ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
IRF มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005 ตอบ: 155
|
ตอบ: Fri Dec 16, 2005 12:09 am ชื่อกระทู้: นักวิทยาศาสตร์จนมุม |
|
|
นักวิทยาศาสตร์จนมุม
คนมีปัญญา : สิ่งมีชีวิตบนโลกเกิดมาได้อย่างไรครับ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : วิวัฒนาการมาจากสัตว์เซลล์เดียว
คนมีปัญญา : สิ่งมีชีวิตเติบโตและมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรครับ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : อาหารและอากาศ
คนมีปัญญา : อื่มแล้วสัตว์เซลล์เดียวตัวแรกเกิดมาจากไหนครับ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : ฮั่นแน่จะบอกว่าพระเจ้าสร้างมาล่ะสิ
คนมีปัญญา : ผมไม่ได้ให้คุณมาตั้งคำถามย้อน แต่ผมต้องการคำตอบ แต่เอาล่ะ ชาร์ลส์ ดาร์วินยังตอบไม่ได้ คุณเองก็คงตอบไม่ได้เช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : ทุกอย่างมันมีเหตุปัจจัยของมันน่ะคุณ เราศึกษาเพื่อพัฒนาปัญญา ไม่ใช่เอะอะก็บอกพระเจ้าสร้าง
คนมีปัญญา : เอาล่ะครับ ถ้างั้นผมถามต่อ เมื่อตะกี้บอกสิ่งมีชีวิตต้องการอาหารและอากาศ แล้วสัตว์เซลล์เดียวล่ะครับ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : ก็เช่นกันครับ
คนมีปัญญา : แล้วอาหารมาจากไหน
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : พืชและสัตว์
คนมีปัญญา : แล้วสัตว์เซลล์เดียวตัวแรกกินอะไรครับ ก็ในเมื่อตอนมันเกิดมาตัวแรกก็ยังไม่มีพืชและสัตว์
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : แร่ธาตุไงคุณ
คนมีปัญญา : แร่ธาตุมาจากไหนครับ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : ก็ซากพืชซากสัตว์ไง
คนมีปัญญา : เอ้า แสดงว่ามีพืชและสัตว์ก่อนหน้าสัตว์เซลล์เดียวแล้วสิ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : !#!#???
คนมีปัญญา : แล้วสัตว์เซลล์เดียวตัวแรกต้องการอากาศไหมครับ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : อ็อกซิเจนไง
คนมีปัญญา : แล้วอ็อกซิเจนเกิดมาจากไหนครับ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : การหายใจของพืชไงครับ
คนมีปัญญา : เอ้าพืชโผล่มาอีกและ ก็บอกว่าเซลล์ตัวนั้นมันเป็นสิ่งมีชีวิตตัวแรก!!
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : !#!#??? คือทุกอย่างมันมีเหตุปัจจัยของมันน่ะครับ ไม่ใช่มาด่วนสรุปว่าพระเจ้าสร้างลูกเดียว
คนมีปัญญา : เอาล่ะ ผมจะช่วยคุณเริ่มหาเหตุปัจจัย คุณว่าสัตว์เซลล์เดียวมาจากน้ำรึเปล่า
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : นั่นคือทฤษฎีที่น่าจะถูกที่สุด
คนมีปัญญา : แล้วคำถามก็เดิมๆคือกินอะไร หายใจยังไง
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : ในน้ำก็มีอ็อกซิเจนคุณ
คนมีปัญญา : แล้วอ็อกซิเจนในน้ำก็มาจากพืช นี่ไงพืชโผล่มาก่อนอีกและ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : คือคุณพูดแบบคนไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์น่ะครับ เราคนศึกษาทฤษฎีวิวัฒนาการไม่ได้คุยกันเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องแบบนี้ เราคุยกันเรื่องยีนส์เรื่องความรู้ทางชีวะครับ ไม่ใช่คุยกันในสิ่งที่หาต้นตอไม่ได้ แต่สิ่งที่เราศึกษามันอาจนำไปพิสูจน์ต้นตอการกำเนิดชีวิต
คนมีปัญญา : ในเมื่อสิ่งที่คุณศึกษาเนี่ยมันข้ามสิ่งสำคัญไป คือตรรกะเหตุผลความเป็นจริงของธรรมชาติข้างต้นแล้ว แล้วถามว่าสิ่งที่คุณศึกษาจากผลพวงของมันมันจะถูกต้องหรือครับ ผมยกตัวอย่างการติดกระดุม หากเราติดเม็ดแรกผิด เม็ดล่างๆมันก็ผิดหมดแหละครับ แล้วถ้าจะกลับมาติดให้ถูก เราก็ต้องข้ามเม็ดหนึ่งเม็ดใดไป นี่คือวิธีแก้ที่ผิด ทางที่ถูกคือต้องแก้ตั้งแต่เม็ดแรกเลย คุณต้องกลับไปที่จุดเริ่มใหม่ครับ ถ้าให้คำตอบที่จุดเริ่มไม่ได้ หรือทฤษฎีใดก็ตามที่ขัดกับเหตุผลความเป็นจริงทางธรรมชาติในส่วนของจุดเริ่มแล้ว ก็แก้ทิ้งโละทิ้งให้หมดเลยครับ ไม่งั้นมันก็จะงมเข็มในมหาสมุทรอยู่แบบนี้แหละครับ แล้วพวกคุณก็จะต้องเผยแพร่แนวคิดของพวกคุณด้วยการสร้างการ์ตูน สร้างสาระคดีมาล้างสมองคนให้เขามีจินตนาการตามความเชื่อของพวกคุณ
นักวิทยาศาสตร์นกแก้วนกขุนทอง : เรื่องวิทยาศาสตร์มันเป็นศาสตร์ชั้นสูงน่ะคุณ ต้องคนมีความรู้คุยกัน ว่าแต่พวกคุณล่ะ เอะอะก็อ้างแต่พระเจ้า ไหนอธิบายมาซิ พระเจ้าคืออะไร แล้วรู้ได้ไงว่าพระเจ้าสร้าง
คนมีปัญญา : เรื่องศาสนามันเป็นศาสตร์ชั้นสูงน่ะคุณ คนมีปัญญาเขาเอาไว้พูดกะคนมีปัญญา คนไม่ใช้ปัญญาเขาไม่เข้าใจหรอกครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
IRF มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005 ตอบ: 155
|
ตอบ: Fri Dec 16, 2005 12:10 am ชื่อกระทู้: |
|
|
นักวิทยาศาสตร์ creationist แนวนี้เป็นส่วนน้อยครับ มีประมาณไม่ถึง 40 % ของนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมด
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้เข้าใจดีว่ามีผู้สร้าง และค่อนข้างสมองลึกกว่านักวิทยาศาสตร์สมองเบ๊อะหรือกลุ่ม materialist เขาเข้าใจว่าผู้สร้างนั้นมีอำนาจควบคุมบริหารสรรพสิ่งต่างๆให้เป็นระบบได้อย่างสมบูรณ์ และไม่มีความผิดพลาดในตัวผู้สร้างนอกจากจงใจให้มันเกิด
แนวคิดที่ 1. ผู้สร้าง(หรือเรียกว่าพระเจ้า) ได้สร้างสรรพสิ่งมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน กล่าวคือยึดถือตามแนวทฤษฎีของ meterialist และ dawinist และเชื่อในทฤษฎีวิวัฒนาการ แต่ทั้งหมดด้วยกับตรรกะ เหตุผล หรือสามัญสำนึกของมนุษย์ผู้มีสติปัญญา มีเหตุผลย่อมที่จะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งเป็นสิ่งทรงอำนาจบริหารความเป็นไปให้สรรพสิ่งต่างๆเป็นระบบระเบียบ และให้สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการจนกลายมาอย่างมีระบบระเบียบจนกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ขึ้น
แนวคิดที่ 2. ผู้สร้างได้สร้างสรรพสิ่งและสิ่งมีชีวิตสมบูรณ์มาตั้งแต่ต้น เพราะทุกสิ่งในธรรมชาติย่อมพึงหาอาศัยกัน เกื้อกูลกัน และธรรมชาติมีความสมดุลย์ มีความสมบูรณ์ในตัวของมันเอง หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป มันก็จะไม่อาจมีความสมดุลย์เช่นนี้ได้ ดังที่มีคนกล่าวว่า การตัดต้นไม้แค่ป่าผืนเดียวอาจส่งผลกระทบไปถึงดวงจันทร์
แต่ทฤษฏีไหนก็ตามที่ถูก นักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งได้ให้คำพูดชวนหัว(ซึ่งคนที่มีสติปัญญาเท่านั้นที่จะขำ) อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความโง่เขลา ดื้อรั้นและดันทุรังของฝ่าย meterialist หรือปฏิเสธในผู้สร้าง ว่า "การที่สรรพสิ่งต่างๆ(ที่สมบูรณ์และมีระบบระเบียบนี้) จะเกิดมาโดยบังเอิญนั้น มีความเป็นไปได้พอๆกับการที่มีลมพายุได้พัดเศษเหล็กโดยบังเอิญ จนกระทั่งเศษเหล็กนั้นได้กลายไปเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 747" |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
IRF มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005 ตอบ: 155
|
ตอบ: Fri Dec 16, 2005 12:11 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เด็กฉลาด : น้าเอาช่อดอกไม้มาจากไหนครับ สวยจัง
ผู้คลั่งไคล้ทฤษฎีวิวัฒนาการ : อ๋อน้าออกแบบจัดแต่งให้สวยๆเองแหละ จะเอาไปให้แฟน
เด็กฉลาด : น้าครับ ทำไมนกยูงหางสวยจัง
ผู้คลั่งไคล้ทฤษฎีวิวัฒนาการ : อ๋อมันเอาไว้อวดตัวเมีย
เด็กฉลาด : อ๋อแสดงว่ามันออกแบบหางมันเองเหรอครับ!
------------------------------------------------
เด็กฉลาด : น้าครับ นกน้ำชนิดนี้ที่ด้านหลังปีกมันมีรูปเหมือนตาเลยน่ะครับ
ผู้คลั่งไคล้ทฤษฎีวิวัฒนาการ : อ๋อมันเอาไว้หลอกสัตว์อื่นที่จะไปทำร้ายมัน
เด็กฉลาด : อื่ม..อย่างนี้แสดงว่ามันออกแบบปีกตัวเองให้มีตาไว้ข้างหลังสิครับ เอ๊ะ..แล้วมันทำปีกมันให้มีรูปตาได้ยังไงน่ะครับ มันใช้สมองสั่งการเหรอ? เหรอมันบังคับยีนส์ของมันให้ค่อยๆมีรูปตาได้ รุ่นลูกรุ่นหลานก็ค่อยๆเปลี่ยนกันมาทีละนิดทีละนิด? แต่เอ..แต่ผมว่ามันไม่รู้ตัวซะด้วยซ้ำว่าปีกมันมีรูปตา เอ๊ะ..แต่ผมเคยได้ยินว่าไอ้รูปร่าง หน้าตา สีแล้วก็ขน หรือทุกๆส่วนมันถ่ายทอดกันมาโดยมี DNA ที่เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ เป็นอย่างนี้ต่อๆกันมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Dec 16, 2005 6:29 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ IRF คุยต่อนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ที่เป็นข้อมูลสำหรับนำไปตอบคำถามเรื่อง เตาฮีด ได้เป็นอย่างดีเลย
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|