال : بين السماء الدنيا والتي تليها خمسمائة عام وبين كل سماء خمسمائة عام ، وبين السماء السابعة والكرسي خمسمائة عام ، وبين الكرسي والماء خمسمائة عام ، والعرش
فوق الماء ، والله فوق العرش لا يخفى عليه شيء من أعمالكم .
จากอิบนิมัสอูด กล่าวว่า ระหว่างชั้นฟ้าที่หนึ่ง และชั้นถัดไป นั้น ระยะทางห้าร้อยปี ,ทุกชั้นฟ้านั้นระยะทางห้าร้อยปี ,ระหว่างชั้นฟ้าที่เจ็ดและอัลกุรซีย์นั้น ระยะทาง ห้าร้อยปี ,ระหว่างอัลกุรซีย์และน้ำนั้น ระยะทางห้าร้อยปี , อะรัช(บัลลังค์)นั้นอยู่บนน้ำ และอัลลอฮ อยู่บนบัลลังค์ ไม่มีสิ่งใดจากการงานของพวกท่าน ปิดบังซ่อนเร้นต่อพระองค์ได้ - ดูที่มาของหะดิษนี้จากข้อความข้างล่าง
رواه ابن خزيمة في " التوحيد "
( ص 105 ) ، والبيهقي في " الأسماء والصفات " ( ص 401 ) .
والأثر : صححه ابن القيم في " اجتماع الجيوش الإسلامية " ( ص 100 ) ، والذهبي في " العلو " ( ص 64
الرد على الجهمية (81)، وأخرجه أيضاً ابن خزيمة في التوحيد (ص105، 106)، والطبراني في الكبير (9/228)، والبيهقي في الأسماء والصفات (ص401). قال الهيثمي في المجمع (1/86): "رواه الطبراني ورجاله رجال الصحيح".
..
เช็คอัลอุษัยมีนกล่าวว่า :
هذا الحديث موقوف على ابن مسعود ، لكنه من الأشياء التي لا مجال للرأي فيها ، فيكون لها حكم الرفع ، لأن ابن مسعود لم يُعرف بالأخذ من الإسرائيليات .
" القول المفيد شرح كتاب التوحيد " ( 3 / 379 )
หะดิษนี้ เป็นหะดิษเมากูฟ(สืบไปหยุดอยู่ที่)อิบนิมัสอูด แต่มันมีหลายสิ่งที่ไม่มีทางที่จะเป็นความเห็นในนั้น ดังนั้น สำหรับมัน(หะดิษดังกล่าว) เป็นหะดิษที่อยู่กฏเกณฑ์ของหะดิษมัรฟูอ(หะดิษที่สืบไปถึงท่านนบี ศอลฯ)เพราะว่า อิบนุมัสอูดนั้น ไม่เป็นที่รู้กันว่า ได้เอามาจากเรื่องอิสรออีลียาต(เรื่องเล่าของพวกยิว)
- ดู หนังสือ อัลเกาลุลมุฟีด ชัรหุกิตาบุตเตาฮีด เล่ม 3 หน้า 379
.....................................
ผมได้ให้รายละเอียดตามที่คุณฟาอิส ถามมาแล้ว แต่..จะให้น้องอัลอัซฮารีย์ยอมรับ นั้น คงอยาก เพราะเขาถือว่ามาจากพวกที่เขาขนานนามว่าวะฮบีย์ ซึ่งอาจารย์มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรบางคน เขาปลูกฝังลูกศิษย์เขาอย่างนี้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 03, 2006 10:20 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เพิ่มเติม
หะดิษที่คุณฟาอิสพูดถึงครับ
- وقال صلى الله عليه وسلم : والعرش فوق الماء ، والله فوق عرشه ، وهو يعلم ما أنتم عليه .
" حسن رواه أبو داود ลองเข้าไปดูนะครับ
http://www.khayma.com/kshf/H/Waustyah-B.htm |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
fais มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005 ตอบ: 84
|
ตอบ: Wed Jan 04, 2006 1:35 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผู้ที่ไปเรียนที่ประเทศอียิปต์นั้นไม่จำเป็นต้องเรียนด้านศาสนาเพืยงอย่างเดียวและประเทศอียิปต์ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเฉพาะ ม.อัลอัซฮัร เพียง ม.เดียว ศาสนาอิสลามก็ไม่ได้ห้ามให้กระทำอย่างนั้น แต่คนที่เรียนศาสนาเพื่อที่จะทำลายศาสนานั้นมันอันตรายยิ่ง ถึ่งคุณจะไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้นแต่ผลออกมาก็คือคุณกำลังสร้างความแตกแยก ซึ่งก็ขัดกับโองการของพระองค์อัลเลาะห์ ซ.บ.แทนที่คุณจะชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาและยึดเอา ศาสนา(อัลกุรอ่านและอัซซุนนะห์)คุณกลับใส่ความผู้ที่สนทนาและอูลามะห์ มุตาบารีน ว่าโกหก ทั้งๆที่ความรู้ของคุณก็ยังไม่เป็นที่รู้จักกันสักเท่าไหร
คุณจะกล่าวหาว่าผมโกหกนั้นไม่เป็นไรผมรับได้เพราะพื้นฐานความรู้ด้านศาสนาของผมก็ไม่เท่าไหร่ แค่รู้จักพระเจ้า พยายามเรียนรู้กฎเกณในศาสนาตามซุนนะห์ และกระทำอีบาดาตามซุนนะห์ ละเว้นบิดอะห์ต่างๆ พยามเรียนรูกีตาบบุลเลาะห์ฯลฯ ผมคิดว่าจะเข้าสวรรค์ได้ อินซาอัลเลาะห์
แต่ผู้ที่มีความรู้มากๆอย่างคุณ คุณคิดหรือว่ากลับมาจะช่วยคนให้พ้นจากไฟนรกได้
ส่งเสริมคนให้กระทำบิดอะห์นั้น อาจจะตกนรกก่อนคนที่ไม่รู้ก็ได้นะครับ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุหัมมัด มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005 ตอบ: 210
|
ตอบ: Wed Jan 04, 2006 8:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณฟาอิสครับ คำพูดของคุณนั้น น้องอัลอัซฮะรีย์ เขาคงเข้ามาชี้แจงน่ะครับ อินชาอัลเลาะฮ์
ส่วนหลักฐานที่คุณถามคุณอะสันนั้น ผมคิดว่าน้องอัลอัซฮะรีย์ได้ทำการอธิบายนำเสนอวิจารณ์ไปแล้วน่ะ โปรดกลับไปทบทวน
เข้ามาแล้ว อย่างถามคุณอะสันเกี่ยวกับเพราะการยึดหลักฐานในเรื่องอากิดะฮ์สักหน่อย
คุณอะสันมีจุดยืนอย่างไรในการยึดหลักฐานในเรื่องอากิดะฮ์ ที่ "มุตะวาติร " และ "อาหาดฺ" หลักฐานที่มุตะวาติร ย่อมให้ผลที่ "เด็ดขาดแน่นอน(ยะเกน)" แต่ "อาหาด" นั้น ให้ผลแค่ "คาดว่าถูก (ซ๊อนนีย์) เท่านั้น" หากเรายึดหลักฐานในเรื่องอากิดะฮ์ที่ อาหาด ซึ่งให้ผลการรู้ที่ไม่เด็ดขาดนั้น มันจะมาสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องอากิดะฮ์ได้อย่างไร ? เมื่อเป็นเช่นนี้ บรรดาหะดิษอาหาด หรือหลักฐานที่มีข้อบ่งชี้ที่คลุมเคลืออยู่นั้น จะนำมายืนยันในเรื่องอากิดะฮ์ได้หรือครับ ?? แล้วหลักฐานที่ชี้ถึงอัลเลาะฮ์อยู่เบื้องบนแบบสะละฟีย์ นั้น มันมุตะวาติร หรือครับ ?
โปรดชี้แจงหน่อยครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 04, 2006 9:58 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณมุหัมหมัดกล่าวว่า
แล้วหลักฐานที่ชี้ถึงอัลเลาะฮ์อยู่เบื้องบนแบบสะละฟีย์ นั้น มันมุตะวาติร หรือครับ ?
............................
ตอบ
ดูจากคำถามของคุณมุหัมหมัดที่ถาม ผมเพิ่งรู้ว่า คุณ ยังเป็นตาบอดคลำช้างในเรื่องอากิดะฮ อยู่เลย คุณมุหัมหมัดครับ คุณมาถามเรื่องหะดิษอาหาด หะดิษมุตะวาตีร ขนาดไม่มีหลักฐานเลย คุณก็อ้างว่า เป็นบิดอะฮที่ดี จนป่านนี้คุณยังจะมาถามหาหะดิษเศาะเหียะอยู่อีก ว่ามุตะวาตีรไหม? แล้วอายะฮข้างล่างนี้ใช้ไม่ได้เลยหรือครับ ที่จะนำมาเป็นหลักฐาน
ว่าพระองค์อัลเลาะฮ์อยู่เบื้องบน
أَأَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يَخْسِفَ بِكُمُ الأَرْضَ فَإِذَا هِيَ تَمُورُ
[67.16] พวกเจ้าจะปลอดภัยละหรือ จากการที่พระองค์ทรงสถิตย์อยู่ ณ ฟากฟ้าจะให้แผ่นดินสูบพวกเจ้าแล้วขณะนั้นมันจะหวั่นไหว
أَمْ أَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حَاصِباً فَسَتَعْلَمُونَ كَيْفَ نَذِيرِ
[67.17] หรือว่าพวกเจ้าจะปลอดภัยจากการที่พระผู้ทรงสถิตย์อยู่ ณ ฟากฟ้า จะทรงส่งลมหอบก้อนกรวดให้กระหน่ำมายัง พวกเจ้า แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าการตักเตือนของข้าเป็นเช่นใด ?
......................
คุณ มุหัมหมัดโปรดแปลความหมายตามทัศนะคุณดูซิครับผมอยากอ่าน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 04, 2006 10:47 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
لايؤمن أحدكم حتى أكون أحب إليه من والده وولده والناس أجمعين ( رواه الشيخان
คนหนึ่งจากพวกท่านจะไม่เป็นผู้มีศรัทธาที่สมบูรณ์จนกว่าฉันจะเป็นที่รักแก่เขายิ่งกว่าพ่อของเขา ลูกของเขา และคนทั้งหมด
--------------
ผมขอถามมั่ง แล้วหะดิษข้างบนเป็นหะดิษมุตะวาตีร หรือ หะดิษอาหาดล่ะครับ แล้วหะดิษนี้ ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ไหมครับ คุณมุหัมหมัด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 05, 2006 9:21 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อความของคุณมุหัมหมัด
คุณอะสันมีจุดยืนอย่างไรในการยึดหลักฐานในเรื่องอากิดะฮ์ ที่ "มุตะวาติร " และ "อาหาดฺ" หลักฐานที่มุตะวาติร ย่อมให้ผลที่ "เด็ดขาดแน่นอน(ยะเกน)" แต่ "อาหาด" นั้น ให้ผลแค่ "คาดว่าถูก (ซ๊อนนีย์) เท่านั้น" หากเรายึดหลักฐานในเรื่องอากิดะฮ์ที่ อาหาด ซึ่งให้ผลการรู้ที่ไม่เด็ดขาดนั้น มันจะมาสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องอากิดะฮ์ได้อย่างไร ? เมื่อเป็นเช่นนี้ บรรดาหะดิษอาหาด หรือหลักฐานที่มีข้อบ่งชี้ที่คลุมเคลืออยู่นั้น จะนำมายืนยันในเรื่องอากิดะฮ์ได้หรือครับ ??
...................................
ตอบ
คุณมุหัมหมัด ชอบถาม ชอบวิจารณ์ แต่ ไม่ชอบตอบ ไม่ชอบนำเสนอหลักฐาน อันที่จริงผมก็ตอบไปแล้ว แต่เมื่อคุณถามจุดยืนของผม ผมก็ตอบ เพราะผมไม่ชอบเล่นลิ้น เสแสร้ง ตอบก็คือตอบ
ก่อนอื่นขออธิบายความหมายหะดิษอาหาด(أحاد )สักเล็กน้อยเพื่อผู้อ่านจะได้เข้าใจ คือ
1. หะดีษมุะวาติรฺمتواتر คือหะดีษที่มีบุคคลจำนวนมากในทุกสมัยได้รายงานสืบทอดกันมายังต่อเนื่อง โดยไม่มีความเป็นไปได้เลยว่าบุคคลจำนวนมากเหล่านั้นจะสมคบกันกล่าวเท็จ
โดยจำนวนผู้รายงานในแต่ละช่วงนั้นนักวิชาการได้กำหนดว่าอย่างน้อยต้องมี 10 คนขึ้นไป -ดูตัยสีรมุสเฏาะละหุลหะดิษ ของ ดร.มะหมูดเฎาะหหาล หน้า 19 และ อัดตัดรีบุรรอวี เล่ม 2 หน้า 177
สถานภาพของหะดีษมุตะวาติร ถือว่าเป็นสุดยอดของความถูกต้องโดยไม่มีข้อสงสัยเคลือบแคลงใดๆ ผู้ใดที่ปฏิเสธหะดีษมุตะวาติรผู้นั้นจะตกศาสนาเป็นกาฟิรฺ
2. หะดีษอาหาด آحاد คือหะดีษที่ไม่ถึงระดับมุตะวาติร แม้จะเป็นเพียงช่วงเดียวของสายรายงาน
สถานภาพของหะดีษอาหาดนั้นมีผลเพียงคาดคะเนตามหลักเหตุผล คือยังไม่แน่นอนว่าถูกต้องหรือไม่ การที่จะนำหะดีษประเภทนี้มาอ้างต้องตรวจสอบความถูกต้องเสียก่อน จุดยืนของผม จำไว้นะครับ คือ หากหะดิษอาหาดนั้นเป็นหะดิษเศาะเหียะ หรือหะซัน ผมก็จะยึดมาเป็นหลักฐานในการอ้างอิง ในเรื่อง อากีดะฮ เรื่อง อิบาดะ และทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับศาสนา ครับ
และหลักศรัทธา กับ หลักปฏิบัติ เป็นสิ่งคู่กัน ไม่ใช่ว่า เอาเป็นเอาตายกับเรื่องอะกีดะฮ แต่...พอทำบิดอะฮถือว่าเรื่องเล็กน้อย ปลีกย่อย ทั้งสองประการมีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกัน ไม่สามารถที่จะแยกกันได้...................... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
fais มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005 ตอบ: 84
|
ตอบ: Sun Jan 15, 2006 2:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แย่จริงๆ สำหรับผู้ที่ไม่เอา หะดิษเศาะเหียะ หรือหะซัน มาพิจารณาในการกำหนดวิถีชีวิตแตกลับไปเอาความคิดตามอารมย์ของตนเองมาปฎิบัติและถือเป็นหลักและคิดว่าถูกต้อง
"ฆอยริลมัฆดุบ บีอาลัยเฮม" นี้คือคำขออยู่ 17 ครั้ง ทุกๆวันแต่กลับกระทำเหมือนๆ กับพวกเขา
ที่อันตรายที่สุดก็คือ คนที่ไม่รู้ว่าตนเองนั้นหลงทาง
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
มุสลิม มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/06/2004 ตอบ: 79
|
ตอบ: Sun Jan 15, 2006 5:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
الدين النصيحة
"อบูบักร ได้กล่าวหลังจากที่ท่านนบี ศอลฯได้เสียชีวิตว่า
من كان يعبد محمدا فإن محمدا قد مات ومن كان يعبد الله فإن الله في السماء حي لا يموت
ผู้ใดอิบาดะฮต่อมุหัมหมัด แท้จริงเขาได้เสียชีวิตแล้ว และผู้ใดอิบาดะฮต่ออัลลอฮ แท้จริงอัลลอฮอยู่ใน(อยู่บน)ฟากฟ้า ทรงเป็น ทรงไม่ตาย -รายงานโดย บุคอรี"
ألا من كان يعبد محمدا صلى الله عليه وسلم فإن محمدا قد مات ومن كان يعبد الله فإن الله حي لا يموت رواه البخاري
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|