อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[abumujahidd]

ขึ้นชื่อว่าการไปค่าย...มีหลายค่ายที่น่าสนใจมาก

ทั้งค่ายวิชาการ ค่ายอบรมทักษะ ค่ายนันทนาการ ฯลฯ

ที่จริงน่าจะมีการจัดค่ายในหลายๆที่หลายๆจังหวัด

แต่ทำไม? ค่ายที่กรุงเทพฯกลับน่าสนใจกว่าทุกๆที่?

เพราะที่นั่นมีแต่คนเก่งๆจริงหรือ? บ้านเราไม่มีเลยหรือ?

หรือเพราะมีสิ่งอื่นอีกที่เราต้องการไป นอกจากการไปค่าย?

ถามว่า เราจะทำค่ายที่รร.ของเราบ้างงได้หรือไม่?

รุ่นพี่ของเรา คนที่จบแล้วอยู่ที่ไหนกัน?

ทำไมไม่ลองมารวมกันทำค่ายกัน***งล่ะ?

ที่ถาม ไม่ได้ต้องการตำหนิใครนะครับ

กลับต้องการกระตุ้นให้ทุกๆคนที่เห็นความสำคัญ

มารวมตัวกันทำค่าย มาช่วยกันทำงานเพื่อเยาวชนของเรา เพื่ออิสลามของเรา


ปัญหาหนึ่งที่สำคัญที่ต้องการฝากถึงน้องๆอัตตัรฯและคนอื่นๆก็คือ

เรื่องการเดินทาง....

ถามว่า มุสลิมมะฮที่จะไปค่ายมีมะฮรอมเดินทางด้วยรึยัง?

หรือน้องจะไปโดยไม่มีมะฮรอม?

นี่คือปัญหาที่หลายคนมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญ

ทั้งๆที่มันเป็นสาเหตุของปัญหามากมาย..


เรื่องของหลักฐาน

สำหรับหลักฐานที่ว่า....

อนุญาตให้มุสลิมมะฮเดินทางได้โดยเดินทางเป็นกลุ่มเป็นมะฮรอมให้แก่กันนั้น

เป็นทรรศนะของอิหม่ามชาฟิอีครับ ที่ให้กระทำได้

และเป็นเพียงทรรศนะเดียวในบรรดา 4 อิหม่าม...แต่มีระบุไว้ว่า

ทำได้ เฉพาะฮัจญ์ฟัรดูเท่านั้น คือการทำฮัจญ์ครั้งแรกของคนที่หามะฮรอมไม่ได้

ถ้าต้องการทำฮัจญ์อีกในปีหน้า อิหม่ามชาฟิอีระบุไว้ชัดเจนว่า

ต้องมีมะฮรอม หากไม่มี ไปไม่ได้ครับ

ถ้าทำก็เท่ากับฝ่าฝืนหลักการ มีความผิดเกิดขึ้น

ดูนะครับว่า ขนาดจะไปทำฮัจญ์อีกยังจะไปไม่ได้ ถ้าไม่มีมะฮรอม

แล้วการเดินทางที่เรากำลังพูดถึงผลเป็นเช่นไร คงไม่ต้องอธิบายต่อนะครับ

อาจจะมีบางคนถามว่า

อ้าวแล้วอย่างนี้ที่ทำฮัจญ์โดยไม่มีมะฮรอมใช้ได้มั๊ย?

อัลลอฮุอะลัมครับ ที่เราตอบได้แค่ว่า

ทำฮัจญ์นั่นเป็นการทำดี เดินทางไม่มีมะฮรอมนั่นเป็นความผิด

เหมือนกับคำถามที่ว่า

มุสลิมมะฮที่ถือศีลอดแต่ไม่คลุมฮิญาบ การถือศีลอดของนางใช้ได้มั๊ย?

ก็ตอบได้แค่ ถือศีลอดทำดี ไม่คลุมฮิญาบมีความผิด

ส่วนอัลลอฮจะทรงตอบรับหรือไม่นั้น อัลลอฮุอะลัม


ฉะนั้นเมื่อกลับมาเรื่องของเรา เรื่องของการเดินทาง....

ต้องบอกว่า ถ้าไม่มีมะฮรอมก็ไม่ควรเดินทางครับ


หากใครจะมองว่า กำลังห้ามไม่ให้เด็กไปค่าย

ก็ขอตอบว่า ใช่ครับและผมก็ได้ชี้แจงเหตุผลแล้ว

ผมชี้แจงเรื่องนี้เพราะผมเป็นห่วงและรักพี่น้องของผม


ผมขอให้คนที่ไม่มีมะฮรอมเดินทางมีความอดทนและเชื่อมั่นในหลักการ

พระองค์ทรงเฝ้าดูเราตลอดเวลา

พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งบ่าวผู้ศรัทธของพระองค์ครับ


ด้วยเพราะไม่มีค่ายไหนที่รองรับคนที่อยากไปได้ทั้งหมด

และเพราะยังมีอีกหลายคนที่อยากไปแต่ไปไม่ได้

เราจะแก้สมการนี้อย่างไร?

ผมเสนอไปแล้วในตอนต้นและมีข้อเสนอเพิ่มเติมอีกครับ

ซึ่งเสนอผ่านกรรมการค่ายบางคนไปแล้ว


ผมยินดีแลกเปลี่ยนความเห็นกับพี่น้องทุกท่านครับ

เพียงขอให้เราแลกเปลี่ยนกันตามหลักการอิสลาม

ให้เกียรติต่อกัน มีเหตุผล มีความยำเกรงต่อหลักการอิสลาม

ขออัลลอฮทรงประทานเตาฟีกและฮิดายะฮแก่พี่น้องทุกท่านครับ


บันทึกเพิ่มเติม....บทความนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ผมชี้แจงเรื่องการทำค่าย ยมสอ ต่อพี่น้องของผมหลายท่าน และผมยินดีให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความเห็นกับกรรมการค่ายทุกคนครับ


จาก : abumujahidd - 24/02/2005 22:47

[ยมสอ.]

ผมคือดาวุด ลาวัง ตัวตั้งตัวตีในการทำค่ายของยมสอ. ในหลายๆครั้งที่ผ่านมา
ตอนแรกที่อ่านกะทู้นี้ ค่อนข้างงง
อยากจะเขียนอะไรหลายอย่างออกไป อยากจะรู้เจตนาจริงๆที่มาโพสในนี้
ว่าต้องการอะไรกันแน่
แต่มาคิดดูอีกทีว่า
มันรังแต่จะเป็นการสร้างการโต้เถียงและก่อให้เกิดฟิตนะฮฺไปกันเสียเปล่าๆ
เพราะการพูดคุยกันในเว๊บ มันคือการแค่ได้อ่าน มันอาจจะก่อให้เกิดการเข้าใจข้อมูลผิดๆได้ แล้วหากต่างคนต่างตอบกันไป จะกลายเป็นการโต้เถียงไปเปล่าๆ
หากคุณคนที่โพสกะทู้ หรือคนอื่นๆอยากจะสอบถาม อยากจะแนะนำตักเตือน
สามารถโทรคุยกับผมได้โดยตรงที่ 0-6509-7936 หรือ choompollawang@yahoo.com
ผมว่ามันจะเป็นการเหมาะสมกว่าน่ะ

[abushaheed]

ยินดีที่คุณดาวุดเชื้อเชิญสู่การตักเตือนกันและกัน

เรื่องที่ผมโพสไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องที่คุณไม่เคยทราบมาก่อน

ผมหวังว่าคุณจะจัดการสิ่งที่ไม่เรียบร้อยต่างๆได้


ที่ต้องโพสก็ขอเรียนว่า

เพื่อเป็นการตักเตือน ใคร อีกหลายๆคนที่ยังไม่ทราบหรือยังไม่ตระหนักในเรื่องนี้


ศาสนาคือการตักเตือน

อัลลอฮทรงกำหนดแก่เราด้วยความเมตตายิ่งนัก

[ทีมงานสื่ออนุรักษ์]

ผมเดินทางไปใต้ร่วมกับคณะของ อ.ฟารีด และเพิ่งกลับถึงกรุงเทพเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา

ตอนขากลับคณะของเราได้มีโอกาสแวะไปที่เขื่อนเชี่ยวหลาน และได้นั่งเรือไปขึ้นที่แพกลางน้ำของอุทยาน

ที่นี่มีแพกลางไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว และมีแพหลังเดี่ยวหลายหลัง แต่ละหลังจะมีห้องพัก ห้องๆ ละสองเตียงนอน

เมื่อคณะของเราไปถึงที่แพกลางน้ำนั้นได้พบเยาวชนกลุ่มหนึ่งทั้งชายและหญิง อายุ 15 – 17 ปี เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

เราสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่า เยาวชนหญิงชายประมาณ 10 คู่ที่เห็นนี้มากันโดยลำพัง และจะพักค้างที่แพในคืนนี้...

หัวใจของเราเต้นระส่ำ นึกไปถึงพ่อแม่และผู้ปกครองของพวกเขา ว่าจะรู้ไหมหนอว่าลูกหลานของเขาอยู่ที่ไหน ทำอะไรกัน

เราออกจากแพกลับขึ้นฝั่งช่วงเวลาประมาณมัฆริบ แต่ในใจก็คิดคำนึงถึงเด็กๆ เหล่านั้น

หลังตะวันลับขอบฟ้า จะเกิดอะไรขึ้น และถ้าเป็นลูกของเราจะทำอย่างไร

[มันก็แค่ความคิดเห็น]

سلام الله عليكم