อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[nur-ainee]

ตอนนี้อัยนีเองก็ปิดหน้านะ แต่จะถามว่าจะเชิญชวนคนมาปิดหน้าไหมก็อยู่ที่ความพร้อมและเหนียตของเขา เราสามารถให้ข้อมูลได้ว่า เป็นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่เวลามีใครมาถามว่าปิดหน้าดีไหม อัยนีก็ตอบเลยว่าดี ถ้าพร้อมแล้ว เหนียตเพื่ออัลลอฮฺแล้ว ก็ทำเลย ไม่เห็นต้องรออะไร
แต่การชวนคนที่ไม่เคยคลุมอะไรเลยมาปิดหน้าเนี่ย มันก็ยากอยู่นะคะ แค่ทำให้เขามาคลุมผมแบบที่ถูกต้องได้ ก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺ แล้วค่ะ
เราเองก็ต้องยอมรับสภาพด้วย ก็ต้องนึกไว้เสมอว่าทำเพื่ออัลลฮฺนะ อย่างเมื่อวานนี้ไปสมัครงาน เขาก็โอเคพอวันนี้โทรมาบอกว่า เวลาอยู่ในออฟฟิศต้องเปิดหน้านะ เพราะเขาต้องการความเป็นกันเอง เราก็บอกว่าเรื่องศาสนาเนี่ยกันเองไม่ได้ ถ้าต้องเปิดก็ไม่ทำละกัน

[AbdurRahman]

โอ๊ะโอ่ สุดยอด ปิดหน้าด้วย
ซึ่งสุดยอด ก็คือ ปลายใบ
น่าชื่นใจ 'นูรอัยนี ปลายใบ'
ชื่อก็เพราะ ฉายาก็แจ่ม อะแฮ่ม
(มีสิทธิ์ไม้น้า....)



มันหยอดไปอีกลูกแล้วครับท่าน

[ซัลมา]

ที่นูรอัยนีประชาสัมพันธ์ว่า ถ้าใครมีฮิญาบ จะเอาไปให้คนจนที่นครปฐม ที่เขาอยากคลุมผม แต่ไม่มีเงินซื้อ ซัลมาต้องการคุยกับนูรอัยนี ช่วยบอกเบอร์โทรศัพท์ทางอีเมล์ให้ซัลมาด้วยนะคะ รวมทั้งที่อยู่ด้วย ซัลมาอยากมีส่วนร่วมด้วยค่ะ และจะส่งหนังสือไปให้ทางพัสดุกับนูรอัยนีที่ต่างจังหวัด คือ อิสลามตามคำสอน , พลิกฟื้นคืนแผ่นดิน, ที่สุดของชีวิต จากศูนย์หนังสือนัฟฟาซี่

ขอให้อดทนในสิ่งที่เกิดขึ้น ซัลมาขอเป็นกำลังใจและเป็นเพื่อนได้ค่ะ

[nur-ainee]

ญาซะกัลลอฮฺค่ะ
หนังสือที่พี่จะให้อัยนี อัยนีมีหมดแล้ว แล้วอ่านจบหมดแล้วค่ะ
แต่ถ้าพี่จะให้ก็ได้ค่ะ อัยนีจะเอาไปเศาะดาเกาะฮฺต่อให้มูอัลลัฟคนอื่นๆ

[natee]

ถามคุณดือราแมหน่อยซิคะว่า คนแก่ หน้าตาก็ไม่งามพอที่จะให้เกิดฟิตนะห์ได้ อย่างดิฉันเนี่ย ต้องคลุมหน้าด้วยเหรอคะ ในเมื่อเป้าหมายของการคลุมหน้าคือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟิตนะห์กับคนที่สวยมากๆ แต่กับดิฉันคิดว่า ถ้าคลุมหน้านะ จะเป็นเหตุให้เกิดฟิตนะห์ในแง่ที่หลอกลวงให้ผู้คนหลงคิดว่า คงจะสวยมากซินะ ถึงได้คลุมหน้ากันฟิตนะห์ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่สวยเลย หรืออย่างที่ดิฉันเคยได้ยินคนพูดถึง หญิงสูงวัยที่มีครอบครัวแล้ว และเพิ่งมาคลุมหน้าว่า ทำไมเขาถึงจะต้องคลุมหน้าด้วยอายุก็ปูนนั้นแล้ว คงไม่มีใครสนใจให้เกิดฟิตนะห์หรอก ..

ดิฉันคิดว่า สิ่งที่ศาสนากำหนดให้ปกปิดนั้นไม่ได้ครอบคลุมถึงใบหน้าและฝ่ามือ แต่ถ้าจะปกปิดให้ครอบคลุมทั้งใบหน้าและฝ่ามือ ก็เป็นที่อนุญาตทางศาสนา สามารถทำได้ แต่ศาสนาไม่ได้บังคับ หลักๆ ก็คือ มุสลิมะห์สามารถเปิดเผยใบหน้าและฝ่ามือได้ อย่างเช่นเรื่องที่ท่านอาจารย์ตอบปัญหาเกี่ยวกับการอาบน้ำมายัตให้แก่กันของสามี-ภรรยาน่ะคะ เป็นเรื่องที่อนุญาต สามารถทำได้ แต่ศาสนาไม่ได้บังคับให้ทำ โดยทั่วไป ที่เราปฏิบัติกันตามหลักการก็คือ ผู้หญิงอาบให้ผู้หญิง ผู้ชายอาบให้ผู้ชาย ฉะนั้นที่คุณบอกว่า การคลุมหน้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนั้น จึงขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่เป็นหลักฐานว่า สำหรับมุสลิมะห์ทุกคน การคลุมหน้าเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่คลุมหน้าในทุกกรณี รวมทั้งผลบุญที่จะได้รับด้วยค่ะ

[AbdurRahman]

หุหุ วันนี้ป้าลุยเองวุ้ย เอาว่ามาก็จะตอบไป ง่ายๆนะครับ ผมความรู้ไม่ค่อยสูงเท่าบังเค้า
ตามที่ว่า---เป้าหมายของการคลุมหน้าคือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟิตนะห์กับคนที่สวยมากๆ---ขอโทษนะครับ ใครบอกว่าเป้าหมายคืออย่างนั้นครับ เข้าใจผิดมั้งครับผมยังไม่เจอว่าปิดเพื่อเจตนาอย่างนั้นนะครับ

--ดิฉันคิดว่า สิ่งที่ศาสนากำหนดให้ปกปิดนั้นไม่ได้ครอบคลุมถึงใบหน้าและฝ่ามือ---
ถูกต้องครับนั่นคือความคิดของดิฉัน แต่ศาสนาไม่ได้บอกให้ดิฉันคิดว่านะครับต้องระวังเพราะศาสนาสมบูรณ์แล้ว

--หลักๆ ก็คือ มุสลิมะห์สามารถเปิดเผยใบหน้าและฝ่ามือได้
หลักน่ะหลักของใครครับ หลักของป้าก็ว่าไปหลักของผมก็ต้องอ่านต่อไป

--การคลุมหน้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนั้น จึงขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่เป็นหลักฐานว่า สำหรับมุสลิมะห์ทุกคน---
เอะอะก็จะเอาหลักฐาน หลักฐานผมก็อ่อนคับแต่ที่แน่ๆ เหล่ามารดาของผู้ศรัทธา ก็คลุมหน้าทุกคนเฮ้อ ไปหาเอาเองบ้างครับ ถามอาจารย์ดูก็ได้นะป้า อยู่ใกล้อาจารย์อยู่แล้วดันไม่ถามมาถามผม หรือกลัวอาจารย์จะฟันธงว่าคลุมหน้าดีที่สุด เหอๆๆ

---การคลุมหน้าเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่คลุมหน้าในทุกกรณี รวมทั้งผลบุญที่จะได้รับด้วยค่ะ--
แย่หน่อยครับที่ต้องการคำนวณผลบุญที่ได้รับก็คงจะได้ราวๆ10คูณ12กิโลจูล ทำดีหวังผลซะด้วยป้าเรา

เอาแค่นี้ก่อนนะป้า จะถามผมถามอาจารย์ฟารี้ดดูครับ ป้าอยู่กล้กว่าผม

[AbdurRahman]

มีตรงไหนที่ถ้อยคำผมไม่กระจ่างบอกมาเลยนะครับ แบบว่าภาษาไทยไม่แข็งแรง
ผมขอทวนคำตอบอีกครั้งนะครับ ป้าน่าตี่ แบบว่าตะกี้ตอบไม่เคลียร์เท่าไรคับ พอดีติดธุระกับพวกสันติบาล เซงมาสอบปากคำถึงบ้านเลย

ป้าถามว่า----คนแก่ หน้าตาก็ไม่งามพอที่จะให้เกิดฟิตนะห์ได้ อย่างดิฉันเนี่ย ต้องคลุมหน้าด้วยเหรอคะ----ฟิตนะฮ์ของป้านะสิครับอยู่ที่ความงาม ป้าไม่เคยได้ยินเหรอครับแค่เสียงก็เป็นฟิตนะฮ์ แล้วป้ารู้ได้ไงว่าป้าไม่งาม แสดงว่าป้าไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ด้วยความงดงาม----
ป้าว่า---แต่กับดิฉันคิดว่า ถ้าคลุมหน้านะ จะเป็นเหตุให้เกิดฟิตนะห์ในแง่ที่หลอกลวงให้ผู้คนหลงคิดว่า คงจะสวยมากซินะ ถึงได้คลุมหน้ากันฟิตนะห์ --
จุจุจุจุ อันนี้ต้องระวังมากครับป้าศาสนาอิสลามไม่ยอมให้ป้าคิดเอาเองนะครับ แค่คิดก็ผิดแล้วป้าครับ
--หรืออย่างที่ดิฉันเคยได้ยินคนพูดถึง หญิงสูงวัยที่มีครอบครัวแล้ว และเพิ่งมาคลุมหน้าว่า ทำไมเขาถึงจะต้องคลุมหน้าด้วยอายุก็ปูนนั้นแล้ว คงไม่มีใครสนใจให้เกิดฟิตนะห์หรอก--ถ้อยคำนี้แสดงว่าผู้ได้ยินมีความคิดต่ำมากในการมองคนคลุมหน้าแล้วพูดอย่างนั้น ถ้าเค้าคลุมเพื่ออัลเลาะฮ์ล่ะครับ เค้าไม่ได้คลุมเพื่อเกิดฟิตนะฮ์อย่างที่ป้าเข้าใจหรือคิดเอาเอง อันตรายครับป้าอันตราย เอาบาปเค้าเอาบุญป้าให้เค้าไป จะไหวเหรอครับ
----ดิฉันคิดว่า สิ่งที่ศาสนากำหนดให้ปกปิดนั้นไม่ได้ครอบคลุมถึงใบหน้าและฝ่ามือ แต่ถ้าจะปกปิดให้ครอบคลุมทั้งใบหน้าและฝ่ามือ ก็เป็นที่อนุญาตทางศาสนา สามารถทำได้---อันนี้ป้าก็คิดเองอีกแล้วครับ ป้าต้องทำความเข้าใจในเอารัตของผู้หญิงก่อนครับ ตามที่ผมเรียนให้ทราบนะครับป้า เสียงป้าก็เป็นเอารัต นับประสาอะไรกับใบหน้าป้า
ย้ำอีกนิดนึงครับป้า ป้าถามอาจารย์ฟารี้ดก่อนนะครับ ว่าคลุมหน้าดีที่สุดหรือเปล่า เด๋วผมจะโต้อาจารย์เองถ้าอาจารย์พูดไม่เข้าหู เด๋วอาเจียนจะงัดหลักฐานมาชนเหอๆๆ ว่าไปน่าน
แล้วก็ป้าครับ อั้ยเรื่องผลบุญที่ป้าจะได้รับเวลาทำอะไรก็ตามเนี่ย มันสำคัญกับป้ามากเลยเหรอครับถึงต้องถามว่าจะได้รับผลบุญอะไร งงวุ้ย ที่มรดกเค้าสอนกันขนาดนั้นเลยเหรอ

เข้ามาเมื่อไรป้าโดนผมถล่มทุกที จะโกรธไม้น้า อิอิ ขอมะอัฟนะครับถ้าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง
(ซักวันป้าต้องคลุมหน้าเชื่อผมเหอะ ถ้าป้าไม่ดื้อ)

[natee]

1. ถ้าเป้าหมายการปิดหน้าไม่ใช่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟิตนะห์กับคนที่สวยมากๆ งั้นเป้าหมายคืออะไร อย่าบอกนะว่าศาสนาใช้ ถ้าศาสนาใช้เนี่ย ไม่ปิดหน้าถือว่าฮาหร่ามนะ ทุกคนวายิบต้องปิด แต่นี่ศาสนาให้เปิดหน้าได้นะคะ

2. เรื่องที่คุณว่าดิฉันคิดเองน่ะ จะบอกให้นะว่าดิฉันก็มีอาจารย์สั่งสอนในเรื่องศาสนาเหมือนกันนะคะ แม้ว่าจะไม่ได้เรียนในระบบเหมือนคุณ คุณก็รู้นี่ท่านอาจารย์ของดิฉันน่ะระดับไหน ดิฉันคงไม่คิดอะไรที่เป็นเรื่องศาสนาเองหรอกค่ะ ท่านอาจารย์ทุกท่านก็สอนเหมือนกันหมดแหละค่ะว่า ศาสนาให้เปิดเผยใบหน้าและมือได้ แม้ว่าอาจารย์บางท่านจะให้น้ำหนักกับการปิดหน้า แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าศาสนาให้เปิดหน้าได้ และการเปิดหน้านั้น ก็มีหลักฐานจากอัลกุรอานซึ่งหนังสือตัฟซีรของอิบนิกาซีรมีคำอธิบายของท่านอิบนิอับบาสบ่งบอกไว้ ซึ่งหลายท่านมักจะนำฮาดีสที่ท่านนบีชี้ไปที่หน้าและมือว่าเปิดเผยได้มาอ้างว่า ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้เพราะฎออีฟ ทำให้ผู้คนเข้าใจว่า หลักฐานที่เปิดหน้าได้ไม่มีนำหนัก

3. ที่ดิฉันบอกว่า หลักๆ ก็คือ มุสลิมะห์สามารถเปิดเผยใบหน้าและฝ่ามือได้ นั้น คุณเข้าใจคำว่า “ ศาสนาใช้ให้ทำ”หรือเปล่าล่ะ นั่นละหลักๆ ล่ะ ส่วนที่คุณจะทำมากกว่านั้นหรืออื่นจากนั้น ก็ต้องมาดูว่า ศาสนาอนุญาตหรือไม่ ไงคะ เพราะฉะนั้นประเด็นของดิฉันตรงนี้ คือ ศาสนากำหนดให้เปิดหน้าได้ แต่ถ้าจะปิดหน้าเนี่ย ศาสนาก็อนุญาต สามารถทำได้เช่นกัน แล้วอย่างนี้ ปิดหน้าดีกว่าเปิดหน้าอย่างไร ช่วยอธิบายด้วยนะคะ

4. ที่ถามหาหลักฐาน ก็อยากรู้จากคุณน่ะ การจะบอกว่าอะไรเป็นสิ่งดีที่สุดหรือไม่ในศาสนานั้น ก็ต้องดูว่า มีตัวบทหลักฐานบอกไว้มั้ย หรือว่าเป็นเพียงทัศนะ ถ้าเป็นทัศนะนะ ดิฉันก็มีสิทธิที่จะพิจารณาเลือกเอาทัศนะไหนที่ดิฉันเห็นว่ามีน้ำหนักกว่า ได้มิใช่หรือคะ
และที่ว่าเหล่ามารดาผู้ศรัทธาก็คลุมหน้าทุกคน ก็อยากถามคุณว่า เหล่ามารดาผู้ศรัทธาเหมือนกับคนธรรมดาอย่างเราเหรอคะ ฮุก่มต่างๆ ที่มีมายังพวกท่านก็ไม่เหมือนเรา ในหลายๆ ประการนะคะ

5. ส่วนเรื่องผลบุญ ก็แหง ละ ในเมื่อคุณบอกว่าปิดหน้าดีกว่าไม่ปิด- ดีที่สุด ก็ต้องอยากรู้ละว่าดีกว่ายังไง ได้ผลบุญมากกว่าหรือยังไง หรือว่าได้ใกล้ชิดหลักการมากกว่าหรือยังไง ได้เข้าสวรรค์ชั้นสูงกว่า อะไรทำนองเนี้ย

สำหรับเรื่องปิดหน้าหรือไม่ปิดหน้า ท่านอาจารย์ไม่ได้ฟันธงไปว่า อันไหนดีกว่าอันไหนอย่างคุณหรอกนะคะ ดิฉันถึงได้ถามคุณไง

[AbdurRahman]

ก่อนจะตอบป้านิดนึงนะครับต้องรบกวนป้าหน่อยนะครับว่า
ตกลงป้าครับ อาจารย์ที่ป้าถามชื่ออะไรครับ ใช่อาจารย์ฟารี้ดหรือไม่ เพราะผมจะให้น้ำหนักในคำชี้ขาดจากอาจารย์ฟารี้ดมากครับ ต้องให้อาจารย์บอกจากปากท่านให้ชัดเจนก่อนครับว่า ปิดก็ได้ไม่ปิดก้ได้ ไม่มีอันไหนดีที่สุด อั้ยฟันธงฟันบ้าอะไรนั่นอะ สำนวนของพวกหมอดูครับป้าอย่าไปเลียนแบบคำพูดพวกมัน เหอๆๆ
แล้วก็เอ่อตรงที่ป้าอยากถามว่า --เหล่ามารดาผู้ศรัทธาเหมือนกับคนธรรมดาอย่างเราเหรอคะ ฮุก่มต่างๆ ที่มีมายังพวกท่านก็ไม่เหมือนเรา ในหลายๆ ประการนะคะ---
เอ ผมก็ไม่เห็นท่านไหนไม่เหมือนคนธรรมดาเลยนะครับ หรือว่าคนไหนมี4หน้า4มือ
เรื่องฮุกมต่างๆไม่เหมือนเรา ในหลายประการ หรือว่า ฮุกมต่างที่ออกมาเพราะเพื่อให้ทุกท่านเป็นตัวอย่างที่จะทำให้เกิดฮุกมต่างๆ มายังเหล่ามุสลิมะฮ์ทั้งมวล ป้าช่วยชี้แนะผมด้วยแล้วกันครับว่าฮุกมอะไร ที่ไม่เหมือนป้าแบบว่าเรื่องผู้หญิงผมตั้งใจว่าจะหาเด๊ะที่เค้าเข้าใจแจ่มแจ้งจะได้ไม่ต้องสอนอะไรอีก
ถล่มไปอีกหนึ่งลูก แหะๆ ขอมะอัฟด้วยเด้อ

(ซักวันป้าต้องคลุมหน้าเชื่อผมเหอะ ถ้าป้าไม่ดื้อ)

[natee]

- คุณเคยฟังการตอบคำถามของท่านอาจารย์ฟารีดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่าละคะ ลองหาฟังดูนะ ไม่รู้ว่าถามมาซิจะตอบให้ที่มีอยู่นี้ จะมีเรื่องนี้หรือเปล่านะคะ ถ้าดิฉันว่างจะช่วยหามาให้ได้รับทราบนะคะ คิดว่าเคยบันทึกเทปไว้เหมือนกัน

- ไม่ยักกะรู้ว่า คุณชำนาญเรื่องหมอดู ถึงขนาดรู้ด้วยว่าหมอดูเขาใช้สำนวนนี้ ดิฉันก็ได้ยินได้ฟังเขาพูดกันทั่วๆไปนั่นแหละ ไม่คิดว่ามันจะเจาะจงเฉพาะวงการหมอดูนะคะ

- ก็แค่การเป็นมารดาของบรรดาผู้ศรัทธาน่ะ เหมือนผู้หญิงธรรมดาอย่างเราหรือเปล่าล่ะคะ

[AbdurRahman]

นั่นแน่มีเหน็บกลับ ชอบครับชอบยินดีครับ
เป็นเพราะผมไม่เคยฟังอาจารย์ฟารี้ดตอบเรื่องนี้เลยต้องถามย้ำกับป้าไงครับ ว่าป้าแน่ใจนะว่าอาจารย์ยืนยันชัดเจนนะว่าปิดหน้าไม่ดีกว่าเปิดหน้า หาเจอค่อยว่าต่อนะป้านะ
เรื่องคำพูดไม่ใช่ความชำนาญในเรื่องหมอดูครับ ฟังดูเราต้องแยกครับ เหมือนครั้งนึงผมเคยว่าบังอะสันที่ใช้คำว่าโถ มันมาจากคำว่าพุทโธ อย่างนี้ป้าก็ต้องว่าผมชำนาญเรื่องพุทธเจ้าด้วยสิครับ
พวกเราไม่เลียนแบบชนกลุ่มใดครับ เพราะพวกเราคือประชาชาติตัวอย่างครับ มีแต่พวกเขาต้องตามแบบเรานั่นคือคำสั่งสอนของอุซตาจพวกผม ไม่รู้อาจารย์ฟารี้ดสอนแบบเดียวกันหรือปล่าวนะครับ แต่ผมเคยได้ยินอาจารย์ยืนยันการไว้เคราคือคำสั่งวาญิบ ผมก็ชื่นใจแล้วครับ ไม่รู้อาจารย์จะเปลี่ยนไปหรือปล่าวนะครับ
การเป็นมารดาของผู้ศรัทธาแตกต่างจากผู้หญิงธรรมดาอย่างไร ไม่รู้ว่าป้าจะมองมุมไหนครับถ้ามองในแง่ความเป็นมนุษย? ไม่มีท่านใดแตกต่างจากป้าเลย อวัยวะครบถ้วน ถ้ามองในแง่หลักการศาสนา ทุกท่านคือแบบฉบับที่มุสลิมะฮ์ทั้งมวลต้องปฏิบัตตาม ที่พระองค์ทรงวางต้นแบบผ่านมาทางท่านเหล่านั้นให้กับเหล่ามุสลิมะฮ์ทั้งมวล ซึ่งหมายความว่าตามแบบพวกท่านไม่พลาดแน่
เอางี้ครับ ผมไม่รู้ว่าป้าจะเข้าใจแบบผมไม้น้า คือผมมีความรู้สึกว่าป้าต่อต้านการคลุมหน้าโดยป้าพยายามชี้ให้เห็นว่าการคลุมหน้ามิดชิดกับกับการคลุมแบบเปิดใบหน้ามีผลบุญไม่แตกต่างกัน ผมเข้าใจถูกต้องไม้ครับ ถ้าผมเข้าใจผิดป้าบอกด้วยนะครับ เอาแค่ประเด็นนี้ก่อนนะครับ
เรื่องนี้ยิ่งมายิ่งลงลึก(มั้ง) คุยไปเรื่อยๆนะครับ ผมจะพยายามตอบให้ทันที


(ก็ยังมั่นใจว่าซักวันป้าต้องคลุมหน้าเชื่อผมเหอะ ถ้าป้าไม่ดื้อ)

[AbdurRahman]

รออยู่ครับป้า หลายวันหลายชั่วโมงก็รอ เพราะรู้ว่าป้า ต้องไม่หลีกหนีไปแน่ๆ
ผมเชื่อมั่นว่าซักวันป้าต้องคลุมหน้าครับ

[natee]

เรื่องการปิดหน้าไม่ปิดหน้าเนี่ย เท่าที่ทราบนะคะ มีที่มาจากหลักฐานตัวบทอัลกุรอานเช่นเดียวกันนั่นแหละ แต่มีความเข้าใจที่ต่างกัน มีการอธิบายความที่ต่างกัน ทำให้เกิดเป็นความเข้าใจเป็น 2 ฝ่าย ที่ว่า มุสลิมะห์ไม่วายิบต้องปิดหน้า และมุสลิมะห์วายิบต้องปิดหน้า ซึ่งหากเลือกตามฝ่ายไหน นั่นก็ดีที่สุดสำหรับฝ่ายนั้น แต่เมื่อเอาทั้ง 2 ฝ่ายมาเปรียบเทียบกันแล้วบอกว่าฝ่ายหนึ่งดีกว่าอีกฝ่ายหนึ่งเนี่ย ก็เลยทำให้เกิดความสงสัย เพราะข้อสรุปจากต้นเรื่องมานั้นก็แตกต่างกันเป็น 2 ขั้ว โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็เห็นว่า ฝ่ายตนถูกต้อง แล้วอย่างนี้จะเอามาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร หากไม่มีตัวบทหลักฐานที่ชัดเจนบ่งบอกไว้

ดิฉันไม่ได้ต่อต้านการปิดหน้าเลยนะคะ ตรงกันข้าม ดิฉันให้ความสนใจเรื่องนี้มาก เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนว่าตามหลักการแล้ว การปิดหน้าแสดงถึงความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ในศาสนามากกว่าเปิดหน้าจริงหรือ เท่าที่ได้ยินได้ฟังก็จะเป็นเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดฟิตนะห์เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ถ้าเราพิจารณาแล้วว่า จะไม่เกิดขึ้น ก็ไม่ต้องปิดหน้า ก็เท่านั้นเอง คุณมีอะไรที่มากไปกว่านี้ก็นำเสนอมานะคะ อีกสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกันก็คือ หากสามีห้ามปิดหน้าล่ะคะ แล้วภรรยาฝ่าฝืนจะผิดมั้ยคะ

[AbdurRahman]

ครับป้าครับ รอตั้งนานนึกว่าป้าไปคลุมหน้าซะแล้ว ตกลงยังไม่ได้รับการยืนยันจาก ท่านอาจารย์ฟารี้ดใช่ไม้ครับ ไม่เป็นไรครับ เวลาป้าถามท่านย้ำไปเลยนะครับ บอกท่านเลยไม่ต้องตอบเอาถูกใจแต่ขอให้ตอบเอาถูกต้อง เพราะผมไม่รู้ว่าป้าอาจจะเป็นอาวุโสในนั้นหลายๆท่านอาจจะเกรงใจ ตอบแบบอ้อมแอ้มเอาก็ได้ ไม่เหมือนผม เพราะป้ากับผมไม่รู้จักกัน ผมกับพวกมรดกก็ไม่รู้จักกัน ชื่อ รายการผมยังต่อว่าเลยเพราะฟังไม่เข้าหู มรดกอิสลาม คิดนานไม้หว่า อิสลามมอบมรดกให้ ผมกับป้าหน้าตาไม่เคยเห็น ป้าอาจจะสวยก็ได้ ใครจะไปรู้ (ซึ่งผมก็ไม่คิดอยากรู้เสียด้วย) ผมเลยมะต้องเกรงใจใคร หลักการก็คือหลักการ สังเกตเอาก็รู้แล้ว อิอิ มาทีไร ผมถล่มป้าทุกที
ป้าเคยอ่านเหตุการณ์ตอนที่บัญญัติการคลุมหน้าลงมาหรือไม่ครับ เหล่าสตรีในสมัยนั้นทำอย่างไรกันบ้าง หาอ่านดูนะครับ กุลีกุจอหาผ้ามาคลุม ขนาดนั้นเลยนะครับ หรืออาจจะยังไม่ชัด
เอางี้ครับป้าครับเอาแค่ง่ายๆครับ คำว่า--มารดาแห่งผู้ศรัทธา---ไม่ได้ทำให้ป้าเอะใจบ้างเหรอครับ
มารดาแห่งผู้ศรัทธาเนี่ย ความหมายยิ่งใหญ่มากรู้สึกไม้ครับ ท่านนบี ไม่เคยบอกให้ยกตัวของท่านเป็นบิดาผู้ศรัทธา แต่กับบรรดาภรรยาท่านนบีกลับได้รับการให้เกียรติว่าเป็นมารดาแห่งผู้ศรัทธา
แค่ตรงนี้ ถ้าฉุกใจสักนิดจะรู้สึกเลยว่า มารดาผู้ศรัทธา ยิ่งใหญ่กว่ามารดาเราไม่รู้เท่าไร เมื่อแม่ทำอะไรไว้ทำไมลูกไม่ทำตาม แล้วยังจะมีหน้ามายกให้ท่านเป็นมารดาผู้ศรัทธาเหรอครับ เมื่อมารดาผู้ศรัทธาคลุมหน้า ลูกๆดันไม่คลุมหน้า ---ไอ้ลูกบ้ามันตามมารดาผู้ใด---(แรงไปไม้นั่น)
ถ้าสามีป้าห้ามคลุมหน้า อันนี้น่าเศร้าครับ มันจุกแน่นในอกยังไงไม่รู้ เพราะท่านนบี ยังไม่เคยห้ามภรรยาท่านเลยแต่สามีป้า เฮอะๆ (ชื่อบังอาจหรือปล่าวนะครับ)ป้าจะทำตามแบบฉบับมารดาป้า หรือว่าทำตามคำสั่งสามีก็ต้องแล้วแต่ป้าครับ หรือไม่ก็เอาคำถามนี้ไปถามอาจารย์ฟารี้ดอีกทีครับ อิอิ ว่าแต่เมื่อไรป้าจะถามอาจารย์น้า
(ท้ายนี้ก็ยังเชื่อมั่นเหมือนเดิมว่าป้าต้องคลุมหน้า ถ้าป้าไม่ดื้อ อ๊ะไม่ใช่สิ ถ้าป้าดื้อกับสามี หุหุ)

[natee]

เท่าที่ดิฉันได้ติดตามการสอนของท่านอาจารย์ฟารีดมา เรื่องที่มีการเข้าใจเป็นหลาย ฝ่าย หากมีตัวบทหลักฐานมายืนยัน ท่านก็จะชี้แจง แล้วปล่อยวาง ให้เราได้ไปพิจารณาเอาเองว่าจะให้น้ำหนักฝ่ายไหน ท่านให้เกียรติในการตัดสินของทุกฝ่ายค่ะ ดิฉันคงไม่รบกวนท่านเรื่องนี้หรอกค่ะ เพียงแค่อยากรู้จากคุณมากกว่า จึงได้เสวนาด้วย

กับเหตุการณ์ที่คุณยกมาตรงนี้ก็เช่นกัน ที่เป็นบัญญัติเรื่องของการคลุมฮิญาบ ซึ่งก็มีการอธิบายกันเป็น 2 ฝ่าย ว่า คลุมหน้า หรือไม่คลุมหน้า

ดิฉันเคยได้ฟังมาว่า บทบัญญัติบางประการก็เป็นเรื่องเฉพาะสำหรับภรรยาท่านนบีเท่านั้น นะคะ ไม่เกี่ยวกับผู้หญิงทั่วไป และถ้าดิฉันจำไม่ผิด ก็เป็นเรื่องการคลุมหน้านี่แหละ ที่มีบทบัญญัติลงมาให้กับภรรยาท่านนบี

ดิฉันน่ะไม่ดื้อหรอกนะคะ ตราบเท่าที่ดิฉันยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ดิฉันทำอยู่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด

อีกเรื่องที่เป็นข้อกังขา คือ เรื่องที่ทำได้ในศาสนา ระหว่างเรื่องที่ง่ายกับเรื่องที่ยากกว่า ท่านนบีก็จะเลือกทำในสิ่งที่ง่ายกว่า มิใช่หรือคะ สำหรับดิฉันน่ะการคลุมหน้ายังคงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับดิฉันอยู่ค่ะ