ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Thu Aug 04, 2005 11:15 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ AbdurRahman:
ผมเข้าใจเจตนาดีของคุณครับ และ ยินดีที่ได้เขียนคุยด้วย คำเตือนของคุณเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่บางครั้ง ผมจำเป็น ต้อง ให้ เหตุผล บ้าง แต่เป็นเพียงความคิดเห็นของผมเท่านั้น ไม่มีเจตนา ให้ใครต้องเชื่อตามผม
ผมว่า เผยแพร่ น่าฟังและ ความหมายจะถูกต้องกว่า เพราะ ว่า เป็น คำกริยา คือ เผยออกมาแล้วก็ แพร่กระจายไป , คำว่า เผยแผ่ หมายถึง เผย ออกมา แล้ว ก็ แผ่ (เปิดให้กว้าง) ให้ผู้คนเห็น ฟังๆ ดูมันก็คล้ายๆกัน ผมก็ งงๆๆๆๆๆ เช่นกัน, สมัยก่อน กลิ่นไอ สมัยนี้ กลิ่นอาย เฮ้อ!
เรื่องจำอัลกุรอานนั้น เมื่อตอนเด็กๆ ผมก็พยายามที่จะจำให้ได้มากที่สุด แต่ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอโตมา ก็เรียนรู้ว่า อัลกุรอาน มีไว้สำหรับ ให้เราศึกษาหาความรู้ ซึ่งจะต้อง อ่าน ด้วย ความ เข้า ใจ ตาม เนื้อหา ที่ อัลลอฮ์ ทรงมีพระประสงค์ จะให้เราเข้าใจและปฏิบัติ ตาม แนวทางของ พระองค์
ผมว่าความคิดของ คุณดีทีเดียว ที่ เรา ควรจะเริ่มต้น อ่าน และ ทำความเข้าใจ และจดจำ วันนี้ผมจะเริ่มต้นด้วย
ซูเราะฮฺ อัซซุมัร อายะ 27, ซูเราะฮฺ อันนะหฺลฺ อายะ 89 และ ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ อายะ 52
เราได้ให้ไว้แก่มวลมนุษยชาติ สุภาษิต สอนใจ ในรูปแบบต่างๆ ที่บรรจุไว้ในอัลกุรอาน , เพื่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาเหล่านั้น จะจดจำไว้เป็น เครื่อง เตือนใจ (39:27)
และในวันหนึ่งเราจะนำผู้คนของประชาชาติทั้งหลาย เพื่อเป็นพยานยืนยัน ซึ่งกันและกัน ในหมู่พวกเขา และ เรา จะ นำเจ้า มาเป็นพยาน ต่อเขาเหล่านั้น, และเราได้ให้คัมภีร์แก่เจ้า ซึ่งบรรจุไว้ด้วยการอธิบาย อย่าง กระจ่างชัด ของทุกสิ่งทุกอย่าง, และคำแนะนำ, ความกรุณาและข่าวดี ต่อผู้ที่ศรัทธา(16:89)
อย่างแน่นอน เราได้นำคัมภีร์มาให้เขาเหล่านั้น, ซึ่งเราได้บรรยายรายละเอียด, ด้วยความรู้และคำแนะนำและความกรุณาสำหรับ บรรดาผู้ศรัทธา(7:52)
จากอายาตที่ยกมานี้ ผมมีความเข้าใจว่า, พระองค์ อัลลอฮ์ ได้ ทรงเตือนแก่เราว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ คำ แนะนำ จากพระองค์ นั้น ได้ถูกอธิบายไว้ อย่าง ละ เอียด ใน อัลกุรอาน , ดังนั้นจะเป็นการสมเหตุสมผล ว่า ถ้าสิ่งใดที่พระองค์ไม่ได้บรรจุไว้ ในอัลกุรอาน นั้น เป็นสิ่งที่พระองค์ เห็นว่า สิ่งนั้นไม่ มีความต้องการคำแนะ นำ และ แนวทาง จากพระองค์, ดังนั้นจึงไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่ง ที่ มนุษย์ จะประดิษฐ์ คำสอน และ ข้อ ห้ามใหม่ๆ ขึ้นมา ต่อเติม บัญญัติ ในอัลกุรอาน คุณคิดว่าอย่างไร? พระองค์ได้ให้รายละเอียด ไว้ครบถ้วน และถ้าเราไม่ปฏิบัติตามวันหนึ่งเราจะต้องตอบ คำถามของพระองค์
เรื่องชื่อ เวบ มรดกอิสลาม นั้น ผมไม่กังวลอะไร เลย แต่เกรงอย่างเดียวว่า เราจะเหลืออะไรไว้เป็นมรดก ให้ลูกหลาน ถ้าเราไม่เริ่ม เข้าใจอัลกุรอาน ตามความหมายที่พระองค์อัลลอฮ์ มีพระประสงค์ จะให้เรา เข้าใจ, ผมว่าเรื่องชื่อ ไม่สำคัญเท่า เนื้อหาในเวบ, เท่าที่เขาเปิดโอกาสให้ผมแสดงความคิดเห็น ก็นับว่า เวบนี้ ใจกว้างพอแล้ว ต้องขอขอบคุณไว้ด้วย
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AbdurRahman มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 26/07/2005 ตอบ: 185
|
ตอบ: Thu Aug 04, 2005 11:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผิดพลาดตรงไหนต้องขอมะอัฟด้วยนะครับ บางทีผมอาจไม่รู้จริงๆครับ
ไม่ใช่ไม่รู้แล้วจะดื้อ แต่ถ้าองค์ความรู้ที่จะเรียนมันผิดก็ไม่อาจยอมรับ ได้
ยังไงๆ พร้อมจะแก้ไขทันทีครับขอเพียงมีความกระจ่างในหัวใจอันมืดมิด
ไม่คิดยึดติดกับชื่อเสียง เพราะรู้เป็นเพียงแค่เปลือกนอก
อิอิ ว่าไปเรื่อยอะนะครับ คือแบบว่าท่องกุรอานไม่ค่อยจำเลยพักนี้
เลยต้องออกตระเวณหาเพื่อนพี่น้องทั่วไปในโลกกว้าง สงสัยจะต้องให้แม่ขอสะใภ้ซะแล้ว
เฮ้อ นัฟซูๆ ตอนนี้ก็ต้องใช้วจีที่ว่า อินนีซออิม อินนีซออิม
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Aug 17, 2005 9:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณแมท
ขอชื่นชมในความขยันของคุณจริง และผมรู้ว่าคุณมีความรู้ เรื่องอัลกุรอ่านและหะดิษดี แต่ ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมคุณจึงไม่ยอมรับหะดิษ หะดิษหรือ อัสสุนนะฮ ทำหน้าที่อรรถาธิบายอัลกุรอ่าน และบอกแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของอัลลกุรอ่าน
وَأَنْزَلْنَا إِلَيْكَ الذِّكْرَ لِتُبَيِّنَ لِلنَّاسِ مَا نُزِّلَ إِلَيْهِمْ وَلَعَلَّهُمْ يَتَفَكَّرُونَ
และเราได้ประทานอัลกุรอ่านแก่เจ้าเพื่อเจ้าจะได้อธิบาย แก่มนุษย์ซึ่งสิ่งที่ได้ถูกประทานมาแก่พวกเขาและเพื่อพวกเขาจะได้ไตร่ตรอง - อัลนะหลุ/44
คุณ math ครับ เมื่อคุณไม่รับรองหะดิษ คุณเอาคำอธิบายของท่านนบี ศอลฯ เกี่ยวกับวิธีการประกอบศาสนกิจ(อิบาดาต) เช่น ละหมาด การจ่ายซะกาต การถือศีลอด และ การประกอบพิธีหัจญ์ มาจากแหล่งใดหรือ ? ตอบให้กระจ่างหน่อยเถอะ
ผมเองยึดถือในหะดิษเศาะเหียะที่นักวิชาการหะดิษให้การรับรอง และผมเชื่อในหะดิษที่ว่า
قال صلى الله عليه و سلم " ألا أنى أوتيت القرأن و مثله معه
ท่านนบี ศอลฯกล่าวว่า" พึงทราบเถิดว่า ความจริงอัลกุรอ่านได้ถูกนำมาให้แก่ฉัน และสิ่งที่เหมือนกันกับมัน(หมายถึงอัสสุนนะฮ) มาพร้อมกับมัน(อัลกุรอ่าน - บันทึกโดบอบูดาวูด
และอัลลอฮตรัสว่า
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنْكُمْ فَإِنْ تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِنْ كُنْتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ ذَلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ59. ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย (*1*) แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺ และร่อซูล (*2*) หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไป (*3*) ที่สวยยิ่ง
(1) บรรดาเจ้าหน้าที่ในหมู่พวกเจ้าที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครอง เมื่อเจ้าหน้าที่เหล่านั้นสั่งให้ทำสิ่งใดก็จงปฏิบัติตาม
(2) นำสิ่งที่ขัดแย้งกันนั้นไปตรวจสอบดูกับอัล-กุรอานและซุนนะฮ์ของท่านนะบีว่า อัลลอฮฺ และท่านนะบีได้กล่าวว่าอย่างไร แล้วให้ยึดถือตามนั้นโดยปราศจากดื้อดึงใด ๆ ทั้งสิ้น
(3) กลับไปสู่ความจริงที่สวยงามยิ่ง เพราะจะทำให้ทุกฝ่าย ตั้งอยู่ในสิ่งที่ถูกต้อง และมีความพอใจโดยทั่วกัน
................
ในยุคของท่านนบี เมื่อมีการขัดแย้งในประเด็นปัญหาใดในด้านศาสนา บรรดาสาวกก็จะไปถามท่านนบีโดยตรง แต่ในปัจจุบัน คำว่า" ให้นำสิ่งนั้นกลับไปหารซูล" หากไม่รับรอง หะดิษเศาะเหียะ แล้วคุณ math นอกจากอัลกุรอ่านแล้ว คุณ math เอาอะไรมาตัดสินชี้ขาด เพื่อให้เกิดข้อยุติที่ดีละครับ บอกหน่อยเถอะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
fais มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005 ตอบ: 84
|
ตอบ: Sat Sep 03, 2005 10:24 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ แมท ไม่ยอมรับฮาดิษที่นักวิชาการรุ่นก่อนๆเขาอุตสากันกรองมาให้รุ่นเราเป็นอย่างดีและพิถีพันถัน ด้วยความอุตสาห เป็นอย่างสูง แล้วอย่างนี้คุณแมทจะ อถาธิบายอัลกุรอ่านได้ถูกต้องไม่เนี๊ยะ
อย่าไปเพลออธิบายโดยไม่มีหลักฐานนะครับเดี๋ยวจะเสียคน
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sat Sep 10, 2005 10:59 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ fais:
ในอะหะดีษ มี สิ่งดีอยู่มากมาย ที่สามารถ จะใช้เป็น คติสอนใจ มุสลิม และ ยุวมุสลิม รุ่นหลังๆ แต่ก็มี อะหะดีษอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ มีเรื่อง เหลวไหลที่ขัดต่อ หลักศรัทธาของอิสลาม (อัลกุรอาน) และ เพิ่มเติม ข้อห้าม ข้อปฏิบัติ ไปในหลักการของอิสลาม, ถ้ามุสลิม จะใช้ เรื่องเล่าต่างๆ ในอะหะดีษ ในส่วนที่ดี ที่ตรงกับคำสอนในอัลกุรอาน และ ถูก จรรยาธรรม, ศีลธรรม และ มนุษยธรรม เป็น สุภาษิตสอนใจ เพื่อให้เป็น มุสลิมที่ดีแล้ว ผมไม่มีข้อข้องใจอะไร
ผมไม่เชื่อในความแท้จริง ในเรื่อง บอกเล่าต่างๆที่ อ้างว่า ท่านรอซูล(ซล.) กล่าว หรือปฏิบัติ ที่ขัดกับ คุณลักษณะของ ท่าน รอซูล(ซล.) ที่พระเจ้า บรรยายไว้ในอัลกุรอาน และถึงแม้ว่า ในอะหะดีษ เหล่านั้น ก็มี บางบท ที่บรรยาย ลักษณะที่ดีของ ท่าน รอซูล(ซล.) ไว้ในทางที่ดี มีเมตตากรุณา ซึ่งขัดกับบางเรื่องของอะหะดีษ ที่บรรยายคุณลักษณะของ ท่าน รอซูล(ซล.) ที่เป็นผู้ดุร้าย ขาดเมตตาธรรม, ความไม่แน่นอน ในรายงาน อะหะดีษ เหล่านี้ ที่ ทำให้ผม ไม่มีความ เชื่อถือ ซึ่งทางที่ปลอดภัยต่อ ความศรัทธาคือ อย่าไปสนใจต่อเรื่องราวบอกเล่าเหล่านั้น ให้ยึดหลักการปฏิบัติจากอัลกุรอานเพียงอย่างเดียว
คุณ fais ลองพิจารณา อะหะดีษ ต่อไปนี้ แล้ว อธิบายให้ผมฟังว่า บทใดที่ตรงกับ อัลกุรอานมากที่สุด และมุสลิม ที่มีความเชื่อต่อ พระเจ้าองค์เดียว ควรจะเชื่อ หะดีษ บทใดใน 3 บทนั้น
1. ปฎิบัติตาม อัลกุรอานและซุนนะห์ (มูวัตตะ ของ มาลิก)
2. ปฎิบัติตาม อัลกุรอานและครอบครัวของท่านรอซูล(ซล.) (ซอเฮี๊ยะ อัล มุสลิม)
3. ปฎิบัติตาม อัลกุรอาน อย่างเดียว (ซอเฮี๊ยะ อัล มุสลิม)
ลองพิจารณาจากเรื่องเล่าข้างล่างนนี้
จากรายงานหะดีษที่มีบันทึกอยู่ใน ซอเฮียะฮฺมุสลิม ดังนี้
ขณะที่เรากำลังอยู่กับท่านรอซูลในวันหนึ่ง มีชายผู้หนึ่งได้ปรากฎกายขึ้น เขาใส่อาภรณ์ที่ขาวสะอาด มีผมดำขลับ โดยที่ไม่มีร่องรอยของการเดินทางปรากฏให้เห็น ไม่มีผู้ใดในหมู่เราที่รู้จักเขา จนกระทั่งเขาเข้ามานั่งเอาเข่าเกยกับเข่า ของท่านนบี และเอามือทั้งสองวางลงบนหน้าตักของท่านนบีแล้วกล่าวว่า..
"โอ้..มูฮำหมัด โปรดบอกฉันเกี่ยวกับอัลอิสลาม" ท่านตอบว่า "คือการปฏิญาณตนว่า ลาอิลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮฺ มูฮำหมัดรอซูลุ้ลลอฮฺ และการดำรงละหมาด การบริจาคซะกาต การถือศิลอดเดือนรอมฎอน และการทำฮัจย์หากมีความสามารถจะไปได้" ชายผู้นั้นกล่าวว่า "ท่านพูดถูกแล้ว" (ท่านอุมัร) กล่าวว่า เราแปลกใจเหลือเกินที่เขาถามแล้วยืนยันในคำตอบเสียเอง
คุณ fais บอกหรืออธิบายได้ไหม? ว่า ชีปะขาวตนนี้เป็นใคร? คุณเชื่อ เรื่องเล่า เช่นนี้หรือไม่ ?
จริงอยู่ ในอัลกุรอานมีโองการให้เราเชื่อฟัง ท่าน รอซูล(ซล.) และเมื่อมีปัญหาอะไร ให้ปรึกษาท่าน รอซูล แต่เมื่อท่าน รอซูล(ซล.) สิ้นชีวิตไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือ อัลกุรอาน ที่เราจะต้อง ปฏิบัติตาม
การอ่านและเข้าใจอัลกุรอานไม่ต้องการ อะหะดีษบุคอรีหรือ ของผู้ใดมาอธิบายบัญญัติของพระองค์ พระองค์ ทรงประทานอัลกุรอานและ อธิบายอัลกุรอานโดยพระองค์เอง, ในกรณีที่ ท่าน รอซูล(ซล.) สิ้นชีวิตไปแล้ว มุสลิมก็สามารถเข้าใจ อัลกุรอาน ในส่วนที่เป็น กฎบัญญัติ และหลักความศรัทธา ดังจะเห็นได้ดังนี้
ใน ซูเราะฮฺ อาละอิมรอน, อายะ 7, พระเจ้าได้บัญญัติให้เราทราบว่า, พระองค์ได้ประทานคัมภีร์ อัลกุรอานให้กับเรา ในอัลกุรอานนั้นมี อายาตต่างๆที่ ประกอบไปด้วย กฎบัญญัติ, หลักความศรัทธา ซึ่งเป็นพื้นฐาน ของคัมภีร์ ซึ่ง คนที่มีระดับปัญญา ธรรมดา หรือ บุคคล ทั่วๆ ไป สามารถที่จะเข้าใจ และปฏิบัติตามได้ โดยไม่ต้อง อาศัยผู้ใดมาอธิบายอีกต่อ หนึ่ง ตัวอย่างเช่น ใน
(3:2)اللّهُ لا إِلَـهَ إِلاَّ هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ
พระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น, ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ผู้ทรงสถิตอยู่ ชั่วกัลป์
คำว่า الْحَيُ หมายถึงการคงอยู่อย่างอิสระในการปฏิบัติต่างๆ โดยไม่มีขอบเขตจำกัด ความคงอยู่ของ พระองค์ ผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่การมี ชีวิตอยู่ ซึ่งต่างจากสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ที่โครงสร้างมีสภาพจำกัด และ ไม่อาจจะอยู่โดยอิสระไม่สามารถ ที่จะ มีชีวิตอยู่ได้โดยการไม่ดับสูญ
คำว่า الْقَيُّومُ หมายถึง พระองค์ ผู้ซึ่ง คงทนต่อ สิ่งต่างโดยไม่มีการถูกทำลายได้, เป็นการคงทนต่อสภาพการต่างๆอย่างไม่มี การสิ้นสุด
ข้อความเช่นนี้ เราสามารถเข้าใจได้เองโดยไม่ต้องการคำอธิบายเรียกว่า مُّحْكَمَاتٌ
พระองค์ผู้เป็นเจ้าบอกกับเราอีกว่าในอัลกุรอานยังมีข้อความในอายาตต่างๆอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็น ข้อความ ที่แฝงไว้ด้วย ความเป็น นัย เรียกว่า مُتَشَابِهَاتٌ เป็นเรื่องอุปมาอุปมัย, สุภาษิตเปรียบเทียบ ยากแก่ความ เข้าใจของ คนทั่วๆไป นอกจาก พระองค์เอง และ ผู้ที่มีปัญญาหลักแหลม เฉลียวฉลาด มีความรู้ที่จะศึกษาค้นคว้า หาความหมายเหล่านั้น
ตัวอย่างเช่น ใน ซูเราะฮฺ อัลฟัตฮฺ อายะ 10
يَدُ اللَّهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ ..... พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือมือของพวกเขา .....(48:10)
ประโยคชนิดนี้เป็นประโยค อุปมาอุปมัย ในประโยคนี้ คำว่า يَدُ اللَّهِ ไม่ได้หมายความถึง พระหัตถ์ของพระเจ้า ที่เป็นรูปร่างอย่างมือมนุษย์ แต่หมายถึง อำนาจของพระเจ้าซึ่งอยู่เหนือ (สิ่งใดๆทั้งปวง)พวกเขา เช่นเดียวกับ ที่เรากล่าวกันว่า ลูกไก่ในกำมือ หมายถึงอำนาจที่จะทำลาย สิ่งหนึ่งสิ่งใด หรื อ ผู้หักหลังหรือผิดสัญญาได้ เพราะพวกเขาเหล่านั้น อยู่ภายใต้อำนาจที่สูงสุดของพระผู้เป็นเจ้า
ใน ซูเราะฮฺ อาละอิมรอน, อายะ 7 นี้ ยังแจ้งให้เราทราบต่อไปด้วยว่า พวก ฉ้อฉล มักจะเอา เรื่องอุปมาอุปมัย จาก อายาต ในอัลกุรอานชนิดนี้ ไปหลอกลวงผู้ที่ไม่เข้าใจ ให้หลงผิดไปจากแนวทางของพระเจ้า
คุณ fais จะเห็นว่า พระผู้เป้นเจ้า พระองค์ทรงรอบรู้ และ วางแผนการไว้ล่วงหน้าทุกๆอย่าง เพื่อให้มนุษย์ ทุกๆคน สามารถปฏิบัติตาม หนังสือของพระองค์ (อัลกุรอาน) โดยไม่ต้อง ให้ใครมาอธิบาย ดัดแปลง บัญญัติของพระองค์ ใน ซูเราะฮฺ อาละอิมรอน, อายะ 7 นี้ บอกให้แก่เราไว้อย่างแจ้งชัดในการศึกษาอัลกุรอาน โดยไม่ต้อง อาศัยผู้ใดมาอธิบาย
เนื่องจากพระเจ้าได้วางหลักการป้องกัน อัลกุรอาน ไว้อย่างรอบคอบเช่นนี้ ก็ยากต่อพวก ที่ต้องการจะแก้ไขอัลกุรอาน ให้ไปในทางของ พวกเขาได้, พวกเขาเหล่านั้น จึงได้สร้างหนังสือขึ้นมาอีกเล่มหนึ่ง ให้ชื่อว่า อะหะดีษ ซึ่งบรรจุไว้ด้วย ข้อห้ามและข้อบัญญัติต่างๆ ที่ไม่มีอยู่ในอัลกุรอาน แต่อ้างว่า เป็น การสอน ของ ท่าน รอซูล(ซล.) เพื่อที่จะหลอกล่อมุสลิมไปในทาง ที่พวกเขาจะ ปกครอง, ควบคุม และ manipulate (ชักชวน) ไปในทางที่เขาต้องการได้
บรรดาพวกที่ยึดถือเชื่อมั่น ในอะหะดีษ จึงถูกหลอกลวงได้ ง่าย เขา จะ หลอกให้เอาภรรยาใครมาให้ เขา Breastfeeding ก็ได้, หลอกให้ไปตายแทนก็ได้ หลอกล่อให้ทำทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่เขาต้องการ, ผู้ที่เชื่อถือ อะหะดีษ เหล่านี้ อยู่ในลักษณะสมาชิกของ ลัทธินิกาย Sects หรือ Cultกลุ่มคนที่อยู่ในลัทธิ มากกว่า ที่จะเรียกว่านับถือศาสนา
คุณ fais ลองหันดูรอบๆตัวคุณเองแล้วลองคิดดูดีๆ อ่านกระทู้ต่างๆในเวบนี้ คุณจะเห็นว่า ยุวมุสลิมเรา ไมjมีแนวทางที่แน่นอนไม่ว่าจะหันไปในทางใด จะหาคำตอบทางศาสนาที่เด็ดขาดไม่ได้ เพราะ ต่างคนก้มี อะหะดีษต่างๆมาอ้างอิง ด้วยเหตุนี้ มุสลิมจึงตกเป็นเบี้ยล่าง เขาตลอดเวลา เพราะเรายังเดินวนเวียน อยู่ใน อดีต เมื่อ 1400 กว่าปี.
ผมไม่ได้ตั้งลัทธิใหม่อะไรอย่างที่บางคนว่า แต่สิ่งทีผมเขียน ไม่มีมุสลิมไทยผู้ใดต้องการฟัง เพราะ ถูกหลอกว่า ถ้าคิดเช่นผมจะเป็น "กาเฟร"
ถ้าเรารักและเชื่อฟังท่านรอซูล(ซล.) อย่างที่เราปฏิญานกันแล้ว เราควร ตามอย่างตัวอย่างของท่าน โดยการยึดมั่นแต่อัลกุรอานเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีคำสั่งของ ท่านรอซูล(ซล.) อยู่ใน "อะหะดีษ" เช่นกัน
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Mon Sep 12, 2005 12:04 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ fais บอกหรืออธิบายได้ไหม? ว่า ชีปะขาวตนนี้เป็นใคร? คุณเชื่อ เรื่องเล่า เช่นนี้หรือไม่ ?
นั่นคือท่านญิบรีล ที่มายังท่านนบีมุหัมมัดศ้อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม
คุณแมท จะได้ทราบแน่นอนอีกไม่นานนัก แต่ตอนนี้คุณ แมท ควร เตาบัตตัว และรีบอ่านกะลีมะฮใหม่ได้แล้ว ก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sun Sep 18, 2005 10:09 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ Mahdisaudi
ขอบคุณในความหวังดีของคุณ
اللّهُ لا إِلَـهَ إِلاَّ هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ
.....................................
لا إلاه إلالله محمد رسول الله
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمنِ الرَّحِيمِ
قُلْ أَعُوذُ بِرَبِّ الْفَلَقِ {1}
ข้าพระองค์ขอยึดพระองค์ผู้เป็นเจ้าเป็นที่พึ่ง
مِن شَرِّ مَا خَلَقَ {2}
ให้พ้นภัยจากความชั่วร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น
وَمِن شَرِّ غَاسِقٍ إِذَا وَقَبَ {3}
จากความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในความมืดที่แผ่กระจาย
وَمِن شَرِّ النَّفَّاثَاتِ فِي الْعُقَدِ {4}
จากความชั่วร้ายที่ถูกกระทำโดยเวทย์มนต์
وَمِن شَرِّ حَاسِدٍ إِذَا حَسَدَ {5}
และจากความชั่วร้ายที่เกิดจากความอิจฉาริษยาของผู้ที่อิจฉา(ต่อข้าพระองค์)
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|